Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    ทำอย่างไรดีนะ เมื่อฉันต้องเป็น Single Mom +“แวร์ โซว”...Single mum คนเก่ง เคล็ดลับออมเงินของตัวเองให้ลูก

    ทำอย่างไรดีนะ เมื่อฉันต้องเป็น Single Mom

    เมื่อพูดถึง Single Mom หรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
    ผู้ที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพังเพียงคนเดียว
    มีหลายคนอาจคิดว่าช่างเป็นภาระที่หนักอึ้ง และเป็นช่วงชีวิตที่สับสน
    หลายคนไม่อยากประสบพบเจอ แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
    ดังนั้นเรามาเตรียมรับมือกับสถานภาพใหม่
    และชีวิตที่กำลังจะเปลี่ยนไปกันดีกว่า
         
    ปรับความคิดและจิตใจ

    สิ่งที่เราควรจะควบคุมให้ได้ก่อนก็คือ ความคิดและจิตใจของเรานั่นเอง เพราะเมื่อเรามีจิตใจที่นิ่ง และสงบ
    ก็จะทำให้เราสามารถที่จะรับมือกับปัญหาและสิ่งต่าง ๆ
    ที่ตามมาได้เป็นอย่างดีค่ะ โดยแบ่งออกเป็น
         
    1. มีสติ
    การห้ามความคิดตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
    เผลอนิดเดียวก็คิดไปได้เรื่อย ๆ แต่เราควรจะพยายามนึกให้ได้
    นึกให้ออกและนึกให้ทันว่านี่เรากำลังคิดเรื่อยเปื่อย เปล่าประโยชน์จริง ๆ

    การรู้ทันนี้ช่วยให้เราสามารถหยุดคิดลงได้ชั่วคราว
    ซึ่งการรู้ว่าตัวเองกำลังจะคิดจะพูดหรือจะทำอะไรนั้น

    เราเรียกว่าการมี "สติ"
         
    2. สร้างความคิดเชิงบวก
    ปรับเปลี่ยนทัศนะคติของตัวเองให้คิดเชิงบวก
    อย่างที่ทราบมาแล้ว เมื่อเวลาเปลี่ยน
    สิ่งต่าง ๆ รอบตัวของเราก็เปลี่ยนไป มีทั้งด้านดีและไม่ดี
    แต่หากเรายอมรับในด้านไม่ดี แล้วนำมาปรับเปลี่ยนยอมรับ
    คิดในแง่บวก

    ก็จะทำให้เรามีความสุข
    ต่อการเผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นได้
         
    3. รู้จักปล่อยวาง
    อย่ากังวลกับเรื่องเล็กน้อย ไม่เก็บเรื่องต่าง ๆ มาคิดจนมากเกินไป
    ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
    ต้องปล่อยวางบ้างอย่ายึดติดกับสิ่งต่าง ๆ มากเกินไป
         
    --------------------------------------------------------------

    เปลี่ยนการดำเนินชีวิต
    เมื่อก่อนการใช้ชีวิตอาจจะเป็นไปอย่างเรียบง่าย สบาย
    มีครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา รู้สึกอบอุ่น และมั่นคงปลอดภัยมากกว่าทุกวันนี้
    แต่ในเมื่อชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
    เราก็จำเป็นต้องยอมรับถึงสิ่งเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
    และกล้าที่จะเผชิญกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะดำเนินชีวิตต่อไป
         
    1. บอกความจริง
    ยอมรับความจริงที่จะเกิดขึ้นกับสภาพครอบครัวในปัจจุบัน
    โดยอย่าพยายามหลอกลูกว่า “พ่อไปทำงาน” “พ่อไปทำธุระ”
    หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
    เพียงเพื่อปัดความรำคาญ หรือไม่รู้จะอธิบายกับลูกอย่างไร
    เพราะเด็กๆ สามารถรับรู้ได้ดี และรู้ด้วยว่าแม่ปิดบังอะไรอยู่
    ถ้าลูกเดินเข้ามาถามว่า “พ่อหนูไปไหน”
    ก็ตอบลูกด้วยคำตอบง่าย ๆ ที่คิดว่าลูกพอจะเข้าใจ
    หลีกเลี่ยงการต่อว่าหรือตำหนิอดีตสามี
    และย้ำเสมอว่าแม้จะแยกกันอยู่แต่ทั้งพ่อและแม่ก็รักลูก

    เพราะเมื่อลูกเข้าใจว่าพ่อไปไหน
    เขาก็จะสามารถตอบคำถามคนอื่นที่ถามถึงพ่อของเขาได้อย่างมั่นใจ
         
