ความคิดเห็นที่ 1 ตีไม่หายค่ะ ถ้าใช้วิธีตี ดิฉันว่า คนตี อีคิวต่ำค่ะ . . . แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 52 22:19:32 จากคุณ : ยาหยีใจแตก เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 22:14:34

ความคิดเห็นที่ 2 เราคิดว่าเป็นที่คนเลี้ยงค่ะ ที่ให้ความสำคัญกับการลงไปดิ้นชัก ต้องไม่สนใจค่ะ อย่าไปดุว่า ไม่ต้องโอ๋ ปล่อยให้เขาร้องสักพัก และให้เขาเรียนรู้ว่าเขาไม่ควรใช้วิธีการนี้หากอยากได้อะไรต้องพูดขอ ตกลงและถ้าไม่ได้ต้องอดทน รอคอย เด็กยังไงก็ควรหัดให้อดทนและรอคอยได้แล้วค่ะ ไม่งั้นเอาแต่ใจแน่  ถ้ามีคนหนุนหลังต้องปราบคนหนุนหลังก่อนค่ะ ไม่งั้นเด็กก็จะแก้นิสัยนี้ไม่ได้ จากคุณ : คนบนฟ้าส่งมาให้รักกัน.. เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 22:23:50

ความคิดเห็นที่ 3 ชักดิ้นชักงอต้องปล่อยค่ะ ไม่สนใจ อย่าไปมองค่ะแต่แอบเหลือบมองได้ค่ะว่า บริเวณนั้นปลอดภัยหรือไม่มีอะไรน่าห่วงและ อย่าให้เค้ารู้ว่าเรามอง   เพราะเค้าจะไม่ยอมหยุด พยายามเรียกร้องอยู่อย่างนั้น   ทำทุกอย่างให้ปกติ  เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  เหมือนไม่มีเค้าอยู่ตรงนั้น อีกหน่อยเด็กก็จะเรียนรู้ว่า ขืนทำไปก็ไม่มีใครสนใจและก็ไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้ด้วยก็จะหยุดทำค่ะ ใช้เวลาหน่อยค่ะ ผู้ใหญ่ก็ต้องเข้าใจอารมณ์เด็กด้วยค่ะ จากคุณ : แม่อยู่ไกล (แม่อยู่ไกล) เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 22:32:38

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่แน่ใจว่า คุณ จขกท ทราบมาจากไหนว่า..ถ้า เด็ก อีคิวต่ำ แล้วต้องตี... เป็นความเข้าใจที่ผิด อย่างยิ่งนะคะ คงไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการ ดัดนิสัยเด็กแต่ละคน ถ้าเป็นลูกเรา...คงจะถามสวนกลับไปทั้งๆ ที่ลูกแหกปากอยู่ ว่า จะเอาอะไร ต้องการอะไร ถามให้เค้าใช้ความคิด รับรอง ว่าเด็กจะชะงัก หยุดอาการชัดิ้นชักงอ แหกปากไม่ลืมหูลืมตา คิดสักครู่ พยายามให้เค้าตอบ...2 ขวบ นี่ เค้าพอจะเข้าใจความต้องการของตัวเองแล้ว ว่าต้องการอะไร ควรจะแสดงออกอย่างไรเพื่อเรียกร้องความสนใจ..ถ้าไม่ตอบ..เราก็จะบอกเค้าว่า ถ้าหนูร้องไฟ้แบบนี้ แม่ไม่รู้ว่าหนูต้องการอะไร...ไว้หยุดร้องไห้แล้วมาบอกแม่ละกันนะ..ว่า ร้องทำไม....จากนั้น...เลิกสนใจ...รับรอง...สักพัก หยุดร้องเอง..แล้วทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น เดินไปหาของเล่น เล่นคนเดียว หรือไม่ก็ หาเรื่อง ซน ยั่วโมโห ผู้ใหญ่ ให้มาสนใจตัวเองอีกรอบ แต่ถ้าลงไปดิ้นกองอยู่กับพื้น แล้วพ่อแม่ ให้ความสนใจ..ไม่ว่าจะเป็น ดุ ด่า ตี   วันหลัง เค้าก็จะทำใหม่ ลองหาหนังสือ สนพ. หมอชาวบ้าน  "เมื่อลูกท้าทายคุณ" มาอ่านดูดีกว่า.. นอกจากนี้ ลองเ๙ริชคำว่า terrible two หามาอ่านด้วย ขอให้โชคดีค่ะ ถ้าเด็กๆ มีพ่อแม่ พี่ป้าน้าอา ที่เข้าใจผิดแบบนี้ เยอะๆ แย่แน่... จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 22:32:41

