ความคิดเห็นที่ 1 จะจัดกิจกรรมในรูปแบบไหน น่าจะเสนอให้มีคณะกรรมการพิจารณาก่อนว่าผ่านหรือไม่- ผ่าน โดยอาจจะแจงรายละเอียดของกิจกรรมให้รุ่นน้อง- ทราบว่าจะไปในแนวทางไหน เห็นควรด้วยหรือไม่ แล้วค่อยลงมือปฏิบัติ  จะได้ไม่เป็นเรื่อง (จะยกเลิกไปเลย ผมก็คิดว่ามันรุนแรงไปนะ น่าจะยังแก้ไขได้ทัน) จากคุณ : oat_jazz - [ 18 มิ.ย. 48 16:29:46 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปล. คือหมายถึงยกเลิกการ หมอบ คลาน กลิ้ง วิดพื้น  ระบบว๊ากเกอร์ควายๆ ครับ คือระบบที่กดดันยกเลิกมันให้หมดครับ ให้เหลือแต่ระบบเอื้ออาทร ถนอมนำใจ การต้อนรับที่อบอุ่น แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 48 16:37:48 จากคุณ : Riddick - [ 18 มิ.ย. 48 16:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หมายถึง... ให้ นศ. ที่เข้าเีรียนมาก่อน มาร้องเพลงต้อนรับ มีบายศรีสู่ขวัญ.. อะใรประมาณนั้นใช่มะ ไม่ต้องมีร้องเพลงเชี่ยร์ ว้ากงี่เง่า ฯลฯ ก็ดีนะ แต่พวกนั้นมันจะยอมกันเหรอ จากคุณ : นู๋เองง่ะ - [ 18 มิ.ย. 48 16:42:21 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พวกเชี่ยๆ มันคงไม่ยอม การยกเลิกก็คือ การไม่ให้คนเชี่ยๆชั่วๆมีอำนาจล่ะครับ เป็นการตัดปัญหาและเป็นอะไรที่สร้างสรรค์ที่สุดแล้ว คนดีๆจะได้สบายใจกันทุกฝ่าย พ่อแม่ผ้ปกครอง รุ่นน้อง ญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ ทุกฝ่ายจะ happy นอกจากพวกรุ่นพี่เชี่ยๆ ที่มันคงไม่ happy แน่ๆ แต่เลือกเอาว่าเราจะแคร์กับคนดีๆหรือคนเชี่ยๆ จากคุณ : Riddick - [ 18 มิ.ย. 48 16:45:12 ]

ความคิดเห็นที่ 5 #3 เห็นด้วยกับประโยคสุดท้ายมาก มีระบบระเบียบอะไรก็ช่าง แต่สุดท้ายคุมยากอยู่ดี เปลี่ยนชื่อมันซะ ให้ใช้ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ "รับน้องใหม่" (โห แก้ปัญหาโคตรนักการเมืองเลยผม) เอาชื่อที่ดูมีความหมายดีๆ แล้วก็ทำแต่สิ่งที่ดีๆ อย่างที่คุ ณ POGGI เอารูปมาให้ดู หรืออย่างที่คุณ ....4จุด พยายามอยากให้มีอยู่ อย่างนี้ผมว่าน่าจะเป็นไปได้มากนะ แล้วพวกที่ #4 กล่าวถึง คงค่อยๆ หมดความสำคัญลงไปเอง จะได้หรือเปล่าหว่า จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 18 มิ.ย. 48 17:02:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อืม บลาๆๆๆ เอาเป็นว่ามีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับจขกท.แล้วกัน ด้วยความเคารพ จากคุณ : sixthsense - [ 18 มิ.ย. 48 17:13:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นด้วยๆ กิจกรรมดีๆมีตั้งเยอะไม่ทำ - -" จากคุณ : แท่งหรรษา - [ 18 มิ.ย. 48 17:26:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปัญหามันอยู่ที่เพราะระบบอาวุโสมันเปนกรอบบังคับอยู่ด้วยหรือเปล่า? สมมุติว่า เข้ามาก็มีพิธี "ผูกเสี่ยวหมู่" ล่ะ นศ.เก่า นศ.ใหม่ ถือว่าเปนเสี่ยวกัน ฐานะเท่ากันหมด จะเอื้ออาทรกัน ก็ไม่ต้องเอาอาวุโสมาอ้าง ให้สิทธิเสมอกัน โดยรักษาวัฒนธรรมไทยไว้ได้ด้วย จากคุณ : นู๋เองง่ะ - [ 18 มิ.ย. 48 17:32:41 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมไม่ได้จะบอกนะ ว่ารับน้องตอนนี้มันดี... แต่ถ้าให้เหลือแต่บายศรี อะไรเทือกนี้  น้องจะไม่สนิทกันมากพอหรอกครับ  มันต้องมีกิจกรรมร่วมกันมากกว่านี้ กิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันน่ะครับ... จากคุณ : nanoguy - [ 18 มิ.