PANTIP.COM : N8135387 ได้ยินเสียง "ฟู่" ในหัวใจอีกครั้งจนได้.... []

ความคิดเห็นที่ 8

เข้าใจความรู้สึกของคุณแม่เลยค่ะ ตอนที่คุณหมอมาบอกว่าได้ยินเสียงฟู่ๆ ที่หัวใจอะ เพราะตอนเราเพิ่งคลอดลูกได้ 1 วัน คุณหมอก็มาบอกเราว่าหมอได้ยินเสียงฟู่ๆ เบาๆ ที่หัวใจลูกเรานะ ตอนนั้นเราตกใจเลย แต่ยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าคงไม่เป็นไรมั้งหมอคงฟังผิด แล้วคุณหมอบอกว่าจะต้องทำecho โดยนัดคุณหมออีกท่านซึ่งเป็นอาจารย์หมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจเด็กมาในวันรุ่งขึ้น บ่ายวันนั้นเราคุยกับพี่สาวและน้องชายของเราซึ่งเป็นหมอทั้งสองคน แต่เป็นหมอด้านอายุรเวชนะ พี่และน้องเราบอกเราว่าสงสัยว่าลูกเราจะเป็น vsd คือ ผนังกั้นหัวใจรั่ว เราช็อกเลยอะ พี่กับน้องเห็นหน้าเราแล้วเลยปลอบว่ารอฟังผล echo ให้แน่ดีกว่าอาจไม่เป็นก็ได้

แต่แล้วพอวันรุ่งขึ้นผล echo ก็ออกมาว่าลูกเราเป็น vsd แต่ขนาดของรูรั่ว คุณหมอบอกว่าเป็น moderate คือไม่ใหญ่ ประมาณ 3 mm จะนัดให้มาตรวจอาทิตย์ละครั้งในเดือนแรก ตอนนั้นเราฟังหมอพูดไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วเพราะสติไม่อยู่กับตัวแล้ว จำได้ว่าตอนเห็นลูกถูกตรวจในเครื่อง echo น้ำตาไหลไม่หยุดเลยอะ คิดดูสิลูกเราเพิ่ง 2 วันเองอะ ตอนนั้นเครียดมากเลย น้ำนมให้ลูกก็ไม่ไหลสักที ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ อยู่โรงพยาบาลเป็นอาทิตย์เลย เพราะหมออยากให้แน่ใจว่ามีน้ำนมออกมาแล้วถึงให้กลับ เพราะเด็กที่เป็นผนังกั้นหัวใจรั่วควรกินนมแม่อย่างเดียวเท่านั้น หมอกลัวว่ากลับบ้านเร็วเดี๋ยวไม่ได้กระตุ้นน้ำนมมากพอแล้วเดี๋ยวมันจะไม่มาไปเลย ตอนนั้นพยาบาลทั้งแผนก มาช่วยกันนวดเราใหญ่เลย แล้วก็มาบอกว่าอย่าเครียดอย่าร้องไห้เดี๋ยวนมไม่มา แหม เราจะไม่ร้องได้ไง ตอนนั้นซึมเศร้าไปเลยอะ ทำเอาสามีและที่บ้านเราเครียดกันไปหมดเลยขนาดพี่สาวกับน้องชายเราที่เป็นหมอยังเครียดเลยอะ แล้วก็เป็นหลานคนแรกของทั้งสองบ้านด้วย

ตอนจะกลับบ้านหมอก็ย้ำกับเราว่าให้สังเกตลูกดีๆ ว่าเหนี่อยง่ายไหม ดูดนมแล้วมีหอบไหม ตัวเขียว หรือ ม่วงหรือเปล่า มือเล็บ คล้ำไหม เหงื่อออกมากหรือเปล่า ทานนมได้เยอะไหม เพราะถ้ามีอาการเหล่านี้แสดงว่าอาการไม่ค่อยดี ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าทำไมลูกต้องเป็นด้วย เป็นลูกคนแรกด้วย เลี้ยงก็ยังไม่เป็นเลยยังต้องคอยมาสังเกตอาการอื่นด้วย ตอนนั้นเหนื่อยมากค่ะ

