ความคิดเห็นที่ 1 เริ่มของอิชั้นก่อนเลย เคยเล่าแบบย่อๆ ไปแล้วหลายรอบ ถ้ารอบนี้เล่าผิดก็ทักท้วงได้นะคะ (เผื่อจำพล็อตเดิมพลาด) เมื่อช่วงสงกรานต์เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน อิชั้นกับเพื่อนชายไทยอีก 3 ท่านไปเที่ยวเชียงใหม่กัน ทุกคืนเราจะต้องไปสถานบันเทิงกันเพื่อเมา ในคืนที่เรา(อิชั้นกับแฟน)เจอกันครั้งแรก เป็นคราวเคราะห์ของเธคชื่อบั๊บเบิ้ล เสื้อผ้าหน้าผมของอิชั้นวันนั้นเจิดจรัสมาก ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ผมปล่อยยาวสยายแบบนางเอกมิวสิค (แต่ไม่ได้หวี) แบบกะว่ากลับไปถึงที่พักก็นอนได้เลย จริงๆ เค้าไม่ให้เข้านะ แต่คงอนุโลมเพราะคนเยอะจัด ส่วนเสื้อผ้าหน้าผมของคุณแฟนเป็นอย่างไรนั้น จำไม่ได้แล้ว แต่คงประมาณฝรั่งทั่วไปแหล่ะ และวินาทีที่เราปิ๊งกันก็มาถึง โต๊ะของอิชั้นอยู่ในมุมที่ดูทีวีได้ชัดเจน ตอนนั้นมีบอลด้วย เก้าอี้ตัวที่หันหลังให้ทีวีเลยว่างอยู่ ไอ้หนุ่มฝรั่งคนนึงก็เดินโฉบไปโฉบมาแถวนั้นหลายรอบ และเขาไม่มีที่นั่งเพราะมาคนเดียวและโต๊ะเต็ม อิชั้นก็เลยบอกว่า นั่งตรงนี้ก็ได้นะ คุณเธอรีบตอบรับทันที แต่นั่งหันหลังให้พวกเราค่ะ แล้วตั้งหน้าตั้งตาดูบอลจนจบรายการ ระหว่างนั้นเราก็นั่งจิบเบียร์กันไป นินทาแกไป เขาฟังไม่ออกหรอก แต่คงรู้แหล่ะว่าเรานินทา พอบอลจบ เพื่ออิชั้นคนนึงเลยชวนคุย (เพื่อนคนนี้เห่อฝรั่งค่ะ เพราะแฟนเขาไปเรียนต่อที่อเมริกา เลยอยากโชว์ภาษากับเขามั่ง) แต่ไอ้หนุ่มของเราเป็นชาวฝรั่งเศสที่ภาษาอังกฤษสำเนียงฝรั่งเศสม๊ากมาก เลยไม่มีใครฟังรู้เรื่อง นอกจากอิชั้นซึ่งมีความสามารถพิเศษ ฟังฝรั่งทุกชาติพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่อง ยกเว้นชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก (งงไหมคะ) ไปๆ มาๆ อิชั้นเลยต้องเป็นล่ามแปล แถมเพื่อนอิชั้นก็ถามอะไรไร้สาระ อิชั้นก็เลยแปลมั่วให้มั่ง ตอบเองมั่ง สักพักก็เลิกคุย แต่ไอ้หนุ่มของเรายังไม่ไปไหน เงียบกันไปพักใหญ่ก็เลยถามเขาว่า อายุเท่าไหร่ (ตอนนั้นฮีหน้าเด็กมาก) ปรากฎว่าอายุเท่ากัน เลยต่างสรรเสริญเยินยอกันว่า ต๊าย ไม่น่าเชื่อ ดูเด็กจังนะ ฯลฯ จากนั้นก็นัดกันไปดูหมีแพนด้าในวันรุ่งขึ้น เพื่อนคนอื่นขอบาย โดยให้เหตุผลว่า เลยวัย 8 ขวบมานานแล้ว (ฝรั่งงง ไม่เก็ทมุข) เช้าวันรุ่งขึ้น อิชั้นกับฝรั่งคนนั้นเลยไปออกเดทดูหมีแพนด้ากัน 2 ต่อ 2 ซึ่งอิชั้นยังมีอาการเมาค้างอยู่ แถมเจอแดดเปรี้ยงๆ ในสวนสัตว์ เลยต้องหยุดคายของเก่าออกมาหนึ่งกอง ฝรั่งยืนมองหน้าตาเฉย งานนั้นกะว่าคงแห้วแล้ว แต่เปล่า ฝรั่งยังคงเกาะติดพวกเราแจ พวกเราไปไหน แกตามด้วย (เพราะไม่มีเพื่อน) พอหมดสงกรานต์ฝรั่งก็ไปพัทยาต่อ บอกว่านัดเพื่อนไว้ ก่อนไปฝรั่งก็สารภาพกับเราว่า ฉันชอบเธอ ยังอยากติดต่อกันอยู่ ถ้าเธอกลับกรุงเทพเมื่อไหร่แวะมาหาที่พัทยาด้วยนะ เมื่อถามถึงเหตุผล ฝรั่งบอกว่า ชอบเพราะเธอกินเหล้าเก่ง (ไม่ใช่มั้ง) เพราะเธอคุยสนุกและฟังฉันพูดรู้เรื่อง (โห เล่นง่ายนะเมิง) อีกข้อคือเพราะเธอชอบอ่านหนังสือ ข้อนี้ทำเราเหวอ ฝรั่งบอกว่า คนไทยส่วนใหญ่อ่านหนังสือปีละ 6 บรรทัด (เมิงไปเอามาจากไหนเนี่ย) หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกันเรื่อยมา ปัจจุบันผ่านมาหลายปีดีดัก มีผลผลิต 1 หน่วย ชื่อเดียวกับสถานบันเทิงคืนนั้น แต่ไม่มีใครเรียก เลยต้องเปลี่ยนมาบีบีในที่สุด ภาพประกอบ ฝรั่งกับ ด.ญ.บีบี ถ้าถามเด็กว่า พ่อชื่ออะไร เธอจะตอบว่า พ่อหนูชื่อฝรั่งค่ะ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:03:02

ความคิดเห็นที่ 2 แจกกีบผิด  จะแจก คห.1 ดัน ไปแจกที่ หัวทู้  อันบนขอคืนได้เปล่า   เชิญเล่ากันตามสะดวกเลยค่ะ ขอเฉพาะบทหวานวันแรกพบนะคะ บทโหด เศร้า เซ็ง ของปัจจุบันไม่เอานะคะ ฟังมาเยอะแล้ว ^^ ^^ สะกัดดาวรุ่งอย่างแรงค่ะ  เชอะ ไม่เหล้าก็ได้  โซดา เพียวๆ   แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 08:15:53 จากคุณ : kateking เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:14:51

ความคิดเห็นที่ 3 5555555 พี่หมีอยากเล่าจัง  แต่จำได้แค่นิดเดียวเอง  เพราะไม่ได้คิดจะชอบกับพี่เค้าเลย   งั้นไม่เล่านะคะ แต่ลงชื่อว่ามาอ่านเรื่องราวของน้องเอ้แล้ว^^ จากคุณ : หมีสีชมพู เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:22:15

ความคิดเห็นที่ 4 ฮ่าๆ หน้าม้ามาแล้วหนึ่ง จริงๆ แล้วโดนสกัดมาก่อนไง เล่าให้ ดร.ฟัง กำลังจะด่าฝรั่งอยู่พอดี คุณ ดร.บอก บทบู๊ไม่เอา แหม หยุดพิมพ์แทบไม่ทัน คุณ kateking เล่ามาค่ะ เค้นไปถึงบทหวานเมื่อ 20 ปีก่อนเท่าที่พอจะนึกออกก็ได้ ถ้านึกไม่ออก นั่งเทียนเขียนเอาก็ได้ค่ะ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:22:19

ความคิดเห็นที่ 5 พี่หมี เอาแบบคร่าวๆ ก็ได้ค่ะ เท่าที่จำได้ก็พอ แชร์ประสบการณ์หวานกัน (ประสบการณ์โหดมีทุกวันอยู่แล้ว) จขกท.ขอตัวไปนอนสัก 10 ชั่วโมงนะคะ ตื่นเมื่อไหร่จะรีบมาอ่านของท่านอื่นๆ ต่อ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:26:35

ความคิดเห็นที่ 6 เจอกันทางเนตค่ะ คนละฟากฟ้าเช่นกัน เจอหน้าจอทีไร ด่ากันอย่างเดียว ทะเลาะกันทุกวัน พอเจอตัวเป็นๆครั้งแรก เขินวุ้ย เพราะหล่อมากๆๆ(ตอนนั้น) ขาวอย่างกะน้ำนม แต่งตัวสะอาดสะอ้าน โกนเคราแล้วหน้าจะใสๆเกลี้ยงๆ สูง หุ่นดี เลยพักรบ กลายมาเป็นคู่รักกัน จนแต่งงานกันมา จะ 9 ปีแล้ว ลูกชาย 2 คนค่ะ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 08:40:59 จากคุณ : Ploy komt weer terug ;-) (peterinamsterdam) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:40:23

ความคิดเห็นที่ 7 น่ารักดีจัง ของเราไม่เชิงเป็นรักแรกพบ คือเขาเดินผ่าน ร้านที่เราทำงานอยู่ 2 วัน เพราะร้านเราอยู่หน้าล็อบบี้โรงแรม แวะมานั่งที่ร้านเราก็ไม่เคยคุยด้วย พอวันที่ 3 มานั่งเฝ้า นั่งคุยกันเกือบถึงเช้า จากคุณ : How is beautiful life เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:43:54

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับเราได้ไปช่วยพี่สาวเลี้ยงลูกน้อยที่ฝรั่งเศสสามีกับเราติดต่อกันทางเน็ตแต่ไม่ได้สนิทอะไรมากเค้าเค้าอยากมาเที่ยวเมืองไทยอยากเจอเรา  เราเลยบอกไปว่า คงไม่ได้เพราะตอนนี้เราอยู่ฝรั่งเศส  ซึ้งความที่ไม่คิดว่าเค้าจะบินมาหาเรา เค้าเลยบอกดีเลยสิชั้นบินไปหาเทอได้ พอเจอกันครั้งแรกเราก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายคยนี้ท่าทางใจดี และสุภาพ และรู้เกี่ยวกับธรรมเนียมไทยทุกอย่างความรักของเราทั้งคู่ปุปปับมากหลังจาก เราได้เที่ยวด้วยกันที่ฝรั่งเศส 2 อาทิต เค้าก็ขอเราแต่งงาน และเราก็ตกลงเพราะช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่เรามีความสุขที่สุดเลย   ช่วงที่ทรมานใจที่สุดคือตอนที่ขอวีซ่า ถึงแม้เราจะแต่งงานกันเป็นเวลา 1 ปีแล้ว แต่เราก็ยังไม่ได้วีซ่าไปอังกฤษ และสามีไม่อยากกลับอังกฤษคนเดียว ไม่อยากลับไปเจอเหตุการณ์เลวร้ายที่เค้าต้องอยู่คนเดียว  เพราะเหตุผลที่เรากับสามีอายุห่างกันมาก  แต่เราไม่โกรธใครที่คิดแบบนั้น เพราะทุกคนที่รู้จักสามีและทุกคนที่รู้จักเราต่างก็มองเพียงภายนอก นับจากวันนั้นก็ 5 ปี แล้วที่เราอยู่ด้วยกันและไม่เคยห่างกันอีกเลย อยากขอบคุณสามีที่ทำให้เรามีชีวิตที่มีความสุข และมีลูกสาวที่น่ารักถึง 2 คน ขอบคุณ จขกท ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ดีๆ จากคุณ : katie-thanika เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 08:57:54

ความคิดเห็นที่ 9 โอ๊ะ................มาเมาอยู่ที่ bubble นี่เอง ถิ่นเก่าของเราเล้ยยยยยยยยยยย จากคุณ : จ๊วบจ๊วบ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 10:52:12

ความคิดเห็นที่ 10 วุ้ย...มาฟังเรื่องหวานๆของพี่เอ้ กับพ่อเจ้าบีบีที่ชื่อฝรั่งแล้วน่ารักจังค่ะ อิอิ ของโบกับพี่บอยเหรอ ครั้งแรกเลยเจอกันที่สถานทูตอังกฤษ(เป็นไง เดิ้นมั้ย) ไปขอวีซ่ากันทั้งคู่ ไม่ได้บังเอิญเจอกันหรอก แต่นัดเจอกัน เพราะพี่บอยเป็นเพื่อนกับญาติโบ แล้วญาติโบก็รู้ว่าโบจะเดินทางไปอังกฤษเพื่อเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่บอย ก็เลยแนะนำให้รู้จักกัน เจอกันครั้งแรก ลุงคนนี้ใครเนี่ย วุ้ย..พี่บอยนี่เอง ทำไมลุงอย่างนี้ ตอนนั้นโบวัยรุ่นสุดๆ พึ่งจบตรีเอง ผมซอยสั่น พี่บอยมาในมาดลุง เสื้อเชิ้ตทำงาน กางเกงสแล็ก ทำวีซ่าเช้า กว่าจะได้ก็บ่าย เลยไปนั่งที่ซิสเลอร์สาขาตึก CP กินอาหารกลางวันด้วยกัน แล้วก็พาไปเจอพ่อเลย เพราะพ่อโบทำงานใกล้ๆแถวๆนั้น พ่อโบก็ฝากฝังว่า ตอนไปอยู่อังกฤษช่วยดูแลน้องด้วยนะ พี่บอยรับคำอย่างดี ดูแลกันมมาจนถึงทุกวันนี้ลูก 2 แล้วนั่นแหละค่า จากคุณ : bodiamond1 เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 13:13:59

ความคิดเห็นที่ 11   โอย ชอบกระทู้แบบนี้ได้รำลึกความหลัง ต้องกระตุ้นเตือนความทรงจำบ่อยๆจะได้ไม่ลืม ของเราเจอกันที่ทำงาน พี่เค้าอยู่คนละแผนก นั่งตึกเดียวกันแต่คนละชั้น ทำงานสัปดาห์แรกก็รู้ว่าอยู่โปรเจคเดียวกันและมีอุปกรณ์ที่ต้องซื้อร่วมกัน เราก็ต้องลงไปหาพี่เค้าบ้าง ขอความคิดเห็น แอบคิดนิดนึงว่าพี่คนนี้หน้าตาดีเหมือนกัน ถึงจะแก้มยุ้ยไปนิด ผมตั้งกระบังไปหน่อย แต่พี่เค้าก็ไม่ค่อยคุย จะเฉย ๆ นิ่งๆ เราก็เออๆ ปล่อยผ่านไปเพราะเรามีแฟนอยู่แล้ว จนสองปีต่อมา เราเตรียมจะแต่งงาน เรือนหออะไรก็เสร็จแล้ว แต่ก็เริ่มมีปัญหากับแฟนเก่า เริ่มทนนิสัยอะไรหลายอย่างที่เราเคยคุยเคยบอกกันแล้ว ว่านี่คือปัญหาของเราไม่ได้ เราก็ถูกส่งไปทำงานเมืองนอกพอดี แล้วปัญหาที่เมืองไทยก็ยิ่งหนักขึ้น คนที่เมืองไทยไม่โทรหาเราเลย ให้บินมาหาเรามีตั๋วฟรีให้ก็ไม่มา มีปัญหาอะไรก็ไม่ช่วย ก็เลยทะเลาะและบอกเลิกเค้าหลายครั้ง ตอนไปนอกนี่แหละ พี่ของเราเค้าถูกส่งไปอยู่ก่อนแล้วหลายเดือน งานที่ต้องไปทำก็มีแค่เรากับเค้าสองคนที่เป็นคนไทย ก็เลยเป็นเรื่องปกติที่พี่เค้าต้องดูแลเรา เพราะคนที่บริษัททำแบบนี้กันจนเป็นธรรมเนียม เราจะคุยเก่งมากแล้วพี่ก็พูดน้อยมาก(กับคนอื่น) คุยกันทุกวัน ไปไหนมาไหนกันทุกวัน ก็เริ่มต้นอย่างคู่อื่นๆหลายๆคู่คือ พี่ชายน้องสาว เราจะติดพี่ชายมาก แรกๆจะเรียก เฮียๆ แบบที่น้องสาวเค้าเรียก (เธอรักน้องสาวคนเล็กมากๆ รักอย่างกับลูก) เราซ่าหัดกินเหล้าเมาพี่ก็นั่งเฝ้าเราจนตีสามถึงกลับห้องตัวเอง บางวันพี่ก็นอนหนาวที่โซฟาหลังพาเราไปส่งห้องนอนแล้ว ไม่ว่าเราจะทำอะไรเราจะรู้สึกได้เลยว่าเราอยู่ในสายตาพี่เค้าตลอด ดูแลเรามากมายเหมือนเราเป็นน้องเล็กๆ เค้าชอบบอกว่าเราชอบทำอะไรเหมือนน้องสาวเค้าตอนเด็กๆ อ้อนเอาโน่นเอานี่ แล้วที่สำคัญ คือ เราสองคนชอบอะไรเหมือนกัน คิดเหมือนกัน พี่บอกว่าพอเค้าคิดจะพูดอะไรกับเรา เราก็มักจะพูดขึ้นก่อน จนแปลกใจว่าทำไมมันเหมือนกันซะเกือบทุกอย่าง พอเริ่มรู้แล้วว่าพี่ไม่คิดแค่เราเป็นน้องแล้ว เราก็ร้องไห้นะตัดใจบอกเลิกแฟนเก่า เราก็ผูกพันกับเค้า ส่วนดีเค้าก็มีเยอะ แต่คิดอะไรไม่เคยตรงกันเลย เราเหนื่อยที่จะต้องเรียกร้องการดูแลเอาใจใส่ แล้วตอนนั้นเรามีพี่ที่เป็นทุกอย่าง เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นพ่อ เป็นน้องชายบางทีเพราะซนมาก (แต่ก็ซนเฉพาะกับเรากับคนอื่นจะนิ่ง เงียบ) ก็เลยเลือกคนนี้ ถึงฐานะ พื้นฐานครอบครัวจะต่างกับแฟนเก่ามากมาย แต่ก็เลือกด้วยหัวใจ ตอนอยู่ด้วยกันที่เมืองนอก จะสวีทมาก เพื่อนที่ทำงานก็แปลกใจ แต่ยังไม่รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน บอกว่าตั้งแต่เรามาเนี่ย เค้าได้ยินเสียงพี่หัวเราะบ่อยมาก ยิ้มบ่อย เมื่อก่อนพี่ทำแต่งานไม่คุยกับใครเลย ทำงานเจ็ดวันไม่มีหยุด แรกสาวๆในออฟฟิศอิจฉากันใหญ่ เพราะพี่เป็นที่หมายปองของสาวๆ เพราะพี่หน้าตาอยู่ในระดับดีมาก สูง ขาวแบบผู้ชาย มีลักยิ้มด้วย (พี่บอกตอนเรียน เคยมีคนบอกให้ไปประกวดนายแบบ มีสาวๆ จีบเค้าบ่อย แต่เค้าไม่ชอบคุย คุยไม่เป็น เคยมีแฟนก็ใช้เขียนจดหมายเป็นสิบปีแล้วเจอกันแค่ครั้งเดียว) เรากับพี่หน้าตาคล้ายกันมาก บอกใครว่าเป็นพี่น้องกันก็เชื่อทุกคน ตอนหลังๆเค้าก็เริ่มสงสัยว่าเราเป็นแฟนกัน เค้าก็ชอบมาแอบถามเราว่าพี่เป็นไงบ้าง (เค้าคงเห็นเวลาเดินไปกินข้าว พี่จะเอาตัวบังลมให้ทุกวัน ความจริงน่าจะแอบกอดเรามากกว่า อิอิ เพราะมันหนาว) ไม่น่าเชื่อว่าคนเงียบๆ ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนจะสวีทกับเราจัง เราสนิทกันตั้งแต่เมืองไทยหรือเปล่า เราไม่เคยโดนจูบต่อหน้าคนอื่น ก็พี่นี่แหละจูบเราต่อหน้าคนอื่น เรายังตื่นเต้นทุกครั้งที่คิดถึง จากวันนั้นเราก็เป็นแฟนกันเปิดเผย สรุปทั้งสาวๆแฟนคลับพี่และหนุ่มๆแฟนคลับเราแห้วกันหมดเพราะเราคนไทยชาตินิยม ใช้ของไทยกินของไทย ฮ่าฮ่า ตอนนี้พี่ก็เป็นคนที่เราอยากมีลูกกับเค้ามาก เราสองคนไปทำบุญกับเด็กกำพร้ามาเมื่อวันสิ้นปี พี่เค้าเล่นกับเด็กๆ จนเด็กๆ ติดเลย จับเด็กๆโยนเล่น มีมาเข้าคิวให้พี่โยนกันเป็นแถว มีเด็กลูกครึ่งคนนึงที่ติดเราเหมือนกัน กอดซบตลอดไม่ยอมให้เรากลับ เราก็แย๊บพี่ไปว่า (พี่เค้าไม่อยากมีลูก) เราอยากมีแบบนี้นะ ขอคนนึงนะ เดือนนี้ก็ลุ้นอีกตามเคยว่าจะติดไม๊ ไม่ได้ตรวจวันตกไข่ด้วย แค่กะๆ เอา เฮ้อ ขอให้นามสกุลนี้มีทายาทด้วยเถอะพระเจ้าข้า สาธุ เอ๊ย อาเมน จากคุณ : I Love U Baby เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 14:47:31 A:114.128.60.182 X: TicketID:167053

