ความคิดเห็นที่ 1   อื่อออ เหมือนกัน...นี่ขนาดยังไม่คลอดนะ เถียงกันแล้ว เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆนะแก..บ้านจะแตกด้วย ป.ล. กอหญ้า หน้าเหมือนแกมากๆ อิอิ จากคุณ : นันทพรรณ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 15:27:03

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้ซินะค่ะ เราให้คห.อีกมุมละกัน ของเราให้นมแม่ล้วนเหมือนกันก็ให้น้ำค่ะ แต่ไม่มากดูดสองสามอึกหลังทานนม เพราะอากาศบ้านเราร้อน การให้น้ำจะทำให้เด็กสดชื่นขึ้น ตำราส่วนใหญ่มาจากเมืองนอก บ้านเมืองเขาอากาศเย็นร่างกายไม่ค่อยเสียเหงื่อการให้น้ำเลยไม่จำเป็นเท่าไร ส่วนเรื่องน้ำจะทำให้น้องทานนมลดลงเราว่าไม่จริงนะ ลูกเรานน.ดีมากก ตอนนี้ 4 เดือน 8 โลแล้วนะ จากคุณ : red color เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 15:35:31

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ถูกของเขานะครับ กินน้ำไว้ล้างคอ ไม่ให้เจ็บคอ น้ำช่วยในระบบขับถ่ายของเสีย มีอีกสารพัด เขาถึงบอกว่าให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จากคุณ : pop_mmt เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 15:39:21

ความคิดเห็นที่ 4 นมแม่มันมีส่วนผสมของน้ำอยู่ในนั้นคะ เราจึงไม่จำเป็นต้องให้ลูกกินน้ำตาม แต่ถ้าใครจะให้กินนิดๆ ย้ำ คือ นิดๆ ก็ได้ ไม่ผิดอะไรคะ แต่เราเลี้ยงลูกคนแรกเอง ก็ไม่ให้น้ำเลยนะคะ จากคุณ : +สาวสวย+ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 15:46:43

ความคิดเห็นที่ 5 บรรดาคนที่ชอบพูดว่า สมัยก่อนเขาก็เลี้ยงกันแบบนั้น ก็ยังโตมาได้ ก็ต้องเจอคำตอบว่า เด็กสมัยใหม่เขาก็เลี้ยงกันมาแบบนี้แหล่ะค่ะ ก็โตๆ กันมาได้เหมือนกัน ไม่เห็นมีใครเป็นอะไร ซ้ำยังแข็งแรงอีกด้วย ไม่งั้นองค์การอนามัยโลก เขาจะแนะนำให้เด็กทั่วโลกทำเหมือนๆ กันเหรอจ๊ะ :) ตอนเราเจอแบบนี้เราก็เฉยๆอย่างเดียวค่ะ ไม่เถียงด้วย และไม่ทำตามด้วย จากคุณ : JiGGO InLove เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:02:32

ความคิดเห็นที่ 6 ปัญหานี้คงเจอกันแทบทุกบ้านเลยมั้งคะ เรายังไม่คลอดก็เริ่มมีเค้าแล้ว ก็กะว่าจะเอาขวดน้ำตั้งโชว์ไปงั้นๆเหมือนกัน อีกหน่อยพอหมดปัญหาเรื่องน้ำ เรื่องต่อไปจะเป็นเรื่องกล้วยๆนี่แหละ เดี๋ยวจะให้กล้วยบ้าง น้ำส้มบ้าง แอปเปิ้ลบ้างล่ะ เห้ออออออ จากคุณ : It's not easy to be me... เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:14:49

