PANTIP.COM : A3791396 เบื้องหลังกองถ่าย "ท่านมุ้ย" ตอน 2 / video clip การถ่ายทำ "พระแสงดาบคาบค่าย" ครับ [หนังไทย]

ความคิดเห็นที่ 4

ที่มาของฉากพระแสงดาบคาบค่าย ก็คือหลังจากที่สมเด็จพระนเรศวรทรงประกาศอิสระภาพที่เมืองแครงแล้ว พระเจ้านันทบุเรงได้ยกทัพมาเพื่อปราบขบถ (ในทัศนะของหงสาวดี อยุธยาเป็นขบถที่ประกาศอิสระภาพแยกตัวออกไปจากหงสาวดี)

ในพระราชพงศาวดารระบุว่า

" “ฝ่ายพระเจ้าหงสาวดีเสด็จถึงพระนครแล้ว ก็ทรงพระดำริแต่ที่จะเอากรุงพระนครศรีอยุธยาให้ได้ ก็ให้จัดทแกล้วทหารบำรุงช้างม้ารี้พลเครื่องสรรพศัสตราวุธเสบียงอาหาร กระสุนดินประสิวไว้พร้อมเสร็จ และเมื่อพระ เจ้าหงสาวดีให้เตรียมทัพครั้งนั้น พลห้าสิบหมื่น ช้างเครื่องสามพัน ม้าหมื่นหนึ่ง ให้พระมหาอุปราชา พระเจ้าแปร พระเจ้าเชียงใหม่เข้ากระบวนทัพด้วย
ครั้น ณ วันอาทิตย์ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนอ้าย ศักราช ๙๓๒ ปีมะเมีย โทศก(พ.ศ.๒๑๑๓)เพลาอุษาโยค สมเด็จพระเจ้าหงสาวดีก็ทรงเครื่องพิชัยยุทธนาลังการาภรณวิภูสิตพิพิธโภคมหิมา ดูโมฬาราดิเรกสำหรับชัตติยราชรามัญประเทศไทยพิชัยยุทธสงครามเสร็จ ครั้นได้เพลามหามหุติฤกษ์มังคลาโหราธิบดีลั่นฆ้องชัย ชีพ่อพราหมณ์ถวายเสียงสังข์ประนังศัพทฆ้องกลองกาหลสนั่นนฤนาท เสร็จทรงช้างต้นพลายชัยมงคลเป็นราชพาหนะ ประดับเครื่องคชาภรณ์อลังการ เคลื่อนพยุหโยธาหาญโดยกระบวนซ้ายขวาหน้าหลัง พลดาบดั้งโตมรสลอนพลเสโลทวนทองระยาบ พลดาบเขนเป็นขนัดริ้วรายดูสุดสายตาไสวเถือกธงชัยธงฉานวาลวิชนีกลิ้งกลดบดบังแสงทินกร ไพโรจน์โชตนาการพันลึก อธึกดูพร้อมพรั่งดาษดารอนแรมมาโดยสถลมารค ข้ามแม่น้ำเมาะตะมะ เข้าทางเมืองกำแพงเพชร เสด็จถึงกรุงพระนครศรีอยุธยา ณ วันอังคาร แรม ๑๔ ค่ำ เดือนอ้าย สมเด็จพระเจ้าหงสาวดีตั้งค่ายหลวงตำบลบางประหัน พระมหาอุปราชาตั้งค่ายกุ่มดอง พระเจ้าแปรตั้งค่ายสีกุก พระเจ้าเชียงใหม่ตั้งค่ายตำบลวัดสังฆาวาส
สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า ตรัสทราบว่าทัพพระเจ้าหงสาวดียกมา ก็ทรงม้าทวนกับทหารสามกองๆ หนึ่งยี่สิบสองคน กองหนึ่งสี่สิบสองคน กองหนึ่งเจ็ดสิบสองคน ขี่ม้าถือทวนครบมือยกออกไปกองหน้าข้าศึกออกมารบทหารกรุงเทพมหานครตีแตกฉานเข้าไป สมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าทรงคาบพระแสงดาบกับทหารปีนค่ายขึ้นไปข้าศึกในค่ายเอาทวนแทงพลัดตกลงมาเป็นหลายครั้ง ขึ้นมิได้ ทรงม้าพระที่นั่งกลับเข้าพระนคร ข้าศึกเอาการซึ่งได้รบพุ่งไปกราบทูลสมเด็จพระเจ้าหงสาวดีๆ ตรัสถามเสนาบดีว่าพระนเรศวรออกมาทำเป็นอย่างทหารดังนี้ เหมือนหนึ่งเอาพิมเสนมาแลกเกลือ พระราชบิดานั้นจะรู้หรือหาไม่ เสนาบดีกราบทูลว่า เห็นพระราชบิดาจะไม่รู้ ถ้ารู้แล้วเห็นจะมิให้ออกมาทำ
สมเด็จพระเจ้าหงสาวดีจึงตรัสว่า พระนเรศวรทำศึกอาจหาญนัก ถ้าออกมาอีกถึงมาตรแม้นเราจะเสียทหารมากก็จะแลกเอาตัวให้จงได้ แล้วสั่งให้จัดทหารที่มีฝีมือสันทัดทุกกองให้ได้หมื่นหนึ่ง เอาไปช่วยค่ายลักไวทำมูและทหารทศตำบลลุมพลี ถ้าพระนเรศวรออกมาตีค่ายให้กุมเอาเป็นจงได้”
จะว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ผมก็ไม่รู้ แต่ว่าหนังที่ผมทำเป็นตำนานเพราะฉนั้นเราสามารถใส่เข้าไปในบทหนังได้

