 |
ความคิดเห็นที่ 14 |
ใส่ใจปัญหาความสูงของลูก
วันเสาร์ ที่ 03 ตุลาคม 2552 เวลา 0:00 น
หากถามคนเป็นพ่อ..เป็นแม่..ว่า เมื่อลูกเกิดมา..อยากให้ลูกตัวสูงหรือตัวเตี้ย?
คำตอบที่ได้ก็คือ อยากให้ลูกตัวสูง แต่ในความเป็นจริง ความสูงมักเกิดจากการเลี้ยงดูตั้งแต่ในวัยเยาว์ของผู้เป็นพ่อเป็นแม่ เช่นเดียวกันกับความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมที่สืบทอดกันมาของทั้งพ่อและแม่จึง ทำให้บางครั้งความคาดหวังที่ลูกจะสูงนั้นดูจะเป็นไปได้ยาก
เรื่องความสูงกับคนไทย ดูจะเป็นปัญหามาค่อนข้างนมนาน และการที่จะเพิ่มสูงได้นั้นก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ บางคนอาจถูกเรียกว่า เตี้ย มาตั้งแต่เด็ก ด้วยความที่ตัวเล็ก หรือบางคนอาจสูงเกินมาตรฐานโดยเฉี่ยด้านความสูงแล้ว แต่ก็ยังถูกมองว่าเตี้ย ดังนั้น มาดูกันว่า อย่างไหน..ที่เรียกว่าเตี้ย และเตี้ยถือว่ามีความผิดปกติอะไรหรือไม่?
คำที่แทนความสูงไม่มาก หรือ เตี้ย สามารถแปลความได้ว่า ความสูงของคน ๆ นั้นน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ซึ่งในเด็กจะวัดจากการเทียบกันกับเด็กในวัยเดียวกันในกลุ่มประชากรชาตินั้น ๆ ซึ่งสามารถดูได้จาก กราฟการเจริญเติบโตมาตรฐาน
การเจริญเติบโตโดยปกติ เริ่มตั้งแต่เป็นทารกในครรภ์และหลังคลอด ซึ่งมารดาต้องได้รับสารอาหารที่เหมาะสม มีสุขภาพกายและใจดี ส่วนปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเจริญเติบโตก็คือ พันธุกรรม โภชนาการ จิตใจ อารมณ์ การออกกำลังกาย และการทำงานร่วมกันของฮอร์โมนหลายชนิด เด็กจะมีการเจริญเติบโตที่ดีได้ด้วยปัจจัยเหล่านี้ แล้วอัตราการเพิ่มความสูงเฉลี่ยของเด็กปกติล่ะ..เป็นเท่าใด
ขวบปีแรก เด็กจะสูงได้ 25 เซนติเมตร เมื่ออายุ 1-2 ปี จะสูงได้อีก 10 เซนติเมตร อายุ 2-3 ปี สูงได้ 8 เซนติเมตร อายุ 3-4 ปี สูงได้ 7 เซนติเมตร และอายุมากกว่า 4 ปี จะสูงได้ 5 เซนติเมตร รวมแล้วเมื่อเด็กอายุ 4 ปี จะสูงได้ถึง 55 เซนติเมตร เมื่อมีการดื่มนมและออกกำลังกาย ก็จะยิ่งมีโอกาสที่จะสูงขึ้นได้อีก กระทั่งเข้าสู่วัยรุ่นจนถึงผู้ใหญ่ หากเป็นเด็กหญิงจะสูงได้อีกประมาณ 20 เซนติเมตร ส่วนเด็กชายจะสูงได้อีกราว 30 เซนติเมตร
ถามต่อไปว่า แล้วเด็กที่มีความสูงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยหรือเตี้ยนั้น มีความผิดปกติของร่างกายหรือไม่?
คำตอบก็คือ มีความเป็นไปได้ และเกิดได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
กรรมพันธุ์ : เด็กที่มีพ่อและหรือแม่เตี้ย (พ่อสูงน้อยกว่า 160 เซนติเมตร และแม่สูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร), เด็กเข้าสู่วัยหนุ่มวัยสาวช้า : เด็กที่เข้าสู่วัยหนุ่มช้ากว่าเพื่อน ๆ ในวัยเดียวกันและมีประวัติเข้าสู่วัยหนุ่มสาวช้าในครอบครัว, มีภาวะขาดฮอร์โมนบางชนิด เช่น ภาวะพร่องฮอร์โมนการเจริญเติบโต ภาวะพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน, เป็นโรคเรื้อรังชนิดต่าง ๆ เช่น ไตวายเรื้อรัง โรคปอดเรื้อรัง โรคการดูดซึมสารอาหารบกพร่อง, ได้รับยาบางอย่างในขนาดสูงติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น สเตียรอยด์, เป็นเด็กที่อยู่ในกลุ่มโรคความผิดปกติของโครโมโซม เช่น ดาวน์ซินโดรม มีความผิดปกติของกระดูก เป็นต้น
การรักษาสามารถทำได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุของตัวเด็ก แต่ละคน
เช่น ปัจจัยจากพันธุกรรม เด็กในกลุ่มนี้ไม่มีการรักษาเฉพาะ ฉะนั้น จึงควรให้เด็กรับประทานอาหารให้ครบถ้วน ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ได้ความสูงตามศักยภาพทางพันธุกรรม
ปัจจัยจากการเข้าสู่วัยหนุ่มวัยสาวช้า กลุ่มนี้จะมีปัญหาทางด้านจิตใจได้บ่อย โตไม่ทันเพื่อน ไม่มีการพัฒนาการทางเพศเหมือนเพื่อน การรักษาทำได้โดยการให้ฮอร์โมนกระตุ้น
ปัจจัยจากการขาดฮฮร์โมน จะทำการตรวจเลือดหาระดับฮอร์โมน และให้ฮอร์โมนทดแทนตามชนิดที่ขาด
การใช้ฮอร์โมนเจริญเติบโต หรือ Growth hormone มักใช้ในเด็กที่มีภาวะการขาดฮอร์โมนเจริญเติบโต ซึ่งจะทำให้เด็กมีความสูงปกติเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการกลุ่มเทอร์เนอร์ ซึ่งมีความผิดปกติของโครโมโซมเอ็กซ์ และพบในผู้หญิง หากไม่รักษาจะมีความสูงประมาณ 135140 เซนติเมตร เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าเข้ารับการรักษาตั้งแต่เด็ก ผู้ป่วยจะมีความสูงได้ถึง 150 เซนติเมตร
นอกจากนี้ ในเด็กที่มีประวัติการเจริญเติบโตช้าตั้งแต่ในครรภ์ ซึ่งก็คือ มีน้ำหนักแรกเกิดดน้อยกว่าปกติ ประมาณ 2.5 กิโลกรัม เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่มักจะมีความสูงน้อยกว่าปกติประมาณ 1015 เซนติเมตร แต่ทำการรักษาด้วยฮอร์โมนจะสูงได้อีกราว 510 เซนติเมตร
ปัญหาเรื่องความสูง อาจกลายเป็นปัญหาระดับชาติได้ เพราะเมื่อทุกครั้งที่มีการจัดแข่งขันกีฬาระดับภูมิภาค หรือระดับนานาชาติ นักกีฬาจากประเทศไทยมักจะมีความสูงน้อยกว่าชาติ อื่น ๆ เมื่อรวมกับปัญหาความอ้วนตั้งแต่ในเด็กแล้ว การกินไม่เลือก ไม่ออกกำลังกาย ได้รับสารอาหารไม่ครบแบบนี้ จะยิ่งส่งผลให้อัตราเฉลี่ยความสูงของคนไทยยิ่งลดลง
ดังนั้น คนเป็นพ่อ...เป็นแม่ จึงควรหันมาใส่ใจปัญหาความสูงของลูกกันให้มากขึ้น.
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=23808&categoryID=493
| จากคุณ |
:
Ph_eng  
|
| เขียนเมื่อ |
:
9 ม.ค. 53 21:10:07
|
|
|
|
|
