ความคิดเห็นที่ 1 ทำความรู้จักโรคมือ เท้า ปาก “ในประเทศไทยให้รีพอร์ทเรื่อง โรคมือ เท้า ปาก ว่า เป็นโรคติดเชื้อไวรัส ซึ่งเกิดได้จากหลายตัว ที่พบบ่อยคือ ค็อกแซคกี้ไวรัส (Coxsackie virus) ซึ่งเชื้อนี้แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม A และ B โดยเชื้อที่แสดงอาการโรคมือ ปาก เท้า อยู่ในค็อกแซคกี้ไวรัสกลุ่ม A 16 (จะได้อธิบายรายละเอียดต่อไปในช่วงหลังๆ) ...ผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ หลังจากได้รับเชื้อ 3 – 7 วัน จะเริ่มแสดงอาการป่วย เริ่มตั้งแต่มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ตามด้วยอาการเจ็บปาก น้ำลายไหล ไม่ยอมทานอาหาร ซึ่งจะพบว่าผู้ป่วยมีตุ่มแดงที่เพดานปาก เหงือก และกระพุ้งแก้ม ต่อมากลายเป็นตุ่มพองใส บริเวณรอบๆ มีการอักเสบ แดง และแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ ลักษณะคล้ายแผลร้อนใน แต่มีหลายแผล หลังจากนั้นจะมีตุ่มใสหรือผื่นหลายเม็ดขึ้นที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรืออาจพบที่บริเวณก้น ข้อศอก หรือเข่าด้วย ซึ่งตุ่มพวกนี้จะไม่เจ็บ ไม่คัน” กลุ่มโรคที่มีลักษณะใกล้เคียง “ตอนนี้มีผู้ปกครองพาลูกมาพบเราค่อนข้างเยอะเลยครับ ด้วยมีแผลในปาก แต่อยากทำความเข้าใจว่า การมีแผลในปากนั้น ที่จริงแล้ว มีหลายโรคเลยครับที่ทำให้เกิดแผลในปาก เริ่มตั้งแต่ แผลร้อนใน แต่แผลร้อน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจอหลายเม็ด ยิ่งเด็กเล็กๆ ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ ก็จะสังเกตได้ง่ายครับ ..ต่อมาคือ โรคแผลในปาก (herpangina) ซึ่งจะมีแผลคล้ายกัน แต่มีเฉพาะในปากอย่างเดียว ไม่ค่อยออกมาที่เท้า แขน ขา หรือส่วนอื่นๆ แต่โรคนี้ถือว่าเป็นโรคในกลุ่มเดียวกับโรคมือ เท้า ปาก เพราะเกิดจากเชื้อค็อกแซคกี้เหมือนกัน (ขณะเดียวกัน โรคมือ เท้า ปาก ไม่จำเป็นต้องมีอาการของมือ เท้า ปาก ครบก็ได้ กล่าวคือ มีเฉพาะแผลในปากก็ได้) โรคแผลในปาก ลักษณะจึงค่อนข้างใกล้เคียงกับโรคมือ เท้า ปาก ...โรคแผลเชื้อเริม และ โรคติดเชื้อเริม (Herpes labialis) ก็เป็นโรคหนึ่งที่มีแผลในปาก แต่ลักษณะจะต่างกันคือ จะมีแผลเฉพาะในปาก ไม่ออกมาข้างนอก ส่วนอีกโรค คือ ปากนกกระจอก ซึ่งผู้ป่วยจะมีแผลที่มุมปาก แต่สังเกตความแตกต่างไม่ยากกับโรคมือ เท้า ปาก” จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:23:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การระบาดของโรค “ส่วนใหญ่เราจะพบผู้ป่วยมือ เท้า ปาก ในเด็กทารกและเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ไม่ค่อยเจอในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ เพราะมีภูมิต้านทานแล้ว และพบได้ประปรายตลอดปี แต่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝน ซึ่งอากาศเย็นและชื้น ...