ความคิดเห็นที่ 7 ขอพูดถึงเด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือนนะคะ เริ่มทำความเข้าใจง่ายๆเลยคือ   คุณเคยสังเกตุไหมคะ ว่า......... เวลาเราจะชงนม เขาจะมีจำกัดข้างกระป๋องว่า   ใส่น้ำเท่านี้ ควรใส่กี่ช้อน คือเราต้องการความสมดุลให้แก่ร่างกายเด็ก ถูกไหมคะ การกินนมแล้ว + น้ำ  ก็เป็นการใส่น้ำลงในนมเยอะที่เยอะกว่ากำหนด     คือไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ มันก็ลงไปอยู่ในท้องที่เดียวกันอยู่ดี มันจะทำให้โภชนาการผิดไปโดยสิ้นเชิง   แล้วจะเคยได้ยินอยู่บ่อยๆว่าห้ามให้ลูกที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือนกินน้ำ     มันมีเหตุผลนะคะ คุณแม่บางท่านไม่รู้แต่ที่ทำไปเพื่อสุขภาพของลูก ,ทำไปเพราะผู้ใหญ่, ทำไปเพราะ ขอได้แค่จิบๆแค่นั้นก็สบายใจแล้ว เพราะ กลัวจะขาดน้ำเพราะสูญเสียเหงื่อ  แต่มันก็ไม่แตกต่างกับคุณชงนมผิดวิธีเลย แล้วก็จะนำไปสู่โรคขาดสารอาหารค่ะ  อยากจะให้ผู้ใหญ่เลิกคิดแทนเด็กทารกค่ะ แล้วหันมามองคนที่เขาทุ่มเทกับงานวิจัย "มองในความเป็นจริง  เลิกหยวนๆเรื่องสุขภาพสักที"  ว่าทำแค่นี้ไม่ตายหรอก... ตายค่ะ  เด็กแค่นี้ ไม่เกิดกับลูกคุณ ก็ อาจจะเกิดกับลูกคนอื่น เพราะจริงๆคุณก็ไม่รู้หรอกว่า  กินน้ำแค่ไหนมากหรือน้อยสำหรับลูกคุณ โลกสมัยนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว ที่คนอายุ ยืนมาขึ้นก็เพราะผลการวิจัยต่างๆ  เช่นเดียวกันว่า  คุณสูบเข้าไปมากๆ คุณอาจจะเป็นโรคปอด  หรือคุณตากแดดมากๆ คุณอาจจะเป็นมะเร็งโรคผิวหนัง   พวกนี้ก็มาจากการวิจัยทั้งนั้น..    ไม่ได้ลบหลู่นะคะ  คุณหมอมีความสามารถในการรักษา ได้ความรู้ในการร่ำเรียน รักษามาจากการฝึกปฏิบัติ และตำรา และประสบการณ์ที่สะสมมา คุณหมอเด็กทั่วไปอาจจะไม่ได้ทำหน้าที่เรื่องวิจัย  ไม่ได้เก่งเหมือนนักโภชนาการ เพราะฉนั้นเราควรจะหาข้อมูลมากกว่าเดิม  เพราะคนๆเดียวก็สามารถวินิจฉัยอาการผิดก็เป็นได้...   ในอินเตอร์เน็ท เห็นแบบนี้ ก็น่าเชื่อถือได้ แล้วทุกๆที่ก็จะ ได้ลงข้อความคล้ายๆกันเรื่องนี้   ก็เห็นใจเด็กที่พ่อแม่ยังไม่ใส่ใจเรื่องนี้ มีผลจริงๆ   ไม่ใช่แค่ตำราบ้าบออะไร... *** คนส่วนมากจะได้ยินมาว่าห้ามให้ลูกกินน้ำ ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่สมควร คือ6เดือน+ *** แต่หลายคนจะไม่รู้ถึงเหตุผลค่ะ เพราะมักจะรู้แต่ข้อห้าม.... นี่ไม่ใช่ข้อมูลใหม่นะคะ ความรู้นี้มีทั่วไปใน google ขอเล่าคร่าวๆละกันนะคะ คือไตของเด็กเนี่ย ยังอ่อนและบอบบางมาก เวลาที่ไตเด็กได้รับน้ำเกินควร (นอกเหนือจากน้ำนม) มันจะกรองน้ำมีจำนวนมากที่เกินไปออกมาได้ไม่เร็วพอเท่ากับผู้ใหญ่ ผลก็คือเวลาน้ำสะสมๆขึ้นมาเนี่ย จะไปเจือจางอะตอมชนิดหนึ่ง ที่ให้ความสมดลกับเลือด  ทำให้โคม่าหรือตายได้ แล้วขณะที่มันกรองน้ำออกมามันก็จะเอาโซเดียมออกมาด้วย   การที่มีโซเดียมมากเกินไปในระบบร่างกายของเด็ก  จะไปกระทบกับสมอง หลังจากนั้นก็จะโชว์ sign ของน้ำเป็นพิษ ก็จะเกิดอาหาร ซึม และจะเห็นว่า เริ่มมีปัญหาทางสมองต่างๆ แล้วอาการอื่นก็จะมี หน้าเด็กจะบวม และอุณภูมิในตัวจะต่ำลง // ยกตัวอย่างที่เราได้เคยดูทีวีที่ต่างประเทศ  แม่คนหนึ่งชงนมให้ลูกผิดวิธี เพียงเพราะต้องการประหยัด โดยการใส่น้ำเยอะกว่าเดิมแล้วลดนมผง  ทำแบบนี้อยู่นานหลายเดือน ร่างกายลูกผอมลม เปลี่ยนไป และขาดสารอาหาร จนต้องพึ่งหมอ ร่างกายของน้องน่ากลัวและน่าสงสารมากๆจากที่เห็นในทีวี // สุดท้ายขออีกครั้งนึง  "เด็กทารก ไม่ต้องการน้ำค่ะ" เขาต้องการนม หรือว่านมผสมเท่านั้น เด็กจะได้น้ำจาก"น้ำนม"  ถ้าคุณให้นมตามที่เขาต้องการแล้ว (on demand) แม้ว่าอยู่ประเทศอะไร อากาศจะร้อนนนนนน แค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่ต้องการน้ำค่ะ ถ้าลูกกระหาย  เพิ่มนมอีกนิดหน่อยค่ะ "ไม่เป็นไร"  ชงตามสัดส่วนที่เขากำกับไว้ *แต่จะมีบางเหตุผลเท่านั้น ที่หมอจะแนะนำให้น้ำกับลูกค่ะ ยังไงคุณก็เอาเหตุผลนี้ไปอ้างกับท่านได้ ยังไงลูกเราๆต้องจัดการได้สิคะ ทำสิ่งที่ถูกแล้วก็อย่าไปกลัวค่ะ อิอิ ^^ อ่อขอเพิ่มข้อความค่ะ เห็นด้วยกับคุณ JIGGO InLove เป็นอย่างยิ่ง คนสมัยก่อนจะอายุสั้นกว่าคนสมัยนี้ค่ะ ดูจาก research ตอนนี้นะคะ  ตอนนี้คนจะอายุเฉลี่ยๆประมาณ 80 ปีค่ะ (จากก่อน 70ปี) คืออายุยืนมากขึ้น เป็นเพราะคนสมัยนี้รักสุขภาพมากขึ้นค่ะ  ที่บอกว่าคนสมัยก่อนแข็งแรง   ไม่จริงค่ะ แค่เป็นบางส่วนเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 16 ธ.ค. 52 02:26:54 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 52 16:22:22 จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:16:17

ความคิดเห็นที่ 8 เราตั้งใจว่าจะไม่ให้ค่ะ... ตอนพี่สาวเรามีลูก..เค้าสั่งห้ามเราเลยว่าห้ามป้อนน้ำหลานนนะ แต่แม่เราก็ชอบบ่นว่า  เลี้ยงลูกยังไงไม่ให้กินน้ำ ปัญหาโลกแตกจริงๆ จากคุณ : Power of LOVE เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:26:18

ความคิดเห็นที่ 9 http://blogs.consumerreports.org/baby/2007/07/giving-a-baby-w.html จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:26:22

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่รู้นะ แต่เท่าที่รู้ ของเราก่อนออกจาก รพ. หมอจะให้เรากลับคนเดียว ส่วนลูกเค้าว่ามีภาวะตัวเหลือง จะให้อยู่ต่อ แต่เราไม่ยอม พ่อแม่เราก็ไม่ยอม หมอยังว่าจะกลับก็ได้ แต่โอกาสกลับมาแอดมิทสูงมาก และนัดให้กลับมาตรวจตัวเหลืองอีกทีแค่สองวันเองนะ หลังจากกลับจาก รพ. อ่ะ พอกลับมา เราก็ให้กินนมแม่นี่ล่ะ แต่เราให้กินน้ำด้วย ตอนเช้าก็ปิ้งแดด เรามีเวลาแค่สองวันนะ ยังคิดว่าถ้ากลับไปหาหมออีกทีค่าเหลืองยังไม่ลด เราจะทำไงนี่ เราทนไม่ได้แน่ถ้าต้องกลับบ้านคนเดียว สรุป พอวันที่ไปหาหมอ หมอบอกกลับบ้านได้ ไม่ต้องอยู่ ไม่ต้องทำอะไร แล้วถามว่าเราทำไง เราก็บอกว่า ให้เค้าดื่มน้ำ กับตากแดดตอนเช้า หมอยังว่าดี ทำต่อไป ตอนนี้ 19 วันแล้ว หายเหลืองสนิท จากตาขาวที่เห็นเป็นสีเหลืองชัดเจน ตอนนี้ตาใสแล้ว จะว่าไปการให้เด็กกินน้ำ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายนะค่ะ แต่ถ้าไม่กินเลย อาจจะเสียใจทีหลังได้ ตอนแรกเราก็เถียงกับแม่เรานี่แหล่ะ ตอนลูกคนแรก ถ้าไม่เชื่อเค้าป่านนี้ลูกเราต้องเป็นเด็กไมโครเวฟไปแล้วอ่ะค่ะ ตาม คห.2 จริงค่ะ ตำรานี้มาจากเมืองนอกที่บ้านเมืองเค้าไม่ร้อนตับแตกอย่างบ้านเรา น้ำยังไงก็ยังมีประโยชน์นะค่ะ แล้วที่ว่าเด็กกินน้ำแล้วจะกินนมน้อย ไม่จริงค่ะ ลูกเรา เราให้กินน้ำก่อนกินนมทุกครั้ง ไม่ต่ำกว่า 1Oz.ด้วย วันนึงลูกเราต้องกินน้ำไม่ต่ำกว่า 4Oz. ค่ะ เค้าก็ยังกินนมแม่ได้ปกติ นิดนุง หมอยังบอกเลยว่า ส่วนมากถ้าเด็กกลับบ้านแล้วแม่ให้นมอย่างเดียว กลับมาตรวจ ตัวเหลืองเกือบทุกเคสเลย ที่ไม่กลับมาเพราะมีผู้ใหญ่ช่วยเลี้ยง เค้าจะต้องให้เด็กกินน้ำ ส่วนตัวหมอ หมอบอกตอนภรรยาหมอมีลูก หมอก็บอกแฟนหมอให้ลูกกินน้ำด้วย ช่วยได้หลายเรื่องจริงๆ นะ ถ่ายก็ดี ฉี่ก็ดี ร่างกายก็สดชื่นด้วย ที่สำคัญ ไม่ทำให้เกิดภาวะตัวเหลืองด้วย ลองรับไว้พิจารณาแล้วกัน มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังเฉยๆ อ่ะ ไม่อยากให้ตึง หรือหย่อนเกินไปอ่ะค่ะ กลางๆ ล่ะกันนะ หายเหลืองแล้วค่ะ สดชื่นสุดๆ จากคุณ : มนยูมะ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:29:36

