ความคิดเห็นที่ 1 ดูจากรูปข้างบนแล้วจะเห็นได้ว่าเป็นโครงการมหึมาพอสมควรเลยทีเดียว ตัวขบวนรถไฟจะมีความยาว 75 เมตรประกอบไปด้วย 5 ตู้และประตูทางเข้าออกสองทาง เหมือนรถไฟฟ้าบ้านเรา แต่ที่แตกต่างคือ รถไฟฟ้าที่ดูไบจะบังคับด้วยระบบคอมพิวเตอร์และไม่มีคนขับ (driverless) และในชั่วโมงเร่งด่วนรถไฟจะมาห่างกันขบวนละ 1 นาทีครึ่ง รถไฟฟ้าจะวิ่งไปตามรางรถไฟโดยใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อน และไม่ต้องใช้น้ำมันเลย จึงไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ขบวนรถจะนำเข้าจากโคเปนเฮเกนประเทศเดนมาร์ค และรูปแบบสถานีจะอิงจากประเทศฝรั่งเศส จากคุณ : ++peter++ - [ 4 ก.ค. 48 19:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สายรถไฟจะแบ่งเป็น 2 เส้นทาง คือ 1. สายสีแดงจะเริ่มจากถนน salahuddin ไปยังมหาวิทยาลัยอเมริกาแห่งดูไบ ผ่านถนน Burjuman และถนน Sheikh Zayed แวะที่ท่าเรือ Jebel Ali Port ผ่านจุดเชื่อมต่อสถานีที่ถนน Al Nahda และ Damascus ไปสุดที่แยก Al Qiyadah 2. สายสีเขียว จะเน้นความแออัดในเมือง วิ่งจากจตุรัส Al Ittihad Square ไปยังสถานีขนส่ง Rashidiya bus station ผ่าน Deira City Centre ไปจนถึงสนามบินอาคาร 1 และ 3 สุดท้ายวิ่งเข้าใจกลางเมืองในย่านธุรกิจและสุดที่แหล่งชอปปิ้ง เส้นทางทั้งสองสายรวมแล้วมีความยาวทั้งสิ้น 70 กิโลเมตร มี 35 สถานี ผ่านอุโมงค์ต่างๆ รวมแล้ว 18 กิโลเมตร นอกจากนั้นยังมีสถานีขนส่งคนจากอีก 2 จุดใหญ่ๆ มาขึ้นรถไฟฟ้าอีกด้วย จากคุณ : ++peter++ - [ 4 ก.ค. 48 19:14:46 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่เก๋กู้ดมากไปกว่านั้นคือ ราคาค่าโดยสารในการขึ้นรถไฟฟ้าจะมีราคาที่ย่อมเยาว์สามารถขึ้นได้ทุกคน โดยสามารถใช้ร่วมกับบัตร สมาร์ท การ์ด ที่มีอยู่แต่เดิมได้ บัตรสมาร์ท การ์ดนี้ ใช้กับระบบขนส่งมวลชนทุกประเภทในดูไบ (หรือในประเทศด้วยก็ไม่รู้) เช่น รถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้า บริการจอดรถ แท็กซี่ และอื่นๆ และเค้ายังมีการพูดถึงภาพลักษณ์ในแง่ดีต่อสายตาชาวโลก ช่วยเพิ่มผลบวกต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และรักษาธรรมชาติ จากคุณ : ++peter++ - [ 4 ก.ค. 48 19:19:03 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ในด้านของการก่อสร้างและดำเนินการต่างๆ การก่อสร้างจะเริ่มขึ้นในอีปสองถึงสามปีและคาดว่าจะพร้อมให้บริการไม่เกินปี 2009 และใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่เกิน 3 ปีให้หลัง จุดประสงค์ของการศึกษาโครงการเพิ่มเติมคือ ลดปริมาณการจราจรบนท้องถนนและลดปัญหามลภาวะเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นในตัวเมืองและเส้นทางการเดินทางที่สำคัญ เมื่อโครงการเสร็จสิ้น รถไฟฟ้าจะสามารถขนส่งผู้โดยสารได้มากกว่า 1.2 ล้านคนต่อวัน และ 355 ล้านคนต่อปี จากคุณ : ++peter++ - [ 4 ก.ค. 48 19:22:13 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 14.3 พันล้านดอลล่าร์ดีแรห์ม (ประมาณ 1 หมื่น 6 พันล้านบาท) จากคุณ : ++peter++ - [ 4 ก.