ความคิดเห็นที่ 1 โอ๊ะ ขออภัยค่ะ ผิดห้องหรือเปล่า... ถ้าผิดแจ้งลบได้เลยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 10:34:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 กินไฟ ไม๊ ไม่แน่ใจค่ะ ประมาณ ว่ารอบละ 10 บาทกว่ามั๊งคะ อันนี้กะๆ เอาก็ครั้งละ 1-1.5 ชม.ค่ะ แต่คำถามว่า หด หดจริงค่ะ บางชิ้น และที่ว่าเนื้อผ้าฟู ขึ้นจริงค่ะ ก็ที่บ้านใช้ เครื่องซักผ้า 6 โล อบ 5 โลค่ะ เพราะว่าผ้าแต่ละรอบการอบได้ 15 ชิ้นอ่ะนะ ผ้าก็แห้งฟูกะลังดี ยี่ห้อก็ e-lux คะ พอเดาได้มั๊งคะ แต่จริงๆ ยี่ห้อแล้วแต่ชอบค่ะมันมี Function ต่างๆ ก็แล้วแต่ชอบอีกแหละ ลองไปเดินดูให้ครบทุกยี่ห้อ แล้วตัดสินใจอีกทีนะคะ จาได้ไม่ต้องง้อแดด แบบเราค่ะ โชคดีค่ะ จากคุณ : nameless girl - [ 30 พ.ค. 52 10:44:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากๆ ค่ะ จริงๆ ลอง search ดูก่อนแล้วค่ะ ส่วนมากเชียร์ E-lux กะ SM แต่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องผ้าหด...ผ้าประเภทไหนบ้างคะที่หด พวกเสื้อยืดหรือเปล่าหนอ ที่หดนี่เพราะคุณภาพเส้นใยไม่ดีมั้งคะ แอบเดา จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 10:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ว่าจะซื้อเหมือนกัน มารอข้อมูลด้วยค่ะ จากคุณ : parn-pan - [ 30 พ.ค. 52 10:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยินดีค่าคุณ parn-pan จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 11:28:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เราเลือกเครื่องที่ขายของวีรสุค่ะ เป็นของอังกฤษ ขนาดพอดีๆเค้ามีตั้งแต่รุ่นเล็ก ถึงรุ่นใหญ่ ของเราใช้ขนาด 6 กิโล ใช้ดีนะคะ อบผ้าขนหนูไม่หดเลยค่ะ แต่ต้องระวังพวกผ้า wool จะหดค่ะ ตั้งเวลาการอบได้ตามจำนวนของผ้าที่ใช้และประเภท ปกติของเราเองนี่อบเสร็จใหม่ๆเอามีทับหรือรีดนิดเดียวก็เรียบเลยค่ะ สะดวกกว่าจริงๆค่ะ ยังไงลองแวะเข้าไปดูที่ร้านวีรสุดูนะคะ แล้วลองเทียบดูหลายๆยี่ห้อค่ะ จากคุณ : Sary'sPrince - [ 30 พ.ค. 52 11:55:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าผ้ายืดที่ดีๆจะไม่หดนะคะ เท่าที่ใช้มากับบ้านใหม่ประมาณ 3 ปี ยังไม่เจอผ้าหดเลยค่ะ แต่ผ้าจะดูเก่าเร็วกว่าแบบตากแห้งค่ะ หรือสีจะซีดเร็วกว่าค่ะ แต่เราชอบอบค่ะ ติดจากตอนอยู่ต่างประเทศ แล้วที่บ้านจะซื้อแผ่นอบผ้าหอมๆมาด้วยค่ะ (เมืองไทยไม่รู้มีขายหรือเปล่า อาจจะมีที่วิลล่า ไม่แน่ใจค่ะ)จะทำให้ผ้าฟูนุ่มและหอมค่ะ โดยเฉพาะผ้าเช็ดตัว ถ้าตากแห้งจะแข็งๆค่ะ ถ้าอบจะนิ่มกว่า อ้อ เสื้อผ้าลูกด้วยค่ะ อบมาหอมมมมนิ่มมากเลย อย่างเสื้อยืดถ้าเอาจากที่อบเร็ว ก็แค่สะบัดๆแล้วพับเลยค่ะ ไม่ต้องรีดเลย ส่วนยี่ห้อ ลองเดินๆไปเลือกดูค่ะ มีหลายขนาด ต้องดูจากการใช้งานเป็นหลัก แล้วก็พื้นที่ใช้สอยด้วยค่ะ จากคุณ : กระติกน้ำสีเขียว - [ 30 พ.