สวัสดีครับ
อ่านพบจากหลาย ๆ กระทู้ และจากความคิดเห็นของหลาย ๆ ท่าน ว่า การบริโภควิตามินน้ำมันตับปลา (หรือน้ำมันปลา?) มีผลข้างเคียงทำให้เลือดไม่แข็งตัว และก่อให้เกิดอันตรายจากการเสียเลือดมากขณะคลอด
ก็เลยพยายามหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติม
จากที่ได้พยายามอ่านและค้นหาข้อมูล ได้พบข้อมูลบางส่วนดังนี้ ครับ
1. เกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำมันปลา/กรดไขมัน DHA
อ้างอิงจากบทความ "น้ำมันปลากับสุขภาพ" โดย ดร.นพ.ประสงค์ เทียนบุญ จาก link นี้ครับ http://elib-online.com/doctors2/food_dha01.html
.
น้ำมันปลามีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไร
...
- ป้องกันการอุดตันในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ ทำให้เลือดไม่เกาะตัวกันเป็นลิ่มเลือด จึงไหลเวียนได้ดีขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานดีขึ้น
- มีประโยชน์กับสตรีมีครรภ์ หญิงให้นมบุตรและเด็ก เพราะกรดไขมันดีเอชเอที่แม่รับประทาน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของสมองและตา จึงมีส่วนช่วยในการพัฒนาของสายตา สมอง ความจำ และการเรียนรู้ของเด็ก
.
และอ้างอิงจากหนังสือ "Menu แม่ท้อง" โดย คุณ วิวรรธน์ สำนักพิมพ์รักลูก
.
อาหารสำหรับญิงมีครรภ์ช่วง 7-9 เดือน
... ช่วงสามเดือนท้ายสุดนี้ เจ้าตัวเล็กจะพัฒนาสมองในขั้นสูงสุด งานนี้เป็นธุระของกรดโฟลิก และกรดไขมัน DHA ซึ่งดูจะมีบทบาทมาตั้งแต่เดือนแรก ๆ แล้ว ซึ่งถ้าขาดล่ะก็ ยุ่งเลย เพราะระบบสมองอาจพิการได้ ...
.
2. เกี่ยวกับ น้ำมันตับปลา/Omega-3
อ้างอิงจากบทความ "น้ำมันตับปลากับคุณผู้หญิง" โดย น.พ.วีระ สุระเศรณีวงศ์ จาก link นี้ครับ http://www.clinicrak.com/messages/viewmessage.php?id=2068
.
กลับมาที่การศึกษาของกลุ่มหมอ โรคหัวใจก็พบว่า ปัจจัยอาหารที่บริโภคมีผลต่อการเกิดโรคหัวใจ ที่มีอุบัติการณ์ต่ำในประเทศเหล่านั้น คือการบริโภคปลา จากการศึกษาลึกลงไปก็พบว่าเนื่องจากน้ำมันชนิดหนึ่งมีปลามีผลต่อการลดอุบัติการณ์โรคหัวใจ คือโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว (Omega-3 fatty Acid) ที่เรียกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวนั้นเป็นภาษาทางเคมีบ่งว่ากรดไขมันนั้นยังเติมธาตุไฮโดรเจนได้อีก
ไขมันเหล่านี้เป็นสารที่จะไปสร้างองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์หรือเนื้อเยื่อของร่างกาย ทั้งเนื้อสมองเม็ดเลือดชนิดต่างๆ สารที่เป็นตัวควบคุมการเกิดลิ่มเลือด สารสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย โดยเฉพาะโอเมก้า-3 กรดไขมันตัวนี้จะลดอุบัติการณ์การเกิดลิ่มเลือดที่จะไปอุดเส้นเลือดฝอยของหัวใจ ลดหรือทำให้ไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride) ซึ่งเป็นไขมันอันตรายลดลงต่ำลง
.
3. เกี่ยวกับน้ำมันปลา/DHA/EPA
อ้างอิงจากบทความเดียวกับในข้อ 1. เรื่อง "น้ำมันปลากับสุขภาพ" ครับ
.
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัด ได้จากปลาทะเลน้ำลึกในเขตหนาว ซึ่งน้ำมันปลามีกรดไขมันหลายชนิด ที่ร่างกายของคนเราต้องการ โดย เฉพาะกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า-3 คือ กรดไขมันอีพีเอ (กรดไอโคซา เพนตาอิโนอิก) และกรดไขมันดีเอชเอ (กรดโดโคซาเฮซาอิโนอิก)
.
จากข้อมูลข้างต้นดังกล่าว มีคำถามอยากรบกวนสอบถามข้อเท็จจริงดังนี้ครับ
1. สงสัยว่า น้ำมันตับปลา, น้ำมันปลา, Omega-3, กรดไขมัน DHA/EPA ทั้งหมดนี้คือสิ่งเดียวกันหรือเปล่าครับ?
2. สารส่วนประกอบ ที่กล่าวกันว่า มีผลทำให้เลือดไม่แข็งตัวนั้น คืออะไรกันแน่ครับ? และบริโภคในปริมาณมากขนาดไหน จึงจะทำให้เกิดปัญหาเลือดไม่แข็งตัวครับ?
3. สำหรับวิตามินที่สกัดออกมาเป็น DHA/EPA แล้ว - ฉลากบนขวดคือ DHA/EPA, ไม่ใช่น้ำมันตับปลา/ไม่ใช่น้ำมันปลา/ไม่ใช่ Omega-3 - จะยังมีผลข้างเคียงทำให้เลือดไม่แข็งตัว ซึ่งนำไปสู่อันตรายจากการเสียเลือดมากในขณะคลอด หรือไม่ครับ?
รบกวนท่านผู้รู้ข้อเท็จจริง กรุณาให้ความกระจ่างด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ :)
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 16:32:46
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 16:29:11
แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 50 16:26:32
จากคุณ :
เดินสองดวงจันทร์
- [
26 ก.ค. 50 16:23:48
]