ค. 48 19:27:16 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับวันนี้คงหมดแล้ว ถ้าขยันๆ จะหาอย่างอื่นมาฝากกันอีกแน่นอนครับ จบละนะ ขอโทษครับลืมแปะลิงค์ข้อมูลอ้างอิง http://vgn.dm.gov.ae/DMEGOV/dm-metro-system แก้ไขเมื่อ 04 ก.ค. 48 20:09:55 จากคุณ : ++peter++ - [ 4 ก.ค. 48 19:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 รูปทรงรถไฟของเค๊าดูล้ำสมัยกิ๊ฟเก๋สุดๆ เน๊อะ  ..... _____________________________________________ จากคุณ : กำปงพิราเทวี - [ 4 ก.ค. 48 19:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวยงามไฮเทคจัง สงสัยนิดนึงว่าถ้าไม่มีคนขับนี่ แล้วเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินกลางทาง คนที่ศูนย์ควบคุมเค้าจะจัดการทันเหรอเน๊อะ จากคุณ : หมาน้อยผีสิงกระทู้ - [ 4 ก.ค. 48 20:37:41 A:61.91.109.236 X: TicketID:053838 ]

ความคิดเห็นที่ 9 สักห้าหกปีก่อน ยังมีคนมาโวยวายว่าบีทีเอสของเราต้องลงใต้ดินเพื่อความสวยงามกันอยู่เลย แถมยังบอกอีกว่า รถลอยฟ้าไม่มีชาติไหนสร้างแล้ว เอาเข้าไป. แต่เมืองร่ำรวยระดับดูไบ ยังคงใช้รถลอยฟ้าอยู่ ของลาสเวกัสที่เพิ่งสร้างเสร็จก็เช่นกัน. ข้อสังเกตอย่างนึงว่าค่าก่อสร้างถูกมาก ๆ ทั้ง ๆ ที่ยาวตั้งเจ็ดสิบกว่ากิโล น่าจะเป็นเพราะเป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดเล็ก (ดูจากภายในตู้โดยสารเล็กว่าของเรามาก ๆ เลย) จากคุณ : LittleTiger - [ 4 ก.ค. 48 20:47:59 ]

ความคิดเห็นที่ 10 งืม...ใต้ดินขุดๆๆๆๆได้ดินตั้งเยอะแยะเอาไปขายได้อีกนินา.....เคยได้ยินมาว่าพวกบริษัทที่ประมูลโครงการตัดถนนผ่านภูเขา ดินที่ขุดๆๆมาเพื่อเกลี่ยให้ถนนมีระดับเดียวกันสามารถนำไปขายได้อีก....กรณีนี้ก็คงเหมือนกัน... และก็อาจจะมีพวกค่าโง่อะไรต่างๆตามประสาบ้านเราอีกนั่นล่ะ ก็คาดเดาไปอ่ะนะคะ........ใครรู้จริงช่วยมาแถลงไขหน่อยซิคะ...... จากคุณ : Goya_aTaan - [ 4 ก.ค. 48 21:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^^* จากคุณ : รักของฉันไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว - [ 4 ก.ค. 48 21:32:03 ]

ความคิดเห็นที่ 12 อูวววววว ลัลล้า~* จากคุณ : * ค น พ เ น จ ร * - [ 4 ก.ค. 48 21:41:35 ]

ความคิดเห็นที่ 13 สวยดีอ่ะ น่าขึ้นไปนั่ง ^_^ จากคุณ : ModUp2You - [ 4 ก.ค. 48 22:04:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 สวยดีครับ จากคุณ : maezono_no7 - [ 5 ก.ค. 48 00:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ในรถดูแคบๆอ่ะ จากคุณ : มือกลองในตำนาน - [ 5 ก.ค. 48 09:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น่าไปนั่งจริงๆเลยง่า พี่ปีเตอร์ไปนั่งด้วยกันดีป่ะ หุหุ ล้อเล่นจ้า จากคุณ : มิสส้มนิล - [ 5 ก.ค. 48 13:15:23 A:192.9.200.11 X:202.142.216.7 TicketID:097473 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เจ๋งมากครับ จากคุณ : หนึ่งกระบี่ แปรสามแจ้ง - [ 5 ก.