ค. 52 12:04:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องเปลืองไฟสำหรับบ้านเราแปรผันตามการใช้แอร์มากกว่าค่ะ ซื้อเครื่องอบผ้ามาก็ยังจ่ายค่าไฟเท่าเดิมไม่แตกต่างเลย เรื่องหด เวลาซื้อเสื้อผ้ามา จะมีป้ายที่คอหรือข้าง ๆ บอกไว้ว่า อบได้หรือไม่ ให้ดูสัญลักษณ์ สี่เหลี่ยมล้อมวงกลมไว้หนะค่ะ หากไม่มีป้ายนี้ก็ดูเนื้อผ้าเอา หากเป็นผ้า wool ผ้าซักมือไม่ควรอบค่ะ แต่ที่บ้านอบหมดเลย เพราะนุ่มดี หอมด้วย อ้อ มีอีกอย่างที่ไม่ค่อยดีคือใยผ้าจะออกมาเยอะมาก เวลาติดตั้งควรหาที่ ๆระบายอากาศได้ดี เพราะอาจมีฝุ่นผ้าเยอะค่ะ อีกอย่างคือเมื่อใยผ้าหลุดออกมาเยอะในแต่ละครั้งจะทำให้ผ้าเปื่อยเร็วค่ะ ดังนั้นอายุการใช้งานของเสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะสั้นลงนะคะ แต่อันนี้จอยชอบเพราะมันทำให้เราไม่เสียดายที่จะโละเสื้อผ้าเก่าที่ใส่นานเกินสามปีขึ้นไปทิ้งซะ ใช้ อี ลักซ์ ด้วยเหมือนกันค่ะ ประมาณห้าหกโลนี่แหละ หากจำไม่ผิด ใช้ดีค่ะ แต่เห็นที่วีรสุถูกกว่า น่าสนใจ แต่พอดีตอนที่เห็นหนะซื้อไปแล้ว อิอิ จากคุณ : แม่น้องเอเอ - [ 30 พ.ค. 52 12:31:50 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณ Sary'sPrince และ คุณกระติกน้ำสีเขียวมากๆ ค่ะ... (เสียดายจัง ให้ใจคุณกระติกน้ำสีเขียวไม่ได้อ่ะ...) ท่านใดมีประสบการณ์ตรง ช่วยแชร์ด้วยนะคะ เห็นว่ามีหลายระบบด้วย แบบมีท่อ กะ ไม่มีท่อ... จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 12:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณแม่น้องเอเอมากค่ะ ที่ทำงานอยู่ติดกะวีรสุเลยค่ะ เด๋วแวะไปดูจ้า เร็วๆ นี้จะมีงานลดเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้างไหมคะ อิอิ อยากได้ 0% ซัก 6-10 เดือน หุ หุ จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 13:12:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มายืนยันอย่างเดียวว่ามันเปลืองไฟจริงคะ แต่ว่าก็คุ้มสำหรับหน้าฝนแบบนี้ ผ้าอ้อมเจ้าตัวเล็กกับเสื้อผ้าเค้ามันจะแห้งไม่ทัน T_T เดือนเดียวแอร์ด้วย อบด้วย  ประมาณสองพันหน่อยๆ คะ จากคุณ : love-so - [ 30 พ.ค. 52 14:09:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 1. กินไฟมาก จริงไหมคะ --ไม่แน่ใจเพราะเราเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืน (เลี้ยงลูกจะ 2 เดือน แระ) ค่าไฟประมาณ 2,6** คอม+ไมโคร+ตู้เย็น แอร์ 3 ตัว+ทีวี 3 เครื่อง ) ปล.