ที่ ส.ว เตือนใจ เรียกพี่เก้งเข้าไปพบเพราะได้ดูหนังเรื่องแล้ว และชอบเนื้อหาที่ดีของหนังครับ ส่วนเรื่องไม่คุ้มทุนอะไรนั่น ไม่มีอยู่ในการคุย ประเด็นเรื่องที่ว่า 7 วันได้ไปเท่าไหร่ เป็นการซักถามของนักข่าวครับ
ส่วนที่คมชัดลึกลงว่า พี่เก้งขอเข้าพบนั้น ที่จริงแล้วคนที่ขอให้เข้าพบก็คือทางฝั่ง ส.ว ครับ ทาง GTH เองก็เพิ่งทราบข่าวก่อนหนังสือพิมพ์ลงไม่ถึง 24 ชั่วโมง
เท่าที่อ่านดูหลาย ๆ ท่านให้ความเห็นต่อกรณีหนังเหมืองแร่ พอจสรุปได้ คร่าว ๆ ว่า
1. GTH ไม่ฉลาดที่ไม่เอาหนังเข้า SF
2. GTH หยิ่ง
3. GTH งก 20 บาทไม่ยอมลดให้ น.ศ
มาถึงวันนี้ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็คงพอจะทราบแล้วว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากสงครามราคาระหว่างโรงหนังด้วยกันเอง เพียงแต่ว่ายังมีคนบางส่วนเลือกที่จะวิจารณ์เรื่องนี้อย่างสนุกปาก บางรายถึงกับสร้าง "ทฤษฎีสมคบคิด" ระหว่าง SF/เสียเจียงกับ GTH/Major EGV ซึ่งข้อความหรือกระทู้เหล่านั้นได้สร้างความสับสนให้แก่ผู้ที่เข้ามาอ่าน
ผมเองคงไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว GTH ได้อะไร และ SF เสียอะไร บอกได้เพียงว่าเรื่องบางอย่างมีความซับซ้อนเกินกว่าที่เห็น และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครสักคนจะออกมาวิจารณ์กันอย่างสนุกปาก หรือฟันธงโน่นนี่ว่าบริษัทโน้นผิดบริษัทนี้คิดไม่เป็น
ก็เหมือนคดี CTX นั่นแหล่ะครับ สื่อลงข่าวทำนองว่ามีแนวโน้มว่าจะเกิดการทุจริตขึ้น แต่จนบัดนี้สืบสาวกันเป็นเดือนแล้วเรื่องก็ยังไม่จบ มีประเด็นใหม่งอกออกมาตลอด
กรณี SF กับ GTH หรือ สหมงคล กับ Major ก็เหมือนกันคนไหนเชียร์ใครก็ออกมาพูดเสีย ๆ หาย ๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งอย่างเมามัน จนดูเหมือนว่าแท้จริงแล้วคนที่ทะเลาะกันน่ะไม่ใช่บุคคลในข่าวหรอก(หรือไม่ก็จูบปากกันไปตั้งนานแล้ว) แต่ที่ยังหาเรื่องชวนทะเลาะไม่เลิกกลับไปเป็นฝ่ายกองเชียร์นั่นเอง
เคยได้ยินไหมครับ บอลแพ้คนไม่แพ้ : )
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 48 11:20:21
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 48 11:01:48
แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 48 11:01:16