ความคิดเห็นที่ 5 คุณกุ๊ดจัง หนังสือ "เมื่อลูกท้าทายคุณ" ออกมานานยังคะ ตอนนี้ลูกเรา (1ขวบ 7 เดือน) ไม่เป็นคะ แต่เจ้าหลานชายนี้สิ เป็นแบบ จขกท.ว่าเลย  มีพี่คนหนึ่งเค้าเรียกช่วง terrible two ว่า "ช่วงฟันเหลือง" 555+++ แล้วลูกเราก็เริ่มทำตามหลานชายหลายอย่าง เกรงว่าจะซึมซับอยู่เนี๊ยะ แอบเครียด จะได้ไปหาหนังสือมาลองดูคะ จากคุณ : ก็อย่างว่า เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 52 23:50:46

ความคิดเห็นที่ 6 รู้มาจากไหนอ่ะคะว่าเด็กแบบนี้ ต้องตีอย่างเดียว ... ????????? จากคุณ : Single&Stranger (Ord!naryPeople) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 00:15:43

ความคิดเห็นที่ 7 เมื่อวานลูกเรา สองขวบครึ่ง พบหมอพัฒนาการมา ก็คุยกันเรื่องคุณตาชอบตีลูกเรา หมอบอกว่า เลี้ยงลูก อย่าไปตี เด็กวัยนี้ไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ให้บอกว่า อย่าทำแบบนี้ เพราะอะไร ห้ามใช้คำว่าดื้อ ให้พูดว่า ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลย คือต้อให้คำพูดในด้านดีๆๆป้อนเด็กเข้าไป แล้วต่อด้วยเหตุผล สอนกันไปดีกว่าค่ะ จากคุณ : kizz_j เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 00:44:34

