ความคิดเห็นที่ 1 อืมมมมมมม... เป็นเหมือนกันเลยแฮะ   ก็กำลังสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันทำไมเราหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ อันนู่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ อุ๊ยเจ็บ.. อุ๊ยจั๊กจี้.. เฮ้อออ..เหนื่อย  เฮ้ออ.. อยากพักผ่อน.. สารพัดเหตุผลเอามาอ้าง พยายามจะปรับตัวหลายครั้งแล้ว แต่ก็อดไม่ได้ทู้กกกก  ที จากคุณ : แม่น้องฟลุ๊ค เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:33:24

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นอ่ะ *-*' จากคุณ : biggangmom เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:39:12

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาอ่าน  ที่จริงเราก้อรู้ว่าเราเป็นแบบนี้เหมือนกัน  โดยเฉพาะเรื่องกุ๊กกิ๊กนี่เห็นชัดเลย   เราขี้หงุดหงิด  ไม่ชอบให้เค้าเข้าใกล้  (บางทีก็ว่าเค้าว่าคิดแต่เรื่องแบบนี้  เอาเวลาไปคิดเรื่องงานบ้างซิ  อ้าว...เป็นงั้นซะ)  เวลาเค้าแอบมองก็ชอบคิดว่า  นี่ขนาดเราอ้วนน่าเกลียด  เค้ายังมองแล้วกรุ้มกริ่ม(แปลว่าอะไรฟระ)  ถ้าเจอผู้หญิงที่สวยกว่าเรา  สาวกว่าเราเค้าต้องอดใจไม่อยู่แน่   เฮ้อ...เป็นซะแบบนี้  บางครั้งก็ถามตัวเองนะว่า  จะดูแลเค้าเอง หรือถ้าเหนื่อยนัก  ให้เค้าหาผู้ช่วยเอามั๊ย  พอคิดแบบนี้จุกในอกเลยค่ะ  คำตอบก็คือ  ไม่เป็นไรค่ะยอมเหนื่อยดูแลเค้าเองดีกว่า   อิ  อิ  คิดเหมือนกันไหมค่ะ จากคุณ : สาวผมสั้น เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:45:43

ความคิดเห็นที่ 4   ปีนี้เป็นปีที่ 7 (ของการแต่งงาน) เหมือนกันค่ะ แต่คบกันทั้งหมดก็ 17 ปีแล้ว เจออาถรรพ์เลข 7 เข้าให้เหมือนกันค่ะ แต่เราก็จะฝ่าฟันมันไปให้ได้ค่ะ บางครั้งอย่าคิดว่าเค้าไม่เหมือนเดิมเนอะ ให้ย้อนดูตัวเราเองด้วยว่าเราด้วยรึเปล่าที่เปลี่ยนไป เราก็ถามสามีอยู่เสมอว่าอะไรที่เราขาดตกบกพร่อง อะไรที่เค้าต้องการแต่เรายังไม่ได้ทำให้ อะไรที่เราทำแล้วเค้าไม่ชอบ บอกมาได้เลย เรารับได้ ยินดีรับฟัง และยินดีเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคนที่เรารัก ในขณะเดียวกันเราก็พยายามบอกเค้าทีละนิดทีละหน่อยด้วยว่า เราต้องการอะไรจากเค้าบ้าง แต่ถึงเค้าทำให้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เพราะมันเป็นเรื่องแค่นิด ๆ หน่อย ๆ เล็ก ๆ น้อย ๆ  (ศรีทนได้) 5 ตุลานี้ ครบ 7 ปีพอดีค่ะ คิดว่าพอผ่านเลข 7 ไปแล้ว อะไร ๆ มันจะดีขึ้น ช่วยกันเติมเต็มส่วนที่มันขาด และตัดทิ้งในส่วนที่มันเกิน ให้ครอบครัวของเรากลับมาสมดุลย์ และ สมบูรณ์อีกครั้ง... จากคุณ : สาวศรีราชา เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 14:51:12

ความคิดเห็นที่ 5 คงกำลังท้องอยู่ด้วยมั้ง เลยหงุดหงิดง่าย จากคุณ : Anonym เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 15:55:29

ความคิดเห็นที่ 6 มายกมือยอมรับว่า นิสัยเปลี่ยนไปเยอะมาก โฮ่ะๆๆ เอ่อ เพิ่ง 3 ปีกว่าเองอ่ะ จะรอดพ้น 7 ปีกับเขามั้ยละเนี่ย 55555555 จากคุณ : น้องทะเล เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 16:29:22

ความคิดเห็นที่ 7   กว่าจะสำนึกได้ว่าตัวเราเปลี่ยนจาก 'เธอที่รักของผม' มาเป็น 'ยัยแร้งทึ้ง' ก็เกือบทำให้ครอบครัวล่มสลายซะแล้ว จากคุณ : ME เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 16:39:52 A:124.121.95.191 X: TicketID:114774

ความคิดเห็นที่ 8 ก็มีหงุดหงิดบ้างนะคะ แต่ว่าพอดีไม่ได้อยู่กับสามี เวลาเจอกันก็เลยอยากให้มีแต่ความสุข ถึงแม้ลึกๆ หรือเวลาต้องอยู่คนเดียวก็อดน้อยใจเขาไม่ได้ค่ะ คิดว่าเขาไม่มีเวลามาดูแลเราเลย บางครั้งเวลาไปหาหมอต้องไปคนเดียว เห็นครอบครัวอื่นเขาไปกันเป็นคู่ก็เศร้าใจ นั่งน้ำตาตกในอยู่อย่างนั้น แต่ก็พยายามเข้มแข็งเพื่อลูกนะคะ แต่ตอนนี้ก็...ไม่ได้อยู่ด้วยกันถาวรแล้วค่ะ จากคุณ : yurimbe7 เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 16:54:27

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมีคติพจน์อยู่อย่างหนึ่งซึ่งผมใช้มาตลอดคือชีวิตคู่นั้นต้องเริ่มต้นด้วยคนสองคน หลังจากการแต่งงานแล้วนั่นแหละคือการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งการจะใช้ชีวิตคู่ให้สวยงามเหมือนดั่งที่หลายๆคนฝันไว้นั้นต้องเริ่มจากการที่เราต้องให้เกีรยติซึ่งกันและกัน และหมั่นนึกถึงเสมอว่าเขาเข้ามาเป็นคู่ตัวมิใช่ของตัว ซึ่งหากนึกอย่างที่ผมกล่าวไว้ก็จะทำให้เราไว้ใจซึ่งกันและกัน เวลาฝ่ายใดทำผิดอีกฝ่ายก็ต้องช่วยกันแก้ไขมิใช่ทับถมกัน และแต่ละฝ่ายมิมีใครเป็นของๆใคร แต่อยู่เพื่อเป็นคู่คอยที่จะให้ซึ่งกันและกัน  ดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกัน นี่แหละเขาเรียกว่าชีวิตคู่ ระลึกเสมอว่าคู่ของตัวไม่ใช่ของๆตัวครับ จะทำอะไรก็นึกถึงวันแรกที่เจอกันครับ  สุดท้ายนี้ผมอยากให้คุณดูกระทู้ที่ผมเคยโพสต์ไว้ครับชีวิตคู่ ขอให้รักกันนานๆนะครับ http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N8174038/N8174038.html จากคุณ : khop_non (khop_non) เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 16:54:38