โรคนี้สามารถแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น โดยการทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป เมื่อเด็กที่ป่วยไอหรือจาม เอามือป้องปาก จากนั้นใช้มือข้างนั้นจับของเล่น จับแก้วน้ำ สัมผัสสิ่งของต่างๆ หรือแม้แต่แตะตัวเด็กคนอื่น จากนั้นเด็กอีกคนมาจับต่อ แล้วหยิบขนมหรือของทานอื่นๆ ใส่เข้าปาก เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกาย แพร่ระบาดต่อไป ดังนั้นจึงพบมีการระบาดในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนอนุบาลเป็นครั้งคราว ...แม้แต่การว่ายน้ำในสระ ถ้าสระนั้นๆ มีการดูแลความสะอาดดีพอ มีการเติมคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อในปริมาณที่เหมาะสม ทำให้เชื้อตาย ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ เชื้อไวรัสก็จะอยู่ในน้ำ คนที่มาว่ายน้ำ เมื่อสำลักน้ำ เผลอทานน้ำเข้าไป เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกาย ป่วยเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:24:03 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อย่างไรก็ดี เชื้อชนิดนี้ไม่ปนเปื้อนในอากาศ ยกเว้นถ้าผู้ป่วยไอหรือจามใส่ แล้วน้ำลายที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ลอยมาสัมผัสร่างกาย จากนั้นคนๆ นั้นนำเชื้อเข้าปากทางใดทางหนึ่ง ก็ต้องระวังให้ดี ถ้าทราบว่าเพื่อนของลูกป่วยเป็นโรคนี้ และไม่มีการป้องกันดีพอ ก็ควรให้เด็กอยู่ห่างไว้ก่อน” โรคนี้ไม่มีวิธีรักษา “คงต้องคุณพ่อคุณแม่ว่า ต้องทำใจครับ สำหรับโรคนี้ เพราะจนปัจจุบันโรคมือ เท้า ปาก ยังไม่มีวิธีรักษา แพทย์จะรักษาตามอาการ คือ มีไข้ ก็ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวดศีรษะ เด็กเจ็บปาก ทานไม่ได้ ก็จะแนะนำให้แม่ทำอาหารอ่อนๆ หรือน้ำผลไม้ให้เด็กทาน ถ้าเด็กเจ็บมากจนทานอะไรไม่ได้ ก็ต้องช่วยป้อนให้ทาน โดยเฉพาะในเด็กทารก อาจต้องป้อนนมให้แทนการดูดจากขวดตามปกติ และพยายามให้ทานของเหลวๆ ยิ่งเป็นน้ำได้ ยิ่งดี จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:24:57 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ...บางคน หมอจะบอกผู้ปกครองว่า ให้เด็กทานไอศกรีมได้เลย อยากอมน้ำเย็น น้ำแข็ง ก็ให้อม ไม่ก็เอาน้ำแข็งใส่อาหารให้ลูกทานเลย พ่อแม่บางคนงง ลูกเป็นไข้ ทำไมให้ทานของเย็นๆ สาเหตุที่ให้ทาน เพราะเด็กจะได้ไม่เจ็บ แผลจะได้ชา จะได้มีอาหารตกไปถึงท้องบ้าง แล้วอาหารที่ให้ลูกทาน ก็ไม่ควรมีรสจัดเกินไป ทานเสร็จก็ให้เด็กบ้วนปากด้วยน้ำอุ่น ถ้าแปรงฟันไหว ก็ให้แปรงฟันตามปกติ และพอถึงจุดพีคของมันแล้ว ส่วนใหญ่อาการจะทุเลาและหายใน 7 – 10 วัน แผลในปากจะหายภายใน 7 วัน ส่วนผื่นที่มือและเท้ามักหายใน 10 วัน จึงไม่ต้องใส่ยาอะไร เพราะแผลพวกนี้มันอยู่ข้างใน ยังไงก็ใส่ไม่ถึงอยู่แล้ว และถึงใส่ เด็กก็บ้วนออกมาอยู่ดี เพราะยาพวกนี้มันขม ส่วนตุ่มที่มือ เท้า หรือส่วนอื่นๆ ตามร่างกาย ถ้าไม่ได้คัน เป็นผื่นแดง ก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยไว้ก็จะหายเองเช่นกัน จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ...ส่วนใหญ่โรคนี้มักไม่รุนแรงและไม่มีภาวะแทรกซ้อน ส่วนใหญ่อาการจะเกิดขึ้นภายใน 6 - 7 วัน หรืออาจจะนานกว่านั้นเล็กน้อย จะสังเกตได้ว่า ทั้งไข้ แผลในปาก และตุ่มตามมือ เท้าของผู้ป่วยจะค่อยๆ ลดลง แต่หากเลย 7 วันไปแล้ว ผู้ป่วยยังมีไข้สูง มีอาเจียนบ่อย หอบ ซึม ไม่ยอมทานอาหารและดื่มน้ำ แขนขาอ่อนแรง ปวดศีรษะ ชัก ฯลฯ อย่าได้นิ่งนอนใจ ให้รีบพาผู้ป่วยมาพบแพทย์โดยทันที ปล่อยไว้นาน เชื้ออาจจะเข้าสู่กระแสเลือดได้ เพราะเชื้อตัวนี้มันไปได้หลายที่ เช่น สมองและกล้ามเนื้อหัวใจ เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้เกิดอาจเกิดภาวะสมองอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ น้ำท่วมปอด และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้” จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมบางคนเป็นแล้วหนัก บางคนไม่ “คงต้องอธิบายดังนี้ครับ อย่างที่บอก แต่เดิมเราเชื่อว่าโรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อเอนโทไวรัส และมีตระกุลย่อยของมันคือ ค็อกแซคกี้ไวรัส เป็นสาเหตุ และเมื่อมีผู้ป่วยเสียชีวิต ก็มีการศึกษาและเชื่อกันว่า เป็นเพราะเชื้อนี้สามารถเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ผู้ป่วยเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่ต่อมา มีการตรวจเด็กที่เสียชีวิตเพราะโรคนี้ ปรากฏว่าไม่ได้เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่เกิดจากสมองอักเสบ ซึ่งเชื้อตัวนี้เมื่อเข้าสู่กระแสเลือด แล้วจะขึ้นไปที่ก้านสมอง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจทำงานได้ไม่ดี และทำให้เกิดน้ำท่วมปอดตามมา ทีนี้เมื่อมันมีโดยตรงต่อสมองและหัวใจ ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะเริ่มรวน อาจมีความดันสูง ความดันต่ำ แม้รักษาหาย ก็อาจมีอาการสมองอักเสบตามมา ...แต่ถ้าถามว่า บางคนทำเป็นแล้วหนัก บางคนไม่ นั่นยังไม่มีใครรู้ครับ เราตรวจพบว่า สายพันธุ์ของเชื้อโรคในบ้านเราไม่แตกต่างกับไต้หวัน มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ แต่เราก็รู้ว่าทำไมในบ้านเขาจึงเป็นกันเยอะ หรือบ้านเราเป็นกันไม่มาก สันนิษฐานว่าอาจเป็นเรื่องของพันธุกรรมหรือชาติพันธุ์ก็เป็นได้” จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แนวโน้มต่อไปของวัคซีนป้องกัน “เชื้อเอนเทอโรไวรัสที่ทำให้เกิดโรคมือ เท้า ปาก ถ้าพูดถึงตระกุลของมัน เชื้อนี้อยู่ในตระกุลของไวรัสที่ชื่อว่า พิโคนาไวรัส (Piconavirus) ซึ่งตระกุลนี้แบ่งแยกย่อยออกเป็น 6 จีนัส (Genus) ประกอบด้วย เอนโทโรไวรัส (Enterovirus), ริโนไวรัส (Rhinovirus), แอพโทไวรัส (Apthovirus), คาร์ดิโอไวรัส (Cardiovirus) และ ฮีพาร์นาไวรัส (Heparnavirus) ซึ่งเชื้อตัวที่ทำให้เกิดโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์ คือ แอพโทไวรัส ส่วนเชื้อที่ทำให้เกิดมือ เท้า ปาก คือ เอนโทโรไวรัส นั่นเท่ากับว่าเชื้อ 2 ตัวนี้อยู่ในตระกุลเดียว แต่ก่อให้เกิดโรคต่างกัน ... คำว่า ‘Entero’ แปลว่า ‘ลำไส้’ เอนเทอโรไวรัสจึงเป็นเชื้อที่ติดต่อทางลำไส้ ซึ่งลักษณะหน้าตาของเอนโทโรไวรัส ก็จะเป็นรูปหกเหลี่ยม (ดูรูป) ทีนี้พอเราเอาเชื้อตัวนี้ไปส่องดูในห้องทดลอง ก็พบว่า เชื้อเอนโทโรไวรัส ก็ยังมีตระกุลย่อยของมันอีก ประกอบด้วยโปลิโอไวรัส (Poliovirus) ชนิด 1, 2, 3 , ค็อกแซคกี้ เอ ชนิด 1 - 24, ค็อกแซคกี้ บี ชนิด 1 - 6 , เอคโคไวรัส (Echovirus) ชนิด 1 – 34, เอนโทไวรัส ชนิด 68 – 71 และเอนโทโรไวรัส ชนิด 72 (hepatitis A) ...ให้สังเกตที่โปลิโอไวรัสนะครับ คงทราบนะครับ ปัจจุบันเราสามารถผลิตวัคซีนป้องกันโปลิโอตั้งแต่ในเด็กได้แล้ว ซึ่งพอเราทราบว่า เอนโทโรไวรัส ประกอบด้วยโปลิโอไวรัส ทำให้มีแนวโน้มว่าต่อไปเราน่าจะผลิตวัคซีนป้องกันโรคนี้ได้ไม่ยาก แต่อย่างไรก็ต้องรอดูผลกันต่อไป” จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:28:19 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ระวัง...ผู้ใหญ่ก็เป็นพาหะได้ “เนื่องจากระยะสัปดาห์แรกของการมีไข้ เป็นระยะที่สามารถติดต่อได้มากที่สุด แต่ก็อาจพบเชื้อไวรัสได้ในระยะที่หายจากอาการได้ ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่ก็สามารถขับถ่ายเชื้อนี้ได้ทั้งที่ไม่มีอาการของโรค ดังนั้น ถ้าเด็กป่วยเป็นโรคนี้ สิ่งที่ผู้ปกครองควรจะทำคือ ดูแลสุขอนามัยของเด็กให้เพียงพอ ควรฝึกให้เขาหมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ ทั้งก่อนทานอาหารและหลังทาน รวมทั้งหลังการขับถ่าย ผู้ปกครองดูแลตัดเล็บของเด็กให้สั้น และถ้าทราบว่า เด็กคนอื่นที่ใกล้ลูกเป็นโรคนี้ ควรฝากครูช่วยดูแล ให้เขาหลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ หลอดดูด ผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดมือ ...ขณะเดียวกัน สถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนอนุบาลก็ควรจัดให้มีอ่างล้างมือและส้วมที่ถูกสุขลักษณะ และหมั่นดูแลรักษาสุขลักษณะของสถานที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เด็กใช้ร่วมกัน รวมทั้งกำจัดอุจจาระเด็กและผ้าอ้อมให้ถูกต้อง ...