จากนั้นเราก็พาลูกไปตรวจตามที่อาจารย์หมอนัดตลอด คุณหมอก็บอกว่าลูกเราดูดีนะ ไม่เขียวไม่คล้ำ ดูแข็งแรง ไม่ต้องให้ยาใดๆ คุณหมอใจดีมากให้กำลังใจตลอด ให้คำแนะนำว่า เด็กที่เป็นโรคนี้เวลาจะต้องทำฟัน หรือ ทำการผ่าตัดใดๆ ที่ทำให้มีเลือดออก จะต้องแจ้ง ทันตแพทย์ หรือ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดด้วย คุณหมอบอกว่า โรคนี้มีโอกาสที่ รูรั่วจะปิดได้เองแต่ขึ้นอยู่กับขนาดของรูด้วย ในเคสของลูกเราคุณหมอบอกว่ามีโอกาสที่จะปิดเองได้ แล้วโอกาสนั้นก็มาถึงตอนลูกเราอายุ 2 เดือน คุณหมอตรวจดูบอกว่าไม่ได้ยินเสียงฟู่ๆ แล้ว เราดีใจมาก กระโดดตัวลอยเลย โทรบอกทุกคนที่บ้านเลย ขอบคุณคุณหมอ เป็นสิบรอบเลย หมอบอกลูกเราโชคดีที่ปิดเองได้เร็วมาก

ในเคสของคุณแม่ จขกท เราว่าลองไปตรวจดูอีกสักรอบดีไหมคะ เพื่อความแน่ใจ ที่คุณแม่บอกว่าตอนแรกเกิดถึงเก้าเดือนหมอตรวจว่าปกติ อาจเป็นได้ว่า เสียงเบามาก ในตอนแรกนะคะ เพราะถ้าจำไม่ผิด ตอนที่ลูกเราใกล้จะหายแล้วคุณหมอบอกว่า คิดว่าใกล้จะปิดแล้วนะเพราะเสียงดังขึ้น เราก็งงว่าทำไมเสียงดังขึ้นละถ้าจะหายแล้ว คุณหมอบอกว่าถ้ารูรั่วใหญ่เสียงจะเบามากกว่ารูที่มีขนาดเล็กกว่า แสดงว่าลูกของคุณ จขกท รูอาจจะเล็กนะคะพอตอนครบขวบหมอเลยฟังได้ยิน แต่นี่เป็นการเดาของดิฉันนะคะเท่าที่มีประสบการณ์มา ยังไงลองพาไปตรวจกับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจเด็กดีกว่าค่ะ เอาให้แน่ใจคะ เราอยากแนะนำให้ไปพบอาจารย์หมอ ที่รักษาลูกเราค่ะ ท่านใจดี แล้วก็เก่งมากคะ ชื่อ นายแพทย์อภิชัย คงพัฒนโยธิน เป็นอาจารย์หมอที่ รพ จุฬา คะ แต่เราไปตรวจกับแกที่ รพ จุฬา ตอนนัดครั้งแรกครั้งเดียว แล้วถามแกว่าคุณหมอไปออกตรวจพิเศษที่โรงพยาบาลเอกชนไหนอีกไหม เพราะที่ รพ จุฬา คนเยอะมากคะ ไม่ไหว แกเลยบอกว่า แกมีออกตรวจที่ รพ กรุงเทพ กับ รพ กรุงเทพคริสเตียน ด้วยคะ

ยังไงคุณแม่ลองพาไปตรวจดูอีกทีนะคะ อาจจะไม่เป็นอะไรมากก็ได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ

จากคุณ : ลูกเราก็เคยเป็น

เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 52 23:06:04 A:58.8.195.237 X: TicketID:212951