ความคิดเห็นที่ 1 อาการบิดเป็นปรกติของเด็กคะ ลูกแอนก็เป็นจนประมาณ 2 เดือนกว่าก็หายไปเองเฉยๆคะ บิดทีไรตื่นทุกที บิดแล้วก็ร้อง เคยโพสถามในนี้มีแม่ๆหลายคนก็เป็นคะ บ้างก็ว่าบิดเรียกเนื้อเรียกตัวนะคะ ไม่เป็นอะไรหรอกคะ แต่เรื่องตดนี่ไม่ทราบเหมือนกันแต่ส่วนตัวว่าก็ดีนะคะ ไล่ลมไปในตัวท้องจะได้ไม่อึด จากคุณ : kumpapun เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:14:39

ความคิดเห็นที่ 2 เด็กอายุ เดือนนิดๆมีอาการตดบ่อยหรือร้องแบบเจ็บปวดทุกครั้งเวลากินนมแม่นั้นอาจเป็นเรื่องปกติ หรือ ไม่ปกติก็ได้ค่ะ เรื่องปกติคือ เด็กอาจมีลมในท้องเยอะแม้การดูดจากเต้าจะเอาอากาศเข้าน้อยกว่าจากการดูดขวดแต่ก็มีอากาศเข้าไปได้เหมือนกัน ดังนั้น คุณเจ้าของกระทู้ต้องจับน้องเรอทุกครั้งนะคะเวลาที่เค้าแสดงอาการบิดตัวไปมา สบัดหน้าหนีจากเต้า แล้วเริ่มร้องเพราะนั่นแสดงว่า ลมก้อนเล็กๆในท้องเค้าเริ่มก่อตัวเป็นก้อนใหญ่แล้วถ้าคุณเจ้าของกระทู้จับลูกเรอเมื่อลูกแสดงอาการดังกล่าว เค้าจะเรอ เอิ๊กใหญ่ออกมาเลยค่ะ ไม่เสียเวลาด้วย ส่วนเรื่องไม่ปกติคือเด็กอาจเป็น Acid Reflux หรือ GER (Gastroesophageal reflux (GER)) ก็ได้ GER นี้เป็นภาวะกรดไหลย้อนที่กระเพาะอาหาร ทำให้ท้องมีลมมากผิดปกติทุกครั้งที่เด็กกินนมเข้าไป เรอบ่อยมาก ตดมาก และจะแหวะนมแทบทุกครั้งหลังกินนม ขอเล่าประสบการณ์ตัวเองให้ฟังก็แล้วกันนะคะเผื่อมีประโยชน์กับคุณเจ้าของกระทู้บ้างไม่มากก็น้อย เมื่อตอนที่ลูกเราอายุได้เดือนกว่าๆ เราต้องพาลูกไปโรงพยาบาลแผนกฉุกเฉินตอนกลางคืน เพราะเราเห็นว่าเค้าไม่ได้แหวะนมธรรมดาแต่น่าจะเป็นอาการอาเจียนออกมามากกว่าและเป็นครั้งแรกที่ลูกอาเจียนเยอะอย่างนี้ คือก่อนที่จะอาเจียนนี้ลูกเราเค้าก็แหวะนมมาโดยตลอด แหวะแทบทุกครั้งหลังให้นม (ตอนนั้นเราเองไม่ค่อยได้จับลูกเรอด้วยแหละ) เราเองก็เข้ามาหาข้อมูลในชานเรือนนี่แหละว่าจะมีลูกใครเป็นเหมือนลูกเราหรือเปล่ากับอาการแหวะนม ก็ได้คำตอบว่ามีเด็กหลายคนที่แหวะนมบ่อยหลังทานนม อะไรแบบนี้ เราก็สบายใจ(ขึ้นบ้าง) นอกจากแหวะนมแล้วเค้ายังแสดงสีหน้าเหมือนปวดท้องมากด้วยทุกครั้งที่กินนม แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก อาการแหวะลูกเรามันมากขึ้นเรื่อยๆ ร่วมกับมีอาการ ถ่ายเป็นน้ำมีเลือดออกมานี๊ดนึง นิดเดียวจริงๆ แต่นมที่แหวะออกมาสีปกขาวปกติ ไม่มีกลิ่น เราก็คิดว่า โอ..แบบนี้ไม่น่าจะแหวะธรรมดาแล้วล่ะ แล้วถ่ายมีเลือดปนออกมานิดๆด้วย เราสงสารลูกมาก ทำอะไรไม่ถูก ร้องให้เลย แฟนเราก็ตัดสินใจพาสามคนพ่อ-แม่ลูกไป รพ.ตอนดึกคืนวันนั้นเลย พอไปถึง รพ. นางพยาบาลก็ชั่งน้ำหนัก วัดออกซิเจนตรงเท้า วัดการเต้นของหัวใจ วัดไข้ทางรูทวาร ก็ปรากฎว่า น้ำหนักลูกเราตอนอายุ 6 สัปดาห์ 3 วัน ขึ้นมาเป็น 4134 ขึ้นมาจากตอนที่ครบเดือนประมาณ 700 กรัม ถือว่าน้ำหนักขึ้นปกติ  ค่าออกซิเจนที่วัดได้ก็ปกติ อัตราการเต้นของหัวใจปกติ ไม่มีไข้ เสร็จแล้วพอคุณหมอเข้ามาตรวจก็ซักถามประวัติข้อมูลต่างๆร่วมกับดูสิ่งที่พยาบาลวัดได้ในวันนี้ คุณหมอก็เลยถามเราว่า ในบ้านหรือญาติพี่น้องเคยมีใครเป็น ฮาร์ทเบิร์น หรือไม่ เราก็ตอบว่าเราเองนี่แหละเป็นฮาร์ทเบิร์น คุณหมอก็บอกว่า ลูกเราเป็น Gastroesophageal reflux (GER) หรือ ภาวะการไหลย้อนที่กระเพาะอาหาร ซึ่งเจ้า GER นี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้เช่นกัน  คุณหมอก็อธิบายให้เราฟังว่าจากลักษณะอาการที่เป็นในวันนี้ มีสามสิ่งที่ลูกเราอาจเป็นได้คือ 1. Gastroesophageal reflux (GER) หรือ ภาวะการไหลย้อนที่กระเพาะอาหาร 2. ระบบทางเดินอาหารติดเชื้อไวรัส และ 3. ติดเชื้อในไตหรือกระเพาะปัสสาวะ แต่ดูจากอาการแล้วน่าจะเป็น GER มากที่สุด เพราะหากระบบทางเดินอาหารติดเชื้อไวรัสจะต้องมีไข้สูงมาก ถ่ายหลายๆสิบครั้งและมีอาการไอร่วมด้วย แต่ลูกเราไม่มีอาการเหล่านี้เลย หรือหากมีก็คงหายไปแล้วเพราะร่างกายกำจัดออกไปได้ จากนั้นพยาบาลก็นำปัสสาวะไปตรวจที่แล็บ เพื่อดูว่ามีการติดเชื้อในไต หรือกระเพาะปัสสาวะหรือไม่ก็ปรากฎว่าผลออกมา ปกติทั้งหมด ไม่มีอาการติดเชื้อใดๆ คุณหมอก็เลยออกใบสั่งยา ให้เราไปซื้อตัวยาชื่อว่า Zantac มาป้อนให้ลูก ส่วนเลือดที่ออกมากับอุจจาระนิดๆนั้นคืออาการ anal fissure หรือตูดฉีกเพราะลูกเราถ่ายบ่อยมากวันที่ไปหาหมอนั้นเค้าถ่าย 8 ครั้งแต่ไม่ถือว่าเป็นอาการท้องเสียแม้จะถ่ายเป็นน้ำเหลวมากแต่ลักษณะอุจจาระปกติ ไม่ใช่สีน้ำตาลอีกทั้งท้องเสียนี่ถ่ายเป็นหลายสิบครั้ง คุณหมออธิบายว่า  จริงๆแล้ว GER นี้เป็นอาการที่คอมมอนมากในเด็กเล็กและเด็กที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงกว่า 90 % ก็ล้วนแล้วแต่ผ่านการเป็น GER มาเกือบทั้งนั้น แต่พ่อ-แม่บางคนไม่รู้ว่าที่ลูกตัวเองร้องมากๆ บิดตัวไปมา แหวะนมนมเยอะนั้นเค้าเป็น GER เพียงแต่ระดับที่เป็นอาจเป็นจากน้อยมากต่างกัน ลูกเราเป็นมากหน่อยเลยต้องให้ยามาทาน เราก็เลยถามคุณหมอว่าแล้วจะหายเมื่อไหร่คะหลังจากทานยา คุณหมอบอกว่าอันนี้ตอบไม่ได้ เด็กบางคนทานยาเพียงแค่วันเดียวก็หาย บางคนเป็นอาทิตย์ แต่บางคนทานยาจนถึง 1 ปีเลยทีเดียว และเมื่อเด็กอายุครบปีเมื่อไหร่ GER จะหายไปเอง คุณหมอแนะนำให้เราให้นมลูกบ่อยๆเพราะในนมแม่มีสารที่ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารด้วยค่ะ ตอนนี้ลูกเรา 3 เดือน 4 วันไม่ต้องทานยามาเกือบเดือนแล้วค่ะเพราะเจ้า GER นี่หายไปเองแล้ว เพราะเด็กเริ่มโตขึ้นบวกกับพลังนมจากเต้า แต่เรื่องตดนี่ลูกเรายังตดแบบยิงปืนใหญ่ทุกวันค่ะ อิอิ แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 09:45:00 จากคุณ : Bunnie เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 09:40:55

ความคิดเห็นที่ 3 ลูกสาว ทั้ังเรอทั้งตดค่ะ มันดีกว่า ไม่เรอไม่ตดแล้วเด็กก็จะร้องงอแง เพราะปวดท้อง มีลมในท้องเยอะ. จากคุณ : Aik and An (จิงโจ้ยักษ์) เขียนเมื่อ : 19 ธ.ค. 52 19:25:10

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องปกติคะสำหรับเด็กเล็ก เด็กๆจะมีลมในท้อง ก็จะระบายด้วยการเรอ หรือตดคะ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงคะ แต่ถ้าไม่เรอไม่ตดสิคะ อันนี้น่าห่วงกว่าคะ จากคุณ : bluebluestar (Zam) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 01:04:09

ความคิดเห็นที่ 5   ลูกผมก็มีอาการบิดเหมือนกันเลย แต่ไม่มากเท่าไร เป็นๆ หายๆ ไม่น่าจะไปหาหมอไช่ไหมคับ แต่เวลาลูกบิดเราก็สงสารลูก จากคุณ : พ่อลูกอ่อน เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 08:52:20 A:118.172.217.160 X: