CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ดูแล้วมาคุยกัน ... Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ

      ชอบมาก ห้ามพลาด (2 คน)
      ชอบ แต่ยังไม่ที่สุด (7 คน)
      เฉยๆ (4 คน)
      ไม่ค่อยชอบ รอแผ่นก็ได้ไม่ต้องไปโรง (0 คน)
      ไม่ชอบ เสียดายตังค์ (1 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 14 คน

     14.29%
     50.00%
     28.57%
     0.00%
     7.14%


    เลือกอ่านเรื่องนี้พร้อมรูป และ รบกวนแสดงความเห็นเพิ่มเติมเพื่อเป็น 1 ความเห็นอันเป็นประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา ที่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=10-2005&date=07&blog=1


    ...ครั้งนี้อาจไม่เหมือนทุกครั้งกับการเขียนควบ 2 เรื่อง ด้วยอานิสงส์จาก Movie passport ที่ทำให้ผมได้โอกาสดูหนังมากกว่าที่ตั้งใจ ตอนแรกว่าจะข้ามเรื่องแรกไปเสีย แต่พอดูเรื่องหลังแล้วเห็นว่าทั้ง 2 เรื่องนี้ มันมีอะไรร่วมกัน จึงตัดสินใจควบ 2 ซะทีเดียว สิ่งที่ผมมองมันร่วมกันคือ ถ้าให้ผมเองจัดหมวดหมู่ ซึ่งผมตั้งหมวดขึ้นมาเองไม่ได้มีในตำราเล่มไหนว่า ทั้ง 2 เรื่องนี้ต่างก็อยู่ในตระกูล(Genre)เดียวกัน คือ ตระกูล Mo-Action(แอคชั่นขี้โม้)ฮ่าฮ่าฮ่า

    ตัวอย่างฉากในหนังแอคชั่นขี้โม้ :
    พระเอกยืนอยู่กลางถนน แล้วรถสองคันวิ่งสวนทางจะมาชนพระเอก พระเอกพลันกระโดดขึ้นแล้วรถสองคันก็ระเบิด ตู้ม แล้วพระเอกก็ลงมาเหยียบบนรถที่ชนกันอย่างไม่สะทกสะท้าน


    ดังนั้นสิ่งที่แอคชั่นขี้โม้พึงควรจะมี ไม่ใช่ ความสมเหตุสมผล แต่ ควรเป็น ขี้โม้แล้วคนดูสนุกจนไม่คำนึงถึงเหตุผล และ ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ว่าจะสร้างขึ้นมาอย่างไร้เหตุผลเลย อย่างน้อยถึงจะโม้ ก็ควรมีความสมจริงในบริบทของการโม้นั้นๆ ไม่ใช่เลอะเทอะเละเทะ

    และนี่คือหนัง 2 เรื่องที่เป็นแอคชั่นขี้โม้ เรื่องหนึ่งมีคุณสมบัติครบและจัดได้ว่าหนังทำได้ดีมากในตระกูลนี้ ในขณะที่อีกเรื่องหนึ่งยังทำได้ไม่ดีเพียงพอ (ปีที่ผ่านมา รางวัล หนังแอคชั่นขี้โม้ดีเด่น ผมยกให้กับเรื่อง Cellular)

    เรื่องบนบก(Transporter 2 )

    ...หลายปีก่อน ผมเคยซื้อขนมโตเกียวหน้าแถวหน้ากิ่งเพชร จากวันนั้นถึงวันนี้ยังจำได้ถึง ท่าทีคนขายที่ดูเข้าอกเข้าใจขนมโตเกียวตัวเองเป็นอย่างดี รู้ว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี เอาใจใส่ในการทำและขายลูกค้า ผมเคยไปกินซี่โครงหมูที่ร้านอาหารแล้วแม่ครัวบอกว่าวันนี้หมูไม่ค่อยดี ทำให้เขาเหล่านั้นเป็นพระเอกที่ผมยังจำได้อยู่เสมอ โดยเขาหรือเธอไม่ได้ทำอะไรตื่นเต้นเร้าใจอะไรเลย เขาและเธอเพียงแต่ มีจรรยาบรรณ มีความรับผิดชอบ และ ซื่อตรงต่อวิชาชีพ

    ...Frank Martin มีอาชีพรับจ้างส่งของ จรรยาบรรณ ของเขาคือ ต้องส่งของให้ถึงผู้รับและรักษาสัญญาทุกสัญญาที่ให้ไป เมื่อเขาไปรับจ๊อบชั่วคราวงานขับรถส่งลูกชายคนสำคัญ และ เธอถูกลักพาตัวไป สัญญาที่เขาให้ไว้กับเด็ก คือ ปกป้องไม่ให้เด็กต้องเจ็บ เขาจึงทำทุกวิถีทางที่จะพาเด็กคนนั้นกลับมา ไม่ใช่เพียงสัญญาที่เขารักษา แต่มันเป็นความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่าง Frank กับ เด็ก และแม่ของเด็ก ในครอบครัวที่กำลังมีปัญหา

    ...ความเป็นพระเอกของ Frank ไม่ได้เป็นแค่การกระโดดเตะผู้ร้ายทีละ 5 คน ไม่ใช่การขับ Audi ข้ามตึก แต่ความเป็นพระเอกของเขา คือ หน้าที่ความรับผิดชอบ ที่สามารถจบได้ตั้งแต่พาเด็กไปให้เหล่าร้าย เขาสามารถจะหนีเอาตัวรอดได้ แต่เขาไม่ทอดทิ้ง เขารักษาสัญญาและกฎที่ตัวเองมี ไม่ใช่แค่การทำสัญญา แต่มันแสดงออกว่าเป็นการทำด้วยหัวใจ ที่เขามีให้กับเด็กและแม่ครอบครัวนี้ แม้แต่โอกาสที่เขาสามารถฉกฉวยได้เมื่อ คนเป็นแม่ที่ไร้ทิศทางพร้อมจะมอบกายให้ในวันที่สับสน เขาเองปฏิเสธและคลายความกังวลสับสนนี้ให้กับเธอ (ดูไปคิดไปว่าหากเป็น James Bond แม่สวยๆเช่นนี้อาจเสร็จไปแล้ว) นั่นคือ ความเป็นพระเอกของเขา และ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ใครต่อใครจดจำเขา เหมือน กับที่ผมเคยจำคนบางคนได้ ที่เล่าไว้ข้างต้น คนเราสามารถเป็นพระเอกในงานตัวเองได้ไม่ยากเลย

    ....หนังเล่าเรื่องได้ชวนติดตามตั้งแต่ฉากเปิดตัว ที่ใส่ชื่อนักแสดงแขวนตามราวเหล็ก ตามมาด้วย การเปิดตัวพระเอกหน้าตายเจอแก๊งค์หนุ่มสาววัยละอ่อนจะมาซิวรถของเขาไป นั่นตามมาด้วย สูตรสำเร็จของหนังแอคชั่นขี้โม้ทันทีกับการที่พระเอกขอถอดสูทเพราะกลัวสูทเลอะ แล้ว ลูกเตะหมุนตัว 360 องศา พร้อมตีลังกาลงมาเตะปืนในมือคู่ต่อสู้ ก่อนจะสิ้นสุดกระบวนการสุดเท่ห์ป้อนรหัสใส่รถแล้วขับเคลื่อนออกไป นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆน้อย ก่อนที่จะฉากแอคชั่นขี้โม้สุดเท่ห์ ทั้งหลายแหล่จะตามมาอีก อาทิเช่น ขับรถชนกำแพงข้ามตึก ,วิ่งหลบกระสุน , ขับรถตะแคงเกี่ยวระเบิด ฯลฯ น่าประทับใจตรงที่ว่า ฉากทั้งหลายที่มีนั้นหนังทำได้ถึงอารมณ์สนุกคนดู ชนิดไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกรำคาญว่ามันไม่สมจริง

    หนังถือว่าประสบความสำเร็จในการกำกับฉากบู๊เหล่านี้ ให้ดูสนุกชวนติดตาม และ การกำกับเรื่องราวก็ทำได้กระชับ มีทิศทางชัดเจนว่าหนังจะเล่าเรื่องไปในทิศทางใด(แม้ว่า พล็อตจะคล้ายๆซี่รี่ส์ 24 อยู่บ้าง) และเมื่อความสนุกบังเกิดขึ้น เหตุผลที่อยู่ในตั้งอยู่บนตรรกะความเป็นจริงก็พร้อมจะถูกลืม (เช่น ทำไมเอาประตูกันกระสุนได้โดยลูกปืนไม่ทะลุ , ทำไมคนที่อยู่ในงานคนอื่นๆตอนท้ายไม่เป็นอะไร ฯลฯ)

    ...Transporter 2 เป็นหนังแอคชั่นดูเพลิน หนังให้ความบันเทิงได้ครบสมบูรณ์แบบ เป็นความบันเทิงย่อยง่ายและก็ไม่ได้ไร้สารอาหารแต่อย่างใด อาจจะมีช่วงกลางๆที่ตามล่าหาความจริงหนังอืดๆอยู่บ้างแต่ก็เป็นแค่ช่วงสั้นๆ อารมณ์ขันในหนังมีอยู่เหลือเฟือ โดยเฉพาะมุขฝรั่งเศสท่องอเมริกัน ที่เรียกเสียงรอยยิ้มคนดูได้อยู่เรื่อยๆ นอกจากนี้นี่ยังเป็นอีกเรื่องที่โฆษณาขายสินค้าพาเหรดมาแบบโต้งๆไม่ปิดบัง ตั้งแต่ Nokia Heineken ฯลฯ

    ...Transporter น่าจะเป็นยี่ห้อที่พร้อมขายต่อเป็นแฟรนไชส์ให้กับภาคถัดๆไปได้เกิดตามมา ในด้านนักแสดงนำ Jason Statham คงได้โอกาสเหมาขาดไปอีกนาน ถ้าไม่มีความขัดแย้งกัน เพราะดูเขาเหมาะกับซี่รี่ส์คนส่งของหน้าตายนี้เป็นอย่างดี เหมือนกับ เพียร์ซ บรอสแนน ที่เหมาะกับบท James Bond โดยไม่มีคนแย้ง นักแสดงสาว 2 คนในเรื่องก็สวยเปรี้ยวและสวยคมทั้งคู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นนักแสดงที่เด่นที่สุดที่ลืมไม่ได้คงเป็นยานพาหนะประจำตัวพระเอกของเรา ที่โชว์ตัวเดินหน้าถอยหลัง บิดตัวซ้ายขวาอย่างกับเต้นรำ คงต้องดูว่า รถยี่ห้อไหนจะได้มาสืบทอดเจตนารมย์ส่งของในภาคต่อไปถัดจาก Audi A8 W12 ที่ได้รับเกียรติมาในภาคนี้

    สิ่งที่ชอบsmile

    1. ฉากแอคชั่น ... หนังบางเรื่องอัดฉากแอคชั่นแบบไม่หยุดพักเหมือนกัน แต่คนดูกลับรู้สึกว่าน่าเบื่อ นั่นเป็นเพราะการกำกับที่ทำให้ฉากแอคชั่นไม่น่าสนใจ ฉากแอคชั่นไม่สัมพันธ์กับเรื่องราว หรือ จังหวะมันไม่ลงล็อคดีๆ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่อง ที่โชว์ฉากแอคชั่นที่แสนจะเว่อร์แต่คนดูสนุก และ มีจังหวะลงตัว

    2. ความสนุกต่อเนื่อง ... มันทำให้ผมนึกถึง Cellular อีกหนึ่งหนังแอคชั่นที่สนุกย่อยง่าย แต่สนุกมากมาย และเป็นความสนุกต่อเนื่องไม่มีบันยะบันยัง (แถม Jason Statham ก็ไปเล่นด้วยเช่นกัน)

    3. จรรยาบรรณวิชาชีพ ... ชอบความรับผิดชอบ และ ความเป็นพระเอก ในหนังเรื่องนี้ แม้จะดูเป็นคนดีเหลือเกิน แต่พระเอกที่ดีเหลือเกินแบบหนังเรื่องนี้นี่แหละที่คนดูสามารถสอนให้เด็กๆดูเป็นตัวอย่างที่ดีได้ในส่วนที่เขามี และ สอนให้ผู้ใหญ่ได้รู้จักสิ่งที่เรียกว่าจรรยาบรรณวิชาชีพกับความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของงานตัวเอง

    มีต่อ

    แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 48 20:38:43

    แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 48 17:30:58

    แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 48 17:30:16

    จากคุณ : "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" - [ วันเกิด PANTIP.COM 17:28:12 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป