ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีชาว Losties อีกครั้งหนึ่ง หลงเกาะกันมาครึ่งปีเห็นจะได้  แสดงความเห็น แลกเปลี่ยนทัศนะกันพอสมควรทางหน้าไมค์ หลายครั้งที่ผมเผลอเอาความหลอน ป่วนจิตมาพูดถึง จากการพูดคุยนอกรอบเลยได้มีโอกาสขยายความให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ บางท่านได้ฟัง บอกมาว่า ถ้าได้มีพื้นฐานมาก่อนบ้าง น่าจะทำให้เข้าใจและดูซีรี่ส์เรื่องดังกล่าวได้เข้าใจและสนุกกว่าเดิม ทุกอย่างที่จะได้อ่านต่อไป มาจากการได้รับรู้ เรียนรู้จากการเติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งศาสนา(คุณยาย) ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาจะชักนำใครให้คล้อยตาม แต่เพียงเห็นว่าเป็นอีกหนึ่งความหมายที่อยากให้ได้ทราบกันเผื่อว่ามันคือเจตนาหนึ่งของการสร้างเรื่องนี้ขึ้น ก็เป็นได้ เห็นว่าทาง AXN นำมาฉายซ้ำ สองตอนติด ทุกคืนวันจันทร์ เผื่อใครมีโอกาสดูจะได้นำเอาแง่คิดต่าง ๆ เหล่านี้ไปดูด้วย แต่หากทำให้การรับชมสนุกน้อยลง หรือ ขัดต่อความรู้สึก ความเชื่อของท่าน ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ปัจจุบันในทุกสังคม ผู้คนให้เกียรติกันในเรื่องอิสรภาพทางความคิดและความเชื่อ ทำให้การมาถกกันในประเด็นดังกล่าวดูซาลงไป จนกว่าจะมีเรื่องใหญ่ ๆ เกิดขึ้นมาทำให้ผู้คนตื่นตัวขึ้นมา และส่วนมากมักจะเป็นเรื่องร้ายในชีวิตที่จะมากระตุกให้มนุษย์หวนกลับมานึกถึงศาสนา ถ้าจะมองข้ามจุดที่ว่ารายการทีวีสามารถขายได้เกือบทั่วโลก แล้วยกเอาเฉพาะส่วนที่ว่าผู้สร้าง/ผู้ชมคือ อเมริกา (ประเทศที่มีช่องรายการเทศน์ 24 ชม.) เนื่อเรื่องแบบนี้มีแทรกอยู่แทบทุกเรื่อง และระยะหลังแนวทางของซีรี่ส์ที่มีเนื้อหาแบบนี้ลงโทรทัศน์ในอเมริกาที่เห็นได้ชัด คือ 7th Heaven เริ่มปี 1996 พูดถึง ศาสนากับชีวิตคนในครอบครัว Six Feet Under เริ่มปี 2001 เนื้อเรื่องเล่นกับ ความตาย ที่มีผลส่งกระทบมาถึง คนเป็น Carnivale เริ่มปี 2003 ถ่ายทอดออกมาในแง่การต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วที่แยกไม่ออกด้วยการตัดสินจากสายตา ทั้งสามเรื่องที่พอจะยกตัวอย่างมา ได้รับคำวิจารณ์ในทางบวกหมด แต่สองเรื่องหลังได้ปิดตัวลงไปแล้ว คงเพราะเนื้อหาเข้าถึงได้ยากกว่า (เหตุผลสำคัญที่ทำให้เป็นได้แค่หนังฉายลงเคเบิล) LOST ก็ได้รับคำชมและถูกกล่าวถึงมากเช่นกัน โดยสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้เป็นอย่างดี จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 3 การเล่าเรื่องของ LOST แบ่งแยกออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน คือ ส่วนที่อยู่บนเกาะ และ ส่วนของชีวิตก่อนหน้านั้น โดยทั้งสองส่วนมีการเชื่อมโยงกันอย่างแยบยล เนื้อเรื่องบนเกาะ นำมาเล่าเรียงลำดับ 1, 2, 