ความคิดเห็นที่ 10 สวัสดีค่ะทุกท่าน นี่คือข้อคิดจากประสบการณ์จริงค่ะ คุณ khop_non คะ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะคะ มันตรงกับตัวฝนในสมัยก่อน (5ปีที่แล้ว) ฝนดูแลสามีแบบนี้แหล่ะคะ เมื่อคืนฝนยังนั่งตัดเล็บให้สามีอยู่เลย อิอิ กลับมาเอาอกเอาใจเค้าอีกแล้ว ตอนนี้ดิฉันเป็นฝ่ายยอมเปลี่ยนค่ะ กลับมากดูแลเค้าเหมือนเดิม พอได้ทำอะไรให้สามีซักอย่างก็ทำให้นึกได้ว่า อืมเราไม่ได้ดูแลเค้ามานานแล้ว พอมีปัญหาเกิดขึ้น เราก็มานั่งคาดคั้นว่าทำไมเค้าถึงนอกใจเรา เมื่อได้ทำอะไรให้คนที่เรารักบ้าง ความสุขมันก็กลับคืนมาค่ะ อย่าคิดว่าใครต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเท่านั้นเองค่ะ ใครจะเริ่มก่อนมันก็ดีกับชีวิตคู่ทั้งนั้น ไม่ว่าใครจะผิดใครจะถูก ก็ต้องมีคนใดคนหนึ่ง"ยอม"ให้อีกคนหนึ่ง ผลัดกันยอมก็ดีนะคะ  คุณยอมบ้างเค้ายอมบ้าง ถ้าจะมาคาดคั้นว่าใครผิดใครถูก เรื่องมันยาวค่ะ ขอให้คู่อื่นๆดูแลกันและกันตลอดไปนะคะ อย่าให้เกิดปัญหาอย่างฝน ดีที่ว่า "สติ" ยังช่วยให้เราไตร่ตรองในสิ่งที่ดีที่เค้ามีอยู่ ไม่ทำให้ตัดสินใจเลิกกัน ใครมีประสบการณ์เกี่ยวกับชีวิตคู่ดีๆ ช่วยชี้แนะด้วยนะคะ จะเอาไปปรับใช้กับตัวเองค่ะ คุณพ่อฝนบอกไว้ตอนที่มีปัญหากันว่า "รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อค่ะ" อยากอยู่กันยืดยาว ก็ตัดเอาเรื่องจุกจิกๆปัญหาต่างๆออกไปบ้างอย่าเก็บมาใส่ใจมากนัก ถ้าอยากยากจะเลิกกันแล้วล่ะ  ก็ต่อความยาวสาวความยืดกันไป มันก็ได้จบสมใจคุณล่ะ แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 17:47:30 แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 52 17:37:07 จากคุณ : TaPrO เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 17:35:08

ความคิดเห็นที่ 11 ถูกใจกระทู้นี้มากๆเลยค่ะ คนเรามักมองไม่เห็นไม่เห็นความผิดของตัวเอง โทษแต่คนอื่น " แล้วก็มาโวยวายว่าคนอื่นเลว " บอกว่าเค้าเปลี่ยนไป คนมีลูกก็ต้องคิดถึงแต่ลูกสิ อ้วนก็เพราะผลิตลูกให้เค้านั่นแหล่ะ  บ้านช่องรก สกปรก เหม็นอบอวล ไปด้วยกลิ่นฉี่กลิ่นอึแด็ก หน้าหงึกหน้างอเวลาสามีกลับบ้าน บ่น ด่า เพราะคิดว่าไงเค้าก้ต้องทนให้ได้ ถ้าเค้าทนไม่ได้แสดงว่าเค้าเลว บ้านร้อนเป็นไฟ  คุณคิดว่าบ้านแบบนี้มนุษย์หน้าไหนอยากกลับบ้านล่ะ ที่ จขกท พูดมากี้ก็เป็นนะ เป็นมากด้วย แรง ด่ากระจาย มีโทรตามไปด่า ทำงานด้วย โทรด่ายันหัวหน้างานที่ชวนแฟนเราไปกินเหล้า เพราะเครียด ที่เลี้ยงลูกอยู่กับห้องคนเดียว ไม่เคยไปไหน ไม่เคยเข้าร้านทำผม ปล่อยเนื้อปล่อยตัว จนได้กลิ่นเน่าๆนั่นแหล่ะดมไปดมมาเอ้าเฮ้ย...! กลิ่นตัวกรุเองนี่หว่า กี้เลยลุกมาปรับปรุงตัว หัดให้เวลากับตัวเองบ้าง ลูกน่ะรักแต่เอาไปไว้เนิสบ้างก็ได้ จะได้มีเวลาส่วนตัวกับ เค้า และตัวเอง เลิกบ่น ยิ้มแย้ม พอเราดูแลตัวเองให้สวย เราจะอารมณ์ดีน่ะค่ะ ไม่รู้ใคร? เป็นเหมือนกี้มั้ยนะคะ พอเราแฮปปี้กับตัวเอง เราก็จะแฮปปี้กับคนรอบๆตัว เรากลับมาเอาอกเอาใจแฟน ดูแลเค้า ไม่โวยวาย ไม่ซ้ำเติมเวลาเค้าทำอะไรผิด แล้วแฟนเราก็เปลี่ยนไปอย่างที่เราหวังไว้จริงๆ ชอบไปกินเหล้ากับเพื่อนแต่ตอนนี้ คอยนับวันหยุดจะได้พาเมียไปเที่ยว เพื่อนๆเค้าก็ดีกับเรา เกรงใจเรา เพราะเราเปลี่ยนไปเยอะมาก คนล่ะคนเลย หน้าสวย หุ่นเช๊ง ใจเย็นลงเยอะ เค้าสิต้องกลัวว่าเราจะหาสามีใหม่ ตอนนี้ติดเราแจ จนเราเริ่มรำคาญ ---_______---"  ตอนนี้ลูกโตแล้ว ไปไหนก็ไปยกครัว แต่ที่กี้ภูมิใจมั่กๆ (แบบคนม้นหลงตัวเองง่า) เวลามีคนถามว่า  " นี่ลูกพี่ทั้งสองคนเลยหรอคะหุ่นยังดีอยู่เลยไม่น่าเชื่อ หุหุ บ้าไปเลยง่า " เพราะกว่ากี้จะลดได้แต่ล่ะโลมันแสนจะทรมารน้อ แต่ผลมันคุ้มค่าจริงๆ แฟนว่าอะไรกี้ไม่ได้ เกรงใจเราด้วยซ้ำ เพราะงานบ้านงานเรือน ลูกเต้า กี้ทำได้ดีหมดทุกอย่าง เมื่อก่อนเคนตึงมากเรื่องความมสะอาดแต่ตอนนี้ ต้องปล่อยวางบ้าง ไม่งั้น ปสด เหมือนแต่ก่อนอีก ถ้าเราคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว เค้ายังจะมีกิ๊ก อิหนู เมียน้อย สำหรับกี้ บอกคำเดียวค่ะ เชิญ ขออย่างเดียว อย่าเอามาคืนกรุล่ะกาน เหอะๆ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 03:26:30 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 03:24:09 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 03:22:57 จากคุณ : แม่น้องโอม เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 03:07:55

