เรื่องเล่าไว้เตือนใจเพื่อนๆค่ะ กับความสูญเสียที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น จึงขอเล่าเรื่องราวไว้เตือนพ่อแม่พี่น้องห้องชานเรือนทุกท่านค่ะ
วันที่ 5/5/2552
- เหตุเกิดดังนี้ค่ะ น้องชาย(ลูกพี่ลูกน้องค่ะ) ไปเดี่ยวที่ดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม ที่นั่นเป็นสถานที่ๆแม่น้ำมาบรรจบกับทะเลเป็นปากอ่าวค่ะ กลางคืนจะมีนักท่องเที่ยวนิยมนั่งเรือกันไปดูธรรมชาติและดูหิ่งห้อยในเวลากลางคืนค่ะ เมื่อน้องชายไปถึงก็มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของเรือ (น่าจะเป็นชาวบ้านแถวนั้นค่ะ) เข้ามาชวนและแนะนำ ฯลฯ จะเป็นไกด์พาเที่ยว โดยนั่งเรือของเค้าไปและตกลงราคาค่าโดยสารกันเรียบร้อยจึงไป เรือที่นั่งไปเป็นเรือ "อีป้าบ" (เรือที่คล้ายกับเรือหางยาวค่ะแต่จะนั่งได้ประมาณ 3-5 คน มีเครื่องยนต์อยู่ด้านหลัง ) ด้วยความที่น้องเค้าไม่เคยไปเที่ยวที่นี่ และมีคนพื้นที่เข้ามาแนะนำจะพาเที่ยวจึงลงเรือไปกับเค้าโดยไม่ทราบว่าเรือทุกลำที่เป็นเรื่อที่พานักท่องเที่ยวๆจะต้องใส่เสื้อชูชืพทุกคนก่อนลงเรือ แต่เรือลำที่น้องชายเราลงไปเพื่อท่องเที่ยวนั้นไม่มีเสื้อชูชืพให้ใส่ ซึ่งน้องก็ไม่ทราบว่าทุกคนต้องใส่ ทุกคนจึงลงเรือไปมีเพื่อนน้อง 4 คน ผู้หญิง 3 คนผู้ชาย 1 คน รวมตัวน้องด้วยเป็น 5 คน เมื่อล่องเรือเที่ยวไปได้ระยะหนึ่งจนถึงเวลาประมาณ 17.00 น. เรือใกล้ถึงปากอ่าว ปรากฏว่าน้ำมันของเรืออีป้าบ ที่น้องนั่งไปนั้นเกิดหมดลง เรือก็หยุดและไหลตามน้ำไปเรื่อยๆคนขับเรือก็นำถังน้ำมันสำรองขึ้นมาแล้วหันลงไปเติมน้ำมัน ขณะที่เติมน้ำมันนั้นทุกคนที่อยู่บนเรือก็หันหลังไปมองคนขับเรือที่เติมน้ำมันกันหมด เพราะเรือลอยตามน้ำไปเรื่อยๆ ก็คิดว่าไม่มีอะไร (ซึ่งในขณะที่หันไปมองกันนั้นกินเวลาประมาณไม่เกิน 1-3 นาที) แต่กระแสน้ำมันไหลแรงมากเพราะเป็นช่วงเวลาที่น้ำทะเลกำลังจะขึ้นพอดี เมื่อคนขับเรือเติมน้ำมันเสร็จก็สตาร์เครื่องเรือทันทีโดยไม่ได้หันกลับไปมองด้านหน้า ทำให้เรือวิ่งเข้าไปชนเรือประมงลำใหญ่ที่จอดอยู่บริเวณปากอ่าว ซึ่งน้ำก็ลึกพอสมควรเพราะเรือประมงลำใหญ่สามารถจอดได้ (ในขณะที่เรือลอยไปเรื่องๆนั้นกระแสน้ำมันไหลเร็วและแรงทำให้เรืออีป้าบที่น้องและเพื่อนๆนั่งอยู่นั้นไหลเข้าไปใกล้เรือประมงที่จอดอยู่โดยไม่มีใครหันกลับไปดูข้างหน้า เพราะมัวแต่มองคนขับเรือกันหมด)
เมื่อเรือชนกับเรือประมงลำใหญ่อย่างแรงทำให้เรือคว่ำและทุกคนในเรือพลัดตกลงน้ำกันหมด เพื่อนของน้องชายเราทั้ง 4 คนนั้นไม่มีใครว่ายน้ำเป็นเลย จังหวะดีที่เรือประมงลำนั้นพึ่งจะมาจอดเทียบเรือได้ไม่นาน ลูกเรือยังลงจากเรือไม่หมด ลูกเรือประมงและคนขับเรือจึงรีบเข้าไปช่วยเพื่อนน้องที่ว่ายน้ำไม่เป็นทั้ง 4 คนขึ้นไปได้ ส่วนน้องชายว่ายน้ำเป็น ซึ่งตอนนั้นลอยคออยู่ในน้ำ ส่วนลูกเรือประมงเมื่อช่วยคนอื่นเสร็จก็จะลงไปช่วยน้องเรา ซึ่งเราก็งง ว่าทำน้องว่ายน้ำเป็นทำไมไม่ว่ายเข้าฝั่งกลับลอยคอยอยู่ในน้ำ ลูกเรือเป็นชายร่างเล็กเห็นน้องเราตัวใหญ่ก็ไม่ลงไปช่วยเนื่องจากเค้าบอกเราภายหลังว่าเค้าคงช่วยไม่ไหวเพราะน้องตัวใหญ่เค้ากลัวเค้าจมไปด้วย ลูกเรือประมงจึงวิ่งไปเอาเชือกที่อยู่บนเรือประมงโยนลงให้น้องชายจับเชือก เมื่อน้องชายจับเชือกได้เค้าก็ดึงน้องชายขึ้นจากน้ำเพื่อขึ้นมาบนเรือ ขณะที่ดึงนั้นโดยความที่เรือประมงมันสูงจากน้ำมากหรือสาเหตุใดไม่ทราบเมื่อดึงขึ้นมาจนตัวและเท้าพ้นจากผิวน้ำแล้วมือน้องชายก็หลุดจากเชือกตกลงไปในน้ำอีก ลูกเรือประมงก็พยายามโยนเชือกเส้นเดิมลงไปอีกแต่น้องชายไม่สามารถจับเชือกได้ เนื่องจากกระแสน้ำมันไหลแลงและพัดตัวน้องชายลอยออกไปไกลกว่าเชือกจะถึง ลูกเรือเรือประมงจึงวิ่งมาที่อีกด้านหนึ่งของเรือเพื่อจะโยนเชือกให้น้องชายอีก พอมาถึงก็ไม่เห็นน้องชายแล้ว ชาวบ้านริมฝั่งบอกว่าน้องชายลอยคออยู่แล้วก็จมลงไป ไม่มีใครกล้ากระโดดลงไปช่วยเพราะกระแสน้ำเริ่มเชี่ยวแรงแรงมาก พอเราทราบข่าวกันเราก็รีบไปที่เกิดเหตุ ในใจหวังไว้ว่าน้องคงจะลอยไปอาจมีชาวบ้านแถวนั้นช่วยไว้ได้ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพอทราบเรื่องก็ช่วยกันดำและตามหาตั้งแต่เวลา 18.00 -23.00 น. แล้วเค้าก็หยุดเนื่องจากน้ำขึ้นเต็มที่แล้วการค้นหานั้นอาจเกิดอันตรายได้
จากคุณ :
degree&soda
- [
7 พ.ค. 52 10:00:04
]