ได้ไปดู อหิสงสามา ตอนแรก ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องกรรมเอาคืนเฉยๆ
แต่กลับมานึกดู มันถือได้ว่า เป็นองคุลิมาล เวอร์ชั่นทันสมัยได้เลยนะครับ
มาดูว่ามีอะไรที่ทำให้ผมคิดแบบนั้น
1. เรื่องชื่อ ที่ชื่อว่า อหิงสา หรืออหิสะกะ(เขียนถูกเปล่า) ก็มาจากชื่อ องคุลีมาล ก่อนที่จะเป็นโจรไล่ล่าฆ่าคน
2. กรรม ของอหิงสา ก็บอกแล้วว่า ชาติที่แล้ว อหิงสา ฆ่า คนไปเป็นร้อย กรรม ถึงมาเยือนไม่หยุดไม่สิ้น
3. ตอนเด็ก อหิงสา ก็มีความคล้าย กะองคุลีมาล ตรงที่ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่แปลก รวมทั้งพ่อแม่ พาไปพบอาจารย์ เพื่อขอให้ช่วยเหมือนกัน แม้จะคนละเรื่อง
4. อหิงสา กะ องคุลีมาล ฆ่าคนมากมาย แม้คนละจุดประสงค์ของการฆ่า แต่จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ เพื่อให้คนที่ตัวเองรัก พ้นภัย หรือพ้นทุกข์
5. การหยุดฆ่า ของทั้งสองคน ก็คล้ายๆ กัน คือ หยุด หรือพอ ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้กรรมหมดสิ้น หรือพ้นทุกข์ของการมีกรรม ในเรื่องนี้ ใช้ไอน์สไตน์ อธิบาย เป็นหลักวิทยาศาสตร์ แต่จริงๆ มันก็คือหลักคำสอนของพระพุทธเจ้านั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตอนอหิงสาหยุดฆ่า และตายลงไป ตัวเขาเองก็พบความสุข โดยสวมชุดสีขาว และมีความสุขกะคนที่เขารัก
6. อหิงสา กะองคุลีมาล ฆ่าคนโดยเหมือนคนหลอนๆ เหมือนกัน อหิงสา หลอนเพราะ ยา หรือไอ้กรรม แต่องคุลีมาล หลอนเหมือนกัน จนคิดว่าฆ่าคนแล้วทำให้ตัวเองและคนที่ถูกตัวเองฆ่าพ้นทุกข์
นี่คือที่ผมมานึกดู มันทำให้ผมคิดไปในแนวว่า ผู้กำกับได้สอดแทรก ให้อหิงสา เป็นองคุลีมาล เวอร์ชั่นใหม่ ไปแบบเราไม่รู้ตัว หรือพูดอีกอย่างเพราะเรา มัวแต่สนใจแต่เจ้ากรรมนั่นเอง ซึ่งส่วนที่เอาเวรกรรมมาเล่น ก็ถือว่าถ่ายทอดได้ดีพอสมควร ไม่ได้ดีเลิศอย่าง โกลคลับ ที่เคยสร้างผลงาน
ปล. ผมฮาตอนออกมาจากโรงจัง ดันมีพนักงานมาใส่ชุดสีแดง เหมือนเจ้ากรรม มายืนอยู่ตรงบันไดเลื่อน ทำให้ผมหลอนไปเลย คิดว่าเห็นอยู่คนเดียว อิๆ เพราะตอนเข้าโรงหนัง มันไม่ยักมายืนอยู่นิ ต้องถามเพื่อนกันยกใหญ่ เห็นเหมือนตูไหม นึกว่าเวรกรรม จะมาให้รับกรรมสะแล้ว อิๆๆ
ปล.2 หลายคนคงรำคาญบทพูดของไอน์สไตน์ ที่ชอบพูดวกวน ดูเหมือนเป็นส่วนเกินของหนังไป ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น (มันจะบ้าพูดอะไรแบบนี้ฟะ) แต่เมื่อกลับย้อนมาคิด นั่นคือข้อคิดที่สอนเราได้เลยนะครับ ถ้าเราลองคิดตามที่ไอน์สไตน์พูด นั่นคือสิ่งที่ใช่ทุกอย่าง และทำให้เราจะทำอะไรก็ต้องคิดก่อน เพราะทุกอย่างที่เราทำ มันจะย้อนกลับมาหาเราทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือไม่ดีก็ตาม ซึ่งคำว่ากรรม ก็บอกอยู่แล้ว ว่าคือการกระทำ นั่นเอง
ปล.3 ดูเหมือนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้วนะครับ สำหรับหนังของพี่เรียว ที่การวิ่ง หรือการ ตบ หรือต่อย จะดูเหมือนของจริง ตรงนี้ยอมรับว่าทำได้จนหลายคนคิดว่าเตะต่อยกันจริงๆเลยทีเดียว
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 48 01:50:47
แก้ไขเมื่อ 22 ต.ค. 48 01:46:12
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 48 12:04:22
แก้ไขเมื่อ 21 ต.ค. 48 10:55:24
จากคุณ :
takuya 
- [
21 ต.ค. 48 09:53:44
]
+-+-อหิงสา = องคุลีมาล เวอร์ชั่น Hi-speed (สปอย)+-+