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆค่ะ ^ ^ เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว มีบางครั้งเราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ มีบางครั้งเราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ มีหลายๆครั้งที่เราต้อง ใช้สติ ต้องรู้จักอดทนและให้อภัย ดูอย่างต้นไม้สิ ... มันไม่เคยจะฝืนลิขิตของฤดูกาล เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบ มันก็ยินยอมแต่โดยดี อดทน... เพื่อจะผลิดอกออกผลเมื่อฝนมา ต้นไม้ที่งดงามด้วยดอกผลที่สะพรั่ง ก็เปรียบเหมือนครอบครัวที่สมบูรณ์นั่นเอง ขอให้มีความสุขมากๆกันทุกครอบครัวนะคะ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 06:58:28

ความคิดเห็นที่ 13 จากคุณ : ป้าแมงฯ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 08:22:59

ความคิดเห็นที่ 14 บทเรียนจากชีวิตคู่ มันไม่มีบทเรียนตายตัวสำหรับคู่เราจริง ๆ ค่ะ เราอาจจะเคยได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวปัญหาชีวิตคู่ของคนโน้นคนนี้ แต่ในรายละเอียดปลีกย่อย ต่างก็แตกต่างกันไป เราเองเคยมีปัญหาเหมือนกัน เราคิดว่าที่เราทำอยู่นี้มันดีที่สุดแล้ว ทำงานนอกบ้าน หารายได้ให้ครอบครัว กลับมาจากทำงานก็เลี้ยงลูก มันเหนื่อย เหนื่อยจนเราลืมดูแลสามีไป จริง ๆ เราคิดว่าสิ่งที่เราทำอยู่ มันดีอยู่แล้ว แต่มันทำให้มีช่องว่างระหว่างเรากับสามี จนมีคนอื่นเข้ามา ทำให้ครอบครัวเราเกือบแตกแยก แต่เมื่อเราย้อนกลับมามองดู เราก็รู้ว่าที่เราทำอยู่นั้น ทั้งสถานะสาวอ๊อฟฟิศ แม่ของลูก เราทำได้ดี แต่เรายังทำหน้าที่เมียได้ไม่ดี และเราต้องแก้ไขมัน ถ้าอยากให้ ครอบครัวเราดำรงอยู่อย่างนี้ จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 08:43:54

ความคิดเห็นที่ 15 เคยคิดค่ะ ว่าเราเองก็เปลี่ยนไป แต่จริงๆแล้วมันก็เปลี่ยนกันทั้งคู่นั่นแหละ ไม่มีใครไม่เปลี่ยนหรอก ความคาดหวัง  ทำให้คนเปลี่ยน เราก็คาดหวังว่าเค้าจะอย่างนั้นอย่างนี้ เค้าก็คาดหวังว่าเราจะอย่างนู้นอย่างโน้น พอความคาดหวังมันไปคนละทางหรือสวนทางกันไม่ไปในทิศทางเดียวกันก็เลยมองว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจริงๆแล้วก็คือเปลี่ยนไปจากความคาดหวังของแต่ละฝ่ายนั่นเอง เลยเก็บมาทุกข์ หาทางออกต่างๆนาๆ แล้วแต่วิถีแนวคิดแต่ละคน ชีวิตคู่จะอยู่ยังไงให้รอด เราคิดว่ามันก็ต้องช่วยกันปรับปรุงตัวเองทั้งสองฝ่ายไม่ใช่มุ่งจะเปลี่ยนแปลง แต่จะให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอยู่ฝ่ายเดียวมันก็คงไม่ไหวในที่สุดอ่ะ เขียนเองมึนเองวุ้ย แหะ แหะ ^_^ จากคุณ : แม่ตุ่น เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 09:39:51

ความคิดเห็นที่ 16 จริง ๆ เราว่าเกือบทุกคู่เปลี่ยนกันทั้งสองคนนั่นแหละ หลังแต่งงานความรับผิดชอบมากขึ้นยิ่งมีลูกด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึงเลย ไอ้เรื่องจะดูหนัง ฟังเพลง ไปต่างจังหวัด เดินห้างกินข้าวสองต่อสอง แทบไม่มีเลย เพราะความเป็นห่วงลูก รักลูก คิดถึงลูก เกรงใจพ่อแม่ซึ่งเราคล้าย จขกท นะ เราว่าทั้งเราและเค้ารู้ทุกอย่าง แต่ประเด็นคือไม่สามารถทำได้ทุก ๆ อย่าง อย่างที่รู้ปัญหามันก็เลยเกิด อีกอย่างเรื่องปัญหาในครอบครัวมันเรื่องยิบย่อยมากทุกอย่างสามารถเอามาเป็นปัญหาได้หมด บ้านเราจะตั้งกฎกติกาไว้ก่อนแต่งเลยว่าเวลามีปัญหากันจะต้องไม่ข้ามคืน อีกอย่างที่สำคัญคือเวลามีปัญหากันต้องไม่มีใครออกนอกบ้าน จะอยู่ตรงไหนก้ได้ในบ้านแต่ไม่ออกนอกบ้าน เพราะการเอาปัญหาออกนอกบ้านเป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าอีกมากมายตามกลับมา ที่สำคัญไม่ว่าจะขอโทษหรือไม่เราจะเงียบลง และเย็นลงทั้งสองคน ยิ่งลูกอยู่ด้วยแล้วยิ่งหายง่ายมากเพราะต่างคนต่างไม่อยากให้ลูกมีปัญหาตามมา สุดท้ายไอ้เรื่องยิบย่อยก็กลายเป็นเรื่องขำขำกันไปแทบทุกครั้ง สุดท้ายเขียนมาซะยืดยาว หลาย ๆ คนเคยคิดเหมือนเรามั๊ยว่า การเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่เนี่ยะมันไม่ง่ายเลยจริง ๆ :) ดำเนินชีวิต(คู่) กันต่อไปเพื่อครอบครัวและอนาคตที่ดีของลูกกันเถ๊อะ 55 จากคุณ : pls star pls เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:20:46

ความคิดเห็นที่ 17 แผลเป็นของคุณพ่อมือเดี่ยวครับ จากคุณ : ฝั่งหัวใจ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 10:40:51

ความคิดเห็นที่ 18 บางทีก็แอบเป็นนะ แต่พอมองกลับดูตัวเอง เราก็จู้จี้เค้าเกินไปเหมือนกัน ขอให้เจ้าของกระทู้กลับไปมีความสุขเหมือนเดิมนะคะ จากคุณ : ลูกกาหยูของแม่นก เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:48:44

ความคิดเห็นที่ 19 ตอนนี้ฝนยัง "สวย" ให้เค้าไม่ได้ค่ะ ติดที่ว่าท้องน้องอยู่ ครีมบำรุงก็ไม่กล้าทาซักอย่าง  อยากใช้บำรุงผิว กันแดด ก็ไม่กล้าใช้ คิดว่าเอาให้ลูกคลอด กินนมให้เต็มที่ก่อน แม่ค่อยสวยก็ได้ ผมก็ไม่ได้ยืด ไม่ได้อบไอน้ำนานแล้ว อืม ลองแต่งหน้าบางๆซิ ดึงจุดเด่นของเราออกมาก็พอ ทาปาก เขียนคิ้ว ยิ้มแย้มเข้าไว้ ก็สวยไปอีกแบบ ส่วนผมก็มัดให้เรียบร้อยหน่อย ยังไม่ต้องตัด ไม่ต้องยืดก็ได้ เอาให้ดูดีหน่อย ฝนคนนึงที่ไม่ชอบใส่ชุดคลุมท้อง แต่จะพยายามหาชุดแฟชั่นตัวใหญ่ๆมาใส่ เข้าไปในเวปคนอ้วน เสื้อผ้าเยอะแยะเลยค่ะ สวยๆ ละก็ไม่แพงเลย คราวนี้ก็ตั้งใจจะลดความอ้วนซักทีค่ะ หลังจากคลอดน้อง ไม่งั้นก็คงตามสาวๆนอกบ้านไม่ทัน ถ้าตัวอ้วนกลมอยู่แบบนี้ พยายามด้วยกันนะคะ ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะสวยทั้งตัว ก็สวยด้วยใจก่อน ยิ้มแย้มให้สามีชื่นใจบ้าง ความรักจะได้หวานชื่น เริ่มปรับปรุงตัวเองทีละหน่อย  ถ้าเราทำดีที่สุดแล้วแต่เค้ายังเปลี่ยนไป ก็ถือว่าอย่างน้อยเราก็ได้ลุกขึ้นมารักตัวเองนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาคุยค่ะ ละขออภัยค่ะกิฟท์หมดแล้วค่ะ เดี๋ยวจะย้อนหลังให้ค่ะ จากคุณ : TaPrO เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:24:49

ความคิดเห็นที่ 20 แต่งมาเจ็ดปีเหมือนกันค่ะ ก็มีบ้างนิดหน่อย เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่อยู่ด้วยกันมานานนะคะ เป็นข้อคิดที่ดีมากๆค่ะ หากเราไม่ปรับปรุง แล้วเค้าเกิดนอกลู่นอกทางไปก็จะไม่คุ้มนะคะ ชีวิตคู่เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนจริงๆ ><" จากคุณ : Baby I love you เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:38:39

ความคิดเห็นที่ 21 อ่านแล้วดีใจครับ และรู้สึกว่าปัญญาก่อให้เกิดความคิดดีๆ ส่วนอารมณ์ก่อให้เกิดปัญหาร้อยแปดพันประการ ผมรู้สึกว่าคำว่าสุภาพสตรีที่เขาใช้กับคนดาษดื่นนั้น เหมาะสำหรับคุณที่สุด ความงามสะท้อนออกทางอักษรและความคิดแบบนี้ละครับ ทุกอย่างมีทั้ง"เหตุ"และ"ผล"ของการกระทำ ถ้าเราอย่ากให้คนให้เกียรติเรา เราได้ให้เกียรติเขาซึ่งกันและกันแล้วหรือยัง ถ้าเรายอมรับความเป็นจริงที่ว่าไม่มีคนไหนสมบูรณ์ถูกใจไปหมดซะทุกเรื่อง ข้อเสียมีแน่ๆ แต่จะมีตรงไหนว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ก็ต้องแยกแยะให้ออก รู้จักชั่งน้ำหนักว่าอะไร ที่เขา/เธอ ไม่ชอบก็ทำสิ่งที่เขา/เธอชอบก็แฮปปี้ทั้งคู่ (คนละเรื่องกับการเออออห่อหมก หรือตามใจในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรนะครับ) ครอบครัวก็จะรวยสุข เรื่องที่คุณคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ อาจเป็นความละเอียดอ่อนที่ต้องการการเอาใจใส่ ถ้าถนนต้องใช้หินหลายล้านก้อนในการสร้าง ไม่ใช่ก้อนเดียว ความรู้สึกคนเราก็เป็นแบบเดียวกัน คำสั้นๆ ว่า CARE (ขอใช้คำที่ไม่แปลเพราะไม่คิดว่าคำแปลนั้นแปลได้ตรง) นั้นสำคัญมาก ถ้าเรามีและรู้จักสิ่งนี้จริงๆ เราจะยอมในบางเรื่องกับใครสักคนโดยไม่ถามเหตุผล เพราะบางอย่างโดยเฉพาะความรู้สึกที่จะเสียไปไม่คุ้มและกอบกู้กลับมาให้เหมือนเดิมไม่ได้ ขอให้ระมัดระวังใช้ชีวิตด้วยธรรม มากกว่าอารมณ์ แล้วผมเชื่อว่าคุณๆ จะพบแต่ความสุขไม่ใช่ความทุกข์ แปลกครับ ทั้งๆ ที่เรารู้ว่าสิ่งใดคือความทุกข์ สิ่งใดคือความสุข แต่บางครั้งเราเลือกหนทางแห่งความทุกข์ทั้งๆ ที่มีทางเลือกไปสุข แต่ก็ไม่เลือกทางนั้น ทำไม? เออนะ จากคุณ : Lord of Rabbit เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:12:58

ความคิดเห็นที่ 22 เลย 7 ปี มานิดหน่อยค่ะ จริงๆ ที่ว่าละเลยเขาพอสมควร สนใจแต่ลูก เรื่องกุ๊กกิ๊กนี่หายไปเลย เหนื่อยค่ะ ไหนจะงาน ไหนจะลูก ไหนจะอะไรเยอะแยะ ดีที่สามีเข้าใจ และรักเรากะลูกมาก แต่ก็คงต้องหันมาใส่ใจเขาบ้าง ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น ขอบคุณ จขกท ที่มาให้แง่คิดค่ะ จากคุณ : nongporjaija เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:16:12

ความคิดเห็นที่ 23 ใช่เลย *-* จากคุณ : เกี๊ยวซ่าไส้กุ้ง เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:47:03

ความคิดเห็นที่ 24 โหวต !!! เห็นด้วย จากคุณ : Mrs-Ginna เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 14:32:53

ความคิดเห็นที่ 25 ฝากอีกนิดนึงค่ะ คาถาที่หลายๆคนเคยอ่านผ่านตามาแล้วแต่ไม่เคยนำมาใช้เลย (ฝนคนนึงแหล่ะค่ะ) ดีใจค่ะกระทู้นี้มีคนสนใจมากมาย คาถาบูชาผัว รักผัวตัองให้ผัว หมดทั้งตัวหมดทั้งใจ รักผัวต้องอ่อนไหว ผัวว่าไงต้องว่าตาม รักผัวตัองเคารพต้องประจบไม่ลามปาม รักผัวต้องคล้อยตามไม่วู่วามคอยเอาใจ รักผัวต้องอดทน ผัวเป็นคนไม่ยอมใคร รักผัวต้องทำใจ ใช่ผัวใครก็ผัวเรา รักผัวต้องหมั่นสวย เดี๋ยวจะซวยผัวไม่เอา รักผัวต้องคอยเฝ้า ถึงผัวเมาก็ตามใจ รักผัวต้องฝึกฝน ผัวเป็นคนชอบของใหม่  รักผัวต้องเข้าใจ ผัวไปไหนอย่าห้ามปราม รักผัวต้องแข็งแรง ต้องพลิกแพลงให้วาบหวาม รักผัวต้องทุกยาม ไม่ซักถามให้กวนใจ รักผัวต้องกล้าเสียยกน้องเมียให้ผัวไป รักผัวต้องสนใจผัวเป็นไงต้องคอยดู รักผัวต้องพูดง่ายไม่โวยวายไม่ลบหลู่ รักผัวต้องเฝ้าดูหาอีหนูมาเอาใจ รักผัวต้องเชื่อฟัง ผัวเสียงดังต้องทนได้ รักผัวต้องรู้ใจ ผัวอยากได้ต้องหามา รักผัวต้องใจเย็น ผัวนั้นเป็นเช่นเทวดา รักผัวต้องบูชา ผัวมีค่ากว่าสิ่งใด รักผัวต้องรักเดียว อย่าไปเที่ยวรักผัวใคร รักผัวต้องแน่ใจ ผัวของใครก็ของมัน รักผัวต้องแน่วแน่ ต้องรักแท้ผัวของฉัน รักผัวต้องยึดมั่น ทุกข้อนั้นสำคัญเอย คาถาบูชาเมีย รักเมียต้องให้เมีย ไม่งั้นเมียจะเสียใจ รักเมียต้องอ่อนไหว เมียว่าไงต้องว่าตาม รักเมียต้องเคารพ ต้องประจบห้ามลามปาม รักเมียต้องคล้อยตาม ไม่วู่วามเอาแต่ใจ รักเมียต้องอดทน เมียเป็นคนไม่ง้อใคร รักเมียต้องทำใจ ใช่เมียใครก็เมียเรา รักเมียต้องรวยรวย เดี๋ยวจะซวยเมียไม่เอา รักเมียต้องคอยเฝ้า เฝ้าเมียเราพียงคนเดียว รักเมียต้องฝึกฝน เมียเป็นคนชอบของใหม่ รักเมียต้องเอาใจ เมียซื้ออะไรอย่าห้ามปราม รักเมียต้องแข็งแรงห้ามสาปแช่งให้เมียตาย รักเมียต้องคล้อยตามไม่ซักถามให้กวนใจ รักเมียต้องกล้าเสีย แค่บอกเมียไม่เป็นไร รักเมียต้องสนใจ เมียเป็นไงต้องคอยดู รักเมียต้องพูดง่าย ไม่โวยวายไม่ลบหลู่ รักเมียต้องเฝ้าดู เดี๋ยวชายชู้จะเอาไป รักเมียต้องเชื่อฟังเมียเสียงดังต้องทนได้ รักเมียต้องรู้ใจ เมียอยากได้ต้องหามา รักเมียต้องใจเย็น เมียนั้นเป็นเช่นนางฟ้า รักเมียต้องบูชาเมียดีมีค่ากว่าสิ่งใด รักเมียต้องรักเดียว อย่าไปเที่ยวรักเมียใคร รักเมียต้องมั่นใจ เมียของใครก็ของมัน รักเมียต้องแน่วแน่ ต้องรักแท้เมียของฉัน รักเมียต้องยึดมั่น ทุกข้อนั้นสำคัญเอย แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 15:42:49 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 15:42:19 จากคุณ : TaPrO เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 15:37:17

ความคิดเห็นที่ 26   ทำไมผู้หญิงชอบเข้าใจว่าเวลาอ้วนแล้วจะไม่สวยน๊า ผมก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบมองตอนลองชุด ตอนทานอาหารที่เค้าชอบ ฯลฯ สรุปแล้วคือเวลาที่ผู้หญิงมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่แหละที่สวยที่สุด ผมก็เพิ่งมีลูกเหมือนกัน เวลาเค้าหงุดหงิดใส่ ก็จ๋อยไปบ้างเหมือนกัน ยอมรับว่าเราคงหาโอกาสกลับไป Sweet เหมือนเดิมไม่ได้แล้วล่ะ ด้วยภาระต่างๆ แต่ผมยังเห็นภาพเดิมเหมือนตอนเราจีบกันใหม่ๆ ว่าตอนเราแก่เป็นคุณตา คุณยาย เมื่อภาระทุกอย่างบางเบาลง เราจะนั่งกุมมือกันดูลูกหลานเติบโต :) จากคุณ : ลุงแว่น เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:01:21 A:198.208.171.121 X:

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นอย่างที่อ่านเป๊ะ ๆ เลย พอแต่งงานแล้ว... เรารู้สึกว่าอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป ก่อนเรามีลูก... ก็ไปไหนมาไหนด้วยกัน  หึงหวง เดินจับมือกัน...ง้อเวลาโกรธ ส่ง SMS หากัน ทุกวันแม้จะอยู่ด้วยกันแล้ว แต่พอมีลูกเรากลับลืมสิ่งพวกนี้ไป สนใจลูกมากกว่า แคร์ลูกมากกว่า อะไร ๆ ก็ลูก อยู่ร่ำไป ไม่เคยถามว่าเค้าไปทำงานเหนื่อยมั๊ย (รู้ว่าเหนื่อยเลยไม่อยากถาม) กินไรมารึยังทั้งที่ก่อนนี้เคยถามบ่อย ๆ  (ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวก็คงหากินเองได้) เคยส่ง SMS หาเค้าบอกรักเค้าทุกวันก็เปลี่ยนเป็นเลิกส่ง (เก็บตังค์ไว้ให้ลูกดีกว่า  ส่งไมเปลือง) จากที่เคยพร่ำบอกรักก็เลิกไป (บอกทำไมทุกวันก็รู้ ๆ กันอยู่ เหนื่อยขี้เกียจพูด) เคยหึงหวงก็เปลี่ยนไป...จะไปไหนก็ไปเถอะ (ไม่ใช่ไม่หึงหวงแต่ไว้ใจต่างหาก ) มีลูกแล้วจะแสดงอาการเยอะก็ยังไงอยู่... เคยจับมือกันเวลาไปไหนก็เปลี่ยนไป... (จับมือลูกดีกว่า  เดี๋ยวซนเดินไปไหน) แต่ก็อยากบอกเค้าเหมือนกัน  ให้เค้ารู้ว่า... ถึงเราจะบ่น  จู้จี้กับเค้า โมโหพูดจารุนแรง บางทีคำพูดบางคำอาจทำให้เค้าน้อยใจ เราไม่ได้ตั้งใจ  ยังไงเราก็ยังรักเค้าเหมือนเดิม ตอนเช้าเค้าออกไปทำงาน  เราก็ยังรอเค้ากลับมาทุกวัน บางอย่างอาจเปลี่ยนไป (โดยเฉพาะหุ่นช๊านหลังมีลูก) แต่ยังไงแม่ก็ยังรักพ่อเหมือนเดิม... และแม่ก็จะรักพ่อตลอดไป  จนกว่าเราจะหมดรักต่อกัน(ไม่ว่ากรณีใด ๆ ) ตั้งแต่แม่มีลูกแม่ไม่เคยคิดหาใครมาแทนที่ของพ่ออีก เพราะแม่รู้ว่า หุ่นแม่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว จากก่อน ๆ ที่เคยสวยนิ๊ง  โฉบเฉี่ยว เดี๋ยวนี้กลับโทรม  อ้วน  ดูไม่ได้ เพราะมัวแต่เลี้ยงลูก ช่วงนี้แม่อาจดูแก่กว่าพ่อด้วยซ้ำ... แต่พ่อไม่มีอะไรเปลี่ยน  พ่อยังคงหล่อ เท่ห์  เหมือนเดิม แม่ไม่รู้ว่าเราจะรักกันไปอีกนานแค่ไหน แต่แม่ก็จะพยายามให้เราอยู่ด้วยกันและรักกันอย่างนี้ตลอดไป... -*-  แม่รักพ่อเสมอ  -*- จากคุณ : ~ ล อ ลิ ง ซุ ก ซ น ~ (~ ล อ ลิ ง ซุ ก ซ น ~) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 21:14:43

ความคิดเห็นที่ 28 โดนอย่างแรง จากคุณ : rainflower เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 21:21:48

ความคิดเห็นที่ 29 ใช่เลย จากคุณ : หมวยตาหยี เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 22:27:42

ความคิดเห็นที่ 30 กะลัง  เจออาถรรพ์เลข   7 เหมือนกัน ล่าสุด   แค่ลงซื้อข้าว   แอบแวะ ดู  ข้อมือ แปปเดว  ระหว่าง  รอข้าว เท่านั่น   แร่ะ  ..โทรมาตามเลย คือ สรุปว่าจอดรถรอไม่ได้ ทีมะก่อน รอได้ เปนชั่วโมง เฮ้อ... จากคุณ : NooDeva เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 23:33:36

ความคิดเห็นที่ 31   ด้วยภาระ และสถานภาพที่เปลี่ยนไป คนเราก็ต้องเปลี่ยนตัวเองไปเหมือนกันนะ ก่อนแต่งงาน ก่อนมีลูก มันก็คือโลกของความฝัน มันมีแค่เรา 2 คน รับผิดชอบกันแค่ตัวเอง แต่พอแต่งงาน พอมีลูก โลกของความจริงมันเริ่มปรากฎ จะให้มาแต่งตัวสวย คอยเอาใจสามี แล้วลูกหล่ะ ก็ต้องดูแล ภรรยานะคะ ไม่ใช่ super woman ที่จะสามารถทำทุก ๆ อย่าง ตามที่ทุก ๆ คนต้องการได้ จากคุณ : Because of Love เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 08:17:07

ความคิดเห็นที่ 32 ...ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ แต่ความสุขก็คือความรัก... ***โสด( แบบไม่สด )*** เลยไม่เคยมองตัวเอง ตอนนี้ถือคติอย่างเดียว " อยู่เป็นโสดดีกว่ามีผัวเลว " หุหุ จากคุณ : run to me เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 09:15:03

ความคิดเห็นที่ 33 อุ้ย ต้องดูตัวเองบ้างแระ แหะๆ แต่แหม่มบ่นยังไงก้อบ่นอย่างนั้น นี่แก้ไม่ได้ 555+ จากคุณ : M+J=Jammy เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 10:11:54

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณที่จุดประกาย ใช่จริง ๆ ด้วยค่ะ ให้ไปเลยสามใจ...^^ จากคุณ : ดาวแก่นใส เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 12:37:03

ความคิดเห็นที่ 35 ผ่าน 7 ปีมาแล้วค่ะ วันนี้ครบรอบปีที่ 8 (19 ส.ค.) ถือหลักว่า ให้เกียรติกัน เชื่อใจกัน ให้อภัยกัน และใช้เหตุผลต่อกัน ก็ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่นค่ะ (แต่เมื่อก่อนก็เป็นบ้างเหมือนกั๊น...) จากคุณ : อ้วนกลมชมพู เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 12:39:12

ความคิดเห็นที่ 36 ในความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณและสามีนั้น ได้เห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงโชคดี ที่มองเห็นและยอมรับจุดอ่อนของตนเอง แสดงให้เห็นว่า ความรักคือการไม่เห็นแก่ตัว และรู้ว่าไม่มีใคร ผิดหรือถูกไปเสียทุกเรื่อง เปิดใจให้กว้าง แก้ไขสิ่งบกพร่องนั้น เชื่อว่าคุณจะนำทุกสิ่งดีๆกลับมาสู่ครอบครัวได้เหมือนเดิมค่ะ และ ลูก คือของขวัญที่ทำให้ทุกสิ่งสมบูรณ์นะคะ จากคุณ : แป้งสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 21:53:50

ความคิดเห็นที่ 37 ตอนนี้ก็ตั้งท้องเหมือนกันค่ะ เข้าใจว่าจขกทอาจจะมีอารมณ์หงุดหงิดบ้างซึ่งเราก็เป็นเหมือนกัน :p หลายๆครั้งที่ลงกับสามี เพราะคิดว่าเขาเป็นคนใกล้ตัวและเข้าใจเรามากที่สุด จนบางครั้งก็ลืมคิดไปว่า.. สามีเราก็มี "หัวใจ" นะ ทีเราหล่ะ.. ยังอยากให้เขาเอาใจ พูดดีๆ ไม่เอาอรมณ์ขุ่นมัวจากที่อื่นมาใส่เรา แล้วเราทำไมไปลงที่เขา หงุดหงิดได้สารพัดเรื่อง?!! เห็นด้วยค่ะ..ว่าบางครั้ง เราเองที่ลืมมองตัวเอง เคยทำสามีร้องไห้เพราะความน้อยใจด้วย >_< อืมม.. ผู้ชายร้องไห้ เราทำอะไรลงไป?? เราทำคนที่เรารัก และ รักเราเสียใจ..ทำไม? ยิ่งพอได้ยินเขาพูดว่า "เขารักเรานะ ทำไมเราไม่เข้าใจเขาบ้าง?" .. อึ้ง ..!   โชคดีที่สามีให้อภัยและไม่เคยคิดโกรธ หรือ เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ให้เป็นเรื่อง ทำให้ชีวิตคู่เรามีโอกาสที่จะปรับตัว แก้ไข อะไรที่ไม่เข้าใจกัน ผิดใจกันให้ดีขึ้นเรื่อยๆ หัวใจเรา.. มันก็แค่ก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง ดูแล และ รักษามันดีๆ อย่าให้เกิดรอยแผลในใจของกันและกันเลยนะคะ -- ขอให้ทุกครอบครัวมีความรักให้แก่กัน และ ใส่ใจกันให้มากๆน้า -- ^.^ ปล. ที่สามีมองรูปร่างจขกท. เชื่อว่าเขาไม่ได้มองเพราะเรารูปร่างอ้วนท้วน ฉุ หรือ ไม่น่าดูหรอกค่ะ เขามองเราอย่างชื่นชมมากกว่า (แหม..จะมีลูกอะนะ) --> อิอิ อันนี้สามีบอกมา จากคุณ : annim เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 52 12:15:21