ย. 48 17:35:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อยู่ๆ กันไปก็สนิทกันเองครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องรีบ อยู่กันตั้งหลายปี กิจกรรมที่มีก็มีได้ แต่ไม่จำเป็นต้องยัดเยียดเยอะๆ อย่างรีบเร่ง พวกเพื่อนสนิทผมที่ยังติดต่อกันอยู่ทุกวันนี้ มาสนิทกันทีหลังทั้งนั้น รับน้องมันรู้จักกันฉาบฉวย แป้บเดียวก็ลืมชื่อแล้ว แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 48 17:42:31 จากคุณ : กึ่งยิงกึ่งผ่าน - [ 18 มิ.ย. 48 17:41:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับ #9 อ่ะค่ะ จากคุณ : ปี1 (Untouchable) - [ 18 มิ.ย. 48 17:50:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 #9 กิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันมีอยู่อย่างนึ่งง่า ต้องทำเยอะด้วย  เรียน จากคุณ : นู๋เองง่ะ - [ 18 มิ.ย. 48 17:53:49 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รับน้อง คำสั่งยุติกิจกรรมรับน้องใหม่ ในมหาวิทยาลัย จากคณะกรรมการการอุดมศึกษา สืบเนื่องจากมีน้องฆ่าตัวตาย... ฟังผิวเผิน...ก็เป็นเหตุเป็นผล เสียงขานรับจากระดับผู้บริหารมหาวิทยาลัย...ก็พอเข้าใจ... ผู้ใหญ่มักโอนอ่อนตามกระแสอำนาจ...เพื่อรักษาอำนาจ แต่เมื่อฟังจากนักศึกษารุ่นพี่...การรับน้องเป็นกิจกรรมแรก ที่จะเชื่อมโยงไปถึงกิจกรรมต่อเนื่องอีกมากมาย การเลิกรับน้อง ทำให้รวนไปทั้งกระบวนการ เอ่ยถึงกิจกรรม ผมนึกถึงเพื่อน คุณนพรัตน์ กุลหิรัญ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ แวะเวียนไปรับส่งลูกที่ธรรมศาสตร์ เธอบ่นว่าเด็กรุ่นลูก กิจกรรมไม่เข้มข้นเหมือนรุ่นแม่ รุ่นคุณนพรัตน์ น่าจะเป็นรุ่นที่นักศึกษาออกทำกิจกรรมในชนบท ติดพันชนบทจนเป็นประเด็นการเมือง ต้องหนีไปปักหลักในป่า เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นบทเรียนสำคัญ กิจกรรมธรรมศาสตร์ยุคต่อมาจึงเจือจางลง เทียบกับชนบท กิจกรรมรับน้อง...เป็นกิจกรรมเล็กน้อยนัก เอ่ยถึงระบบการศึกษาไทย มีเสียงบ่นให้ความสำคัญแต่ในชั้นเรียน... ละเลยการศึกษานอกห้องเรียน พ.ญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสมองเด็ก ...เขียนไว้ในงานวิจัย...สมองเด็กพัฒนาเต็มที่ในระยะขวบปีแรก และเริ่มลดต่ำไปเรื่อยๆจนเข้ามหาวิทยาลัย...ไม่แปลกที่เด็กไทย ไอคิวต่ำกว่าเด็กชาติอื่น ระดับสติปัญญา...ผมเชื่อว่า ไม่ได้วัดการเรียนรู้จากตำรา ส่วน ที่ควรพัฒนาให้มากที่สุด คือการเรียนรู้ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกัน งานรับน้องเมื่อปีที่แล้ว...ส่งผ่านมาเข้าหูผม เห็น รุ่นพี่เล่นบทโหดมันฮา!...น้องก็เข้าใจว่า พี่เขากำลังแสดง คิดได้อย่างนี้ ความรู้สึกต่อต้านจึงไม่มี กิจกรรมค่อนดึก จากอาคารหนึ่ง...ไปอีกอาคารหนึ่ง หนทางยาวไกล เห็นพี่ๆยืนเรียงรายเป็นปราการคุ้มภัย ส่งน้องไปถึงหอพัก...ความรักความเอื้ออาทรระหว่างน้องๆพี่เริ่มมีขึ้น น้องเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้กำลังทำหน้าที่พี่...เมื่อมีคำสั่ง...ให้ยุติการรับน้อง ประเด็นที่จะต้องคิด...หยุดทุกอย่าง แล้วก็ก้มหน้าเข้าห้องเรียนกันไป ผู้ใหญ่เขาบอกว่า เด็กมีหน้าที่เรียน สายไยไมตรีถ้ามันจะขาดวันนี้ มีเวลา...