    2. กล้าเผชิญหน้ากับความจริง
    เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับคนในสังคมที่รู้จักทั้งเราและอดีตสามี
    อย่ากลัวคำถาม ควรตอบไปตามตรง โดยเฉพาะต่อหน้าลูก
    และอย่ากังวลว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร
    เพราะในทุกวันนี้สังคมไทย
    มีการยอมรับครอบครัวพ่อ-แม่เลี้ยงเดี่ยวได้มากขึ้นแล้ว

         
    3. ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
    เลิกยึดติดกับอดีต ถึงแม้ว่าจะไม่มีคุณพ่อมาเป็นผู้นำครอบครัว
    แต่เราก็สามารถที่จะฝ่าฝันอุปสรรคเหล่านี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยดีได้
    หากเรายอมรับและพร้อมที่จะดำเนินชีวิตให้ก้าวต่อไปข้างหน้า

    มาให้ความสนใจในการทำชีวิตครอบครัวที่เหลืออยู่
    ให้ลูกน้อยของเรามีความสุขกันดีกว่า

         
    4. รับผิดชอบต่อภาระที่หนักอึ้ง
    เพราะเมื่อก่อนเราอาจจะมีอดีตสามีคอยช่วยเหลือ
    จัดการกับภาระต่าง ๆ ของครอบครัว แต่ต่อจากนี้ไป
    ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบต่าง ๆ จะตกมาอยู่ที่เราเพียงคนเดียว
    ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง
    ที่เราต้องมีการบริหารจัดการกับสิ่งต่าง ๆ อย่างชาญฉลาด

    เช่น ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้างเมื่อจำเป็น
    มอบหมายหน้าที่ภายในบ้านให้ลูกทำตามความสามารถ ฯลฯ
    แต่ต้องไม่เป็นสิ่งที่เคร่งครัด หรือเป็นการสร้างกฎระเบียบจนเกินไป
    เพราะเราก็ต้องการความผ่อนคลาย
    ลูกก็อยากสนุกตามประสาเด็กเหมือนกัน
         
    5. รู้จักดูแลตัวเอง
    เพราะเราจะดูแลลูกได้ดีแค่ไหน
    ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหนเหมือนกัน

    ถึงแม้ว่าคุณจะมีภาระมากมาย
    แต่ก็ควรให้ความสนใจกับสุขภาพอนามัยของตัวเองบ้าง
    รู้จักพักผ่อน
    และหากิจกรรมต่าง ๆ ทำเพื่อให้ตัวคุณเองคลายความเครียดลงบ้าง
         
    6. หาผู้ช่วย
    การเลี้ยงดูแลลูกคนเดียวนั้นไม่ใช้เรื่องง่ายเลย
    ผู้ช่วยที่ไว้ใจได้ และเข้าใจจึงมีความสำคัญสำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว
    ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท เครือข่ายคนที่มีประสบการณ์เหมือนกัน
    อย่ากลัวที่จะเอ่ยปากบอกใคร
    เพราะว่าคนเหล่านั้นอาจจะช่วยเหลือคุณได้มากกว่าคิดครับ
         
         
    ในการเป็น Single Mom
    คุณแม่จะต้องประคองอารมณ์ของตัวเองให้เข้มแข็ง แช่มชื่น และมั่นใจ
    พร้อมที่จะปกป้องลูก คือเป็นทั้งพ่อและแม่พร้อมกันในตัวของคุณแม่
    ดูแลลูกอย่างสายกลาง คือไม่รักและตามใจลูกจนเกินไป
    ไม่ปกป้อง หรือประคบประหงมจนเกินไป
    ไม่ควรดูและอย่างวิตกกังวลจนเกินไป
    ไม่จุกจิกและเจ้าระเบียบกับลูกมากจนเกินไป
    และไม่ควรปฏิเสธหรือลงโทษลูกมากจนเกินไป
    และถ้าเราสามารถดูแลลูกให้เค้าสามารถช่วยเหลือตัวเองได้
    คุณเองก็ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเป็นปัญหาแต่อย่างใด

         
         
