เพิ่มเติม:
คำนำ กระทู้นี้ยาวนิดหนึ่งนะคะ หากเห็นว่าไม่น่าสนใจสามารถข้ามไปได้
ที่มาตั้งเพื่อเอาตัวเองเป็นตัวอย่างไม่ดี อย่าให้น้อง ๆ พี่ ๆ เพื่อน ๆ คนอื่นต้องปวดหลังเหมือนจอย เพราะมันทรมานมาก จึงมาเตือนว่าไม่ควรทำพฤติกรรมใด ๆ บ้างที่จอยเคยทำ หรือใครที่ทำบางส่วนของจอยก็กรุณาลดละเลิก เพราะคุณ ๆ อาจทำอีกหลายพฤติกรรมที่จอยไม่ได้ทำที่มีผลต่อการปวดหลัง ปวดขา ปวดแขนก็เป็นได้ค่ะ
ออมสุขภาพมีค่ากว่าการออมเงินหรืออื่นใดอีกนะคะ เพราะหากสุขภาพเราหมดไป มีเงินทองมากแค่ไหนก็ไม่พอมารักษา หรือไม่มีความสุขอีกเลยเพราะ มันบั่นทอนจิตใจมากมาก ถึงสุขก็สุขบนความปวดหลัง ปวดขา
ปล. อย่าลืมหมั่นออมบุญกันด้วยนะคะ เผื่อแผ่ให้บิดามารดา ญาติสนิทมิตรสหาย เจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย เปรตทั้งหลาย และศัตรูหมู่มาร
เนื้อเรื่อง:
เริ่มจากประสบการณ์ตรงที่ไม่ดีของจอยเอง สะสมเนเวลายาวนานตั้งแต่เกิดจนปัจจุบัน ที่มีผลทำให้จอยปวดหลัง จนต้องไปทำกายภาพบำบัด ณ ตอนนี้ (ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายนปี 51 ถึงปัจจุบันที่ตั้งกระทู้ เดือนเมษายน 52)
ต่อมาก็เป็นผลที่ตามมาจากนิสัยไม่ดีของจอยที่ทำมาทั้งหมด
แนวทางป้องกันและข้อควรปฎิบัติในขณะที่ยังดำเนินชีวิตปรกติประจำวันเพื่อให้ไม่มีแนวโน้มที่จะปวดหลังตามมา
ต่อมาก็มีน้อง Jeban มาบ่นเรื่องกระดูกคด พอดีเพิ่งอ่านเจอจึงนำมาบอกกล่าวกันเพิ่มเติม
รวมถึงโรคปวดหลังอันเนื่องมาจาก กระดูกเสื่อม หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระดูกไม่แข็งแรงเปราะบาง
ตลอดจนถึงแนวทางในการทำกายภาพบำบัด และแนวทางในการรักษาต่าง ๆ จอยไม่สามารถลงลึกในรายละเอียดการรักษาได้ ได้แต่แจ้งว่ามีแนวทางใดบ้าง เพราะอาจกลายเป็นการโฆษณาแฝง เช่น การรักษาแบบไคโรแพรกติค ณ ปัจจุบันมีหลายสถาบันเปิดให้การรักษาบำบัดมากมายแต่ทราบว่าราคาแพงมาก เช่นกัน จอยเลือกทำกายภาพบำบัดกับแพทย์แผนปัจจุบัน และการบริหารร่างกายให้เหมาะสมกับโรคที่จอยเป็น
จอยจึงนำ การบริหารร่างกายเพื่อบรรเทาอาการปวดท่าต่าง ๆ มาเผยแพร่ค่ะ
_____________________________________________________________________________
ที่มาตั้งกระทู้นี้ เนื่องจากมีน้องมาถามเรื่องปวดหลังที่กระทู้ข้างล่าง ค่ะ
กอปรกับจอยเองตั้งใจไว้อยู่แล้วว่า หากว่างดีแล้ว ฟื้นตัวจากการเป็นผักกาดอยู่ในเปลือกหอยที่เน่าผุลงทุกวันได้แล้ว เจ้านกกระจอกในหัวหยุดบงการว่า จอยจะเป็นโน่นเป็นนี่แล้ว ..... จะมาตั้งกระทู้นี้ไว้เป็นตัวอย่างไม่ดี แม่ ๆ พ่อ ๆ เด็ก ๆ ลุงป้าน้าอาทั้งหลายที่ผ่านมาอ่าน จงอย่าเอาจอยเป็นเยี่ยงอย่าง และเลี่ยงอย่าทำในสิ่งที่จอยได้เคยทำไปทั้งหมด
จอยจะเล่าท้าวความให้ฟังก่อนนะคะ