ซัก+อบแห้งผ้าอ้อม ทุกวัน 2. อบแล้วผ้าจะหด เช่นเสื้อยืด ผ้าขนหนู จริงหรือเปล่าคะ (มีคนบอกมาอีกที) --เสื้อยืดหดจริง ยีนส์ก็หด คร่า 3. อบแล้วผ้าฟู นุ่มขึ้น จริงรึเปล่าคะ --ก็นิดนึงนะ ผ้าบางชนิด 4. ควรซื้อขนาดกี่กิโลดีคะ --ประมาณ 6 ก็ดี 5. แนะนำยี่ห้อด้วยค่ะ (ถ้าผิดกฎ รบกวนแจ้งหลังไมค์ก็ได้ค่ะ) SM ทั้งอบแห้ง และปั่นหน้าเลย แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 14:25:42 จากคุณ : เนยหวาน (มันเป็นงึกๆงักๆ) - [ 30 พ.ค. 52 14:24:47 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ของเรามันมีทั้งแบบใช้อุณภมิแบบร้อน ปานกลาง แล้วก็ลมเย็นคะ ถ้าเป็นผ้าที่หดก็ใช้ลมเย็นปั่นแห้งก็ได้คะ เหมือนไดร์เป่าผมอะคะ จากคุณ : deepai - [ 30 พ.ค. 52 14:35:46 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เมืองไทยแดดแรงก็ตากผ้าได้สบายๆหลังจาก ออกจากเครื่องซักผ้าแล้ว ดิฉันก็มี พอดีไม่ได้อยู่เมืองไทย ประเทศในยุโรปหลายประเทศไม่ได้มีแดดทุกวัน ยกเว้นก็แต่แถบสเปน กรีซ หรือโปรตุเกส แถบนี้แดดจะแรง ร้อนตับแล่บเวลาหน้าร้อน นึกถึงเมืองไทยเลย แต่ก็ร้อนคนละอย่าง เนี่ยร้อนแบบแอฟริกางัย สมัยก่อน ก่อนที่จะซื้อเครื่องอบผ้า เมื่อสัก5-6ปีที่แล้ว คุณเอ๋ย ต้องตากผ้ากันในบ้านเลย ตากสามวันสี่วัน กว่าจะแห้งสนิท ถ้าไม่แห้งสนิทกลิ่นมันจะเหม็นอับ พอซื้อมาแล้ว โหหหหหหย สุดยอด รู้งี้ซื้อนานแล้ว ฮ่าๆๆๆ คือมันสะดวกจริงๆๆ เอาผ้าที่ซักแล้วออกจากเครื่องซักผ้าปั๊บ ก็เอาใส่เครื่องอบเลย อบ 90 นาทีสำหรับเสื้อผ้าบางๆ 120 นาทีสำหรับผ้าหนาๆพวกกางเกงยีนส์ทั้งหลาย โปรแกรมเยอะมาก จะเอาแบบไหน จะเอาแบบแห้งสนิท สะบัดๆๆใส่ได้เลย หรือ จะเอาแบบแห้ง 90% ส่วนใหญ่ดิฉันเลือกแบบสะบัดๆๆใส่ได้เลย ซักเสร็จ อบเสร็จ พับรีดเก็บในวันนั้นเลยทีเดียว แต่อ่ะนะ เรื่องผ้ายังงัยก็ต้องแยก ทั้งซักทั้งอบ ป้ายจะมีบอกว่า เสื้อตัวนี้ได้กี่องศา ปั่นได้ไหม เข้าเครื่องอบได้ไหม ต้องคอยระวัง ดิฉันเสียเสื้อไหมพรมกับวูลของตัวเองกับลูกไป สองสามตัวแล้วค่ะ อ้อ.. เครื่องอบเนี่ย มักจะทำให้กลิ่นจากน้ำยาปรับผ้านุ่มหาย ดังนั้นคุณจะใส่เยอะยังงัยกลิ่นก็หาย แต่เค้าจะมีแบบแผ่นผ้าบางๆๆเป็นกลิ่นน้ำหอม สำหรับเครื่องอบผ้าโดยเฉพาะ ใส่ไปแค่แผ่นเดียว กลิ่นเนี่ยหอมติดเสื้อผ้าเลยล่ะ จนฝรั่งถามว่าทำไมเสื้อผ้าเธอกลิ่นหอมสะอาดจัง ฮ่าๆๆๆ อีกอย่างดิฉันไม่ได้ขี้เหนียวน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือแผ่นน้ำหอมเหมือนคุณแม่บ้านฝรั่งทั้งหลาย