ความคิดเห็นที่ 12 วุ๊ยย .. มีแต่คนหวานๆ กันทั้งนั้นเลย ย้อนไปเมื่อ 5 ปี ก่อน กับอีก 20 วัน ณ งาน Tollwood เทศกาลตลาดนัดกลางแจ้งแห่งเมืองมิวนิค อุณหภูมิ ประมาณ -3  หิมะตกโปรยปรายเบาๆ ... นัดกับเพื่อนคนไทยไว้ ว่าจะไปเดินงานนี้ด้วยกัน เธอจะพาสามี และเพื่อนพ้องของฮีไปด้วย ก่อนออกจากบ้าน อิชั้นโดนมืดโกนบาดนิ้วค่ะคุณ ในขณะที่กำลังเหลาดินสอเขียนคิ้วอยู่ นึกในใจว่า วันนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ ... โฮะ ๆ ๆ เค้านัด 3 โมง อิชั้นไปถึง 3 โมง 25 แบบไม่แคร์สื่อ และไม่รู้สึกผิดด้วย ที่ปล่อยให้คน 5 คน (ฝรั่ง 4 ไทย 1) ต้องยืนรออิชั้นเกือบครึ่งชั่วโมง ท่ามกลางความหนาวเหน็บ ตอนไปถึง มองเข้าไปในกลุ่มของเพื่อนสาว ซึ่งชีกำลังโบกมิอวิ้งๆ ให้อยู่ สายตาก็ไปสะดุดกับฝรั่งหัวกลมคนหนึ่ง ฮียืนท่าเดียวกับคนเฝ้าประตูดิสโก้เธค สังเกตได้ว่า ฮีก็กำลังมองมาที่อิชั้นเหมือนกัน แต่หาได้เป็นสายตาที่ชื่นชมความสวยของดิชั้นไม่ .. มันเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตเคียดแค้น คงจะโกรธอิชั้นมากแหละ ที่ปล่อยให้รานานขนาดนั้น 5 5 5 ขณะที่เดินดูของกันอยู่ เพื่อนสาวก็มากระซิบกระซาบคุยด้วย ชีบอกว่า อยากจะแนะนำตาหัวกลมให้รู้จัก ฮียังโสดอยู่ ฮีทำงานดีนะ เป็นวิศวกร (อ้าวเหรอ นึกว่าคนเฝ้าประตูดิสโก้) อายุเพิ่งจะ 30 ฮีเพิ่งอกหักมา บลา ๆ ๆ ๆ คือ รายละเอียดหลังจากนั้น อิชั้นไม่ได้ฟังแล้วค่ะคุณ คิดในใจว่า .. ต๊าย กล้าดีนะยะ มาแนะนำผู้ชายอายุ 30 ให้อิชั้น ตอนนั้นอิชั้นอายุ 24 ตั้งแต่มีแฟน (ฝรั่ง) มา ไม่เคยมีคนไหนอายุเกิน 23 ย่ะ แล้ว สายตาแรก ที่เห็นกัน ฮีทำอย่างกะจะกินเลือดอิชั้น ไม่มีความประทับใจเลยสักนิด ฝันไปเถอะค่ะ ว่าจะยอมเป็นแฟนด้วย . . . เด๋วมาต่อนะคะ ทำอาหารเช้าให้ลูกก่อน . . . ... มาต่อค่ะ หลังจากนั้นมาอีกประมาณ 2 อาทิตย์ คุณเพื่อนสาวโทรมาชวนให้ไปเคาท์ดาวน์ต้อนรับปีใหม่ที่บ้านหล่อน ซึ่งอยู่นอกตัวเมืองมิวนิคค่ะ และแน่นอน ถ้าจะให้อิชั้นไป จะให้อิชั้นนั่งรถไฟไปได้อย่างไร ต้องมีสารถีมารับสิคะ ถึงจะถูกต้อง และจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากตาหัวกลมคนนั้น เพราะบ้านฮีอยู่ในตัวเมืองมิวนิคเหมือนกัน วันที่ 31 ธันวาคม 2004 ฮีมารับอิชั้นที่บ้านตั้งแต่ 11 โมงเช้า ตอนฮีมาถึงหน้าบ้าน ฮีโทรเข้ามาบอกอิชั้นว่าไงรู้มิคะ "มาถึงแล้ว วันนี้ให้เธอเลทได้แค่ 10 นาทีนะ เพราะเด๋วเราต้องไปซื้อของกันต่อ" O_o ระหว่างที่ซื้อของ และระหว่างทางไปบ้านเพื่อน บทสนทนาของเราเป็นไปอย่างเรียบๆ ค่ะคุณ อิชั้นเองซะอีก ที่ต้องเอ่ยปากชวนฮีคุยก่อน รู้สึกเสียจริตเล็กน้อย 5 5 5 แต่ไม่อยากนั่งตัวเกร็งบนรถฮี ไปถึงแล้ว ก็เริ่มกิน เริ่มดื่ม เริ่มเฮฮากัน ส่วนอิชั้นรับหน้าที่เป็นแม่ครัวมือหนึ่ง ทีนี้พอเริ่มเมา ปากฮีก็เริ่มเปิดค่ะ ยิ่งเมาเท่าไหร่ ฮีก็คงเห็นความสวยของดิชั้นเพิ่มขึ้นกระมัง ทอดไช่เจียวให้กิน ฮีก็มาชื่นชมอยู่นั่น บอกว่าเป็นไข่เจียวที่อร่อยที่สุด เท่าที่เคยกินมา (ตอนเมา?) กร๊าก ๆ ๆ ท้ายที่สุดก็มาคิดว่า ความน่ารักของฮีก็มีเหมือนกันเนาะ ถ้าจะลองคบดู ก็คงไม่น่าจะเสียหายอะไร เข้ากันได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็เลิกกันไป เท่านั้นเอง ตอนใกล้จะเที่ยงคืน เคาท์ดาวน์ ฮีก็มาขอจับมือ เหมือนอยากจะพูดอะไรด้วย (รอจะทำซึ้ง) แต่เปล่าค่ะ ... ฮีบอกว่า ให้พาไปห้องน้ำหน่อย ไม่ไหวแล้ว จะอ๊อก ... - - " เที่ยงคืน ต้อนรับปีใหม่ ปี 2005 .. ชาวบ้านเค้าลงไปดูพลุกัน แสนจะโรแมนติก ส่วนอิชั้น .. ยืนลูบหลังช่วยผู้ชายคนนึงอยู่ในห้องน้ำ ซึ่งตอนนั้นไม่ได้คิดเลยว่า .. ในที่สุด ผู้ชายคนนี้จะกลายมาเป็นแฟน เป็นสามี และเป็นพ่อของลูกๆ ในทุกวันนี้ เมื่อกี๊หันไปมองหน้าฮี .. อดไม่ได้ที่จะถามตัวเองว่า ตกลงวันนั้น ฮีเมา หรือ อิชั้นเมากันแน่ .. กร๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 15:42:57 จากคุณ : โยชัวปวริศ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 14:48:54

ความคิดเห็นที่ 13 ตื่นแล้ว มาอ่านของท่านอื่นๆ บ้าง สวีทหวานกันทุกคน ไม่มีใครทำผิดกฎเล่าบทโหด คุณ Ploy komt weer terug ;-) (peterinamsterdam) ย่อไปหน่อยนะ ไม่ค่อยละเอียดเลย แต่เห็นด้วยค่ะ ถ้าหล่อ เราก็ให้อภัย อิ อิ คุณ How is beautiful life นี่ก็ย่ออีกคน เค้าอุตส่าห์มารอตั้ง 3 วัน มีความตั้งใจจริงแบบนี้ น่ายกย่อง คุณ katie-thanika คนข้างๆ น่ารักและดูเป็นคนใจดีจังค่ะ เหมือนซานตาคลอสเลย อายุไม่สำคัญ แค่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขก็พอ อย่าไปสนใจคนอื่นค่ะ คุณ จ๊วบจ๊วบ นี่ผิดกติกานะคะ เค้าบอกอยู่ว่าห้ามแซว อนุญาตให้เล่าอย่างเดียว คุณ bodiamond1 ต๊าย ตาย หล่อนมาทีเดียว ทำฉันเสื่อมเลย น้องโบคนสวยพบรักที่สถานที่ราชการ ของพี่พบกันที่สถานอโคจร แล้วเมื่อไหร่ฉันจะได้เป็นไฮโซกะเค้าเนี่ย คุณ I Love U Baby ดีค่ะ กินของไทย ใช้ของไทย ประเทศไทยไม่เสียดุลย์ ขอให้สมหวังได้ลูกเร็วๆ นะคะ คุณ โยชัวปวริศ ฮาได้อีก โรแมนติกสองคนในห้องน้ำตอนเค้าจุดพลุกัน อย่างนี้ต้องเป็นคู่ทรหดแน่ๆ ตอนนี้รอของ ดร.เอื้องอยู่ เมื่อวานเล่าไปแล้วขาดตอน ถ้า ดร.ไม่มาเล่าเอง อิชั้นก็จะเขียนให้เองตามที่เข้าใจนะคะ พวกมาแจกกีบก็อย่าอ่านอย่างเดียว เล่าด้วยค่ะ เล่า จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 20:01:45

ความคิดเห็นที่ 14                                                                                                                                                                                                                                                                                                                 อืม พอแล้วล่ะ สำหรับประวัติความรักของคนไม่ค่อยเต็มเต็ง กลัวกลายเป็นโลโก้ประจำตัวไปแทนที่เป็ด - -* ถ้าเล่าหมด ต้องมีคนขากรรไกรค้างแน่ๆ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 02:11:09 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 20:40:38

ความคิดเห็นที่ 15 ดร.เอ้ อี๋  ออกเดท ไปดูหมีแพนด้า โอ๊ยยยย อ้วกอีกตะหาก รับไม่ได้ ขิขิ อ้าว... ชื่อบีบี ไม่ได้มากจาก The Best and Beautiful  หรอกเหรอ ปล.วันนี้ เข้าเนตไม่ได้ เพราะน้ำไม่ไหล จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 20:49:25

ความคิดเห็นที่ 16 ลงชื่อเข้าอ่าน ของเฮียไม่มีอะไรมากจ้า เป็นเพื่อนกันมาก่อน จากเพื่อนก็กลายเป็นผัวเลยจ้า จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 21:25:49

ความคิดเห็นที่ 17 หลงทางมาอ่านค่ะ  แต่น่ารักๆกันทุกคู่เลย อ่านแล้วยิ้มรับปีใหม่ดีจริง ขอเล่าบ้างน้า(อ่านแล้วอิจฉา  อยากเล่าบ้าง) เราทำงานที่ต้องติดต่อกะลูกค้า (ส่วนใหญ่เป็นวิศวกรง่ะ) ก้อมีหนุ่มมาคุยด้วยบ่อยๆ ปีนั้น 1998 จะมี Y2K อีก 2 ปีข้างหน้าตามโรงกลั่นน้ำมันก็มีการtest system กันเพื่อรับมือ ทางบริษัทเราก็มีบริการให้(ก็คิดตังค์แระ หาเงินเข้าเป๋า) แต่ก็มีอยู่โรงหนึ่งเค้าติดต่อเข้ามาถามรายละเอียดต่างๆนาๆมากมาย เราก็จัดการให้ไป ติดต่อกันอยู่ 3 เดือน เจ้ากรรม ไม่ซื้ออ่ะ งกชะมัด ในใจเราคิดนะ แต่ก็ต้องพูดดีกะเค้าอ่ะ จนผ่านไปเข้าเดือนสี่ เค้า test เรียบร้อย ก็โทรมาหาเรา เพื่อขอคุยเรื่องส่วนตัว(ในใจเราก็คิดนะ ว่าตาบ้านี่เชยชะมัด ใครๆเค้าก็โทรมาคุยกันเลยทั้งนั้น) เหมือนเดิม ปากเราก็พูดดีไป ว่าได้ค่ะ เค้าก็โทรมาคุยเรื่อยๆ จนผ่านไปอีก 2 เดือน เค้าขอนัดกินข้าวกะเรา ไอ้เราอ่ะเรื่องธรรมดา เพราะลูกค้านัดกินข้าวบ่อยๆอยู่แล้ว จำได้ว่าวันที่นัด ก็ใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว กะกางเกงสีดำ แต่แบบว่าอ่ะนะ พระเจ้าคงจะอะไรซักอย่าง ตอนเราเดินไปเจอเค้าอ่ะ เค้าจอดรถอยู่ข้างตึกที่เราทำงาน เราเดินผ่านมุมตึกไป ลมพัดมาพอดี ผมเราก็พริ้วซะ ยังกะMV เฮ้อ พระเจ้าลงโทษผู้ชายคนนั้นไปซะแล้ว แต่เราอ่าเห็นเค้าแล้วนึกในใจทันทีว่าชั้นไม่เอาตานี่แน่นอน ก็เราชอบคนขาว.........อ่า  เย็นนั้นไปกินข้าวกันเสร็จแล้ว(เค้ามีต่อว่าเราด้วยนะ ว่าเค้าขับรถมา 200 โล เพื่อมากินข้าวกะเรา ไม่เราไม่มองหน้าเค้าเลย......จะให้ตอบว่าไงอ่า) เค้าขอนัดเจอเราวันรุ่งขึ้น เรารีบบอกว่า นัดธุระกะแม่ค่ะ  แต่เค้าก็ไปหาเราที่บ้านจนได้ (คบมาเยอะ มีตานี่แระที่กล้าเข้าบ้านเราตั้งแต่แรก) แล้วก็ไปพบแม่เรา แนะนำตัวเสร็จสรรพ แถมอาสาพาแม่ไปอีกตั้งหาก เย็นนั้นกลับบ้าน แม่บอกเราหน้าตาเฉย ว่าให้เป็นแฟนกะเค้าซะ เอากะแม่เราซิ ไอ้เราก็คบไปเรื่อยๆ จน 2 ปีผ่านไป เค้ามาขอเราแต่งงาน เราก็ปากดีบอกว่าให้ไปเรียนโทให้จบก่อน (ตอนนั้นยังไม่สมัครเลย) แล้วเราจะแต่งงานด้วย เวงกรำ จากวันนั้นแค่ 2 ปี เค้าเรียนจบ เลยตรงไปขอกะแม่เราเลย ไม่ผ่านนายหน้าอย่างเราซะแระ แต่ก็ดีที่เชื่อแม่นะ เพราะจากการใช้ชีวิตแต่งงาน 6 ปีที่ผ่านมา เค้าไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจผิดที่แต่งงานกะเค้าเลยอ่า ทุกวันนี้ เรายังขำทุกครั้งที่นึกถึงวันที่เห็นหน้าเค้าครั้งแรกเลย... เพิ่งมีผลผลิตจ้า จากคุณ : ไฟกลางธาตุ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 21:51:07

ความคิดเห็นที่ 18 ความจริงในปัจจุบันนี้รันทดมากเลยใช่ไหมแก ถึงได้ตั้งกระทู้ระลึกอดีตชาติ อืม..แต่ก็ดีเหมือนกันนะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนแก้มจะแตกแล้ว จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 21:53:04

ความคิดเห็นที่ 19 เอ้โว้ย............... ให้เล่าเรื่องเมื่อ 25 ปีก่อนเหรอ......... ........................จำไม่ได้ว่ะ...........คริคริ..     จากคุณ : งุนงง เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:06:09

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเล่าได้ จะโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากพี่โด้ป่าวน๊อออ????  โฮะๆๆๆๆ จากคุณ : เ จ้ า ช า ย เ อ เ ด รี ย ล เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:36:51

