ความคิดเห็นที่ 1 นี่คือภาพปกที่ทำคร่าวๆเพื่อนำเสนอเพื่อให้มองหน้าหนังว่าออกมาคงจะประมาณนี้ จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ (ลิงหน้าพระกาฬ) - [ 12 มิ.ย. 48 14:24:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 และนี่เป็น Story Board ตัวอย่างหนังที่คิดๆไว้ จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ (ลิงหน้าพระกาฬ) - [ 12 มิ.ย. 48 14:25:39 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้วไฟแห่งความฝันของผมก็ลุกโชนโชติช่วง   ตอนนั้นคิดว่าคราวนี้แหละผมคงจะได้เป็นผู้กำกับหนังเสียที หนังที่มีจุดขายเต็มๆแบบนี้ คงต้องโดนใจนายทุนแน่ๆ จะเสนอค่ายหนังไหนดี ลองไล่รายชื่อและเบอร์โทรของบริษัทหนังจากใน http://swaat.hypermart.net/ รวมถึงถามจากคนรู้จักดู  แล้วก็ตัดสินใจลุย ค่ายแรกที่นึกถึงคงเป็น ไท เอนเตอร์เทนเมนท์  เพราะเป็นค่ายหนังคุณภาพ ผมโตมากับความทรงจำถึงหนังไทยของค่ายนี้หลายๆเรื่อง   คุณวิสูตรเป็นคนเก่งด้านการตลาดและมุมมองที่แปลกแตกต่าง คิดว่าหนังเด็ดๆอย่างของเราคงต้องโดนแน่ๆ ว่าแล้วก็โทรหาพี่โปรดิวเซอร์ของทางค่าย ลองฝากโครงบทไว้ให้พิจารณา ซึ่งทางนั้นก็ขอเวลาอ่านดูก่อน ระหว่างที่รอ ไฟยังแรงไม่อยากรออยู่เฉยๆ ดูในรายชื่อ อีกที่น่าสนใจเพราะเป็นค่ายใหญ่ทุนหนา คือค่าย จี.เอ็ม.เอ็ม.พิคเจอร์ เครือแกรมมี่ ก็เลยลองดุ่ยๆไปตึก ซีมิค ถามเรื่องการเสนอบท ที่นี่ถามไถ่ความเป็นมาแล้วให้ทิ้งบทไว้พิจารณาโดยมีสัญญาให้เซ็นต์ไว้ว่า ทางค่ายจะไม่ก็อปงานคุณหรอกถ้าคุณเห็นงานคล้ายๆกันออกมาก็เป็นเพราะคิดงานมาชนกันคุณจะฟ้องร้องอะไรไม่ได้ ซึ่งผมก็เชื่อว่าค่ายใหญ่ๆอย่างนี้ก็คงไม่ทำอย่างนั้นหรอก ทิ้งบทไว้ได้สบายใจ จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 12 มิ.ย. 48 14:28:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กลับมารอโดยที่ระหว่างนั้นก็ยังทำงานกราฟฟิคเก็บเงินไปเรื่อยๆ กะว่าได้ทำหนังเมื่อไหร่ ปิดออฟฟิศทันที แม้ยังคงไม่มีคำตอบยังคงตระเวนเสนอบทไปตามค่ายเรื่อยๆดังมีรายนามและผลตอบรับดังต่อไปนี้ 1.ไท เอนเตอร์เทนเมนต์  หลังจากยื่นไปเกือบเดือน ได้รับคำตอบว่าหนังมันเซอร์ไป( ตอนจบหักมุมมีมนุษย์ต่างดาว!)   2.จี.เอ็ม.เอ็ม.พิคเจอร์ สอบถามอยู่เรื่อยๆได้ความว่าให้ผู้ใหญ่พิจารณาอยู่ยังไม่ได้รับคำตอบ สุดท้ายหลังจากผมโทรไปถามและแวะเข้าไปสอบถามอีกหลายครั้ง คำตอบลอยก็หายไปกับสายลม 3.สหมงคลฟิล์ม โทรไปสอบถาม ได้ความว่าที่นี่ไม่รับพิจารณาบท คุณต้องไปเสนอผ่านทางโปรดัคชั่น เฮาส์ เช่น บาแรมยู,ไทเกอร์ทีม 4.บาแรมยู สอบถามได้ความว่าที่นี่ไม่มีการรับบทหนังเอาไว้เกรงว่าจะมีปัญหาการเรื่องการกล่าวหาว่าก็อปงาน การเสนอเรื่องต้องนัดคุยโดยตรงเท่านั้น หลังจากการพยายามโทรไปโดยผ่านคุณเลขา ช่วงแรกๆโทรทุก 2 วันได้รับคำตอบว่า ให้โทรมาถามใหม่พี่เขาไม่ว่างติดถ่ายหนัง หลังๆเริ่มโทรห่างเป็นอาทิตย์ละ2ครั้ง มีคำตอบว่าให้ทิ้งเบอร์ไว้ถ้าพี่เขาว่างจะโทรไปนัด   สุดท้ายหลังจากการโทรไปในระยะ 2-3 เดือนรวมประมาณ30-40 ครั้ง ได้รับคำตอบแบบเดิม   ผมก็ต้องถอดใจยกธง กลัวทางนั้นจะคิดว่าเป็นคนบ้าโรคจิตโทรมาตื้อไม่เลิก 5.ไทเกอร์ทีม ตอนนั้นเป็นช่วงคึกคัก มีการเตรียมโปรเจคท์หนังเกือบสิบเรื่อง มีทีมเขียนบทประจำอยู่ หลังจากเข้าไปยื่นบทไว้ ประมาณอาทิตย์หนึ่งได้รับคำตอบว่าหัวหน้าทีมเขียนบทเห็นคำโปรยบนปกแล้วไม่กล้าอ่าน เพราะมีหนังที่เขียนไว้มีตัวละครคล้ายๆกันอยู่ กลัวว่าจะมีปัญหา (คาดว่าจะเป็นหนังเรื่อง”นรก” ที่ตอนนี้กำลังจะเข้าฉายเพราะบทที่ยื่นชื่อ “เบญจวันโลกันตร์ป่วน” ) ผมเชื่อว่าที่นี่คงจะไม่ได้อ่านจริงๆเพราะถ้าอ่านดูจะรู้ว่าเนื้อเรื่องไม่เหมือนกันเลย  ก็ฟาล์วไป 6.ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ลักษณะเดียวกับสหมงคลฟิล์ม แต่ในเว็บไซท์ของบริษัท มีเขียนไว้เรื่องรับพิจารณาบทหนังเลยลองเมล์ส่งไป แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใดๆกลับมา 7.ฟิล์มบางกอก (นี่เป็นอีกที่ที่ผมอยากร่วมงานด้วยเพราะพี่อังเคิลเป็นผู้กำกับหนังในดวงใจคนหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องฉลุย)   พี่เป็นคนพิจารณาบท ใช้เวลาไม่นานก็บอกแบบถนอมน้ำใจประมาณว่าเรื่องพอจะปรับเป็นหนังได้  แต่ยังไม่ผ่าน 8.หับ โห้ หิ้น จริงๆที่นี่ก็ผลิตหนังให้ไทฯกับ จี.เอ็ม.เอ็ม.ที่เคยเสนอไปแล้ว แต่ไหนๆแล้วก็ลองเสนอดู ทั้งบทไว้พักหนึ่ง สอบถามดู 2-3 ครั้ง ได้รับคำตอบจากพี่ที่ดูแลการผลิต ว่ามันเป็นหนังแอคชั่นซึ่งที่นี่ไม่ถนัด ลองเสนอที่อื่นดูแล้วกัน 9.Cinemasia ค่ายของพี่อุ๋ย นนทรี  มีแต่ผู้กำกับฝีมือระดับประเทศ แต่ก็ลองเสี่ยงโทรถามเรื่องมีบทหนังจะเสนอ คนที่รับสายบอกว่าให้แฟกซ์ประวัติส่งมาก่อน ยังงงๆแต่ก็ลองส่งประวัติไปแล้วก็ต้องเงียบงงว่ายังไงต่อดีหว่า จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 12 มิ.ย. 48 14:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ระยะเวลาของการเสนอบท เริ่มจากเดือนกันยาปี45 ข้ามมาจนต้นปี 46 โดยระหว่างนั้นก็มีการปรับบทหนังเป็นร่างที่ 4 ในเดือนมกรา46 แต่เนื้อหาหลักๆยังคงเดิม บทหนังที่ตัวผมเองมั่นใจว่ามันเป็นบทที่เจ๋ง ,เด็ด และมีจุดขายแข็งแรง น่าสนใจ ความฝันที่ผมเคยคิดไว้ว่ามันต้องสวยงาม   ความมุ่งมั่นจะเป็นผู้กำกับหนังไทยกับเขาสักคน   ผ่านเวลาหลายปีความฝันก็ยังคงเป็นความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง ผมเก็บบทที่เหลือจากการเสนอค่ายเล่มสุดท้ายไว้ในลิ้นชัก ได้เวลาพักความฝันค้างไว้กลับสู่โลกของความจริงอีกครั้งในต้นปี2546นั้นเอง จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 12 มิ.ย. 48 14:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ****ตามอ่านอยู่น๊า**** จากคุณ : มินเอง - [ 12 มิ.ย. 48 14:43:46 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เจ้าของกระทู้ มีความคิดเหมือนผมเลย ไม่ลองค่ายเสนอ CMM (แม้ว่าหลายๆคนจะมองค่ายนี้ว่าแหวกแนว แต่ผมว่า อย่างน้อยสิ่งที่หวังไว้อาจจะสมหวัง) ดูละครับ อืมม จขกท มีเมลล์ใหม๋ครับ ผมขอด้วยครับ เผื่อผมอยากมีอะไรแลกเปลี่ยนความคิดกับคุณครับ ขอบคุณครับ ปล.เอาใจช่วยคนที่มีความหวังครับ จากคุณ : ห้องนี้ MBK - [ 12 มิ.ย. 48 15:09:47 A:161.246.68.76 X:161.246.1.32 TicketID:086885 ]

ความคิดเห็นที่ 8 จะเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะสู้ต่อไป... จากคุณ : ฟางค่ะ (i_am_faangy) - [ 12 มิ.ย. 48 15:25:04 ]

ความคิดเห็นที่ 9 แก้ใขครับ พิมพ์ไวไปหน่อย CM ครับ http://www.cm-pictures.com/contact.htm จากคุณ : ห้องนี้ MBK - [ 12 มิ.ย. 48 15:39:23 A:161.246.68.76 X:161.246.1.32 TicketID:086885 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไปที่สห.มงคล ขอพบคุณมานพ อุดมเดชหรือคุณอุ๋ย(แผนก Production) บอกคุณมานพหรือคุณอุ๋ยว่า Cinephile ฝากให้อ่าน โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 48 22:21:56 จากคุณ : Cinephile - [ 12 มิ.ย. 48 22:21:37 ]

ความคิดเห็นที่ 11 คุณเลือกทางเดินที่มีคู่แข่งมากเกินไป และบทของคุณยังโดนไม่พอครับ คนอย่างคุณมีเป็นร้อยๆคน บทหนัง"สเป็ค"แบบนี้ กองอยู่ตามค่ายหนังเป็นพเนิน ทุกๆคนก็ส่งมันไปทุกๆค่าย ลงเอยคือไม่มีใครอ่าน อย่างมากก็แค่ดูเรื่องย่อ ต้องเจ๋งจริงๆถึงยอมอ่านกันต่อ แต่ร้อยละเก้าสิบเก้า ...โยนทิ้ง ผมเลือกทางเดินอีกทาง ฝังตัวทำงานอยู่กับเอเยนซี่โฆษณาอยู่ 3 ปี เป็นโปรดิวเซอร์อยู่ในบริษัทหนังอีก 2 ปี ออกมาทำหนังสั้นของตัวเองไป 6 เรื่อง ได้รางวัลจนเครดิตยาวเป็นหางว่าว ได้ไปบางกอกฟิลม์ ได้ไปเทศกาลหนังที่ฝรั่งเศส ฯลฯ วิธีนี้ลดคู่แข่งจากระดับร้อยลงเหลือระดับสิบ ฟลุ๊คๆค่ายหนังอาจจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเราเอง แต่ลงเอยก็พอกันกับคุณนั่นแหละ พอเขาเห็นทรีทเม๊นต์ก็ว่ามันอาร์ตไป แล้วก็ไล่ไปหาทุนจากเมืองนอกเหมือนกัน แต่ถ้ารักจะทำจริงๆต้องอย่าท้อครับ หาทุนหาโอกาสมันไปเรื่อยๆ ออกงานชิ้นใหม่ๆให้มีเครดิตมากขึ้นอีก อย่าจมกับบทอันเก่าที่เขาอ่านกันทุกค่ายจนไม่เหลือความสดอีกแล้ว (ผมเองยังเคยได้ยินเรื่องย่อเรื่องนี้เลย เฝือมั๊กๆ) ตัดใจโยนทิ้งไปเลย เขียนใหม่... เอาให้เจ๋งกว่าเดิมอีก ให้กำลังใจตัวเองหน่อย มองความจริงดูบ้างว่ากว่าคนอื่นเขาจะได้ทำกัน ต้องเขียนกันมาแล้วกี่เรื่อง ...เป็นสิบครับ บทสองสามเรื่องแรกน่ะเขียนเพื่อโยนทิ้งอย่างเดียว มักจะห่วยจัดๆแต่เรามักหลงไหลได้ปลื้มกับมันว่าดี ผ่านไป 3 ปีพอกลับมาอ่าน ...เขียนไปได้ไงวะเนี่ยยย... แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 48 23:22:11 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 48 23:21:24 จากคุณ : ช่างมันเถอะ... (แท็กซี่นิรนาม) - [ 12 มิ.ย. 48 23:19:27 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ต่อ... ถ้าพ่อแม่ไม่รวย ก็ต้องมีงานประจำเลี้ยงตัวเองระหว่างรอความฝันด้วย ถ้าไม่ได้เรียนหรือไม่ได้ทำงานทางนี้มาเป็นเรื่องเป็นราว ก็ต้องศึกษาหาความรู้แบบสุดๆ อ่านหนังสือมากๆ ฟังเพลงฟังดนตรีเยอะๆ ไปมิวเซียมบ่อยๆ เสพศิลปะทุกชนิดจนแตกฉาน ดูหนังได้ทุกระดับ ดูได้ทะลุถึงศิลปะของมัน ระดับเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าอะไรคือ"ภาพยนตร์" นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการมีคุณสมบัติเป็นผกก.หนังครับ (ข้อ 1. แตกฉานในศิลปะทุกด้าน ข้อ 2. เข้าใจชีวิต ข้อ 3. คิดเป็นภาพโดยนิสัย ข้อ 4. มองเห็นอะไรไม่เหมือนคนอื่น ข้อ 5. เป็นผู้นำโดยธรรมชาติ ฯลฯ จำไม่ได้แล้ว ในตำรามันมีหลายสิบข้อ ว่างๆจะมาเรียบเรียงมาเล่าให้ฟัง) อีกอย่างคือคุณไปทำกับดักฝังตัวเอง ไปจำกัดทางตัวเองแต่แรกว่าตัวเองจะต้องกำกับด้วย คุณเป็นใครมาจากไหน มีอะไรพิสูจน์ให้เขาเชื่อได้ว่าคุณกำกับหนังเป็น แค่สตอรี่บอร์ดอย่างเดียวน่ะมันไม่พอหรอกครับ เพราะไม่ใช่ว่ามนุษย์คนไหนก็จะมากำกับหนังได้ ไปกำหนดอย่างนั้นมันเสี่ยงเกินไป มีสิทธิ์สูงเลยที่ค่ายหนังจะมองว่าคุณไม่มีความเป็นมืออาชีพ เป็นเด็กเพ้อเจ้อลอยลมแบบเดียวกับที่เขาเจออยู่ทุกวี่ทุกวันมาแล้วเป็นร้อยคนพันคน เขาก็ทำเฉยๆซะ พอเวลาผ่านไป... ไอ้พวกนี้ก็เลิกฝันลมๆแล้งๆไปเอง เพราะพวกนี้ส่วนใหญ่ความมุ่งมั่นมันไม่ได้ระดับที่เหมาะสม ถ้าไม่เป็นชนิดมีความมุ่งมั่นไม่มากพอ ก็เป็นแบบมีมากไปจนไม่สนใจโลกของความเป็นจริง อย่าว่าเอามะพร้าวมาขายสวนเลย คุณคงเข้าใจเรื่องที่ผมเขียนไปดีอยู่แล้วแหละ แต่ผมเขียนเผื่อคนอื่นๆที่มีความฝันอย่างเดียวกันด้วย เห็นในเฉลิมไทยมีอยู่หลายคน ...ไม่รักไม่บอกหรอกนะเนี่ย จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 12 มิ.ย. 48 23:22:59 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าว... ท่าน Cinephile มาเอง อายเลย... เขียนอะไรออกไป... แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 48 01:45:29 จากคุณ : แท็กซี่นิรนาม - [ 12 มิ.ย. 48 23:42:36 ]

ความคิดเห็นที่ 14 หุหุ นึกว่าท่านไป เมืองกาญจน์แล้ว ยังอยู่กรุงเทพเหรอครับ     เฮ้อ! เรื่องแบบนี้แล้วแต่โอกาสกับดวงเนาะ พยายามทำงานหลักให้เลี้ยงตัวเองได้ไว้ก่อนดีกว่าครับ ยังไงฝันก็ยังเป็นฝัน แต่จงอย่าท้อที่จะไล่ตามฝัน เพราะเมื่อคุณตื่นความฝัน กับ ความจริงจะบรรจบกัน...ติดตามอ่านต่อคับ ว่าเรื่องจะจบที่ตรงไหน จากคุณ : Black Pig - [ 13 มิ.ย. 48 00:11:36 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจครับ โดยเฉพาะท่าน Cinephile เมื่อวานผมเพิ่งเปิดอ่านกระทู้ชวนคนทำหนังไทยชิงออสการ์ ที่ผมตั้งไว้เมื่อ ปี2542 อีกครั้ง แล้วเพิ่งเห็นว่ามีชื่อของท่านมาโพสต์ด้วย นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงครับ เพราะท่านเป็นหนึ่งในดวงใจของผมโดยเฉพาะเรื่องมือปืน เรื่องนี้ยังไม่จบครับ มี 3 Episode เมล์ผม linkdreams@hotmail.com ครับ มีอะไรจะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเมล์มาได้ครับ จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 13 มิ.ย. 48 03:19:29 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ...ยังรออ่านตอนต่ออยู่นะครับ ถ้าแตกตอนต่อ ไปตั้งกระทู้ใหม่ รบกวนฝาก link ไว้ที่กระทู้นี้ด้วยนะครับ จากคุณ : sungod - [ 13 มิ.ย. 48 20:27:51 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ได้โอกาศดีแล้วนะครับ เป็นกำลังใจให้ จากคุณ : garun studio - [ 13 มิ.ย. 48 22:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ รอเคลียร์ตัวเอง2-3วัน จะเขียนEpisode2 ครับ จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 14 มิ.ย. 48 00:17:49 ]

ความคิดเห็นที่ 19 มารออ่านด้วยครับ จากคุณ : ห้องนี้ MBK - [ 14 มิ.ย. 48 09:28:25 A:161.246.68.76 X:161.246.1.33 TicketID:086885 ]

ความคิดเห็นที่ 20 หลังจากที่อ่านจขกท. ผมก็เคยเป็นแบบคุณมาก่อน และเคยระเหเร่ร่อนไปฝึกงานที่บริษัททำหนังแห่งหนึ่ง(คุณก็เขียนเอาไว้ด้วย แต่ผมไม่สามารถบอกได้) ฝึกฝ่ายศิลปกรรมก่อน แต่ที่จริงแล้วผมอยากฝึกเขียนบทใจจะขาด แต่ช่วงนั้นดันเต็มไปเสียก่อน หลังจากที่ฝึกงานแบบกิ๊กๆก๊อก(ผมเองนะ ไม่เกี่ยวกับบริษัท) ก็กลับมาเรียนต่อจนจบ ผมก็คิดถึงการทำหนังอยู่ทุกวัน ก็รู้ตัวว่าทางบ้านไม่มีตังค์ แต่ก็ถูลู่ถูกังไปอีกครั้งจนได้คราวนี้ผมขอไปเขียนบท แต่ก็ประสบปัญหาหลายอย่างทั้งที่ทำงานและเรื่องส่วนตัว จนผมต้องขอกลับมาบ้านเพื่อทำงานเลี้ยงชีพต่อ ผมกำลังถึงช่วงที่ 2 ของคุณเอง ผมก็เริ่มท้อแล้ว ผมเข้าใจคุณนะ แต่กับคำตอบหลายคำตอบที่ข้างบนว่ามามันก็ถูกนะ คุณเลือกที่จะกำกับเอง อีกทั้งบอกตรงๆ(ผมไม่อยากจะให้คุณเสียความรู้สึกเลย จริงๆว่า) สตอรี่ย์บอร์ดมันไม่ช่วยให้ทำหนังได้ ถึงแม้จะวาดเป็นสีก็ตาม มุมมองภาพมันแบน เพราะสมัยนี้มันต้องเน้นมุมกล้องที่สวย และแปลกตา(ลองดูในนิตยสารมูฟวี่ย์ เอ๊กส์ตร้าดูนะ จะเห็นภาพเลย) ส่วนที่ว่า เค้าไม่อ่านบท มันเป็นเรื่องจริงถึง 99 % ครับ เพราะบางครั้งเขาคิดว่า ถ้าอ่านบทที่มีถึง 100 หน้า หรือ เอาแค่โครงเรื่อง 30 หน้า มันก็มากเกินไปแล้ว ตอนที่ผมฝึกเขียนบท ผกก.คนหนึ่ง เขาต้องการเพียง กระดาษ 1 หน้าที่สามารถเล่าหนังจบ และเสี่ยสามารถควักเงินจ่ายมาเลย อะไรประมาณนี้ ในช่วงที่ผมฝึกงานอยู่ มีคนอย่างคุณคนหนึ่งที่ส่งบทแบบสคริปต์ บอกช็อตของภาพ หนากว่า 300 หน้า โดยที่บอกละเอียดถึงขั้นที่ว่า ดาราคนนี้ต้องรับบทนี้ ถ้าใครเคยอ่านหนังสือของ มาสเตอร์บิล โกลด์แมนจะเห็นว่าเขาไม่แนะนำให้เราเจาะจงที่ดาราคนนั้น หรือหลีกเลี่ยงได้เป็นดี... ถ้าถามผมว่า ผมอ่านบทอันนั้นไหม ผมไม่อ่านครับ มันเยอะจนเกินไป แม้แต่ทรีทเม้นต์ผมก็ไม่อ่าน ผมชอบฟังที่เค้าเล่าให้ฟังมากกว่า... อ้อ ผมไม่ใช่หัวหน้าบทนะ เพียงแต่เป็นเด็กฝึกงานด้านบทเท่านั้น แต่เค้าจะให้อ่านแล้วเล่าให้เขาฟังอีกที มันอาจจะเป็นการทดสอบการเล่าเรื่องของผม แต่ผมบอกพี่เขาว่า เรื่องนี้ขอบายครับ เยอะแบบนี้ใครจะอ่าน แนะนำอีกครั้งว่า... 1. คุณศึกษาหนังสือ การเขียนบทที่มีออกมาขายกว่า 5-6 เล่ม 2. ฝึกเขียน 3 บรรทัดให้เล่าหนังจากนาทีแรกจนถึงหนังจบเรื่องให้ได้ 3. กลับมาตั้งหลักอีกครั้ง อย่าพึ่งท้อ หันมาเขียนหนังสั้น เพื่อสร้างเครดิต(อย่างที่ข้างบนว่า ตอนนี้ผมก็เขียนเสร็จไป 2 เรื่อง แต่ไม่มีงปทำน่ะ) ลองทำที่หลายๆคนแนะนำนะ ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 48 17:13:30 จากคุณ : KT.luder - [ 15 มิ.ย. 48 17:10:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ตกลงคุณจะฝันหรือจะทำครับนี่ ถึงคิดจะเขียน Episode 2-3 ขึ้นมาตอนนี้!?! ถ้าจะทำ ผมว่าคุณรีบทำตามที่ท่าน Cinephile บอกอย่างด่วนจี๋เถอะครับ...  ปัดโธ่ แต่ถ้าผมวิจารณ์นะครับ มีความมุ่งมั่นดีครับ แต่ชื่อหนังเชยและมีคำที่ไม่รื่นหูอยู่ แล้วความเห็นของหลายๆค่ายก็เป็นสิ่งที่ควรรับฟังนะครับ บางทีเราอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากไปจนจมไปกับมัน คนอื่นมองจากภายนอกเห็นรอบด้านกว่า ลุยเลยครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 48 17:32:50 จากคุณ : อุปนิกขิต - [ 15 มิ.ย. 48 17:29:09 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนนี้ผมเรียนภาพยนต์อยู่ครับ  อาจารย์ผมเป็นคนเขียนบทหนัง ก็เริ่มต้นไม่ต่างจากคุณนั่นแหล่ะครับ และก็ลงเอยเฉกเช่นเดียวกับคุณเช่นกัน มีหลายๆอย่างเลยครับสำหรับคนที่กำกับหนังที่ต้องเตรียมตัวก่อนกำกับหนังจริง ตอนแรกสุดคือต้องมีบทหนังที่ดีจริงๆครับ ( ซึ่งถ้าให้พูดตามความจริงแล้ว.. บทหนังทุกเรื่องก็มีดีนี่ครับ นอกเสียแต่ว่าเราจะทำมันออกมาเป็นภาพได้หรือเปล่า ... ถ้าคุณมีบทหนังไม่ดี ... ให้เพื่อนคุณที่ชอบอ่านหนังสืออ่านแค่สองหน้าเค้าก็ทำหน้าเอือมระอาแล้วครับ ) อย่างน้อยลองเล่าเรื่องให้เพื่อนๆหรือคนรู้จักฟังดูครับ แล้วสังเกตุกริยาว่าเค้าสนใจหรือเปล่า ถ้าหลายๆคนสนใจ ผมว่าบทก็น่าจะมีอะไรดีอยู่ครับ ... หลังจากนั้นก็ลองให้คนที่มีความรู้ด้านการเขียนบทช่วยอ่านครับ ... เพื่อนๆชาวเฉลิมไทหลายๆท่านก็มีความรู้ความสามารถนี่ครับ ... ผมว่าอย่างน้อยต้องมีสองสามคนที่พร้อมจะยินดีที่จะอ่านบทแล้วตำหนิติเตียนครับ หลังจากนั้นก็ต้องมีพื้นฐานครับ ... ออกไปทำงานครับ ... ไม่เกี่ยงงาน ... ขยัน ... การทำหนังไม่เหมือน Graphic Design เลยนะครับ .... ต้องขยันอดหลับอดนอนกันหลายวันหลายคืนทำงานครับ .... ระหว่างที่ทำงานก็ทำความรู้จักกับศาสตร์ของการทำภาพยนต์ด้วยครับ ( ช่วงนี้เองผมว่าหลายๆคนอาจจะหันหลังให้กับภาพยนต์ไปเลยก็ได้ครับ .... เพราะมันโหดร้ายกว่าที่คิดไว้มากครับ ) ช่วงเดียวกันนี้เองก็สร้างฐานข้อมูลความรู้ไว้ครับ ... รู้จักใครได้ให้รู้จักไว้ครับ ... สองมือมีก็พนมมือไหว้ครับ ... การรู้จักคนมากหมายถึงเค้าก็จะรู้จักคุณด้วย ... อย่างน้อยแค่ชื่อก็เกินพอแล้วครับ ออกมาสร้างผลงานครับ .... ไม่มีใครหรอกครับที่จะให้เงินคุณสิบล้านทันที ... เค้าอยากเห็นงานของคุณก่อนครับ ... ออกไปทำหนังสั้นดีๆซักสิบเรื่องครับ .... พัฒนาตัวเอง ... หาทีมงานที่ทำงานด้วยได้ในระยะยาว ( อย่างท่าน Cinephile เองก็มีดาราประจำอย่างลุงเอก สรพงษ์ ชาตรี มีช่างกล้อง ช่างไฟ ผู้ช่วย ผู้กำกับศิลป์ที่ทำงานด้วยมายาวนาน ) ... เพราะว่าทีมงานที่ดีจะรู้ใจเราครับ ... อย่าลืมครับว่าการทำงานต้องอยู่กับเวลาและเงินทุน .... ถ้าทีมงานไม่เข้าใจผู้กำกับแล้วใครจะไปเข้าใจหนังคุณครับ ? สร้างชื่อเสียงครับ ... ส่งหนังเข้าประกวด ... มีงานอะไรที่เราได้แสดงผลงานก็แสดงไปครับ .... อย่างน้อยดีไม่ดีเราจะได้รู้ครับ ... งานหนังสั้นเค้าก็มีคนมาด่ามาชม ... อย่าถือเป็นเรื่องส่วนตัวครับ ... เก็บเสียงตอบรับมาหาจุดบกพร่องตัวเอง หาช่องทาง หาความรู้ .... มีอะไรเรียนได้ให้เรียนรู้ครับ ... ดูหนังมากๆ อ่านหนังสือมากๆ อ่านข่าว ดูรายละเอียดคน ทำให้เป็นนิสัย ความรู้ด้านหนังอย่างเดียวไม่สามารถทำหนังได้ครับ ... ต้องมีความรู้แขนงอื่นมากมายครับ หาโอกาศ และอย่าทิ้งโอกาศ ... อย่างท่าน Cinephile ให้โอกาศคุณแล้ว ... คุณก็ควรทำตามครับ ... ใครชวนไปงานไหนให้ไป  เทศกาลหนังห่วยหนังดีให้ไป  มีนามบัตรติดตัวไว้ครับ ... เวลาไปขายงาน .... ขายแค่บทไม่พอครับ ... คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว ใช้วิธีขายหนังเรื่ององค์บากด้วยการออกไปถ่ายฉากต่อสู้แล้วเอามาเป็นจุดขายของหนัง ... ฝรั่งเค้าเรียกว่า Visually exciting shots หรือภาษาไทยคือฉากตื่นตาตื่นใจ  พยายามหามุมมองครับว่าเราขายหนังจากมุมมองผู้กำกับ คนเขียนบท ผู้อำนวยการสร้างหรือว่าใครครับ เพราะว่าการเตรียมการจะต่างกันไปครับ : ) ที่เล่ามานี่ไม่มีความรู้อะไรหรอกครับ ... สักแต่เคยทำหนังสั้นห่วยๆไม่กี่เรื่องแต่ก็เจอปัญหาอย่างเดียวกันมาครับ ....  สู้อมยิ้มด้านบนหลายๆท่านไม่ได้หรอกครับ : ) ขอให้ประสบความสำเร็จครับ : ) ขอบคุณครับ   สวัสดีครับ จากคุณ : JamiroQuai [146...เดิม] - [ 16 มิ.ย. 48 22:43:06 ]

ความคิดเห็นที่ 23 linkของกระทู้ภาค 2 ครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3549011/A3549011.html#5 ขอบคุณหลายท่านที่ให้ความเห็นเพิ่มเติม คุณอุปนิกขิต ครับ ผมทราบครับ ว่าท่าน Cinephile ทรงมีเมตตาอย่างหาที่เปรียบมิได้ที่เข้ามาแนะนำ เรื่องนี้จะมีบทสรุปในภาคที่ 3 ครับ ยังไงไม่เกินอังคารหน้าผมจะเขียนให้เสร็จครับ ขอบคุณ http://www.deknang.com ที่เอาไปลงเป็นกระทู้แนะนำครับ เว็บคุณเป็นเว็บที่ผมเข้าทุกครั้งเวลาที่ต่อเน็ตเหมือนกัน ข่าวสารเยอะ ทันใจดีครับ จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 17 มิ.ย. 48 01:21:06 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อไรพวกความรู้เยอะ เสียเวลาให้คำแนะนำยืดยาวแฝงความเย้ยหยันให้เหนื่อยใจเล่น จะลุกจากหน้าคอมไปทำอย่างผู้กล้าที่กำลังต่อสู้อยู่บ้างล่ะครับ อยากอ่านความคิดเห็นพวกคุณหลังจากอ่าน เอพิโสด 3 จัง จากคุณ : คนค่ายเดียวกัน - [ 17 มิ.ย. 48 16:31:29 A:202.44.69.198 X:202.44.71.10 TicketID:102069 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ภาค3ครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3559056/A3559056.html#5 จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 22 มิ.ย. 48 01:11:54 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ..............เพิ่งคลิกมาอ่านด้วยความบังเอิญเลยย้อนมาอ่านตอนแรกก่อน เสียดายน่าจะตั้งหัวกระทู้ให้น่าอ่านกว่านี้ ไม่งั้นคลิกมานานแล้ว จากคุณ : joblovenuk - [ 23 มิ.ย. 48 02:33:28 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอดึงไว้ก่อนนะครับ จากคุณ : Dek Nang - [ 5 ก.ค. 48 12:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 28 บทความเกี่ยวกับการทำหนังครับ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3573542/A3573542.html#10 http://pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3583300/A3583300.html http://pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3593533/A3593533.html จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 8 ก.ค. 48 21:24:32 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เว็บมือปืนเก๋าเจ๋งครับ http://www.cm-pictures.com/perfectkiller/index.htm จากคุณ : ลิงหน้าพระกาฬ - [ 15 ก.ค. 48 01:07:49 ]