เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นที่ "แฟชั่นไอร์แลนด์"
เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมานี้เองค่ะ
ได้ฟังแล้วคนเป็นแม่ที่มีลูกสาวอย่างเราจิตตกมากค่ะ
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้
เราได้รับฟังจากการบอกเล่าแจ้งเตือนของเจ้าหน้าที่บางกอกแดนซ์ สาขาแฟชั่นไอร์แลนด์นะคะ
ต้องขอขอบคุณมากๆ เลยค่ะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ม.ค. 52
เราพาลูกสาวไปเรียนที่บางกอกแดนซ์ แฟชั่นไอร์แลนด์ ตามปกติ
ระหว่างที่เรานั่งรอลูกสาวเรียนอยู่
เจ้าหน้าที่ฯ ก็เดินเข้ามาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้ปกครองท่านหนึ่ง
ที่พาลูกสาวมาเรียนที่นี่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาช่วง 10.00-11.00 น.
เรื่องมีอยู่ว่า..
คุณแม่ท่านหนึ่ง พาลูกสาวอายุ 6 ขวบ (เราจะเรียนลูกสาวว่าน้องนะคะ)
มาเรียนที่บางกอกฯ ในวันเสาร์ ช่วงเวลา 10.00-11.00 น. ตามปกติ
หลังจากเรียนเสร็จแล้ว จะมีเรียนภาษาอังกฤษต่อที่สถาบันฯข้างๆกัน
(ใครที่เคยมาแฟชั่นฯ คงจะทราบดีว่าสถาบันฯ ต่างๆ ที่เปิดบริการสอนเด็ก
ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งมีเยอะแยะมากมาย และหลากหลาย
ทำให้ปริมาณเด็กๆ ในชั้นใต้ดิน บริเวณทางเข้าด้านหน้าเยอะมากๆค่ะ)
พอดีวันนี้คุณแม่จะงดเรียนภาษาฯ สำหรับน้อง
ดังนั้น หลังจากออกจากบางกอกฯ จึงพาน้องจะไปบอกแจ้งงดเรียนที่สถาบันภาษาข้างๆ กัน
(บริเวณนั้น จะมีซุ้มที่นั่ง เป็นม้านั่งยาวรอบเสาของศูนย์การค้า
ซึ่งจัดอยู่ตรงกลางบริเวณทางเดิน มีประมาณ 3-4 ซุ้มนะคะ
ซึ่งตรงแนวบริเวณที่นั่งก็จะมี ร้านขายน้ำ ขนมปัง ร้านรองเท้าและของเล่นเด็ก)
คุณแม่จึงให้น้องนั่งรออยู่ที่ซุ้มที่นั่งด้านหน้าสถาบันฯ
แล้วตัวเองก็(เจ้าหน้าที่บางกอกฯเล่าว่า)โผล่หน้าเข้าไปแจ้งบอกกับทางสถาบันภาษาฯ ว่าวันนี้น้องงดนะคะ
แล้วก็กลับออกมาหาน้องที่ที่นั่ง ปรากฏว่าไม่เจอน้องค่ะ
บริเวณที่นั่งไม่ได้ไกลกับสถาบันภาษาฯ เลยค่ะ และช่วงเวลาก็แป็บเดียวเอง
คุณแม่รู้สึกตกใจมาก ก็พยายามมองหาน้อง
ปรากฎว่าเห็นหลังไกลๆ ไปกับผู้หญิงคนหนึ่ง ในลักษณะผู้หญิงคนนั้นเขาล็อกตัวน้องไว้ (คงประมาณเอามือคล้องไว้ที่คอด้านหลังน่ะค่ะ)
คุณแม่ท่านนั้นก็เลยร้องเรียกชื่อลูก เห็นว่าประมาณสามครั้งนะคะ
ผู้หญิงคนนั้นเลยบอกเด็กประมาณว่า อะ นั่นแม่มาแล้ว แล้วก็ปล่อยเด็กมา
คุณแม่ก็รีบไปหาน้อง คงด้วยความตกใจและดีใจ จึงไม่ได้สอบถามกับผู้หญิงคนนั้น
(คือระหว่างที่เราฟัง เจ้าหน้าที่เล่า เราก็ถามน่ะค่ะ
ว่าแล้วได้ถามผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า ว่าพาลูกเราไปทำไม
ทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็บอกว่าไม่ได้คุย คงตกใจน่ะค่ะ
อันนี้เราก็เข้าใจนะคะ ลูกหายทั้งคน เจอได้คงจะต้องรีบกอดไว้แน่ๆ เลยค่ะ)
รู้สึกตัวอีกที ก็ไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ทางคุณแม่ก็ได้แจ้ง รปภ. และตำรวจไว้แล้ว
หลังจากนั้นคุณแม่ก็พาน้องไปทานอาหารกลางวัน
ปรากฎว่าน้องทานอะไรไม่ได้เลยค่ะ และรู้สึกปวดหัว มึนหัวมากๆ ค่ะ
เรื่องทั้งหมดนี่ เราได้รับการบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่บางกอกฯ
ที่เขารับฟังจากคุณแม่ที่เกิดเหตุมานะคะ
ผิดพลาดจากข้อเท็จจริงที่เกิดจากคุณแม่จริงๆ ก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ
ไว้ถ้าได้เจอคุณแม่น้องจริงๆ คงจะมีโอกาสได้สอบถามกัน
เพราะเราก็มีลูกสาวคนเดียวอายุ 6 ขวบเท่ากันกับคุณแม่เลยค่ะ
ได้ฟังแล้วทำให้รับรู้ความรู้สึกของคุณแม่ ที่เกือบจะสูญเสียลูกสาวเพียงคนเดียวไปกับมิจฉาชีพพวกนี้
ต้องขอขอบคุณคุณแม่ และเจ้าหน้าที่บางกอกฯ มากๆ
ที่นำเรื่องราวมาแจ้งเตือนกัน เพราะมันใกล้ตัวเรามากๆ
ทำให้ได้อุทาหรณ์ ในเรื่องการปล่อยเด็กไว้ตามลำพัง
แม้บริเวณที่มีคนอยู่เยอะ และแม้เวลาแค่แป๊บเดียว
เราเองใส่ใจกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
หมั่นสอนลูกเสมอเรื่องพูดกับคนแปลกหน้า
และเมื่อมีใครแปลกหน้ามาพาไป ให้ร้องดังๆ
อาจจะใช้ไม่ได้ผล กับกรณีนี้ซะแล้ว
เพราะเหมือนเอาอะไรมาทำให้เด็กเบลอก่อน แล้วค่อยพาไป
กรณีนี้เราจะสอนลูกดีอย่างไรก็คงไม่ได้ผล
ทางที่ดีพยายามให้ลูกอยู่ในสายตาเราตลอดเวลา คงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแล้ว สำหรับเราตอนนี้ค่ะ
จากคุณ :
When you love someone
- [
26 ม.ค. 52 07:40:51
]