ความคิดเห็นที่ 8 ออกมาสักพักใหญ่ๆ แล้วนะคะ..แต่ไม่แน่ใจว่าเล่มที่เห็นๆอยู่นี่พิมพ์ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว.. มีด้วยกัน 3 เล่ม น่ะค่ะ เนื้อหาไม่ต่อเนื่องกัน แต่คล้ายคลึง ออกจะซ้ำไปซ้ำมา หลักๆคือ..เน้นว่าพ่อแม่ควรจะปฎิบัติตัวอย่างไรเวลาโดนลูกท้าทายในสถานการณ์ต่างๆ +  case study เวลาเจอเด็กทำพฤติกรรมต่างๆ พ่อแม่ที่มีลูกหลายๆคน..ควรอ่านอย่างยิ่ง..เพราะการแก้ไข ปรับพฤติกรรม เด็กที่เป็นลูกคนเดียว..เด็กที่มีพี่น้อง 1 คน 2 คน หรือกี่คนก็ตาม เราว่าแตกต่างกันมากๆๆ แล้ว พฤติกรรมของหลาน จขกท. เราว่า..แค่นี้ ไม่เรียกว่าเป็นเด็ก อีคิว ค่ำหรอกค่ะ...เพิ่งจะ 2 ขวบเอง..ไม่สามารถเอาอะไรมาเป็นบรรทัดฐานว่าแบบไหนเรียกว่า ค่ำ หรือสูง...เด็กคนไหนสูงกว่าคนไหน หรือผู้ใหญ่คนไหนอีคิวสูงกว่าคนไหนหรอกนะคะ เราว่า คนที่ให้การอบรมเลี้ยงดูเด็กนี่สิ สำคัญ...ต้อง อดทน มากๆ ขนาดเราว่าใจเย็นๆ ในระดับนึงแล้วนะ...ยังปริ๊ดแตกบ้างบางที ตำราเล่มไหนก็ฉุดไม่อยู่ เพียงแต่สุดท้ายแล้ว เราควรจะแสดงออก และตอบสนองพฤติกรรมของลูก-หลาน ยังไง ให้เหมาะสม ทั้งๆที่เราโมโห อยากจะจับมันมาฟาดก้น ปล่อยดิ้นกะแด่วๆ กองกับพื้นไปเลย ช่างหัวมัน...นั่นล่ะนะ อ่า..อ่านของพี่แจง kiss-j แล้วนึกออกเพิ่ม.. หลายๆตำรา บอกว่า..ผู้ใหญ่ ไม่อยากให้เด็กทำอะไร..ห้าม ใช้คำ ว่า "อย่า" อย่าทำอย่างงี้ อย่าทำอย่างงั้น...เหมือนเป็น key word ให้เด็กๆ "อยาก" ทำ อยากรู้ อยากเห็นมากขึ้นไปอีก...สุดท้ายแล้ว...คำว่า อย่า เนี่ย...ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ... ควรจะ ชี้แนะสิ่งที่เราอยากให้เค้าทำ...และบอกเหตุผล อย่า ปีน อย่าจับ อย่าเล่นแบบนี้ สิ อย่า ทำโน่น อย่าทำนี่...ถ้ามีคนมาบอกเราแบบนี้ทุกสิ่งอัน..เป็นใคร ๆก็รำคาญ...ห้ามฉันหรอ...ฉันจะทำ กลับกลายเป็นความต้องการเอาชนะ "อย่าปีน(สิโว้ยย เดี๋ยวก็ตกลงมาหรอก แม๊..บอกไม่ฟัง)"  --->  ระวังนะลูก ปีนตรงนี้ หนูจะตกลงมา เจ็บนะ "อย่าจับ(ไม่รู้หรือไงว่ามันร้อน..เดี๋ยวก็ลวกมือจนได้)"   --->      อันนี้ร้อนนะ..จับแล้วมือพอง..ลองแตะๆ ดูสิ..อะ เห็นไม๊..ร้อนนใช่ป่าว..แบบนี้เรียกว่าร้อนนน "ห้ามเล่นคอมพิวเตอร์แม่นะ..ไปเล่นของเล่นตัวเองเลยปะ ของตัวเองก็มีทำไมไม่รู้จักไปเล่น"  ---> คอมอันนี้แม่ต้องใช้ทำงานนะ...ถ้าหนูเล่นแล้วพัง แม่จะเสียใจมากๆ เลย แม่ไม่มีตังค์ซื้อใหม่ด้วย พอแม่ไม่ได้ทำงาน ก็ไม่มีตังค์ ก็พาหนูไปเที่ยวไม่ได้นะ...อยากไปสวนสัตว์ อยากไปทะเลใช่ไหม...งั้นหนูไปเล่นของเล่นตรงโน้นแป๊บนึงนะ..ขอแม่ทำงานแป๊บนึง เดี๋ยวเสร็จแล้วแม่จะไปเล่นด้วย แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 52 00:57:35 จากคุณ : กุ๊ดจัง เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 00:47:14

ความคิดเห็นที่ 9 ฮือ ๆ วันนี้เพิ่งตีลูกไป (14 เดือน) จะไม่ทำอีกแล้วค่ะ จากคุณ : Fishery เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 03:57:27

ความคิดเห็นที่ 10 ลูกชายเรากำลังจะ 2 ขวบ เคยเป็นแบบนี้มาพักนึง ไปห้าง ไปที่ไหนๆ ไม่ได้ดั่งใจก็ชักดิ้น ชักงอไปกับพื้น เราก็อ๊าย อายคน แต่เราต้องข่มใจ บอกลูกว่าถ้าเลิกดิ้นแล้วตามแม่มานะ แล้วก็เดินห่างไปข้างหน้าอีกหน่อย ทำเป็นไม่สนใจ ไปนั่งรออยู่ข้างหน้า ลูกเราก็ดิ้นงอหงายอยู่นั่นแหละ แล้วก็เดินมาหา ร้องไห้เหมือนเดิม มาดิ้นอยู่ข้างหน้าเราอีก เราก็บอกไม่หยุดแม่จะไปแล้วนะ ก็ปล่อยเค้าร้องไป คนก็มอง เราก็ทำหน้าทนไว้ก่อน เป็นแบบนี้มา 5-6 ครั้ง สุดท้ายรู้ว่าแม่ไม่โอ๋ เค้าก็เลิกทำค่ะ ต้องอดทนเท่านั้นค่ะ จากคุณ : Evelyna เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 05:21:44