    หากคุณรู้สึกเหนื่อย หรือท้อแท้
    ลองหันไปมองสิ่งต่าง ๆ ที่ทำมาสิครับ

    ทั้งเลี้ยงลูก ดูแลบ้าน ทำงานนอกบ้าน
    แล้วยังมีอะไรต่อมิอะไรอีกมากมายที่ Single Mom อย่างเราทำ​ได้
    และเมื่อเวลาลูกโตขึ้นประสบความสำเร็จตามที่คาดหมาย
    คนที่เป็นคุณแม่ก็จะมีความภาคภูมิใจเป็นที่สุด
    ที่แม้จะเป็นพลังของแม่คนเดียว
    ฉันก็สามารถเลี้ยงและดูแลลูกได้เป็นอย่างดี

    http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9510000132214


    =========================================

    “แวร์ โซว”...Single mum คนเก่ง
    ส่งต่อเคล็ดลับออมเงินของตัวเองให้ลูก


    “แวร์จะใช้ประสบการณ์จากตัวเองที่คุณพ่อคุณแม่เคยสอนเรา
    มาสอนลูกอีกทีหนึ่ง
    เช่นเมื่อเรานำเงินไปจ่ายค่าอะไรก็ตามแต่ ก็จะให้ลูกรู้ลูกเห็นด้วย
    หรือเวลานำเงินไปฝากธนาคารก็จะให้ลูกรับรู้ด้วยว่า นี่คือเงินของเขา
    แม่เก็บไว้ให้เป็นทุนการศึกษา หรือค่าใช้จ่าย
    ซึ่ง “น้องคนดี” จะเข้าใจในสิ่งที่แม่ทำให้นั่นเอง”
         
    ได้เวลากันแล้วหรือยังที่เราจะเริ่มตัดสินใจ
    จัดสรรวางแผนในการลงทุนยิ่งในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเช่นนี้
    ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยต่ำ
    รวมถึงตลาดหุ้นเองก็ตกอยู่ในภาวะผันผวน
    จากผลกระทบของปัจจัยทางด้านต่างๆ
    อีกทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

    ดังนั้น เราควรที่จะเริ่มวางแผนการออมเงินได้แล้วตั้งแต่วันนี้
    เพื่อจะมีสตางค์เก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

         
    เช่นเดียวกับคุณแม่ลูกหนึ่งอย่าง “แวร์ โซว”
    ที่ใครหลายคนต่างต้องยกนิ้วให้เธอเป็นยอดคุณแม่
    และวันนี้เธอจะมาเผยเคล็ดลับและเทคนิคการเลี้ยง “น้องคนดี”
    ลูกสาววัยกำลังซน ในเรื่องของการออมเงิน
    ว่าเธอมีวิธีการสอนอย่างไร

    ผ่านทางคอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง” เราลองมาฟังเธอเล่าให้ฟังกันเลย....
         
    "แวร์" เล่าว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
    จะเห็นได้ว่ามีคนหาอาชีพเสริมทำกันมากขึ้น

    ผู้คนต่างออกมาขายของหรือออกมาทำธุรกิจกันมากขึ้นเช่นกัน
    แต่ในทางตรงกันข้าม กับมีผู้มาใช้บริการหรือซื้อสินค้าน้อยลง
    ซึ่งจะเห็นได้จากสิ่งใกล้ ๆ ตัว เช่น
    ร้านขายเสื้อผ้าที่แวร์ขายอยู่ที่เมเจอร์รัชโยธินนั้น
    มีคนเข้ามาขายของเป็นจำนวนมาก
    ในขณะที่มีคนซื้อน้อยมาก
    เพราะหลายคนยังไม่ค่อยกล้าตัดสินใจในการซื้อมากนักเหมือนในสมัยก่อน

    เหตุเพราะภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
    ทำให้หลายคนต่างรัดเข็มขัดกันไม่ค่อยกล้าซื้อของ

    ที่ตนเองคิดว่ามันสิ้นเปลือง
    จึงมีแต่ผู้คนที่มาเดินดูของและไม่ค่อยกล้าตัดสินใจซื้อ
         
    และภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในบ้านเรา
    ทำให้ตัวแวร์เอง ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
    เนื่องจากว่าเรามีลูกที่ต้องเลี้ยงดู ไม่ใช่ตัวคนเดียวเหมือนแต่ก่อน
    อีกทั้งต้องเลี้ยงน้องคนดีเพียงลำพัง

    ดังนั้นการจะจับจ่ายใช้สอยอะไรก็ต้องประหยัดมากขึ้น
    ซึ่งทุกครั้งที่จะใช้จ่ายอะไรก็ตามเราจะให้ลูกเห็นเสมอว่า
    เราใช้จ่ายอะไรไปและก็สอนให้เขารู้คุณค่าของเงิน

    โดยจะบอกลูกอยู่ตลอดเวลาว่าแม่ใช้เงินทำอะไรบ้าง
    เพื่อใครก็เพื่อลูกนั้นเอง ซึ่งลูกก็จะเข้าใจว่าตอนนี้แม่มีเงิน
    ไม่มีเงินอย่างไร เขาก็จะไม่ดื้อไม่สนไม่อ้อนของในสิ่งที่ฟุ่มเฟือย
         