ค. 48 18:21:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ใช้ค่าใช้จ่ายประมาณ 14.3 พันล้านดอลล่าร์ดีแรห์ม (ประมาณ 1 หมื่น 6 พันล้านบาท) * * * * ถูกกว่าบ้านเราเยอะเลยแฮะๆ จากคุณ : โอ๊ต-ครับ-ผม - [ 6 ก.ค. 48 01:59:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ที่เขาต่อต้านกันเมื่อ 10 ปีที่แล้วว่าน่าจะทำใต้ดินน่ะ.. เพราะถนนในกรุงเทพฯมันไม่เหมือนที่ดูไบนี่คะ ลองเอารถไฟฟ้าสายนี้มาวางไว้ในกรุงเทพฯสิ ทัศนียภาพมันไม่ออกมาสวยอย่างนี้หรอก .. เพราะถนนบ้านเราเส้นมันเล็ก แคบ .. เอาเฉพาะแถวๆสีลมน่ะ แค่สถานีรถไฟฟ้ากับรางก็ครอบไปทั้งถนนแล้ว บริเวณด้านล่างมันกลายเป็นอุโมงค์ควันพิษ ที่เต็มไปด้วยความอับชื้น เหมือนถ้ำอะไรสักอย่างก็ไม่รู้... ไหนจะสายสุขุมวิทอีก ถ้าตึกแถวนั้นเกิดเพลิงไหม้ขึ้นมา รถกระเช้าจะทำงานได้หรือไม่ เพราะรถไฟฟ้ามันบังไว้ทั้งสาย จากคุณ : ปุ๋ย พันธุ์ทิพย์ - [ 6 ก.ค. 48 04:06:14 A:210.246.72.160 X: TicketID:073105 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เรื่องระบบขนส่งมวลชน นอกจากสวยงามแล้วบางทีต้องดูเรื่องความเหมาะสมของกระเป๋าเงินด้วยนะครับ. เมืองไทยก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก ใช้รถใต้ดินก็เหมือนซื้อรถเบนซ์มาขับน่ะแหละ ดีจริง สวยจริง แต่ถ้าซื้อโตโยต้าแล้วเอาเงินที่เหลือมาใช้อย่างอื่นดีกว่ามั้ย. เงินภาษีประชาชนล้วน ๆ แสนล้าน เราได้ทางรถไฟใต้ดินแค่ยี่สิบกิโลเมตรเอง แต่ BTS รัฐบาลและ กทม. ไม่ต้องจ่ายเงินของประชาชนสักบาทเดียว ก็แค่ทนเรื่องความไม่สวยงามนิดหน่อยเท่านั้น. พูดแล้วก็นึกถึงหนังเรื่อง Batman begin ที่พ่อของบรูซเวยน์ สร้างรถลอยฟ้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างระบบขนส่งมวลชนราคาถูกให้คนในเมืองได้ใช้กัน. จริง ๆ แล้วก็อยากได้อยู่หรอก รถใต้ดินน่ะ เพียงแต่เลือกจุดมุดดินที่เหมาะสม จุดไหนลอยฟ้าได้ก็ลอยซะ ดูถนนที่ดูไบแล้วนึกถึงถนนรัชดาภิเษก ถ้าทำลอยฟ้าอาจจะดูสวยเหมือนที่ดูไบก็ได้มั้ง. จากคุณ : LittleTiger - [ 6 ก.ค. 48 06:20:13 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เขาไม่ได้ต่อต้านรถไฟฟ้าทุกสายค่ะ เพียงแต่ถนนบางเส้นมันไม่ควรเป็นรถไฟฟ้าเท่านั้นเอง ตอนที่มีกระแสต่อต้าน เขาออกความเห็นว่าเส้นที่ทุกวันนี้เป็นรถไฟฟ้าน่ะ จริงๆมันควรจะเป็นรถใต้ดิน (ส่วนต่อมา เส้นที่เป็นรถใต้ดินน่ะ มันควรจะเป็นรถไฟฟ้า..) อย่างถนนรัชดาที่ทุกวันนี้เป็นรถใต้ดินไงคะ ถ้ามันออกมาเป็นรถไฟลอยฟ้า ก็คงจะสวยเหมือนกับที่ดูไบแหละ(มั้ง) แต่มันดันเป็นรถใต้ดิน ทั้งๆที่จริงๆแล้วรถใต้ดินมันน่าจะอยู่แถวๆสีลม, สุขุมวิทมากกว่า เพราะถนนแคบ (แต่แถบนั้นดันเป็นรถไฟฟ้า) แต่เหตุผลในเชิงวิศวกรรมโป๋ยไม่ทราบนะ จากคุณ : ปุ๋ย พันธุ์ทิพย์ - [ 6 ก.ค. 48 08:12:28 A:210.246.72.238 X: TicketID:073105 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันนะครับ สนุกมากๆ จากคุณ : ++peter++ - [ 6 ก.