ความคิดเห็นที่ 1 สรุป ประเด็นสำคัญๆ ของไข้หวัดใหญ่ 2009 ให้อีกทีค่ะ -โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัส  Influenza type A H1N1 ซึ่งกลายพันธุ์ไปจากเชื้อที่ทำให้เกิดไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อัตราการตายตอนนี้เท่ากับ 0.2% ซึ่งนับว่าต่ำ แต่ความสำคัญคือมันมีการติดต่อได้ง่าย จากคนสู่คน และอาจเกิดการกลายพันธุ์ และเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่ (pandemic) ไปทั่วโลกเหมือนที่เกิดมาแล้วหลายครั้งค่ะ -การติดต่อเป็นแบบ " Droplets" เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย แพร่ติดต่อไปยังคนอื่น ๆ โดยการไอจามรดกันโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไป หากอยู่ใกล้ผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร หรือได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู  เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก (เชื้ออยู่ได้ 2 ชั่วโมงนอกร่างกายผู้ป่วย) -วิธีป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ได้ผลตอนนี้ก็คือ   - การล้างมือด้วยสบู่หรือถ้าไม่สะดวกให้ถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังการกินอาหาร หลังใช้ห้องน้ำในที่สาธารณะ   - หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น ห้องแอร์ โรงหนัง ห้างสรรพสินค้า หรือคนอยู่กันมากๆ แออัด   - ปิดปาก-จมูกเวลาไอหรือจาม   -อื่นๆก็คงได้แก่ การรักษา สุขภาพให้แข็งแรง ดื่มน้ำมากๆ กินผักผลไม้ ออกกำลังกายนั่นเอง -วัคซีนหรือยาที่ป้องกันยังไม่มี ยาที่รักษาได้แก่ ทามิฟลู (Tamiflu)ควรให้ใน 48 ชั่วโมง พบว่าลดความรุนแรงของโรคลง และลดอุบัติการณ์ของโรคแทรกซ้อนได้ในผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ อื่นๆ ลองอ่านในกระทู้ที่เคยเขียนไว้เพิ่มเติมนะคะ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N7973926/N7973926.html กระทู้ของหมอแมวจากหว้ากอค่ะ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X7973976/X7973976.html ติดตามสถานการณืประจำวันได้จาก http://beid.ddc.moph.go.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=2110271&Itemid=242 ขอให้แข็งแรงกันทุกท่านนะคะ อย่าลืมสอนลูกๆให้ล้างมือบ่อยๆค่ะ จากคุณ : หมูเหมียว - [ 3 ก.ค. 52 14:30:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ คงต้องเตรียมรับมือแล้วล่ะก่อนหน้านี้คิดว่ามันคงไกลตัว แต่ตอนนี้คงไม่แล้วล่ะ .... แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 14:41:24 จากคุณ : กิฟฟิน - [ 3 ก.ค. 52 14:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 .. จากคุณ : ผักบุ้งตาสวย - [ 3 ก.ค. 52 14:40:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ น่ากลัวนะเนี่ย จากคุณ : patapril - [ 3 ก.ค. 52 14:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ แต่ที่สงสัยคือเจลแอลกอฮอล์ค่ะ  สมมุตินะคะเดียร์ไปออกกำลังกายเล่นเครื่องเล่นหลายอย่าง   และแน่นอนเครื่องก็จะผ่านมือคนมาหลายมือแล้ว   ก็สกปรกทั้งฝุ่นบ้าง    แล้วอย่างนี้ทาเจล  คือทาแล้วไม่ต้องล้างมือสามารถหยิบจับอาหารได้เลยเหรอคะ จากคุณ : อาเดียร์ - [ 3 ก.ค. 52 14:45:42 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มันเริ่มใกล้ตัวเข้ามาทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : nongporjaija - [ 3 ก.ค. 52 14:48:21 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณจ้า น้องหนึ่ง   พี่นิด ได้รับแจก  mask  กับ  เจลล้างมือ จากป้าหมีด้วยเหมือนกันค่ะ จากคุณ : kateking - [ 3 ก.ค. 52 14:52:52 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้าแมงฯ - [ 3 ก.ค. 52 14:57:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เราก็สอนให้ลูกล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ อยู่ที่โรงเรียนไม่รู้จะทำหรือเปล่าน้อ จากคุณ : มิ้นท์จ๋า - [ 3 ก.ค. 52 14:57:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่ะพี่หมอหนึ่ง นี่น้องเทียนก็ป่วยอยู่ค่ะ เลยให้ใส่ mask เรื่องล้างมือก็สร้างนิสัยให้เขาเป็นเด็กที่ล้างมือบ่อย ๆ จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ - [ 3 ก.