    “แวร์จะใช้ประสบการณ์จากตัวเอง
    ที่คุณพ่อคุณแม่เคยสอนเรามาสอนลูกอีกทีหนึ่ง
    เช่นเมื่อเรานำเงินไปจ่ายค่าอะไรก็ตามแต่ก็จะให้ลูกรู้ลูกเห็นด้วย
    หรือเวลานำเงินไปฝากธนาคารก็จะให้ลูกรับรู้ด้วยว่า
    นี่คือเงินของเขาแม่เก็บไว้ให้เป็นทุนการศึกษา หรือค่าใช้จ่าย
    ซึ่ง “น้องคนดี” ก็จะเข้าใจในสิ่งที่แม่ทำให้นั่นเอง”
         
    เธอเล่าต่อว่า นอกจากธุรกิจร้านขายเสื้อผ้าแล้ว
    แวร์ยังมีโครงการทำธุรกิจอีกหลายอย่าง
    แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้ต้องมีการชะลอตัวลงไปก่อน
    ทั้งนี้ในการทำธุรกิจของแวร์จะเป็นเงินหมุนเวียนที่มีอยู่ในบัญชี
    เป็นการนำเงินมาต่อเงิน โดยไม่มีการไปกู้หนี้ยืมสิ้นทั้งสิ้น

    เพราะว่าเรามองแล้วว่าการกู้เงินมาทำธุรกิจนั้น
    มันเหมือนเป็นดาบสองคมนั้นเอง
    ซึ่งถ้าเราทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ
    เราก็ต้องเป็นหนี้ไม่มีเงินใช้เจ้าหนี้อีกมันก็ไม่ดี

    ดังนั้นแวร์จึงค่อย ๆ เก็บสตางค์
    มีใช้เท่าไหร่ก็แค่นั้น
    ไม่ค่อยฟุ่มเฟือย
    โดยจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
         
    “การออมเงินมีประโยชน์มากมายอยู่แล้ว มีมากกกว่าเสีย
    เพราะถ้าเรามีเงินเก็บไว้ใช้ในอนาคตแล้ว
    ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินเราไม่มีงานทำ หรือเจ็บป่วยขึ้นมา
    หรือลูกอาจจะมีเหตุจำเป็นที่ต้องใช้สตางค์
    เงินตรงนี้จะสามารถนำออกมาใช้ได้ทันที
    โดยไม่ต้องไปรบกวนใครให้เดือดร้อน”
         
    จากการทำงานทั้งในวงการบันเทิงและธุรกิจส่วนตัวแล้ว
    ย่อมเครียดเป็นธรรมดา
    ดังนั้นเมื่อว่างจากการทำงานเมื่อไหร่แวร์กับน้องคนดี
    จะหาหนังตลก ๆ มาดูกันในบ้านเพื่อเป็นการผ่อนคลายความตรึงเครียด
    หรืออาจจะหากิจกรรมทำกับลูกที่บ้านสองคน
    เช่นอาจจะหาเมนูอาหารแปลก ๆ มาลองทำกันบ้าง
    หรือถ้ามีเวลาว่างมาก ๆ ในช่วงวันหยุดยาว ๆ
    แวร์ก็จะพาน้องคนดีไปเที่ยวนอกสถานที่บ้างอย่าง ทะเล เป็นต้น
         
    สุดท้าย "แวร์"บอกว่า
    จากเศรษฐกิจที่ไม่ดีเช่นนี้
    อย่างแรกเลยเราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่า
    เรามีรายได้เท่าไหร่ มีรายจ่ายเท่าไหร่


    และต้องมีการจดบันทึกรายรับรายจ่ายเพื่อที่จะได้รู้ว่า
    ในแต่ละเดือนนั้นเราจะมีเงินเหลือเก็บเท่าไหร่
    และสิ่งสำคัญสิ่งที่เป็นของฟุ่มเฟือยในตอนนี้ก็ต้องงดไปก่อน
    เพราะจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอะไรก็เป็นสิ่งไม่แน่นอน
    มีหลายคนจำนวนมากที่ตกงาน
    ซึ่งคนที่มีงานทำอยู่ก็ไม่ควรที่จะประมาท

    http://www.manager.co.th/MutualFund/ViewNews.aspx?NewsID=9520000060399

    จากคุณ : Learn and Live - [ 8 มิ.ย. 52 19:24:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com