3,... สิ่งหนึ่งนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง ในขณะที่ Flashback เล่าส่วนของชีวิตก่อนหน้า ไม่มีการเรียงลำดับ จะถูกเล่าออกมาเป็นห้วง ๆ อะไรเกิดก่อนเกิดหลัง ต้องปะติดปะต่อเอาเอง เปรียบเสมือนสถานะของการฝัน ซึ่งคือช่วงเวลาที่ร่างกาย (Body) ของเราพักผ่อนที่ดีที่สุดขณะที่คนเรายังมีชีวิต การอยู่บนเกาะ เปรียบเหมือนการให้ จิต (Mind) ได้คิดทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา ซึ่งจิตนี้เองคือ ส่วนประกอบของชีวิตที่ช่วยให้เราได้รู้จักแยกแยะ ผิดชอบชั่วดี การมาถึงเกาะมาจากอุบัติเหตุของการโดยสารโดยเครื่องบิน ในซีซั่นหนึ่ง เล่าถึงจุดจบของการเดินทางนั้นด้วยตอน pilot เครื่องบินตกในตอนเปิดตัวของรายการ และเล่าถึงการเริ่มต้นของการเดินทางนั้น ทุกคนกำลังเดินขึ้นเครื่องด้วยตอน finale ตอนจบของซีซั่นแรก เป็นความหมายนัยทั้งหมดของชีวิต คือ จุดจบขิองสิ่งหนึ่งก็คือการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ แล้วถ้าหากลองคาด big "IF" เป็นคำว่า ถ้า (ตัวใหญ่ๆ) 'ถ้าโศกนาฏกรรมเช่นนั้น เกิดความสูญเสีย (lost) ทั้งหมดล่ะ?' จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ความเชื่อแบบวิญญาณที่ค่อนข้างสากล เชื่อคล้าย ๆ กันว่า เมื่อกายสูญ หากยังไม่พร้อมที่จะไป วิญญาณ (Soul) ก็ยังคงวนเวียนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น 'ความพร้อม'ที่ว่านั้น นอกจากจะพูดถึง unfinished business แล้ว ตามความเชื่อแบบ orthodox ก็รวมหมายถึง การยอมรับ รับรู้ว่าตนเองตาย ชำระล้างตนเองให้ผุดผ่อง รอดพ้นจากบ่วงกรรมที่ตนเองก่อไว้ขณะมีชีวิตทั้งหมด เพื่อไปอยู่กับพระผู้สร้างในดินแดนสวรรค์ โดยทาง คาทอลิก มีคำให้ว่า วิญญาณเหล่านั้นจะยังรออยู่ในไฟชำระ จนกว่า Judgement Day จะมาถึง ตัวหนังได้ให้จุดเริ่มต้นของการเดินทางนี้ คือ ซิดนี่ย์, ออสเตรเลีย เป็นจุดรวมของตัวละครหลักเหล่านี้ ไม่ได้สื่อถึงว่า ประเทศนี้ คือศูนย์รวมความบาปหรืออะไร แต่คงเป็นเพียงเพราะ ดินแดนแห่งนี้ทางภูมิศาสตร์ให้ฉายาเป็น down under ซึ่งทางศาสนาก็ให้นรกภูมิ อยู่เบื้องล่าง [ ในตอนหนึ่ง ตัวละคร พ่อของแจ๊ค ซึ่งมีความสำคัญมากในทุกครั้งที่ปรากฏตัว พูดกับ ซอว์เยอร์ในบาร์ ว่า 'ออสเตรเลียร้อนเหมือนนรกบนดิน (hell on earth) ในช่วงเวลาก่อนที่ซอว์เยอร์จะไปฆ่าใครคนหนึ่ง ] และให้ L.A.* เป็นจุดหมายปลายทาง ซึ่ง ไฟลท์จากซิดนี่ย์ไปแอล.เอ. ในเรื่อง ก็เปรียบเป็น การเดินทางของคนบาปกลุ่มหนึ่งไปสู่สวรรค์ บนเกาะ ซึ่งมีเรื่องราวที่ไม่สามารถอธิบายได้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ก็คือ ไฟชำระ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่มีใครมาค้นพบซักที เพราะในความเป็นจริง ก็ยังไม่มีใครที่ตายไปพบแล้วกลับมาบอกเล่าให้คนมีชีวิตได้ฟังว่าเป็นอย่างไร <*เพิ่มเติม* Los Angeles