ตอนที่จอยท้องลูกคนแรก จอยก็จะกินนอนอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรตอนห้าเดือนหลังก่อนคลอดเพราะมีอาการท้องแข็ง มีภาวะแท้งคุกคามเข้ามา หมอแนะนำให้นอนอยู่กับบ้าน ห้ามแม้แต่ลุกไปขับถ่าย ให้เดินให้น้อยที่สุด ดังนั้นอย่าหวังจะได้ออกกำลังกาย และปรกติจอยก็เป็นคนที่ขี้เกียจมหาศาลอยู่แล้ว แม้แต่เวลานั่งยังชอบพิงเพื่อนข้าง ๆ จนมีพี่คนหนึ่งที่เรียนโทด้วยกันบอกว่า "เจ้านี่มันเป็นไม้เลื้อยมาก่อนแน่เลย เมื่อชาติที่แล้ว"
ระหว่างอยู่เดือนลูกคนแรกจอยไปอยู่บ้านแม่สามี ทำให้ไม่มีห้องนอนของตนเอง ต้องนอนห้องรับแขก ซึ่งที่นอนที่ใช้นอนเป็น sofa bed ที่นิ่มและมีรอนเป็นคลื่น ๆ เนื่องจากการที่สามารถปรับเป็นเก้าอี้ได้ ตรงจุดนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเรา กระดูกของเราไม่อยู่ในสภาวะที่ดีเพียงพอ กล้ามเนื้อเราทำงานหนักเกินไป
พอคลอดลูกคนแรกก็ต้องรีบไปทำงาน งานที่จอยทำ (ณ ตอนนั้น) เป็นการนำโปรแกรมสำเร็จรูปสำหรับแผนกทรัพยากรมนุษย์ไปเสนอให้กับองค์การใหญ่ ๆ ต่าง ๆ เพื่อทำการซื้อไปใช้ ดังนั้นจอยจำเป็นต้องยก laptop บางทีก็ต้องเป็น CPU ตัวใหญ่ ๆ เพราะ Laptop ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ รวมทั้ง LCD Projector และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องยกแบบนี้เกือบทุกวัน เพราะการได้ present สักห้าสิบครั้งจึงจะหาลูกค้าที่ซื้อได้ 1 รายเท่านั้นตามสถิติที่จอยลองคำนวณดู จึงไม่ต้องคิดเลยค่ะว่า จอยได้แบกของหนักเกินสิบกว่ากิโลทุกวันมาเป็นเวลากว่าสิบปี เพราะทำมาตั้งแต่ก่อนท้อง
หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีต่อมา จอยก็มีลูกอีกคนหนึ่ง ซึ่งใช้เวลาห่างกันประมาณหนึ่งปีสองเดือนเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ร่างกายจอยอ่อนแอลงเยอะ เพราะถูกแบ่งแคลเซียมไปให้ลูกทั้งสองในเวลาไล่เลี่ยกันเกินไป ทั้งที่จอยเองทานนมวันละลิตร ณ เวลาที่ท้อง และขณะที่ให้นมลูก ไม่รวมแคลเซียมเม็ดที่คุณหมอให้เสริมอีกด้วยนะคะ
ณ เวลานี้เองที่จอยเริ่มปวดหลังมากขึ้น เพราะการอุ้มท้องลูกคนที่สอง และยังคงไปทำงานตามปรกติ แต่ดีที่ปีนี้จอยได้เปลี่ยนงานมาทำในส่วนของขายโปรแกรมการจัดฝึกอบรมให้กับพนักงานขององค์การใหญ่ ๆ หลาย ๆ องค์การ แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้อง present งานให้ผู้บริหารขององค์การนั้น ๆ รับทราบก่อนที่จะพิจารณาจัดจ้าง แต่ยังดีที่การนำเสนอตามสถิติน้อยกว่าการขายโปรแกรมสำเร็จรูปมาก จากการนำเสนอแค่ 20 องค์การจะขายได้ประมาณ 1-2 องค์การ ทำให้การแบก laptop และ LCD projector มีน้อยลง แต่ก็ยังต้องทำเป็นกจวัตรประจำวันค่ะ ซึ่งนำหนักของสองอย่างนี้รวมกันมากกว่าห้ากิโลแน่นอน และแน่นอนจอยมั่นใจว่าแข็งแรง จึงยกทีเดียวสองชิ้น พร้อมทั้งสะพายกระเป๋าตนเองกับกระเป๋าเอกสารอีกข้างละหนึ่งใบ (ทำไปได้)
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 52 17:33:37
แก้ไขเมื่อ 27 มี.ค. 52 00:32:46