และถ้าหากสถานรับเลี้ยงหรือโรงเรียนอนุบาลที่ไหนมีเด็กป่วยเป็นโรคนี้จำนวนมาก ควรรีบป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ไปยังเด็กคนอื่นๆ โดยการแยกเด็ก และอาจจะต้องปิดชั่วคราว เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้เชื้อนี้ลุกลามต่อไป นอกจากนี้ ก็ต้องแนะนำแนะนำผู้ปกครองให้รีบพาเด็กไปพบแพทย์ และให้หยุดรักษาตัวที่บ้านประมาณ 7 วัน หรือจนกว่าจะหายเป็นปกติ ในระหว่างนี้ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่แออัด เช่น สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ และห้างสรรพสินค้า รวมทั้งผู้เลี้ยงดูเด็กต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสน้ำมูก น้ำลายหรืออุจจาระเด็กป่วย ...สำหรับแนวโน้มของโรคนี้ หมอว่าน่าจะมีเพิ่มขึ้นนะ สาเหตุหลักๆ คือ หนึ่ง ชุมชนแออัดขึ้น และสอง ผู้ปกครองส่งเด็กไปเรียนหนังสือเร็วขึ้น ดังนั้น เมื่อส่งลูกไปสถานรับเลี้ยงเด็กหรือโรงเรียนอนุบาล ก็ควรศึกษาตรวจดูความพร้อมของสถานที่นั้นๆ ให้ถี่ถ้วนพอ ดูง่ายๆ เลยตั้งแต่มีการแยกแก้วให้เด็กหรือไม่ ให้เด็กล้างมือก่อนทานหรือหลังทานหรือไม่ เป็นต้น ...อย่างไรก็ตาม ขอฝากไว้ว่า ตระหนักได้ครับ แต่อย่าตระหนก คือ ลูกมีไข้ เจ็บปาก น้ำลายไหล ทานอะไรไม่ได้ ก็อย่ารักษาเอง ควรพามาให้หมอดู นี่เรียกว่าตระหนัก แต่ไม่ใช่มีแผลนิดเดียว พามาหาหมอแล้ว กลัวลูกจะเสียชีวิต เป็นอะไรขึ้นมา นี่คือตระหนก แต่ถ้าไม่สบายใจจริงๆ ก็พามาตรวจดูได้ครับ” .................................................................. อาการของชายแดนมีไข้สูง  3 วันกินข้าวกินน้ำไม่ได้    มีแผลในปาก  10 กว่าแผล    เราเลี้ยงลูกเองแต่ว่าใช้หลอดดูดน้ำร่วมกัน   คือที่บ้านเราจะมีขวดน้ำของใครของมันนั่นแหละ    แต่ชายแดนเค้าก็ยังเด็กเค้าก็จะกินมั่วๆ    ของพ่อมั่ง  แม่มั่ง  และของพี่สาวเค้ามั่ง เราก็ไม่เคยได้คิดระวังเพราะทุกคนไม่ได้เจ็บป่วย   แต่หารู้ไม่ว่าตัวแพร่เชื้อคือคนในครอบครัวนั่นเอง    ระวังกันหน่อยนะคะ  อย่าใช้ของร่วมกัน จากคุณ : อาเดียร์ - [ 30 มิ.ย. 52 12:32:26 ]

ความคิดเห็นที่ 9 น่าสงสารน้องจังเลยค่ะ ขอให้น้องแข็งแรงไวๆนะคะ เคยเจอแม่เด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้บางคน ที่เด็กยังอยู่ในระยะแพร่เชื้อ ควรจะให้เด็กอยู่แต่ในบ้าน กลับพาเด็กออกมาเที่ยวในที่สาธารณะที่มีเด็กอื่นๆอยู่เยอะ จากคุณ : joeymydear - [ 30 มิ.ย. 52 12:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะคะ ขอให้น้องชายแดนหายป่วยไว ๆ สุขภาพแข็งแรงนะคร๊าบ จากคุณ : แมกไม้ - [ 30 มิ.ย. 52 12:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หายเร็วๆๆนะค่ะ จากคุณ : คนสวยHIso - [ 30 มิ.ย. 52 12:51:40 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอให้หายเร็ว ๆ นะครับ ... จากคุณ : D_YONG - [ 30 มิ.ย. 52 12:54:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ รู้สึกว่ามันใหล้ตัว ยังไงก้ไม่รู้ค่ะ โรคนี้ -*- ขอให้น้องหาย และ กลับบ้านได้เร็วๆ นะคะ จากคุณ : MaE P@@H FaH - [ 30 มิ.ย. 52 12:57:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 น้องเดียร์ ... หนุ่มน้อยไม่สบาย หายเร็วๆ นะคะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ด้วยคะ จากคุณ : beebeemom - [ 30 มิ.ย. 52 12:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำดี ๆ ที่มาเล่าสู่กันฟัง ขอให้น้องหายเร็ว ๆ นะคะ จากคุณ : มนน้ำหวาน - [ 30 มิ.ย. 52 12:58:38 ]

