ความคิดเห็นที่ 1
บทหนังเล่มนึง มันอาจไม่มีค่าอะไรเลยสำหรับบางคน แต่สำหรับผมมันมีความหมายทางจิตใจ เพราะความฝันทุกอย่างรวมอยู่ในนั้น หลังเหตุการณ์ผมยังพยายามขอคำตอบไม่อยากให้คาใจ ไร้ผล... ฝากเบอร์ไว้ ถ้าพี่เขาว่างจะโทรกลับ เหมือนเดิม...เหมือนทุกครั้ง
ผมรู้สึกเหมือนอกหัก ซึมอยู่เป็นอาทิตย์ ภรรยาได้แต่พูดปลอบใจให้ขำๆ ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่ ฉันจะเอาเงินให้เธอทำหนังนะ ผมท้อแท้บอกไม่ถูก ความพยายามทุกๆครั้งล้วนล้มเหลว ผมถามตัวเอง ที่เราพยายามทำแน่ใจหรือเปล่าว่ามันถูก หรือเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ เพ้อเจ้ออยู่ นั่งคิดทบทวน ผมยังเชื่อมั่น ว่าความสามารถผมมีพอ ขาดแต่โอกาสเท่านั้น
ถ้าถามตัวเองทำไมผมถึงอยากทำหนังมากขนาดนี้น่ะเหรอ ก็คงเพราะหนังมีอิทธิพลต่อชีวิตผมค่อนข้างมาก ตั้งแต่เด็กอยู่ต่างจังหวัด ทีวีมีแค่ช่องท้องถิ่นช่องเดียว ความบันเทิงที่ผมเฝ้ารอคอยคือการได้ไปดูหนังกับครอบครัว
โตมาหน่อยความฝันของผมคือการเป็นนักวาดการ์ตูน จุก เบี้ยวสกุล ,สกนธ์ แพทยกุล, เตรียม ชาชุมพร คือตัวแทนความฝัน วันหนึ่ง ผมได้อ่านตำราเขียนการ์ตูน พูดถึงการเล่าเรื่องและการจัดวางภาพ ว่าช่องในการ์ตูนแต่ละช่อง หรือการเปิดฉาก ปิดฉาก ล้วนมีอิทธิพลมาจากหนัง มุมมองผมที่มีต่อหนังจึงเปลี่ยนไป จากดูหนังเพื่อความบันเทิงมาเป็นการดูเพื่อศึกษามากขึ้น
ต่อมาผมยิ่งพบว่าหนังเป็นที่รวมของทุกความฝันที่เคยอยากเป็น นักเขียนนิยาย,นักวาดการ์ตูน,ช่างภาพ,นักออกแบบ,นักดนตรี ทุกอย่างที่ผมชอบรวมกันอยู่ในคำว่าภาพยนตร์ แล้วมีเหตุผลอะไรผมถึงจะไม่อยากเป็นคนทำหนัง
จากคุณ :
ลิงหน้าพระกาฬ
- [
22 มิ.ย. 48 00:43:03
]
|
|
|