ซึ่งความหมายคือ ของเหล่าเทวดา ความหมายเดียวกับ กรุงเทพมหานครฯ ฉะนั้น ถ้าไทยจะทำเนื้อเรื่องแนวเดียวกันออกมา จะต้องเป็นไฟล์ท จาก สามจังหวัดชายแดนใต้ มา กรุงเทพฯ แล้วตกนอกเส้นทางห่างไป 75-100 กิโลเมตร> ถ้าไม่ใช่ความหมายของ ลอสแองเจลิสแบบข้างบน ก้อถือว่า แอลเอ คือสวรรค์ (ซึ่งคือดินแดนของผู้สร้าง) ตามแบบในโลกภาพยนตร์และโทรทัศน์ ผู้สร้างคือ เหล่าโปรดิวเซอร์ คนเขียนบท ทีมงานเบื้องหลัง และ นักแสดง เดินกันขวักไขว่ในแอล.เอ. แถว ๆ hollywood แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 48 00:09:55 จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:34:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนต่อไป จะแยกพูดถึงตัวละครหลักแต่ละตัวที่ยังไม่ได้วิเคราะห์ถึง มีการให้บูนได้ตาย หลุดพ้นไปจากเกาะ โดยก่อนที่เหตุการณ์จะนำพาไปเช่นนั้นทั้งหมด 1.บูนจะมีจิดตใจดีงามอย่างเห็นได้ชัด 2.บูนได้แยกสลัดจากบ่วงกรรมที่เคยทำร่วมไว้กับแชนน่อน และ 3.บูนได้สารภาพความผิดบาปที่เค้าคิดว่าเป็นเพราะเค้าที่สมัยเด็กทำให้พี่เลี้ยงตกบันไดคอหักตาย ในฉากที่ล๊อคตาม sign ไปเจอเครื่องบินพร้อมกับบูนนั้น ล๊อคน่าจะเชื่อตามเนื้อความของพันธสัญญาเก่า (Old testament) มีตอนที่ Isiah ได้รับการทดสอบจากพระเจ้าให้นำเอาลูกชายของตนไปสังเวยเพื่อพระเจ้าที่หน้าผา แล้วพระเจ้าก็ได้ตรัสกับอิสซายะห์ว่าเป็นเพียงต้องการทดสอบเจ้า ในขณะที่ล๊อคถูกหลอกทั้งบนเกาะ และ ชีวิตก่อนหน้า โดยในช่วงเวลานั้น บูนตามติดล๊อคอยุ่เสมอโดยล๊อคเรียกบูนว่า son [ในตอนเดียวกันนั้นเอง ล๊อคนั่งอธิบายเกม mousetrap ในตอนต้น และขับรถเต่าสีแดง เข้าใปในรั้วบ้านหลังใหญ่ ซึ่งมีสภาพเหมือนกันกับ ความหมายของเกมที่ล๊อคนั่งอธิบาย / อุปมาอุปไมยอันนี้ ได้นำมาใช้ในเรื่อง Skeleton Key ที่ Kate Hudson เล่นเช่นกัน โดยเคท จะขับรถเต่าสีแดง เข้าไปในบ้านลึกลับหลังหนึ่ง] จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สิ่งที่ เฮอลี่ย์มี คือ ความหมกมุ่นอยู่ในตัวเลขชุดกลุ่มนั้น ถึงขนาดว่าเพื่อนป่วยทางจิตไปแล้ว ก็ยังเก็บเอาตัวเลขมาซื้อลอตโต้ - หนึ่งในบัญญัติสิบประการที่สำคัญคือ จงนับถือในพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดเพียงองค์เดียว เทวรูป สิ่งสมมติอื่น ๆ ถือว่าผิดต่อบัญญัติ ในส่วนของการนำพาปลดปล่อย คงจะอยู่ที่ตัวเด็กชายทั้งสองคน เพราะคำว่า Exodus เป็นตอนหนึ่งในพันธสัญญาเก่าเช่นกัน กล่าวถึง ตอนที่โมเสสนำพาฝูงชนชาวฮิบรูออกจากอียิปต์ แดเนี่ยล รุสโซ่ คือ ฟาโรห์ ที่ตามออกฆ่าบุตรชายทุกคนในอียิปต์ เพราะมีพยากรณ์ว่าจะถูกโค่นล้ม แม่ของโมเสส จึงนำใส่ตะกร้าลงล่องแม่น้ำไนล์จนกระทั่งลูกสาวของฟาโรห์เก็บมาเลี้ยง (Alex ลูกสาวของรุสโซ่ มีคนคาดว่าอยู่บนเรือที่มาเอาตัววอล์ทไป) ชื่อว่า Moses นี้แปลตรงตัวว่า