ความคิดเห็นที่ 16 น่าสงสารจัง ขอให้หนุ่มชายแดน หายป่วยไวๆๆ ได้กลับบ้านไวๆๆ น่ะค่ะ จากคุณ : รักจ๊ะ - [ 30 มิ.ย. 52 13:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอให้หายไวๆนะคะ เพิ่งพาลูกออกจาก รพ. ไม่ถึงอาทิตย์เลยค่ะ เป็นโรคไข้ออกผื่น แต่เป็นหวัดร่วมด้วย เห็นสายน้ำเกลือแล้วอยากร้องไห้ เช็ดตัวทีลูกร้องจนตาลอย ขอให้ผ่านไปไวๆนะคะ กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม จากคุณ : .เชอร์รี่. - [ 30 มิ.ย. 52 13:17:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอให้น้องหายไวๆ นะค่ะ จากคุณ : **ขนมถ้วยฟู** - [ 30 มิ.ย. 52 13:21:14 ]

ความคิดเห็นที่ 19 หายไวไวนะคะชายแดน จากคุณ : nodbeau - [ 30 มิ.ย. 52 13:34:23 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอให้น้องชายแดนหายป่วยไว ๆค่ะ จากคุณ : kate_tweety - [ 30 มิ.ย. 52 13:35:49 ]

ความคิดเห็นที่ 21 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ให้หายวันหายคืนนะลูกนะ จากคุณ : ยิ่งแก่ยิ่งสวย - [ 30 มิ.ย. 52 13:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอให้ชายแดนหายเร็วๆ นะคะ ช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดี เดี๋ยวฝนตก แดดออก เด็กๆ ป่วยกันเป็นแถว กลัวๆ เด็กที่บ้านจะป่วยเหมือนกัน เพิ่งหายจากหวัดไปแหม่บๆ เป็นกำลังใจแม่ๆ ทุกท่านจ้า จากคุณ : be_with_you - [ 30 มิ.ย. 52 13:41:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ชายแดนคนเก่ง หายไว ๆ นะลูก จากคุณ : Dare2Dream - [ 30 มิ.ย. 52 13:42:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ขอให้น้องชายแดนหายไวๆ นะคะ จากคุณ : ขนมปังน้ำแดง - [ 30 มิ.ย. 52 13:56:24 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ขอให้น้องหายเป็นปกติและมีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็วนะคะ จากคุณ : หมีสีชมพู - [ 30 มิ.ย. 52 13:59:13 ]

ความคิดเห็นที่ 26 แม่ๆ ว่ามั้ยคะว่าทำไมเดี๋ยวนี้เชื้อโรคมันชักจะแก่กล้าขึ้นซะทุกวัน มีโรคสารพัดโรคเลย เป็นห่วงเด็กๆ กันจังเลยค่ะ จากคุณ : กาแฟใส่นมไม่ใส่น้ำตาล - [ 30 มิ.ย. 52 14:17:12 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ขอให้น้องสุขภาพแข็งแรงหายป่วยไวๆนะคะ จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) - [ 30 มิ.ย. 52 14:25:53 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ขอให้น้องชายแดนหายไว ๆ นะคะ แล้วก็ ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มีให้ด้วยค่ะ จากคุณ : Ohm-Good & Mamy - [ 30 มิ.ย. 52 14:46:47 ]

ความคิดเห็นที่ 29 หายไว  ๆ นะชายแดน หนูแข็งแรงอยู่แล้วลูก ขอบคุณคุณเดียร์ด้วยนะคะ สำหรับข้อมูลดี ๆ รายละเอียดครบมากเลยค่ะ เราไม่แน่ใจว่าที่อเมริกามีโรคนี้หรือเปล่า เดี๋ยวพรุ้งนี้ลองหาข้อมูลดูมั้งค่ะ คุณพระคุ้มครองนะคะ จากคุณ : ปลาสลิดแดดเดียว - [ 30 มิ.ย. 52 14:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอาใจช่วยให้หายป่วยเร็วๆนะคะ และขอบบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ คุณแม่เองก็ต้องเข้มแข็งนะคะ เข้าใจว่าเหนื่อยแค่ไหน ยามลูกเข้าโรงพยาบาล หายเร็วๆนะคะ จากคุณ : นักแปล - [ 30 มิ.ย. 52 14:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับข้อมูดดีดีนะคะพี่เดียร์  เห็นรูปน้องชายแดนนอน โรงพยาลน่าสงสารจังเลย ตอนนี้หายดีหรือยังคะ  ขอให้น้องชายแดนสุขภาพแข็งแรงหายเร็วๆนะคะ จากคุณ : ปุ๊กแม่น้องเบสท์ - [ 30 มิ.ย. 52 14:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 32 พอใจก็เพิ่งเป็นไปค่ะ ตอนแรกแม่ไม่แน่ใจ เลยมาหาข้อมูล ปรากฏว่าอาการแบบนี้เป๊ะเลย กินอะไรไม่ได้2-3วันต้องกินแต่น้ำๆ นมก็ดูดไม่ได้ทั้งนมขวด ทั้งนมแม่ ปกติกลางคืนต้องดูดนมแม่แต่ดูดไม่ได้ ร้องจนหลับ ถึง 2 คืนแม่กะพ่อร้องให้ตามลูกเลยค่ะ ทรมานจริงๆ ดีที่ เป็นไม่มากเลยหายไว ชายแดนหายไวๆนะคะ จากคุณ : nongporjaija - [ 30 มิ.ย. 52 15:01:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ขอให้น้องชายแดนหายไวๆนะคะ จากคุณ : Orayanee - [ 30 มิ.ย. 52 15:14:41 ]

ความคิดเห็นที่ 34 น้องชายแดนหายเร็วๆ กลับมามีสุขภาพแข็งแรงนะคะ เป็นกำลังใจให้คุณแม่ด้วย จากคุณ : ดอกหญ้าในป่าคอนกรีต - [ 30 มิ.ย. 52 15:55:26 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอให้หายไวๆ ค่ะ ช่วงนี้ โรคนี้กำลังระบาดค่ะ รร ลูกสาวก็เพ่ง ปิด รร ไป 1 อาทิตย์เนื่องจากเจอเด็กเป็นโรคนี้ 2 คนค่ะ จากคุณ : witchweed - [ 30 มิ.ย. 52 16:00:10 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณสำหรับข้อมูลแล้วขอให้น้องหายเร็วๆนะคะ จากคุณ : happily everafter - [ 30 มิ.ย. 52 16:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ขอให้น้องหายไวๆนะค่ะ   เรารักษากับหมอไพโรจน์ ตั้งแต่เด็กเลยค่ะ จนมีลูกเองก็รักษากับหมอไพโรจน์ จนหมอย้ายไป รพ.บางปะกอก9 ไกลบ้านเลยไม่ไดตามไปค่ะ จากคุณ : sirilek - [ 30 มิ.ย. 52 17:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณที่นำความรู้มาให้ค่ะ ขอให้หายป่วยไวๆนะคะ จากคุณ : ผักบุ้งตาสวย - [ 30 มิ.ย. 52 18:18:35 ]

ความคิดเห็นที่ 39 หายไวไวนะคะ จากคุณ : กังหันลู่ลม - [ 30 มิ.ย. 52 21:06:34 ]

ความคิดเห็นที่ 40 น่าสงสารน้องชายแดนจัง หายไวๆนะลูก จากคุณ : พจมารร้าย - [ 30 มิ.ย. 52 21:41:30 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณสำหรับความรู้ ขอให้น้องหายไวๆค่ะ.. จากคุณ : aggie_kmit'l - [ 30 มิ.ย. 52 22:03:12 ]