สรุป มีมันก็ดีนะคะ มันก็สะดวกสบายเรา สะบัดๆๆก็ใส่ได้เลย อาจจะเปลืองไฟบ้างก็เท่านั้น แต่บ้านเรา แดดมันแรง พอที่จะทำให้เสื้อผ้ามันแห้งสนิท แถมกลิ่นก็หอมจากแดดด้วย ถ้าดิฉันอยู่เมืองไทย คงจะไม่ซื้อหรอก เพราะมันเกินจำเป็น ... ความคิดเห็นส่วนตัวน๊าค๊า ยกข้อดีข้อเสียให้แล้ว ... จากคุณ : Dylan&Liam (preeya_adam) - [ 30 พ.ค. 52 15:05:41 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณคุณเนยหวาน และ คุณ deepai คร่า เราต้องเลือกเครื่องที่ปรับอุณหภูมิได้ มีระบบอบด้วยลมเย็น และคาดว่าก่อนที่จะอบ ควรแยกประเภทเสื้อผ้า เช่น ผ้าบางรอบนึง เสื้อยืดอีกรอบนึง ใช้ความร้อนต่างกัน.... จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 15:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณคุณ Dylan&Liam (preeya_adam) คร่า เห็นด้วยเรื่องแดดที่เมืองไทย ดิฉันก็ชอบกลิ่นไอแดดค่ะ ช่วงไหนแดดดีๆ ซักผ้าได้วันละหลายกระบุง เพราะเครื่องก็ปั่นหมาดๆ ให้แล้ว แต่เพราะเป็นสาวออฟฟิส มีเวลาซักผ้าแค่วันเสาร์ หรือ วันอาทิตย์ ผ้าก็เยอะ ทั้งของคุณลูก คุณสามี ผ้าขาว ผ้าสี ผ้าต้องถนอม ต้องแยกซักหมดค่ะ บางช่วงเจอผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้านวม ผ้าเช็ดตัว ถ้าแดดดี แป๊บเดียวก็แห้ง พับเก็บได้เลย แต่ถ้าหน้าฝน...ไม่ต้องพูดถึงค่ะ บางทีต้องเลือกเลยว่าอะไรสำคัญที่สุด ก็ชุดนักเรียนคุณลูกนั่นเอง... นอกนั้นก็ดองเอาไว้ก่อน... ที่ตัดสินใจจะซื้อก็กะเอาไว้ใช้หน้าฝนเนี่ยะแหละค่ะ เดี๋ยวนี้เมืองไทย หน้าฝนยาวนาน ตกทุกวัน ทั้งวันอีกต่างหาก บางอาทิตย์ตากผ้าในบ้าน ต้องเปิดพัดลมช่วย...เปิดทั้งวันทั้งคืนเลยเชียว ว่าแต่แผ่นผ้าบางๆ กลิ่นน้ำหอม สำหรับเครื่องอบผ้า...หาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ แพงระป่าว ...แบบว่าชอบผ้าหอมๆ เหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ประโคมน้ำยาปรับผ้านุ่มแบบไม่เกรงกลัวว่าเปลือง....กันเลยเชียว เหอๆ ยังไม่ทันซื้อเครื่องอบ...อิชั้นถามหาแผ่นน้ำหอมสำหรับเครื่องอบซะแล้น....หุ หุ แก้ไขเมื่อ 30 พ.ค. 52 16:07:59 จากคุณ : Mine&Yoo - [ 30 พ.ค. 52 16:04:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เคยซื้อ ยี่ห้อดาวน์นี่ เหมือนน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดอ่ะคะ กล้องละสองร้อยนิด ๆ หอมทั้งบ้านเลย ผ้านุ่ม ๆ ดีค่ะ ชอบ แต่แอบแพง ตอนหลังเลยซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มดาวน์นี่ที่เป็นขวด ๆ ใช้แทน แต่คนละฟิลกันอะนะ จากคุณ : แม่น้องเอเอ - [ 30 พ.