| กระทู้นอกเรื่อง (5 คน) |
| คลับเฉลิมไทย (2 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 7 คน |
ความคืบหน้า
.โดนเเล้ว!!!หนีเสือปะจรเข้ ซวยจริงๆ ซื้อหนังมาสเตอร์มาดูแล้วถูกลิขสิทธิ์ค่ายอาร์เอสจับ!!!
ผมได้เดินทางไปเปิดท้ายขายของลุยต่างจังหวัด ตระเวนไปเรื่อย จนไปถึงจังหวัดที่เกิดเหตุ วันนั้นก็ตั้งแผงตามปกติ ขายอุปกรณ์และคอมมือสองเหมือนเดิม แต่ไปอยู่ใกล้กับร้านที่เขาขายหนังที่ไม่ใช่แผงเร่แบบผม (ชื่อร้าน พี.เอส.มูฟวี่ แอนด์ มิวสิค) เห็นเขาเปิดหนังซาไกยูไนเต็ดเป็นหนังใหม่มาสเตอร์เห็นแล้วก็ซื้อ กะว่าจะกลับไปเปิดโฮมเธียเตอร์ดูที่บ้านซะหน่อย ทีนี้บ้านผมอยู่กรุงเทพๆกลัวแผ่นจะมีปัญหาก็เลยเอามาลองซะ เผื่อเสียจะได้เปลี่ยนเลยเพราะบ้านอยู่ไกลจะได้ไม่เสียเวลา ผมก็เลยเอาแผ่นมาลองที่ร้านเปิดลองดูผ่านคอม
ไม่ถึง5นาทีเลย ลูกค้าสองสามคนเข้ามา แกล้งมาไล่เปิดเครื่องคอมทีละเครื่อง ทำทีเป็นสนใจคอม แล้วก็แสดงตัวบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากอาร์เอส ผมได้ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเอาหนังมาเปิด ผมก็บอกว่าเพิ่งซื้อหนังมาบ้านอยู่ไกลก็ต้องลองแผ่นซิ ถ้าเสียจะได้เปลี่ยนได้ และก็เป็นหนังมาสเตอร์ถูกต้องด้วย หนังก็ของบริษัทคุณเอามาขายไม่ใช่เหรอ ผมก็ซื้อถูกต้องแล้วไง แล้วผมเอามาลองจะผิดได้ไง ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ฟังบอกให้ผมไปคุยที่โรงพัก ตำรวจก็รู้สึกเข้าข้างพวกนี้เสียเหลือเกิน ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ก็โวยวายว่ามันผิดยังไงหนังก็ถูกต้องของแท้
ทำให้ผมรู้สึกว่าโดนรังแก แต่ก็ไม่เป็นผล กฎหมายคุ้มครองนายทุน ผมถูกยึดของไปโรงพัก ถูกแจ้งข้อหา เผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ ผมไม่ได้มีส่วนได้กับหนังเรื่องนี้เลย แถมเสียตังไปซื้อมาดูไม่มีเจตนาจะไปเผยแพร่ แต่ไม่มีใครฟัง แถมยังให้ผมยอมรับผิดอีก และเสนอว่าถ้ายอมจ่าย 20,000บาท ก็จบแค่โรงพัก
ผมนี่อึ้ง ทำอะไรไม่ถูกเลย เราหาเงินมาแทบตาย แต่ทำไมมันหาง่ายนัก เจอแบบนี้แล้วผมจะไปทำอะไรกินเนี่ย !!ทำไมมันซวยยังงี้... ยอมอดดีกว่า.....ให้พวกขวากหนามสังคมคอยทิ่มแทง ผมไม่มีกำลังใจจะไปทำมาหากินอีก ผมไม่จ่าย ขึ้นศาลก็ยอม เลือกจับวันหยุดจะให้ผมนอนในคุก ถ้าไม่มีเงินมาประกันตัว ผมรวบรวมเงินทั้งหมดที่เป็นทุนขายของโชคดีที่ยังพอเหลืออยู่บ้าง จึงทำเรื่องประกันตัวออกไป แต่ตำรวจบอกว่าแป้นพิมพ์ลายนิ้วมือไม่อยู่ อีกสามวันค่อยกลับมาทำเรื่องพิมพ์ลายนิ้วมือใหม่ ผมงงแต่ก็ไม่พูดอะไร เหลือเงินกลับบ้านแค่สามร้อยบาท มันหมายถึงผมจะต้องเป็นหนี้เพิ่มอีก
พอมาถึงกรุงเทพๆผมก็เตรียมเรื่องเข้าไปปรึกษากับฝ่ายกฎหมายของบริษัทอาร์เอส แต่ไม่เป็นผล พวกที่ไปจับคือพวกฟรีแรนท์ ซื้อสิทธิ์ไปหากิน ง่ายดี รู้เหตุผลอย่างงี้แล้วหนีไม่ออกจริงๆ ยังแนะนำให้ผมยอมรับความผิดข้อกล่าวหาซะ ถึงสู้ก็เสียเงินเปล่าและเสียมากว่านี้ด้วย แต่ถ้าจะให้ช่วยก็ต้องจ่าย25,000บาท จะออกหนังสือให้ ซึ่งก็ให้ผมรับผิดอยู่ดี ตอนนี้ผมไม่รู้จะทำยังไง ถ้าสู้ผมก็ต้องจ้างทนายอีก ผลออกมายังไงไม่รู้แต่ที่แแน่ๆ งานนี้หมดจริงๆ....ไม่รู้จะต้องนับหนึ่งใหม่อีกสักกี่ครั้ง
เรื่องที่จะไปร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ เขามีขั้นตอนระบบมันช้าเกินไปไม่ทันพวกนายทุนหรอก เรื่องแรกผมเคยแจ้งรายการดังๆแต่ก็ถูกปฎิเสธ ผมจึงขออนุญาติผ่านสื่อทาง internet หากใครมีความรู้ความสามารถ พอแนะนำหรือช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์บ้างจักขอบพระคุณอย่างยิ่ง**********
*** คนเราถึงแม้จะเลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็เลือกที่จะเดินได้ ตามประสบการณ์ผมพยายามระวังและเลี่ยงทุกอย่างแล้ว ก็ยังเกิดขึ้นได้อีก อาชีพที่พวกคุณกำลังทำอยู่นี้ มุมหนึ่งอาจทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น แต่อีกมุมหนึ่งคุณต้องทำลายชีวิตและอนาคตของพวกเขาเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด โดยไม่คำนึงถึงคนอื่นที่อยู่ด้วยกันในสังคม คุณเลือกที่จะเดินบนความทุกข์ของคนอื่น หยุดซะเถอะครับ ถ้าหัวใจยังเป็นมนุษย์อยู่ อย่าทำลายพวกเดียวกันอีกเลย ***
รายงานความคืบหน้าครั้งล่าสุด จากวันที่ 5 มีนาคม 2548 มาจนถึงวันนี้ 16 มิถุนายน 2548 ทางตำรวจเจ้าของคดีโทรมาบอกผมว่า จะสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากดองเรื่องผมไว้ 3 เดือน กับอีก 11 วัน (คงจำกันได้นะครับ ) ผมต้องเดินทางไปหัวหินอีกครั้ง แต่ไม่ใช่สอบปากคำดังที่แจ้งไว้ กลับเป็นแจ้งข้อหาเพิ่มหาว่ามีลิขสิทธ์เพลง mp3 อยู่ในเครื่องเล่นด้วย พร้อมแสดงรูปถ่ายmp3ที่มีรายชื่อเพลง มาให้ดู ผมก็งง....แล้วก็บอกว่าผมไม่เคยมีเพลงหรือ mp3 มาเปิดหรือเก็บไว้ในเครื่องเลย แล้วรูปถ่ายที่ถ่ายมาให้ดู ก็คนละรูปกับของกลางที่ยึดไว้แต่ตาแรก แล้วถ้าผมมีจริงทำไมไม่ยึดเครื่องที่มีเพลง mp3 ไว้แต่ตาแรก มันจะไม่ง่ายกว่าจับเครื่องที่มีแผ่นหนังมาสเตอร์กว่าหรือ แล้วทำไมปล่อยให้เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ถึงมาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ความยุตติธรรมอยู่ที่ไหนครับ ผมส่งหนังสือร้องเรียนมาตั้งแต่แรกแล้ว จนข้อหาผมเพิ่มขึ้นมาอีก ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือผมเลย ทุกวันนี้ผมทรมารใจจริงๆ เวลาผมเหลือน้อยเต็มที ถ้าผมต้องติดคุกก็ถือเสียว่ายุคคนชั่วครองเมืองก็แล้วกัน
ผมต้องขอขอบคุณล่วงหน้านะครับ ว่าสังคมดีๆอยู่ในสมาชิกชาวพันทิพย์เยอะ ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น อย่างน้อยผมก็ได้สัมผัสความรู้สึกดีๆและปากเสียงในสังคมผ่านทางเวบนี้ มีประโยชน์จริงๆครับ
ขอชมอย่างจริงใจ
ผมคงจะมาเล่าอีกทีก็ตอนออกจากคุกนะครับ ถ้าสังคมยังทอดทิ้งแบบนี้ บทเรียนบางอย่างถ้าไม่ใช่เงินแล้ว ความดีซื้อไม่ได้หรอกครับ!!!!!!!
( ซื่อไม่ทันกินก็หมด คตกินได้อีกนาน ) คำขวัญปี 2548
ป. T.05-1777645
จากคุณ :
น้ำพริกปลาทู
- [
1 ก.ค. 48 09:43:23
]