PANTIP.COM : N8069766 กลับมาแล้ว..หลังจากกลัวตกยุค "ไข้หวัดใหญ่" []

ความคิดเห็นที่ 18

สวัสดีคะ คุณแม่ลูกหนุน (คุณพี่สาวที่รัก) และทุกท่าน

จะบอกว่า ของหลานหนุนก็มีโอกาสเป็นไข้หวัด 2009 แหล่ะค่ะคุณพี่
คือว่าอาการนี่มันจะแตกต่างกันไป ท้องไม่ต้องเสียก็เป็นได้นะคะ ขอแจ้งด้วยข้อมูลละเอียดถี่ยิบออกทีวีทุกวันช่วงก่อนที่ระบาดในประเทศญี่ปุ่น

จะขอสรุปให้พี่ๆ ด้านบนอ่านด้วยนะคะ (ข้อมูลพื้นฐานจากทีวีและกระทรวงสาธารณสุขและมหาวิทยาลัยที่ญี่ปุ่นค่ะ)

เชื้อไวรัสไข้หวัดหลักมีหลายสายพันธุ์หลักๆ แต่รอบนี้เห็นทีวีหยิบขึ้นมาสองสายพันธุ์ และการตรวจว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ไม่สามารถตรวจได้ด้วยน้ำคัดหลั่งจากคนไข้ (น้ำมูก น้ำลาย) แต่ต้องตรวจด้วยสารแยกพันธุกรรมเป็นวิธีพิเศษและทำได้ยาก(และแพง)ค่ะ

การตรวจผลของลูกหนุนที่ออกมา บอกว่าเป็น A หรือ B เท่านั้นค่ะ

หากผลออกมาเป็น B แสดงว่าไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ แต่เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ที่มีอยู่แล้ว

แต่ขณะเดียวกันสายพันธุ์ เอ ก็มีอีกเยอะแยะ ไม่ว่า จะเป็น สายพันธุ์เอ ฮ่องกง หรือที่เราเรียกกันว่าไข้หวัดฮ่องกงค่ะ

สำหรับประเทศไทย เท่าที่อ่านจากพี่สาวที่เขียนไว้ว่า ลูกหนุนเป็น A Positive แสดงว่า เป็น สายพันธุ์เอ ซึ่งจะต้องตรวจครอสเช็คทางพันธุกรรมหรืออีกนามหนึ่งคือ PCR อีกที แต่เดาว่าทางโรงพยาบาลคงไม่ตรวจให้ (เพราะยุ่งยากและแพงมาก) ไม่งั้นหมอคงไม่งงว่าใช่หรือเปล่า

อาการของโรคที่สังเกตุเห็นง่ายค่ะ

กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมีอาการ ไข้สูง
30-50 เปอร์เซ็นต์มีอาการ ท้องเสีย คลื่นไส้
และอาการอื่่นๆ เหมือนหวัดทั่วไป

แต่จะเล็งเห็นได้ชัดว่า ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ที่นี่เค้ารณรงค์ให้เด็กนักเรียนวัดอุณหภูมิและจดบันทีกทุกเช้า

ถ้าเกิน 38 ให้เริ่มสงสัยไว้ พอขึ้น 38.5 ไปหาหมอได้ เวลาไปโรงพยาบาลควรสวมหน้ากากให้คนไข้(ไม่ให้เชื้อกระจาย) คุณพ่อคุณแม่อยากจะสวมด้วยก็ดีค่ะ

ทำไมคุณพี่สาวและคุณพี่เขยถึงไม่ติด?

ไม่แปลกค่ะ ที่ญี่ปุ่นนี้ ไปเที่ยวด้วยกันเป็นร้อย ติดกันอยู่แค่ไม่ถึงสิบคนก็คือ ระยะฟักตัวของโรคนี้แต่ละคนไม่เหมือนกันด้วยค่ะ อยู่ประมาณ 4 วันถึง2 อาทิตย์
อีกอย่างไข้หวัดก็คือไข้หวัดอยู่วันยังค่ำคะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่เป็นไข้หวัดแนวที่มีความเป็นพิษต่ำ แต่การแพร่กระจายสูงและไว ทำให้ตัวเชื้อโรคไม่ได้แข็งแรงมาก จะก่อให้เกิดอันตรายกับคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำได้ แต่คนแข็งแรงก็ไม่ติด

หากป่วยกินยาอะไรดี?

หมอจะให้ยา ทามิฟลู (Tamiflu) ไม่ใช่ยาไข้หวัดปรกตินะคะทุกคน มันใช้ได้ก็จริง แต่หลักๆ เค้าผลิตมันมาเพื่อป้องกัน "ไข้หวัดนก H5N1" ที่กลัวๆ กันเมื่อปีก่อนนู้นค่ะ

ปัญหาหลักตอนนี้คือที่ญี่ปุ่นและเดนมาร์ก เริ่มมีเคสที่เกิดการดื้อยา ทามิฟลูขึ้นมาแล้ว อันนี้ที่ญี่ปุ่นและหมอทั่วโลกกำลังเร่งทำวิจัยกันอย่างด่วนค่ะ

จริงๆ มีอีกตัวหนึ่งที่หมอญี่ปุ่นใช้กันก็คือยี่ห้อ GlaxoSmithKline คนญี่ปุ่นเรียก รีเรนซ่า ตัวนี้ก็ยาแก้หวัดครอบจักรวาลเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ ใช้ได้ผลกับไข้หวัดพันธุ์ใหม่

ทำไมถึงเรียกสายพันธุ์ใหม่?

โรคนี้ที่ช่วงต้นเรียกไข้หวัดหมู (Swine Flu) เพราะว่าเชื้อไวรัสนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ในหมู ซึ่งมีนามทางวิทยาศาสตร์ว่า H1N1 ต่างจาก H5N1 ที่เป็นไข้หวัดนก (Bird Flu)

แต่อันนี้ไม่เหมือนไข้หวัดนกตรงที่มันไปแปลงพันธุ์ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างหมูแล้ว จึงทำให้ติดต่อในคนถึงคนได้ค่ะ

คราวนี้กินหมูไม่ติด ไปเรียกไข้หวัดหมูพ่อค้าแม่ค้าร้านตลาดเดือดร้อน แน่นอนเป็นไปทั่วโลก WHO เลยขอเปลี่ยนชื่อเป็น "ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่" New Influenza
แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 52 23:08:19

จากคุณ : สิงห์ใต้เงาจันทร์ (ise...)

เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 23:06:54