| ชอบ ชอบมากๆ เป็นภาคที่ชอบมากที่สุก (18 คน) |
| ชอบเป็นภาคที่ดูแล้วอินสุดๆ (16 คน) |
| ชอบนะ แต่ยังไม่ประทับเลย (18 คน) |
| เฉยๆ อ่ะ (4 คน) |
| ไม่ชอบนะ ในหนังสือยังดีกว่าเยอะเลย (3 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 59 คน |
ในที่สุดHarry Potter And The Goblet Of Fireก็ได้เวลา ลงโรงซะที หลังจากที่ปล่อยให้คนรอตั้งเกือบปีกว่าๆ
เมื่อวานผมก็ตัดสินใจชวนเพื่อนอีก8คน ไปชมHP:GOF ที่Sf Mbk รอบ15.25 โรง3 แถวF2-10ครับ
(ซื้อบัตรล่วงหน้าประมาณ4วันก่อนดูเลยละครับ)
สิ่งที่เยี่ยมที่สุดของการที่ได้ชมภาพยนตร์Harryภาคนี้ ก็คือ ได้ชมตัวอย่างที่เจ๋งมากๆถึง2เรื่อง แถมได้ดูก่อนที่จะ
OnlineทางInternetครับ นั่นคือLady In The WaterและSuperman Returns (แต่แปลกใจว่าทำไมไม่มีHappy Feet)
Lady In The Water อันนี้ ไปอ่านความรู้สึกของผมได้ที่นี่
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3890859/A3890859.html
Superman Returns ผมเชื่อหลายคนคงคาดหวังมากไป แต่พอเอาเข้าจริงกลับผิดหวังครับ คงเป็นเพราะว่า หลายคน
คงได้เห็นภาพบางส่วนจากTeaserนี้แล้ว แล้วก็มีShotใหม่ที่แบบน้อยมากๆ จึงทำให้พอดูแล้วจืดชืด แล้วก็ดูไม่ค่อย
มีอะไรแปลกใหม่ แต่สำหรับนี่คือTeaserที่เจ๋งพอๆกับTeaserเรื่องBatman Begins เพราะว่าถึงแม้ว่าตัวTeaserจะยัง
ไม่ได้เกริ่นอะไรเกี่ยวกับตัวหนังเลยก็ตาม แต่ก็ให้เห็นว่า ตัวอย่างหนังตัวนี้เป็นตัวที่มีความเป็นSupermanแบบฉบับ
ของRichard Donner และมีความเป็นThe Great SuperHeroพอควร ผมเลยรู้สึกว่าเป็นตย.ที่ให้ความหมายได้ดีมากๆ
แล้วก็ยังแฝงอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นกับหนัง ผมชอบเสียงของMaron Brandoมาเป็นVoice Overให้กับ
Teaserนี้ ฟังเสียงเขาแล้ว มันส่งผลความเป็นทรงพลังต่อหนังอย่างเห็นได้ชัด ผมชอบShotที่คนมองบนท้องฟ้าเนี๊ย-
แหละ มันเห็นว่าคนทุกๆคนพยายามจะเอาใจช่วยให้กับClarkหรือSuperman เอาเป็นว่ากว่าจะได้ดูหนังจริงๆ ต้องรอ
ถึงวันชาติอเมริกาปีหน้ากว่าจะได้ดู แต่โดยรวมแล้วTeaserนี้ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆครับ
ไม่เสียเวลาผมขอพูดถึงHarry Potterกันเลยดีกว่า....
.......ตั้งแต่สมัยที่ผมเข้ามามัธยมต้นครั้งแรกๆ มีหนังสทออยู่เล่มนึงที่สร้างสันให้กับชีวิต ในยามที่ไม่มีอะไรทำ เป็น-
หนังสือเล่มแรกที่พยายามที่จะกระตุ้นจิตรนาการของผม ให้สูงขึ้นแบบเป็นทวีคูณ หนังสือที่ให้ความสนุกและก็
ข้อคิดที่น่ารู้หลายอย่าง นำเสนอเรื่องราวโลกพ่อมด-แม่มด แบบไม่เหมือนใคร หนังสือที่ผมสามารถที่จะจินตร-
นาการโลกที่ผมไม่สามารถไปถึงได้ และเรื่องราวการเปรียบเทียบ ต่อเด็กมัธยมในปัจจุบัน อย่างฉะฉาน ชื่อของ
หนังสือเล่มนี้คือ HARRY POTTER......