เรื่องย่อๆ ก็คือหลังจากที่พระเจ้านันทบุเรงยกทัพกลับจากรบเมืองอังวะ (อีกเมืองหนึ่งที่แยกตัวออกจากหงสาเหมือนกับอยุธยา) พระเจ้านันทบุเรงก็ยกทัพใหญ่มีพลห้าแสนนาย ช้างสามพันเชือกม้าหมื่นตัว ยกทัพเข้ามาทางด่านแม่ละเมา มาตั้งค่ายล้อมอยุธยาเอาไว้ดดยตั้งทัพหลวงที่บางประหัน (ไกลหน่อย) นอกจากนั้น ที่กุ่มดอง(บ้านกุ่ม) ที่สีกุก ที่วัดสังฆาวาส
ค่ายที่อยู่ใกล้ที่สุดคือค่ายของพระมหาอุปราชา ที่กุ่มดอง เพราะฉนั้นค่ายของกองหน้าก็น่าจะอยู่แถว ทุ่งลุมพลี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากวังจันทรเกษมเท่าไรนัก
เรียกได้ว่ามาเหยียบจมูกพระนเรศวรของเราเลยทีเดียว
มีหรือนักรบอย่างสมเด็จพระนเรศวรของเราจะยอม
พระองค์จัดกองทหารเพียงร้อยกว่าคนยกออกไปปล้นค่าย ซึ่งในพระราชพงศาวดารระบุว่าอยู่นอกค่าย จะทำอะไรขึ้นอยู่กับเราจะเดาเอาเอง พระนเรศวรเข้ามารบกับทหารที่อยู่นอกค่าย ทำให้ทหารพม่าถูกตีพ่ายกลับเข้าไปในค่าย พระนเรศวรเอาดาบมาคาบแล้วปีนกระไดเข้าปล้นค่าย แต่ถูกแทงด้วยทวนตกลงมา จะปล้นค่ายได้หรือไม่ได้ไม่มีใครรู้ แต่เดาว่าคงจะได้เพราะถ้าไม่ได้ทหารพม่าคงออกมาฆ่าพระนเรศวรกับทหารไทยทั้งหมดแล้วล่ะครับ

จากคุณ : Cinephile - [ 8 ต.ค. 48 14:08:24 ]