ค. 52 15:00:46 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณมากคะ คุณหมอหนึ่ง อาทิตย์หน้าขึ้นกทม. ติด mask กับเจลล้างมือแห้งไปด้วยคะ ป้องกันไว้ก่อน ไม่อยากเจ็บป่วยคะ จากคุณ : beebeemom - [ 3 ก.ค. 52 15:07:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 น่ากลัวนะคะ เหมือนกับว่าตอนนี้มันมาใกล้ตัวเรามากๆ เลยคะ คือ เมื่อวานที่โรงเรียนมีนักเรียนเป็นไข้หวัดสายพัน เอ คะ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอาการเป็นยังไงแต่ที่โรงเรียนก็สั่งปิดแล้ว จากคุณ : NaNzi - [ 3 ก.ค. 52 15:10:02 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วันหยุดยาวมีโครงการพาลูกลิงที่บ้านไปสวนสัตว์ แต่เริ่มเปลี่ยนใจ เพราะดูเหมือนว่าเชื้อหวัดใกล้เข้ามาทุกที เป็นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่บ้านกับปู่ย่าตายายดีกว่า ขอบคุณมาก ๆ นะคะ จากคุณ : pls star pls - [ 3 ก.ค. 52 15:12:03 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณจ้ะหมอหนึ่ง ทำงานเจอคนไข้ทุกวัน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ จากคุณ : พจมารร้าย - [ 3 ก.ค. 52 15:13:03 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ที่เมืองชลนี่ หยุดกันทุกโรงเรียนแล้วค่ะ ควบยาวเทศกาลเข้าพรรษาด้วย รักษาสุขภาพด้วยค่ะ จากคุณ : หมวยน้อยร้อยชั่ง - [ 3 ก.ค. 52 15:46:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณจ้ะหมอหนึ่ง ที่นี่ยังโชคดี ที่ยังไม่ระบาดมาถึง แต่พี่ก็สอนเค้เร่ล้างมือทุกครั้งเหมือนกันจ๊ะ จากคุณ : p-annipe - [ 3 ก.ค. 52 15:47:11 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ระบาดมาขอนแก่นแล้ว ไม่กล้านั่งรถทัวร์เลย ขับรถมาหาลูกเลย ทอ้งโตๆ ยังต้องเดินทาง พก mask ค่ะ พกสบู่เหลวขวดเล็กด้วย แล้วก็เจลแห้ง แบบว่าปลอดภัยไว้ก่อน จากคุณ : pure diamond (pure_diamond) - [ 3 ก.ค. 52 15:59:58 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณนะจ๊ะน้องหนึ่ง ลูกพี่เป็นเรียงตัวไปแล้วค่ะ น่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา ยกเว้นคนเล็ก ซึ่งโรงเรียนเค้ามีเด็กติดเชื้อ สุ่มตรวจเป็นเจอค่ะ แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้วค่ะ อาทิตย์ที่แล้วเกือบหลังไมค์ไปหาแล้ว ตอนเค้าไข้สูงมาก แต่เกรงใจจ้า จากคุณ : HeLL_Is_HeRe - [ 3 ก.ค. 52 16:06:01 ]

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านชื่อกระทู้ไม่ทันจบ เกือบเมนท์ว่า ยินดีด้วยค่ะ ดีที่อ่านจบ 5555 เมื่อวานที่สุวรรณภูมิ เห็นมีคนใส่หน้ากาก 1-2 เปอร์เซ็นเองค่ะ บนเครื่องจาก กทม.ไปนราธิวาส แอร์ 3 คน ใส่หน้ากากคนหนึ่ง ผู้โดยสารเต็มลำ สวมหน้ากาก 1 คน ที่ชายแดนสุไหงโกลก ฝ่ายไทยไม่มีการตรวจสอบอะไร แต่ฝั่งมาเลย์ ต้องกรอกแบบฟอร์มเสียเข้มเลย ได้เจลล้างมือจากพี่หมี ตอนไปเที่ยวกทม ล้างมือดะเหมือนกัน ต้องพาแบบฟอร์มไปให้ จนท. ดูหน้า ก่อน แล้วจึงขอสแตมป์ตราได้ ติดอยู่ชายแดน 45 นาทีแน่ะ จากคุณ : rainfull - [ 3 ก.ค. 52 16:20:18 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่า อ่าน ทู้ของหมอหนึ่งแล้วได้ประโยชน์ทุกทีค่ะ จากคุณ : land_girl - [ 3 ก.ค. 52 16:33:31 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณค่า....น้องหนึ่ง   วันหยุด 5 วันนี้ เลยไม่มีโครงการพาลูกไปไหนเลย กลัวเหมือนกันจ๊ะ จากคุณ : ลูกไหม - [ 3 ก.ค. 52 16:45:11 ]

ความคิดเห็นที่ 22 รักษาสุขภาพนะคะคุณน้อง จากคุณ : แม่น้องเอเอ - [ 3 ก.ค. 52 17:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ตอนนี้ไข้หวัด 2009 มาถึงอุดรฯ แล้วด้วยค่ะ เราก็ดันเป็นไข้หวัดไอช่วงนี้อีกตะหาก เลยไม่ค่อยมั่นใจเลยค่ะ สยองพิกล ท้องอยู่ด้วย ...แง... จากคุณ : cotton_ud - [ 3 ก.ค. 52 17:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แบบถ้าต้องพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาล เราต้องใส่หน้ากากไหมค่ะ แต่ลูกยังแข็งแรงดีค่ะ ไปเรียนเฉยๆค่ะ แต่ออกนอกบ้าน หมั่นทามือด้วยเจล เจอห้องน้ำก็พาไปล้างมือบ่อยๆๆค่ะ จากคุณ : kizz_j - [ 3 ก.ค. 52 18:06:55 ]

ความคิดเห็นที่ 25 อิอิ..... แบบว่ายังไม่มีใครในนี้เป็นเลยหรือคะ.....อิอิ คือว่าครอบครัวดิฉันเป็นไปแล้ว 3 คน (รวมทั้งตัวดิฉันด้วยค่ะ) คือว่าเมื่อวันที่ 17 มิย.  ลูกชายคนโต (ป.2-โรงเรียนในเขต จ. ปทุมธานี) ตอนเช้าเริ่มไอ แค้กๆ  แต่ไม่มีอาการอื่น  ตอนเย็นกลับบ้านมาบอกว่าวันนี้ในห้องเรียนตอนเช้ามีเพื่อนมาเรียน 11 คน (จาก 20 คน)  ต่อมาตอนสายๆ มีเพื่อนกลับบ้านไปอีก 6 คน  ดิฉันตกใจมาก ถามลูกว่าทำไมเพื่อนถึงต้องกลับบ้าน  ลูกบอกว่าคุณครูวัดไข้ เพื่อนมีไข้จึงตามผู้ปกครองมารับกลับบ้าน ดิฉันปรึกษากับสามีว่าจะไม่ให้ลูกไปโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น  รวมทั้งลูกชายคนเล็กที่อยู่อนุบาล 1 ด้วย  แต่....อนิจจา.....สายไปแล้วค่ะ  พอตอน 1 ทุ่ม ลูกคนโตเริ่มมีไข้สูงวัดได้ 38.5 องศาเซลเซียส  ดิฉันก็เลยโทรหาคุณหมอประจำตัวลูก  คุณหมอบอกว่าให้พามาตรวจตอนเช้าวันรุ่งขึ้น  เพราะถ้าเป็นจริงๆ จะให้ยา Tamiflu ภายใน 48 ชั่วโมงจะบรรเทาอาการได้ ตอนเช้าวันที่ 18 มิย. ไข้สูง 38.7 พาลูกไปตรวจโดยการป้ายเอามูกภายในโพรงจมูกลึกๆ ไป  ทราบผลภายใน 45 นาที  พบว่า influenza A possitive คือมีการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่  แต่ระบุไม่ได้ว่าเป็นชนิดไหน  คุณหมอสันนิษฐานว่าเป็น ไข้หวัด 2009 เพราะลูกชายดิฉันฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ธรรมดาเป็นประจำทุกปี  เลยไม่ได้ตรวจเพื่อยืนยันว่าเป็นไข้หวัด 2009 จริงๆ (เพราะค่าตรวจ = 5000 บาท) คุณหมอดูอาการลูกชายดิฉันไม่โทรม ยังเล่นได้ รับประทานอาหารได้ตามปกติ ไม่มีอาการปวดท้อง  มีไอเล็กน้อย ไม่มีน้ำมูก  เลยไม่ได้แอดมิด  ได้ยาทามิฟลูกลับมากิน ครั้งละ 4 ซีซี เช้าเย็น  พอเช้าวันที่ 19 ไข้ก็ลง อุณหภูมิร่างกายกลับเป็นปกติ  แต่มีไอเพิ่มขึ้น มีน้ำมูกเพิ่มขึ้น  เพิ่งจะหายไอได้ 3-4 วันนี้เองค่ะ โทรคุยกับผู้ปกครองเด็กอื่นๆ  พบว่ามีเด็กในห้องเดียวกันเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เย็นวันที่ 16 มิย.  และได้รับการตรวจเชื้อยืนยันว่าเป็นชื้อไข้หวัด 2009 จริงๆ อีก 2 คน เด็กคนหนึ่งมีอาการอ่อนเพลียมากและต้องอยู่ในโรงพยาบาลถึง 4 วัน  ในขณะที่มีเด็กอีกจำนวนหนึ่ง (ที่หยุดเรียน / โรงเรียนเรียกพ่อแม่มารับกลับเพราะมีไข้ในวันที่ 17)เป็นไข้ต่ำๆ  ร่าเริงตามปกติ  มีไอและมีน้ำมูกเล็กน้อย  ผู้ปกครองไม่ได้พาไปหาหมอ  เด็กมีไข้ (ต่ำหรือสูงก็ไม่รู้ แต่ผู้ปกครองบอกว่าไม่ซึม) อยู่ 4 วัน  ก็หายเป็นปกติ  เลยไม่ทราบว่าเด็กกลุ่มนี้ติดเชื้อด้วยเหมือนกันหรือเปล่า ต่อมาดิฉันเองเริ่มมีไข้สูง หนาวสั่น และมีน้ำมูกไหลไม่หยุด  แต่ไม่มีเจ็บคอ ไม่มีไอ ในวันที่ 20 มิย.  คุณหมอให้ทามิฟลู  พอได้ยาไข้ก็ลงภายใน 24 ชั่วโมง  กินยา 1 กล่อง (5 วัน)  น้ำมูกหายไปใน 2 วัน แต่อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เป็นเวลาถึง 7 วัน ลูกชายคนเล็ก 3 ขวบครึ่ง  เริ่มไอและมีไข้ต่ำๆ ในวันอาทิตย์ที่ 21 มิย. รีบให้ยาทันที (คุณหมอให้ยามาไว้เลย เพราะเป็นห่วงมาก เป็นเด็กเล็ก)  ไข้ก็หายไป และกลับมาอีก เป็นไข้อยู่ 3-4 วัน ลูกชายเพื่อนบ้าน (อายุ 15 ปี) อยู่โรงเรียนในเขตดอนเมือง  เริ่มมีไข้สูงในวันที่ 26 มิย.  ไปตรวจเป็น influenza A possitive เหมือนกัน  หมอบอกว่าไม่ต้องตรวจยืนยันว่าเป็นไข้หวัด 2009 และไม่ได้ให้ยาทามิฟลู  ให้กลับมาพักผ่อน รักษาตามอาการ  เป็นอยู่ 3-4 วัน ตอนนี้หายแล้ว ที่ทำงานวันนี้เป็นไข้ 2 คน  ไข้ต่ำ 1 คน ไข้สูง 1 คน  คนไข้ต่ำไปหาหมอตั้งแต่เมื่อวาน หมอบอกว่าไม่ต้องตรวจเชื้อ รักษาตามอาการไป ส่วนคนไข้สูง ไม่รู้ว่าเย็นนี้จะยอมไปหาหมอหรือเปล่า จบรายงานจากเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ผู้ได้รับเชื้อไข้หวัด 2009 ตัวจริงเสียงจริง เพิ่มเติม  ลูกชายคนโตเป็นหอบหืด  คุณหมอเลยเป็นห่วงมากๆ  ตอนที่ไปตรวจคัดกรองที่ รพ.  มีเด็กมัธยมโรงเรียนในกรุงเทพชั้นใน เป็นไข้สูงมาตรวจเหมือนกัน  พบ influenza A possitive  เหมือนกัน  คุณแม่บอกว่าน่าจะติดมาจากโรงเรียนกวดวิชา แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 19:27:26 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 19:21:50 จากคุณ : กรรมใดใครก่อ - [ 3 ก.ค. 52 19:04:59 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 25   อิอิ..... แบบว่ายังไม่มีใครในนี้เป็นเลยหรือคะ.....อิอิ คือว่าครอบครัวดิฉันเป็นไปแล้ว 3 คน (รวมทั้งตัวดิฉันด้วยค่ะ) เอ่อ ไม่รู้จะแสดงความอะไรดี  แต่อินเทรนมากเลยค่ะ  หายไวๆนะคะ จากคุณ : ฑีรฒ - [ 3 ก.ค. 52 20:20:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาสำคัญตอนนี้คือ เมื่อพบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพัน A แพทย์มักเลี่ยงการตรวจแยกเชื้อ แต่จ่ายยา Tamiflu แทนครับ ปัญหาใหญ่สุดๆ เลยนะ เพราะถ้าเชื้อดื้อยาคงอันตรายมากทีเดียวหละ และตอนนี้ก็ดื้อไปแล้ว 2 คนในโลกครับ ซึ่งถือเป็นเรทที่ค่อนข้างสูงสำหรับยาตัวนี้ จากคุณ : Epinephrine - [ 3 ก.ค. 52 20:43:49 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เครียดค่ะ ลูกสองคนตัวร้อนทั้งคู่ คนเล็กเริ่มก่อน น้ำมูกไหลทั้งวัน คนโตเริ่มมีอาการ กลัว ไม่อยากพาไปโรงพยาบาลตอนนี้ค่ะ เพราะที่โรงพยาบาลก็มีทหารที่ไม่สบายด้วยโรคนี้นอนอยู่ค่ะ ไม่ซึมเล่นได้ แต่ตัวร้อนต้องทานยาทุกสี่ถึงหกชั่วโมงค่ะ จากคุณ : กัญจน์ญภา - [ 3 ก.ค. 52 21:16:51 ]

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ ฑีรฒ ขอบคุณค่ะ  มีแต่คน "ชื่นชม" ว่าอินเทรนด์ ค่ะ  แต่เวลา "ชื่นชม" เขาจะยืนอยู่ห่างๆ ในระยะ 2 เมตรค่ะ คุณ Epinephrine ค่าตรวจเชื้อแพงมากนะคะ  รพ. เอกชน 5000 บาท  เพื่อนลูกคนที่ได้ตรวจยืนยัน คุณหมอ (รพ. เอกชน) ส่งตัวอย่างไปตรวจที่ รพ. รามา 2500 บาท  และใช้เวลา 2 วัน ถึงจะยืนยันได้  ถึงเวลานั้นก็ไม่ได้ให้ยา ทามิฟลู แล้วค่ะ เพราะเลย 48 ชม. หลังแสดงอาการแล้ว ส่วนลูกเพื่อนบ้าน คุณหมอ ก็ไม่ได้จ่ายยา แต่ให้รักษาตามอาการ ส่วนครอบครัวของดิฉัน มีประวัติโรคหอบหืดค่ะ  ทั้งลูกชายคนโตและดิฉัน  ลูกชายคนโตใช้ยาพ่นเป็นประจำ  คุณหมอเลยเป็นห่วงมากค่ะ  พยายามควบคุมอาการไม่ให้รุนแรง จริงๆ แล้ว เรื่องนี้เป็นปัญหาทางสาธารณสุข น่าจะมีการตรวจยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด  และได้รับผลตรวจเร็วที่สุด เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง ถ้าให้คนไข้รับผิดชอบค่าตรวจกันเอง คงมีคนจำนวนน้อยที่อยากตรวจ / มีศักยภาพทางการเงินในการตรวจอ่ะค่ะ คุณ กัญจน์ญภา ขอให้ลูกๆ หายเร็วๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 21:35:25 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 21:34:07 จากคุณ : กรรมใดใครก่อ - [ 3 ก.ค. 52 21:33:27 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ค.ห. 25 ตอนนี้คงหายแล้วใช่มั้ยคะ ดีใจด้วยค่ะ น้องเชอร์รี่ ขอให้น้องเพชรกับน้องภูมิใจหายไวๆนะคะ โรงเรียนน้ำมนต์ก็กำลังสงสัยว่าจะมีเด็กเป็นเหมือนกัน เพิ่งประกาศวันนี้ แต่สันนิษฐานไว้ก่อนว่าน่าจะใช่แล้วล่ะ เพราะก่อนหน้านี้เด็กคนนี้ไปสอบแข่งขันที่กทม. ทางโรงเรียนเค้าจะทำความสะอาดในช่วงวันหยุดยาวนี้พอดี แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 21:46:42 จากคุณ : พจมารร้าย - [ 3 ก.ค. 52 21:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 31 หวัด 2009 ใกล้ตัวจริงๆ ค่ะ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าใกล้ตัวขนาดนี้ แต่สุดท้ายครอบครัวเราก็เป็นกันจนได้ ตอนที่เป็นก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็น ท้าวความตั้งแต่ตอนที่ (คิดว่า) เริ่มมีอาการนะคะ วันศุกร์ 12 มิย. - ลูกชายบนว่าปวดเบ้าตาซ้าย ลูกเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานเล่นกับเพื่อน มือเพื่อนมาโดนตาขวา แต่ปวดตาซ้าย? แม่ไม่เอะใจ และไม่ได้คิดอะไรเลย บอกลูกว่า เดี๋ยววันสองวันก็น่าจะหาย คราวหลังเล่นระวังๆ นะ อ้อ เย็นวันศุกร์ กลับจาก รร เราแวะเดินเล่นพารากอน, เอ็มโพเรี่ยม และนั่งบีทีเอสกลับบ้านตามปกติ (ไม่รู้ปล่อยเชื้อให้ใครบ้างรึเปล่า?) * มารู้ทีหลังจากสามีว่า ตอนเช้าวันศุกร์ ตอนที่สามีนั่งรถไฟใต้ดินไปส่งลูก มีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ใกล้ๆ แล้วจามออกมาดังมาก น้ำลายกระเด็นด้วย ก็ได้แต่เดาไปเรื่อยว่า เอ๊ะ หรือติดมาจากคนนั้น!? * วันเสาร์ 13 มิย. - พาลูกไปเรียนว่ายน้ำตามปกติ หลังเลิกเรียนลูกไปเรียนที่สนามเด็กเล่นของที่เรียนว่ายน้ำ ปีนป่าย โหนบาร์ ตอนเย็นมาลูกบ่นว่า ปวดแขน ปวดขา จังเลย คืนนั้นแม่เลยนวดให้ คิดว่า วันนี้คงเป็นเพราะโหนบาร์ นานๆ โหนทีเลยอาจจะทำให้ปวด แม่ไม่ได้คิดอะไรอีกแล้ว -_-" วันอาทิตย์ 14 มิย. - ตื่นเช้ามาลูกมีไข้ต่ำๆ เลยให้ทานยาลดไข้ ตอนกลางวันออกไปทานข้าวข้างนอกและไปซุปเปอร์ซื้อของเข้าบ้านตามปกติของวันอาทิตย์ และรีบกลับบ้าน   พอตกกลางคืน ลูกไข้สูงมากประมาณ 39 องศา ยิ่งดึกไข้ยิ่งสูง ทานยาแล้วไข้ไม่ลด มีอาการหนาวสั่น พอตีสาม ก็ตื่นขึ้นมาบ่นว่า ปวดท้อง คืนนี้เช็ดตัวให้ลูกทั้งคืน เพราะทานยาแล้วไข้ไม่ลด วันจันทร์ 15 มิย. - ตอนเช้าอาการไม่ดีขึ้น ไข้ยังสูง ทานยา ไข้ก็ไม่ลด ยังปวดเมื่อยเนื้อตัว เจ็บคอ ไม่ค่อยไอ น้ำมูกไม่มี ลูกไม่ได้เป็นไข้สูงๆ แบบนี้มาหลายปีแล้ว เช้านี้เลยรีบพาไปหาหมอดีกว่า คุณหมอตรวจและบอกว่า ไม่เหมือนไข้หวัดใหญ่ เหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่ รร ที่ลูกอยู่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คุณหมอเลยส่งน้ำลายตรวจ รพ. ที่ไปหาค่าตรวจไม่ได้แพงมากประมาณ 900 (คุณหมอบอกว่ารู้ผลภายใน 24 ชม. แต่เอาเข้าจริงๆ 2 วันกว่าจะรู้ผล) หมอไม่ได้ให้ทามิฟู ถ้าไม่จำเป็น หมอบอกว่ามันมีผลข้างเคียง อาจจะทำให้คลื่นไส้ อาเจียน และถ้าผลออกจะรีบโทรมาบอก ถ้าช้าหน่อยก็อาจจะไม่ใช่ หมอให้กลับบ้านดูอาการ 7 วัน ถ้าออกไปข้างนอกให้ใส่ mask และได้ยาแก้อักเสบมาทาน คืนวันจันทร์ - ลูกชายก็ยังไข้สูง ทานยาไข้ไม่ลด เจ็บคอ มีน้ำมูกนิดหน่อย ไม่ค่อยไอ แต่ไม่ปวดท้องแล้ว วันอังคารที่ 16 มิย. - วันนี้ที่ รร แจ้งว่ามีเด็กป่วยตรวจยืนยันแล้ว และประกาศหยุด 1 อาทิตย์ ส่วนเช้านี้ ลูกชายอาการดีขึ้น ลุกขึ้นมาทานข้าวได้ ไข้เริ่มลด ทานข้าว แล้วก็เล่นของเล่นได้แล้ว โล่งออกไปเยอะ ตอนนี้คิดว่าลูกคงไม่ได้เป็นหรอก ไข้หวัด 2009 น่ะ แต่... วันนี้คุณสามีลุกไม่ขึ้น เป็นไข้ หนาวสั่น นอนซม ปวดเนื้อ ปวดตัว พยาบาลลูกเสร็จแล้ว เลยต้องพยาบาลสามีต่อ คืนอังคาร สามีก็ยังไข้สูงเหมือนเดิม ทานยาพารา ไข้ก็ไม่ลด อาการเดียวกับลูกเลย ปวดท้องเหมือนมีคนมาบีบ วันพุธ 17 มิย. - พาสามีไปหาหมอ รักษาตามอาการหวัดปกติ ได้ยาแก้อักเสบ ยาแก้ไข้มาทาน ผลตรวจของลูกก็ยังไม่ออก หมอเลยไม่ได้ให้ทามิฟู ส่วนลูกก็ไม่มีไข้แล้ว แต่ยังไอ และมีน้ำมูกนิดหน่อย ทานอาหาร เล่นได้ตามปกติ เราก็เข้าใจว่าคงไม่ใช่มั้ง หมอของลูกยังไม่เห็นโทรมาบอกผลตรวจ นี่ก็เลย 24 ชม.มาเป็นวันแล้ว วันนี้เราเริ่มมีอาการคลื่นไส้ ไข้ต่ำๆ แต่ไม่เป็นอะไรมาก เข้าใจว่าตัวเองคงเหนื่อย อดหลับอดนอน ดูแลลูกกับสามี ตอนเย็นวันพุธ หมอของลูกโทรมาแจ้งผลบอกว่า ผลแลบเพิ่งออก ตกลงว่าใช่ไข้หวัด 2009 และถามอาการลูก (ตอนนี้ลูกเราดูปกติแล้ว เพียงแต่ยังไอ และมีน้ำมูก) หมอบอกว่าสาธารณสุขคงไม่โทรมา เพราะตอนนี้คนเป็นกันเยอะมาก ให้อยู่บ้านรักษาอาการตามโรคหวัด ถ้ามีอะไรให้โทรถามหมอ หรือกลับมา รพ. อีก วันพฤ 18 มิย. - วันนี้เรานอนเกือบทั้งวัน รู้สึกคลื่นไส้และง่วงมากๆๆๆ ส่วนสามีดีขึ้นแล้ว เลยผลัดเวรกันดูลูก ให้แม่นอน วันศุกร์ 19 มิย. - เมื่อคืนพฤ. ลูกไข้ขึ้นอีกรอบ แต่เป็นไข้ต่ำๆ พอทานยาไข้ก็ลด เช้าวันนี้ไข้ก็ขึ้นอีก เลยพากลับไปหาหมออีกรอบ ได้ยามาทานอีกรอบ ตอนบ่ายๆ ก็ไม่มีไข้แต่ยังมีน้ำมูก วัน ส-อา - พ่อลูกไม่มีไข้แล้ว กินเล่นได้ตามปกติ ส่วนแม่ไม่คลื่นไส้ แต่ง่วงมากกกก วันจันทร์ วันที่ 7 แล้ว พรุ่งนี้เราจะเป็นไท สามารถออกจากบ้านได้ตามปกติ อาการก็ (คิดว่า) เป็นปกติกันแล้วทั้งพ่อแม่ลูก สุดท้ายขอสารภาพว่า ตอนไป รพ. เราไม่ได้ปิดปากไป รพ. เพราะหาซื้อมาสก์ไม่ได้เลย ไปกี่ร้านก็หมดทุกร้าน เลยต้องไปหาเอาดาบหน้าที่ รพ. คุณพยาบาลให้มา 1 แผ่น จากคุณ : NoNoTan - [ 3 ก.ค. 52 21:43:38 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ กรรมใดใครก่อ ยังดีนะคะ ยังกล้ายืนใกล้ในระยะ 2 m. บ้านเรา พอคุณย่ารู้ว่าเป็น เวลาคุณย่าออกนอกบ้านจะปิด mask ทุกครั้ง เวลามาส่งข้าว พอเห็นสามีเดินลงจากบันได แกก็เอาอาหารแขวนไว้หน้าประตูแล้ววิ่งเข้าบ้านทันที ที่บ้านคุณย่ามีหลานยังเล็กๆ อีกคน พี่เลี้ยงกำลังจะพาออกมาเดินเล่น คุณย่ารีบไล่เข้าบ้านไม่ให้ออกมา (บ้านอยู่คนละหลังแต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน) ลูกชายไป รร วันแรก ครูถามย้ำแล้วย้ำอีกว่าหายแล้วแน่นอนนะ ถ้า พยบ.ที่ รร มาตรวจแล้วพบว่ายังมีไข้ มีไอ น้ำมูก ครูจะโทรเรียกให้ ผปค มารับเลยนะ ทั้งๆ ที่มีใบรับรองแพทย์ระบุวันที่ไป รร ได้แล้วนะเนี่ย -*- แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 21:53:02 จากคุณ : NoNoTan - [ 3 ก.ค. 52 21:50:54 ]