ความคิดเห็นที่ 38 ของเราเพิ่งแต่งมาแค่ปีกว่าๆ แต่คบกันมาเก้าปี ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงาน ... ตอนนี้คู่เรายังไม่ท้อง แต่ก็แพลนกันจะมีลูกเร็วๆนี้ สามีก็มีแซวเรื่องอ้วนขึ้นค่ะ บอกว่าไม่เหมือนสมัยก่อน สมัยตอนรู้จักกันใหม่ๆ ซึ่งเราก็รู้ตัว และพยายามจะลดลงให้ได้นะคะ เข้าใจว่า เค้าอยากให้เราดูน่ารักเหมือนสมัยที่คบกันใหม่ๆ  แต่เค้าก็จะย้ำๆตลอดว่า ไม่ได้รักน้อยลงนะคะ... อย่างนึงเลยคือ เราคิดว่า จะทำให้ชีวิตคู่มีความสุข ต้องไว้ใจกัน ให้เกียรติกัน และให้อภัยกันค่ะ  เรื่องจุกจิกไม่ถูกใจ พูดอธิบายให้เค้าฟังไปแล้ว ก็ให้จบกันไป อย่าพยายามฟื้นฝอยจุกจิกขี้บ่น ... การเอาใจใส่กัน แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ก็แสดงให้เห็นว่าเราแคร์นะคะ .. คุณสามีเคยพูดไว้คำนึง ซึ่งฟังแล้วซึ้งใจค่ะ  เค้าบอกว่า เค้าดีใจที่ได้แต่งงานกับเรา เพราะเค้ารู้สึกว่าเค้าได้เพื่อนคู่คิด ที่เค้าสามารถคุยปรึกษาได้ทุกๆเรื่อง  ฟังแล้วซึ้งอ่ะ ฟังเสร็จเดินเข้าไปกอดเค้าแน่นๆเลยอ่ะ ... จากคุณ : แม่หนูพริม เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 06:42:54

ความคิดเห็นที่ 39 เออ จริงด้วย เข้ามาอ่านแล้วมองเห็นตัวเองเลย ต้องรีบปรับปรุงตัวเสียแล้วเรา ขอบคุณนะคะที่เขียนมาเป็นกระจกให้อ่าน :) จากคุณ : BrownyGirl เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 12:21:06

ความคิดเห็นที่ 40 ของพี่ แต่งงานมานี่ก็ปีที่ 4 ค่ะ แต่คบก่อนแต่งมา 10 ปี รวมรู้จักกันมา 14 ปีแล้ว  ที่เหมือนกันตรงเรื่องกุ๊กกิ๊กค่ะ พี่มีลูกแล้ว 1 คน ตอนนี้ก็ 2 ขวบแล้ว เรื่องกุ๊กกิ๊กกับสามีน้อยจริงๆค่ะ แต่เดิม พี่ก็เป็นคนไม่ติดเรื่องนี่อู่แล้วค่ะ แต่สำหรับผู้ชายคงไม่ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ บทบาทไหน เค้าก็ยังสนใจเรื่องนี้อยู่ อย่างพี่เป็นแม่ เป็นเมีย แล้ว ก็ลูกสะไภ้ แล้วยังทำงานนนอกบ้านอีก กลับบ้านก็ต้องผลัดเวรดูแลลูกกับแม่สามีแล้วค่ะ เวลาที่จะคุยกันกับสามีก็ลดน้อยลง ยิ่งสามีทำโอทีกลับบ้านบางทีก็ 3 ทุ่ม วันหยุด สามีก็มีแมชกอล์ฟอีก แน่นอนมีเคืองค่ะ แต่ก็คิดว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้เค้าระบายความเครียดจากงาน แต่ก็มาจับได้ว่า เค้าแอบมีกิ๊ก แล้วด้วยเหตุผลที่เค้าบอกคือ  ......พี่ไม่เหมือนเดิม..... จากคุณ : ชลบุรีมามี่คลับ เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 14:20:47

ความคิดเห็นที่ 41 อย่างที่ฝนเป็นช่วงหลังๆนี้ ไม่รู้ว่าทำไมค่ะ เอะอะก็เรียกร้องสิทธิอันเท่าเทียมกันกับสามีอยู่เรื่อย ตอนนี้เข้าใจแล้ว ผู้หญิงก็ต้องเป็นช้างเท้าหลังวันยังค่ำ เพราะเราทำงานนอกบ้านด้วยกันทั้งคู่ ฝนทำงานนอกบ้านแล้ว เลี้ยงลูกด้วย พี่กลับมาจากทำงานนอกบ้านพี่ก็ต้องช่วยเลี้ยงลูกด้วยสิ ฝนเข้าใจว่าฝนชักจะบงการเค้ามากขึ้นทุกวันๆ สามีฝน 39 ค่ะ ฝนอายุ 27 แต่ฝนเองทำตัวแก่กว่าอายุมากมาย จนอย่างที่บอกว่าบทบาทหัวหน้าครอบครัวมันชักจะเป็นของฝนขึ้นทุกวันๆ เรียกกิ๊กคนที่ 2 ของสามีมาคุยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา โดยสามีเองก็อยากให้จบกันโดยดี(ตามที่พ่อฝนสอน ว่าให้ไปเลิกกับกิ๊กดีๆ) น้องเค้าบอกว่าเกิดจากที่สามีฝนเคยช่วยเหลือเค้าตอนเค้ามาจากต่างจังหวัดใหม่ๆ เจอกันโดยบังเอิญ ฝากงานให้ทำ  และโทรไปรับรองกับแม่ฝ่ายหญิงว่าจะดูแลให้ ส่วนฝ่ายหญิงก็ควักใบรับรองแพทย์มาให้ดู ว่าเป็นเนื้องอกในสมอง เป็นใบส่งตัวจากโรงพยาบาลอะไรซักอย่างระบุว่าเป็นโรคนี้  (ไม่รู้จริงไม๊อ่ะ) เค้าบอกว่าไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ แค่ไปกินข้าวด้วยกันบางวัน เป็นเพื่อนเที่ยวบางโอกาส แต่ส่วนใหญ่สามีไปนั่งระบายเรื่องที่ไม่สบายใจให้เค้าฟัง  และสามีก็คุยเรื่องฝนให้ฟังเสมอๆ แถมยังเคยพาลูกชายไปอวดกิ๊กด้วย (ถึงจังหวะนี้หันไปมองหน้าสามี แล้วแค่นยิ้มให้ 1 ทีพาลูกไปหากิ๊กเนี่ยนะ) เค้าบอกว่าพาลูกขับรถผ่านไปทางนั้นพอดี ส่วนที่หนูทำเสียง.......อ่ะ หนูทำเองคนเดียวแหล่ะ (ไม่รู้เชื่อมันดีไม๊รู้แต่ว่าตอนฟังไม่มีเสียงสามีอยู่) ทำไปเพราะอะไรไม่ยอมบอก น้องเค้าบอกฝนว่า พี่อ่ะดีทุกอย่างแหล่ะ เสียอย่างเดียว จู้จี้กะพี่.........เค้าไปหน่อย พี่เค้าบ่นตลอดแหล่ะว่าพี่ฝนไม่ฟังเค้าเลย  อ้าว กิ๊กดันมาสอนเราซะงั้น หนูชอบสามีพี่แหล่ะ แต่หนูไม่ได้รัก หล่อก็ไม่หล่อ แก่แล้วด้วย (แอบสมน้ำหน้าสามี 55555 ไงล่ะพ่อตัวดี) แต่น้องบอกอีกว่า ไม่เคยเห็นเมียที่ไหนใจดีอย่างพี่มาก่อนเลย (วันนั้นเลี้ยงเบียร์มานไป 5 ขวด)นี่ถ้าพี่แรงมานะ รับรองหนูไม่ยอมเลิกให้พี่หรอก หนูจะแย่งสามีพี่ให้ถึงที่สุดเลย พี่ไม่ต้องห่วงหรอก หนูแรงก็จริงแต่หนูรับปากแล้ว พูดคำไหนคำนั้น เนี่ยทีนี้หนูจะคบกับใครพี่...........ห้ามมาว่าหนูนะ (เค้าบอกว่าเค้าห้ามเพราะน้องชอบคบกับ พวกเด็กในร้านด้วยกัน (ทำงานกลางคืน) เค้ากลัวเสียอนาคต) ถ้าพี่..........มีกิ๊กอีก พี่บอกหนูนะ เดี๋ยวหนูจะจัดการให้ เพราะพี่แรงไม่ได้ใจหนูเลยอ่ะ คิดซะว่าหนูเป็นน้องพี่คนนึงนะ แต่สามีบอกต่อหน้าน้องว่า พี่รักน้องฝนกับลูกแน่นอนอยู่แล้ว รักมาก เป็นที่ 1 (สรรเสริญเยินยอกันเข้าไป)  ส่วน(ชื่อน้อง) พี่ก็รักและเป็นห่วงนะ แต่เราก็คบกันแบบพี่น้องได้เท่านั้น พี่ก็รู้ว่าไม่ถูกที่ไปคุย ไปให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนอื่น แต่พี่ได้พูดในสิ่งที่พูดกับน้องฝนไม่ได้ พี่ก็สบายใจที่เค้ารับฟัง และพี่ก็ยังอยากให้........มีอนาคตที่ดี อยากให้.......ได้ดี   แม่เราก็เป็นห่วง ไม่รู้เค้าเล่นละครตบตาเรารึเปล่าเนี่ย เฮ่อ ถ้าสามีเราสงสารเค้าไปทั่ว ฝนจะทำยังไงดีหว่า จากคุณ : TaPrO เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 15:37:39