ค. 52 17:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เออ ลืมบอกว่า หาซื้อได้ที่ Villa Market, TOPs Market Place and TOPs The crystal park  The Mall, Emporium, Paragon ค่ะ จากคุณ : แม่น้องเอเอ - [ 30 พ.ค. 52 17:02:41 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สนับสนุนค่ะ... ข้อมูลคงได้ไปเยอะแหละ แต่อยากแนะนำให้เลือกเครื่อง ที่อบได้ประมาณ 10 โลขึ้นไป 1.ทำให้ผ้าไม่ยับ เพราะพื้นที่เยอะ (อันนี้เดาเอาเองนะคะ) 2.อบ ผ้าห่ม ผ้าปู ผ้าม่านได้ค่ะ ที่บ้านใช้แบบ 13 กิโล ของ Whirpool ค่ะ จากคุณ : twas - [ 30 พ.ค. 52 21:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ูไม่รู้จะบอกยังไงดี... เอาเป็นข้อๆล่ะกัน 1. จำเป็นหรือไม่ อยู่ที่งบประมาณครับ 2. กินไฟไหม มันก็รู้สึกเหมือนรถยนต์น่ะครับ ซื้อมาแล้ว จะใช้ก็ใช้ ไม่ค่อยได้ดูว่ากันกินไม่กินหรอกครับ (แต่เ่ท่าที่สังเกตคร่าวๆ ไม่ทำให้ค่าไฟต่างกันเป็นเท่าน่ะครับ) 3. อบแล้วจะหดหรือฟู อันนี้ไม่แน่ใจ(พวก Wool มันหดจริงครับ แต่ลองไปดูตู้เสื้อผ้าเมืองไทยกันได้ว่า มีกันกี่ตัวกันเชียว โดยมาก Cotton กับ Polymer ทั้งนั้น) แต่รู้สึกได้ว่ามันจะทำให้ผ้าเสียเร็วขึ้น แต่ก็รู้สึกอีกว่า ก่อนหน้านี้ต่อให้ไม่ใช้เครื่องอบ ก็ต้องซื้อเสื้อใหม่อยู่ดี (คือ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องซื้อเสื้อผ้ามากกว่าก่อน) 4. ใช้ยี่ห้อ S..m.. อยู่ ก็คิดว่าพอใจระดับนึงครับ (แอบไม่เห็นด้วยว่าต้องใช้เครื่องใหญ่จะดีเสมอไป เพราะว่าจะอบน้อยจะได้ไม่เปลือง(หลายครั้งที่จะใช้พรุ่งนี้ ก็ซักอบมันคืนเดียวจบเลย) จะอบเยอะๆ ก็ใช้ 2 ครั้งต่อกันก็ได้) 5. ยี่ห้อนี้ ข้อดีคือ ใช้ระบบควบแน่น ไม่มีไอน้ำออกมาจากตัวเครื่อง แต่ต้องเทน้ำทิ้งหลังใช้เสร็จแต่ก็จะกินไฟน้อยกว่า ยี่ห้ออื่นมันจะพ่นไอน้ำร้อนออกมาเลย แล้วจะกินไฟมากกว่าครับ จากคุณ : wanchale - [ 31 พ.ค. 52 03:05:42 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ฮ่าๆๆๆ เห็นมั้ยล่ะว่าต้องชอบตรงแผ่นน้ำหอม แหะแหะแหะ แต่ไม่รู้ว่าบ้านเรามีขายที่ไหนน่ะสิคร๊า แต่รับรองแค่แผ่นเดียว คุณเอ๊ยยยย หอมจนบ่นว่าปวดหัวเลย ฮ่าๆๆๆ แล้วอย่าบ่นล่ะ แต่เราชอบนะ ถ้าเสื้อผ้าหอมๆๆเราว่ามันสะอาดงัย เวลาใส่เเล้วมันสดชื่นดีนะ ถ้าฝนตกมันยาวนานก็ปกติก็ซื้อโลดค่ะ เพราะ ถ้าฝนตกตากผ้าไม่ได้เลยงัย (ยอมรับว่าตอนแรกอ่านไม่ละเอียดน่ะค่ะ) ประเทศที่เราอยู่น่ะ เจอฝนมากกว่าเจอแดดเสียอีก ยิ่งหน้าหนาว ไม่ต้องพูดถึงเลย สรุปทั้งปีต้องตากผ้าในบ้าน พอมันไม่แห้งสนิท