ค. 48 15:29:50 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ก็เห็นด้วยกับคุณปุ๋ยเหมือนกันนะครับว่า มันสลับกัน แต่เมืองไทยก็เงียะ เรื่องการเมืองมันทำให้การบริหารบ้านเมืองมันยักแย่ยักยัน. แต่บังเอิญช่วงที่ทำรถลอยฟ้า มันค่อนข้างวุ่นวาย รถไฟฟ้าสายลาวาลินที่วางแผนมาร่วมยี่สิบปีก็เพิ่งล้มลงไป ทาง กทม. โดย พลตรีจำลอง เลยคิดทำเองโดยไม่พึ่งเงินรัฐบาล ทำให้ไม่ได้เงินภาษีมาสนับสนุน (งบ กทม. เอง ไม่มีปัญญาแน่ ๆ) แต่ก็สามารถทำได้สำเร็จโดยที่ไม่ต้องจ่ายภาษีเลยสักบาท. ที่ผมเบื่อกับตอนนั้นก็คือ เขาวางแผนอะไรไปเรียบร้อยแล้ว ประกาศมาตั้งหลายปี แต่พอลงเสาเข็ม ก็กลุ่มโน้นกลุ่มนี้ นักการเมืองหลายคนออกมาต่อต้านทำให้รถลอยฟ้าเสียเวลาไปอีกกว่าสามปีแน่ะ. แต่ข้อมูลจากกระทู้นี้น่าสนใจครับ รถไฟฟ้าแบบเบา ใช้เงินแค่ หมื่นกว่าล้าน ได้ระยะทางตั้งเจ็ดสิบกว่ากิโล (รถไฟฟ้าของเราตอนนี้รวมกันแค่สี่สิบกิโล) น่าจะมีพิจารณาสร้างรถไฟฟ้าแบบนี้กับบ้านเราบ้างนะ. จากคุณ : LittleTiger - [ 6 ก.ค. 48 19:49:13 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คือว่า ก่อนที่จะมุดหรือลอยเนี่ย มันมีปัจจัยหลายอย่างฮับ ที่สำคัญ เขาดูเรื่องการวางผังเมือง ok ฮะ ที่ว่าจุดที่เป็น BTS ทุกวันนี้มันกลายเป็นจุดมลพิษไปแล้ว (ถึงมีความต้องการในการรณรงค์เรื่องจัดวันปิดถนนเพื่อคนเดินดิน) แต่ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า บริเวณนั้น มีตึกหรือสึ่งก่อสร้างที่ฐานรากหยั่งลึกมากๆ ระดับที่ลงไปถึงความลึกของรถไฟใต้ดินเลย ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะทำใต้ดินให้ แต่เมื่อวัดเรื่องการลงทุนขุดให้ลึกลงไปอึก (ซึ่งอาจจะไปเจอชั้นดินที่ไม่เหมาะสมในการทำอุโมงค์) มันอาจไม่ใช้เรื่องที่คุ้มหากเปลี่ยนมาทำลอยฟ้า แน่นอน มันก็มีข้อเสียเหมือนกันกับลอยฟ้าในเมือง แต่อย่างน้อยก็พอ save ค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ส่วนเรื่องมลพิษน่าจะเป็นผลมาจากที่เราไม่มีการวางผังเมืองที่ดีก่อนสร้างถนนหรือตึกย่านธุรกิจ สังเกตว่าอย่างเมืองที่น่าจะแออัดกว่าอย่างนิวยอร์ค เขายังมีขนาดถนนที่กว้างกว่าสุขุมวิทหรือสีลม ราชประสงค์ของเราด้วยซ้ำ (แต่ก็อีกนั่นแหละ เมืองนั้นเขาก็เลือกใต้ดินเหมือนกัน เพราะเขามีระบบระดมทุนและการลงทุนที่ดีกว่า) เรื่องการสร้างสาธารณูปโภคด้านคมนาคมขนส่งมันค่อนข้างซับซ้อน copy จากเมืองอื่นๆ มันใช้ไม่ได้ไปซะทุกอย่าง ยังไงเราก็มีหน้าที่ได้แต่ปรับตัวตามโลกไปเท่านั้นแหละ ....เฮ้อ! จากคุณ : _K_F_C_ - [ 7 ก.ค. 48 12:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อืมๆๆ จากคุณ : ++peter++ - [ 7 ก.ค. 48 16:14:22 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ดีจัง บ้านเมืองสวยงาม ไม่เหมือนเมืองไทย มี bts เฮงซวยอยู่กลางเมืองที่แออัดยัดเยียด เพราะจำลองแท้ ๆ โชคดีที่ผมไม่เลือกคนจำพวกนี้ จากคุณ : วี - [ 8 ก.ค. 48 03:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ได้ยินข่าวชาวบ้านต่อต้านรถไฟฟ้าลอยฟ้าแถวเตาปูนแล้วดีใจ ดีใจที่คนไทยเริ่มรู้จักคิด ไม่ถูกหลอก หรือแกล้งโง่ยอมให้ถูกหลอก เพราะมีตัวอย่างเลว ๆ จาก bts แล้วเลยทำให้คนเห็นอะไรแจ่มชัดมากขึ้น ไม่ดักดานกันต่อไป จากคุณ : วี - [ 8 ก.ค. 48 03:14:44 ]