ก็ค่อยๆหาวิธี ต่อสานในวันหน้า หรือ...หันไปบอกผู้ใหญ่...งานรับน้อง เป็นงานดีงาม...ประเพณีไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชาน ต้องต้อนรับ...ยืนยันงาน รับน้องต่อไป เพราะงานรับน้องไม่เคยผิด วิธีการรับน้อง...ที่บังเอิญเปิดช่องให้รุ่นพี่โหดบางคน กดขี่บีฑาน้องต่างหากที่ผิด หรือจะคิดว่า...งานรับน้องปีนี้เป็นบทเรียนสำคัญ ให้หยุดคิดพิจารณา หนทางเก่า ไม่แน่ว่าจะดีกว่าหนทางใหม่เสมอไป แต่ที่แน่ๆ ถึงอย่างไรเราก็ต้องเดิน คำสั่งให้หยุดเดิน...หยุดการเรียนรู้ ผมไม่อยากเชื่อว่าจะออกมาจากสมองผู้ใหญ่ ครูหยุย (วัลลภ ตังคณานุรักษ์) ใช้คำว่า วงการศึกษาไทยมีแต่เรื่องตลก มุกตลกที่ออกจากสมองปริญญาเอก เด็กไปทัศนศึกษาแล้วรถคว่ำ ห้ามทัศนศึกษา เด็กฆ่าตัวตายในงานรับน้อง ห้ามงานรับน้อง ต่อไปเด็กตกรถเมล์ ก็ห้ามเด็กขึ้นรถเมล์ เคราะห์ดีที่ยังไม่คิดถึงขั้น...ปิดมหาวิทยาลัย. "กิเลน ประลองเชิง" จาก http://www.thairath.co.th/thairath1/2548/column/dragon/jun/16_6_48.php ครับ เอามาให้อ่านกันเล่นๆ ~ The Love to You is Alive in Me, For Love You are Aside of Me ~ จากคุณ : Enixma - [ 18 มิ.ย. 48 17:56:17 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตื่นๆอีกละ อะไรไม่ดีตัดทิ้งแมร่งให้หมด ผีคอมมิวนิสเข้าสิงห์รึไง~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร - [ 18 มิ.ย. 48 18:05:10 A:61.91.134.119 X: TicketID:095320 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ตื่นๆอีกละ อะไรมีปัญหาตัดทิ้งแมร่งให้หมด ผีคอมมิวนิสเข้าสิงห์รึไง~~ จากคุณ : ถั่วงอกเป็นฆาตกร - [ 18 มิ.ย. 48 18:06:19 A:61.91.134.119 X: TicketID:095320 ]

ความคิดเห็นที่ 16 สรุปคือจะให้ยกเลิกอะไรบ้างอะ พวกคลาน วิ่ง กลิ้ง หมอบ อะไรเทือกเนื้อ ผมเห็นด้วยนะว่าให้ควรยกเลิก ไอ้ที่มาว๊ากๆตะโกนใส่หูก็เหมือนกัน หรือที่ตัดขนไฟลนไข่แบบเนี้ยก็กำจัดมันไปซะ แต่ถ้าอย่างอื่นขอพิจารณาเป็นเรื่องๆ เพราะอย่างให้มาเต้นๆเล่นเกมแบบเนี้ย ผมชอบ ++++++++++++++++++++++ หากมีวาสนา สุดขอบฟ้าก็พานพบ หากไร้วาสนา แม้ไขว่คว้าก็คลาคลาด จากคุณ : Devil Cupid - [ 18 มิ.ย. 48 18:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เลิกได้ก็ดีมากๆ ปล่อยไปทำกิจกรรมตามชมรมดีกว่า นับถือกันที่ความเก่งดีกว่า จากคุณ : Dr.slump - [ 18 มิ.ย. 48 18:39:54 ]

ความคิดเห็นที่ 18 บางคนก็เลือกเรียนอย่างเดียวจนเข้าสังคมไม่เป็น บางคนก็เปลี่ยนจากคนที่ไม่เคยคุยกับใครมาได้เพื่อนเอาตอนเรียนมหาลัย ตอนทำกิจกรรม ตอนเห็นน้ำใจเพื่อนด้วยกัน บางคนก็เลือกเพื่อนอย่างเดียว เลือกกิจกรรมอย่างเดียวจนการเรียนเสีย บางคนก็เรียนรู้สันดานคนได้จากการทำกิจกรรมและการเรียนด้วยกัน บางคนก็คิดว่าการรับน้องคือระบบโซตัส ซึ่งควรยกเลิกไปให้หมด บางคนคิดว่าการรับน้องต้องครีเอทความอุบาทว์เอามาเล่นกับน้องเพราะคิดว่า(ตัว)มันจะเฮฮาสนุกสนาน บางคนก็ได้เห็นการรับน้องผิด ๆ มาเลยเหมารวมการว่ารับน้องไม่มีอะไรดีเลย ของทุกอย่างมีทั้งดีและไม่ดีขึ้นอยู่กับว่าเราได้พบและเห็นอะไรมามากกว่า ตอนนี้เราเห็นสื่อลงข่าวแต่เรื่องรับน้องอุบาทว์ ตอกย้ำกันเข้าไป จริง ๆ ด้านดีของมันก็มีเพียงแต่ตอนนี้เราเห็นภาพเหล่านั้นน้อยลงจนเราเริ่มคิดว่ายกเลิกมันไปเลยดีกว่า ซึ่ง มันก็ไม่ได้แก้ไขอะไรมากมายหรอก พอเรื่องนี้จบก็มีเรื่องนั้นต่ออีกแหละ รับน้อง ประชุมเชียร์ ทำให้ดีก็มีประโยชน์ แต่เพราะทุกวันนี้มีแต่คนทำให้มันดูไม่ดีเราถึงเห็นโทษมากกว่าประโยชน์ของมัน ฝากนิดนึง คนเราไม่มีใครคิดเหมือนใครเป๊ะ ไม่มีใครรับกับความเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ทุกอย่าง และแน่นอน ไม่มีสิ่งไหนที่ทำแล้วทำให้ทุกคนพอใจ จากคุณ : อดีตรุ่นพี่ (e n u h s) - [ 18 มิ.ย. 48 19:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 19 .. สืบเนื่องจาก คห.ที่ 5  พี่กึ่งยิงกึ่งผ่าน กล่าวถึงตัวผม เลยต้องขอ...... เอากระทู้มาแปะอีกที  เหอๆๆๆ (แอบโปรโมทซะงั้น):P http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3542060/A3542060.html .. จากคุณ : POGGHI - [ 18 มิ.ย. 48 19:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่เข้าใจ พวกประชุมเชียร์นี่มันเป็นยังไงเหรอค่ะ? ทำไมต้องประชุมอ่ะ? จะไปแข่งกีฬากับใครเหรอ? ทำไมต้องเชียร์อ่ะ?... ไม่ได้ถามประชดนะ แต่อยากรู้จริงๆ คือชีวิตนี้ไม่เคยเข้าประชุมเชียร์น่ะ (เพราะที่มหาลัยไม่มี) หาสาเหตุไม่เจอว่าทำไมต้องประชุม??? แล้วประชุมไปเชียร์อะไรคะ? จากคุณ : ปุ๋ย พันธุ์ทิพย์ - [ 18 มิ.ย. 48 20:00:09 A:210.246.73.121 X: TicketID:073105 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ไอ้ที่ดีๆก้อเก็บไว้ดิ ตัดแมร่งหมดมันง่ายไปไหม ถ้าอยากให้น้องสนิทกันเร็วมันต้องมีกิจกรรม+เงื่อนไขต่างๆให้ต้องทำร่วมกัน คุณRiddickนี่ท่าทางจะมีความทรงจำเกี่ยวกีบการรับน้องที่ไม่ค่อยดีนะครับ เห็นตั้งกระทู้ตอบกระทู้รับน้องได้ทุกวัน จากคุณ : เฮียแจ็ค - [ 18 มิ.ย. 48 20:09:35 ]

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดี เฮียแจ๊ค ผมเหรอ ผมเป็นประเภทรู้สึกไม่ดีกับการรับน้องอยู่แล้ว ตอนเรียนปี 1  ผมก็เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง เพราะเห็นแล้วว่ามันไม่สร้างสรรค์เลย ผมขี้เกียจไปโดนวิดพื้นผมก็ไม่เข้า ผมเอาเวลานั้นไปช่วยแม่ผมขายของยังจะดีกว่า และการที่ผมมาตอบกระทู้เกี่ยวกับการรับน้องอยู่ทุกวัน เพราะผม anti การรับน้องที่ต้องกดดันรุ่นน้อง พวกรุ่นพี่เชี่ยๆก็ไม่ต่างกับหมาตัวนึง จะไปเคารพมันทำไมล่ะครับ  เหตุผลที่ไม่งี่เง่า มันอยู่ในตวของมันแล้ว หากคุณไม่งี่เง่า คุณก็คงจะเข้าใจน่ะ ว่าการรับน้องบางทีมันเหมือนการปั่นหัว การหล่อหลอม ให้ยึดมั่นถือมั่นในอะไรบางอย่างที่บางทีก็งี่เง่าชะมัด  ปล. เฮียแจ๊คคงจะอ่านความเห็นผมไม่หมด ทีหลังอ่านให้หมดซะก่อนว่า k u คิดยังไง อย่ามาด่วนสรุปว่าตูคิดอย่างนั้นคิดอย่างนี้ ตูบอกเหรอว่าให้เลิกทุกอย่างน่ะ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 48 20:33:31 จากคุณ : Riddick - [ 18 มิ.ย. 48 20:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ Riddick นี่ก็ใช้คำพูดแรงเกินไปนะคะ คำว่า พวกเชี่ยๆ" เนี่ย คนที่เค้าไม่ยอมกัน ที่เป็นพี่ว้าก (ถึงเราจะได้ประชุมเชียร์แค่ครั้งเดียวแล้วก็ระงับไป) ที่เราเห็นเค้าก็ไม่ใช่ว่า จะเป็นพวกเชี่ยๆ นี่คะ? ตอนว้าก เค้าไม่เคยพูดคำหยาบ ไม่เคยลงโทษ ไม่ถูกเนื้อตัวน้อง ไม่ทำอนาจาร และวันนี้มีการพัฒนามหาวิทยาลัยของน้องปีหนึ่ง พี่เค้าก็ยังช่วยไปขุดคู สกปรกเลอะเทอะกันไป คนแบบนี้ เราไม่ค่อยเห็นด้วยที่คุณจะเหมารวมพวกเค้าเป็น คนเชี่ยๆ นะคะ รับน้องดีๆก็มีเยอะค่ะ และจากการที่เราได้พบกับรุ่นพี่ดีๆ พี่ว้ากที่เป็นตัวอย่างที่ดี เราก็ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิกรับน้อง และยกเลิกการประชุมเชียร์ทั้งหมดค่ะ จากคุณ : arkana - [ 18 มิ.