Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  
 


*** เล่าเรื่อง ไข้หวัด 2009 ในโรงพยาบาลค่ะ ... เมื่อความ"ตระหนก" มีมากกว่า "ตระหนัก" ***  

เบื่อเรื่องนี้กันหรือยังคะ เรื่องนี้ บางคนอาจจะชินๆเฉยๆแล้วก็ได้ แต่สำหรับเราเอง นึกถึงที่หมอแมวแห่งห้องหว้ากอเขียนไว้ "สำหรับบุคคลากรทางการแพทย์ ทำใจไว้เถอะ มันเพิ่งเริ่มต้น " จริงตามนั้นเลยค่ะ


ช่วงตั้งแต่หลังวันหยุดยาวที่ผ่านมานี่เอง เพิ่งเห็นอาการ " Panic " ที่มากมายนับตั้งแต่เคยทำงานมา ...โรงพยาบาลเนืองแน่นไปด้วยผู้ป่วย ปกติ ER นอกเวลา เคยตรวจเคสไข้หวัดเฉลี่ย 80-100 ราย ต่อเวร ตอนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 200-250 รายต่อเวร (เน้น ต่อเวรนะคะ )

ปกติ ER จะเป็นหมอเวร ER กับน้องๆแพทย์ใช้ทุนตรวจ ถึงตอนนี้ไม่ไหวแล้ว งานโหลดมาก แถมมีน้องหมอที่สงสัยว่าติดหวัดไปแล้วหนึ่งราย เจ้าหน้าที่หน่วยคัดกรองอีกราย ตอนนี้ก็นอนห้องแยกอยู่ ทำให้แพทย์ทั้งโรงพยาบาลต้องผลัดเวรกันมาตรวจ ซึ่งก็ช่วยแบ่งเบาทั้งภาระและความเสี่ยงไป


ที่ ER เรามีจุดคัดกรองสำหรับโรคหวัดโดยเฉพาะ เรียกว่าเป็น Fast track ไปเลย ไม่ต้องปะปนกับผู้ป่วยอื่น... คนไข้เยอะมาก ล้นออกไปถึงข้างนอก อาการมีตั้งแต่หวัดเล็กน้อย จนถึงไข้สูง เจ็บคอมาก ถ้านับแล้วราวๆ 90% ไม่จำเป็นต้องมาตรวจก็ได้  มีเพียง10% ที่เข้าข่ายต้องให้หมอตรวจอีกที

แล้ว 90% ที่ว่าเนี่ยก็ต้องมาเสี่ยงรับเชื้อขณะรอตรวจอีก บางคนก็ไม่ยอมใส่ mask อีกนะ วันแรกๆที่เราเห็นรู้สึกตกใจที่คนไข้เป็นร้อยๆ นั่งเบียดกันโดยไม่มี mask หลังๆดีขึ้นแล้ว จากการรณรงค์และให้ความรู้ แต่ก็ยังมีคนไม่ใส่อยู่ดี



ตอนนี้ผู้ป่วยที่เข้าข่ายที่แพทย์จะสงสัย คือ  ไข้ มากกว่า 38 ร่วมกับอาการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างโดยที่อธิบายจากการตรวจร่างกายไมได้ (เช่น ทอนซิลไม่อักเสบ ไม่มีแผลในปาก) ก็ให้ระวังไว้ก่อนค่ะ ตอนนี้ไม่เอาประวัติการเดินทางหรือการสัมผัสเคสแล้ว  เพราะการระบาดมันเกินช่วงนั้นไปแล้ว ยืนยันผู้ป่วยโดยการเพาะเชื้อนะคะ (PCR)... ส่วนRapid Test ไม่ทำกันแล้ว ซึ่ง PCR นี้แพทย์จะเป็นผู้ส่งในกรณีที่สงสัยค่ะ ผู้ป่วยไม่ตองเสียค่าใช้จ่ายเอง


การรักษา

- ประมาณ 95 % หายเอง

- น้อยกว่า 5 % ที่ต้องให้ยาต้านไวรัส  Oseltamivir ( 1 เม็ดวันละสองเวลา เป็นเวลา 5 วัน) เพื่อลดความรุนแรงของโรค (จริงๆ มีผู้เชี่ยวชาญด้านระบบหายใจบางท่านบอกว่า มันลดไข้จาก  4วันเป็น 3 วัน ลดภาวะปอดอักเสบลงแค่ 20 % เท่านั้นค่ะ )


จะให้ ยา ต้านไวรัส ในกรณีที่มีความเสี่ยงคือ

- อายุ น้อยกว่า 5 ปี หรือมากกว่า 65 ปี

- มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ถุงลมโป่งพอง หอบหืด ไตวาย มะเร็ง

- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น HIV กินสเตียรอยด์

- โรคอ้วน (จะเห็นว่าในบ้านเราดูเหมือนเป็นปัจจัยสำคัญตอนนี้เลยค่ะ)

- คุณแม่ตั้งครรภ์

-มีอาการของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่าง  อาการของโรคที่รุนแรง

แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 52 07:31:39

 
 

จากคุณ : หมูเหมียว
เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 52 07:06:10




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com