กลิ่นเหม็นเปรี้ยวมาก จนขาดความมั่นใจ ฮ่าๆๆ ฝรั่งมักไม่ค่อยทัก เเต่คนไทยด้วยกันน่ะสิ จมูกดี๊ดี ทักกันเกรียว เลยซื้อเครื่องอบซะเลย ซึ่งก็ถือว่าแพงเหมือนกัน พอมีเครื่องอบผ้า ปัญหาเรื่องกลิ่นมันหายสนิทเลย แรกๆๆไม่ได้ใช้แผ่นน้ำหอม กลิ่นก็จะกลิ่นผ้า กลิ่นแบบแห้งๆๆอ่ะ กลิ่นผงซักฟอกบวกกับกลิ่นอ่อนๆ(ถึงอ่อนมาก)ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม กลิ่นของมันก็คือกลิ่นของเสื้อผ้าสะอาดอ่ะค่ะ คงพอเข้าใจ แปลกใจทำไมใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มไปหลายฝา 3 ฝาได้ ชอบให้เสื้อผ้าหอมๆๆ จนคนข้างเคียงได้กลิ่น ฝรั่งยังเคยถามว่าใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มอะไร หอมติดเสื้อผ้ามากเลย ก็บอกว่ายี่ห้อนั้นนี่ ใส่ 3 ฝา เค้าร้องว้ายกันเลยว่า ใส่เยอะจัง ฉันใส่ฝาเดียว ฮ่าๆๆ ที่บอกน่ะค่ะ พอเข้าเครื่องอบกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหายเกือบเกลี้ยง ทั้งๆๆที่ใส่ไป 3 ฝา ตอนที่ออกจากเครื่องซักผ้ามันหอมถูกใจทีเดียว พอออกจากเครื่องอบมันน่าผิดหวัง เพราะมันไม่มีกลิ่นเลย เลยไปเดินหาซื้อแผ่นน้ำหอม ด้วยความหวังที่ว่ามันน่าจะมีงัยคะ ในที่สุดก็เจอ มีแค่ยี่ห้อเดียวด้วย และก็แพงกว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มขวดขนาด 3 ลิตรเลยล่ะ แล้วแผ่นฯนี่อ่ะที่ใช้ กล่องนึง มีแค่ 10 แผ่นเอง ถ้าคุณจขกท.นิสัยเหมือนดิฉันเรื่องการซักผ้านะ ควรซื้อเลยล่ะ แล้วมันจะมีประโยชน์มาก กับครอบครัวใหญ่เลยทีเดียว ครอบครัวใหญ่เสื้อผ้ามันเยอะมาก ไหนจะเอาออกจากเครื่องซักผ้า ไหนจะเอาไปตากอีก ร่วมๆๆ20 ตัวเลย แห้งก็อีกวันนึง ยิ่งถ้าฝนตกนานๆๆล่ะก็ หาที่แตกที่ผึ่งแทบไม่ทันเลย ยิ่งกรณีเรื่องอากาศมันไม่เป็นใจ เครื่องอบผ้ากลับมีประโยชน์อย่างมาก เอาสิซักผ้าทั้งบ้าน ใส่เครื่องอบ เสร็จปุ๊บ สะบัดๆๆพับ เสื้อผ้าบางตัวแทบไม่ต้องรีดเลยล่ะค่ะ ยิ่งเสื้อผ้าตัวโปรด คุณอยากจะใส่พรุ่งนี้ ซักเข้าเครื่อง เอาใส่ตู้อบ พรุ่งนี้คุณก็ได้ใส่แล้ว ทุกอย่างเสร็จในวันเดียว ภายในครึ่งวันเสียด้วยซ้ำไป วันไหนแดดดี แดดแรงๆก็เอาออกไปตากข้างนอก ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ปล. ไม่ได้โฆษณานะคะ ฮ่าๆๆๆ แค่เข้ามาเล่าประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ เพราะดิฉันก็ใช้อยู่ ลูกเล็กๆสองคน เสื้อผ้าอลังการล้านแปด ไหนจะสามี ไหนจะผ้าเช็ดตัว ไหนจะผ้าครัว สารพัด มันทุ่นแรงแม่บ้านอย่างดิฉันได้เยอะเลยล่ะค่ะ ถ้าไม่คิดมากแรงค่าไฟฟ้านะคะ ซึ่งแน่นอนต้องยอมรับว่า มันกินไฟจริงๆ เราซักผ้ากับอบผ้าอาทิตย์ละหนเองค่ะ ซักผ้าก็สองถัง อบก็สองหน เพราะอย่างที่บอกข้างต้นว่า " ผ้าบางชนิด เอาเข้าเครื่องอบไม่ได้ และอุณหภูมิที่จะเลือกโปรแกรมมันสำคัญ" ต้องระวังเรื่องนี้ล่ะค่ะ จากคุณ : Dylan&Liam (preeya_adam) - [ 31 พ.