ความคิดเห็นที่ 11   กระเพาะเด็กเค้านิดเดียวเองกินน้ำไปก็ไม่มีที่บรรจุนมสิก็ทำให้ขาดสารอาหารได้ไม่ต้องไปสนใจเรื่องมากก็ไล่ไปเลยลูกเราเราไม่สนไม่ฟังซะอย่างโบราณเเบบไม่มีเหตุผลเป็นความเชื่อที่ผิดๆเลี้ยงรอดมาได้ก็เก่งเเล้วเป็นเราออกลูกกวนบาทาเลยเเหละไม่สนจะโกธก็ช่างพวกป้าๆยายๆย่าๆมักเชื่อแบบนี้เราไม่เชื่อถ้าไม่อยากมีเรื่องก็หลอกพวกคร่ำครึด้วยการตั้งขวดน้หลอกก็พอครับ จากคุณ : ลองทำดูคุณทำได้ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:47:53 A:61.19.88.143 X: TicketID:079855

ความคิดเห็นที่ 12 ตามค.ห.4และหลายๆค.ห.ในนี้ค่ะ ปล. จขกท กับ ค.ห.1ต้องเป็นเพื่อนกันแน่ๆแลยใช่ป่ะคะ จากคุณ : หมีน้อยกวิน (gwyndapooh) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:48:36

ความคิดเห็นที่ 13 เหอ ๆ น้องจิ๊บ อย่าไปเครียดจ้า สู้ๆๆ จ้า คุณแม่คนเก่ง ปล. ตกลง พี่กิ่งไปคลอดอะยังเนี้ย จากคุณ : ษา (แม่นางแผ่นดินเดือด) เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:51:12

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องเด็กตัวเหลืองเพราะไม่ได้กินน้ำเราว่าไม่จริงนะคะ ลูกเราก่อนออกจากรพ.ก็ตัวเหลืองค่ะ แต่หมอให้กลับบ้านได้แล้วมาตรวจใหม่ เราไม่ได้ให้ลูกกินน้ำเลยแม้แต่หยดเดียว แต่พาไปพึ่งแดดอ่อนๆเช้า-เย็น และแค่แสงสว่างริมหน้าต่างในตอนกลางวัน แต่ลูกเราความเหลืองลดลง และก็เป็นปกติค่ะ หลานสาวเราได้กินน้ำจากขวด ดูดนมแม่จากเต้า แต่นมแม่มาน้อยมาก เราคาดว่าไม่พอ เพราะ 7 วันแล้วยังถ่ายขี้เทาไม่หมดเลยค่ะ ค่าเหลืองตอนอายุ 7 วัน ปาเข้าไป 21 แน่ะ รีบแอดมิทแทบไม่ทัน เห็นไหมคะ ว่าการที่เด็กกินน้ำไม่ใช่ว่าจะทำให้ตัวหายเหลือง เพราะลูกเราไม่กิน แต่ไม่เหลือง หลานเรากินแต่เหลืองมาก จำได้ว่าเคยมีกระทู้นึงมีคุณแม่บอกว่า การขับสารเหลืองออกจากร่างกายที่ดีคือขับโดยการอึค่ะ ยิ่งอึมากยิ่งขับสารเหลืองได้มาก การฉี่ขับออกมาได้น้อยมากๆค่ะ เพราะงั้นยิ่งให้เด็กกินนมแม่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งขับออกมาได้มากเท่านั้นเพราะจะออกมากับการถ่ายอุจจาระ (ข้อมูลนี้จำไม่ได้ว่าใครบอกนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ) ส่วนเรื่องโดนแดดหรือแสงสว่าง แล้วแต่ตำราหมอเหมือนกัน เพราะบางคนก็บอกว่าไม่มีผลอะไรเลย แต่บางคนก็บอกว่าช่วยได้ จากคุณ : ริน-otto เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 16:51:24

ความคิดเห็นที่ 15 แล้วแต่นะคะต่างจิตต่างใจ แต่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รักและหวังดีกับลูกเท่าแม่อีกแล้ว เราไม่เคร่งเรื่องน้ำไม่น้ำกับลูกค่ะ เราให้ลูกกินน้ำบ้าง ตั้งแต่ตอนแรกคลอดเลย *แต่* พอครบเดือนลูกไม่ยอมกินน้ำจากขวดเลยค่ะ ไม่เอาขวด ติดจุกแม่มากๆ จนบางวันเราเองก้อลืมให้ลูกกินน้ำไปเลย แต่ก้อไม่มีปัญหาอะไรนะคะ บางวันเห็นปากแห้งๆหน่อย ก้อบีบๆน้ำใส่ปากหน่อย แต่ก้อปลิ้นปากออกมาหมดค่ะ ฮ่า ทำแบบที่อยากทำเถอะค่ะ ลูกเราเองไม่มีถูกที่สุด หรือ ผิดที่สุดหรอกค่ะ จากคุณ : note2j เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 17:32:37

ความคิดเห็นที่ 16   คุณ(แม่)หมอเถียงกันมันหยดเลย...ไปดีก่าเดี๋ยวงานเข้า ว่าไปแล้วหมอแต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกันเลยแล้วจะเชื่อใครดีล่ะเนี๊ยะ จากคุณ : พ่อน้องซัน เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 17:45:42

ความคิดเห็นที่ 17 หลานไม่ได้กินน้ำ  ตัวเหลืองอ่ะค่ะ จากคุณ : แม่โบวี่กะพ่อวัส เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 17:48:54

ความคิดเห็นที่ 18 เราก็ตั้งใจจะให้นมอย่างเดียวถึง 6 เดือน เวลาญาติๆถามก็อธิบายไปตามที่คุณหมอบอก เค้าก็ดูงงๆ แต่ยังดีที่ไม่ได้กดดันอะไร แต่สำหรับเรานะคะ ถ้าเรื่องอะไรที่ไม่เกิดอันตรายกับลูก เราก็จะผ่อนผันบ้าง จะได้ไม่เกิดปัญหาในครอบครัว คิดว่าเค้ารัก เอ็นดูลูกเราก็เลยอยากออกความเห็น เช่น กินน้ำ(นิดเดียวพอนะคะ) ทามหาหิงค์ ดัดขา(เบาๆ)ตอนอาบน้ำให้ แต่เราก็ยอมเฉพาะปู่ย่า ตายายเท่านั้นนะคะ ไม่ใช่จะให้ทุกคนมีสิทธิมาออกความเห็นไปซะหมด แต่เรื่องที่ทำแล้วไม่ปลอดภัย ยังไงเราก็ไม่ยอม เช่น กินอาหารเสริมเร็วเกินไป ใช้รถหัดเดิน อุ้มออกจาก carseat ก็อธิบายจนต้องยอมเราจนได้ ยังไงลองพิจารณาดูนะคะ ไม่อยากให้ตึงเกินไปจนเกิดปัญหา ลองหาวิธีที่เหมาะกับบ้านของเราเองนะคะ แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 52 18:49:00 แก้ไขเมื่อ 13 ธ.ค. 52 18:48:04 จากคุณ : BB no5 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 18:42:39

ความคิดเห็นที่ 19 เอาละสิ....มีหลากหลายความเห็น แล้วเราจะเอาไงดีหว่า?????? จากคุณ : sassy_sassy เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 18:49:08

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหาโลกแตกว่ะค่ะ.... ใจเย็นๆแก ถ้าเป็นชั้น ก็คงยึดปฏิธานต่อไป ไม่ให้กินน้ำจน 6 เดือน แต่ถ้ารบกับญาติๆไม่ไหว ก็คงต้องตามเลยมั่ง แต่คงไม่มาก....(ถ้ามันไม่เกิดผลเสียกับตัวเล็กนะจิ๊บ) ไม่แน่ใจว่าเคยอ่าน มีคนมาโพสเหมือนกัน คือเค้ายอมๆ แล้วลูกเค้าท้องเสียอ่ะ ต้องพาแม่เค้าไปด้วยเวลาไปหาหมอ ให้หมอพูดให้เค้าฟังงี้ เอามาฝาก http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N8613909/N8613909.html ปล. กอหญ้าแก้มยุ้ยเชียว....มีแววตาโตเหมือนแม่อ่ะ อิๆ จากคุณ : My name is h-n-u-n-a เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 19:55:32

ความคิดเห็นที่ 21 พี่เคยถามแม่พี่เหมือนกันว่ากินนมแล้วยังต้องกินน้ำอีกไหม แม่บอกว่า...กินนมแล้วก็กินน้ำล้างปากต่อไง แต่ก็คงให้กินไม่มากหรอก เรื่องลูกกินน้ำนี่ไม่เท่าไหร่หรอก ที่บ้านพี่เค้าจำกัดของกินแม่ด้วย ให้กินแต่ข้าวจี่บ้าง ข้าวต้มบ้าง ต้มผักหวานบ้านบ้าง หมูปิ้งเกลือบ้าง อาหารผัดทอด หรือกับข้าวมีกลิ่น น้ำแกง พวกนี้ห้ามเด็ดขาด แล้วแม่มันจะเอาสารอาหารที่ไหนไปกลั่นนมให้ลูกกินละ ตอนนี้พี่เลยตุนนมแอนมัม UHTไว้เพียบๆ กลัวอดตายทั้งแม่ทั้งลูก ปล. กอหญ้า 2 วัน ตาใสแป๋ว ต่างกับวันแรกคลอดเยอะเลยจ๊ะ จากคุณ : โมโม่แม่น้องมายด์ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 19:58:42

ความคิดเห็นที่ 22 ที่ว่าให้ลูกเราทานน้ำไม่ใช่ให้ซัดโฮกทีเป็นออนซ์ๆนะค่ะ แค่อึกสองอึกหลังมื้อนมเท่านั้นเอง ให้แล้วก็ไม่ได้มากจนเกินผลเสีย และก็ไม่ต้องตีกับคห.คนรุ่นปู่รุ่นย่า สบายใจสองฝ่ายจ้า ส่วนจขกท.จะตัดสินใจอย่างไรก็ตามความคิดส่วนตัวเลยค่ะ เพราะแม่ย่อมต้องเข้าใจความต้องการของลูกได้ดีที่สุดอะจ๊ะ วิธีเราอาจดีสำหรับลูกเราเท่านั้นก็ได้ จากคุณ : red color เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 20:04:43

ความคิดเห็นที่ 23 เราไม่ได้ให้กินน้ำ  ลูกเราก็ตัวเหลือง ซึ่งเรามองว่าไม่ได้แปลกอะไร  เพราะว่านมเรามาช้า ระหว่างนั้นเราก็ไม่ได้ลูกทานนมกระป๋อง  รอจนนมแม่มาวันที่สอง (ซึ่งร่างกายเด็กพอมีสารเพียงพอต่อการดำรงชีพไม่ต้องห่วงนะคะ ที่ไม่ให้กินไม่ใช่ใจร้ายอะไร  แต่ลองให้นมผงไปหนึ่งมื้อ ปรากฏว่าน้องอิ่มไม่ยอมดูดนม เลยขอให้งดนมต่อซึ่งก็ได้ผล มื้อต่อไปดูดนมแม่เอาเป็นเอาตาย  หลังจากนมแม่ของเรามาแล้ว ก็มาเยอะเลยค่ะ เลี้ยงมาถึงตอนนี้เจ็ดเดือนก็ยังสบาย ๆ ไม่ต้อง เสริมนมผง) พอทานนมได้ช้าก็เลยขับได้ช้าตาม  เพราะว่าในนมแม่จะมีคอเรสตุม ซึ่งจะทำให้น้องถ่ายบ่อย ๆ ช่วยขับสารเหลืองได้ดี  เราก็โดนแม่สามี ตำหนิเรื่องไม่ให้น้ำเหมือนกัน แต่เรายืนยันหนักแน่นว่าจะเลี้ยงแบบนี้ แม่สามีเลยงอนไปหลายวันเลยค่ะ หลังจากนั้นประมาณหนึ่งเดือน  พี่แฟนเราก็คลอดลูกสาว เขาก็เลี้ยงแบบที่เขาต้องการคือให้ทานน้ำ  ลูกเขาก็ตัวเหลืองเหมือนกัน สำหรับเราแล้ว ให้น้ำหรือไม่ให้น้ำ  ไม่ได้ช่วยเรื่องตัวเหลืองสักเท่าไร มองจากประสบการณ์ที่เห็นมากับตาตัวเองนะคะ เรามองเรื่องนี้ว่าความรู้เกี่ยวกับเลี้ยงเด็กมักจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของการศึกษาหาข้อมูล  ความเชื่อของคนยุค หนึ่ง (ซึ่งคุณแม่เราเคยเล่าว่าสมัยเลี้ยงเรา เขารณรงค์ให้ทารกดื่มน้ำค่ะ) อาจจะล้าสมัยในยุคหน้าก็เป็นได้  เราก็เลยเลือกทำในสิ่งที่เราสบายใจ คือไม่ให้ลูกทานน้ำจนหกเดือน  ตอนนี้ให้อาหารเสริมแล้ว  ลูกเราก็ ทานน้ำได้ ไม่ต่อต้านอะไรค่ะ  ลูกเราก็แข็งแรงไม่เจ็บป่วย เกี่ยวกับโรคในช่องปาก   เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ตอกะจอ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 20:29:41

ความคิดเห็นที่ 24 ส่วนตัวเราก็คิดว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายอะไร กับการให้ลูกกินน้ำหรือไม่ให้กินน้ำ เพราะเราไม่ได้ให้กินกันเป็นขวดๆแค่จิบนิดหน่อยบ้างเท่านั้นเองค่ะ ของเราตอนแรกก็เคยคิดจะเคร่งครัดแบบคุณนี่แหล่ะค่ะ แต่แม่เราอยากให้ลูกจิบน้ำบ้าง เราก็โอเคเพราะไม่อยากมานั่งเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระแค่นี้ คิดซะว่าเพราะเค้าก็รักและหวังดีกับลูกเรานั่นแหล่ะเค้าถึงได้ใส่ใจ ไม่อย่างนั้นเค้าคงไม่มายุ่งหรอกค่ะ ถ้าสื่งที่เค้าให้ทำเป็นเรื่องคอขาดบาดตายก็ว่าไปอีกเรื่องนึง จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 20:30:20

ความคิดเห็นที่ 25 เรื่องทานน้ำหรือไม่ เราเห็นเป็นเรื่องเฉย ๆ ค่ะ ใครจะว่ายังงัยก็แล้วแต่ ตำราจะเขียนยังงัยก็ช่าง แต่.....เราไม่ให้ลูกเราทานน้ำเลยค่ะ..ตอนนี้ลูกเรา 5 เดือนกว่าแล้ว เราไม่ให้ทานน้ำตามนมเลยสักครั้ง... พ่อ แม่ เราก็บอกค่ะเรื่องทานน้ำ แต่เราไม่ทำตาม ไม่เถียง แต่ไม่ให้ จนเค้าเลิกพูดไปแล้วค่ะ มันก็เหมือนเรื่องอาหารเสริม.. บางคนบอก 4 เดือนก็ทานน้ำส้มได้ กล้วย ได้ เราก็ฟังค่ะ..แต่ไม่ทำตาม คือเราไม่ให้ค่ะ..ลูกเราทานนมแม่ล้วน เรากะว่าจะให้ตอนลูก 6 เดือน หรือเมื่อพร้อม เราว่า คนเป็นแม่อะไรที่เราคิดแล้ว ตรึกตรองแล้ว ว่าดีกับลูกเรา ถ้ามันไม่ถึงกับรุนแรงอะไรนัก ตัดสินใจเองเลยค่ะ ตำราก็มีดีและไม่ดี ความคิดเห็นแต่ละคนก็หลากหลาย สุดท้าย เราเท่านั้นค่ะ ที่จะเลือกว่าจะเชื่อใคร ระหว่าง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง คนอื่น หรือ...ตัวเอง จากคุณ : KhunTop เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 20:54:01

ความคิดเห็นที่ 26 จิ๊บ ... เอาน่า ผู้ใหญ่ก็งี้แหล่ะ ...เด๋วสักพักจะชินเอง 555 ของเรา ไม่ได้ให้โปเต้ทานน้ำเลยอ่า ...ตัวก็ไม่เหลืองนะ หมอเคยแนะนำว่า ให้พาลูกโดนแดดอ่อนๆตอนเช้าๆบ้าง ตัวจะได้ไม่เหลือง และเค้าก็บอกว่า ทานนมอย่างเดียวก็พอ ไม่ว่าจะนมแม่ รึนมผสม เพราะยังไง ก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่แล้ว ชั้นเห็นด้วย กับ คห.7 อ่ะ ...คืออ่านเจอมาเหมือนกัน ...เค้าเรียกว่า โรคบวมน้ำอ่ะแก (ไม่รู้จะมีใครเคยได้ยินชื่อโรคนี้บ้างเนี่ย เหอๆ) ดังนั้น เค้าถึงแนะนำไม่ต้องให้เด็กทานน้ำไง .. แต่ถ้ายังกังวล (ปนรำคาญ) เวลาที่มีใครมาบอกให้ป้อนน้ำตามหลังมื้อนมละก็ ...ใช้วิธี บอกว่า ให้ไปแล้วคร่า ... รึไม่ก็ ใช้ป้อนน้ำให้กอหญ้ากินนิดนึงก็ได้ เอาแบบแค่ 1 - 2 ช้อนชา ก็พอ ..แค่ให้คนเหล่านั้นสบายใจก็พออ่ะแก สู้ๆ ...อย่ากังวลมากมายไปเพื่อน .... ปล. ดีนะ ที่ชั้นเลี้ยงเองอยู่นี่  ไม่ต้องมีญาติผู้ใหญ่มากมาย เลยสบายไป หุหุ จากคุณ : AmMy.....จ๋าจ๊ะ.....^_^ เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 21:06:43

ความคิดเห็นที่ 27   เราก็ไม่ได้ให้กินน้ำ จนลูก 2 เขาคงขี้เกียจว่า(เห็นว่าเราดื้อด้วย) นี่ยังจิ๊บๆ เดี๋ยวก็มีมาอีก กล้วย น้ำส้ม จิปาถะ ทำเป็นเฉยๆ ทำท่าเห็นด้วย รักษาน้ำใจดีไหมคะ แต่ว่าไม่ได้ทำ เขาก็จะได้สบายใจ บางทีแฟนเราเคยบอกนะ ว่าให้กินนิดเดียว ตอนญาติอยู่ไม่เห็นเป็นไร..เอ๊า..เป็นงั้นไป เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ สู้ จากคุณ : plubfamily เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 21:41:54

ความคิดเห็นที่ 28 เอาใจช่วยนะจิ๊บ สำหรับพี่คงยังยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองอยู่ดีว่าจะให้นมแม่อย่างเดียวจนถึงหกเดือน ไม่ให้น้ำตาม แล้วจะได้สร้างแนวคิดใหม่ ๆ ให้กับญาติ ๆ ตัวเองได้ว่า ฉันไม่ให้น้ำ ลูกฉันก็โตได้เหมือนกัน อิอิ จากคุณ : jeen_cute เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 21:46:19

ความคิดเห็นที่ 29 อ้อ เรื่องกินน้ำตาม ที่หมอบอกไม่ต้องเป็นเพราะว่า แม้จะไม่กี่อึก 1-2 อึกเพื่อล้างปากก็ตามก็ไม่ต้อง เป็นเพราะว่าน้ำเปล่าจะไปชะล้างนมแม่ที่เคลือบช่องปากลูกไว้ค่ะ นมแม่ที่เคลือบในช่องปากลูกมีประโยชน์นะคะ การที่กินน้ำตาม แม้จะน้อย แต่มันก็ไปชะล้างออกไปน่ะค่ะ จากคุณ : ริน-otto เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 22:49:12

ความคิดเห็นที่ 30 ต้นน้ำเกิดมาก็ตัวเหลือง  พี่ก็ไม่ได้ให้กินน้ำเลย  นมแม่ล้วนๆ  นมแม่มาวันที่ 3 อีกตะหาก แดดก็ไม่ได้เอาไปตากด้วย ก็หายเหลืองเองได้โดยที่ไม่ต้องส่องไฟ ต้นน้ำเป็นเด็กนมแม่ล้วนๆ หกเดือน เริ่มอาหารเสริมตอนหกเดือนจ้า ถ้าเด็กตัวเหลืองมันจะเหลืองตอนเกิดมาเลยไม่ใช่เหรอ (ไม่รู้เข้าใจผิดหรือเปล่า แต่ต้นน้ำเหลืองตั้งแต่เกิดเลย) วิธีแก้ คือให้ฉี่เยอะๆ สารเหลืองจะขับออกมาทางฉี่และอึ ซึ่งในนมแม่ก็มีน้ำมากพออยู่แล้ว  ถ้าตัวเหลืองให้ดูดนมเยอะๆ  มันก็เหมือนดูดน้ำเยอะๆนั่นแหละ มันทำให้ฉี่ แต่นมแม่กินแล้วไม่เสียเปล่าเพราะมีสารอาหารด้วย น้ำกินแล้วทำให้อิ่มอย่างเดียวไม่ได้สารอาหาร ถ้าคนมาเยี่ยมพูดมากนัก ก็ทำเงียบๆเนียนๆไปซะ เดี๋ยวเค้าก็กลับไปแล้ว ไม่รู้หรอกว่าเราให้กินหรือไม่ให้กิน (พี่ใช้วิธีนี้)  ถ้าพูดมากนักก็ฟอร์มบอกให้กินไปแล้ว  เค้าไม่ได้มาเยี่ยมทุกวันนี่หน่า แต่ถ้าสุดๆจริงๆ ต้องกินน้ำให้เห็นเนี่ย ให้แค่อึก สองอึกพอ ไม่ตอ้งซดโฮกๆ เพราะกระเพาะเด็กเล็กนิดเดียว กินน้ำไปทำให้อิ่มเปล่าๆ ไม่ได้สารอาหาร สมัยใหม่ที่ไม่ให้กินน้ำตามนมแม่ เพราะนอกจากจะทำให้อิ่มแล้ว น้ำยังไปล้างนมแม่ในปากลูก ซึ่งแพทย์บอกว่ามีสารที่มีประโยชน์ต่อช่องปากลูกอีกด้วย   ถ้าเป็นนมผสม ให้กินน้ำตามเพื่อล้างคราบนมในปาก แต่ก็แค่นิดหน่อยพอล้างปากพอ ไม่ได้แนะนำให้กินมากมายเยอะแยะเหมือนกัน เอาขวดนมใส่น้ำวางไว้ มันมีสองด้านนะ 1 คือเค้าเชื่อว่าเราให้กินน้ำ จบ สบายใจทั้งสองฝ่าย 2 เค้าเอาขวดน้ำยัดปากลูกเราเอง เซร็งเลยทีนี้ ระวังน้ำในขวดด้วยเผื่อลืมเปลี่ยนเพราะเราไม่ได้ตั้งใจให้กินจริงๆ  ต้องเปลี่ยนทุกวันและเป็นน้ำต้มสุกนะจ๊ะ (พี่ไม่มีขวดน้ำทิ้งไว้ให้ใครหยิบป้อนได้) ## กอหญ้า ตาโตใสแป๋ว น่าฟัดจริงๆ ## จากคุณ : พันฟ้า เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 22:55:28

ความคิดเห็นที่ 31 จิ๊บ พี่ยังยืนยันคำเดิมว่าให้นมลูกอย่างเดียวให้ได้6เดือน พี่ก็มีปัญหากับแม่พี่เรื่องนี้ พี่เลยพูดกับแฟนว่าถ้าลูกเกิดมาจะเลี้ยงแบบที่เราเข้าใจแหละ เลี้ยงแบบเรา เลี้ยงเองสบายใจกว่า ญาตฺพี่แม่พี่ก็พูดเรื่องกินนมแล้วตามด้วยน้ำ ฟังจนเบื่อ จนไม่อยากกลับบ้านเลย พูดกรอกหูอยู่นั้นแหละ ฉนั้น..พี่จะเลี้ยงตามหมอแนะนำ และตามที่พี่ตั้งใจด้วย จากคุณ : vitcom2000 เขียนเมื่อ : 13 ธ.ค. 52 23:33:42

ความคิดเห็นที่ 32 จิ๊บ - พี่คิดเหมือนคุณ BB no5 คห. 18 ง่ะ แบบว่า  ถ้าญาติๆ ถาม ก็บอกไปว่า  ให้กินแล้ว เอาขวดน้ำมาตั้งไว้ ให้เขาเห็นว่ามีขวดน้ำอยู่ แล้วถ้าเกิดเขามาจังหวะพึ่งให้นมกอหญ้าเสร็จ  ถ้าเขาถามว่า ให้น้ำยัง ก็เอาให้กอหญ้าดูดพอเป็นพิธีก็ได้ แบบว่า  จ๊อบๆ แจ๊บๆ ไป ไม่ได้ดูดเป็นออนซ์ๆ อ่ะ  คือ พี่เชื่อว่าที่ญาติๆ ถาม เขาไม่ได้ตั้งใจจะมาบ่งการ  แต่เขาเคยชินและเคยเลี้ยงพวกเรามาแบบนี้ ไม่งั้นมันจะมีไอ้สำนวนที่ว่า  "อาบน้ำร้อนมาก่อน"  เหรอ  หุหุ แล้วผู้ใหญ่อ่ะ (ไม่อยากเรียกว่าคนแก่)  บางทีเราไปเปลี่ยนความคิดของเขายาก บางทีมันต้องใช้ยุทธวิธีน้ำซึมบ่อทราย  ค่อยๆ ทำให้เขาเห็น เขาจะค่อยๆ ยอมรับไปเอง แล้วไอ้ที่เขาทักๆ มา ถึงแม้ว่ามันจะเป็นความเชื่อแบบโบราณ แต่มันก็เป็นเพราะ เขารักเรา  รักหลานไม่ใช่เหรอ?   คือ บางทีด้วยความเห่อหลาน หลงหลานอ่ะ พี่คิดแบบนี้นะ   ปล. อ่านกระทู้ไปรอบหนึ่งล่ะ  แต่ชิ่งไปรวบรวมความกล้าก่อนมาตอบ  หุหุ จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 01:06:09

ความคิดเห็นที่ 33 จิ๊บ..ถ้าเป็นพี่คงเดินสายกลางคิดเหมือนพี่อ้อมอีกแล้ว แหะๆๆ แม่พี่ก็เคยน้อยใจลูกสะใภ้เรื่องนี้แหล่ะ  ต้องปลอบอยู่นานเลย กว่าจะหายงอน ที่เค้าท้วงก็เพราะเค้ารักหลาน พี่เคยโดนเลี้ยงมาแบบ นั้นก็ไม่เคยเจ็บไข้หนักๆสักที  กะว่าถ้าแม่มาช่วยเลี้ยงก็จะทำอย่างนี้แหล่ะ ให้ลูกจิบน้ำบ้างพอเป็นพิธีสัก1-2หยด  ถนอมน้ำใจผู้ใหญ่นิดจะได้แฮปปี้ กันทั้ง2ฝ่าย แต่ระวังเรื่องน้ำดื่มหน่อยต้องสะอาดพอไม่งั้นเดี๋ยวน้องท้องเสียเน้อ ปอลู..ยินดีกับจิ๊บด้วย น้องน่าชังมากๆๆๆ  เห็นแล้วตาร้อน อิๆๆ ขอให้ฟื้นตัวไวจะได้มีแรงมาเท้าส์กันต่อ จากคุณ : น้องหมาบีเกิ้ล เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 03:05:51

ความคิดเห็นที่ 34 เด็กไม่กินน้ำเยอะจนถึงขั้นอันตรายหรอกค่ะ รับรองเลย ให้เค้ากินได้นะคะ เชื่อเถอะ แล้วโตขึ้น คุณจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องลูกไม่กินน้ำ นี่เรื่องจริงนะคะ ลูกเราก็กินน้ำ กินนมแม่ กินนมชง เราเลือกเดินกลางๆ ค่ะ ไม่ได้อะไรมาก เอาแบบเราสบายใจ ผู้ใหญ่สบายใจ เป็นใช้ได้ค่ะ จากคุณ : pinkybird เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 08:59:47

ความคิดเห็นที่ 35 มีหลายตำรา เฃือกเอาค่ะว่าจะเชื่ออะไร  เราไม่มีความเห็นตรงนี้หรอกนะ  เถียงกันไปเปล่าๆ  ไม่กินก็ดี  ถ้ากินบ้างก็ไม่เสียหายมาก แต่ที่ไม่พอใจเลยคือเรื่องที่ญาติๆมายุ่งวุ่นวาย เข้าใจนะว่าห่วง  แต่นั่นแค่ญาติ  ตัวเราเป็นแม่  เราต้องมีสิทธิสิ  ญาติมาเกี่ยวอะไรด้วย  แนะนำได้ แต่ไม่ม่สิทธิบังคับ ยอมรับนะคะว่าคนเราต้องมีญาติมิตร  แต่ไปแคร์คนรอบข้างมากก็ไม่ดี  เราเป้นแม่คนแล้ว เท่ากับว่าให้กำเนิดอีกชีวิตมาแล้ว เราต้องมีสิทธิจะเลือกดูแลชีวิตน้อยๆนั่นด้วยตัวเราสิ คุณเลือกมาทางนึงเลยคะ  จะโยนหัวโยนก้อยหรือจะอะไรก็ได้ค่ะ  แล้วลุยตามนั้น  ที่เราอยากจะแนะนำมากกว่าคืออย่าไปฟังชาวบ้านค่ะถ้าตัดสินใจแล้ว  อย่ายอมให้ใครมาพูดมาก  ย้อนกลับไปเลยค่ะ  จะญาติฝ่ายไหนอย่าไปสน นี่มันลูกเรา อยากเลี้ยงแบบอื่นก็ให้ไปเบ่งออกมาเอง  อย่ามายุ่งกับเด็กคนนี้ค่ะ จากคุณ : big black eyes เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 10:02:58

ความคิดเห็นที่ 36   ถ้าอยู่บ้านเดียวกัน   ก็ให้จิบ ๆ บ้าง  พอไม่ทะเลาะกันนะค๊ะ เดี๋ยวแม่สุขภาพจิตจะแย่  (ซึ่งจะไม่ดีต่อลูก ก็ต่อเนื่องถึงการผลิตน้ำนม) เชื่อเค้าบ้าง  พอให้เค้าดีใจ...  ยังไงซะ   เค้าก็รักเหมือนเรานั้นหละ ..   ปล.  บางครั้งก็ทำหูทวนลมบ้างก็ได้...  (ทำบ่อย หุหุ) ลูกเรา  เราก็อยากเลี้ยงเอง ตามวิธีของเรา  แต่เค้าก็จะบอกว่า  หลานเค้าเหมือนกัน . จากคุณ : MOOM_SOM เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 11:27:03

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่เห็นต้องทะเลาะกันเลยค่ะ เรื่องเลี้ยงเด็กแค่นี้ ทำให้ผู้ใหญ่ทะเลาะกันมันแปลกๆนะ  ตึงเกินไปทั้งคู่ ฝ่ายนึงก็ก้าวก่ายไปหน่อย แม่เค้าจะเลี้ยงอะไรยังไง ก็ไม่เห็นต้องไปวุ่นวาย อีกฝ่ายนึง (คุณจขกท.) ก็อาจจะตึงไปนิด ให้ลูกกินน้ำนิดๆหน่อยๆ แบบจิบๆก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 12:29:28

ความคิดเห็นที่ 38 เราว่าการดำเนินชีวิตมันคือศาสตร์และศิลป์นะคะ บางเวลาศาตร์มาหน่อยศิลป์น้อยหน่อย หรือบางเวลาก็ตรงข้าม อย่างเรื่องน้ำ คำแนะนำของ WHO คือ ทานนมแม่ล้วนโดยไม่มีน้ำจนกระทั่ง 6 เดือนแล้วค่อยเริ่มอาหารเสริม ถ้าทำตามได้ก็ดี แต่ถ้าทำตามไม่ได้ด้วยเหตุผลของผู้ใหญ่ ทีนี้เราต้องมาชั่งน้ำหนักดูว่า อะไรสำคัญกว่าอะไรระหว่าง ความสัมพันธ์ของแม่ แม่สามี ญาติผู้ใหญ่ของเราและลูกที่มาช่วยเลี้ยง กับลูกกินน้ำแล้วอิ่ม จนทานนมแม่ไม่ได้ แม่คุณ แม่สามีของคุณคงไม่แนะนำอะไรที่ตัวเองคิดว่าแย่ๆให้หลานหรอกมั้งคะ เค้าคิดว่าดีตามความเชื่อของเค้า ถ้าเราไม่อยากให้น้ำ เราก็คุยดีๆ แต่ถ้าหากว่าเราเลี้ยงเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งเค้าเลี้ยง เราว่าเราก็ให้นมแม่ล้วนๆไป แต่หากว่าต้องให้เค้าช่วย คงอาจจะต้องยอมๆให้เค้าบ้าง แล้วอธิบายว่าถ้าให้น้ำมากเด็กไม่กินนมแม่จะไม่ได้สารอาหาร เค้าคงเข้าใจ ความเห็นส่วนตัวคือ เรามีลูกสองคน คนแรก เลี้ยงตามตำราเป๊ะๆ ไม่ให้กินน้ำเลย กินนมแม่กับนมผสมมาตลอดตั้งแต่เกิด ปัจจุบันก็อายุ 4 ขวบแล้ว ก็โอเคค่ะ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ พัฒนาการก็ดีน่ารัก เพื่อนๆเค้าที่โณงเรียน บางคนก็กินน้ำ เอาผ้าอ้อมเช็ดฝ้าในปาก (ซึ่งจริงๆก็ไม่จำเป็นต้องเช็ดเพราะกินนมแม่จะมีสารเคลือบในปากเด็กไม่ให้มีเชื้อรา) บางคนกินกล้วย แต่ก็โตมาเล่นด้วยกัน แทบไม่มีอะไรแตกต่างในด้านกายภาพเลย ลูกคนที่สอง ตอนนี้จะหกเดือนแล้ว กินนมแม่ล้วนๆได้ตั้งแต่เกิด แม่สามีเวลาช่วยเลี้ยง (ถ้าเค้ามาเยี่ยมบ้านเรา) ก็มีบ้างที่แอบๆเอาน้ำป้อนบ้าง  แต่เดือนแรกถึงเดือนที่สี่ เราคุยกับเค้าเลยนะคะว่าไม่ให้กินน้ำ เค้าก็เข้าใจ แต่หลังจากสี่เดือนก็มีแอบๆเอาน้ำบ้าง น้ำส้มบ้าง กล้วยบ้าง ป้อนๆให้ลูกเราทาน แต่คราวนี้ลูกคนที่สองแล้วประสบการณ์มากขึ้นเลยมานั่งนึกดูว่า ทานนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้ซีเรียสอะไร เด็กอารมณ์ดี มีคนเล่นด้วยเยอะ happy ดี พัฒนาการดี ยิ้มเก่ง แค่นี้คงไม่ซีเรียส ถ้าเถียงกันหมดอารมณ์ อาจจะหมดมู้ดกันไป ลูกคงรับรู้ได้ หลังจากนั้นก็มาคิดพิจารณาเองนะคะว่า การที่ WHO บอกว่า 6 เดือน นั่นคือเค้าวิจัยมาแล้ว ซึ่งก่อนจะออกมาเป็นผลลัพธ์แบบนี้ คงจะมีการคำนวนซึ่งต้องมีค่า N ซึ่งเป็นกลุ่มตัวอย่างแล้วเอามาวิจัยหาค่าเฉลี่ย ตรงนี้เราคิดว่าจริงอยู่ว่าค่าเฉลี่ยออกมาที่ 6 เดือน แต่ต้องยอมรับว่า เด็กทุกคนไม่ได้เกิดมาเหมือนกัน จริงมั้ยคะ ทุกคนมีความแตกต่างในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเรื่อง กิน นอน ขับถ่าย เราคนเป็นแม่รู้ดีที่สุด เวลาเริ่มอาหารเสริม เราเลยดูลูกเป็นหลัก เคยอ่านเจอตำรานึงเค้าบอกว่า ถ้าลูกเริ่มคว่ำหงายเองได้คล่อง เป็นเวลาที่เริ่มอาหารเสริมได้ เราก็เลยปิ๊งขึ้นมาว่า เวลาเริ่มอาหารเสริม ไม่ใช่ต้องเป็นที่ 6 เดือนพร้อมๆกันหมดทุกคนหรอกค่ะ แต่ว่าขึ้นกับตวามพร้อมของลูกของเรามากกว่า บางคนอาจจะช้ากว่าหกเดือน บางคนอาจจะเร็วกว่าหกเดือน เราเลยใช้จุดที่ลูกเราดูอยากจะกินของที่เรากิน ทำปากจั๊บๆ สนใจและจ้องดูเวลาผู้ใหญ่กิน สรุปลูกเราเริ่มจริงๆจังๆตอนห้าเดือน กินได้ดีทีเดียว ให้ดูดหลอดตั้งแต่ 4 เดือนแล้วค่ะ ชอบดูดมากๆ (ไม่เหมือนลูกคนแรก พร้อมช้ากว่าประมาณหกเดือนปลายๆเกือบเจ็ดเดือน ตอนนั้นไม่ได้สังเกตว่าลูกอยากกินมั้ยเวลาเห็นผู้ใหญ่ทาน เพราะว่าเลี้ยงตามตำรา) แม่สามี (คนจีน) happy มาก หลานกินเก่ง เราก็happy ไม่ต้องทำอาหารเสริมเลย เค้าทำให้เพราะชอบที่หลานทานได้ดี แต่ก็ต้องมีควบคุมไม่ให้ป้อนเกินหนึ่งมื้อต่อวัน ส่วนกรณีของคุณก็พิจารณาเอาเองว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงตามความเหมาะสมของครอบครัว แต่อยากจะบอกว่า การดำเนินชีวิต การแก้ไขปัญหาของแม่กับลูกในทุกๆวัน ส่งผลต่อลูกของเราในทุกด้าน ไม่ใช่แค่เรื่องกินนะคะ วิธีที่แม่ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เหล่านี้มีผลต่อลูกทั้งหมด เพราะเด็กซึมซับได้ไวมากๆค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : @-อมยิ้มแก้มตุ่ย-@ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 52 14:07:20