http://www.komchadluek.net/news/2005/05-25/p1-17473932.html
พระราชทานพระนามพระโอรส "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติ" สำนักพระราชวังเตรียมประกาศพิธีสมโภชขึ้นพระอู่ ขณะที่ กทม.เตรียมจัดงานเฉลิมฉลองระหว่างวันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ พร้อมเพิ่มสถานที่จัดงานอีก 2 แห่ง ใช้สนามหลวงเป็นศูนย์กลางใหญ่ และเตรียมถวายรอยพระบาทกรอบทองคำแด่พระโอรส
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เวลา 14.30 น. คุณหญิงณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประชุมจัดงานฉลองพระโอรส ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกกรุงเทพมหานคร และภาคเอกชนตัวแทนบริษัทรับจัดงานมาร่วมประชุมเพื่อเตรียมการจัดงาน ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
คุณหญิงณฐนนท เปิดเผยว่า จากเดิมที่ กทม.ได้กำหนดจัดงานใน 6 จุด ประกอบด้วย 1.บริเวณลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2.ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ 3.ซุ้มประตูจีน วงเวียนโอเดียน เยาวราช 4.สวนสันติชัยปราการ 5.สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 และ 6.สวนสาธารณะอุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตยนั้น ขณะนี้ กทม.จะเพิ่มสถานที่จัดงานอีก 2 จุด ได้แก่ บริเวณท้องสนามหลวง และโรงละครภัทราวดีเธียเตอร์ ซึ่งการจัดงานแต่ละแห่งมีการกำหนดให้บริษัทต่างๆ รับจัดงานอย่างชัดเจนแล้ว
ขณะที่ท้องสนามหลวงจะเป็นสถานที่จัดงานศูนย์กลาง จะมีเวทีใหญ่อยู่บริเวณกลางสนามหลวง ประชาชนสามารถชมการแสดงได้ 360 องศา และการแสดงจะเป็นการขอความร่วมมือจากทั้ง 6 จุด นำการแสดงที่เด่นที่สุดมาโชว์ ทั้งนี้ จะเน้นการแสดงกิจกรรมตามพระราชประเพณี และความเป็นที่สุดของประเทศในแต่ละกิจกรรม เช่น ลิเกและโขน เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดวันจัดงานฉลองพระโอรส ที่ประชุมได้หารือและกำหนดไว้เบื้องต้นว่าวันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ น่าจะเป็นวันที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ กทม.ตั้งใจที่จะทำตามประเพณีโบราณคือ รอพระราชพิธีการขึ้นพระอู่ของพระโอรสด้วยกำหนดการของสำนักพระราชวังก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นระหว่างวันที่ 29-30 พฤษภาคม เพราะเป็นช่วงที่พระโอรสทรงเจริญพระชันษา 1 เดือน และหากมีกำหนดการเรียบร้อยแล้ว ทาง กทม.ก็จะทำการกำหนดวันฉลองที่แน่นอนอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตั้งใจจะให้ตรงกับวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และช่วงเวลา 17.00-24.00 น. เพื่อความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางมาร่วมงานฉลองพระโอรส
ทางด้าน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษก กทม. กล่าวว่า สำหรับการถวายรอยพระบาทกรอบทองนั้น ขณะนี้ทางโรงพยาบาลศิริราช ได้ส่งรอยพระบาทพระโอรสมาให้ กทม.แล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบลวดลาย และถ้อยคำที่จะสลักลงในกรอบ ส่วนสูติบัตรทองคำเชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้า ซึ่งสุดท้ายจะต้องให้ผู้บริหารพิจารณาถึงความเหมาะสมอีกครั้ง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักงานทะเบียนราษฎรได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังว่า ขณะนี้พระโอรสได้รับพระราชทานพระนามแล้ว โดยมีพระนามว่า "พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้า ทีปังกรรัศมีโชติ" ซึ่งมีความหมายว่า ผู้ทำประทีป คือปัญญาให้สว่างกระจ่างแจ้ง, ผู้ทำเกาะ คือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชติช่วง
-----------------------------------------------------------
เพราะดี ไม่เคยได้ยินมาก่อน
จากคุณ :
The Click
- [
25 พ.ค. 48 04:13:41
]