ความคิดเห็นที่ 42 มักจะบอกเพื่อน ๆ พี่ ๆ เวลาเค้ามีปัญหาเสมอ ๆ ว่า "อย่ามัวแต่เป็น พ่อ-แม่ เป็น ปรั๋ว-เมียมั่ง" สถานะที่มันซ้อนกันอยู่ อาจทำให้งง ๆ ยิ่งบ้านไหนเรียกกันตลอดเวลาว่า พ่อ-แม่ อาจทำให้สลัดสถานะนั้นไม่ออก ลูกหลับ ก็เปลี่ยนสรรพนามกันดีไหม... ที่บ้านเราเรียกกันว่า "ที่รัก" จนติดปากแล้วค่ะ เริ่มจากเรียกกันเล่น ๆ ตั้งแต่สมัยเป็นแฟนกัน แต่ไม่กล้าไปเรียกข้างนอกหรอกนะคะ เขิลน่ะ เวลาอยู่นอกบ้านก็เรียกชื่อปรกติ ถ้าลูกไปด้วย ก็เรียกพ่อ-แม่เหมือนกัน เรื่องงอน ๆ ง้อ ๆ ก็มีปรกตินั่นล่ะค่ะ ก็แหม...ต่างคน ก็ต่องมีชีวิตของตัวเองนี่คะ จะให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่ต้องการเห็นจะยาก แต่อย่าลืมนะคะว่า..... อย่างน้อย สามี ก็คือคนที่ตกหลุมรักเรา จนมาขอเราแต่งงานเลยเชียวนา อย่างน้อยสิ่งนี้มันก็เกิดขึ้นจริง มีพยานแล้วด้วย (เจ้าตัวเล็กไง) งั้นมาหาทางรักษาเอาไว้ดีกว่าเนอะ จากคุณ : bojawa เขียนเมื่อ : 21 ส.ค. 52 23:54:19

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาดู ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 09:16:13

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณที่เตือนสติคะ จากคุณ : คุณกุ๋ย เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 10:15:28

ความคิดเห็นที่ 45 ช่ายยยยย   พาระยา  ผมชักจะเหลิงงงง   ขอบคุณ  จขกท. ที่มาเตือนสติพาระยาผม   "เดียวเจ้แกคงมาอ่าน" -เมื่อก่อน  เรียก  "พี่"   เดียวนี้เรียก "ไอ้อ้วน" -เมื่อก่อน  ใส่เสื้อผ้าสวย ๆ แต่เดียวนี้  ชุดนอน  เป็นรู บอกให้เปลี่ยน  ก็บอกว่า  ชอบเพราะ ชุดนี้นุ้มดี -เมื่อก่อน  นอนหลับดูน่ารักดี  เดียวนี้  กรนแข่งกับเราเสียนิ -ที่หมาละอาบน้ำ  จับเห็บให้  ทีสามี  นวดละทำเป็นทำไม่เป็น -เลี้ยงหมาไว้ 2 ตัว ตัวผู้ตัว ตัวเมียตัว  จะจับหมาทำหมัน  ดันบอกกลัวหมาเจ็บ    แต่บังคับให้สามี  ไปทำหมันชาย   ฉันเจ็บไม่เป็นหรือเธอออออออ  หน่อย  กลัวฉันจะไปไข่ทิ้งไว้ที่ไหนละสิ  คนนะยะออกลูกเป็นตัว  ไม่ได้ออกเป็นไข่                    แค่นี้ก่อน   เจ้แกมาแล้ววววว จากคุณ : กระจกฟ้า เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 14:37:57

ความคิดเห็นที่ 46 เรื่องนี้สำคัญค่ะ  ขนาดยังไม่ได้แต่งงานเป็นคู่ผัวตัวเมียกัน เนื้อคู่ตุนาหงันนิก็ยังไม่ใช่ ยังต้อง อัพตัวเองอยู่เป็นระรอก (อัพ เรื่อง รูปลักษณ์ การแต่งตัว ผิวพรรณ ไรงี้อ่ะค่ะ อย่าริอาจคิดไกลนิ) ดูแล หยอกล้อ คิดมุขมาเอ็นเตอร์เทนเฮียแก สารพัด เพราะถ้าเค้าเดินจากไป เราจะได้ไม่เสียใจ เพราะเราทำดีที่สุดที่จะทำได้แล้วค่ะ เลิกไปก็ชิว ต่อเลย สวยแล้วนี่ ... <<< ปากดีไปงั้นอ่ะค่ะ เป้นกำลังใจให้ผู้ที่จะกลับไปแก้ใขนะคะ .. ดีกับทุกฝ่ายแน่นอนค่ะ จากคุณ : อยากให้โลกนี้มีแต่ความรัก เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 52 19:26:27

ความคิดเห็นที่ 47 จขกท ทำแบบนี้ใส่สามีเรื่อย ไม่กลัวเขาเสียใจเหรอครับ จากคุณ : news-headline เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 14:43:05