Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผื่นคล้ายผด...ภัยร้ายต่อลูกรักมากกว่าที่คุณคิด  

เป็นคุณแม่คนหนึ่งค่ะ พอดีได้มีโอกาสอ่านบทความที่คุณหมอท่านหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญด้านผิวหนังเขียนให้ความรู้ในเรื่องของอันตรายจากผดผื่นในเด็กรวมถึงวิธีการป้องกัน เห็นว่าได้ประโยชน์กับตัวเองที่เป็นคุณแม่มือใหม่ม๊าก...มาก ... วันนี้เลยจะขอแชร์ข้อมูลนี้ส่งต่อให้คุณแม่ทั้งหลายที่ต้องประสบปัญหาผดผื่นในลูกรักเหมือนกันค่ะ

ลูก...เป็นเสมือนดั่งแก้วตาดวงใจของครอบครัว ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หรือเก่าต่างก็ทะนุถนอมเลี้ยงดูลูกแบบที่ว่ายุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมกันเลย แต่ถึงแม้ว่าจะทะนุถนอมลูกน้อยเพียงใด ก็ยังมีโอกาสเกิดผดผื่นบนผิวที่บอบบางของลูกรักได้ทุกเมื่อ เด็กกว่า 46% มีปัญหาที่เกี่ยวกับผดผื่น ทั้งผดผื่นที่เกิดจากอากาศร้อนและผื่นผ้าอ้อมแม้เพียงการระคายเคืองเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้กลายเป็นตุ่มผื่นขึ้นในวงกว้าง บางครั้งอาจเกิดอาการหนอง และหากปล่อยทิ้งไว้ก็อาจจะเป็นช่องทางของเชื้อโรคและกลายเป็นหนอง หรือมีแผลเหวอะหวะได้ในที่สุด

อาการผื่นในเด็กนอกจากจะทำให้ลูกน้อยเกิดอาการเจ็บป่วยทางร่างกายแล้ว บางโรคที่เป็นโรคเรื้อรังยังก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านจิตใจอีกด้วย เพราะเด็กจะเกิดความเครียด ไม่สบายตัว และหงุดหงิด เมื่อมีอาการคันและอักเสบ ซึ่งย่อมส่งผลต่อพัฒนาการและการเรียนรู้ต่างๆของเด็กไม่มากก็น้อย

ดังนั้น หากไม่อยากให้ลูกรักเกิดผื่นคล้ายผดตามร่างกาย เราควรรู้จักสาเหตุของการเกิดผื่นคล้ายผดกันก่อนดีกว่า โดยส่วนใหญ่โรคนี้มักจะมากับความอับชื้น ซึ่งการทำให้ผิวลูกแห้ง สบายตัวตลอดเวลา ก็จะช่วยป้องกันการเกิดผดผื่นได้ ซึ่งคุณแม่กว่า 87 % ใช้แป้งในการแก้ปัญหาผดผืนที่เกิดจากความเปียกชื้น

เรามาทำความรู้จักกับผดและผื่นคล้ายผดชนิดต่างๆ และปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดผื่นทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย และผื่นชนิดที่หากปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการลุกลามได้

1.ผื่นจากต่อมเหงื่อ (ผด)
เพราะร่างกายของคนเราต้องมีการระบายความร้อนออกมาทางผิวหนังพร้อมกับเหงื่อ แต่สำหรับเด็กเล็กๆต่อมเหงื่อยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์นัก จึงอาจจะทำให้โอกาสที่จะเกิดต่อมเหงื่ออุดตันและลุกลามกลายเป็นผดผื่นได้ ซึ่งมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับบริเวณที่เกิด คือ ถ้าต่อมเหงื่อมีการอุดตันที่ผิวหนังชั้นนอกก็มีลักษณะเป็นผดเม็ดใสๆ ถ้ามีการอุดตันที่ผิวหนังชั้นกลางจะมีลักษณะเป็นผดแดง หรือถ้ามีการอุดตันที่ผิวหนังชั้นในจะมีลักษณะเป็นผดสีขุ่น ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบายมักไม่ค่อยพบอาการนี้สักเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นช่วงที่อากาศร้อนคุณแม่สามารถป้องกันโดยการอาบน้ำให้ลูกบ่อยๆ เลือกใช้เสื้อผ้าทำด้วยฝ้ายที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย หรือให้ลูกอยู่ในห้องที่ระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าหากไม่สามารถอาบน้ำหรือพาลูกน้อยไปอยู่ในที่ระบายอากาศได้ดี ก็อาจจะทาแป้งฝุ่นโรยตัว เพื่อช่วยดูดซับเหงื่อให้แห้ง ก็จะสามารถป้องกันผื่นที่เกิดจากสาเหตุนี้ได้