ความคิดเห็นที่ 33 # น้องเดียร์ เจลล้างมือ ไม่ได้ทำให้ความสกปรกลดลง แต่ช่วยฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วน งงไหมคะ คือ ฝุ่นหรือสิ่งสกปรกก็จะยังเกาะอยู่ ดังนั้นถ้าจะให้ดีก็ควรล้างมือก่อน แล้วมาใช้เจลก็จะทำให้ทำความสะอาดได้ดีขึ้นค่ะ เจลล้างมือ ส่วนประกอบที่ฆ่าเชื้อก็คือแอลกอฮอล์ ซึ่งจะฆ่าแบคทีเรียเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ฆ่าไวรัสบางตัวได้  จริงๆคงดีไม่เท่าการล้างมือกับน้ำและสบู่ แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย การใช้เจลนี้ ที่ถูกต้องคือ  ถูเบาๆ ให้ทั่วทั้งฝ่ามือ ซอกนิ้วมือด้านหน้า ซอกนิ้วมือด้านหลัง รอบนิ้วหัวแม่มือ กำมือทีละข้างแล้วใช้มือข้างตรงข้ามถู จบด้วยบริเวณนิ้วมือส่วนปลาย และทิ้งไว้ 25-30 วินาทีให้เจลแห้ง #23 cotton_ud  น่าจะเป็นไข้หวัดธรรมดาค่ะ ไม่ต้องกังวล ส่วนเรื่องไข้หวัด 2009 กับคนท้องเขียนไว้ดังนี้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N7973926/N7973926.html#53 #25 คุณกรรมใดใครก่อ อินเทรนด์จริงๆค่ะ - - " ยินดีด้วยนะคะ ที่คุณและเด็กๆไม่เป็นอะไรมาก และหายดีแล้ว ว่าแต่ทำไมมีคนรอบข้างเป็นเยอะจังเลยคะ แบบนี้จะเชื่อตัวเลขกระทรวงได้หรือเปล่าเนี่ย ว่าพักว่าคน ????? ขอบคุณมากๆที่มาเล่าประสบการณ์นะคะ #27 ใช่เลย กอล์ฟ พี่ว่าทามิฟลู น่าจะควบคุมการใช้ให้เข้มงวดกว่านี้นะ ที่โรงพยาบาลพี่มีการเอาไปกินเพื่อป้องกันเวลาเดินทางด้วยล่ะ ทั้งๆที่ไม่มีข้อมุลว่ามันกันได้ไหม คิดว่าถ้าเชื้อดื้อยาแล้วก็หนาว... จะเอาอะไรมารักษาล่ะทีนี้ จากคุณ : หมูเหมียว - [ 3 ก.ค. 52 22:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 34 #28 เชอรรี่ ขอให้น้องทั้งสองคนหายเร็วๆนะคะ อาการที่น่าสงสัยเรื่องไข้หวัดใหญ่ 2009 หรือต้องพาไปตรวจ ได้แก่ มีไข้ 38 ํC ขึ้นไปร่วมกับ 1. อาการอย่างใดอย่างหนึ่งได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ, ไอ,หายใจผิด ปกติ (หอบ,หายใจลำบาก) 2. อาศัยอยู่หรือเดินทางมาจากพื้นที่ที่พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ในระยะ 7 วันก่อนวันเริ่มป่วย 3. มีผู้สัมผัสร่วมบ้านหรือในที่ทำงานป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่หรือปอดอักเสบ ภายใน 1 สัปดาห์ก่อนวันเริ่มป่วย หรือ - ไข้สูง38.9 ไอมาก #31 NoNoTan  ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับประสบการณ์ ตอนนี้ดีขึ้นกันทั้งบ้านแล้วใช่ไหมคะ แล้วคุณ NoNoTan  กับสามี ไม่ได้ตรวจยืนยันเชื้อใช่ไหมคะ ? ขอให้หายเร็วๆ แข็งแรงกันทั้งบ้านนะคะ ยอมรับว่าอ่านเรื่องของคุณ กรรมใดใครก่อ กับ NoNoTan  แล้วตกใจนะคะ ไม่นึกว่าจะมีเพื่อนๆในชานเรือนเป็น แถมเป็นทั้งบ้านด้วย  คิดว่าตัวเลขที่กระทรวงให้มาคงต่ำกว่าความเป็นจริงจริงๆ เพราะค่าใช้จ่ายในการตรวจสูง อย่างที่คุณกรรมใดใครก่อบอก ให้ตรวจทุกคนก็คงไม่ไหว จากคุณ : หมูเหมียว - [ 3 ก.ค. 52 22:02:17 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณหมอหมูเหมียว ตอนนี้แม่ลูกหายแล้วค่ะ ที่บ้านตรวจยืนยันแค่ลูกชายคนเดียวค่ะ พ่อกับแม่ไม่ได้ตรวจ ที่บ้านมีกันแค่ 3 คน พ่อแม่ทำงานฟรีแลนซ์อยู่ที่บ้านทั้งคู่ คิดว่าไม่ได้เอาไปติดเพื่อนที่ออฟฟิศแน่นอนค่ะ อิอิ ส่วนคุณสามีอาจจะต้องกลับไปตรวจอีกรอบ เพราะเคยมีประวัติจี้หัวใจ (เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ) เมื่อวันก่อนหน้ามืด ปวดหัวใจ เห็นบอกว่าไม่เคยปวดแบบนี้ หมอตรวจเอคโค่หัวใจแล้วไม่พบอะไรผิดปกติ เลยบอกหมอว่า เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเป็นหวัด2009 ไม่ได้ทานทามิฟลู หมอเลยเช็คปอดอีกรอบ ผลเช็คปอดออกมาปกติดี แต่ให้ยาคลายกล้ามเนื้อหัวใจมา อาทิตย์นี้จะกลับไปตรวจกับหมอประจำตัวเรื่องโรคหัวใจอีกที หวังว่าคงไม่มีอะไรนะคะ ตอนนี้ก็ดูปกติดี จากคุณ : NoNoTan - [ 3 ก.ค. 52 22:20:22 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ตัวเองเพิ่งเป็นไข้หวัดใหญ่ไปค่ะ เจ้ากังหันก็เป็น จริง ๆ ก็เหมือนกับติดมาจากลูกนั่นแหละค่ะ เป็นทั้งคู่อยู่อาทิตย์กว่า ๆ ถึงจะหาย ตัวเราเองไม่มีไข้ เป็นแต่น้ำมูกและไอ รวมทั้งเจ็บคอด้วยค่ะ ส่วนลูกก็มีไข้สูง มีน้ำมูก ไอ ซึม ไม่อยากอาหาร ท้องเสีย ดูเหมือนลูกจะเป็นหนักกว่า พาไปโรงพยาบาลเมื่อวันจันทร์ได้ยามาทาน ประมาณ 3 วันก็ดีขึ้นค่ะ ตอนแรกก็กลัว ๆ ว่าจะเป็นไข้หวัด 2009 รึเปล่า แต่ก็คิดในใจว่า ยังไม่น่าจะมาไกลถึงใต้ได้ เมื่อวานกับวันนี้เลยทำความสะอาดบ้านขนานใหญ่ กำจัดเชื้อที่อาจตกค้างอยู่ค่ะ จากคุณ : กังหันลู่ลม - [ 3 ก.ค. 52 22:25:02 ]

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ พจมารร้าย ขอบคุณค่ะ คุณ NoNoTan เพื่อนร่วมชะตากรรม ขอแสดงความยินดีที่หายป่วยทั้งครอบครัวค่ะ  บ้านดิฉันตอนลูกคนโตเริ่มเป็น เครียดมาก เพราะแกเป็นเด็กหอบหืด  แต่โชคดีมากๆ ที่หอบหืดไม่มาสมทบในเวลาที่อาการแย่ที่สุด  แต่แกไอนานกว่าเพื่อนๆ  เพื่อนคนที่แอดมิด 4 วัน หายเป็นปลิดทิ้งแล้ว  ลูกดิฉันยังไออยู่เลยค่ะ  ต้องพ่นยา เซเรไทด์ 2 พัฟ เช้าเย็น คุมอาการตลอด  อาทิตย์นี้ว่าจะเริ่มลดยาพ่นแล้วค่ะ คุณหมูเหมียว ดิฉันว่าอาจเป็นเพราะบ้าน/โรงเรียน อยู่ใกล้/ใน เขตปทุมธานี  คิดว่าผู้ป่วยบางคน (ส่วนใหญ่ ?) คงมีอาการน้อยเพราะร่างกายแข็งแรง เลยสามารถออกไปนอกบ้านได้และกลายเป็นผู้แพร่เชื้อโรค   กรณีครอบครัวของดิฉัน คิดว่า รพ. ไม่ได้รายงานไปที่กระทรวงสาธารณสุข เพราะไม่มีการตรวจเชื้อยืนยัน  แต่เด็กมัธยม รร. สาธิต ที่มาตรวจพร้อมกัน เมื่อทราบผลว่ามีเชื้อ influenza A  ก็มี จนท. มาสัมภาษณ์และบอกว่าต้องส่งข้อมูลไปกระทรวง  และต่อมาก็พาไปตรวจเชื้อ กรณีลูกชายเพื่อนบ้าน ไม่ได้ตรวจเชื้อ ไม่ทราบว่ารายงานกระทรวงหรือเปล่า  (มีน้องของนักเรียนคนหนึ่ง ในห้องเรียนของเด็กคนนี้ ได้รับการตรวจเชื้อยืนยันว่าเป็น 2009  และมีนักเรียนอีกคนหนึ่งได้รับการตรวจยืนยันว่าเป็นเช่นกัน) ขอฟ้องคุณหมูเหมียวด้วยค่ะ  ตอนไปตรวจที่ รพ. พบว่า จนท. หละหลวมมาก  เด็กมัธยม รร. สาธิต คนที่มาตรวจพร้อมกันอยากจะเปลี่ยนผ้าปิดจมูก เพราะเปียกเหงื่อ ไปถาม จนท. ว่าจะทิ้งอันเก่าที่ไหนดี (แกคงกลัวจะแพร่เชื้อ)  จนท. บอกว่า เอามานี่ แล้วก็หยิบไปจากมือเด็ก แล้วทิ้งถังขยะใกล้ๆ  หลังจากนั้น ก็มีเด็กเล็กประมาณขวบกว่าๆ หน้าตาน่าเอ็นดูวิ่งมา  จนท. ก็เอามือไปจับเด็กแล้วบอกว่าน่ารักจังเลย จนท. อีกคนเอามือที่สัมผัสผู้ป่วยจับหน้าตาตัวเอง และถอดผ้าปิดจมูกเข้าๆ ออกๆ  จนโดนคุณหมอดุไม่ให้เอามือจับบริเวณใบหน้า โอโตสโคป (เขียนถูกหรือเปล่า ที่ส่องหูส่องจมูกอ่ะค่ะ)  ตรงชิ้นที่สวมตรงปลายก็ไม่เปลี่ยน ใช้แอลกอร์ฮอลเช็ด  คุณหมอบอกว่าทำแค่นี้ไม่ได้ ต้องแช่แอลกอร์ฮอล  แต่จะให้ดีควรซื้อแบบที่ใช้แล้วทิ้งมาใช้ในกรณีตรวจผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ 2009 ดีกว่า  จนท. ก็ ค่ะๆ จะโทรไปสั่งค่ะ --" แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 22:42:06 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 52 22:36:07 จากคุณ : กรรมใดใครก่อ - [ 3 ก.ค. 52 22:34:25 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ขอให้สามีคุณ  NoNoTan หายเร็วๆ ไม่มีโรคแทรกนะคะ ถ้าทำเอคโค่แล้วไม่มีอะไร ก็น่าจะสบายใจไปเปลาะหนึ่งค่ะ แม่น้องกังหัน ยินดีด้วยที่หายดีกันแล้วนะคะ คุณกรรมใดใครก่อคะ เชื้อนี้ตอนช่วงมีไวรัสในตัว ( viremia) มันไม่แสดงอาการค่ะ พอมีไข้ก็แพร่ได้แล้ว จริงๆแพร่ได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการด้วยซ้ำ แถมติดง่ายด้วย เรื่องการให้บริการ เสนอแนะไปที่โรงพยาบาลดีไหมคะ ? แบบนี้ดีไม่ดี เจ้าหน้าที่จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อเสียด้วยซ้ำไป แหม ถ้าเราเป็นแม่ของหนูน้อยคนนั้น สงสัยมีเรื่องแน่ๆเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ เคยอ่านความเห็นของคุณหมอท่านหนึ่งในห้องสินธรมั้งคะ (หากระทู้ไม่เจอแล้ว) บอกว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 ต้องกันไม่ให้เป็นเท่านั้นถึงจะปลอดภัยที่สุดค่ะ ซึ่งเราเห็นด้วยนะคะ เพราะเท่าที่ดูแล้ว ผลแทรกซ้อนที่รุนแรงไมได้เกิดในคนที่ภูมิคุ้มกันไม่ดีเท่านั้นค่ะ คนปกติก็เกิดอาการรุนแรงได้ค่ะ ที่สำคัญมันติดง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เนื่องจากว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่นี่แหละ ทำให้ภูมิคุ้มกันในคนทั่วไปจึงไม่มี ดังนั้นที่ป่าวประกาศกันทุกวันๆ ว่าไม่เป็นไรๆ ไม่รุนแรง นั้นอิชั้นไม่เห็นด้วยค่ะ  ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายกล้าเป็นกันไหมละเอ้า ... (ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวยาว ) อ้อ ลืมตอบคำถามน้องต้น kizz_j จริงๆแล้วหน้ากากให้ดีที่สุดคือให้คนป่วยใส่ค่ะ อย่างเราอาจจะไม่จำเป็นเพราะเชื้อมันไม่ได้ลอยไปมาในอากาศ (แต่ถ้าใส่ไว้ก็ดี) รักษาสุขภาพกันนะคะ ทุกท่าน ... จากคุณ : หมูเหมียว - [ 3 ก.ค. 52 22:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เมื่อวานไปตรวจครรภ์ที่สมิติเวชคนก็ใส่หน้ากากกันเกือบทุกคนค่ะ (คนญื่ปุ่นเยอะ เป็นหวัดนิดหน่อยเค้าก็ใส่กันอยู่แล้ว ยิ่งเจอโรคระบาดยิ่งกลัวกันใหญ่) เรากับสามีก็ใส่ด้วย ตอนนี้ท้องอยู่ไม่ยอมไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน จากคุณ : ๙ka - [ 3 ก.ค. 52 22:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 40 การป้องกันของ รร ลูกก็คือ ให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ค่ะ เวลาป่วยนิดหน่อยก็ให้หยุดเรียนไปเลย ดีกว่ามาปล่อยเชื้อให้เพื่อนๆ ติด ง่ายๆ แต่ทำยากนะคะ เพราะเด็กจะชอบไปโรงเรียน ไปเล่นกัน ขอบคุณน้องหมอหนึ่งนะคะ สำหรับข้อมูล คิดไม่ถึงว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 จะแพร่กระจายเชื้อไปทั่วขนาดนี้ หวังว่าคงจะควบคุมโรคนี้ได้ในเร็ววัน เพราะคนเริ่มเข้าใจโรคนี้กันดีขึ้นแล้ว ข้อมูลดีๆ อ่านแล้วเข้าใจง่ายด้วยค่ะ จากคุณ : Second impact - [ 4 ก.ค. 52 00:25:31 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น่ากลัวจริงๆ ใกล้ตัวมากๆ จากคุณ : ปอมปาดัวร์ - [ 4 ก.ค. 52 01:52:58 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ก็ดูแลรักษาตัวกันดีๆนะคะ ล้างมือบ่อยๆ พร้อมกับใช้เจลล้างมือก็จะช่วยได้คะ โดยเฉพาะเด็กๆที่ชอบเล่น แล้วก็เอามือป้ายหน้า ป้ายปาก ป้ายจมูก ป้ายตา อันนี้ต้องสอนให้ระวัง แสบที่บ้านพี่ก็เป็นห่วง ไป รร ก็ไอไม่เลิกมาเป็นเดือนแล้ว แต่พ่อเขาฟังเสียงปอดก็ยังไม่มีอะไร ก็ได้แต่พ่น Saline Solution กันทุกวัน พ่อกับแม่ป่วยไข้ขี้น 39 ลูกมันก็ยังไม่เป็นอะไร เมื่อคืนพี่แชทๆ อยู่ดีๆก็ไข้ขึ้น 39 แต่นี่กินยาหายแล้วจํะ จากคุณ : Mimi Mice - [ 4 ก.ค. 52 03:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณมากค่ะน้องหนึ่ง  ถึงใครจะบอกว่าไม่ร้ายแรงป้องกันได้แต่พี่หมีก็กลัว  ทุกวันนี้ใส่หน้ากาก  และพกเจลล้างมือ ออกนอกบ้านตลอด แต่ก็กลัวนะคะว่าลูกค้าจะเอามาติดถึงร้าน จากคุณ : หมีสีชมพู - [ 4 ก.ค. 52 06:45:13 ]

ความคิดเห็นที่ 44 มาตามข้อมูลต่อค่ะ ขอบคุณพี่ ๆ นะคะ ตอนนี้ดูอาการของเจ้า 2 ลิงค่ะ คนโตมีน้ำมูก ไหลตลอดเวลา ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ( ยอมล้างบ้างแต่ไม่บ่อย ) ไม่มีไข้ คนเล็กมีน้ำมูกน้อยกว่าพี่ ยอมล้างจมูกแต่โดยดีเลยหายใจคล่อง ไข้สูง กินยาลดไข้แล้วไข้จะลด บอกตรง ๆ ว่ากลัวมาก ไป รพ.ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย ทุกคนนั่งรอตรวจที่ห้องรวมอยู่ด้วยกัน ยังไม่ได้ตรวจเลยไม่ทราบว่าใครเป็นบ้าง แต่หากมีอาการเยอะกว่านี้ก็จะพาไปค่ะ คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว จากคุณ : กัญจน์ญภา - [ 4 ก.ค. 52 10:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ใครที่ป่วยก็ขอให้หายไวๆนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่เป็นก็อย่าเจ็บอย่าไข้นะคะ เรื่องใกล้ตัวที่ควรใส่ใจ ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ อย่าแชตดึกมากเดี๋ยวร่างกายจะอ่อนแอลงฮิๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : catcompany - [ 4 ก.ค. 52 13:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอเชิญแสดงความเห็นกันค่ะ จากคุณ : หมูเหมียว - [ 5 ก.ค. 52 15:37:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ในฐานะแม่เด็กป่วยมารายงานตัว และแสดงความคิดเห็น ในกระทู้ที่คุณหมูเหมียวแตกออกไปแล้วค่ะ จากคุณ : Francsmama - [ วันเข้าพรรษา 15:28:36 ]