ค. 52 06:45:04 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ของเราใช้ siemens ค่ะ เครื่องซักก็ด้วย แต่ซื้อแยกกันค่ะ จริงๆตอนนั้นถ้าซื้อรวมกันจะได้ราคาพิเศษถูกกว่าซื้อแยกอีกตั้งเกือบหมื่นแน่ะค่ะ ของเรารุ่น 6 กก.ค่ะ แต่เครื่องอบ 6 กก.เทียบกันเครื่องซัก 6 กก.ข้างในถังจะใหญ่กว่าค่ะ ซักผ้านวมได้สบายค่ะ รุ่นที่ซื้อเป็นแบบไม่มีท่อค่ะ (ควบแน่นภายใน) จะมีที่กรองใยผ้าข้างใน เวลาอบเสร็จก็จะเปิดที่กรองใยผ้าเอาใยผ้าทิ้ง และเอาน้ำทิ้งค่ะ (มีช่องที่เอาน้ำทิ้ง) สำหรับเรา เราชอบมากกกกก ไม่ต้องง้อแดดค่ะ แบบว่าอยากซักผ้า เมื่อไหร่ก็ได้ ซักเสร็จอบ 2 ชม.ก็แห้ง เก็บได้เลย ไม่ต้องมีที่ตากผ้าด้วย ตุ๊กตาลูกซักได้ทุกอาทิตย์ตามต้องการเลยค่ะ ของเราจะเป็นรุ่นที่มีหน้าจอดิจิตอลค่ะ เราชอบทำให้รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะเสร็จ มันจะบอกเวลาได้ค่ะ ส่วนเรื่องผ้าหด ก็หดนะคะ อาจจะเป็นที่เนื้อผ้าค่ะ เสื้อลูกเราก็หดค่ะ เครื่องของเราจะมีเซนเซอร์ถ้าผ้าแห้งแล้วมันก็จะหยุดค่ะ ถึงแม้ว่าตั้งไปที่อบผ้าหนา ตอนซื้อติดใจซีเมนต์ตั้งแต่เครื่องซักผ้าแล้ว ก็เลยเลือกเครื่องอบยี่ห้อนี่ค่ะ แต่ที่บ้านใช้เครื่องซักยี่ห้ออีเลคโทรลักซ์ก็นานอยู่ค่ะ แต่พอเราจะซื้อลองคุยกับเซลล์ซีเมนต์เค้าบอกว่า อีเลคเดี๋ยวนี้ทำในไทย แล้วอะไหล่หลายๆอย่างจะเป็นพลาสติกค่ะ แต่ซีเมนต์นำเข้าค่ะ ลองคุยหลายๆอย่าง เปรียบเทียบแต่ละตัว ถามเซลล์ว่ายี่ห้อคู่แข่งเทียบกับยี่ห้อนี้แย่กว่าอย่างไรค่ะ แล้วอย่าลืมต่อรองให้มากที่สุดค่ะ เราซื้อตอนต้นปี ราคา 36000 บาท แถมไมโครเวฟค่ะ จากคุณ : แม่น้องนิว (vilailuk_j) - [ 31 พ.ค. 52 18:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกๆ ท่านมากๆๆๆๆๆ จากใจค่ะ ตั้งแต่พรุ่งนี้จะตระเวนหาข้อมูลตามห้างต่างๆ รวมถึง...หาข้อมูล...ห้างไหนมีลดราคา หุ หุ จากคุณ : Mine&Yoo - [ 31 พ.ค. 52 23:30:14 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลองไปตีซี้พนักงานขายค่ะ ทิ้งเบอร์ไว้พอลดราคาเยอะ ๆ เขาจะโทรมาบอกค่ะ อิอิ ใช้วิธีนี้มาค่ะ จากคุณ : jittra - [ 1 มิ.ย. 52 15:56:22 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โอว..อิชั้นชอบวิธีคุณ jittra มากๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคร่า จากคุณ : Mine&Yoo - [ 2 มิ.ย. 52 21:26:58 ]