.......ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้ก็คงจะไม่มีหนังสือเล่มนี้ J.K.Rowlings เธอคนนี้คือทุกๆอย่างต่อหนังสือเรื่องนี้
และเป็นผู้ที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง ให้กับหนังสือเล่มนี้ ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่มีเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่าHarry Potter
สำหรับผม ผมชอบอ่านHarry Potterตั้งแต่อยู่ม.1แล้วละครับ แถมผมอ่านแทบทุกๆคืนก่อนนอน จนไม่กล้า
ปล่อยวางออกไปได้ มันเป็นหนังสือที่วิเศษมากกว่าหนังสือเล่มอื่นๆ (ที่จริงสมัยนั้นผมยังไม่ได้อ่านLOTR เลยคิดว่า
Harry Potterเป็นหนังสือที่เยี่ยมที่สุดตลอดกาล) หนังสือเล่มนี้ผมอ่านทุกเวลาไม่ว่าจะเป็น หลังเลิกเรียน ตอนกลาง-
วัน และหลายๆครั้ง 6เดือนหลังจากที่หนังสือเล่มนี้ออก ทางWBได้ลิขสิทธ์หนังสือเล่มนี้ เตรียมจะมาสร้างเป็นหนัง
ให้ฉายในปี2001 โดยให้Chris Columbusมากำกับ ผมดีใจมากๆตอนนั้น แล้วก็เวลาที่หนัง และหนังสือเล่มใหม่ออก
มาให้วัยๆ เพราะตอนนั้น ผมไม่อยากที่จะรอนาน
ครั้งแรกที่ผมได้ดูHarry Potter And The Socerer Stoneในโรง มันเป็นอะไรอัศจรรย์วิเศษสุดเท่าที่เคยดูมาใน
ตอนนั้น พอดูจบผมรู้สึกเลยว่า เป็นหนังที่ทำได้ดีในทุกๆด้าน หลายอย่างๆทุกองค์ประกอบ แถมเลือกนักแสดง ที่-
มารับบทHarry/RonและHermioneได้ดีมากๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะแสดงได้วิเศษขนาดนี้ สิ่งชอบสุดคือยังสามารถทำ
ให้หนังที่มีความยาวถึง152นาที เรื่องนี้มีความสนุกอยู่เกือบตลอดทั้งเรื่อง และรู้สึกเพลินกับตัวหนังได้ หลังจากนี้
ผมก็ชอบเรื่องราวHarry Potterแบบปฏิเสธ จนกระทั่งLOTR:FOR ออกฉายก็เลยหลับใจทันที แต่ผมก็ยังคิดอยู่ว่า
Harry Potterที่ดูมีสีสันในแง่ดีและความบันเทิงที่สนุกเกือบทั้งเรื่องจริงๆ
และนี่คือความคิดเห็นต่อHarry Potter(ที่ฉายในโรงแล้ว) แต่ละภาค
Harry Potter And The Socerer Stone ผมชอบมากๆนะตอนที่มันยังเป็นหนังสือเป็นเรื่องราวที่สนุกมากๆ
และพออ่นจบก็ทนรอเล่ม2ไม่ไหวแล้ว สำหรับหนังนั้นตอนที่ดูครั้งแรกก็รู้สึกตื่นตาดี และก็ประทับใจการดัดแปลง
แต่ผมกลับผิดการเล่าเรื่อง เหมือนตัดออกไปเยอะจนไม่ค่อยได้เห็นอะไรมาซะเท่าไหร่ พอดูแล้วมันก็รู้สึกประทับใจ
ใช่ไหมครับ แล้วก็รู้เอิบอิ่มกับตัวหนัง แต่พอกลับมาดูอีกรอบ มันก็ไม่ประทับใจเท่าไหร่แล้วแหละ คงเป็นเพราะว่า
รอบแรกคงอินมากเกินไป ก็เลยผลออกมาเป็นแบบนี้ แต่ก็ถือว่าภาคแรกนั้น เป็นหนังFamilly-จิตรนาการ ที่ทำได้ดี
และสามารถดูได้ทั้งครอบครัวได้
Harry Potter And The Chamber Secrets ภาคนี้เริ่มมีเรื่องราวที่น่ากลัว และก็ท้าทายมากขึ้นกว่าเดิม แถม
ยังมีด้านมืดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงความเป็นหนังFamilly-จิตรนาการเอาครบอยู่ ภาคนี้ก็ยังไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยน-
แปลงมากเกี่ยวกับHarry/RonและHermione แต่ยังเสริมตัวละครที่มีสีสันอยู่พอควร ผมชอบมากกว่า ภาคที่แล้วตรง
ที่ภาคนี้ส่วนของมุขตลกขำกว่าภาคก่อน เรื่องราวตื่นเต้นสนุกขึ้นเป็นทวีคูณ และก็ยังมีความเป็นตัวนิยายอยู่ ไม่-
เหมือนกับภาคแรก ที่แบบว่าลืมหลายอย่าง และขาดหายๆเยอะอยู่พอควร แถมภาคนี้จบดีกว่าภาคแรกซะอีก ที่จริง
พอดูจบแล้วก็น้ำตาไหลอยู่พอสมควร
Harry Potter And The Prisoner Of Azkaban ภาคนี้ที่จริงเหมือนเป็นแค่ตัวเสริม(สำหรับผม) คือเรื่อง
ในภาคนี้มันเหมือนไม่ค่อยไปถึงไหนมาก แต่ก็ได้รู้เรื่องอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งในตอนเป็นหนังสือนั้นผมค่อนข้างจะ
เฉยๆกับหนังสือเล่มนี้อยู่พอควร แต่ที่ชอบตัวหนังก็คงเป็นเพราะว่าเรื่องราวการเติบโต การเป็นเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น-
สำหรับHarryนั้น ทำได้มาน่าสนใจมากๆ เราได้เริ่มเห็นอารมณ์ใจคะนองของHarryบ้าง แต่ก็เป็นแค่เล็กๆ เพราะว่า
ในตัวหนังยังมีเนื้อเรื่องกลเม็ดอะไรอยู่พอควร งานนี้ค้องชมผกก.Alfredo Cuar?nจากY'Tu Mama Me Tembian ที่
ถ่ายทอดเรื่องราวส่วนของวัยรุ่นได้ดีจริงๆครับ
(มีต่อ)
แก้ไขเมื่อ 20 พ.ย. 48 11:55:49