ย. 48 20:47:53 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ประชุมเชียร์ มันเป็นศัพท์เฉพาะก็ว่าได้ ผมคิดว่าตัวเองอธิบายจยังไม่ได้ลึกซึ้ง เพราะเพิ่งอยู่ปี 1 - -'' จากคุณ : Tailogy - [ 18 มิ.ย. 48 20:52:36 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ยกเลิกไปนะดีแล้ว จากคุณ : janway - [ 18 มิ.ย. 48 22:11:28 ]

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ ปุ๋ย พันธุ์ทิพย์ #20 มหาลัยเราก็ไม่มีประชุมเชียร์ ไม่มีว๊าก (ไม่รู้เดี๋ยวนี้มีรึเปล่า) แต่มีบอลประเพณีที่ต้องไปแข่งทุกปีกับอีกสถาบัน สมัยเรา ไม่เห็นจะมีพี่มาวุ่นวายให้ซ้อมเลย (สงสัยอยู่ไกล) แต่พอใกล้งานบอล เด็กปี 1 ก็ขวนขวายหัดร้องกันเอง จนร้องได้หมด เพราะยังไงก็อยากไปเชียร์ซักครั้ง ไม่ต้องให้ใครมาบอก ไม่มีใครกังวลว่าเด็กปี 1จะร้องเพลงได้หรือไม่ จะมานั่งตากแดดบนอัศจรรย์กันมั๊ย วันงาน จำได้ว่าเห็นเด็กอีกสถาบันน้อยมาก เดินตัวลีบๆกันไม่กี่คน ที่นั่งบนอัศจรรย์ของอีกสถาบัน คนนั่งเต็มช้ามาก ส่วนที่นั่งส่วนอื่น มีสถาบันเราซัก 70% ตอนเชียร์ ร้องเพลงได้ทุกเพลงทั้ง 2 สถาบัน เต็มที่ทั้ง 2 สถาบัน เรื่องนี้ทำให้เราไม่มีทางเข้าใจ ว่าอีกสถาบันเค้าซ้อมเชียร์กันไปทำไม จากคุณ : umae - [ 18 มิ.ย. 48 23:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ควายแก่ : กรูยังเอาคืนไม่หนำใจเลย...ไม่ได้เสี้ยวกับที่กรูโดนเลย ขอเอาคืนหน่อยเหอะ จากคุณ : BHU - [ 19 มิ.ย. 48 00:17:25 ]

ความคิดเห็นที่ 28 การประชุมเชียร์สำหรับเราแล้วมันเป็นการฝึกระเบียบวินัยค่ะ เราเองเคยผ่านตรงนี้มาถึงได้รู้ คณะเราค่อนข้างเคร่งเรื่องประชุมเชียร์อยู่พอสมควร ตอนแรกก็คิดว่า โอย..ทำไปทำไมฟะ ปวดหลัง ปวดก้น ให้มานั่งนิ่งเป็นชั่วโมง เวลาร้องเพลงก็ต้องร้องให้สุดเสียง ทรมานตัวเองเปล่าๆ แต่พอผ่านตรงนี้มาแล้ว แบบว่ามันรู้สึกดีมากๆ รู้สึกภูมิใจในคณะ รักคณะนี้มากๆค่ะ (แม้จะมีคนว่าพวกเราชอบโชว์พาวก็เหอะ) จากคุณ : อุ๊ยคำคนแก่ ท่าทางใจ๋ดี - [ 19 มิ.ย. 48 00:40:45 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบความเห็น #18  จังเลย  ผมว่าแฟร์ดีนะ   จะได้ประโยชน์หรือไม่เนี่ยมันอยู่ที่คนจัด(เหมาะสมและเตรียมพร้อมมาดี) และคนเข้าร่วมกิจกรรม   ที่หลายคนว่าไม่มีประโยชน์เนี่ยก็อาจจะไม่ผิดหรอก หากเค้าอยู่ในสถาบันที่จัดกิจกรรมนี้ได้ไม่เหมาะสมและทำเกินกว่าเหตุ   แต่สถาบันที่เค้าตั้งใจทำเพื่อน้องจริงๆมันก็มี น้องก็ได้ประโยชน์กันด้วย เพียงแต่มันไม่ดังเป็นข่าวเท่านั้นแหละครับ เลยไม่เอามาพูดกัน   สื่อไม่เอาเรื่องดีๆมาเขียนหรอกครับเพราะมันขายไม่ได้ เรื่องดีๆมันก็มีเยอะถ้าเปิดใจมองมันให้กว้าง  (แต่เรื่องแย่ก็ควรรีบแก้ครับ เพราะมันเป็นปัญหาสังคม ) ปล. ความเห็นที่ว่า เรียนไปเดี๋ยวก็รู้จักกันเองเนี่ย มันก็ใช่อะครับ แต่ผมว่ามันได้สังคมที่แคบนะเพราะ คุณก็ได้แต่เพื่อนในสาขาที่เรียน อย่างดีก็ได้เพื่อนต่างสาขาไม่กี่คน  แต่กิจกรรมรับน้องจุดประสงค์เค้าให้น้องที่ไม่ได้เรียนสาขาเดียวกัน ได้รู้จักกันด้วยนะครับ  จะว่ามันฉาบฉวยก็ใช่ แต่มันเป็นอะไรที่สร้างโอกาสให้รู้จักคนต่างสาขาได้ดีขึ้นและคุณก็จะไปทำความรู้จักกันต่อเอง ถ้าคุณต้องการ  แต่ลองคิดดูว่าถ้าไม่มีกิจกรรม คุณคิดว่าคุณจะเดินเข้าไปทำความรู้จักกับคนที่ไม่ได้เรียนด้วยกันจริงๆ ซักแค่ไหนกันเชียว ผมคิดว่ามีน้อยมากๆๆๆๆๆ โอกาสนั้น(นอกจากจะไปจีบสาวอ่ะนะ)   และผมก็เป็นคนนึงล่ะ  ที่ได้เพื่อนแท้ เป็นเพื่อนต่างสาขาซะมากกว่าเพื่อนที่เรียนด้วยกันอีก จากคุณ : delvin - [ 19 มิ.ย. 48 00:57:18 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อย่าตัดสินจากภายนอกเลย สงสารกิจกรรมดีๆ จากคุณ : มาเล่นวินนิ่งกัน - [ 19 มิ.ย. 48 01:16:11 ]

ความคิดเห็นที่ 31 #26 สถาบันผมสแตนด์เต็มช้ากว่าเกือบทุกปีแหละครับ จากคุณ : ชาเขียว - [ 19 มิ.ย. 48 02:04:53 ]

ความคิดเห็นที่ 32 จริงๆ แล้วผมมองที่ระบบส่วนกลางมากกว่าจะสนใจว่าสุดท้ายแล้วตัวเองจะประทับใจการรับน้อง (รวมเชียร์) หรือไม่ อย่างไร ... โดยส่วนตัว สมมุติว่าถ้าตัวเองสามารถเข้าเชียร์ได้ครบและผ่านพ้นมาได้ เชื่อว่าสุดท้ายก็อาจจะประทับใจและซาบซึ้งแบบบางคนก็ได้ครับ (ในเมื่อมันอุตส่าห์ผ่านความยากลำบากมาแล้วนี่เนอะ) แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้าประสบการณ์ที่เราได้รับมันดี แล้วคนอื่นเขาจะต้องดีด้วยเหมือนเรา เขาอาจจะขากถุยใส่รุ่นก็สิทธิของเขา แล้วก็ไม่ใช่เหตุผลที่ผมจะมาสรุปเหมารวมว่า เชียร์มันดี มันจึงต้องมี เพราะผมพอใจกับมัน ดังนั้นพวกคุณต้องจงรักภักดีและประทับใจเหมือนที่ผมเคยได้รับการปลูกฝังเป็นประเพณีมา ... กิจกรรมเชียร์ขอบอกว่าไม่ใช่สำหรับคนทุกประเภท แต่ถูกจริตสำหรับคนที่มีแนวคิดและพื้นฐานบางประเภทเท่านั้นครับ เมื่อมองภาพรวมแล้วก็ไม่เห็นสาระที่จะต้องนำเรื่องว่า "ใครเคยเจอเรื่องดีหรือเลวร้าย" อย่างไรมากำหนด ตัดสินผิดถูกสำหรับกรณีนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างก็เต็มไปด้วยอคติล้วนๆ ขอให้รุ่นพี่วางมาตรฐานในใจเรื่องเสรีภาพในการเข้ากิจกรรมให้ได้ก่อนเถอะครับ สุดท้ายก็จะไม่มีความจำเป็นต้องยกเลิกอะไรเลย ยกเว้นที่อนาจารหรือหยาบคาย จากคุณ : Gow27 - [ 19 มิ.ย. 48 02:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ผมหน่ายที่จะพูดแล้วครับ บอกสั้นๆ คือ จะถูกจะดี มันก็ถูกมันก็ดีสำหรับแต่ละคน จากคุณ : ประมุขพรรคมาร - [ 19 มิ.ย. 48 03:13:39 ]

ความคิดเห็นที่ 34 อคติกันล้วนๆแบบนี้ก็คงต้องตีกันให้แหลกไปข้างนึง เบื่อเหตุผลเกี่ยวกับเรื่องนี้เต็มทนเพราะมันจะมาพร้อมกับอคติ+อารมณ์ซะเป็นส่วนใหญ่ คห.26 ซ้อมเชียร์กับประชุมเชียร์มันคนละอันกันแล้วมั้งครับ ผมก็พยายามทำความเข้าใจว่าคุณอยู่สถาบันไหนแน่งงจริงๆ เพราะสถาบันผมประชุมเชียร์ที่คณะแต่ไม่มีซ้อมเชียร์งานบอลนี่หว่า(คนที่ซ้อมคือ Staff)ไปถึงก็มีบอกหมดว่าทำอะไรยังไงก็เล่นกันสดๆเลย แต่ผมร้องเพลงของอีกสถาบันไม่ค่อยได้นะ หุหุ(ของตัวองยังร้องได้ไม่หมดเลยง่ะ) จากคุณ : jouice - [ 19 มิ.ย. 48 03:58:40 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ซ้อมร้องเพลงค่ะคุณพี่ เพลงมหาลัยเราน่ะต้องหัดร้องกันเองงงงงงง ซ้อมเชียร์ไม่มมี ไปเล่นสดๆเหมือนกัน ปล. เราก็ร้องเพลงอีกสถาบันได้แค่2-3เพลงเองแหละ(มีคนจำได้ของทั้ง2ที่ด้วยหรอ) จากคุณ : umae - [ 19 มิ.ย. 48 04:41:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนเราถูกรับน้องเมื่อ 2 ปีที่แล้ว   มีเข้าห้องเชียร์   มีว้ากเกอร์พูดเสียงน่ากลัว  มีให้เต้นท่าตลกๆ   มีการวิ่งประเพณี   ซึ่งไม่ได้มีการกระทำเกินเลย   สนุกซะอีก ไอ้สั่งวิดพื้น  หมอบ คลาน  ไม่มีอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันทุกอย่างถูกคนมีอำนาจสั่งให้ยุติทั้งหมด จากคุณ : vacuum_car - [ 19 มิ.ย. 48 09:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 37 จะตั้งกระทู้ด่าใคร ควรใจกว้างพอเวลาโดนสวนกลับ ไม่เหมือนบ้างคน พอโดนเค้าตอบโต้หน่อยก็ดิ้นเป็นหมาถูกน้ำร้อนลวก ถ้าอย่างนั้นผมว่า แจ้งลบกระทู้ขยะของพวกคุณออกไปเลยดีกว่า อยู่ไปก็รกบอร์ด จากคุณ : ... - [ 19 มิ.ย. 48 10:42:01 A:10.87.100.6 X:202.12.97.120 TicketID:075819 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตอนปี43, 44, 45 เหมือนอีกฝั่งเต็มเร็วกว่านะคุณ umae แต่โดยมากมักเต็มช้ากว่าประจำ -  -' อ้อ เราร้องของฝั่งมธ.ได้เพลงพระราชนิพนธ์กับเพลงอะไรสักเพลงเนี่ย จำชื่อไม่ได้ เดินธรรมศาสตร์ปะ ที่ร้องว่า เดินรีบเดินไป ไปชิงโชคชัยของเราเบื้องหน้า เร็วไวอย่าช้า ชัยข้างหน้ากำลังรอ... พี่เค้าจะสอนร้องสำหรับตอนแข่งคณะระหว่าง TU-CU หงะ อธิบายห้องเชียร์หน่อยละกัน ห้องเชียร์ กับการว๊ากนี่คนละเรื่องกันนะครับ เพราะผมไม่เคยผ่านการว๊ากมา ห้องเชียร์จะสอนเพลงสถาบัน เพลงคณะ ประวัติ คำขวัญ มีแนะน้องเกี่ยวกับการเรียน พูดถึงวิธีเรียนวิชานู้นนี้บ้าง แรกๆที่เข้าไปน้องๆจะรู้สึกเครียดครับ เพราะว่าพี่ๆเค้าจะไม่ยิ้ม ((แต่ว่าก็ไม่ตะโกนแหกปากใส่นะครับ)) ที่เครียดนี่คงเพราะอารมณ์มันต่างจากการสันทนาการมากๆ น้องเลยยังรับไม่ได้ และห้องเชียร์ก็จะมีระเบียบเชียร์อยู่ เช่น ห้ามมาสาย ห้ามเปิดมือถือ ซึ่งระเบียบนี้ก็เหมือนเป็นมารยาทในการเข้าประชุมโดยทั่วไปอยู่แล้ว หลังๆพี่จะเฮฮาบ้าแตกกันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพี่พวกนั้นมันก็บ้าๆบอๆกันปกติ แต่เหตุผลที่ตอนแรกไม่ยิ้มกันเพราะว่าถ้าเล่นกับน้องแต่แรก จะไม่สามารถทำให้น้องมีสมาธิได้ เพราะคนหลายร้อย ถ้าเอาแต่ฮา เอาแต่เล่นมุก มันจะไม่ได้การ อธิบายแค่คราวๆได้ประมาณนี้แหละครับ ปล.ห้องเชียร์ของแต่ละคณะ รูปแบบก็ต่างกันนะครับ ++++++++++++++++++++++++ หากมีวาสนา สุดขอบฟ้าก็พานพบ หากไร้วาสนา แม้ไขว่คว้าก็คลาคลาด แก้ไขเมื่อ 19 มิ.ย. 48 12:00:34 จากคุณ : Devil Cupid - [ 19 มิ.ย. 48 11:56:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 การแก้ปัญหาด้วยการยกเลิกการรับน้อง "เป็นวิธีที่ดีที่สุด"...ประโยคนี้เท็จจริงแค่ไหน  เราไม่รู้  รู้แต่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด  โชว์ความสามารถและสไตล์ของผู้ตัดสินได้ชัดที่สุด จากคุณ : manka - [ 19 มิ.ย. 48 14:49:49 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ถึงคุณRiddick คุณต่างหากที่ต้องอ่านความเห็นผมให้หมด เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว แล้วจะขึ้นมรึงขึ้นกรูที่นี่ดูจะไม่เหมาะนะครับ จากคุณ : เฮียแจ็ค - [ 19 มิ.ย. 48 15:29:11 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ครับผม ถูกต้องน่ะร้าบ จากคุณ : Riddick - [ 19 มิ.ย. 48 17:48:31 ]