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ^ อย่าเสี่ยง -_______- จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 22:51:10

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ rainfull ดร.ก็ชมกันเกินไปแล้ว The Best and Beautiful หน่ะชื่อของแม่ค่ะ น้องบีบีย่อมาจากบั๊บเบิ้ล เมื่อคืน ดร.เล่าให้อิชั้นฟังว่า ที่ มร.บีนชมว่าน่ารัก มร.เค้าชมบัญชาไม่ใช่เหรอคะ ไหงตอนนี้กลายมาเป็นชม ดร.ได้ ข้อมูลมั่วหรือเปล่าคะเนี่ย เรื่องไม่จริงอิชั้นไม่รับนะคะ คุณ คอบอล เฮียก็รวบรัดซะไม่ให้ลุ้นเลย สั้นๆ แต่ได้ใจความชัดเจนดี คุณ ไฟกลางธาตุ แสดงว่าต้องเป็นสาวเนื้อหอมแน่เลย มีแต่ลูกค้ามาจีบ ท่าจะน่ารักกุ๊กกิ๊กดีนะ อยากได้อย่างนี้มั่งอ่า ตอนเราทำงานมีแต่ลูกค้าด่า ไม่งั้นก็เป็นฝ่ายกวนบาทาลูกค้า ไม่เห็นมีใครขอคุยอย่างนี้มั่งเลย คุณ NATTI นัทตี้ เค้าอุตส่าห์บอกแต่แรกเลยว่าห้ามแซว แซวกันงี้คนอื่นรู้หมดดิ ว่านังแม่บีบีกำลังสะกดจิตตัวเอง คริ คริ ว่าแต่เรื่องป้ากะลุงไม่เล่ามั่งเหรอคะ คุณ งุนงง 25 ปีแค่นี้ทำลืม เดี๋ยวจบกระทู้นี้หนูจะตั้งกระทู้แชร์เหตุการณ์บู๊ โหด ตบตี บ่นปั๋วมั่งนะคะ เรทติ้งท่าจะกระฉูด จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:00:33

ความคิดเห็นที่ 23 ลงชื่อมาอ่านตำนานรักดอกเหมย ตอน Bubble Space confirm ว่าพ่อน้องบีบีหน้าเด็กมากๆๆๆๆๆๆ ตอนที่เห็นนั้นคิดว่าอายุ 18 ในใจคิดว่ายัยเจ๊ไปหิ้วเด็กฝรั่งที่ไหนมาเนี่ย เดี๋ยวพ่อแม่เค้าก็มาตามหรอก พรากผู้เยาว์ บลา บลา บลา จากคุณ : chajung เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:04:57

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ เ จ้ า ช า ย เ อ เ ด รี ย ล ฮูอิสพี่โด้? โรนัลโด้ ไฟโด้ดีโด้ โดโด้ ฯลฯ ขยายความด่วน มาบอกเป็นนัยๆ เดี๋ยวสาวกซ้อเจ็ดก็อกแตกตายหรอก จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:09:51

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้หวานเจี๊ยบเลย เล่าบ้างๆ ของเราตอนนั้น (เมื่อ 5 ปีที่แล้ว) เพิ่งกลับจากออสเตรเลีย ทิ้งเงินเดือนเป็นแสน มาหุ้นกับเพื่อนเปิดศูนย์สอนวิทยาศาสตร์เด็กเล็กโดยใช้วิธีสอนแบบสมัยใหม่ เน้นสนุกเป็นหลัก ตอนนั้นรับบทเป็นผู้จัดการด้วย ต้องทำทุกอย่างแม้แต่ต้องไปทำ Science Shows ตามที่ต่างๆ เพื่อโปรโมทศูนย์ฯ ในช่วงนั้น..มีอยู่วันนึง เราตื่นเช้ามากๆ (เหมือนเป็นเวรเป็นกรรมจริงจริ๊ง) พอตื่นมา ก็เลยเปิดเนต พอเข้า msn ก็มีผู้ชายคนนึงที่เราไม่รู้จักทักมา โอ้โห..ใครหว่าตื่นเช้าขนาดนี้ ตอนนั้นก็เลยคุยเล่นๆ แต่ปรากฏว่าเค้าเป็นเพื่อนร่วมคณะฯ ตอน ป.ตรี กับญาติลูกพี่ลูกน้องพอดี เลยมีการลำดับความสัมพันธ์เล็กน้อย (จริงๆ ที่คุยต่อ คือ เค้าโชว์รูปบน msn หล่อมากกก อิอิ) จากนั้นเค้าก็ขอเบอร์ฯ เพราะว่าเค้าอยากติดต่อลูกพี่ลูกน้องเรา เราก็เห็นว่า เออ..มีเหตุผลวุ้ย..ไม่ได้มาจีบ ดังนั้นจะหวงเบอร์ไปใย ..เนอะ..ก็เลยให้ ..คุณชายก็โทฯมาคุยทุกวัน วันละนานๆ ได้อาทิตย์นึง จนมีอยู่วันนึง..เราต้องไปแสดง Science Show ที่เซ็นทรัล รามอินทรา ..เรากำลังขับรถไปอยู่ เค้าก็โทฯเข้ามา เราก็บอกว่าไม่ว่าง กำลังไปเซ็นทรัลรามอินทรา ก็เล่าตามปกติ..ปรากฏว่าเค้าไปแอบดูเราค่ะ ..ก็ไม่รู้ว่าเค้าปิ๊งหรือเปล่า พอทำโชว์เสร็จ เราก็จะไปดูหนังที่ Major รัชโยธินต่อ เค้าก็โทฯเข้ามา บอกว่าโชว์สนุกมาก อยากเจอเค้าไม๊ ..เราบอกว่าเรากำลังไป major นะ เค้าเลยตามมาด้วย ก็เลยเดทแรกไปกินข้าวที่ Black Canyon แล้วไปดูหนังกัน จากนั้นเค้าก็จีบติด จนปีนึงก็แต่งงานกันค่ะ ตอนนี้ลูก 1 แล้วค่า แก้ไขเมื่อ 02 ม.ค. 53 23:19:18 จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:18:24

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ยักกะรู้ว่า คุณ  โยชัวปวริศ อยู่เยอรมันเหมือนกัน. อันนี้ไม่ได้แซวนะคะ แค่ทักทาย อยากเล่ามั่ง แต่ติดงาน เอาเป็นว่า อีฉ้านกะสามี อยู่กินกันมา10ปี เวลามองหน้า่สามีก็ยังนึกถึง ฝรั่งหลงทาง ถ้าเราไม่เข้าไปช่วยบอกทาง คงไม่มีวันนี้แน่. จบข่าว. จากคุณ : Aik and An (จิงโจ้ยักษ์) เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:20:34

ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อกี้รูปใหญ่มาก เปลี่ยนๆ จากคุณ : JNOY เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:21:09

ความคิดเห็นที่ 28 อดไม่ได้ แพ้ความน่ารักของบีบี ขอแจมหน่อย ของอิชั้น ย้อนไปเมื่อ 5ปีก่อน เจอกันตามเทรนด์สมัยนี้ รักออนไลน์ เป็นไปตามสูตร อีเมล์ ส่งรูป (สมัยนั้น เวปแคมยังไม่เจริญ) คุยกัน 3เดือน บินมาเจอกัน make a trip 10วัน               เอาน้องสาวไปเป็นไม้กันหมาด้วย เดี๋ยวเค้าจะว่าเอา พอกลับไป เธอก็บอกว่า ทำไมคิดถึงเราจัง น่านนน... สองปีต่อมา เธอก็จัดการขายบ้าน ขายเมือง หอบผ้าหอบผ่อนหนีตามอิชั้นมาอยู่เมืองไทยนี่แหละคร่า   เหมือนชีวิตมันเป็นไปตามสูตรของมัน แต่สิ่งที่ทำให้อิชั้นมั่นใจ ว่าต้องใช่ตนนี้แน่ๆ ก็คือ - ชื่อเรา มี P เหมือนกัน Pui and Paul - เราเป็นลูกคนที่สองเหมือนกัน - สามีเกิดวันที่ 5 พฤษภาคม วันฉัตรมงคล อิชั้นเกิด 9 มิถุนา วันที่มีรัชกาลที่ 9 ค่ะ - ตอนที่สามียังไม่ย้ายมา เวลาคิดถึง โทรศัพท์ ก็จะดังขึ้นทุกที เวลาที่เราโทรไป สามีก็จะบอกว่า กำลังจะโทรไปพอดี (เกี่ยวมั๊ยเนี่ย) - ครั้งแรกที่เจอกัน สมัยนั้นยังเป็นสนามบินดอนเมือง อิชั้นหลงไปคอย เทอร์มินัล A แต่สามีลงเทอร์มินัล B มารู้ว่าผิดเทอร์มินัลเอาอีกชั่วโมงหลังไฟท์แลนดิ้งแล้ว ปราดุกแว่ เดินเจอกันระหว่างเทอร์มินัลพอดี และอีกหลายๆครั้งที่นัดกันทีไร เดินไปเจอกันก่อนสถานที่นัด แปดในสิบ ไม่เคยพลาด   เนื้อคู่ ไกลเท่าไหร่ ก็หากันจนเจอค่ะ ... จากคุณ : Pjanet เขียนเมื่อ : 2 ม.ค. 53 23:30:24

ความคิดเห็นที่ 29 โห ของพี่เจอกันแบบโหดๆอะ งั้นก็เล่าไม่ได้สิ มาอ่านกะแจกกิฟละกัน 5555 จากคุณ : Mimi Mice เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:26:44

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ chajung พ่อบีบีบอกว่าเอาไปเลยร้อยนึง ถ้าชมต่อหน้าจะให้ห้าร้อย คุณ JNOY เหมือนในหนังเลยค่ะ มีตามไปดักเฝ้า ดักจีบ กรี๊ดดดด อยากมีแบบนี้มั่ง คุณ Aik and An (จิงโจ้ยักษ์) สาวๆ ที่อยู่เยอรมันห้องนี้เยอะเลยค่ะ ส่วนเรื่องหวานๆ ติดไว้มาเล่าตอนว่างก็ได้ค่ะ คุณ Pjanet ท่าทางจะเป็นเนื้อคู่จริงๆ ค่ะ เข้ากันดีขนาดนี้ แอบอิจฉาที่ตามมาอยู่เมืองไทยด้วยกัน เราเคยได้ยินเรื่องเพื่อนของเพื่อนพบรักออนไลน์กับชาวแคนาดา เขาบอกว่า ต้องแชทกันวันละหลายๆ ชั่วโมง แล้วเขียนอีเมล์หากันวันละหลายๆ หน้า เราก็สงสัยจะหาอะไรมาคุยกันได้ขนาดนั้น แต่เขาก็ทำแบบนี้กันหลายปีเลยค่ะ ตอนนี้แต่งงานมีลูกกันแล้ว ยังเห็นว่าเขียนข้อความหากันยาวๆ อยู่ คนจะเป็นเนื้อคู่นี่ ต้องชอบอะไรเหมือนกันจริงๆ นะ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 00:36:52

ความคิดเห็นที่ 31 อดีตรักม่ายมีอ่ะ . . . . . . . . . เพราะปั๋วคนนี้จับฉลากได้มาอ่ะ   จากคุณ : p- annipe (NATTI นัทตี้) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 02:59:37

ความคิดเห็นที่ 32 นั่งอ่านแล้วยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่  มาฮาแตกตรงเรนฟูน่แหละ ของพี่ไม่มีอะไร รถไฟขบวนสุดท้ายแล้ว ตอนนั้นหาคนหน้ามืด และ อายุมากกว่าในบริษัทฯ ที่ยังไม่มีเมียไม่มี พูดจริงนะเนี่ย ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่ปี 36  เค้าตามจีบอยู่ 4-5 ปีมั้ง ตอนนั้นแม่ยุ พี่ยุ แต่เพื่อนไม่ยุ บอกว่าแกแต่งไปตกนรกแน่ๆ (ซึ่งก็จริง) แต่ตอนนั้นอยากแต่ง แบบว่าอยากได้เงินช่วยในซอง กร๊ากกกกก  ก็เลยเอาก็เอาวะ ไม่มีใครมาขอเลยนี่หว่านอกจากตาคนนี้ เฮ้อ..ตกร่องปล่องชิ้นมาจะเข้าปีที่ 10 แล้วจ๊ะ จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 05:35:53

ความคิดเห็นที่ 33 ยังไม่เคยเจออะไรหวาน ๆ แบบข้างบนเลย..    ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ...น่ารักทุกคู่เลย ขอให้ความรักยืนยง...ทุกคู่ค่ะ... จากคุณ : นาฬิกาโบราณ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 05:37:28

ความคิดเห็นที่ 34 จะเอาอดีตกับคนไหนมาเล่าดีล่ะ... จากคุณ : ลูกชิ้นปลาเด้ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 05:46:10

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ Mimi Mice เจอกันแบบโหดก็เล่าได้คะ โหดยังไงเหรอคะ แบบหนังของพิศาลหรือเปล่า หรือว่าโหดกว่า คุณ p- annipe เชื่อค่ะ เชื่อ แต่จับฉลากที่ไหนคะ หรือสอยดาว หรือตักไข่ที่งานกาชาด ค่าฉลากเท่าไหร่ จับไปกี่ใบถึงได้รางวัลนี้ ขอรายละเอียดด้วยค่ะ คุณ ลูกไหม เรนฟูขโมยซีนอิชั้นอีกแล้ว คุณลูกไหมทำผิดกติกานะคะ มีแอบหลอกด่าสามี คุณ นาฬิกาโบราณ ขอบคุณค่ะ คุณ ลูกชิ้นปลาเด้ง คนไหนก็ได้ค่ะ เลือกมาสักหนึ่ง หรือเอาทั้งหมดมารวมกันแล้วหารด้วยจำนวนเต็มก็ได้ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 05:58:54 จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 05:52:08

ความคิดเห็นที่ 36 มานั่งลุ้นว่าใครจะเริ่มนินทาสามีในกระทู้นี้ ปรากฏว่า เดาถูกว่ะ  "ลูกไหม" แต่เชื่อเหอะ เดี๋ยวจะมีอีก ...555+ ราตรีนี้ยังเยาว์นัก เอ่อ จขกท. คะ ของอิชั้น ใน คห.14 นั่น โกหกหมดเลย ที่จริงเจอกันถึง เราก็คุณคูณคูณกันเลย แล้วก็อุ้มท้องอยู่ 7 ปีกว่า ออกมาเป็นไอ่นีโอ อือ พรุ่งนี้ไปเวียดนามแล้วเด้อ ปล. ภารโรงไปไหนนิ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 10:09:17

ความคิดเห็นที่ 37 สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับ รู้สึกขัดเขินพอสมควรที่มาเล่าที่นี่ เพราะน้องคอบอลดันปอดกระเส่าไปยอมเล่าเพื่อเปิดทาง เอ้า คนหนุ่มไม่กล้า คนแก่เล่าก็ได้ เล่าไปหลายครั้งแล้วนี่นา เจอกันที่งานแต่งงานญาตเขาแถวๆพระราม 9 เพราะโดนบังคับให้ไปแทนแม่ เพราะแม่เป็นเพือนบ้านกับป้าเขา จริงๆเขาจัดฉากให้ลุงไปเจอกับซ๊อแบบเิปิดหน้าชนกันจะๆ คือ ทั้งสองฝ่ายต่างไม่เต็มใจ น้ำเน่าหลังข่าวช่อง 3 เต็มๆเลย ตอนนั้นกำลังซิ่ง อายุ 31 สบายใจเฉิบกับชีวิตโสด งานก็ดี อยู่สถานทูต ทั้งเท่้ และสนุก เงินเดือนก็ดีโคดๆ ทำอะไรตามใจชอบแบบพ่อพวงมาลัย คบกับสาวอยู่คนก็แฮปดีไม่คิดจะแต่งงานด้วยประการทั้งปวง แถมข้อมูลที่ได้มาเกี่ยวกับสาวคึนนี้ก็แบบ "โอ๊ย ไม่เอาหรอก" คือ ข้อมูลที่ได้มานี่มั่วมาก เอาไปปนเปกับพี่สาว น้องสาวเค้า แบบไม่เข้าสะเป๊กแม้แต่น้อย วันนั้นก็แต่งตัวปกติแบบออกงานที่ทำงาน คือ ใส่สูทไปกับพี่สาว ที่แสบมาก คือ เขาดันพาไปนั่งกับคุณป้าคนนึงที่เป็นคนจีน สวยเช๊งเลยแหละ แต่งตัวดี ดูมีเงินแหละ แกก็ชวนคุยโน่นคุยนี่ ทำอะไรเหรอ เราก็มารยาท เขาสอนให้เรารับแขก ก็คุยไปเรื่อย มารู้ทีหลังว่านั่น "ว่าที่แม่ยาย" อร๊ายยยยยยยยยยยย แต่อย่างว่าประสาหนุ่มสถานทูต สอบผ่านแม่ยายฉลุยแบบครี่ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นก็เริ่มเขม็งเกรีัยว เพราะกลัวว่าจะเจอสาว แล้วเป็นแบบหมวยๆเฉิ่มๆ จะเสียความรู้สึกกัน กองเชียร์ก็แบบ "น้องเขาอยู่ที่โต๊ะรับซอง" (สะท้อนความงกอย่างมาก) ลุงก็ "ครับๆ" แล้วไงวะ.... ในทีุ่สุด นาทีประหารก็มาถึง หลังจากจิบน้ำปาณะแก้วสุดท้ายในชีวิต เจ้าหน้าที่ก็ประคองไปหลักประหาร   พอเห็นหน้า่เท่านั้น อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย คำแรกที่โผล่มาในใจ คือ โอ๊ย น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขาว สวย หมวย น่ารัก ผมก็เดิ้น ชุดก็สวย เก๋ (พี่น้องแต่งให้เต็มที่ เพราะชีแต่งตัวไม่เป็นเท่าไร) สูงเพรียวอีกด้วย - 165 ที่โดนสุดๆ คือ รอยยิ้ม (เขาบอกฉันยิ้มตามมารยาทไปงั้นแหละ ไม่ได้รู้สึกอะไร) บอกตรงๆว่าหลงรักในวินาทีนั้นเลย คิดในใจว่า บุพเพอาละวาดละงาานนี้ อาฆาตไว้เลยว่าจะจีบให้ติดให้ได้ จากนั้น ก็เดินหน้าเต็มสตรีมเลย เริ่มตั้งแต่คืนนั้นเลย นั่งคุยกันตลอดเลย (เราหน้าด้านมาก เพราะที่ทำงานสอนมาให้คุยๆๆๆ) ก็คุยกันถูกคอ กองเชียร์งี้กระดี๊กระด๊าสุดๆ คืนนั้นก็โทรไปบอกพี่สาวเขา (ลูกพี่ลูกน้องกับซ๊อที่เชียร์เราสุดๆว่าดีโง๊น ดีงี้ ว่า ผมชอบครับ) แบบว่ามวยถูกคู่ แถมเราก็ไฟท์เตอร์ เดินหน้าเท้าชนเท้าตลอด คนเขาคงเห็นว่าเราเอาจริง เพราะขยันมาหามาก ทั้งที่บ้านลุงอยู่บางบัวทอง เขาอยู่บางนา ไกล ship หาย เผลอแผล็บเดียวก็ไปดูฤกษ์แล้ว เร็วมากแบบฟาสท์ ฟอร์เวิร์ด ประมาณ 6-7 เดือนก็แต่งงาน ไปขอเขาแต่งงานที่ซีคอนฯละมัง ไม่ก็เสรี ไอ้สองห้างนี่จำสับกันตลอด กลางห้างเลยเลย คนนั่งอยู่ซ้าย ขวา ปีนี้ 13 ปีแล้ว แม้ว่าเราสองคนจะเพิ่มน้ำหนักกันมาคนละ 10 กิโลแบบฉุยๆ (โชคดีที่ลุงเป็นคนผอม) แต่เรายังรักกันจี๋จ๋าแบบน่ารำคาญ ลุงยังบอกรักเขาเกือบทุกวัน รักเขามากกว่าเดิมอีก เพราะเราเติมเต็มกันและกัน แต่ก็มีงัดกันเรื่อยๆ ประสาลิ้นกับฟัน แต่ปีใหม่นี้ตั้งใจว่าจะรักคนรอบข้างให้มากขึ้น และจะเป็นคนที่ให้มากขึ้นไปอีก อยากให้เขามีความสุข สบายใจ ภรรยาดีมาก ชีวิตการงานลุงดีขึ้นตลอด (ในภาพรวม เพราะบางปีธุรกิจลุงก็ไม่ดี) มีบ้านสวยอยู่สบาย ครอบครัวมีลูกสองคน น่ารัก น่าเตะทั้งคู่ มีความสุข บอกเขาเมื่อคืนว่า "เธอเป็นนางฟ้าผู้พิทักษ์ของชั้นนะ" ถ้าเป็นเพลงก็คงจะทำนอง "The wind beneath my wings" เอ่อ ช่วยกรุณาเช็ดอ้วกด้วยนะครับ เลอะหน้าจอ เต็มกระทู้หมดแล้ว ชอบเรื่องของเอื้องมาก คลาสสิค และน่ารักมาก ให้กีบแรกของปีนี้สามกีบเต็มๆ แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 53 10:51:39 จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 10:46:44

ความคิดเห็นที่ 38 ขอด้วย ขอด้วย ... ของแหม่มเริ่มจากการเป็น "กิ๊ก" กันมาก่อนอ่ะ 555 ย้อนกลับไป พ.ศ.2545 "ดูนามสกุลก็รู้ ลูกท่านหลานเธอแน่ ๆ ถึงมาสายได้ขนาดนี้" เป็นคำนินทาของผู้หมวดคนหนึ่ง เมื่อเห็นว่าโต๊ะเรียนคอมพิวเตอร์หลังห้องข้าง ๆ ตัวเอง 10 โมงแล้ว เจ้าของโต๊ะก็ยังไม่มา แล้วลูกท่านหลานเธอที่ถูกนินทา ก็โผล่มา ในสภาพเด็กกะโปโล เครื่องแบบก็ไม่เนี้ยบ หัวก็ยุ่ง แล้วก็นั่งแหมะลงข้าง ๆ เขียนโปรแกรมไปเรื่อย ๆ 30 นาทีส่ง ในขณะลุง ๆ ป้า ๆ ที่มากันตั้งแต่เช้า ยังคง ชะเอิงเอิงเอย ตุ้มต๊ะตุ้มตุ่ย ค่อย ๆ งมไปเรื่อย  ๆ "พี่ทำแบบนี้สิ บลา ๆ ๆ ๆ" แหม่มทนไม่ได้เลยเริ่มต้นสอนเค้าซะงั้น "อ้าวเจ้าแหม่ม ... มาเรียนคอร์สนี้ทำไม? ก็เรียนไปแล้ว เมื่อหลายปีก่อน ตอนเปิดสอนลูกข้าราชการน่ะ  แหมตอนนี้เป็นว่าที่เรือตรีแล้วนะ" คำทักของอาจารย์ตอกย้ำความเป็นลูกท่านหลานเธอของแหม่มเข้าไปอีก เรียกคะแนนหมั่นไส้ได้อีกกองพะเนิน "หัวหน้าคะ หนูไม่สามารถมาเช้าได้ เพราะตอนนี้หนูนอนเฝ้าพ่ออยู่ที่ ร.พ.พระมงกุฏ และต้องรอพบหมอลงตรวจคนไข้ตอน 9.00 - 9.30 แล้วถึงมาได้ค่ะ" หัวหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์พยักหน้ารับทราบ แล้วบอกว่า ... "ไม่เป็นไร เราเรียนมาแล้ว มาถึงแล้ว ก็เป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนพี่ ๆ เค้าแล้วกันนะ" หลังจากนั้น ก็เป็นชั่วโมงการพิสูจน์ความจริง ... พี่ ๆ ก็ทะยอยมาเยี่ยมคุณพ่อที่ ร.พ. แล้วก็พบว่า แหม่มกิน - นอนที่ ร.พ.พระมงกุฏ ในห้องพิเศษรวม ๒ คน ที่นอนของแหม่ม คือ โซฟาเล็ก ๆ มีที่รีดผ้า อุปกรณ์อื่น ๆ เสมือนอยู่หอพัก ส่วนคุณพ่อก็นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่ยนเตียง อุปกรณ์พยุงชีพเพียบ !!! "เฮ้ย ... แล้วเราทำไมไม่บอกพวกพี่ ... วัน ๆ ทำหน้าเป็น โดดไปโดดมาเป็นลิง ไม่ทุกข์ไม่ร้อน พวกพี่นึกว่าเราเกเร มาสายไปวัน ๆ" "พอดีแหม่มเพิ่งรับผิดชอบการประชุมร่วมระหว่างประเทศเสร็จไป ผ.อ.รู้ว่าแหม่มต้องนอนเฝ้าพ่อที่ ร.พ.พระมงกุฏ เลยให้แหม่มมาพักผ่อนโดยเรียนคอมที่นี่ 1 เดือน เพราะว่าสถาบันคอมพิวเตอร์ใกล้ ร.พ. มากค่ะ" แล้วทุกคนก็ถึง "บางอ้อ" ... จริง ๆ แล้วหลักสูตรนี้ แหม่มไม่ต้องมาก็ได้ เพราะชำนาญแล้ว แต่ ผ.อ. อยากช่วยแหม่ม ไม่งั้นแหม่มต้องตื่นแต่เช้ามืดออกจาก ร.พ. เพื่อไปสแกนรายนิ้วมือที่ทำงาน (แจ้งวัฒนะ) แล้วก็กลับมา ร.พ.พระมงกุฏ เพื่อรอพบหมอ เพราะพ่ออาการ 50 - 50 หลังจากนั้นก็จ้าง พยาบาลพิเศษ ดูพ่อ แล้วก็กลับไปทำงานต่อ ร.พ.พระมงกุฏ คือ บ้านแหม่มในตอนนั้นจริง ๆ แล้วพี่เค้าก็รู้สึกดีกับแหม่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนั้นพี่เค้าแต่งงานแล้ว ส่วนแหม่มก็มีแฟนแล้ว ... เราก็เลยเป็นได้แค่ "กิ๊ก" กัน แต่พี่เค้าทำผิดกฏของ "กิ๊ก" หลายประการ ... ขี้หึงอย่างรุ่นแรง แสดงความเป็นเจ้าของ ตามจิกตามเช็คตลอดเวลา บลา ๆ ๆ ๆ ทำให้แฟนแหม่มในตอนนั้นเริ่มจับพิรุธได้ ในที่สุดก็ยุติความเป็น กิ๊ก คงเหลือ แค่ความเป็น พี่ - น้อง กริ๊ง ... กริ๊ง ... "พี่ได้ทุนไปเรียนแคนาดา" ... แหม่มรับสายก็ยินดีด้วย แต่ไม่ได้รู้สึกอะไร ... จนพี่เค้ากลับมาจากแคนาดาก็ขอนัดเจอเพื่อเอาของฝากมาให้ แหม่มก็ยังงัยก็ได้ แต่ในวันนั้นพี่เค้าอุ้มลูกชายวัย 2 กว่ามาด้วย ... คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง ... "โห ... ลูกพี่นี่ ... สุดยอดแห่งความซน" ... แหม่มไม่ค่อยถูกชะตากับเด็ก ... ก็เลย ... ห่างจากพี่เค้าไปอีก ... จนกระทั่งปี พ.ศ.2550 ในงานเลี้ยงฉลอง ส่งท้ายปีเก่า ตอนรับปีใหม่ กริ๊ง ... กริ๊ง ... "สวัสดีปีใหม่ ... เราอยู่ไหนเนี่ย? .... โอ้ ... แล้ววันนี้เอารถมารึเปล่า? พี่ไปรับเราเอาไหม?" ... เป็นอีกครั้งที่เราได้กลับมาเจอกัน "พี่หย่ากับภรรยาแล้วนะ แล้วเราอ่ะ ... เลิกกับแฟนรึยัง?" ... "เลิกแล้วพี่" ... "งั้นเรามาคบกันนะ" ... "อืม ... ได้พี่" หลังจากนั้นผ่านมาอีก 3 เดือน เราก็หมั้นกัน ต่อมาอีก 2 เดือน ก็แต่งงานกัน ... จบแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา จากคุณ : น้องบั๊ฟ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 11:53:37

ความคิดเห็นที่ 39 กว่าจะรักเท่าวันนี้ กว่าจะมีคนมาเข้าใจต้องใช้เวลาเกือบปี แล้วจะจำวันแรกพบได้ไงล่ะ จขกท.ใจร้ายที่สุดดดดดดดดด จากคุณ : พจมารร้าย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:09:42

ความคิดเห็นที่ 40 โอ๊ยยยยย.....มดกัด//แค่มาซุ่มดูเฉย ๆ ก็โดนมดกัดซะแล้ว จากคุณ : ลูกแพะ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:37:32

ความคิดเห็นที่ 41 แอบมาอ่านครับ จากคุณ : joblovenuk เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 13:59:50

ความคิดเห็นที่ 42 แอบมานั่งอมยิ้มอ่าน...สามีบอกว่าอย่าเล่านะอายเค้า...55555(ช้านรอเธอเผลอก่อน) จากคุณ : bengee เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:01:44

ความคิดเห็นที่ 43 แกงกะแฟนเจอกันที่ร้าน COACH ค่ะ แกงทำงานที่ร้านมาก่อน กลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย พอกลับไปอีกรอบ เค้าก้อมาเป็นผู้จัดการคนใหม่ เข้าไปวันแรก เจอเพื่อนผู้หญิงสกัดหน้าประตู บอกว่า ห้ามยุ่งกะซูกาซ่าเด็ดขาด ไอ้เราก้อตกปากรับคำ ไม่รู้ที่มาที่ไป เพิ่งกลับมายังมึนๆอยู่ ไม่รู้หรอกอีตานี่เป็นใคร ผ่านไปสองสามวัน เจ้านายอีกคนเรียกมาทำความรู้จักกัน ไอ้เราก้อทักเป็นภาษาญี่ปุ่นไปเลย กะจะโชว์เหนือ อีตานั่นดั๊น ทำหน้างงแล้วจ้องตา จอร์จจจจจจ ตอนนั้นหน้าร้อนมาก ทำอายทั้งเขิน ซึ่งปกติไม่ใช่จริตเลย เคยหน้าแดงเรื่องผู้ชายซะที่ไหน ฮ่าๆ อึ้งไปหลายวิ เหมือนโลกหยุดหมุนเลย จนเจ้านายแซวว่า นี่เธอสองคนจะหน้าแดงกันทำไมนี่ ถึงได้หลุดจากภวังค์ หลังจากนั้นก้อเล่นกันธรรมดา เพราะเราขี้เล่น แต่ก้อเริ่มตงิดเรื่อยๆ ว่าอีตานี่ชอบเราแหงเลย ไหนจะมามุขจับผม ชอบชมว่าผมสวย ชอบเรียกไปคุยเรื่องงาน ด้วยความขี้เล่นของเรา ชอบแกล้งชาวบ้านเค้าไปทั่ว อีตานี่ก้อต้องโดน ฮ่าๆ ชอบเอากุญแจที่เค้าคล้องไว้ที่กางเกงไปซ่อนค่ะ วันที่เกิดเรื่องดันซ่อนสำเร็จ จนเค้าตกใจเพราะหาไม่เจอตอนจะกลับบ้าน เลยต้องเฉลย วันดีคืนดีเลยส่ง text ไปแซวว่า Where is your key? เท่านั้นแหล่ะ โทรมาตามเลยค่ะ เพราะเค้าหากุญแจเค้าไม่เจอ ก๊ากกกกก หลังจากนั้นเลยคุยกันเรื่อยมา จนจริงจัง แต่เราก้อต้องกลับบ้าน ผ่านไปปีกว่าแล้ว แต่ยังคุยกันทุกวัน ข่าวดีก็คือ เค้าจะบินมาแต่งงานด้วย วันที่ 27 กุมภา นี้แล้วค่ะ ตอนนี้ก้อเตรียมตัวหัวหมุนเลย แต่มีความสุขที่ได้หัวหมุนมากจริงๆค่ะ อิอิ จากคุณ : แกง-เผ็ด-ดุ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:04:01

ความคิดเห็นที่ 44 นี่รูปชายหนุ่มญี่ปุ่น สัญชาติเมกัน แต่หน้าไท๊ไทยค่ะ ปล.เค้าเด็กกว่าแกงปีนึงค่ะ อิอิ จากคุณ : แกง-เผ็ด-ดุ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:07:42

ความคิดเห็นที่ 45 อ้าว.........คห. 34.........รู้จักกันมานาน เพิ่งรู้ว่า........มีปั๋วหลายคนเหรอ.. หมั่นไส้ คห. 37.........ชื่นชมเข้าไป กลัวซ้อมาแอบอ่านใช่มั้ย.... จากคุณ : งุนงง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:30:17

ความคิดเห็นที่ 46 เจอกันข้ามโต๊ะประชุมเมื่อ 17 ปีก่อน กวาดสายตาไปเจอเขา ทันใดนั้น !!!! โลกหยุดหมุน เหมือนถูกดูดเข้าไปในสมองเขา รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไร ทั้งที่เขาไม่ได้มองเราเลย กระพริบตาสองสามที เวลากลับมาเดินต่อไป ยังงง เอ้อ แปลกจริง หลังจากนั้นอีกสักเดือน เมื่อสนิทกัน ถามว่า วันแรกที่เจอนั้น เขากำลังคิดเรื่องนี้ เรื่องนี้ใช่ไหม เขาตกใจ รู้ได้ไง ไม่รู้เหมือนกัน ???? พอเขาจีบ บอกเขาเลยว่า ตอนนี้มีแฟนแล้ว แต่จะกลับไปเลิก ถ้าเชื่อฉัน รอฉันก่อน จากวันนั้นถึงวันนี้ แต่งกันมา 14 ปี ยังอ่านใจเขาได้ตลอด หยิบโทรศัพท์ขึ้นก่อนทีเขาจะโทรมา ตอบคำถามที่เขากำลังคิดอยู่ในใจ ซื้อของที่เขาต้องการมาให้ แม้จะอยู่กันข้ามประเทศ !!! สามีบอกว่า สยองขวัญมากกกกก แก้ไขพิมพ์ผิด นิดหน่อย แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 13:56:51 จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 14:34:33

ความคิดเห็นที่ 47 ชอบเรื่องของเรนฟูลที่สุดเลยอ่ะ ^ ^ อ่านแล้วชอบจังกระทู้นี้ ... นึกถึงหนังเรื่องโปรดนี้ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 15:59:55

ความคิดเห็นที่ 48 เล่าบ้าง เล่าบ้าง... แต่ไม่รู้ว่า จะเรียกว่า รักแรกพบได้หรือป่าว ย้อนกลับไป ปีอะไรน้า...(นานมาก) ประมาณ 20 กว่าปีก่อน  เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยคนหนึ่ง ที่เพิ่งย้ายบ้านเพื่อมาเข้าป.1  แถวๆ ลาดพร้าว ซึ่งแถวนั้น แทบจะไม่มีบ้านคนเลย แต่พ่อเรานึกไงก็ไม่รู้  อาจจะเป็นพรหมลิขิต เราซึ่งเพิ่งย้ายมา ไม่มีเพื่อน มีแต่น้องชาย อายุห่างกัน 2 ปี เล่นกันอยู่ 2 คน  พี่ชายข้างบ้านสงสารเลยเรียกไปเล่นด้วย แต่รั้วบ้านมันสูงเราข้ามไปไม่ได้ พี่ชายคนนั้นเลยอุ้มเราข้ามไปเล่นรวมกับพี่ๆ น้องๆ ของเขา ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน หญิง 1 ชาย 6  เท่าที่จำความได้ เรามักจะชอบเล่นกับพี่ชายคนนี้ตลอด จนไม่รู้ว่า เราเริ่มจะรักและผูกพันกับพี่ชายคนนี้เมื่อไหร่ จนเริ่มขึ้น ม.1 เริ่มแก่แดด ก็เลยรู้ใจตัวเอง ว่าแอบรักพี่ชายคนนี้ เลยหาเรื่องไปอยู่ใกล้ๆ พี่เขาตลอด ตอนนี้พี่เขาอยู่ ม.5 แล้ว เราเองก็ไม่คิดว่า เขาจะสนใจเด็กกะโปโลอย่างเราหรอก เราเลยกุเรื่องว่า เพื่อนเราชอบเขา เพื่อที่จะหาเรื่องคุย ตลอดเวลา ยิ่งคุยยิ่งปลื้ม เพราะรู้แน่ชัดแล้ว ว่าเราชอบเขาจริงๆ พี่เขาก็น่ารักตลอด ตั้งแต่วันแรกที่อุ้มเราข้ามรั้ว จนถึงวันนี้   แล้วเราทั้งสองคน ก็เริ่มเป็นแฟนกันตอนไหนก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า ตั้งแต่ ม.1 เทอม 2 เราไป-กลับโรงเรียนพร้อมเขาเกือบทุกวัน ไปเล่นอยู่บ้านเขาทุกวัน  จนเรียนจบมหาลัย แล้วก็แต่งงานกัน แต่ความน่ารัก ความดีของเขา ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง มีเหมือนกันที่ทะเลาะ จนจะเลิกกัน แต่เพราะความรัก ความเข้าใจ และพร้อมให้อภัย จึงทำให้ทุกวันนี้ เรายังมีกันและกัน พร้อม พยานแห่งรัก อีก 1 คน จากคุณ : NhooNuii&NhooNunk เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 16:57:13

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ rainfull ว๊าย ไปเวียดนามเหรอคะ อี๊ แหว่ะ ปีใหม่ทั้งทีไปเที่ยวที่หรูๆ กว่านี้ไม่ได้เหรอ อย่างดาวอังคารหรือพลูโตไรงี้อ่ะ ค่อยสมเป็น ดร.หน่อย คุณ Double07 กรี๊ดดดดดด ซี๊ดดดดดดดด ลุง หวานซะชนะเลิศเลย คุณ น้องบั๊ฟ หลากหลายอารมณ์ดีค่ะ จากกิ๊ก มาเป็นพี่น้อง ฝ่าฟันอุปสรรคเรื่อยมา แล้วค่อยแฮปปี้เอนดิ้ง คุณ พจมารร้าย สังเกตว่าพวกหลักสี่ ที่ผ่านมามากกว่า 20 ปีแล้ว จะจำไม่ค่อยได้ ไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้คราวกระทู้ด่าผัวด่าเมียก็ได้ค่ะ คุณ ลูกแพะ กระทู้นี้หวานเท่านั้นค่ะ เดี๋ยว ดร.กลับมาจากรีฮันนีมูนแล้วจะมีรอบโหดค่ะ คุณ joblovenuk อย่าเอาเปรียบคนอื่นสิคะ เล่าของตัวเองด้วย คุณ bengee ได้ค่ะ สามีเผลอแล้วเจอกันนะ คุณ แกง-เผ็ด-ดุ มาแบบใหม่ๆ สดๆ ไม่ต้องรำลึกอดีตเลย ขอแสดงความยินดีล่วงหน้านะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ ในวันแต่งงานและหลังจากนั้นทุกๆ วันค่ะ คุณ งุนงง ป้าคนนี้นี่ ไม่เล่าของตัวเองแล้วยังเที่ยวแซวคนอื่นอีก คุณ แม่น้องหยง เดาใจกันได้ขนาดนี้ เนื้อคู่ของแท้เลยค่ะ เราอยากได้แบบนี้มั่งจัง คุณ หมูเหมียว กระทู้นี้ก็เพื่อ ดร.เอื้องแหล่ะค่ะ หล่อนลีลาไม่เล่าผ่านเอ็ม แต่ว่าชอบอันไหนคะ อันแรกหรืออันที่ท้อง 7 ปี ของ ดร.เขามี 2 เวอร์ชั่น แล้วป้าหมอจะไม่เล่าบ้างเหรอคะ คุณ NhooNuii&NhooNunk อันนี้รักแรกพบขนานแท้เลย น่ารักมากเลยค่ะ เรียกได้ว่ารู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิตเลยก็ได้นะเนี่ย หวานซะ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 53 20:11:20

ความคิดเห็นที่ 50 ได้สามีก็เพราะต่างคนต่างรถไฟขบวนที่เขายกเลิกกันแล้วทั้งคู่ ไม่ค่อยมีทางเลือก เจอกันเพราะเพื่อนสาว Hard Sale ทั้งสองฝ่่าย แต่จะเจอไอ้เราก็ต้องบินมาไมอามี่ เสียดายเงินชมัดตอนนั้น แต่เพื่อผู้ชายที่เพื่อนบอกว่านิสัยดี หน้าตาน่ารัก เลยจนใจ ไม่มาก็กลัวเพื่อนจะเสียใจ 555555 ก็เจอกันวันแรก อีตานี่ก็ใส่หมวกแกป นุ่งขาก๊วย เสื้อยืด พร้อมกับแว่น ตรงตามเสปกเรา ส่วนพ่อมานก็มองเรา หวาน น่ารัก สาวไทย (ตอนนั้นยังตัวไม่หย่ายยยย มาหย่ายตอนท้องเนี่ยแหละ) ก็คุยกัน มีแต่แซวๆ ไม่มีหวาน พ่อมานคงเห็นของแปลก เลยติดใจมั้ง ก็คุยกันเกือบสองปี ถึงได้ตกลงบินตามมาไมอามี่ให้พ่อมานได้ใช้กรรมที่มีอยู่ มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ที่เข้าข้างแม่ตลอด ให้พ่อมานได้ตามไปใช้กรรมอีกคน สรุป เป็นบุญของเราที่ได้เจอพ่อมาน แต่เป็นกรรมของพ่อมานที่ได้มาเจอเรา 555555 พ่อมานจะมีนิสัยแปลกๆคือ เป็นหมอไม่กลัวเลือด ไม่กลัวผ่าคน แต่กลัวผี กลัวมีดเล่มโตๆ แล้วชอบแคะขี้มูก 555555 โดนเราบ่นบ่อยๆ มานก็บอกมาว่า มานเป็นมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา หนอยยย คิดว่าจะขู่เราเรอะ เราก็เลยบอก เรานี่แหละมาจากนรกตัวเป็นๆ ไม่มีแปลงร่างมาเลยยยย 555555 คิดอยู่เหมือนกัน ถ้าพ่อมานย้อนเวลาได้ พ่อมานจะย้อนไปเปลี่ยนใจหรือเปล่า เพราะไม่มีหวาน มีแต่กวนกับกวนนน แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 03:11:35 จากคุณ : Mimi Mice เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:19:14

ความคิดเห็นที่ 51 ^ ^ ^ อีกรายที่ได้มาเพราะความแปลก 555+ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 01:57:46

ความคิดเห็นที่ 52 Sleepless in Terengganu     แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 02:05:55 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 02:04:32

ความคิดเห็นที่ 53 ตื่นเต้นที่จะได้ไปฮันนีมูนที่เวียดนามเหรอจ๊ะ ดร เอื้องงง เตรียมชุดหวิวๆ ไปกี่ชุดละ 5555 จากคุณ : Mimi Mice เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 03:22:04

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ rainfull ผิดกติกานะคะ ใส่แล้วลบ ได้กีบไปแล้ว ไม่มีสิทธิ์ลบออกนะคะ เอามาใส่คืนเดี๋ยวนี้ค่ะ เดี๋ยวคนอื่นที่มาอ่านทีหลังจะงงว่าเราพูดกันถึงเรื่องอะไร คุณ Mimi Mice ของแปลกจริงๆ ค่ะ หมอกลัวผี กลัวมีดเนี่ย หายากนะคะ ได้มาต้องถือว่าเป็นบุญ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 05:08:47

ความคิดเห็นที่ 55 เซ็งค่ะ  อิชั้นหาช่องไม่ได้เล๊ยยยยยยยยยยยย   จากคุณ : kateking เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 08:22:31

ความคิดเห็นที่ 56 อยากรู้อยู่พอดี ว่าทำงัยถึงมีสามีหล่อขนาดนี้ แต่ถ้าจิ้ม blog พี่ แล้วเจอคนหล่อกว่า เอ้ อย่าตกใจนะ 5555 จากคุณ : Pim_ลภัส เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 08:30:48

ความคิดเห็นที่ 57 Love Actually นี่หนังน่ารัก ขำๆแบบอังกฤษที่โปรดปรานมาก จริงๆแล้วชอบหนังที่ฮิวจ์ แกรนท์เล่นเกือบทุกเรื่อง จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 11:12:58

ความคิดเห็นที่ 58 ปีนี้ยอมรับว่าเป็นปีของการกลัวเมีย คือ กลัวว่าเมียจะไม่มีความสุข เพราะเมียชอบหาเรื่องมาปวดหัวในฐานะคนของประชาชน และเกรงใจเมีย เพราะไม่อยากให้เมียมีทุกข์ อยากให้มีกำลังใจ เพราะเขาทุกข์ เราก็ทุกข์ ดังนั้น รักเราก็ต้องรักเขาก่อน ถูกไหม? ไม่อยากให้เขาทุกข์กับเราด้วย ถือคติ รักเมีย ชีวิตจะเจริญ เพราะเมียเป็นมิตรแท้ พ่อแม่รักกัน ลูกก็สุขภาพจิตดี เวลาเราทะเลาะกัน ลูกก็มึน สงสารลูก คนจะโสด จะมีคู่ ทุกข์ สุขอยู่ที่เราเป็นหลัก แต่ตัวเร่งอาจเป็นคนอื่น คนรอบข้างเรามากกว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจนะ อยากทุกข์น้อยก็คิดน้อย หวังน้อยๆ อยากน้อยๆ พอใจให้มากแล้วถ้าอะไรดีๆจะเข้ามาก็มาเอง สาธุ ซ๊อจะมากรอกหูว่า "ใจที่จะเอามันหนัก ใจที่จะให้มันเบา" เอ่อ เมียครับ แต่เXาแล้วมัน (ตัว) เบานะครับ ฮาเลย ขอบคุณป้าแหนงสำหรับคำชม   แหม พ่อมานหล่อนะครับ เป็นลุงๆก็เอา ได้เห็นหน้าแม่มานด้วยแหละ อิ อิ จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 11:13:14

ความคิดเห็นที่ 59 มาเก็บความหวานตั้งแต่ต้นปีจ้ะ ((พี่เอ้ เค้าไม่ได้แซวใครนะ อย่ามาว่าน้องนะ...)) จากคุณ : MaE P@@H FaH เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 13:27:34

ความคิดเห็นที่ 60 จากคุณ : kookgee! เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 14:31:54

ความคิดเห็นที่ 61   วันแรกพบของแต่ละคู่ น่ารักทุกคู่เลยค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่านเรื่องคุณ rainfull เลยอ่ะ เป็นไงหรือค่ะ จากคุณ : boombelle เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 15:03:06

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาอ่าน แล้วเดินออกไป อิอิ.. จากคุณ : patapril เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 15:07:34

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่องของคุณเรนฟูเป็นยังไงอ่ะ ยังไม่ได้อ่านเลย เอามาเล่าใหม่ด้วย.. เรื่องของแม่น้องเบนส์เดี๋ยวลำดับเรื่องก่อน แหะ แหะ จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 15:14:11

ความคิดเห็นที่ 64 แจกกิ๊ฟมะได้ เรื่องของตัวเองยาววววววววววค่ะ ยาวจนไม่อยากเล่า เกิดมาไม่เคยมีแฟนค่ะ พอเพื่อนแนะนำผู้ชายคนนี้ให้ หลงเข้ามาในชีวิตก็เลยรีบคว้าไว้ค่ะ กลัวอยู่เชียงคาน คุยกันซักพักก็นัดเจอกันที่ รร. ผิดหวังมากค่ะ ทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างก็วาดภาพไว้สวยหรู คุณผู้ชายก็ ... (ไม่สามารถออกสื่อได้) ส่วนคุณผู้หญิงก็ทอมซะ คุยไปคุยมา 12 ปี ได้แต่งงาน จนมีผลผลิต 1 หน่วย ผ่านมา 6 ปีแล้ว จากคุณ : คนสวยเมืองนนท์ เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 15:33:03

ความคิดเห็นที่ 65 น่ารักทุกคู่เล้ย  .....          ของเรา    เจอกันวันแรกเมื่อ  2 พ.ค. 39  ที่จำแม่นก็เพราะเป็นวันแรกที่ไปทำงาน  แล้วที่ทำงานเรามีระเบียบว่า  ถ้าเป็นเด็กใหม่ต้องใช่ชุด ขาวดำ 3  เดือน  (ประมาณนักศึกษา ฝึกงานอะ)  ไอ้เราก็นะ จบใหม่ หน้าตาก็ไม่ได้เรื่อง  แต่งหน้าไม่เริด  คิ้วยังกะชินจัง  สรุปว่า  หน้าตาบ้าน บ้าน มาก          ด้วยความงก เราก็ไม่ซื้อชุดทำงาน  ใส่ชุดนักศึกษานั่นแหละ  ไปทำงาน ด้วยความมั่นใจมั๊ก ๆ   ไปถึงที่ทำงานก็ไปแนะนำตัวพี่ ๆ  ตามแผนกก่อน  ทุกคนน่ารักมั๊ก  แต่พี่ ๆ บอกว่ายังไม่รู้จักพี่ ก..  นะ  วันพี่เค้าพักร้อน            เช้าวันต่อมา  เดินสวนกับชายหนุ่ม  ตรงบันได  เค้าก็ทักเรา  เออ  น้อง  วันนี้พี่ฝากเช็ดฝุ่นที่โต๊ะทำงานหน่อยนะ  พี่พักร้อนหลายวัน  ฝุ่นเต็มเลย  เราก็ยิ้ม  แล้วตอบไปว่า  ค่ะพี่            เราก็ไปบอกเจ้านายเรา  ว่าพี่  ก...  ให้เราไปเช็ดโต๊ะให้  เจ้านาย เราขำกลิ้งเลย  เราก็จ๋อย ๆ  ไป เห็นช้านเป็นแม่บ้าน เนี๊ยะนะ...          เจ้านายเลยเรียกเราไปแนะนำ ให้รู้จักกัน  เค้าก็ยิ้ม ๆ  แถมแซวว่า  น่านอะดิ  ถึงว่าทำไมถึงจ้างแม่บ้านน่ารักขนาดนี้  ไม่คิดว่าจะมีน้องใหม่เค้ามาที่แผนก   แหวะ...แหลชะมัด            หลังจากวันนั้น  เค้าก็มีหน้าที่สอนงานเรา  สอนไปสอนมาจนคบกันเป็นแฟน  5 ปี  ถึงได้แต่งกัน ระหว่างทางก็มีล้มลุกคลุกคลานกันบ้างตามประสา                  จากวันนั้น - จนถึงวันนี้ ผ่านไปเกือบจา 13 ปี  แว้ว..ว  ค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 16:28:03 แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 16:27:01 จากคุณ : ben_benjee เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 16:04:45

ความคิดเห็นที่ 66 เพิ่งเข้ามาเหมือนกัน ช้อป... ชอบ กระทู้มีความสุขแบบนี้ แต่ว่า ไม่ทันได้อ่านเรื่องราวของคุณ rainfull อยากอ่านมั่กๆ ใครช่วยสงเคราะห์ทีเถอะ จากคุณ : Lord of Rabbit เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 17:02:59

ความคิดเห็นที่ 68 เล่ามั่งๆๆๆ เราเจอเค้าครั้งแรก ประมาณปลายปี 39 จำไม่ได้ว่าตัวเองแต่งตัวยังไง แต่จำเค้าได้แม่นเลย เพราะวันนั้นลูกพี่แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะมีวิศวกรคนใหม่มาทำงาน ซึ่งเป็นน้องชายของลูกพี่เอง เราก็อะนะ รอดูเต็มที่เลย เพราะลูกพี่หน้าตาดี มีเสน่ห์ สาวหลงกันตรึมประมาณนั้น ...... พอเจอหน้าครั้งแรก เหวอเลย แต่งตัวแบบเสื้อยืดคอย้วยๆๆหน่อย กางเกงยีนส์ธรรมดา ตัวผอมๆๆ หัวยุ่งๆ เพราะเพิ่งเดินทางมาถึง แถมท่าทางเบลอๆๆ งงๆๆๆ หิวข้าว อะไรประมาณนั้น สรุป เจอกันครั้งแรก ไม่ได้ประทับใจเลย เพราะไม่เข้าสเปกอย่างแรง ตั้งแต่การแต่งตัวแล้ว แต่พอเวลามาทำงานจริงๆ เค้าก็เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ เออ แฮะ ดูไปดูมา ก็น่ารักดีเหมือนกัน ..... แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากมาทำงานได้ 1 อาทิตย์ ลูกพี่ก็มาฝากฝังไว้ ให้พาไปหาข้าวหาปลาให้กินด้วย เพราะไม่รู้จักเส้นทาง 55555 เสร็จโจรอย่างอิชั้นเลย แถมเค้าขอให้พาไปเที่ยว ที่แรกที่พาไปคือน้ำตกแม่ยะ เค้าถึงกับอึ้งไป เมื่อขับไปตามทางที่เราบอกทาง คงคิดในใจ ทำไมตรูถูกหลอกมาเที่ยวไกลจังฟระ อิ่ๆๆๆๆๆๆ หลังจากนั้นมา ก็เจอหน้ากันที่ทำงานทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกวัน บรรยากาศเป็นใจเลยมองตาก็รู้ใจ ปัจจุบัน มีพยานรักตัวยุ่งอยู่ 1 หน่อแล้วค่า เรื่องกระทบกระทั่งกัน ก็คงมีบ้าง แต่ก็คิดว่า คิดไม่ผิดนะ ที่เลือกคนนี้มาเป็นพ่อของลูก จากคุณ : หนูชล เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 17:26:49

ความคิดเห็นที่ 69 ^ ^ ฝากปลาย่างไว้กับแมว รี่ปั๋วเธอหล่อออก หรือเอาโปรแกรมเปลี่ยนหัว จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 17:59:38

ความคิดเห็นที่ 70 น่ารักทุกคู่เลยค่ะ...ตอนแรกว่าจะแค่เข้ามาแจกกีบแล้วชิ่ง...แต่ก็อดไม่ได้ อิๆ ณ วันที่ 24 มกรา 2547 มันเป็นการทานข้าวเย็นเลี้ยงฉลองญาติเราที่เค้าได้งานใหม่ (คือจริงๆเค้าหาเรื่องจัดงานนี้มาเพื่อจับคู่เรานั่นแหละ) โทรมาย้ำแล้วย้ำอีกว่าเราต้องไปให้ได้นะ เค้าจะจัดกันก่อนหน้านี้แล้วแต่ช่วงนั้นเราไม่ว่าง เค้าก็เลยเลื่อนวันเพื่อรอเรา....มารู้ทีหลังว่า พี่เค้าก็ถูกโทรตามอยู่ตลอดว่าต้องมาให้ได้เหมือนกัน ตอนนั้น เรารู้แค่ว่าที่เราจะต้องไปเจอพี่คนนี้เพราะเค้าเป็น HR เรนเจอร์อยู่ และเราก็ตกงานอยู่ เผื่อว่าพี่เค้าจะแนะนำงานให้ เราไปกับพ่อแม่เรา เราก็คิดว่าเป็นเจอร์แล้ว ก็คงแก่และหัวเถิก ที่สำคัญอยู่มาจนป่านนี้แล้วยังไม่ได้แต่งงาน แสดงว่าต้องมีอะไรผิดปกติแจ้ๆ (รู้ประวัติมาบ้างเนื่องจากพ่อสื่อสมัครเล่นเล่าให้ฟัง) เราเข้าไปนั่งดูทีวีในบ้านกับแม่เพราะพี่แกยังไม่โผล่มาที่งาน จนเราได้ยินเสียงเรียกว่า พี่เค้ามาแล้ว ประกอบกับ ไก่ทอดเพิ่งทำเสร็จจากในครัว เราก็เลยเดินถือออกมา....ก็มารู้ทีหลังอีกว่า พี่เค้าคิดว่า..น้องเป็นแม่บ้านแม่เรือนจังเลย เข้าไปขลุกอยู่ในครัวเพื่อทำกับข้าวเลี้ยงแขก O_o หารู้ไม่ว่าชั้นอยากกินมันต่างหาก เลยรีบถืออกมาน่ะ...แต่ที่เราแปลกใจเล็กๆก็คือ หัวไม่เถิกนี่หว่า 555 และก็ดูไม่แก่มาก (พี่เค้าแก่กว่าเรา 7 ขวบ) คืนนั้นก็คุยกันโดยที่มีพ่อแม่เรานั่งอยู่ด้วย โดยส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องงาน เค้าแนะนำให้เราไปสมัครที่บริษัทที่เค้าทำอยู่ ให้นามบัตรเรา ขอเบอร์เราไปเสร็จสรรพ แม่เราก็คุยทั่วไปว่า เนี่ยอีก 3 วันก็จะวันเกิดเราแล้ว จะไปทำบุญที่บ้านย่า งู้นงี้งั้น....ก็มารู้ทีหลังอีกว่า เค้าเม็มชื่อเราตามด้วยวันเกิดในมือถือเค้า ตอนขากลับจากงาน ทำเป็นแนะนำเส้นทางให้พ่อเราว่าทางนี้น่าจะเร็วกว่า และก็ฟอร์มโทรมาถามว่า ถึงบ้านรึยังทางที่บอกรถติดไม๊ (ห้าทุ่มแล้วเนี่ย รถที่ไหนยังติดอยู่อีก พ่อคุ๊ณ) หลังจากวันนั้น ก็ sms หาเราทุกวัน แรกๆก็เป็นแบบทักทายทั่วไป ต่อจากนั้นพี่แกกระหน่ำโทร เช้า สาย บ่าย เย็น ที่ขำก็คือ วันเกิดเรามี missed call จากพี่เค้า 50 กว่าครั้ง เนื่องจากเราปิดเสียงไว้  เห็นมิสคอลตั้งแต่เที่ยงคืนกว่าๆ  กะว่าจะเป็นคนแรกที่จะอวยพรวันเกิดเรา แต่เรานอนแล้ว มาเห็นอีกทีก็เกือบสิบโมงเช้าของอีกวัน (จริงๆแล้วมันคือ สมัยก่อนมันจะมีบริการโทรมาจากระบบ call center ว่าเบอร์นี้มีอะไรจะบอกคุณ และจะเป็นเสียงพี่เค้าพูดฝากไว้ในระบบ ซึ่งเวลาโทรเข้ามามันจะโชว์เป็นเบอร์พี่เค้า) เราเห็นจำนวนมิสคอลก็หันไปบอกแม่ว่า พี่เค้าเป็นไรมากไม๊เนี่ย แต่จริงๆแล้วเป็นระบบอัตโนมัติที่โทรมา 555 พี่เค้ารอเราโทรกลับแค่ตีหนึ่ง เพราะคาดว่าถ้าเราได้รับข้อความเสียงจากเค้าแล้วจะโทรกลับไป แต่กว่าเราจะได้รับ กว่าจะโทรกลับก็บ่ายแล้ว ได้ยินเสียงแอบเซ็งเล็กน้อย หลังจากวันนั้น เวลาจะพาเราไปไหน ก็จะโทรขอพ่อแม่ที่อยู่ ตจว.ให้เราน่ะค่ะ ว่าจะพาเราไปที่นี่ ที่นั่น จะมาส่งที่อพาร์ทเมนต์กี่โมง  และหลังจากนั้นอีก 15 เดือน เราก็แต่งงานกันค่ะ ^^   ปล.เสียงที่เค้าฝากไว้คือ เค้าจะหางานให้เเป็นของวัญวันเกิดเรา (มารู้ทีหลังว่านั่นเป็นแผนของเค้าที่จะให้เราทำอยู่ที่เดียวกันกับเค้าให้ได้ จะได้ไม่รอดพ้นสายตา)  ปัจจุบันนี้เราก็ยังทำงานอยู่ที่เดิมค่ะ แต่พี่เค้านั้นพอแต่งกับเราแล้วก็ลาออกไปอยู่บริษัทอื่น คงรู้ว่า นรกมีจริง เอิ๊กๆๆ แต่เวรกรรมเค้ายังไม่หมดง่ายๆ วนไปเวียนมา อยู่ๆบริษัทที่พี่เค้าทำอยู่ก็ย้ายออฟฟิซมาเจอกับบริษัทเราที่ย้ายมาเหมือนกัน ตึกเดียวกันอีกนั่นแหละ ห่างกันแค่ 6 ชั้นเอง อิๆๆ เนื้อคลี่เจงๆ ลป. ส่วนของวัญอีกอย่างที่เค้าไม่ได้บอกไว้ในข้อความก็คือ ลูกสาววัยวบครึ่งจอมแสบอีก 1 คนค่ะ จากคุณ : January_Diva เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 18:31:24

ความคิดเห็นที่ 71 น่ารักทั้งน้านนนนเลย เล่ามั่งดีกว่า เพิ่งผ่านมาแค่ห้าหกปียังพอจำได้อยู่ รอนานไป มาถามกันอีกที เลยเลขสี่เดี๋ยวจะเบลอจำไม่ได้ อิอิ เราเจอพ่อคิระผ่านไอซีคิว ตอนนั้นทำงานในบริษัทที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตและทำเว็บ เลยได้ใช้เน็ตทั้งวัน ที่สำคัญตอนนั้นใช้ไอซีคิวส่งข้อมูลกัน แบบว่าไม่อยากคุยสดกัน ขนาดโต๊ะใกล้ ๆ กัน ยังส่งคิวให้กันเลย หุหุ เอ้า เข้าเรื่องดีกว่า ตอนนั้นต้นปี 2003 หากจำไม่ผิด พ่อคิระออนไลน์เข้ามา ถามเรื่องท่องเที่ยว (เราใส่ข้อมูลว่าชอบท่องเที่ยว) พ่อคิระมาเที่ยวที่เมืองไทย แต่ไม่ได้เจอกันเพราะไม่ได้คิดอะไรกันมาก เค้าถามเรามา หาข้อมูลที่เที่ยวให้ คุยกันเรื่องปีนหน้าผา ตอนนั้นเรากำลังใจการปีนหน้าผาอยู่ เพราะน้องสาว เป็นนักปีนหน้าผา ก็เลยชักชวนกันเล่น เป็นการออกกำลังกายด้วย ต่อมาก็บอกน้องสาวว่ามีเพื่อนฝรั่งที่สวีเดน น้องสาวเลยฝากซื้ออุปกรณ์ปีนหน้าผายี่ห้อดัง ซึ่งมีขายในเมืองไทยแต่แพงมากด้วยภาษี เราก็เลยอีเมล์ถามพ่อคิระให้ ซึ่งก็ได้ข่าวดีว่าเค้าจะมาเมืองไทยอีกปลายปี 2004 เค้าก็เลยซื้อมาฝาก โดยตอนนั้นพ่อคิระต้องหอบหิ้วอุปกรณ์ปีนหน้าผามาเองอยู่แล้ว เค้าก็สารภาพว่าหากตอนนั้นเรากับน้องหลอกเค้าไม่มารับของ เค้าก็เอาไว้ใช้เองได้อยู่แล้ว เพื่อน ๆ เตือนให้ระวังสาวไทยหลอก อิอิ เราไปรับของกัน มีเรา น้องสาว และแฟนของน้อง ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เจอกัน ไม่ได้ปิ๊งอะไรกันเล้ย เฉย ๆ อ่ะ เรากลัวฝรั่ง และเราไม่กล้าพูดด้วย ตอนแชทนี่ภาษาดีมาก แต่พอให้คุยฟังตัวเองพูดยังไม่รู้เรื่องเลย เสียงเพี้ยนมาก ๆ พ่อคิระนี่ดีหน่อยที่เค้าพยายามตั้งใจฟัง ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย น้องสาวมันโม้ซะมากกว่าเรื่องปีนหน้าผา แนะนำที่ไปปีนกันมั้ง ยิมที่ไปฝึก เราพวกเราก็เลี้ยงข้าวอาหารไทยเป็นการตอบแทนแล้วก็แยกย้ายกันกลับ จากนั้นมา พ่อคิระลงไปหาเพื่อนชาติเดียวที่เป็นครูสอนดำน้ำที่ลันตา ก็คอยโทรมาหาเราเรื่อย ๆ เหมือนจะจีบว่างั้นเถอะ อิอิ จนเค้าชวนให้ลงไปเที่ยวหาที่เกาะลันตา ตอนนั้นบริษัท กำลังระส่ำระสายเรื่องเอาคนออก เพื่อน ๆ ลงไปเที่ยวำน้ำกันแล้ว เราก็เลยตัดสินใจลงไปคืนวันคริสต์มาสพอดี ก็คิดว่าเดี๋ยวไปเจอเพื่อน ๆ เราด้วย แต่ไม่เจอ ไปเจอเพื่อน ๆ ของเค้ามากกว่า แถมเพื่อนชาติเดียวกัน ก็มีแฟนเป็นคนไทยที่ไปเป็นครูสอนดำน้ำด้วย (อดีตดาราสาว เพื่อนพี่หมิวอ่ะ ตอนนี้เปิดร้านไอติมที่หัวหิน) เราได้เครดิตจากพี่เค้าด้วย เห็นพ่อคิระบอกว่า พี่เค้าบอกว่ามารยาทดีจัง ยกมือไหว้ตอนเจอกันด้วย อิอิ พ่อคิระเลยคิดว่าเราคงเป็นคนดี หารู้ไม่ว่าตอนนี้ร้ายยิ่งเสือ กลับตัวไม่ทันแล้วล่ะ อิอิ พอกลับมากทม. เค้ามาพักบ้านแฟนของเพื่อน ทางเราเองไม่นานก็โดนเชิญให้ออกจากงาน และพ่อคิระกับเพื่อนมีเพลนไปเกาะหลีเป๊ะ เราก็ตัดสินใจตามเค้าไปกัน ก็เรียกได้ว่าเป็นทริปเรียนรู้ นิสัยใจคอซึ่งกันและกัน ต่อมาเราร่วมทำทัวร์ท่องเที่ยวผจญภัยและหน้าผาจำลองให้เช่ากับเพื่อนและน้องชาย ก็ได้พ่อคิระนี่แหละเป็นลูกค้าฝรั่งรุ่นแรก ๆ อิอิ เราพาไปเดินป่าลำคลองงู เข้าถ้ำเมืองกาญจน โรยตัวหน้าผาน้ำตก ก็เลยคิดว่าน่าจะร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันได้ ไปแต่ละทริปลำบากลำบน นอนเต็นท์กันซะส่วนใหญ่ หนาวก็หนาว แถมปวดเมื่อยเนื้อตัว เราก็สนุกและชอบ พ่อคิระก็ไม่บ่นอะไรเล้ย เราไม่รู้ว่าเค้าผ่านการผ่าตัดหัวเข่ามา การเดินมาก ๆ การปีนป่าย ทำให้เค้าเจ็บเข่ามาก แต่เค้าก็ว่าสนุกดี หากไม่หลงมากับเรา เค้าก็คงไม่กล้าไปเองแน่ ๆ พอพ่อคิระกลับบ้าน ก็ทำเรื่องให้เราบินมาเที่ยวสวีเดน แตกต่างกันลิบลับดีนะที่มาแค่สามอาทิตย์ เค้าบอกว่าเรานี่แปลกเห็นคนอื่น ๆ ทำเรื่องมา 3 เดือนและต่ออีก 3 เดือน ตอนนั้นคิดแค่ว่ามาเที่ยวมาเห็นพอแล้ว มาอยู่คงไม่ไหว หนาวมาก มาเดือนพย. ด้วย เราพาพ่อคิระกลับไปเมืองไทยด้วย เค้าได้งานจากเพื่อนของเพื่อนที่จะเปิดบริษัทในเมืองไทยพอดี แต่เป็นบริษัทเล็ก ๆ ทำได้แต่ไม่ได้วีซ่าถาวร อยู่ได้แค่ 10 เดือนกว่า ๆ ก็ให้ทำวีซ่ารันคงไม่ไหว ก่อนหน้านั้นบริษัททัวร์ที่เราทำกับเพื่อนก็ไม่คืบหน้าด้วย คนยังไม่กล้าเล่นกันเยอะ ลูกค้าน้อย เลยต้องแยกกัน เรากับพ่อคิระเลยต้องตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่สวีเดนกันนี่แหละ พอมาอยู่ได้เดือนกว่าๆ คิระก็มาพอดี..... ของเรานี่ออกแนวความรักของนักผจญภัยกันมากกว่า หาความหวานไม่เจอเอาซะเลย อิอิ จากคุณ : Lilla Mamma เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 19:43:42

ความคิดเห็นที่ 72 เป็นกระทู้แรกที่อ่านเรื่องราวยาว ๆ ของทุก ๆ คนได้จนจบเลยค่ะ จากคุณ : ปูม้า&ปลาดาว เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 20:53:05

ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เรายังเรียนในมหาวิทยาลัย ปี 1 ตามธรรมเนียม สาวมนุษย์ ย่อม คู่กะหนุ่ม วิดวะ เท่านั้น แม้จะเป็นสาวมนุษย์ ที่หน้า หวก แต่เราก็ยังหวัง ถึง หนุ่ม วิดวะตลอด ณ ม้าหินอ่อน หน้าชมรมหนึ่ง เรานั่งอยู่คนเดียวใต้ต้นไม้ มีคน น่าจะเป็นคนนะ มายืนแอ่นระแน้ รดน้ำต้นไม้ซู่ซ่า อยู่ใกล้ๆ จำเป็นต้องมอง ชายผิวคล้ำ ตัวสูง ผอมๆ ผมหยิก ปากหนาและห้อย หน้าตาอมทุกข์มาก สวมใส่เสื้อนักศึกษาที่สีเหลืองซีดดดดดด กางเกงยีนสีดำซีดดด ดูไม่ออกว่า ขาเดฟ หรือกางเกงมันตัวเล็กไปหว่า รองเท้า ออลสตาร์ สมัยนั้นฮิตโคตร "ไม่ถูกชะตา อย่างแรงงงงงง แรวงงงง" แต่จากนั้นก็ต้องพบเจอกันอีกจนได้ เพราะเขาเป็นสมาชิกชมรม ส่วนเราเพื่อนๆพี่ๆ ลากเข้ามาอยู่ชมรมนี้ด้วย มีชะตา ร่วมกัน คือ เราแอบชอบเพื่อนเขา เลยให้เขาพาไปบอกรัก แต่โดนปฏิเสธกลับมา ช้ำมากมาย ส่วนเขาคบกะสาวคณะเรา แต่คนละสาขา(น่ารักมาก สวยกว่า เรามาก ชำๆๆๆๆ) แต่ฟ้าลิขิตให้เขาต้องแยกทางกัน (ด้วยเหตุผลว่า เขานั้นเป็นคนที่ดีเกินไป) ปลอบกันแล้ว คนหัวอกเดียวกัน ช้ำรัก ไปๆมาๆ จากวันนั้น วันที่รักษาแผลใจกันและกัน มาถึงวันนี้ วันที่มีกันและกัน พร้อมกับคำว่าครอบครัว ลูกสาว 1 และที่อยู่ในท้องอีก 1 เดือน ปล.เคยถามเขาถึงวันแรก เขาบอกว่า จำได้ ยังคิดในใจว่า "คิดว่าสวยมากรึไงยะหล่อน มานั่งเล่น มิวสิควิดีโออยู่ได้"  "_- ปล.2 สุดท้าย ก็ไม่ได้หนุ่มวิดวะอยู่ดี เขาเป็น "หนุ่มเกษตรศาสตร์" แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 53 22:54:51 จากคุณ : autano เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 22:53:24

ความคิดเห็นที่ 74 ว่าจะไม่เล่า เพราะเราไม่หวาน แค่อยากจะระลึกความทรงจำสักเล็กน้อยค่ะ ปี 44 อกหักมากมาย ไปดูหมอ เค้าว่าจะมีคนอายุ 36 เข้ามา ตอนนั้นเรายังไม่ 30 พี่ที่สนิทกันเลยเปิดแคตตาล๊อกดูให้ว่าเพื่อนสามีเค้ายังมีใครอีกน๊าที่เข้าหลักเกณฑ์ แล้วก็ให้เบอร์โทรเราไป รู้มั้ยวันที่เค้าโทรมาวันแรก เราเข้าห้องน้ำอยู่อ่ะ ก็เริ่มคุยๆๆๆๆ แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ คุยกันยันแบตหมดก็เคย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ด้วยใจยังอยู่ที่เดิมกับคนเดิมๆ คุยกันอยู่หลายเดือนจนถึงวันที่นัดเจอกันที่บ้านพี่คนดังกล่าว เค้าก็มาสาย แถมภาพที่ได้ฟังกะตัวจริงๆ มันไม่เปคแฮะ (ได้ฟังเรื่องราวของเค้ามาตั้งกะก่อนอกหักสัก 3-4ปี) คนอะไรไม่รู้ขนแขนยาวมากมาย เห็นแล้วน่ากลัว มิหนำซ้ำ ของที่เค้าเอามาฝากครั้งแรกที่เจอคืออะไรรู้มั๊ยคะ "ปุ๋ยคอก" ค่ะ เพราะตอนช่วงที่เริ่มคุยกันก็จะคุยกันเรื่องต้นไม้ใบหญ้า รักสัตว์รักธรรมชาติ แต่ไม่คิดว่าจะมีคนรักธรรมชาติสุดโต่งขนาดนี้ 555 หลังจากนั้นได้ไปดูหมออีกครั้งก่อนที่จะนัดไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน หมอดูก็ว่าใจเค้ามาอยู่กะเรา (ไพ่ป๊อก) เรายังขำซะเกือบตกเก้าอี้ คนอะไรจะใจง่าย ก็ไม่ได้เชื่ออะไร พอไปเที่ยวเราก็ดื่มซะมากมาย ดื่มแบบว่าตื่นเช้ามาก็ดื่มต่อเลย ไม่ได้ไว้ฟอร์มเลย ปรากฎว่าถูกใจพ่อเจ้าประคุณแฮะ เคยถามเค้าว่าชอบเราตรงไหน เค้าว่าผู้หญิงอะไรไม่รู้ ห้าวดี เลยไม่รู้ว่ามันด่าหรือชม อิอิ หลังจากนั้นก็สานสัมพันธ์กันมาเรื่อยๆ อยู่หลายปี จนได้ตกร่องปล่องชิ้น มีลูกชายหน้าตาดีมาหนึ่งหน่ออายุ 8 เดือนแล้วคร๊าบ ก็ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าบุพเพจะอาละวาดให้มาเจอกันจนได้ ขนแขนที่ว่าน่ากลัว ตอนนี้กลับดูเซ็กซี่แฮะ 555 จากคุณ : thatsani เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:41:05

ความคิดเห็นที่ 75 ผ่านมาเจอค่ะ แต่ละเรื่องน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย ของคาสเตเจอแฟนตอนกำลังอกหักขั้นรุนแรง แต่ทำเป็นไม่เจ็บไม่รู้สึกอะไร วันนั้นไปเที่ยวกับเพื่อน พอเหล้าเข้าปาก อารมณ์แท้ ๆ เลยออกค่ะ แฟนเป็นเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในสายตาแค่ความเป็นเพื่อนร่วมงานจริง ๆ วันนั้นเรานัดกับเพื่อนสาวว่าจะไปเที่ยวตามประสาสาวโสด (เลิกงานไปก็เปลี่ยนเสื้อผ้าไปเที่ยวเลย น้ำท่าไม่ยอมอาบ อิอิ) บังเอิญไปเจอฮีที่ที่เที่ยวและเพื่อนร่วมงานอีกกลุ่มหนึ่งก็เลยจอยโต๊ะกัน ภาพตัดไปทีคาสเตเริ่มดื่มเหล้าปะปนชนิดกัน และด้วยความที่ไปกับเพื่อนสาวที่เป็นคนคอยดูแลเราตลอดเลยดื่มซะเมาปลิ้น ได้เวลาผับเลิก .... เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ชิ่งไปหมดแล้วส่วนเพื่อนสาวก็กำลังกลึ่มได้ที่เหมือนกัน ลงท้ายที่เพื่อนสาวให้ฮีไปส่งเพื่อนสาวกลางทางและฝากฝังให้ไปส่งคาสเตด้วย ระหว่างที่จอดรถรอคนมารับเพื่อนสาว ดิฉันแหวะออกมาเต็มถนนเลย (ดีนะยังมีสติเปิดประตูมาแหวะนอกรถ) ประกอบกับเพิ่งโดนเพื่อนสาวบิวด์ให้ลืม ผช คนก่อนดิฉันเลยร้องไห้ไป อ้วกไป (น่าเกลียดโคดๆ) กลับมานอนห้องเมา ๆ แต่วันรุ่งขึ้น ผช นัดเจอ กลับกลายเป็นว่าขอคบกัน ^^" ถึงตอนนี้ก็สิบห้าเดือนแล้ว มั่นใจใน ผช คนนี้แล้ว ..... เค้ารอตัวเองมาขออยู่นะ... จากคุณ : castellano เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 23:51:02

ความคิดเห็นที่ 76   ช้าไปป่าวแต่อยากเล่าอ่ะ ของลูกกวาดเจอตอนอยู่มหาวิทยาลัยปี 1 ขึ้นปี 2 แฟนห่างกัน 10 ปี นิดๆค่ะ เจอครั้งแรกที่งานครบรอบ 60 ปีคุณพ่อค่ะ แม่ให้เค้ามาเป็นแขกในงาน แล้วบอกให้เราเข้าไปทำความรู้จัก เราก็ไปทำความรู้จักค่ะ กล่าว สวัสดีค่ะ ...จบ แค่นั้น ไม่สนในเพราะ ไม่นิยมคนแก่ ไม่นิยมคลุมถุงชน ไม่นิยมพวกสำอางค์ เพราะมหาลัยที่เราเรียนมีแต่คนหล่อๆ เท่ๆ รวย ขับรถสปอร์ท ดารง ดารา ฝรั่ง ลูกครึ่ง มีทุกสัญชาติ แล้วเราก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรด้วย ประมาณว่าเลือกได้เลย (เข้าข้างตัวเองสุดๆ) จากนั้นเค้าก็ขอเบอร์โทรจากแม่โดยมีแม่เป็นแม่สื่อให้ พยายามทำทุกวิถีทาง โทรเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน มาหาทุกวันเท่าที่ทำได้ มานั่งเฝ้าบ้านให้ก็เอา มานั่งคอยเราหลับกว่าจะตื่นก็หลายชั่วโมง มาแล้วเราเดินออกไปนอกบ้านขึ้นรถออกไปข้างนอกให้เค้านั่งอยู่บ้านก็บ่อย เค้าชอบผู้หญิงเรียบร้อย ก็เปรี้ยวซะ ประมาณว่าเกลียดอะไรชั้นทำหมด อยากบอกว่าทนมากกกกก เป็นคนอื่นถอยไปนานแล้ว จนแม่บอกว่าถ้าไม่ชอบพี่เค้าก็บอกเค้าไปเถอะว่าไม่ชอบ แต่ในใจไม่รู้คิดอะไรอยากแกล้งไปนานๆ จริงๆแล้วพี่เค้าเป็นคนดีมากนะคะ เสมอต้นเสมอปลาย ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่มีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยว จนเคยคิดอยู่ว่าเป็นเกย์ป่าว ดูจากประวัติการเรียน เพื่อน หน้าที่การงานถือว่าดีทุกอย่างต่างกับเราลิบเลย พอนานๆเข้าเริ่มใจอ่อนเค้าชวนไปดูหนังก็ไปกับเค้าหน่อย เรื่องเดียวไม่ตายหรอก จำได้ว่าวันนั้นเลือกหนังผีโหดด้วยจำเรื่องไม่ได้ เพราะเราชอบดูหนังผีและเค้ากลัว เห็นอยู่ว่าตอนเลือกเค้าถึงกลับกลืนน้ำลายเลยแหล่ะ แต่ก็ยังนิ่งๆอยู่ แล้วก็ไปกินข้าวกัน วันนั้นจำได้เลยเดินถึงกลางห้างชั้นล่างสุด คนเยอะๆ เค้าบอกให้หยุดแล้วคุกเข่าหน้าเรา บอกว่าเป็นแฟนกับพี่นะ เท่านั้นแหล่ะ อายยยย มากกกก คนทั้งห้างเค้าหันมามองเป็นตาเดียวกันหมดเลย ก็บอกให้ลุกขึ้น อายเค้า พี่แกก็บอกว่าไม่ลุกจนกว่าเราจะเป็นแฟนกับเค้า ด้วยความอายก็เลย ตกลงไป แล้วเค้าก็เอาแหวนรุ่น(แฟนเราเป็นทหารเรือค่ะ) มาให้ใส่ แล้วก็ลุก เท่านั้นแหล่ะคนปรบมือกันเป็นแถวเลย วันนั้นเลยไม่ได้ดูหนังค่ะ อาย กลับบ้าน จนตอนนี้ก็ผ่านมา 8 ปีแล้วค่ะ ตอนนี้ผลผลิต 1 หน่อ น้องแคลฟี่เอง ตอนนี้ 5 เดือนครึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ยังรักกันดีอยู่ถึงแม้ว่าน้ำหนักจะขึ้นมาคยละ 10 กว่าโล พี่เค้าก็ยังบอกว่าเราสวยอยู่เฮ้อออ คุยกันแล้วค่ะว่าจะต้องผอมเหมือนเดิมให้ได้ เพราะเดี๋ยวลูกไปโรงเรียนน้องจะได้ภูมิใจว่าพ่อแม่ยังสวย-หล่อกันอยู่ ตอนนี้ยังไม่รู้เรื่องหนูมีแม่เป็นแร้งก่อนนะลูกนะ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 53 01:15:14 จากคุณ : แม่น้องแคลฟี่ (Navy Family) เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 00:41:25

ความคิดเห็นที่ 77 T-T น้ำท่วมค่ะ    หลวงเค้าเลยเอาใส่กระสอบมาแจก พร้อมกับมาม่า จากคุณ : Parakeet Heliconia เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 01:42:05

ความคิดเห็นที่ 78 อุ๊ย ขึ้นหิ้งด้วยอ่ะ กรี๊ดดดดดดด ดีใจๆๆๆๆ  ครั้งแรกที่ทำตัวมีประโยชน์ คุณ kateking รอก่อนค่ะ ใจเย็นๆ นะ เดี๋ยวตั้งกระทู้ตามที่ขอมาให้ เรทติ้งท่าจะกระฉูด ได้ขึ้นหิ้ง 3 ปีซ้อน ถ้ารอไม่ไหวพิมพ์ใส่เวิร์ดติดเครื่องรอไว้ก่อนเลยก็ได้ คุณ Pim_ลภัส ได้มาเพราะความสามารถล้วนๆ ถ้าวันนั้นไม่แต่งตัวแบบนั้นก็ไม่ได้หรอก ทุกวันนี้ยังถามอยู่เลยว่า ทำไมแกแต่งตัวแบบนั้นไปเที่ยวอ่ะ แล้วแอบมาโฆษณาแฝง เดี๋ยวแจ้งยึดอมยิ้มเลยนี่ คุณ Double07 อยากให้ปั๋วหนูคิดแบบลุงมั่งจัง คุณ MaE P@@H FaH  จ้ะ คุณน้อง แล้วเรื่องของตัวเองหล่ะ เล่ามั่งสิ คุณ kookgee! คุณ boombelle เรื่องของคุณเรนฟูเป็นแบบมันกับฮาค่ะ ตอนนี้คุณเรนฟูไปรีฮันนีมูนที่เวียดนาม เดี๋ยวกลับมาแล้วจะจิกให้มาโพสลงใหม่นะคะ คุณ patapril อย่าเอาเปรียบชาวบ้านสิคะ เล่าด้วย คุณ แม่น้องเบนส์ รออยู่นะคะ คุณ คนสวยเมืองนนท์ สั้นไปหรือเปล่า ความยาว 12 ปี พิมพ์ออกมาได้เท่านี้เองเหรอ คุณ ben_benjee อันนี้รักแท้เพราะใกล้ชิด คุณ Lord of Rabbit เซฟไว้ไม่ทันค่ะ ไม่นึกว่าเรนฟูจะทำแบบนี้ เดี๋ยวชีกลับมาจะจิกมาโพสใหม่นะคะ กระทู้นี้ชีชนะเลิศตามเคยค่ะ คุณ หนูชล แผนของลูกพี่หรือเปล่า ฝากปลาย่างไว้กับแมวอย่างที่ ลุง Double07 ว่าจริงๆ ด้วย คุณ January_Diva แผนของแม่สื่อก็เวิร์คใช่ไหมคะ คุณ Lilla Mamma ก็หวานตอนไปผจญภัยด้วยกันไง เราชอบจังเรื่องแบบนี้ ไปลุยๆ เรียนรู้นิสัยใจคอกันและกัน จะได้รู้ด้วยว่าชอบกิจกรรมเหมือนกันไหม พ่อบีบีก็ไปผจญภัยกับเรานะ ไปนั่งเฝ้าเรากินเหล้ากับเพื่อนทั้งคืนไม่บ่นสักแอะ คริ คริ คุณ ปูม้า&ปลาดาว อ่านเสร็จแล้ว เล่าเรื่องของตัวเองมั่งสิคะ คุณ autano ส่วนใหญ่คนไม่ถูกชะตาหรือทะเลาะกันแต่แรก มักจะลงเอยด้วยกันตอนท้ายนะ คุณ thatsani น่ารักดีค่ะ เอาปุ๋ยคอกมาเป็นของฝาก ครีเอทสุดๆ คุณ castellano ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ แต่งเมื่อไหร่เอาข่าวมาบอกที่ห้องนี้ด้วยนะ คุณ แม่น้องแคลฟี่ (Navy Family) ถ้าพี่เขาไม่กล้าทำแบบนั้น ก็ไม่มีวันนี้เสียทีสิ แต่อย่าพูดถึงเรื่องน้ำหนักส่วนเกินค่ะ มันแสลงใจ คุณ Parakeet Heliconia น้ำท่วมแถวไหนคะ จะไปหาบ้านอยู่แถวนั้น จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 05:45:47

ความคิดเห็นที่ 79   อ่านของ ดร.เอื้องไม่ทันอ้ะ แง๊.............. เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มีระเบิดหัวเราะอยู่หน้าคอมพ์กะหนุ่มๆ(เหลือ)น้อย...แหมๆๆๆกลัวซ้อมาอ่านกันล่ะซี่ อิ อิ แซวพอป็นพิธีแล้วก็เล่าบ้างตามกติกา ของเอิร์ธเป็นแบบผู้ใหญ่จัดให้....รู้เห็นกันหมดรวมทั้งสามีด้วยมีเราคนเดียวที่ไม่รู้....... ตอนนั้นเรียนจบหมาดๆยังไม่รับปริญญาเลยก็โดนคุณลุงเรียกไปหาที่ทำงานบอกจะหางานให้ เราก็ไปพอไปถึงคุณลุงก็เรียกเค้ามาคุยด้วยแล้วมอบหมายให้คอยรับส่งเรา(ตอนนั้นเรียนเนติฯต่อ)เค้าก็มาทุกวันเช้าเย็นตกกลางคืนก็โทรหาทุกวัน...เราเองก็พาซื่อไม่เคยคิดเล้ยว่าเค้าจีบ..ก็เล่นคุยกันแต่เรื่องเรียนเรื่องสอบ จนผ่านมาแค่7วันก่อนถึงบ้านพี่แกโพล่งมาว่าหนูเป็นแฟนพี่แล้วนะ เราก็งงถามเค้าไปว่าบ้าเปล่าเนี่ย??เค้าก็สวนมาว่าเค้าไม่อยากเสียเวลาคบไปเรื่อยๆ ไม่อยากมีน้องแต่อยากเป็นแฟนเป็นสามีถ้าคบก็ต้องคบเพิ่อจะแต่งงานกัน เราก็ว่าเค้าบ้าเหรอเพิ่งรู้จักกันเองไม่เอาหรอกยังไม่อยากมีแฟนเค้าเลยตอบกลับมาว่าถ้ายังงั้นเราก็คงไม่ได้เจอกันแล้วเพราะถ้าไม่ได้เป็นแฟนเค้าก็ไม่สามารถเป็นพี่ชายให้เราได้หรอกขอให้เราโชคดี...ลาก่อน วันนั้นเค้ามาส่งถึงบ้านเราก็ลงรถแบบงงๆเบลอๆแล้วเค้าก็หายไปเลย3วัน พอวันที่3เค้าโทรหาเราเรารับสายแล้วร้องไห้โฮๆเลย..ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไร เค้าก็หัวเราะแล้วบอกว่ารักเค้าแล้วนี่แต่ทำเป็นวางฟอร์ม เค้าเล่าว่าคุณลุงกับคุณแม่ยุให้เค้าจีบเราแล้วเค้าเองก็ปลื้มเราด้วยแต่เค้าใจร้อนเลยใช้วิธีนี้ จากนั้นเราก็คบกันมา5ปีก็แต่งงาน(21มี.ค.นี้ครบรอบ2ปี)มีลูกชายที่น่ารักอายุ11เดือน1คน ทุกวันนี้เค้าก็ยังเสมอต้นเสมอปลายดูแลเรายังไงก็ดูแลอย่างนั้นเป็นสามีที่ดีและเป็นพ่อที่ประเสริฐเราเองขอบคุณคุณลุงและคุณแม่เสมอๆที่ทำให้เราได้มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุขอย่างนี้ จบแล้วค่ะ จากคุณ : สร้อยทองคล้องรักเรา เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 08:55:14

ความคิดเห็นที่ 80 กระทู้ดูด Give และทำให้ยิ้มจนแก้มปริ จะแอบชิ่งหนีไม่เล่ากลัวโดนแม่ ๆ ในห้องนี้ดุเอาค่ะ เพราะเป็นพวกแอบสิง อ่านไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยแสดงความเห็น เรื่องยาวหน่อยนะคะ 8 ปีที่แล้วจบตรีใหม่ ๆ ก็ไปสมัครเรียนป.โททันทีค่ะ(เป็นความคิดที่ผิด) เราเรียนภาษากันก่อน 6 เดือนและค่อยสอบ เพราะวิชาที่เราเรียนกันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด วันแรกที่เจอ"พ่อตาแป๋ว" เป็นวันที่สิ้นหวังในความรักมากถึงมากที่สุด ถึงขนาดรำพึงกับตัวเองว่า "ผู้ชายดี ๆ บนโลกนี้ตายกันหมดแล้วหรืออย่างไร เทวดาถึงไม่ส่งลงมาสักคนให้เรามั่ง" อีก 5 นาทีอาจารย์จะเข้าสอน พ่อคนนี้เค้าก็เดินมานั่งฝั่งตรงข้าม เรียนไปประมาณ 2 ครั้งแล้ว คลาดกันตลอด วินาทีแรกที่เห็นคนนี้ "โอ้แม่เจ้า มีคนแบบนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอ ผิวขาว ตาโต ตัดผมรองทรง ...." เพื่อนๆ ก็แนะนำให้รู้จักกันค่ะ แต่เราคิดดีแล้วว่าเป็นเพื่อนกันน่าจะดีที่สุดก็เลยหยุดคิด "ประหลาด ๆ " และเป็นเพื่อนกันเค้าประมาณ 1 ปี จู่ ๆ พ่อคุณก็โทรเข้ามือถือ "เธอ ๆ มีอะไรจะบอกล่ะ เราไปกิน MK กะที่บ้านมา" คนฟังทำหน้างง " แล้วไงอ่ะ" "ทานอาหารทะเลมาเผื่อแล้วนะ" (เมย์เป็นคนแพ้อาหารทะเลทุกชนิด ยกเว้นปลาอย่างเดียวค่ะ) "เออ เออ ขอบใจนะ มีอะไรอีกมั้ยอ่ะ" (คุยนานกลัวเผลอใจ ไม่ใช่อะไรหรอก) "มี มีเยอะเลย ....." และผู้ชายขรึม ๆ พูดน้อย ต่อยหนักก็ชวนเราคุยอยู่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทำเอาเรางงว่า เกิดอะไรขึ้นเนี่ย "เธอ เธอ ขอโทรมาหาทุกวันได้ป่าว" "ทำไมอ่ะ วันนี้ก็คุยเยอะแล้วนะ ตั้งแต่เราเป็นเพื่อนกันมายังไม่เคยคุยนานขนาดนี้เลย" ไปเรียน เพื่อน ๆ ตัวดีก็เอากระเป๋าวางซะเต็มห้อง ไม่ยอมให้เรานั่งคู่กับใครนอกจากคนนี้ ทานข้าวก็ดันให้เรานั่งใกล้ ๆ กัน ไปติวหนังสือแทนที่จะได้อ่านให้รู้เรื่องก็แซวเรื่องคนนี้ จนเรายกมือบอกกับทุกคนว่า "หยุดเลย เลิกแซวได้แล้ว มันไม่มีอะไรซะหน่อย แบบนี้ผู้ชายเค้าเสียหายนะ ไม่ใช่เรา ฮ่าฮ่าฮ่า" ทำเป็นขำ เพื่อนไม่หยุด หันไปถามผู้ชายหน้านิ่ง "โบ้ ไม่มีอะไรจริงป่าว" "มี มีเยอะเลย ตั้งใจมากว่าจะจีบคนนี้แบบจริง ๆ จัง ๆ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป" เพื่อนเฮ เราโวยวายเสียงดัง "เฮ้ยยยย ไม่ได้นะ อย่าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น มันไม่ดี คนอื่นจะเข้าใจผิดกันหมด ให้มันเป็นเรื่องขำ ๆ ในกลุ่มก็พอแล้ว" ตอบมาหน้าตาเฉย" ไม่ล้อเล่น จีบจริง ยอมให้จีบไม๊ล่ะ...." สวรรค์โปรดช่วยด้วยเถอะ ใครก็ได้เอาตานี่ไปเก็บที ก่อนที่หน้าอิชั้นจะระเบิดออกมา ตอบไปแบบเสียไม่ได้ "คิดดูก่อน อยากตอบเมื่อไหร่จะตอบ" "ได้ แต่เราขอโทรหาเธอทุกวันเหมือนเดิมนะ ตกลงไม๊" ไม่ได้ตอบคำถามนี้ค่ะ เพราะเพื่อนตัวดีโห่ฮาลั่นร้าน หาว่าเราแอบคุยกันทุกวันอยู่แล้วให้มาลุ้นตัวโก่ง เป็นแฟนกัน 5 ปี แต่งงานมาแล้ว 2 ปีเต็ม ของขวัญแต่งงานครบรอบ 2 ปีคือเอาที่ Test ตั้งครรภ์ที่มี 2 ขีดไปให้ด้วยความดีใจ ว่าที่คุณพ่อกระโดดไปโดดมาด้วยความดีใจว่า ตัวเองก็มี น้ำยาเหมือนกัน ไม่คิดว่าจะรักใครได้มากเท่านี้อีกแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:29:38

ความคิดเห็นที่ 81 ยังไม่ได้อ่านของคุณ rainfull เลยค๊า มาไม่ทัน อยากอ่าน ๆ ค๊า ^_^ จากคุณ : แม่ยูนีฟกะน้ำหวาน เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 10:55:25

ความคิดเห็นที่ 82 หวาน ๆ โรมานติกทั้งน้านเลย เลยแจกกิฟให้เฉพาะเพื่อน ๆ ที่มีรูปนะคะ เพราะว่าตั้งใจให้สำหรับคนที่เปิดเผยตัว อิ อิ สวย ๆ หล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย จากคุณ : tugsinat เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 11:43:25

ความคิดเห็นที่ 83 ของเราเจอกับสุดที่รัก ตอนไปเรียนต่อคะ เจอกันในเว็บปาร์ตี้ของมหาลัย ที่คนท้องถิ่นใช้คุยกัน เขาตอนนั้นเรียนเอก Asain study และทำรายงานเรื่องการเมืองไทยอยู่ ก็เลยแอ็ดมาถาม อะไรบางอย่าง แต่ด้วยความที่เขาไม่ชอบการคุยกันผ่านคอม ออนไลด์ คุยกันอาทิตย์นึงประมาณห้าครั้ง ด้วยข้อความสั้นๆๆ เขาก็ขอพบสัมภาษณ์เลย ปรากฎว่าเราไปถูกชะตา เขาอย่างจัง ส่วนเรานั้นเฉยๆๆ ไม่ได้ปิ๊งอะไรมากมาย เพราะเขายุน้อยกว่า แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้น คุยกันไป คุยกันมา เขาก็ขอเราเป็นแฟน ซะงั้น และ ขอแต่งงานตั้งแต่เดือนเเรก ที่คบกัน แต่ตอนนั้น ยังเด็กคะ เรียนกันทั้งคู่ด้วย ปีนี้พึ่งเรียนจบ พร้อมเมื่อไหร่ก็จะแต่ง ทันที รวมเวลาที่คบกัน ก็สามปีกว่าคะ มีลูก(แมวเหมียว) ด้วยกันหนึ่งตัว เขาเองตอนนี้ย้ายมาอยู่ไทยกับเราได้ปีนึงแล้ว เพราะพ่อเราอยากให้เรากลับมาเมืองไทย มีแต่เรื่องวุ่นๆๆ บ้างแต่ก็ไม่ได้ ท้อคะ ตอนนี้กำลังสร้างตัวกันอยู่เพราะเขาอยากสร้างครอบครัวที่ออส มากกว่าที่ไทย แต่พ่อเราจะวางใจก็ต่อเมื่อ ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งก่อน สู้ๆๆนะคะที่รัก จากคุณ : yu เองคะ เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 13:18:36

ความคิดเห็นที่ 84 โอย ๆ อ่านจากล่างขึ้นไปถึง * 74 ขำมากมาย ขนแขนเซ็กซี่ซะงั้น ไปอ่านต่อก่อนค่ะ จากคุณ : MONROVIA เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 13:51:35

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านขึ้นไปถึง *56    ช่างมั่นใจมาก จากคุณ : MONROVIA เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 13:56:35

ความคิดเห็นที่ 86 เอ้จ้ะ เจอ *55 พี่ไม่มีรมณ์อ่านต่อเลยอ่ะ  บ๊ายบายจ้ะ จากคุณ : MONROVIA เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 13:57:45

ความคิดเห็นที่ 88 อืมม มันก็ขึ้นอยู่กับว่า พบกับแฟนคนไหน คิดไม่ออก จากคุณ : ภูมิพลัง เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 17:37:24

ความคิดเห็นที่ 89 คุณ สร้อยทองคล้องรักเรา มารยาผู้ชายนี่น่ากลัวกว่าผู้หญิงหลายเท่านะคะ อิ อิ คุณ เลขาหน้าใส ยินดีกับของขวัญครบรอบแต่งงานด้วยนะคะ อีก 9 เดือนเอามาโชว์ด้วยนะ คุณ แม่ยูนีฟกะน้ำหวาน เรียกร้องกันเยอะๆ ค่ะ เดี๋ยวเรนฟูจะได้เอามาลงใหม่ คุณ tugsinat ขอบคุณค่ะ คุณ yu เองคะ สู้ๆ นะคะ ขอให้ฝ่าด่านคุณพ่อสำเร็จเร็วๆ คุณ MONROVIA เที่ยวนี้ป้าเค้าป่วนกระทู้อย่างเดียวค่ะ ถ้ากระทู้ด่าผัวเมื่อไหร่ ป้าแกจะเม้นท์คนเดียว 50 คห.เป็นอย่างน้อย คุณ ภูมิพลัง คนล่าสุดหรือคนที่ประทับใจที่สุดก็ได้ค่ะ จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 05:16:16

ความคิดเห็นที่ 90 ขอแชร์บ้างคะ... เจอกับสามี(แก่กว่า 9 ปี)ทางเน็ต ตอนเรียนอยู่ปี 3 มั้ง คุยกันถูกคอ(คืนเดียว) รุ่งเช้าก็นัดเจอกันเลย55 แต่ก็คบกันได้เดือนเดียวมั้ง แบบว่าเค้าทำธุรกิจของที่บ้านไม่ค่อยมีเวลาให้ ทั้งๆ ที่เราก็ยอมโดดเรียนไปหาเค้าตลอด อีกอย่างตอนนั้นยังอารมณ์แบบเด็ก ๆ ก็เลยไม่ยอมเข้าใจ งอแง ไม่อาวดีกว่า ก็เลยหันไปคบคนอื่นแทน จนเวลาล่วงเลยผ่านมาอีก 4 ปี เราก็เลิกกับแฟนเก่า เป็นโสดมา 1 ปี ก็ได้รับโทรศัพท์จากสามี (ก่อนหน้าวันวาเลนไทน์) ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่มีเบอร์เค้าแล้ว แต่เค้าบอกว่ามือถือเครื่องเก่าของเค้ายังมีเบอร์เราอยู่ และพอดีว่าเค้าฝันถึงเรา ก็เลยอยากโทรมาคุยด้วย ตอนเย็นเค้าก็มารับที่ที่ทำงานแล้วก็ไปบ้านเค้า หลังจากนั้นเราก็มารื้อฟื้นความหลังกัน....55 ก็คบกันกันได้ครึ่งปีมั้ง ก็แพลนแต่งงานกันเลยค่า.. จนถึงตอนนี้ก็แต่งงานมาได้ปีครึ่งแล้ว กำลังจะมีเบบี๋คนแรกจ้า!!! จากคุณ : B&N (Beauty & theNick) เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 11:54:30

ความคิดเห็นที่ 91 เข้ามาอิจฉาอย่างเดียว ไม่มีเรื่องจะแชร์ค่ะ >_< จากคุณ : หมาเก้อ เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 53 22:55:11

ความคิดเห็นที่ 92 กระทู้ คห ยังไม่ถึง 100 เลยอ่ะ จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 02:54:11

ความคิดเห็นที่ 93 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชั้นเพิ่งเห็นทู้นี้อะยัยเอ้ เรื่องชั้นไม่สนุกงะ ไม่เหล้านะกัวมาววววววววววววววววววววววววววว จากคุณ : ษิตรา เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 12:50:24

ความคิดเห็นที่ 94 ไปอยู่ไหนมา? จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 13:55:31

ความคิดเห็นที่ 95 เข้่ามาอ่านของชาวบ้าน อ่านแล้วอารมณ์ดีจัง ...ช่วยเข้ามาเล่ากันอีกเยอะ ๆ นะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 53 19:22:50

ความคิดเห็นที่ 96 คุณ B&N (Beauty & theNick) อย่างนี้เรียกบุพเพสันนิวาสใช่ไหมคะ ยินดีด้วยกับเบบี๋นะคะ คุณ หมาเก้อ มีแล้วค่อยมาแชร์ก็ได้ค่ะ คุณ p-annipe นั่นดิ เรทติ้งไม่ดีเลย แถมเหล่าหน้าม้าก็เกินครึ่งเข้าไปแล้ว คุณ ษิตรา รู้แล้ว ที่ให้ลุงปุ้ยกินยาแล้ว........ใช่ไหม ไม่ต้องเล่าก็ได้ คุณ Double07 สงสัยป้าเค้าคงไปเที่ยวยาวค่ะ หรือไม่ก็แอบใช้เน็ตตอนทำงานไม่ได้ คุณ NATTI นัทตี้ ที่มาวนเวียนแถวนี้รอ 100 ใช่ไหม จากคุณ : sweetpee เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 04:38:44

ความคิดเห็นที่ 97 มารับค่าหน้าม้า ....... อิอิ จากคุณ : Mimi Mice เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 06:11:41

ความคิดเห็นที่ 98 มาแอบอ่านและช่วยดันกระทู้ให้ถึง 100 ไวๆจ้า จากคุณ : ลูกปัดสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 07:14:41

ความคิดเห็นที่ 99 ลุ้น 99 ใครจะเป็นนางงาม 100 เร็วๆหน่อย ต่อกระทู้ให้แล้ว จากคุณ : Double07 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 10:04:18

ความคิดเห็นที่ 100 แอบเข้ามาอ่านค่ะ เสียดาย มาไม่ทันพี่เอื้อง ลบซะก่อน ส่วนของเราก็ไม่มีไรมาก ก็อยู่บริษัทฯ เดียวกัน เดินสวนกันไปมาหลายปี ไม่เคยคิดจะมอง (เพราะ He เป็นคนหน้าตาธรรมดามาก เลยไม่สะดุด) และเพราะพี่สะใภ้ที่อยู่บริษัทฯ เดียวกันนี้แหล่ะ บอกไว้ว่า "คนในบริษัทฯ ไม่ต้องหามาเป็นแฟนเลยนะ แมร่งไม่มีดีสักคน" ??? อ้าว งงซิ งานนี้ก็เลยมองแต่คนนอกอย่างเดียวเลย แต่คนในบริษัทฯ ก็มีโฉบเข้ามาจีบเหมือนกัน แบบว่าตอนสาวๆ น่ะ สวยเลือกได้อ่ะ แต่ตอนนั้นก็มีแฟนอยู่แล้ว คบกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่ก็ด้วยความห่าง ก็เลยยิ่งห่างออกไปเรื่อยๆ จนเลิกกันไปโดยปริยาย มีอยู่วันนึง เผอิญอีตาคนเนี้ย คุยแมสเซสมาที่หน้าจอคอมฯ เรื่องเบิกพัสดุอะไรนี่แหล่ะ (สมัยนั้นเค๊าไม่ต้องโทรหากันไง สามารถคุยกันที่หน้าจอคอมฯ เหมือน msn ในสมัยนี้) เราก็เลยงง ก็เลยถามกลับไปว่า คือไรเหรอ?? สรุปแกบอกว่า คุยผิดคน จริงๆ จะส่งหาอีกคน หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกันมาตลอด จนตอนนี้มียัยตัวแสบ 1 คน 1.7 ขวบแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 53 11:04:10 จากคุณ : F-NOK เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 10:42:56

ความคิดเห็นที่ 101 เค้าอยากมี วันรักแรกพบกับแฟนบ้าง TT^TT จากคุณ : ความเหงาล้อมเราไว้หมดแล้ว เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 10:59:09

ความคิดเห็นที่ 102 ของผมนี่แปลกครับ เพื่อนยังว่าแปลก ผมเป็นสจ๊วตอยู่สายการบินเครื่องใหม่ป้ายแดง กำลังบริการผู้โดยสารอย่างถึงอกถึงใจ พอถึงช่วงเวลาเดินตรวจผู้โดยสาร ก็มีผู้โดยสารท่านนึงมาทัก แล้วถามว่าเพลงนี้ชื่ออะไร ( บนเครื่องเปิดเพลงให้ผู้โดยสารฟังแต่ไม่มีชื่อเพลงครับเป็นการเปิดแบบแรนดอมตามช่อง ) ผมก็ตอบว่าไม่ทราบแต่จะไปถามเพื่อนร่วมงานให้ แต่ละคนก็ไม่รู้เลยเดินไปบอกอยากเกรงใจว่า ไม่มีใครรู้เลยครับ เค้าก็บอกว่า งั้นถ้าไม่รังเกียจรบกวนกลับไปที่ออฟฟิตแล้วถามว่าเพลงนี้ชื่ออะไร พร้อมส่ง Email กลับหาเค้าด้วย ผมก็ไปถามคนโน้นคนนี้ก็ไม่มีใครรู้ จนค่อย ๆ แกะเนื้อเพลงที่ตัวเองใช้โทรศัพท์อัดไว้ทีละคำหาในอินเตอร์เนต จนได้ชื่อเพลงออกมา แล้ว search ที่ youtube เพลงนี้ตั้งแต่ปี 1978 ผมเกิด 1986 คิดดูดิจะรู้จักได้ไง เพลงชื่อว่า When will I see you again ผมส่งอีเมล์ให้เค้าโดยไม่ได้คิดไร เท่านั้นแหละ อีเมล์เค้าตอบกลับมาว่า เค้ารู้จักชื่อเพลงนี้นะ แล้วเค้าไม่อยากได้ชื่อเพลงนี้หรอก แต่ชื่อเพลงมันเป็นคำถามว่า เมื่อไหร่จะได้เจอเราอีก 555555 จบแบบดื้อ ๆ ไม่ต้องเดาว่า มีอะไรต่อ 555555 จากคุณ : หมีส์บินครับ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:29:38

ความคิดเห็นที่ 103 เป็นกระทู้ที่น่ารักจังค่ะ ขอแจมบ้าง เจอกันบนรถไฟค่ะ ไม่ใช่รถไฟฟ้ามาหานะเธอนะคะ รถไฟไทยเนี่ยล่ะค่ะ เอา MV ให้ดูล่ะกันค่ะว่าคุยไรกันบ้าง <object width="425" height="344"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/mBgVtymUCmQ&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/mBgVtymUCmQ&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en_US&feature=player_embedded&fs=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="425" height="344"></embed></object> (ไม่รู้จะขึ้นรึเปล่า ถ้าไม่ขึ้นลองดูใน blog นะคะ) http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=misspommy&month=03-2009&date=07&group=9&gblog=1 จากคุณ : อ่านแล้วเขิลล์ (misspommy) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:39:39

ความคิดเห็นที่ 104 ว้าย ไม่ขึ้นอ่ะค่ะ ทำไมเป็นอ่ะค่ะ จากคุณ : จากเขิลล์เปลี่ยนเป็น ว้า (misspommy) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 11:44:01

ความคิดเห็นที่ 105 หง่ะ   เล่าอะไรกันเนี๊ย ยังหาไม่เจอเลยอ่ะคุณ ดร.เอ้ ไว้อิชั้นหาเจอแล้วค่อยมาเล่านะ จากคุณ : แม่ตุ่น เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 12:02:26

ความคิดเห็นที่ 106 เจอกับแฟน ตั้งแต่ลูกหนูเรียนม .4 นู้นแนะ ^^" จากนั้นก็คบกันเป็นแฟนแบบวัยรุ่นทั่วๆไป กาลเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ก็ปาเข้าไป 15 ปีที่รู้คบกันมา และแต่งงานกับสามีเมื่อเข้าปีที่ 14  ปัจจุบันมีเบบี๋อยู่ในพุง 30 W แล้วหล่ะค่ะ จากคุณ : ลูกหนูน้อย เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 14:04:32

ความคิดเห็นที่ 107                   เย้  ฉลองเกินร้อยแล้วจ้าาาาาา จากคุณ : p-annipe เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 53 19:40:15