Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ))) ผมก็เคยตามหาพ่อ แบบ ดช.เคอิโงะ นะครับ (((

    ตามกระแสกับเค้าซักหน่อย ไหนๆผมก็เป็นลูกกำพร้าแล้วนี่

    เลยอยากขอใช้สิทธิ์ นั้น เดี๋ยวนี้

    แต่สามีของแม่ผม ไม่ใช่คนเจแปนแดนปลาดิบนะครับ

    เป็นคนไทย นี่ละครับพูดภาษาเดียวกัน นี่ละครับ

    นี่เป็นบทความที่ผมเขียนขึ้นตอนวันเกิดผมเมื่อสองปีก่อนครับ
    ......................................

    แม่ผมหย่ากับพ่อผมทันทีหลังจากที่ทราบว่าท่าน ไม่ได้เป็นเมียแต่เพียงคนเดียวของพ่อผม

    ตอนนั้นผมอายุเท่าไหร่ผมจำไม่ได้ แล้ว 1 ขวบ2ขวบแต่ไม่สำคัญหรอก ที่ผมจะมาเล่นให้ฟัง
    วันนี้คือคือวันที่ผมได้เจอกับคนที่ชาวบ้านเรียกว่าพ่อ หลังจากที่ผมบรรลุนิติภาวะแล้ว

    ผมเคยเจอกับเค้าครั้งสุดท้ายไม่นับตอนเป็นทารกนะคับก็ตอนประมาณ ม.2 เค้ามาทำงานที่
    ชม.ก็เลยแวะมาหาผมมั้ง ฝากเงินให้500บาทบอกเอาไปเปิดบัญชี พ่อจะโอนให้
    แล้วทิ้งที่อยู่เบอร์ โทรไว้ให้ บอกว่าให้เขียนจดหมายหรือโทรไปคุยบ้าง  
    ผมทำทุกอย่างอย่างที่เค้าบอก แล้วทุกอย่างก็เงียบหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็ก ม.2 คนนั้นคือ พ่อคงเป็นสิ่งที่ผมคงไม่มีเหมือนกับเด็ก ม.2ทั่วๆไป


    แล้วเวลาก็ผ่านไป 14ปีได้มั้ง เร็วเหมือนหนังจีนกำลังภายใน  ผมพยายามจนเรียนจบจาก
    มหาวิทยาลับของรัฐ ย่านหัวตะเข้ ด้วยความช่วยเหลือจากยายผมที่ เก็บเงินทุกบาทที่ท่าน
    ขายไข่ต้มตอนเช้า ส่งไปให้ผมเรียน จนท่านเสียไป ที่บ้านผมก็ยังเอาเงินจากซองช่วยงานศพ
    ส่งไปให้ผมเรียนจนจบ ผมคิดถึงยายจัง "เป็นคนเดียวที่รักผมแบบไม่มีข้อแม้จริงๆ"

    ผมจะแต่งงาน หลายๆคนคงเคยอ่านกระทู้ขอแต่งงาน ผบ.ของผม
    ผมเลยมีความคิดที่ อยากจะเจอพ่อผม เชิญท่านมาเป็นเกียรติในงานแต่งงาน ท่ามกลางเสียงค้าน
    จากน้าๆ และน้องสาวที่บ้านผม ว่าจะเชิญมันมาทำไม........

    ผมโทรไปตามเบอร์ที่เคยให้ เค้าบอกย้ายไปนานแล้ว ..เอาไงดี
    ผมพยายามหาโดยเอานามสกุลที่เป็น สิ่งเดียวที่พ่อมผม ทิ้งไว้ให้เป็น มรดก ไป หาใน
    เวปของ ทีโอที เลือภาคที่พ่อผม เกิด
    ว่ามีชื่อพ่อผม มั้ย เจอคับ แต่โทรไปแล้วไม่ใช่ ปรากฏว่า เค้าเป็นชาวสวนมะพร้าว ลูกคนแรกเพิ่ง
    2ขวบ ว้าคงไม่ใช่
    เอาไงดี  ก็เลย ลองโทรไปทุกเบอร์ที่ นามสกุลเดียวกัน แล้วอยู่จังหวัดใกล้กัน  ทั้งหมด 137หมายเลข
    ลองถามว่ารู้จัก คนนี้มั้ย ที่เคยทำงาน ที่ นี่ บลา ๆๆๆๆๆ

    หมายเลขที่ 1 ไม่ใช่
    หมายเลขที่2 ไม่ใช่
    หมายเลขที่3 ไม่ใช่
    .
    .
    หมายเลขที่25 ใช่คับ เป็นลุงผม  เค้ารู้แม้กระทั้ง ชื่อเมียคนแรก ที่ ตามมาแหก อกแม่ผม เค้าเปรย ว่า
    เหมือนในทีวีเลขที่ลูกมาตามหา พ่อ หรือ พ่อมาตามหาลูก  ผมยอมรับ ว่าอายมาก ทำไม ไม่ทราบ  
    ลุงผมบอกว่าจะโทรไปที่บ้านญาติแล้วจะบอกให้ญาติโทรไปบอกพ่อผม ว่าลูกชายคนเดียว(หรือเปล่า)
    ที่เชียงใหม่ โทรมาหา ผมฝากเบอร์ มือถือ ...ด้วยความหวังอันน้อย นิดกับคนที่เค้าบอกว่าเป็นลุงผม
    1วันหรือ 2 วันผ่านไป ลุงคนนั้น โทรกลับมาบอกว่าเจอตัวแล้ว นะ บอกให้แล้ว แล้วพ่อผม โทรมาบอกว่าจะโทรมาเอง

    ....ผมจำไม่ได้ว่า กี่วันกว่าพ่อผมจะโทรกลับมา เสียงแรกที่ได้ยิน
    " ฮัลโหล อู๊ดเหรอ นี่พ่อนะ (นามสมมุติ) "
    นี่เหรอพ่อ ที่ชาวบ้านมีกัน  พ่อผมไม่รู้จะคุยอะไรเพราผมไม่ชวนคุย
    เลยได้แต่ถามหา คนที่เค้ารู้จักตอนที่มาจีบแม่ผม
    "แม่เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย "
    เสียแล้ว คับ เป็นมะเร็ง
    เงียบบบบบบบบบบบบบบ
    "ยายละยังแข็งแรงดีมั้ย "
    ตายแล้วคับ โรคชรา
    น้าละ(คนที่ช่วยเลี้ยงผมตอนเด็ก)
    เสียแล้วเหมือนกันคับ

    เงียบบบบบบบบบบบบบบบบ

    ผมไม่ได้กวนเท้านะคับ มีอยู่ช่วง 1บ้านผม 3ปี คนในบ้านตายกันไป 5คน
    ผมไม่อยากเล่า มันเศร้า ประมาณ ว่าจัดงานศพกันจน สับเหร่อ ที่ป่าช้า จำได้ ละกัน
    แล้วพ่อผม บอกว่าไม่นานจะขึ้นไป ชม.ก่อนผม แต่งงานคงได้เจอกัน
    ผมก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าคงได้เจอกัน  .............


    ....แล้วโทรสับก็ดังขึ้น บอกว่า พ่ออยู่ชม.แล้ว ตอนนี้มาเที่ยวที่ดอยลูก 1
    เย็นๆ เจอกันที่ นี่ละกัน จะได้คุยกัน......
    วันนั้นที่ ที่ผมเคยทำงาน มีงานเลี้ยงลูกค้าใหญ่โต ผมไม่ไป บอกคนที่ทำงานว่า
    จะไปหาพ่อ เค้างง กัน เพราะเค้ารู้แต่เพียง ว่าผมเป็นเด็กกำพร้า ทุกคนยินดี
    แล้วบอกให้ผมรีบไป จะได้ไม่ไปช้า  ทีแรกผมจะไปตัวเปล่า
    แต่ ผบ.บอกว่า น่าจะมีของไปไหว้ผู้ใหญ่ด้วย เป็นมารยาทที่ดี ผมเชื่อ ก็เลยเสีย
    เวลาไปซื้อของอีก แล้วก็รีบไปรอที่ ที่นัดกันไว้.....แต่ก็ไม่มีใคร มา
    (ลองหลับตานีกภาพของคนที่ไม่เจอพ่อมา14ปี ยืนถือกระเช้า หันซ้ายหันขวา
    ไปๆมาๆ อยู่2ชั่วโมง ถ้าคุณเคยเห็น นั้น ผมเองล่ะคับ)

    ผมรอไปอีกซักพัก โทรสับก็ดังขึ้น พ่อผมบอกว่าหลงดอยอินทนนท์คับ
    ผมร้องไห้ในใจ ดอยอินทนนท์ กับ ที่ที่ผมนัดเจอกันไกลก็จริง แต่เลี้ยวซ้าย
    แค่ครั้งเดียว หลงทาง หรือมาไม่ทันเพราะ ไม่ให้ความสำคัญกับผม
    ผมเลยบอกว่า ผมจะไปเจอที่โรงแรมที่เค้าพักละกัน ตอนเช้าตรู่ ...


    ...เช้าวันนั้น ผมโดยพ่อผมโทรตามแต่เช้า ให้รีบมาหา ผมเลยบอกไปว่า
    นี่ชม.นะ 6โมงเค้ายังไม่ตื่น แล้วผมก็มีรถขับไปเอง ไม่ได้โหนรถเมล์
    ไม่ช้าหรอก เดี๋ยวได้เจอกันแน่นอน

    แล้วผมก็ออก จากบ้านขับรถไปที่โรงแรม .. ใจมันเต้นแรงคับ
    เพราะจำได้เลือนลางมาก
    จอดรถ บิดกุญแจ ดับเครื่อง หยบกระเช้า เดินเข้าไปในโรงแรม
    ใจผมเต้นแรง มาก พ่อผม จะอบอุ่น น่ารัก อย่างที่ผมวาดฝันเหมือนใน
    หนังไทยหรือเปล่า อีกไม่กี่เก้าผม จะได้รู้แล้ว
    ..แล้วผมก็เดินถือกระเช้า เดินผ่านชายผิวคล้ำคน1ไป แล้วเดินไปมากโต๊ะ
    อื่นๆอีก ชายคนนั้นโบกมือให้ผม "ผมเจอแล้วคับ"

    ...ผมเดินเข้าไปสวัสดีพร้อมยืนกระเช้าให้พร้อมๆกัน พ่อผม ชวนให้นั่งทาน
    อาหารเช้าด้วยกัน ผมก็นั่งลง พูดคุยกันตามปกติ คับเรื่องที่ผมจะเชิญมางานแต่งงาน
    นั้นแหละ ผมไม่รู้จะคุยอะไร เพราะ28ปีในชีวิตผม พ่อคือสิ่งที่ผมไม่เคยสัมผัส
    แล้วสิ่งที่ผมไม่อยากเจอ ผมก็เจอจนได้ คับ ชาวบ้านเรียกว่า แม่เลี้ยง เธอเดินมานั่งที่
    โต๊ะ พร้อมจานขนมปังปิ๊ง มานั่งทานด้วยกัน มานั่งฟังผมคุยกัน  บ้าไปแล้วคับ
    ผมขอเวลาส่วนตัวคุยกันไม่ได้เหรอ  
    เวลานี่ไม่ต้องการสังขีพยาน  จากผมที่ไม่พูดอยู่แล้ว คราวนี้ไปเงียบเลย
    และแล้วสิ่งผมอยากฟังจากพ่อผม คือทำไมถึงไม่เลี้ยง เค้าก็พูดออก มาเอง เป็นคำพูดที่ผมคิดว่าไม่
    พูดซะเลยจะดีกว่า

    ....พ่อผมบอกว่า แม่ผมทราบว่าพ่อมีเมียอยู่แล้ว แต่ก็ยังอยากจะอยู่ด้วย
    ....พ่อผมบอกว่า ที่ไม่ได้เอาไปเลี้ยงเพราะแม่ผมไม่ให้เอาไปจะบอกว่าพ่อไม่รับผิดชอบไม่ได้นะ

            ผมอยากจะร้องไห้ ตรงนั้น นี่หรอ สิ่งที่ผมวาดเอาไว้ ตลอด 28 ปี

    ผมตอบพ่อผมในใจว่า  
    ...แม่ผม อดีตเมียคุณ ก็ตายไปแล้ว มันจะจริงหรือไม่จริง ไม่พูดได้มั้ยให้เกียรติ
    ผู้หญิงที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเมีย แล้วก็ตายไปแล้ว โดยที่ไม่เคยมีผช.มาเกี่ยวข้องหลังจากเลิกรากับคุณไป
    ...ถ้าเอาไปเลี้ยงไม่ได้ เงินซักสลึง ส่งมาเลี้ยงดูกันบ้างก็ได้ นี่สายเลือด นะ ไม่ใช่หมา หรือแมว

    ผมไม่พูดอะไร แล้ว ไม่มีอะไร จะต้องคิด ผมลากลับ เดินออกมากลั้นน้ำตา มาตลอดทาง จนถึงรถ
    (อย่าร้องตอนนี่ อายเค้า ผมนึกในใจ)
    ผมกำลัง จะถอยรถกลับ พ่อผมเดิน ตามออก มา แล้วมายืนที่ข้างกระจก
    แล้วพูด ว่า
         "มีอะไรให้พ่อช่วยก็บอกนะ"
    พ่อคับ ผมว่าพ่อควร พูดว่า
         "จะให้ช่วยยังไงบ้างบอกมา เลยนะไม่ต้องเกรงใจ"

    แล้วผมก็ลากลับไปทำงาน วันนั้นผมทำอะไร ไม่ได้เลย มันล่องลอยมาก
    แอบไปร้องไห้เงียบคนเดียวในห้องน้ำสำนักงาน  แล้วตอนบ่ายก็ลากลับบ้าน
    ไม่อยากตอบคำถามคนที่ทำงาน เลย.......

    ........................

    ข้อความนี้ผมเขียนขึ้นเมื่อสองปีแล้วนะครับ

    สองปีที่แล้วผมยังไม่มี เด็กชายต้นพุฒอยู่ที่ในบ้านผม

    วันนั้นผมยังไม่ได้เป็นพ่อคน

    แต่วันนี้ผมเป็นพ่อคนแล้ว ผมเริ่มเข้าใจ ว่าชีวิตคู่มันเป็นส่วนผสมอะไรต่างๆมากมาย

    ที่ไม่ใช่แค่รักอย่างเดียว ผมไม่ว่าอะไรท่านะครับ ที่ไม่เคยแสดงความรักอะไรให้ผมเลย

    ทั้งๆที่โทรศัพท์ตอนนี้เหลือราคา ไม่ถึงสลึงต่อนาที

    ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร

    แต่ผมนั่งดูข่าวไป ผมอดสงสารเด็ก ลูกครั่งคนนั้นไม่ได้

    ว่าเค้ากำลังตกเป็นเหยื่อ ของความกระหายที่จะขายข่าวของสังคมมากจนเกินไปแล้ว

    สังคมกำลังจพสร้างแผลเป็นให้ เด็กคนนี้เสียแล้วมั้ง

    ถามว่าทำไม นะเหรอ?

    ก็เหมือนผมไงครับ

    ผมยังคิดไปว่า ถ้าสองปีที่แล้ว ผมไม่ไปเจอ ผช.คนนั้น

    ผมปล่อยให้พ่อผมเป็นจินตนาการที่สวยงาม

    เป็นผช.ตัวอ้วนแสนใจดี รักและคิดถึงผมเสมอ เสียยังจะดีกว่า

    เจอแล้วแต่กลับต้องยิ้มให้กันด้วยความไม่เต็มใจ

    เพราะสังคมหวังว่าจะให้ละครชีวิต จบแบบHappy Endingแบบละครทีวี

    ท้ายนี้ ยังไงผมก็อยากขอบพระคุณเส้นทางชีวิตที่แสนลำบากทางนี้

    และผมจะพยายามตั้งใจเลี้ยงดูลูกชายให้ดีที่สุดแม้ผมจะไม่เคยเห็นตัวอย่างดีๆก็ตามครับ ^^

     
     

    จากคุณ : กระเทยชายแดน - [ 23 พ.ค. 52 00:42:15 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com