ความคิดเห็นที่ 42 หายเร็วๆนะคะน้องชายแดน... จากคุณ : เทียนสีรุ้ง - [ 30 มิ.ย. 52 22:37:20 ]

ความคิดเห็นที่ 43 หายเร็วๆนะครับน้องชายแดน... เป็นกำลังใจให้แม่เดียร์ด้วยค่ะ จากคุณ : หมูเหมียว - [ 30 มิ.ย. 52 22:56:48 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ขอคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองน้องให้หายไวๆน่ะค่ะ จากคุณ : เฟเฟ - [ 30 มิ.ย. 52 23:12:45 ]

ความคิดเห็นที่ 45 น้องชายแดนหายเร็วๆนะจ๊ะ จากคุณ : +:+SoMEonE ExacTlY likE yoU+:+ - [ 30 มิ.ย. 52 23:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับรายละเอียดค่ะ แต่ขอแอบแซว.... คห.ที่ 8 เรื่องวันที่จ้า.. เดือน 8 มันยังไม่ถึงนี่นา จากคุณ : เบคอนแฮม - [ 1 ก.ค. 52 00:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ชายแดนหลานป้า หายไวๆบุญรักษานะลูก จากคุณ : ฑีรฒ - [ 1 ก.ค. 52 04:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอให้น้องหายไว ไว นะคะ ขอบคุณข้อมูลที่นำมาแชร์ให้ฟังเป็นประโยชน์มากค่ะ ตอนนี้ลูกสาวก็กำลังเป็นอยู่ค่ะ หนึ่งขวบ ของเคสลูกสาวคุณหมอวินิจฉัยว่าเป็น herpangina (พวกเราอยู่ญี่ปุ่นนะคะ) วันแรกมีไข้ เช้ากลางวันทานปกติ เย็นเริ่มไม่ทาน วันรุ่งขึ้นมีแผลในปากแบบแผลร้อนในเยอะเลยค่ะ พร้อมไข้ที่ไม่ลดลง จริงๆ หาคุณหมอตั้งแต่วันแรกที่มีไข้แล้ว ก็กลับไปหาคุณหมอคนเดิมตอนเช้า ซึ่งยังไม่วินิจฉัยว่าเป็น แต่ชักไม่แน่ใจพาไปหาคุณหมอประจำอีกรอบดีกว่า สรุปก็ Herpangina พรุ่งนี้หนึ่งสัปดาห์ที่เป็นค่ะ ใกล้หายแล้ว ทานได้แล้ว ร่าเริงเหมือนเดิม ได้แต่ภาวนาให้ลูกหายไว ไว ไม่มีอะไรแทรกซ้อน ของลูกสาวก่อนเป็น เค้ามีไปอยู่เนิรสบางวัน ครั้งละ 1-2 ชม และไปว่ายน้ำคลาสเบบี๊ ขึ้นรถเมล์ รถไฟ กับแม่ เท่าที่อ่านดู ทุกที่มีความเสี่ยงหมดเลย ส่วนตัวล้างมือให้ลูกบ่อยนะคะ อยากให้มีวัคซีนจริงๆ เลยค่ะ จากคุณ : Yamaken (Yamaken) - [ 1 ก.ค. 52 08:21:50 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หายไว ๆ นะคะ น้องชายแดน จากคุณ : Ganit - [ 1 ก.ค. 52 09:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 50 หายเร็วๆนะค้าบคนเก่ง ป.ล. ดูน้องชายแดนโตขึ้นเยอะเลยค่ะคุณเดียร์   รูปใน คห.5-7 นั่นน่ารักมากๆเลย คือดูแบบรู้เรื่องเหมือนเด็กโตเลย   ท่าทางไม่งอแง นั่งรอแม่ป้อนข้าว ให้พยาบาลรักษาอย่างดี น่ารักจังค่ะ จากคุณ : ลูกหมู**หาดใหญ่ - [ 1 ก.ค. 52 11:17:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 หายไว ๆ นะครับพี่ชายแดน ... แถวบ้านเราก็ระบาดอยู่ค่ะตอนนี้ ปิดศูนย์เด็กเล็กฆ่าเชื้อ 4 วัน ไป 1 ศูนย์แล้วอ่าค่ะ จากคุณ : หวาน (หวานน้อยถึงปานกลาง) - [ 1 ก.ค. 52 11:20:50 ]