ความคิดเห็นที่ 42 เฮ้อ...เบื่อเรื่องนี้เหลือเกิน ข้อความนี้ขอเอาตัวเองเป็นที่ตั้งนะคะ ว่าเพื่อนที่เราได้จากวันรับน้องทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทของเราอยู่ บางคนสนิทกว่าเพื่อนที่คณะซะด้วยซ้ำ คุณปฏิเสธไม่ได้นะคะว่าการรู้จักกันแบบฉาบฉวยในการรับน้องนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนหลายๆคนรู้จักกัน สรุปว่า...ที่ไหนจะรับยังไงเราไม่รู้หรอก แต่รู้แต่ว่าที่ๆเราผ่านมาเค้ารับเราอย่างดี และเราก็มีความสุขมากที่เราได้ผ่านกิจกรรมรับน้องมา เพราะฉะนั้นอย่าเอาที่ใดที่หนึ่งมาตัดสินองค์รวมเลยค่ะ สิ่งดีๆ..มันจะจางหายไปโดยที่ไม่ควรเลย จากคุณ : มิโดริจัง - [ 19 มิ.ย. 48 19:29:44 ]

ความคิดเห็นที่ 43 #38 คุณ Devil Cupid เราจบนานแล้ววว ม่ายช่ายรุ่นปี 43, 44, 45 (รู้สึกแก่จัง- -") แต่ช่วง 3-4 ปีก่อนเพื่อนก็เคยบอกนะ ว่าฝั่งมธ.เต็มช้า เกือบไม่เต็ม เพลงพระราชนิพนธ์ก็ ยูงทอง อีกเพลงก็ เดิน มธ. จริงๆเพลงหลังน่าจะชื่อ เดิน มธก. นะ ในเพลงก็ร้อง มธก.ๆๆ งงวุ๊ย ปีนั้นเพื่อนเราเข้านิเทศ มันเครียดมากอ่ะ ก็โทรมาระบายบ่อยๆ ต้องอยู่ดึกๆถึง 4 ทุ่มเกือบทุกคืน ต้องท่องชื่อเล่น ชื่อจริง-นามสกุล เพื่อนๆทั้งคณะ รุ่นพี่จะสุ่มให้น้องใหม่บอกชื่อของคนที่พี่เค้าชี้ไป ถ้าตอบไม่ได้ เพื่อนๆโดนลงโทษ แล้วเรากะเพื่อนอ่ะ มาจากโรงเรียนหญิงล้วน มีระเบียบวินัยมาตลอด ครูบอกให้ทำอะไรคือต้องทำ เลิกเรียนต้องรีบกลับบ้าน ใครเถลไถลโดนหักคะแนน ถ้าไปเดินจูงมือกับแฟนนี่โดนไล่ออกนะ เกิดมาไม่เคยคุยเล่นกับผู้ชาย   แล้วคิดดู๊ มีผู้ชายทำหน้าเครียดๆมายืนตะโกนๆสั่งโน่นสั่งนี่ ไมเกรนจะกินเอา พี่เค้าสั่งให้ท่อง มันก็ท่องจริงๆนะ 300 กว่าชื่อมั๊ง ท่องไปร้องไห้ไป นั่นอ่ะ ที่เราว่าเกินเหตุ จากคุณ : umae - [ 19 มิ.ย. 48 21:55:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ถ้าประเทศไทยยกเลิกรับน้องเพราะมีความเครียด มีคนตาย ก็ช่วยยกเลิกการขายบุหรี่ ของมึนเมา ไปพร้อมๆกันเลยละกัน  ถึงพูดแล้วจะไม่ค่อยเกี่ยวกับรับน้องก็เหอะ แต่เราว่ามันทำให้คนตายและคนเครียดเยอะกว่าอีกนะ จากคุณ : pankee - [ 20 มิ.ย. 48 00:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 45 บุหรี่ เหล้าเลือกสูบเอง ไม่ได้ถูกบังคับ และไม่ได้ถูกตัดรุ่นกับร้านปากซอย หรือ big c ,lotus อีกอย่าง ไม่ต้องอ่านหนังสือสอบเข้า ยากลำบากเพื่อไปบังคับกลาย ๆ ให้ซื้อบุหรี่ด้วย เถียงไปได้ ไม่มีเจ้าของร้านบอกว่า ลูกจ้างมไม่ได้ขายบุหรี่นะ ไม่มี EQ คนที่เขาสูบแล้วไม่เป้นมะเร็งก็มเียอะแยะ ไม่มีูลูกค้า้ร้านขายบุหรมาบอกว่าี่นักข่าวนำเสนอแต่ด้านเสียของบุหรี่ นำเสนอด้านดี ๆ บ้างสิ หวังแต่จะขายข่าว จากคุณ : ข้อแตกต่าง - [ 20 มิ.ย. 48 02:00:04 A:221.128.106.104 X: TicketID:078104 ]

ความคิดเห็นที่ 46 แล้วคนที่เครียด ถูกกดดันจากที่ทำงานแล้วฆ่าตัวตาย จากคุณ : ฉั่วเป่งใช้ - [ 20 มิ.ย. 48 05:43:47 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ขอคำนับเจ้าของกระทู้สัก3จอก ได้ใจจิงๆ จากคุณ : Mr Lonely Lover - [ 15 ก.ค. 48 20:46:31 ]