เก็บมาจากน้ำ เหมือนที่วอล์ทถูกลักพาตัวไปจากบนแพ นำไป Raised by another นอกจากโมเสสแล้ว คนที่อยู่เคียงข้างในการนำฝูงชนอีกคนหนึ่ง คือ Aaron (ชื่อที่แคลร์ตั้งให้ลูกชายเธอ) ส่วนชื่อ ไมเคิล คือ รากศัพท์มาจาก มิคาเอล ชื่อของเทวดาทูตสวรรค์ ถึงจะไม่ได้ถอดความมาโดยตรงทั้งหมด แต่หยิบนู่นผสมนี่มาใส่อยู่กลาย ๆ นี่เป็นส่วนหนึ่งที่พอจะเก็บมาได้ ถ้าใครมีอะไรอีกอยากให้นำมาเล่าสู่กันฟัง จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:34:57 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ไม่ว่าจะด้วยตรรกะไหนก็ตามที่ LOST นำเอาสูตรสำเร็จทุกอย่างจากเรื่องแนว แอคชั่น+ลึกลับ+ความสัมพันธ์ครอบครัว+โรแมนซ์+ศาสนา มาผสมกันหมด และทำให้เกิดกระแส controversial ได้ตามคาด L O ST ความแพ้พ่าย การสูญเสีย ดับสิ้น และ การหลงทาง สวัสดี จากคุณ : Mo_EcHO - [ 7 ก.ย. 48 21:36:02 ]

ความคิดเห็นที่ 8 โหหหหห อึ้งพอกับตอนดู finale ขอซูฮกน้องโม ลึกซึ้งมากจ้ะ จากคุณ : Pat :o) - [ 7 ก.ย. 48 22:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ซูฮกด้วยนะครับ ...เป็นบทความที่สมบูรณ์ สุดยอดแล้วก็ลึกจริงๆ ไม่รู้จะเสริมอะไรด้วยแล้ว คือปกตินั่งดูก็ไม่ได้คิดไปขนาดนี้เลย 555 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 48 00:15:11 จากคุณ : *omega* - [ 7 ก.ย. 48 22:25:51 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอคารวะหนึ่งจอกค่ะ *ซู้ด* พอเปิดประเด็นศาสนา นึกได้ว่าเคยนั่งอ่าน transcript เล่นๆ (ว่างๆเลยกะจะเก็บรายละเอียดน่ะค่ะ :D) ตอนที่แคลร์เป็นตัวเอก แล้วแฟนแคลร์นั่งจับเวลาผลตรวจสอบการตั้งครรภ์ ปรากฎว่าแฟนแคลร์พูดว่าจับเวลาไว้ "6...66 seconds" o.O' ตอนฟังในทีวีไม่ได้เอะใจอะไร พอได้อ่านดูละอึ้งเลย ก็เลข 666 มันเป็นเลขซาตานนี่นา เลยพอจะเดาชะตาลูกชายแคลร์เอาไว้รางๆ ^^" จริงๆเคยเดาตำแหน่งผู้นำให้แจ๊คไว้เล่นๆโดยคิดว่าสุดท้ายคุณหมออาจจะกลายเป็นผู้ปลดปล่อยเหมือนโมเสสหรือพระเยซูไปโน่นเลยก็ได้ เพราะสะกิดใจกับนามสกุลไม่เลิกซะทีนี่แหละค่ะ (แม้ Shepard ของแจ๊คจะสะกดด้วยตัวเอแทนที่จะเป็นตัวอีก็เถอะนะ) รวมไปถึงความขัดแย้งระหว่างแจ๊คกับอำนาจหรืออิทธิพลของพ่อที่มีต่อตนเองด้วย (เอพิโซดที่วิญญานพ่อโผล่มานำทางนั่นก็หลอนคนดูจัง - -") และเชื่อว่าแจ๊คต้องได้รับการทดสอบเช่นเดียวกัน อีกทั้งการที่แจ๊คเป็น Man of Science ซึ่งอยู่ขั้วตรงข้ามกับล็อคที่เป็น Man of Faith ทำให้อดรู้สึกไม่ได้ว่า เดี๋ยวมันน่าจะมีอะไรที่ทำให้ตัวตนของแจ๊คเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สำคัญหรือทรหดหนักกว่านี้   (มั่วล้วนๆ) สรุปว่าซีรีส์นี้มันไม่ธรรมดา... จากคุณ : scarborough - [ 8 ก.ย. 48 02:39:43 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากคุณ : Domingo - [ 8 ก.ย. 48 11:40:58 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ รูปน่ารักเชียวค่ะ ปล. น้องโมคะ พี่อ่านจบแล้ว อึ้ง......ไม่เคยคิดให้ได้ขนาดนี้เลยจ้ะ จากคุณ : vilandra - [ 8 ก.ย. 48 12:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 13 อืมม... จากคุณ : หลวมตัวมาเล่น - [ 8 ก.ย. 48 13:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผมจำไม่ได้ว่าไปอ่านที่ไหนเหมือนกันว่า ผู้เขียนบทนั้นใช้พระคัมภีร์เดิม โดยมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ โมเสส และ การเดินทาง 40 ปีในทะเลทราย ไปจนถึงดินแดนที่พระเจ้าประทานให้ แต่ในเรื่องนี้แทนที่จะเป็น 40 ปี กลับเป็น 40 วัน ครับ จากคุณ : เอกวุฒิ - [ 8 ก.ย. 48 19:20:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะลองเขียนเรื่อง Lost จากมุมมอง philosophy มาให้อ่านมั่ง (ถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อน) จากคุณ : Pat :o) - [ 9 ก.ย. 48 08:47:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แต่คำว่า "They are not the survivors they thought they were" นี่ก้อเป็นอะไรที่ผมคิดไว้อยู่แล้วนะครับ จากคุณ : X-Probster - [ 9 ก.ย. 48 20:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกๆ ความเห็น ถ้าจะให้ดี ช่วยกันเมล์ไปตื๊อ AXN คนละนิด จะได้ดูกันไว ๆ มาเปิดศึกถึงลูกถึงคนกันอีก แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 48 16:37:32 จากคุณ : Mo_EcHO - [ 11 ก.ย. 48 22:27:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณโม... transcript หาอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.lost-tv.com/transcripts/ อ่านๆแล้วจดพวกตัวเลขขึ้นมาเป็นสถิติหรือนึกภาพตามไปด้วยก็มันส์ดี :D จากคุณ : scarborough - [ 12 ก.ย. 48 19:53:30 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้ แม่เจ้า ใครทำมาเนี่ย สามารถมาก ในฐานะแฟนคลับเมืองไทย ต้องบอกว่าเห็นแล้วถอดใจเลยเนี่ย ละเอียดทุกวินาที บอกแม้กระทั่ง commercial break ฮึ่ม ถ้าวันนึง TIVO มาถึงเมืองไทยละก้อ เราจะผนึกกำลังสู้!!! จากคุณ : Mo_EcHO - [ 13 ก.ย. 48 00:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ TIVO มาจริง ผมนี่แหละจะเป็นคนแรกที่ติดครับ ต้องการมากกกกกก จากคุณ : X-Probster - [ 14 ก.ย. 48 20:14:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 แหะๆ ตอนดูไม่ได้คิดถึงขนาดนั้นเลยอะค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ สำหรับบทความที่น่าสนใจ ^^ จากคุณ : Clear Ice - [ 14 ก.ย. 48 21:26:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 lost ยังงัย lost ยังงั้นค่ะ เมื่อไหร่จะได้ดูอ่ะ จากคุณ : red mars - [ 16 ก.ย. 48 02:03:44 ]