+++ เมื่อฉันเดิดอยากเป็นแม่ที่ดี +++
|
|
…. เรื่องราวที่นำเอามาเขียนนี้ไปได้มีเจตนาร้ายหรือจะประจานตัวเองแต่อย่างใด แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองที่ตอนนี้ได้เพียงอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมพร้อมลูกชายวัย 2 เดือนกว่า ที่เป็นเพียงความสุขอย่างเดียวในชีวิต สิ่งที่จะนำออกไปสู่ข้างนอกได้ก็มีแค่เพียงคอมพิวเตอร์เครื่องนี้เท่านั้นเอง
และอยากจะยกย่องผู้เป็นแม่ทุกๆคน ที่ยอมเสียสละและให้อภัยเพื่อลูกได้เสมอ
หากคุณคิดว่ากระทู้นี้ไม่เหมาะสม บอกได้ค่ะ เรายินดีลบทิ้ง ( บอกวิธีลบด้วยนะลบไม่เป็น)
………เมื่อชีวิตเริ่มเปลี่ยน..............
เราเป็นเด็กผู้หญิงธรรมดาที่ ไปเรียน กลับมาบ้าน มีบ้างที่จะออกไปเที่ยวตามภาษาเด็กวัยรุ่นไปนอนค้างบ้านเพื่อนแต่ก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร พ่อแม่เราไม่เคยกีดกันหรือห้ามเพียงแต่ต้องรู้ว่า ไปที่ไหน ทำอะไร กลับเมื่อไรเพื่อที่จะได้ไปรับไปส่ง เพราะเป็นห่วง แล้วชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อตัดสินใจที่จะย้ายไปเรียน ร.ร. สห (ที่ย้ายไปเรียนเพราะมันเป็น สองภาษา ) หลังจากที่ตื้อแม่อยู่นาน เพราะค่า เทอม ก็แพง อยู่ แถม แม่เรายังต้องหาเงิน เลี้ยงลูก 3 คน ( เรา น้องสาวเรา พ่อเรา) เราจึงตัดสินใจไปขอค่าเทอมตามาเรียน ซึ่งตาก็ให้เพราะ เห็นหลานอยากเรียน
เมื่อมาเรียนที่นี้ก็ได้เริ่มเปิดหูเปิดตาแล้วก็ไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่งเราสองคนก็เลยเป็นแฟนกัน เนื่องจากแฟนเรา มีนิสัย ดื่ม ดูด เที่ยว อยู่แล้ว เราก็เลยได้ไปเปิดหูเปิดตากับเขา ได้หัดดื่ม ได้หัดดูด และทำอะไรที่แย่ เป็นเพราะเพียงอยากที่จะลองตามภาษาวัยรุ่น แล้ววันนั้นก็มาถึงวันที่ แม่เราต้องเสียน้ำตาอย่างท่วมท้นแต่ลูกอย่างเราก็ไม่สำนึกผิด วันนั้นเป็นวันเกิดเพื่อน เราปิดมือถือไม่ยอมรับโทรศัพท์จากพ่อ เพราะกำลังสนุกอยู่กับเพื่อน และเมามากหลังจากกลับมาบ้านก็เจอรอยแดงอยู่ที่คอ รุ่งเช้าไป ร.ร. ก็พยายามปกปิดแต่ปิดไม่มิดจริงเลยโดน เรียกเข้าผฝ่ายปกครองทั้งสองคน (แฟนเรา และเรา) พอแม่เรามาถึง ท่านตาบวมแดง พร้อมน้ำตาเอ่อนองไหลเต็มแก้ม ท่านและแม่แฟนเราตกลงที่จะกีดกันเราสองคนไม่ให้ยุ่งกันอีก เมื่อกลับมาถึงบ้านแม่เราไม่ว่าเราสักคำเพียงแต่ยิ้มให้ทั้งน้ำตาและบอกให้อ่านหนังสือสอบตั้งใจสอบนะ (เพราะเราโดนพักการเรียนจนกว่าจะสอบกลางภาค) แต่วัยรุ่นเลือดร้อนลองมากีดกันสิไม่มีทางหรอกเราก็แอบไปมาหาสู่กันเรื่อย จนเราทะเลาะกับแม่หลายครั้งมากและช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่แม่เราทะเลาะกับพ่ออีก(พ่อไปแอบมีชู้และมีลูกชาย 1 คน) แม่เราทั้งเครียด เรื่อง งาน ลูก สามี แต่ไม่มีใครสามารถ รับฟังปัญหาของท่านได้เลย จนหลังๆท่านเริ่มปลง เพราะ คิดว่าเราคงโตแล้วรู้จักวิธีป้องกัน เลยไม่กีดกีนอะไร ก็สบายเราสิ วันๆเราเรียนเสร็จก็ไปหาแฟนที่บ้าน นอนค้าง รุ่งเช้ากลับบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปเรียน คืออาทิตย์หนึ่งแถบไม่ได้เจอหน้าแม่ กับ น้อง บางทีเป็นเดือนที่ไม่ได้เห้นหน้าน้องสาวเลย
| จากคุณ |
:
รักแม่ค่ะ
|
| เขียนเมื่อ |
:
21 ส.ค. 52 10:31:17
A:125.24.107.210 X: TicketID:225369
|
|
|
| 
