ความคิดเห็นที่ 1 แล้วก็เริ่มปฏิบัติการ คืนวันพฤหัสฯ 24 โทรจอง Unseen Taxi 1681 ล่วงหน้า ให้มารับที่บ้านตอน 6 โมง 15 นาที แล้วระบุด้วยว่า ขอคันที่คนขับไม่สูบและไม่มีกลิ่นบุหรี่ เพราะจะพาเด็กเล็กๆ ไปโรงพยาบาล (เสียเพิ่มอีก 20 บ. แต่ปลอดภัยกว่า ถือว่าคุ้มค่ะ) พนง.บอกว่า ตอน 6 โมงเช้า พนง.ขับTaxiจะโทรมาCFเส้นทาง คืนนั้นนอนหลับไม่สนิท กลัวลูกโดนผ่าลิ้น สงสารลูก แต่ถ้าเป็นจริงๆ ก็ต้องทำ 6.00 น. ตื่นนอน เช็คเอกสารและของใช้ที่จำเป็นอีกรอบ 6.30 น.   พี่คนขับไม่โทรมาค่ะ แต่กดกริ่งเลย ดังมาก เล่นเอาตกใจกันเลยทีเดียว 6.50 น.   ถึงโรงพยาบาล เราเดินลอดใต้ห้องฉุกเฉิน รู้สึกจะประตู4 (ถ้าจำไม่ผิด) แล้วเดินไปที่ตึกเจ้าฟ้าฯ ชั้น 1 เพื่อทำบัตรคนไข้ใหม่ (ถามทางคนแถวนั้นดูนะคะ ไปไม่ยากค่ะ) กรอกประวัติ และยื่นเอกสารตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง ดีที่วันนั้นตอนกำลังรอคิว เจอคุณพยาบาลท่านนึง เดินมาทักลูกเรา ด้วยความเอ็นดูว่า "ตัวเล็กเป็นอะไรลูก" พอเราบอกอาการ พี่เค้าก็รีบกุลีกุจอ จัดการและจองคิว เพื่อไปคลินิคนมแม่ให้ทันที ทำให้ไม่ต้องตรวจร่างกายเบื้องต้นที่ชั้นล่าง แต่ก็ต้องรอรับบัตรคนไข้ และบัตรส่งตัวไปคลินิคนมแม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขอถ่ายรูปน้องเก็บไว้ในฐานข้อมูลด้วยค่ะ 7.30 น. ไปคลินิกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ตึก 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น 2 ยื่นใบตรวจที่หน้าห้อง (คลินิกเปิดทำการ 8 โมงเช้า) ระหว่างนี้ลงไปซื้อขนมปัง+น้ำที่ร้านS&P ชั้นล่างมาตุนไว้กันหิว เพราะคุณพยาบาลบอกว่า ถ้าส่งตัวเข้าคลิกนิกพังผืดฯ แล้ว หลังจากนั้นจะไม่ได้ออกไปทำธุระส่วนตัวแล้วค่ะ ต้องอยู่รอจนผ่าเสร็จ 8.00 น. คุณพยาบาลเรียกตามคิว ซักประวัติคุณพ่อ คุณแม่ พร้อมขอสมุดสุขภาพของน้องเพื่อดูประวัติทางการแพทย์ หลังจะนั้นจะให้คุณแม่พาน้องเข้าห้องเพื่อชั่งน้ำหนัก ที่นี่ดีมากค่ะ เค้าจะให้ลูกถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วค่อยขึ้นชั่ง ชั่งกันแบบเปลือยๆ และเราจะได้รู้น้ำหนักตัวจริงๆ ของลูก น้องภัทร์ 3 เดือน 16 วัน น้ำหนัก 6.77 กิโล ถือว่าไม่มากไม่น้อย หลังจากนั้นก็วัดขนาดหัวนมแม่ / สอน+ปรับท่าให้นม จากนั้น คุณพยาบาลก็เอาCotton Bud มาเปิดดูพังผืดใต้ลิ้น ว่าลูกเราเป็นมั้ย และเป็นมากหรือเป็นน้อย จำเป็นต้องส่งตัวไปที่คลินิกพังผืดฯ อีกหรือไม่ คุณพยาบาลบอกว่า "น้องภัทร์เป็นระดับกลางแต่เส้นพังผืดหนามาก" ตัดเถอะค่ะคุณแม่ เราก็อืม สงสารลูก ได้เจ็บตัวจริงๆ ด้วย แต่เค้าก็ไม่ได้บังคับให้ผ่านะคะ จะทำหรือไม่ทำก็ได้ จากนั้น คุณพยาบาลก็จะตรวจเด็กที่เป็นพังผืดจนครบทุกคน แล้วส่งตัวไปที่คลินิคคลินิกพังผืดใต้ลิ้นพร้อมๆ กัน เพื่อให้คุณหมอดูอีกครั้ง 9.00 น. ไปห้องคลินิกรักษาพังผืดใต้ลิ้น ตึกสยามินทร์ ชั้น 5 (ห้องเล็กกว่าที่คิดไว้เยอะมากๆ) ห้องนี้คุณพยาบาลดุหน่อยค่ะ ตอนซักประวัติโดนดุไปหลายคน และแล้วก็โดนJackpot คือ ปรกติการผ่าตัดจะมี 2 รอบ แต่วันนี้ทางแพทย์ที่ผ่าติดธุระ เลยยุบมาเหลือรอบเดียว วันนั้นมีคนไข้ทั้งหมด 13 คน ทำให้รอนานมากกกกก เพราะเค้าจะนั่งซักประวัติทีละคน และรอคุณหมอมาตรวจทีละคน คุณพยาบาลจะเอาStickerที่มีชื่อของลูกมาปิดที่เสื้อเด็กแต่ละคน พร้อมเขียนเลขให้ตรวจตามคิวค่ะ น้องภัทร์เป็นคนที่ 6 ของวันนั้น พอจัดคิวเสร็จ คุณพยาบาลก็จะสอบประวัติคุณแม่อีกครั้ง ว่าน้องกินนมแล้วรู้สึกว่าใช้เหงือกงับ หรือใช้ลิ้นงับ ให้บอกระดับความเจ็บเวลาน้องกินนม แล้วก็ดูหัวนมแม่ จากนั้นคุณพยาบาลก็จะเอาCotton Bud มาเปิดดูใต้ลิ้นลูกอีกครั้ง คุณพยาบาลบอกว่า "น้องภัทร์เป็นระดับมากค่ะ" แม่ก็ทำใจแล้วค่ะ ว่าโดนแน่ๆ ลูกเอ๊ย จากนั้นก็ให้ดูVCDการผ่าตัดพังผืด 10.40 น. และก็โดน Double Jackpot ภายในวันเดียว เพราะวันนั้น มีทีมแพทย์จากรพ.อื่นๆ มาขอดูงานด้วย คุณหมอเลยเลยต้องตรวจไปด้วย และอธิบายขั้นตอนให้กับคุณหมอที่มาดูงานไปด้วย ทำให้กว่าจะได้เข้าห้องผ่าตัด ก์เกือบๆ เที่ยงค่ะ แต่เรายินดีรอ และเต็มใจรอนะคะ เพราะถือว่า คุณหมอที่มาดูงานในวันนี้ จะได้ไปช่วยเด็กๆ ที่เป็นโรคนี้ให้หาย เด็กๆ จะได้มีโอกาสกินนมแม่สำเร็จมากขึ้น การตรวจ คุณหมอจะตรวจคนไข้ที่ผ่าไปแล้ว และครบกำหนดนัด ให้เข้ามาตรวจแผลก่อน ว่าแผลดีมั้ย มีอะไรผิดปรกติหรือเปล่า ถึงจะถึงคิวคนไข้ที่จะทำการผ่าตัดของวันนั้นๆ คุณหมอบอกว่า "น้องเป็นเยอะนะคะคุณแม่" คุณหมอก็ให้ตัดสินใจว่าจะผ่าหรือเปล่า ถ้าผ่า คุณแม่ทุกคนต้องไปเซ็นต์ชื่อเพื่อยืนยันว่าอนุญาตให้ลูกผ่า แต่ถ้าใครเปลี่ยนใจไม่ผ่า ก็สามารถพาน้องกลับบ้านได้เลยค่ะ ขอชมคุณหมอที่ตรวจวันนั้นนะคะ คุณหมอน่ารักมากๆ สุภาพกับคนไข้มากๆ ใจดี และหน้าตาสวยมากๆ ด้วยค่ะ ยังเด็กๆ อยู่เลย แต่เก่งนะคะ เราจำชื่อจริงไม่ได้ จำได้แต่ชื่อเล่น เห็นคุณพยาบาลเรียกว่า "คุณหมอนิว" 11.45 น. เปลี่ยนชุดเด็กเตรียมเข้าห้องผ่าตัด เด็กแรกเกิดก็จะห่อตัว แต่เด็กโต (เรียกตามคุณหมอ) ก็ให้ใส่เสื้อผูกๆ ทับชุดที่ใส่มารพ. โดยคุณพยาบาลจะให้เด็กๆ งดนมตั้งแต่ช่วง 10 โมง เพราะกันการสำลักขณะทำการผ่าตัดค่ะ ซึ่งเด็กๆ ทุกคนจะต้องเข้าห้องผ่าตัดและออกมาพร้อมกัน แต่การผ่าจะผ่าตามเบอร์ที่ติดที่เสื้อ เรียงคิวไปค่ะ คุณพยาบาลก็จะอุ้มน้องใส่กะบะพลาสติกใส แล้วเข็นเข้าไปพร้อมกัน (ห้องผ่าตัดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคลินิคเลยค่ะ) วินาทีนั้น เราใจไม่ดีเลยค่ะ สงสารลูก กังวลไปหมด ยิ่งเห็นแววตาตอนคุณพยาบาลอุ้มไปวางในกะบะแล้วยิ่งใจเสียค่ะ สงสารลูกมากๆ แต่น้องภัทร์ก็ตาแป๋วแหวว ยังไม่รู้ตัวหรอกค่ะ ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ต้องเจ็บตัวโดยที่ไม่มีแม่คอยปลอบอยู่ข้างๆ แต่ก็คิดปลอบใจว่า ทำแล้วเค้าจะได้กินนมได้ถนัดขึ้น และมันก็เป็นผลดีกับเค้าเอง ระหว่างนี้ คุณพยาบาลให้คุณแม่รออยู่แต่ในห้อง เพราะเมื่อน้องออกจากห้องผ่าตัด เค้าจะให้น้องกินนมแม่ทันทีค่ะ คนที่หิวก็ให้ญาติไปซื้ออะไรให้ทาน แต่ห้ามไปไหนไกลเด็ดขาด สำหรับคนไข้ที่คลอดที่รพ.แล้วตรวจว่าเด็กเป็น เค้าก็จะมีคนเข็นอาหารมาให้ทานที่ห้องติดๆ กันค่ะ 12.30 น. เด็กๆ ถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด เราเป็นคนแรกที่เห็น เพราะยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัด ใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง ตอนเข้าไปไม่ร้องไห้เลย ออกมาแล้วจะเจ็บมากมั้ย แล้วคุณพยาบาลก็คืนลูกตามคิวค่ะ สรุปว่า น้องภัทร์ร้องจ๊าก แบบน้ำหูน้ำตาไหล เราสงสารลูกมากๆ เพราะเค้าขวัญเสียสุดๆ ปรกติน้องภัทร์ร้องไห้ จะมีน้ำตาไหลอย่างเดียว นี่ร้องจนน้ำมูกไหล แสดงว่าร้องอยู่นานมาก เพราะพอผ่าเสร็จ ก็ต้องรอคิวเด็กคนต่อไปเข้าผ่าจนครบ เพื่อที่จะได้ออกมาพร้อมกัน แถมนมก็ยังไม่ได้กิน แม่ก็ไม่อยู่ คงจะใจเสียมากๆ ตอนนั้นเห็นลูกแล้ว ยังคิดเลยว่าน่าจะมาตรวจตั้งแต่เค้าเล็กๆ เพราะเด็กแรกเกิดที่ทำแต่ละคน ออกมาหลับปุ๋ย มีอยู่คนเดียวที่ร้องไห้ น้องภัทร์เริ่มรู้เรื่อง จำหน้าแม่ได้แล้ว ออกมาคงจะตกใจมากๆ คุณพยาบาลก็ให้เอาลูกมากินนมแม่ทันทีค่ะ น้องภัทร์ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงทั้งหิว ร้องอ้าปากลั่นห้อง แต่ก็ยอมกินนมนะคะ กินจนหลับ แต่ก็มีผวาค่ะ ตอนก่อนกินนม เราเห็นเลือดออกในปากเยอะเหมือนกัน แต่ไม่ได้คิดอะไร คุณหมอถามว่าให้ดูว่าใครเลือดออกอยู่มั้ย เราบอกเมื่อกี๊ลูกเรามี คุณหมอเลยตกใจ พยาบาลรีบรับไปดูแผล ถามว่าทำไมเมื่อกี๊ไม่บอก เอ๊า ก็นึกว่ามันเป็นเรืองปรกติของคนที่โดนผ่าตัด ก็เลยไม่ได้ถาม แต่หลังลูกเรากินนมเสร็จ แล้วเปิดดู เลือดหายไปหมดแล้ว เลยโล่งอกกันไปเป็นแถบๆ ค่ะ สงสัยกลัวจะโดนเส้นเลือดใหญ่ ระหว่างนั้นก็ให้คุณแม่ที่ไม่ได้คลอดที่รพ.ทยอยออกไปจ่ายเงิน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 555 บาท ถือว่าถูกและคุ้มค่ามากๆ ค่ะ 13.00 น. แล้วคุณพยาบาลก็ส่งกลับไปที่คลินิกนมแม่ เพื่อรับใบนัดดูแผล และให้น้องดูดนมและให้คุณพยาบาลที่คลินิคดูแผลอีกรอบ แล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ การดูแลแผลหลังผ่าตัด 1. ห้ามเอาอะไรไปเขี่ยลิ้นลูกเพื่อจะดูแผล เพราะจะทำให้เลือดออกและแผลอักเสบได้ โดยปรกติแผลที่เริ่มแห้ง จะสีออกเหลืองๆ ให้ปล่อยไว้ สะเก็ดแผลจะหลุดออกไปเองค่ะ 2. ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเช็ดนมแม่ก่อนให้ลูกดูด แค่เอาน้ำอุ่นล้างก่อนให้ลูกกินก็ใช้ได้แล้วค่ะ 3. ไม่ต้องให้เด็กกินยาแก้อักเสบ เพราะโดยปรกติเด็กจะกินนมแม่ได้เป็นปรกติ ไม่มีปัญหา 4. ไม่ต้องให้กินยาลดไข้ ถ้าน้องตัวไม่ร้อน ก็ไม่จำเป็นต้องให้ค่ะ แต่ถ้ามีไข้ก็ให้ได้ ตามน้ำหนักตัว เช่น 1 กิโล ก็ให้ยา 1 cc. 2 กิโล 2 cc. เป็นต้น แต่เด็กที่ทำยังไม่เคยพบว่าแผลอักเสบและมีไข้เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 52 00:50:40 จากคุณ : PloyLa (VOCALIST) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 00:47:20

ความคิดเห็นที่ 2 สรุป สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับการไปโรงพยาบาลอันนี้สำคัญมากค่ะ 1. เอกสารสำหรับทำบัตรคนไข้ใหม่ - สำเนาบัตรประชาชนแม่/พ่อ/ผู้ปกครองเด็ก + เซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง - สำเนาสูติบัตรของน้อง + เซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้อง 2. สมุดบันทึกสุขภาพของน้อง 3. ปากกา (เตรียมไปเองจะได้ไม่ต้องไปแย่งกันใช้กับคนอื่นค่ะ) 4. เงิน 555 บาท 5. ความอดทน สำคัญที่สุดของที่สุดค่ะอันนี้ เพราะรพ.รัฐก็ยังเป็นระบบเดิมๆอยู่ ข้อดีของการผ่าตัดพังผืดใต้ลิ้นโดยใช้ยาชา (เราขอสรุปจากปสก.ส่วนตัวนะคะ) 1. สามารถทำได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด - เด็กที่ยังฟันไม่ขึ้น เด็กจะเจ็บปวดน้อยกว่า ลูกเราออกมาจากห้องผ่าตัดก็กินนมแม่ได้ทันที และไม่มีไข้ แผลไม่อักเสบ และรู้สึกว่าลูกกินนมได้ดีขึ้น ไม่หลุดบ่อยเหมือนเมื่อก่อน น้ำลายไหลน้อยลง 2. ค่าใช้จ่ายถูกกว่า 3. เด็กเล็กๆ จะยังไม่ค่อยรู้เรื่อง ทำให้ไม่ต้องกลัวว่าน้องจะฝังใจกลัวรพ.ค่ะ ดูรายละเอียดของโรคพังผืดใต้ลิ้น (Tongue Tie) ได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.breastfeedingthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=345949 จากคุณ : PloyLa (VOCALIST) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 00:52:14

ความคิดเห็นที่ 3 ปล. พรุ่งนี้จะไปลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยค่ะ รู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ ตอนไปรพ.ใครๆ ก็ใส่เสื้อสีชมพู แล้วก็รู้สึกว่าพระองค์ทรงอยู่ใกล้ๆ เราห่างกันแค่ตึกไม่กี่ชั้นเอง ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ขอตัวไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้คุณหมอนัดตรวจแผลน้องแต่เช้า ราตรีสวัสดิ์และสุขสันต์วันปีใหม่ 2010 ล่วงหน้าค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ และมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตนะคะ จากคุณ : PloyLa (VOCALIST) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 00:59:53

ความคิดเห็นที่ 4   เป็นกำลังใจให้ค่ะ ตอนนี้น้องดูดนมได้มากขึ้นแล้วใช่ไหมค่ะ หลอนได้อ่านขั้นตอนไปรู้สึกสำผัสได้เลยกับการเจ็บปวด นี่ขนาดน้องกำลังจะคลอดอีก 2 เดือนนะเนี่ย ยกย่องคุณแม่มากๆเลยที่สังเกตุอาการของน้องและพาน้องไปหาคุณหมอ สุดยอดเลยค่ะ น้องน่ารักมากๆเลยนะค่ะ สวัสดีปีใหม่ด้วยละกันนะค่ะ โชคดีปีใหม่ค่ะ จากคุณ : linusa เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 01:43:05 A:96.255.43.230 X: TicketID:157767

ความคิดเห็นที่ 5 ลูกผม ก็เล่นน้ำลายตั้งแต่ ช่วง 3 เดือนแล้วแฮะ ผมกลับไปบ้านคงต้องดูซะหน่อยแล้วว่าเป็นหรือเปล่า จากคุณ : Kokuril เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 01:49:52

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากค่ะสำหรับประสบการณ์ดีๆ เดี๋ยวอาจต้องดูแล้วเหมอนกันว่าน้องเป็นรึเปล่า เพราะน้องก็เล่นน้ำลายเยอะ ปลายลิ้นเป็นหยักๆเหมือนกัน จากคุณ : ปลาคาร์ฟแก้มบุ๋ม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 03:31:09

ความคิดเห็นที่ 7 เล่าได้ละเอียดมากเลยค่ะ ยิ้มร่าเริงแล้วน้องภัทร์ หายดีแล้วเนอะ จากคุณ : How is beautiful life เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 04:54:46

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังค่ะ   เดี๋ยวต้องดูลิ้นน้องหน่อยละ ขอให้แผลหายไวๆดูดนมแม่ได้เยอะๆนะคะ^^ จากคุณ : teaa เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 05:11:24

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟังนะคะ ป่านนี้น้องคงดูดนมคุณแม่ได้ง่ายขึ้นแล้ว หายไวๆนะคะน้องภัทร์  น้องยิ้มน่ารักมากค่ะ.... จากคุณ : GolFy JuSt OrdiNaRy GirL เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 05:20:13

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่งไปทำให้น้องปุณณ์เมื่อวานซืนนี้เองค่ะ น้องดูดนมไม่ได้เลย ดูดแต่ตอนคลอดได้แค่ 2 วัน กลับบ้านมาดูดไม่ได้เลย หมอแนะนำให้เลาะออก เพิ่งอายุได้ 4 วันเอง มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ...ลูกกำลังจะหายแล้วเหมือนกัน เราทำที่ BNH ซูโก้ย ราคาคูณ 10 ไปเลยค่ะ ตอนแรกราคาคูณขึ้นไปถึง 15,000.- ปรึกษาหมอว่าจะไม่ทำ ขอเลื่อนไปก่อน จนกว่าประกันจะคุ้มครอง (อีก 10 วัน) หมอเลยยกหูคุยกับแผนกการเงินขอราคาเหมาจ่าย เพราะน้องเพิ่งคลอดเอง งานนี้ต้องขอขอบคุณหมอมาก ๆ ไม่อย่างนั้นน้องปุณณ์ต้องโดน cup feeding ไปจนกว่าจะเอาผังผืดออก จากคุณ : twas เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 07:50:10

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะ คุณพลอย ที่มาเล่าให้ฟัง เก็บรายละเอียดดีมาก ๆ เลย เป็นประโยชน์กับแม่ ๆ หลาย  ๆ คน น้องภัทร์น่ารักจังเลยค่ะ ผ่ามาแล้ว กินนมเก่ง ๆ พูดเก่ง ๆ นะจ้ะ  สุดหล่อ จากคุณ : คริสตัลสีฟ้า เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 07:55:48

ความคิดเห็นที่ 12 ลูกสาวก็โดนตัดพังผืดใต้ลิ้นที่ศิริราชเหมือนกันค่ะ แต่ว่าโชคดีที่คลอดที่ศิริราชก็เลยโดนตัดตอนอายุแค่ 6 วัน เข้าใจหัวอกคุณแม่นะค่ะเวลารอลูกอยู่ข้างนอก นั่งไม่ติดเลยค่ะกลัวลูกจะเจ็บ แต่ผลปรากฏว่าว่าเจ้าตัวเล็กออกมาไม่ร้องสักแอะ แถมหลับอีกต่างหาก คุณหมอบอกว่าถ้ารู้ตั้งแต่แรกเกิดและทำการผ่าตัดนี่จะดีที่สุดค่ะ จากคุณ : หญิงก้อย (หญิงก้อย) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 07:56:07

ความคิดเห็นที่ 13 เดี๋ยวนี้ทำง่ายค่ะ ไม่เหมือนเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อนหน้านี้ สมัยนั้นต้องวางยาสลบ แต่เดี๋ยวนี้แค่ฉีดยาชา ก็ทำได้เลย คุณแม่ๆ ลองสังเกตดูลูกๆ เวลาดูดนมด้วยนะคะ ถ้าดูดแล้วเจ็บหัวนม ลองจัดท่าทางดูใหม่ให้ถูกต้อง ถ้ายังเจ็บอยู่ก็ลองดูพังผืดลูกดูได้ค่ะ ถ้ามีก็ไปที่ รพ.ศิริราชได้ค่ะ สามารถปรึกษาคลินิกนมแม่ได้ค่ะ พี่ๆ พยาบาลใจดีทุกคน จากคุณ : Nuchy_Sand_A เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 08:38:23

ความคิดเห็นที่ 14 หนูก็ทำเหมือนกันคร้าาาา  ไม่เจ็บเลย จากคุณ : แม่น้องกันจัง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:42:41

ความคิดเห็นที่ 15 *** จากคุณ : แม่น้องกันจัง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:43:13

ความคิดเห็นที่ 16 ขอให้น้องหายไวไวนะคะ จากคุณ : NaNzi เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 10:26:26

ความคิดเห็นที่ 17 เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะและสงสารน้องด้วยนะค่ะ  ที่ต้องมาผ่าตัดออกตอนน้องได้  3  เดือน ลูกสาวก็โดนตัดพังผืดใต้ลิ้นเหมือนกันค่ะ  คลอดที่ร.พ.วิภาราม   จนท.ห้อง  nursery แจ้งตั้งแต่น้องคลอดได้  2  วัน   ตอนแรกที่ได้ยินตกใจ  ไม่เคยได้ยินว่ามีโรคนี้  เพราะลูก คนโตก็ไม่เป็น   จนท.บอกว่าเดี๋ยวนี้เด็กเป็นกันเยอะ  จะมีผลตอนโตทำให้น้องอาจพูดไม่ ชัด  จนท.ก็ชี้ให้ดูว่ามีเด็กที่คลอดก่อนก็ต้องตัดพังผืดออกเหมือนกัน    และการตัดพังผืด ออกตอนที่น้องยังเล็ก ๆ  อยู่จะไม่เจ็บ  และไม่มีเลือดออก   และบอกว่าถ้าเด็กโตกว่านี้แล้ว พามาตัดต้องวางยาสลบ  เข้าห้องผ่าตัด   ก็เลยตัดสินใจให้น้องตัดพังผืดใต้ลิ้นออก    เสีย ค่าใช้จ่ายเพิ่มจากแพ็คเกจคลอด   1,000  บาท   พอได้มาอ่านข้อมูลที่ จขกท.ให้มา   ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ  ค่ะ  ที่ให้น้องเอาออกตั้งแต่ตอนนั้น จากคุณ : ก้อง & กานต์ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 10:52:01

ความคิดเห็นที่ 18 ลูกเราก็เป็นค่ะ แต่เราคลอดศิริราช หมอเลยผ่าตัดออกตั้งแต่วันที่ 3 เป็นแผลนิดเดียวค่ะ แต่เขาบอกว่าเด็กบางคนพอโตก็จะหายไปเอง แต่ผลเสียก็อย่างที่บอก ลูกกินนมได้ไม่ดี และทำให้แม่เจ็บ เนื่องจากการตวัดลิ้นทำได้ไม่ดี ตอนผ่าตัดลูกเรา ก็มีมาราว ๆ 10 คนในรอบของเราวันนั้นค่ะ เลยทำให้รู้ว่าเด็กเป็นเยอะเหมือนกันนะ จากคุณ : ญ. เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 12:16:32

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณที่มาแบ่งปันประสบการณ์ เป็นประโยชน์มากๆค่ะ ขอให้น้องหายเร็วๆนะคะ จากคุณ : Lord of Rabbit เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 12:17:35

ความคิดเห็นที่ 20 พี่เบลก็ทำเหมือนกันค่า ตอนแรกก็กลัวค่ะ  แต่คุณหมอว่าจิ๊บๆ แค่เอายาชาทาที่ใต้ลิ้นแล้วเอา กรรไกรขลิบกริ๊บเดียวเอ๊ง  แต่เราเป็นแม่ตุ๊มๆ ต่อมๆ อ่ะค่ะ กลัวลูกเจ็บ คุณหมอบอกว่าถ้ารอตอนโตค่าใช้จ่ายจะสูงมั๊กถึงหลักหมื่นเพราะจะขลิบ อย่างเด็กเล็กๆไม่ได้แล้ว  ต้องเรียกว่าผ่าตัดเลยเรื่องใหญ่กว่า              เราตัดสินใจทำเพราะเป็นลูกสาวถ้าปล่อยทิ้งไว้จนโต ต้องรอถึงสามขวบถึงจะรู้ว่ามีผลต่อการพูดรึเปล่า  และผลก็ผิดจากที่คาด ไว้เลยค่ะ  เพราะจิ๊บๆอย่างหมอว่าจริง ๆ  ใบเสร็จออกมาแค่ 60 บาทเองอ่ะค่ะ  และ 60 บาทเราก็ไม่ต้องเสียเพราะเราเป็นข้าราชการเบิกได้หมด จากคุณ : tidta เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:35:20

ความคิดเห็นที่ 21   ลูกเราก็ทำแล้วค่ะ คลอดที่ศิริราช เลยจับทำซะ ตอนนี้จะ 6 เดือน บางทีเรารู้สึกเค้าแลบลิ้นได้ย้าว ยาวอะคะ แอบคิดว่านี่เพราะโดนตัดผังพืดหรือเปล่าเนี่ย แต่เรื่องเล่นน้ำลาย ลูกเราก็เริ่มเล่นตอนยังไม่สามเดือนดี น้ำลายก็เยิ้มมากมาย หมอบอกว่าเป็นพัฒนาการปกติค่ะ จากคุณ : แม่ตาคล้ำ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 14:10:06 A:118.172.243.84 X: TicketID:137573

ความคิดเห็นที่ 22 คุณแม่เล่าได้ละเอียดและเห็นภาพเลยค่ะ น้องภัทร์น่ารักจัง หายเจ็บแผลไว ๆ นะค่ะ คนเก่ง จากคุณ : คุณแม่ชมพู่ ซู่ซ่าส์ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 14:46:37

ความคิดเห็นที่ 23   ลูกเราก็ตัดผังผืดใต้ลิ้นเหมือนกัน ตอนอายุ 7 วัน ที่โรงพยาบาลสิริกิตริ์ ใช้บัตร 30 บาทค่ะ ฉีดยาชาเหมือนกัน ตัดไม่เกิน 5 นาทีก็เสร็จค่ะ ไม่ร้องเลย ออกมาก็กินนมแม่ได้เลย ตอนนี้ 2 เดือนแล้วค่ะ ขอให้น้องหายเร็ว ๆ นะค่ะ สวัสดีปีใหม่ค่ะ จากคุณ : คุณแม่มือใหม่ระยอง เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 15:08:42 A:113.53.154.235 X:

ความคิดเห็นที่ 24 น้องปิน ปิน ก้อคลอดที่ศิริราช และ ผ่าตัดพังผืด ตอน 5 วันเหมือนกันค่ะ ผ่ากับคุณหมอนิวเหมือนกันค่ะ ดีใจที่ตัดสินใจผ่าตัดเลยค่ะ น้องกินนมแม่ได้ดีขึ้นเลยค่ะ จากคุณ : raphadin เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 18:58:58

ความคิดเห็นที่ 25   น้อง บัตเตอร์ (แฝดน้อง) คลอดที่ รพ. รามคำแหง คุณหมอ เด็กแนะนำให้ทำ คุณพ่อน้องตัดสินใจให้ทำเลยค่ะ ทำตอน 4 วัน น้องดูดนมได้ดีขึ้น ค่าใช้จ่ายประมาณ 2 พันบาทค่ะ ส่วนน้องเบลล์แฝดพี่ไม่เป็นจ้า   ยังไงก็ให้น้องหายเร็วๆนะคะ จากคุณ : bee_sne เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 21:17:02

ความคิดเห็นที่ 26 ลูกสาวก็เป็นระดับปานกลางค่ะ ทำไปตั้งแต่ได้ 2 เดือน ที่ศิริราชนี่แหล่ะค่ะ ตอนนั้นพอดีน้องแอดมิทอยู่ที่นี่พอดี ตอนแรกเราก็กลัวเหมือนกัน ได้ยินคำว่าผ่าตัด ถึงแม้ว่าจะเป็นผ่าตัดเล็กก็เหอะ ฟังแล้วใจแป้วทุกที ยิ่งทำกับเด็กตัวน้อยด้วยแล้ว ยิ่งกังวลใหญ่ ก่อนเข้าห้องผ่าตัด ลูกสาวเราร้องลั่น เพราะโดนห่อตัว แต่ตอนที่พยาบาลเข็นรถกลับมานอนหลับปุ๋ยเชียว  ไม่เหมือนเด็กเพิ่งโดนผ่าตัดมาเลย จะมีก็แค่รอยแดงๆที่คาง สงสัยโดนพยาบาลจับคางดันลงแรงไปหน่อย ก็เลยมีรอยแดงๆแค่นั้นเอง หลังจากนั้นกลับบ้านมา รู้สึกว่าลูกสาวจะลิ้นยาวกว่าปกติ  เวลานอนเล่น แกจะชอบปล่อยลิ้นออกมาตุงๆปาก เราก็กังวลกลัวว่าพอลิ้นไม่มีพังผืดยึดแล้ว มันก็อิสระ แลบยาวออกมาได้เยอะ ลูกเลยแลบออกมา แล้วก็ตุงปากล่าง พอนึกภาพออกมั้ยคะ ก็เลยกลัวว่าลูกจะปากห้อย (คิดไปได้เนาะ 555) หลังจากนั้นเราก็เล่าให้พี่สาวฟัง แล้วต่อมาพี่สาวคลอดที่ ศิริราช ลูกสาวพี่เราก็เป็นพังผืดเหมือนกัน หมอก็แนะนำให้ขลิบ พี่สาวก็กังวลว่าปากจะห้อยเหมือนลูกาวเราหรือเปล่า ก็เลยถามหมอไป แต่หมอบอกว่า ลิ้นเด็กพอขลิบแล้วมันก็อิสระ อยากแล่บยาวก็แล่บได้ แต่ตอนนี้เค้ายังไม่รู้จักควบคุมลิ้นก็เลยทำให้ดูเหมือนว่าจะออกมาตุงปาก เหมือนจะปากห้อย แต่พอเค้าโตแล้วควบคุมลิ้นเป็น ก็จะหายไปเอง เออ ก็จริงแฮะ ตอนนี้ลูกสาว 2 ขวบกว่าแล้ว ไม่เคยทำปากห้อยอีกเลย แถมยังพลิกลิ้นตะแคงได้อีกแน่ะ จากคุณ : อยากอยู่เงียบๆคนเดียว เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:07:14

ความคิดเห็นที่ 27 ลูกเราคลอดที่ศิริราชเหมือนกันค่ะ เพราะเราเป็นบุคลากรอยู่ใน รพ.ศิริราช ลูกเราก็ขลิบผังผืดใต้ลิ้นเหมือนกัน แต่คุณหมอที่คลินิกผังผืดบอกว่าลูกเราเป็นน้อยมาก แต่ประกอบกับเราหัวนมยาว ลูกมีผังผืดนิดนึง ทำให้เป็นปัญหาเหมือนกันสำหรับการดูดนม คุณหมอถามเราว่าจะขลิบหรือไม่แล้วแต่คุณแม่ เพราะน้องไม่ได้เป็นมากอะไร พอโตขึ้นน้องปากใหญ่ขึ้นก็จะสามารถงับได้ถึงลานนมแม้หัวนมเราจะยาวกว่าปกตินิดนึงก็ตาม แต่เราอยากให้ขลิบไปเลย เพราะน้องภาวะตัวเหลืองแทรกซ้อนเนื่องจากกินนมไม่ถึงค่ะ ทำให้สารเหลืองขับออกมาน้อยกว่า เราก็เลยตัดสินใจให้คณหมอขลิบไปเลย โดยได้รับการส่งตัวจากคลินิกนมแม่ที่ศิริราชเช่นกัน เราคลอดที่ศิริราช อยู่รวมแล้ว 9 วัน 8 คืน ตั้งแต่คลอดน้องก็มีปัญหาเรื่องการให้นม เพราะเป็นลูกคนแรก เราไม่มีความรู้เรื่องการให้นมเลย ได้พยาบาลที่คลินิกนมแม่สอนทั้งการให้นมในท่านั่งและท่านอน เราอยู่หลายวัน ก็ไปคลินิกนมแม่แทบทุกวันเพราะไม่มั่นใจเรื่องการให้นมน้องซักที พยาบาลที่คลินิกนมแม่ใจดีมากค่ะ เพราะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ว่ากลุ้มใจมา และหากพยาบาลดุจะทำให้คุณแม่เครียด คราวนี้น้ำนมก็ยิ่งถอยไปกันใหญ่ ดังนั้นพยาบาลและ จนท. ที่คลินิกนมแม่ทุกคนใจดีมาก คอนเฟิร์มค่ะ พอเราตัดสินใจให้น้องขลิบลิ้น คลินิกนมแม่ก็แจ้งไปยังคลินิกผังผืดจองคิวไว้ให้ และนัดให้เราพาน้องไปในวันรุ่งขึ้นตอน 9 โมงให้เตรียมตัวให้พร้อม พอประมาณ 8 โมงนิดๆ พยาบาลวอร์ดที่เราพักอยู่ก็เข็นรถพาเราไปค่ะ ที่คลินิกผังผืดจะมีการขลิบวันละ 2 รอบ คือรอบเช้ากับรอบบ่าย ก่อนขลิบก็จะมีคุณหมอมาดูผังผืด และลองให้น้องดูดนมให้ดูว่าโอเคไม๊ รอบที่เราไปวันนั้นมีประมาณ 8 คน ส่วนใหญ่เป็นคุณแม่ที่ admit อยู่ที่ รพ. นั่นแหละค่ะมากัน ใช้เวลาประมาณครึ่งวันเช้าก็เสร็จ ออกมาคุณหมอก็ให้น้องดูดนมเลย ต้นข้าวก็ดูดนมได้ทันทีค่ะ ทึ่งจริงๆ ว่าไม่เจ็บเลย เด็กออกมาก็ไม่มีร้องซักแอะ หลับกันออกมาหมด และ จนท. วันนั้นที่เราไปก็ใจดีนะคะ เป็น จนท. มีอายุนิดนึง พูดจาดี ใจดีมาก ยังชวนแม่ๆ ทานขนมเลยหากหิว ค่ารักษาตอนนั้นประมาณ 500 กว่าบาท (ประมาณช่วงต้นเดือนเมษายน 52) หลังจากขลิบไปได้ 1 วัน ที่คลินิกนมแม่จะนัดดูแผลใต้ลิ้นอีกครั้งว่าโอเคไม๊ ต้นข้าวขลิบลิ้นตอนเกิดมาได้แค่ 5 วันค่ะ แล้วน้องก็ดูดนมได้ดีขึ้นมากเลย จนทุกวันนี้ต้นข้าว 9 เดือนแล้ว ก็ยังทานนมแม่อยู่ค่ะ และก็ไม่มีปัญหาเรื่องการดูดนมแล้วเพราะน้องโตขึ้นเยอะแล้ว จากคุณ : กิ่งทองใบหยก เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 22:54:37

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณสำหรับรายละเอียดค่ะ ขอให้น้องหายไวๆ นะคะ แล้วก็ขอให้ให้นมแม่ได้สำเร็จไปนาน ๆ ค่ะ จากคุณ : saya (saya) เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 03:15:18

ความคิดเห็นที่ 29 เราก็คลอดที่ศิริราช ลูกสาวก็ตัดผังผืดใต้ลิ้นเหมือนกันค่ะ เพราะเค้าดูดนมเราไม่ค่อยได้ ประกอบกับ เราหัวนมแตกทั้งสองข้างเห็นเลือดเลยค่ะ เราก็เจ็บเวลาให้นม เลยตัดสินใจตัดออก ตอนแรกก็ใจไม่ดี เพราะไม่เคยรู้จักโรคนี้มาก่อน คิดว่า คลอดได้ไม่กี่วัน ต้องผ่าตัดลูกแล้วเหรอ ใจหายมากๆๆเลย แต่ว่า ตัดสินใจถูกมากๆเลยค่ะ ที่ผ่าตัด เพราะหลังจากผ่าตัดมา ลูกกินนมได้ดีมาก เราไม่เจ็บหัวนมอีกเลย น้ำหนักตัวเลยขึ้นค่อนข้างดีมาก จากคุณ : himawari_nn เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 10:42:02

ความคิดเห็นที่ 30 ประสบการณ์ Tongue Tie ของน้องมิวค่ะ น้องมิว เกิดที่สถานบริการสุขภาพพิเศษมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค่ะ (ศรีพัฒน์) หลังเกิดได้ 2 วันหมอเด็กมาตรวจร่างกายพบเป็นTongue Tie หมอให้ตัดสินใจว่าจะให้ลูกมาทำตอนโต หรือจะทำกอ่นออกรพ.ครั้งนี้เลย ซึ่งสามารถทำได้เลยไม่ต้องดมยาสลบ เราก้อเลยตัดสินใจกันว่าให้ลูกทำเลยดีกว่าจะต้องมาเจ็บตัวตอนโตกว่านี้ น้องเข้าห้องผ่าตัดไปทำแปบเดียวเองค่ะ ไม่มีเลือดออก แต่น้องอาจจะยังเจ็บอยู่บ้าง กว่าจะมาดูดนมแม่ได้ดีก้อหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปได้น่ะค่ะ ตอนนี้น้องมิว 1.11 ปีแล้วค่ะ พูดเก่งมากเลยค่ะ พัฒนาการต่างๆสมวัยดีค่ะ ขอขอบคุณคุณหมอที่ศรีพัฒน์ไว้ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ ตอนนี้กะลังตั้งท้องลูกคนที่สอง เด๋วเจอกันที่ศรีพัฒน์อีกนะคะ 555 จากคุณ : ไม่คิดจะยอมแพ้..เราก้อไม่แพ้ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 23:37:36

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากค่ะ ที่แชร์ประสบการณ์ ต้องไปดูบ้างแล้ว เพราะว่าเล่นน้ำลายตั้งแต่ 3 เดือนจนถึงปัจจุบันจะ 5 เดือนแล้วค่ะ จากคุณ : ZangMom เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 23:50:46

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณมากนะคับ จากคุณ : juapung เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 23:54:47

ความคิดเห็นที่ 33 ลูกชายเป็นเหมือนกันค่ะ รู้ตั้งแต่แรกเกิดเลย คุณหมอเด็กเป็นคนชี้ให้คุณฝาชีดู แต่ไม่มีปัญหาเรื่องอะไรเลยค่ะ กินนมปกติ ไม่เล่นน้ำลาย พูดชัดเจนดี แต่แลบลิ้นไม่ได้แค่นั้นเอง มาตัดสินใจผ่าเอาตอน 3 ขวบครึ่งเพราะต้องผ่าตัดต่อมอะดีนอยด์ เลยบอกคุณหมอว่าผ่าพร้อมกันเลยละกันเนาะ ผ่าที่โรงพยาบาล หู คอ จมูกค่ะ ตอนนี้ 4 ขวบครึ่ง  จ้อไม่หยุดเลยค่ะ จากคุณ : bet bec ben เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 02:41:20

ความคิดเห็นที่ 34 เจ้าจอมซน ณ ปัจจุบันค่ะ..... ป.ล. แลบลิ้นได้ยาวมากกกกกกกก..... **แก้ไขป.ล.ค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 02:50:26 จากคุณ : bet bec ben เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 02:48:59

ความคิดเห็นที่ 35   ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มาแบ่งปันกันนะคะ จากคุณ : แม่ลุก2 เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 12:32:09 A:202.149.25.241 X:

ความคิดเห็นที่ 36   เคยพาลูกไปทำแล้วค่ะที่ศิริราช.....ต้องรีบพาไปก่อนที่ลูกจะฟันขึ้นนะคะ ไม่อย่างนั้นต้องดมยาสลบค่ะ เรื่องจะยุ่งยากเยอะ ตอนนี้แลบลิ้นได้ยาวขึ้น ลูกกินนมแม่ได้ตามปกติเหมือนตอนก่อนทำคือว่าตอนแรกไม่มีปัญหาเรื่องการดูดนมแต่สังเกตว่าน้องแลบลิ้นได้น้อยปลายลิ้นเป็นรูปหัวใจจึงพาไปทำค่ะ ตอนนี้ดีมากมากเลย จากคุณ : แม่น้องจีโน่ เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 14:56:42 A:118.173.227.92 X:

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านแล้วสงสัยตัวเองจะเป็นแฮะ แลบลิ้นได้ไม่เกิน 1 เซ็นต์ ปลายลิ้นเป็นร่องตรงกลาง จากคุณ : Manggahan เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:08:10

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีปีใหมุ่พ่อๆ แม่ๆ ชานเรือนทุกๆ ท่านนะคะ วันที่ 30 เพิ่งพาน้องไปตรวจแผลหลังผ่าตัดมาค่ะ คนเยอะมาก เพราะเป็นวันสุดท้ายก่อนหยุดปีใหม่ ใบนัดให้ไปถึงตอน 9 โมง แต่เราไปถึงคลินิกนมแม่ 8 โมง 45 นาที ได้คิวที่ 20 กว่าๆ ต้องรอชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะได้เข้าตรวจ+ชั่งน้ำหนัก 5 วัน น้องภัทร์น้ำหนักขึ้นมานิดนึง อยู่ที่ 6.86 กิโลกรัม จากนั้นก็ส่งตัวไปตรวจที่ตึกตึกสยามินทร์ ชั้น 5 เข้าไปปุ๊บก็ได้ตรวจปั๊บเลยค่ะ คุณหมอกำลังตรวจคนไข้ที่มาFollow Upพอดี สรุปผลออกมาเป็นปรกติค่ะ แผลเกือบหายแล้ว ไม่ต้องกลับมาตรวจอีก แต่กว่าจะดูแผลได้ เล่นเอาคุณหมอเหนื่อย เพราะน้องภัทร์ไม่ยอมเปิดลิ้นค่ะ แล้วก็พากันไปลงนามถวายพระพรกัน 4 คน พ่อ แม่ ลูก มีความสุขมากๆ ค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกๆ คห.นะคะ ดีใจมากๆ ที่กระทู้นี้เป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านค่ะ แก้ไขข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ ที่ศิริราชใช้ยาชาชนิดป้ายค่ะ (ไม่ได้ใช้แบบฉีด) และมีผู้ใหญ่เคยทดลองดูแล้ว ว่ายาจะออกฤทธิ์ชาประมาณ 30 นาทีค่ะ (อันนี้ถามคุณพยาบาลมาค่ะ) แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 20:57:37 แก้ไขเมื่อ 01 ม.ค. 53 20:56:41 จากคุณ : PloyLa (VOCALIST) เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 20:54:22

ความคิดเห็นที่ 39 กำลังตัดสินใจพาน้องไปให้คุณหมอตรวจดูพังผืดใต้ลิ้นเพราะกระทู้นี้ค่ะ ตอนนี้ลูกเรา 3 เดือนครึ่งแล้วค่ะ แต่ยังเจ็บหัวนมและหัวนมแตกบ่อยๆ เคยโทรปรึกษาคลีนิคนมแม่ของ รพ. เด็ก เค้าบอกว่าน่าจะเป็นเพราะนมเรา พุ่งมาก ลูกเลยพยายามเอาปากออกจากลานนมทำให้มาดูดแถวๆ หัวนม แทน ให้แก้ไขโดยการบีบนมออกก่อนซัก 5 นาทีแล้วค่อยเอาลูกเข้าเต้าก็ พอช่วยได้นะคะ แต่ตอนแรกเกิดหมอเด็กมาตรวจก็บอกว่าลูกเรามีพังผืดใต้ ลิ้นนะ แต่ไม่จำเป็นต้องตัดหรอก รอดูไปก่อน ถ้าเค้าดูดนมได้ และพูดชัดก็ ไม่ต้องตัด เราเลยไม่เคยคิดจะตัดเพราะกลัวลูกเจ็บและเรื่องหัวนมแตกเราก็ เข้าใจว่าเราอาจจะให้นมไม่ถูกท่า หรือ ลูดดูดไม่ถูกวิธี คงต้องปรับกันไป เรื่อยๆ แต่ก็แอบสงสัยอยู่ในใจว่าทำไม 3 เดือนแล้วยังเจ็บอยู่อีก จนมาเจอกระทู้นี้เลยคิดว่า คงเป็นเพราะพังผืดใต้ลิ้นแน่ๆ เลย คงต้องพาไปหาหมออีกทีแล้วล่ะค่ะ จะได้รู้ซะที ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆ ค่ะ ที่มา แชร์ประสบการณ์ค่ะ จากคุณ : คู่่ใหญ่ (คู่ใหญ่มหากาฬ) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 19:39:54

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ  วันนี้หลานก็ไปตรวจเหมือนกัน เพราะกระทู้นี้เลยนะคะ เห็นโทรมา บอกว่า เป็นเยอะ ขอบคุณจริงๆค่ะ จากคุณ : อ้ายหลวน เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 09:12:08