2.ผื่นจากผ้าอ้อม
โรคนี้จะมีผื่นคล้ายผด เกิดจากการหมักหมมของปัสสาวะและอุจจาระ ทำให้ระคายเคืองต่อผิวของลูก มักเกิดจากการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไม่ถูกวิธีจนทำให้ผิวหนังเกิดเม็ดผื่นคันและอักเสบ โดยเฉพาะบริเวณก้น โคนขา และอวัยวะเพศ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราตามมาได้ การป้องกันผิวของลูกน้อยจากผื่นชนิดนี้คือ การป้องกันไม่ให้ผิวหนังของลูกอับชื้น โดยการเลือกชนิดผ้าอ้อมที่มีเจลซับปัสสาวะได้พอเพียง และทำด้วยวัสดุระบายอากาศได้ดี ไม่ควรทำด้วยพลาสติก นอกจากนี้หลังจากที่ลูกอุจจาระและปัสสาวะเสร็จแล้วต้องทำความสะอาดให้ดี และเช็ดให้แห้ง ทาด้วยขี้ผึ้งหรือน้ำมันเคลือบผิวไว้ไม่ให้เกิดการระคายเคืองง่าย
การที่ผิวหนังของเด็กต้องสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรียในอุจจาระ ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการอักเสบและพุพองได้ ทั้งนี้การป้องกันผิวของลูกน้อยจากผดผื่นชนิดนี้คือ การป้องกันไม่ให้ผิวหนังของลูกอับชื้น โดยการเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ นอกจากนี้หลังจากที่ลูกอุจจาระและปัสสาวะเสร็จแล้วต้องทำความสะอาดให้ดี และเช็ดให้แห้ง ตามด้วยการทาแป้งตามจุดอับชื้นเพื่อช่วยดูดซับความชื้นให้แก่ลูกน้อย ทั้งนี้ควรเลือกแป้งที่ให้การป้องกันความเปียกชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ผื่นจากความอับชื้นและการเสียดสี
พบบ่อยตามข้อพับและซอกต่างๆ ในทารกหรือเด็กเล็กที่กำลังเจ้าเนื้อจ้ำม่ำน่ารัก เกิดจากความอับชื้นและการเสียดสีในบริเวณผิวดังกล่าว ทำให้เกิดการอักเสบแดง อาจมีผื่นคล้ายผด หรือมีการติดเชื้อราตามมาได้ การป้องกันทำได้โดย หลังอาบน้ำทำความสะอาดบริเวณซอกต่างๆ แล้วซับน้ำให้แห้ง อาจจะทาแป้งเพื่อดูดซับความชื้นและลดการเสียดสีได้

4. ผื่นจากภูมิแพ้ผิวหนัง
เด็กมักจะเกิดอาการแพ้สิ่งที่มากระตุ้นได้ง่าย เช่น แพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แพ้ผลิตภัณฑ์ซักผ้า หรือเหงื่อออกก็รู้สึกคัน ซึ่งมักจะพบในเด็กช่วงขวบปีแรก โดยจะมีอาการคันและเป็นผื่นเม็ดเล็กๆที่ผิวหนัง หากเป็นระยะเฉียบพลันจะเป็นเม็ดเล็กๆสีแดง ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะกลายเป็นปื้นหนาทำให้เรื้อรังและรักษายากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นโรคเรื้อรังและถ่ายทอดทางพันธุกรรม ทำให้เกิดมามีผิวที่แห้ง และภูมิคุ้มกันผิดปกติ การกำเริบของผื่นขึ้นอยู่กับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ถ้าอาการแพ้ไม่รุนแรงผิวลูกอาจจะดีขึ้นได้เองโดยการทาครีมป้องกันผิวแห้ง แต่ถ้ามีอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์ การป้องกันผื่นชนิดนี้ทำได้โดยการไม่ให้ผิวหนังของลูกสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมฉุน อ่อนโยนต่อผิว และมีการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก ไม่ควรอาบน้ำฟอกสบู่ให้ลูกบ่อยๆ เพราะการอาบน้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะการอาบด้วยน้ำอุ่น จะทำให้ผิวแห้งและคัน และเมื่อเกิดอาการคันก็จะเกา ซึ่งก็ยิ่งจะทำให้ผื่นแพ้ลุกลามมากขึ้นดังนั้น สิ่งสำคัญในการดูแลผิวพรรณของลูกน้อยให้สวยใสปลอดภัยจากอาการระคายเคือง คือ การป้องกันไม่ให้เกิดผื่น โดยมีเทคนิคง่ายๆดังนี้
1. การดูแลผิวไม่ให้เกิดการอับชื้นโดยเฉพาะตามซอกและข้อพับต่างๆ อาจจะใช้แป้งที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเปียกชื้น อันเป็นสาเหตุให้เกิดผดผื่น ซึ่งแป้งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการช่วยลดความอับชื้นและลดการเสียดสี
2. ถ้าลูกผิวแห้งและแพ้ง่าย ควรให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของลูกน้อย โดยเลือกใช้โลชั่นที่ทดสอบแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็กโดยเฉพาะหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวลูก
3. การดูแลผิวไม่ให้เกิดการอับชื้นโดยเฉพาะตามซอกและข้อพับต่างๆ อาจจะใช้แป้งที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดความเปียกชื้น อันเป็นสาเหตุให้เกิดผดผื่น ซึ่งแป้งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ดังนั้นอาจจะต้องเลือกแป้งที่มีประสิทธิภาพในการลดความเปียกชื้นจริงๆ
4. หากลูกเกิดผื่นคันควรตัดเล็บลูกให้สั้นเสมอ หรืออาจใส่ถุงมือไว้ก่อน เพราะหากลูกเกาจะทำให้ผื่นเห่อ และ เล็บอาจไปทำให้เกิดเป็นแผลถลอก ซึ่งจะทำให้เกิดแผลลุกลามติดเชื้อได้ง่าย

และเมื่อลูกน้อยมีผิวพรรณสดใส ปราศจากผดผื่นกวนใจ ก็จะมีการพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจที่สมบูรณ์สมวัย พร้อมที่จะเรียนรู้โลกกว้างได้อย่างมั่นใจ

จากคุณ : คุณแม่สู้ผื่น...
เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 53 10:43:16 A:124.120.8.148 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com