|
ความคิดเห็นที่ 30 |
อยากให้กี๊ฟหลายความเห็นเลยค่ะ แต่กิ๊ฟหมดแล้ว
หลักเบื้องต้นในการเรียนรู้ คือ ความเป็นธรรมชาติของผู้ที่จะสื่อสารกันค่ะ เด็กๆ จะรู้ ๑, ๒, ๓, ๔ หรือ จำนวนภาษาเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมของเด็ก โดยเรา
-น่าจะพูดภาษาแม่ (native language)คือ ภาษาหลัก ภาษาที่เราพูดได้อย่างเป็น ธรรมชาติของเรา ภาษาที่เราใช้อยู่ทุกวัน ภาษาที่เราฝัน ภาษาที่เราอุทานค่ะ ซึ่งของคนไทยส่วนมาก ก็คือภาษาไทย (เน้นๆ ๆ)
- ใช้หลักการ ๑ หน้า ๑ ภาษา คือ คนหนึ่งคน พูดภาษาเดียวกับเด็กเท่านั้น เด็กจะไม่สับสน
สมมุตินะคะว่า เด็กคนหนึ่งเกิดในครอบครัวที่รุ่มรวยทางด้านภาษา ให้ทุกคนเห็นด้วยร่วมกันในข้อตกลง "หนึ่งหน้า หนึ่งภาษา ที่เป็นภาษาธรรมชาติของผู้พูด" เท่านั้น โดย
-พ่อ (ซึ่งเป็นคนอเมริกัน) พูดภาษาอังกฤษกับลูก (หรือ พ่อคนอิสาน พูดอิสาน) -ปู่ (คนเยอรมัน) พูดเยอรมัน (หรือ ปู่คนส่วย พูดส่วย) -ย่า (คนเม็กซิกัน) พูดสเปน (หรือ ย่าคนเวียตนาม พูดเวียต) -แม่ (เป็นคนไทย) พูดภาษาไทย -ยาย (คนเชียงใหม่) พูดคำเมือง -ตา (ซึ่งเป็นคนจีน) พูดภาษาจีน -พี่เลี้ยง (คนพม่า) พูดภาษาพม่า
คือ อย่าห่วงนะคะ ว่าคนอื่นๆ มาพูดกับลูกอย่างที่เราไม่รู้เรื่อง หรือ เป็นภาษา "กระจอก" ที่ ไม่ค่อยมีคนใช้กัน เราน่าจะ้ดูที่เนื้อหา และ น้ำเสียงที่พูดมากกว่าค่ะ
ถ้าทุกคนเลือกพูดภาษาของตนกับเด็กแต่เพียงภาษาเดียว และมีเวลาอยู่ใกล้ชิด ได้พูดคุยกับเด็กอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอมาตั้งแต่แรกเกิด เมื่อเด็กคนนี้อายุ ๔-๕ ขวบ ก็จะพูดจาโต้ตอบในบทสนทนาได้อย่างเข้าใจทั้ง ๗ ภาษา อย่างไม่งง และไม่สับสนด้วยค่ะ คือ ลูกได้เรียนรู้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ได้เรียนแบบ how to อย่างที่คุณหมอหนึ่งบอกน่ะค่ะ (เด็ก ๑ - ๒ ขวบ โดยทั่วไป พูดภาษา "ต่างดาว" อยู่ทั้งนั้นค่ะ เป็นพัฒนาการหนึ่งของเด็กค่ะ ย ห)
ลองคิดถึงภาพบนโต๊ะกินข้าว ที่สมาชิกของครอบครัวทุกคนมากินข้าวด้วยกัน (โดยมีพี่เลี้ยงคนพม่าอยู่ใกล้ๆ ด้วย) น้องคนนี้ (อายุ ๔ - ๕ ขวบขึ้นไป) ก็จะสลับภาษาพูดให้ตรงกับคนที่จะพูดด้วยโดยอัตโนมัติค่ะ ไม่ใช่เป็นเรื่องของอัจฉริยะ แต่เป็นผลจากการจัดสิ่งแวดล้อมในการเรียนรู้ทางภาษาที่ถูกต้อง คือ มีการจัดระบบภาษาในครอบครัว ด้วยหลักการ ๑ หน้า ๑ ภาษา (ด้วยภาษาธรรมชาติของแต่ละคน) เท่านั้นเองค่ะ
ตรงนี้ เราเขียนไว้ในหนังสือ "สอนหนูพูดได้หลายภาษา" ซึ่งเนื้อหาก็คือ เด็กหลายภาษา (อย่างที่บ้านพ่อแม่ใน คห.๑๐,๒๒, และ ๒๓ ยกมาค่ะ) ขออนุญาตแนะนำหนังสือนะคะ ไม่ได้ตั้งใจโฆษณา แต่เห็นว่า กำลังคุยเรื่องนี้กันอยู่ และ เป็นประเด็น hot ในนี้น่ะค่ะ
และมีบทหนึ่งที่เขียนแนะนำแนวทางและสื่อ สำหรับเด็กไทยในเมืองไทยที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม ภาษาไทยแต่เพียงภาษาเดียว และพ่อแม่อยากให้ได้ภาษาอังกฤษ (อย่างเรียนใน ร.ร.ธรรมดา) ว่า น่าจะทำอย่างไร คือ ในเรื่องเด็กหลายภาษา เรามองกว้างๆ ว่า มี ๔ กลุ่ม และแนวทางที่จะจัดสิ่งแวดล้อมให้ลูก ก็มีหลักการร่วมอย่างที่บอกค่ะ แต่แนวทางและวิธีการ แตกต่างกันไป เราเพียงแต่เสนอข้อมูล ไว้ให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับแต่ละครอบครัวค่ะ
เด็กทุกคนน่าจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้มีพัฒนาการที่เหมาะสม ทั้งด้าน ร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และ การสื่อสารค่ะ
และเด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึง ป.๒ - ป.๓ นี่ ความสุขเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ค่ะ
ป.ล. คำว่า OPOL ที่เป็น term ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกหมายถึง One Person One Language (ซึ่งคือ ๑ คน พูด ๑ ภาษากับลูกเท่านั้น เราแปลง่ายๆ ว่า ๑ หน้า ๑ ภาษา เด็กจะได้ไม่งง) ไม่ใช่ One Parent One Language (ซึ่งอาจจะมีคนเข้าใจต่อไปว่า อือ...ถ้า Two Parents ก็ต้อง Two Languages สิ)ไม่ใช่นะคะ เพราะถ้าแปลและตีความไม่ถูก ก็จะทำให้เข้าใจไม่ถูก (ในหลักการ) ไปด้วยน่ะค่ะ
แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 12:11:42
แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 52 11:57:04
จากคุณ |
:
ต้นจั่น
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ส.ค. 52 11:44:25
|
|
|
|
|