ความคิดเห็นที่ 11 เคยพาลูกไปพบนักจิตวิทยาเด็กที่สมิ.. น้องอายุ 11 เดือน ไปปรึกษาเรื่องฉี่ แต่ได้เรื่องการสนใจของเด็กมาด้วย คุณหมอจะให้ของเล่นเด็ก น้องก็เล่น แล้วคุณหมอบอกว่า เด็กมีรู้ 2 อย่างคือน อภาษา กับภาษา น้องสนใจของเล่น (อภาษษ) มากกว่าสนใจกับคำพูดของเรา แล้วคุณหมอบอกให้เด็กสนใจทั้งอภาษา กับภาษาไปพร้อมๆ กัน ไม่อย่างนั้นเมื่ออายุประมาณ 2 ขวบ เขาจะเป็นเด็กที่ไม่ฟัง อยากได้ของ หรือความสนใจ จะลงไปชักดิ้น หรือร้องให้ คุณหมอเรียกว่า วัยต่อต้าน 2 ขวบค่ะ จากคุณ : oiooy (oiooy) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 07:33:11

ความคิดเห็นที่ 12 อ่าน หัวกระทู้แล้วนึกเหมือน คห.1 เลย 555555555 หาหนังสือมาอ่านดีกว่าค่ะ มีหลายเล่มเลยที่สอนคนเลี้ยงเด็กให้ฉลาดขึ้น สิ่งที่ควรท่องไว้คือ  พฤติกรรมดีความชม ส่งเสริม พฤติกรรมไม่ดี ไม่ควรไปสนใจหรือให้ความสำคัญ ทำเมิน หรือไม่สนใจ ดีกว่าตีหรือคอยดุว่าค่ะ จากคุณ : (( aloha )) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 10:14:34

ความคิดเห็นที่ 13 เด็กวัยสองขวบ อยู่ในช่วง terrible twos เด็กไม่ได้ดังใจก็จะแสดงอารมณ์ออกมาเป็นหลัก ช่วงพีคมันก็ประมาณ 16-24 เดือนหลังจากนี้ เด็กเริ่มเรียนรู้มีเหตุผลมากขึ้น แต่การร้องไห้เอาแต่ใจก็ยังไม่หมดหรอกค่ะ เด็กบ้างคน สี่ห้าขวบก็ยังเป็น เด็กพูดกันรู้เรื่องมีเหตุผลมากขึ้นก็หกขวบขึ้นไปล่ะค่ะพอสักสามขวบคราวนี้ลูกเริ่มเถียงเก่ง พ่อแม่เริ่มหงุดหงิด ว่าลูกเราเป็นอะไร จะเอาโน้นเอานี้ เอาแต่ใจ เปลี่ยนใจเร็วมาก ไม่ได้ดังใจก็งอนชักสีหน้าแหกปากร้อง ไม่น่ารักเหมือนเก่าแล้ว น้องไม่ได้มีอีคิวต่ำหรอกค่ะ ตีให้ตายก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกค่ะ ตีอาจมีผลดีตรงที่น้องเค้าหยุดการกระทำตรงนั้น เวลานั้น แต่ครั้งหน้าเค้าอาจจะทำอีก แล้วคนเป็นพ่อแม่ก็เจ็บปวดหัวใจอีกด้วย แถมมีผลต่อเนื่องอีกด้วย เด็กจะขาดความมั่นใจ ชอบความรุนแรง ถ้าน้องร้องแล้วชักดิ้นชักงอ ก็ปล่อยเค้าไม่ต้องสนใจ เดินหนี เด็กจะเรียนรู้ได้เร็วมากว่าเค้าลงไปเจ็บตัวแล้วไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เค้าก็ค่อยๆๆเลิกทำ สังเกตุลูกคุณจะเห็นว่าเค้าก็มองพ่อแม่หรือคนเลี้ยงอยู่เหมือนกัน ว่ามีปฏิกิริยากะเค้าเป็นอย่างไร เรามีวิธีปราบลูกแบบนี้ เราจะไม่พูดคำว่า "อย่าหรือไม่" บ่อยหนัก อะไรที่สำคัญจริงๆๆถึงจะพูดคำว่า "อย่าหรือไม่" แต่แม่จะห้ามมากกว่าพ่อ ซึ่งจะเห็นว่าลูกจะมีการตีแม่มากกว่าพ่อ  ถ้าพ่อแม่เริ่มมีโมโหแล้ว ก็จะเรียกชื่อ "เต็มเค้า" ทำเสียงดุๆๆ เค้าไว้ (คนละโทนเสียง)เด็กจะเริ่มเรียนรู้และสามารถแยกออกได้จากโทนเสียงค่ะ ถ้าอารมณ์ปกติหรือเล่นกันเราจะเรียกชื่อเล่นของลูก  ถ้าห้ามแล้วก็ยังทำอยู่ก็จับลูก time out ปล่อยให้ร้องไป ตอนนี้ลูกเราอายุสามขวบ พอเรียกชื่อเต็มเค้า เค้าก็บอกว่า "อย่าเรียกชื่อเต็มเค้า เค้าไม่ชอบ" ที่สำคัญที่สุด พ่อแม่ หรือคนเลี้ยงต้องใจเย็นๆๆ อดทนอดกลั้นตอนเค้าอารมณ์เสียเพื่ออนาคตของลูกน้อยของคุณ นึกถึงตอนที่ลูกยิ้ม ร่าเริง สนุกสนาน แค่รอยยิ้มลูกน้อยก็ทำให้คนเป็นพ่อแม่มีหัวใจเบ่งบานและมีความสุข จากคุณ : busytinybee เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 10:34:09

ความคิดเห็นที่ 14   ตีก็ดี  แต่ต้องใช้เมื่อถึงเวลาเหมาะสมค่ะ สองขวบยังเล็กเกินไป   ฟังเหตุผลยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลย   ไปตีเขา  ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรค่ะ เวลาลูกเราชักดิ้น ชักงอ   เราก็ล็อคตัว   เอาเข้าห้อง (ถ้าอยู่บ้าน)  แล้วก็ปลอบเอา   หรือ เบี่ยงเบนความสนใจ     หรือ บางที  เหนื่อยมากๆ  ก็ทำเป็นไม่สนใจซะ ลูกเราคนเล็ก  สองขวบกว่า   จะใช้วิธีตี  ก็ต่อเมื่อ 1.  ห้ามแบบทันที  กับสิ่งที่เป็นอันตรายสุดๆ  เช่น  กำลังเอานิ้วแหย่ปลั้กไฟ   หรือ กดน้ำร้อน   แต่ถ้ากดน้ำร้อนลวกไปแล้ว   เราก็ไม่ตีแล้ว  เพราะเค้ารับโทษไปแล้ว  คือ  ลวกมือ   ก็ปลอบเอาอย่างเดียวค่ะ 2.  พี่น้องทะเลาะกัน ตีกันเอง   อันนี้  ถึงคนเล็กจะเล็กอยู่   แต่ก็ตีค่ะ   จะตีทั้งพี่ ทั้งน้อง  (ไม่เลือกปฏิบัติ)   ซ้ำลงไปเลย ทั้งพี่ทั้งน้อง     ทีนี้ละ  พี่น้องร้องไห้ด้วยกัน  ปลอบกันเอาเอง  แล้วก็ภายในไม่กี่นาที   รักกันจี๋จ๋า  เพราะอยู่ในสถานการณ์ลำบากด้วยกันทั้งคู่   อิอิอิ  สมน้ำหน้า จากคุณ : Mont (Montparnasse) เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 52 21:42:20