วงชาตรีก่อตั้งเมื่อประมาณปี2517-2518
สร้างผลงานเพลง15อัลบั้ม
มีเพลงที่ได้รับความนิยมนับร้อยเพลง
ยอดขายเทปเรียกได้ว่าถล่มทลายเกือบทุกอัลบั้ม
ก้าวเดินบนถนนดนตรีเป็นระยะเวลา10ปีเต็มในฐานะศิลปินชั้นแนวหน้าของประเทศมาโดยตลอด จนถึงปี2528 เป็นปีที่สมาชิกวงชาตรีตัดสินใจอำลาวงการเพลงพร้อมกับอัลบั้มสุดท้ายคือ"อธิษฐานรัก"
หลังจากสลายวงชาตรีแล้วนราธิป และคทาวุธนักร้องนำหลักของชาตรีก็ได้ออกอัลบั้มป็นศิลปินเดี่ยวกันอีกคนละอัลบั้ม2อัลบั้ม ประสบความสำเร็จพอสมควร
จากนั้นในปี2532 นราธิป กาญจนวัฒน์ บวชเป็นพระที่วัดถ้ำกระบอก
หลวงพี่นราธิปเป็นพระที่วัดถ้ำกระบอกอยู่ประมาณ4-5ปี ก็ได้ย้ายไปพำนักที่วัดร้างแห่งหนึ่งชื่อว่าวัดลานนางฟ้าหรือวัดเนินรังวรปัญญารามในปัจจุบันเพียงลำพัง
พระนราธิปปฏิบัติตนอยู่ในเพศบรรพชิตอย่างเคร่งครัดและสมถะ ไม่มีประวัติเสื่อมเสียใดๆทั้งสิ้น เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คนทั่วไป
สำหรับสมาชิกวงชาตรีอีก4ท่านได้มีการไปมาหาสู่หลวงพี่นราธิปและดูแลกันมาตลอดเวลานับสิบปีที่หลวงพี่ยังคงเดินในเส้นทางธรรมอย่างมั่นคง
หลวงพี่นราธิปอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดลานนางฟ้า ได้พัฒนาวัดแห่งนี้จากวัดร้างที่มีเพียงกุฏิทรุดโทรมหลังเดียวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากพลังศรัทธาของผู้คนที่บริจาคเงินทำบุญให้วัดอย่างต่อเนื่อง วัดลานนางฟ้าก็ได้มีกุฏิเพิ่มขึ้น มีโรงทาน มีห้องน้ำสำหรับผู้ที่แวะเวียนมาที่วัดได้รับความสะดวกมากขึ้น
การพัฒนาวัดลานนางฟ้าตามแนวทางนี้ เป็นที่ชื่นชมของผู้ที่ศรัทธาในตัวท่านมาก
เพราะไม่มีเรื่องพุทธพาณิชย์ใดเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้แต่เหรียญของหลวงพี่ที่แจกให้ญาติโยมจำนวนมากก็เป็นการจัดทำและถวายให้ทางวัดจากเพื่อนๆสมาชิกวงชาตรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
จากนั้นมาอีกระยะหนึ่งทางวัดได้มีโครงการก่อสร้างศาสนสถานสำคัญ2โครงการใหญ่ๆคือมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทซึ่งหลวงพี่นราธิปค้นพบในบริเวณวัด
และมหาเจดีย์รูปทรงปิรามิดขนาดใหญ่ ทั้งสองโครงการนี้ต้องการค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างหลายร้อยล้านบาท... ตรงนี้แหละครับที่ผมมองว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้
ผมเองเป็นแฟนเพลงชาตรีตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่เพิ่งเข้ามาคลุกวงในแฟนคลับชาตรีเมื่อ2-3ปีมานี้เอง ผมไปวัดลานนางฟ้าเมื่อ2ปีก่อนก็ได้เห็นการก่อสร้างโครงการใหญ่2โครงการที่ว่าในระยะเริ่มต้น ส่วนของมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทน่ะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว(แต่ก็ยังอีกห่างไกลเหลือเกิน) มหาเจดีย์นั่นอยู่ในช่วงฐานราก เห็นแล้วก็ได้แต่กลุ้มแทนหลวงพี่ว่าจะหาเงินที่ไหนมาสร้างให้สำเร็จได้ทันในชั่วชีวิตนี้เนี่ย
ช่วงที่ผมเข้ามาร่วมกิจกรรมของแฟนคลับเมื่อประมาณปี2546 มีรายการวิทยุรายการนึงของอสมท.ชื่อรายการยิ้มละไม เป็นรายการเพลงเก่า(เปิดเพลงไทยยุคพ.ศ.2520-2530เป็นหลัก) ได้รับความนิยมอย่างมากมีแฟนรายการจำนวนมหาศาลทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด-ต่างประเทศ(เพราะว่าฟังทางinternetได้ด้วย) ในรายการมีการจัดอันดับศิลปินยอดนิยมทุกสัปดาห์ คะแนนตัดสินนั้นมาจากการโหวตของผู้ฟังเข้ามาทางโทรศัพท์ ซึ่งจากสถิติในการจัดอันดับนั้นชาตรีครองอันดับ1 เกือบทุกสัปดาห์ ยิ่งกว่านั้นในปีเดียวกันกลุ่มแฟนคลับชาตรีได้จัดงานกึ่งมีทติ้งกึ่งคอนเสิร์ตของชาตรี ซึ่งได้รับความสำเร็จอย่างดี มีรายได้จากการจัดงานถวายให้หลวงพี่นราธิปเกือบ1แสนบาท
ความนิยมจากผู้คนที่มีต่อวงชาตรีอย่างเป็นอมตะนี้ มีสายตาบางคู่จับจ้องมองดูอยู่ตลอด ไม่ได้มองอย่างชื่นชมโสมนัส แต่มองว่าผลประโยชน์มากมายมหาศาลรอให้เข้าค้นหาและไขว่คว้าหรือเปล่า
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 00:37:51
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 19:04:59
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 18:52:52
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 18:32:43
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 17:43:18
แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 48 17:34:04