ความคิดเห็นที่ 1 3 สาธิตดัง จุฬา /มศว. /เกษตร เน้นสอบเชาว์ค่ะ ติวก็ติวเชาว์เหมือนเล่นเกมส์แบบฝึกหัด ไม่ได้ติวอ่านเขียน มีวัดความรู้รอบตัวด้วย ที่สำคัญคือ สมาธิ การฟัง การทำตามคำสั่งซับซ้อนได้ ติวอาทิตย์ละ 1 ครั้ง (ประมาณ 2-3 ชั่วโมง) ปีละ 4หมื่น-6หมื่น ค่ะ ไม่ติวก็ได้ แม่เอาแบบฝึกหัดเชาวน์มาให้ลูกทำเองวันละ 2-3 หน้าก็ได้ สอนให้เด็กคิด/ค้นคว้า/ค้นหาเอง ไม่ใช่นั่งท่องจำ กล้าแสดงออก กล้าพูดกล้าทำ(จนบางทีอาจเกินงามของสังคมไทย) ประมาณว่ากล้าเถียงครู หากครูผิด ครูกล้าขอโทษแล้วไปหาข้อมูลมาสอนเพิ่ม ค่าเทอมถูกมาก ประมาณปีละ 2 หมื่นเอง อุปกรณ์ทันสมัย ครูอาจารย์จบตรี/โทแทบทั้งนั้น จบแล้วสังคมเหนียวแน่น เลือดสาธิตเข้มข้น (หากเด็กไม่ละทิ้งสังคมโรงเรียนเอง) ไม่เน้นให้เรียนพิเศษ เลิกเรียนกิจกรรมเป็นพวก โกะ หมากล้อม ฯลฯ รับสอบล้วนๆ จำนวนหนึ่ง ประมาณสมัคร 3000 รับ 100-120 คนแล้วแต่ที่ (การแข่งขันสูง) ไม่เน้นบ้านใกล้ ไม่เน้นพี่เรียนน้องได้สิทธิพิเศษ และมีโควต้าสวัสดิการจำนวนหนึ่ง (แยกกันกับพวกสอบเอง) รับประมาณ 100-150 คน ผปค ต้องสม้ครเข้าไปทำงานอย่างน้อย 2 ปีก่อนลูกสอบ ลงทั้งแรงและเงิน (ลงแต่เงินก็ไม่ได้) เก็บใบรับรองทำงานและใบเสร็จทุกครั้ง ยื่นในปีที่ลูกสอบ แต่มีผู้แห้วทำฟรีทุกปี เพราะโควต้านี้ก็มีจำนวนจำกัดเหมือนกัน ต้องไปแย่งกันเช่นกัน แต่อัตราแข่งขัยต่ำกว่า หากลูกได้เรียนต้องเสียค่าเทอมแพงกว่าเด็กสอบเอง แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 12:14:03 จากคุณ : (( aloha )) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 12:09:30

ความคิดเห็นที่ 2 อ้อ เกษตรต้องมีคณิตด้วยค่ะ มศว. / เกษตร อ่านโจทย์ 2 รอบ จุฬา อ่านโจทย์รอบเดียว แถมเปิดการ์ตูนปิดเสียงล่ออีกต่างหาก จากคุณ : (( aloha )) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 12:16:11

ความคิดเห็นที่ 3 อ่อ มันเป็นแบบนี้นี่เอง เพิ่งจะมาทราบเหมือนกัน ^^ อ่านแล้วน่าเข้าเหมือนกันนะคะ จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 12:25:26

ความคิดเห็นที่ 4 พ่อแม่ทุกๆ คนรักลูกมากเหมือนกันหมด  แต่พอทราบถึงกระบวนการที่จะเอาลูกเข้าโรงเรียนพวกนี้แล้ว  ถอดใจเลย   จริงๆ แล้ว  ทุกวันนี้  เราจะสอนลูกเสมอว่า   ทางยังมีให้เดินอีกไกล   และทางก็มีให้เดินหลายเส้นทาง   ถ้าเส้นนี้มันมีปัญหาเยอะ  เราก็เลี่ยงไปเดินเส้นอื่นๆ ได้นี่นา  แต่ในที่สุด  เราก็ถึงจุดหมายเหมือนคนอื่นนั่นแหล่ะ  แต่ตลอดทางที่เราผ่านมา  มันก็ต่างประสบการณ์กับคนที่เดินคนละเส้นกับเรา พยายามเน้นสอนให้เค้าปรับตัวในสังคม  มากกว่าที่จะไปคล้อยตามสังคม  จะได้ไม่อึดอัดเวลาที่ไม่ได้ดั่งใจ จากคุณ : แกงส้มแมว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 12:55:40

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ aloha คะที่ว่ามีโควต้าสวัสดิการ ต้องสมัครไปทำงานก่อน 2 ปีนี่ยังไงเหรอคะ งงค่ะ ไปบำเพ็ญประโยชน์ กวาดขยะให้ หรือต้องไปเป็นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยเค้าคะ อยากรู้ค่ะ จากคุณ : muxdi เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 13:34:26

ความคิดเห็นที่ 6 ตอบในฐานะศิษย์เก่าสาธิตเกษตรนะคะ เห็นด้วยกับคุณ alohaทุกอย่างเลย คือ สังคมดี เพื่อนรักกันเหนียวแน่น เพราะเรียนด้วยกันมา 12 ปี สลับหมุนเวียนจนรู้จักสนิทกันหมดทั้งรุ่น จนบัดนี้ก็ยังเจอเพื่อนๆแทบทุกอาทิตย์ค่ะ รร.สอนให้เรากล้าคิด กล้าแสดงออก เถียงได้ แย้งได้ คิดเองเป็น ไม่แค่เชื่อตามที่อาจารย์บอก จำได้ว่าตั้งแต่เล็ก เราเรียนแบบ "ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง"มาตลอด เพิ่งมาตอนเราเรียนโท ครุศาสตร์ ที่ประเทสไทยปฏิรูปการศึกษาแล้วเอาวิธีนี้มาใช้กับรร.ของรัฐ ทั้งที่เราเรียนแบบนี้มาตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว โควต้าที่ว่า เหนื่อยค่ะ บอกตรงๆ ตอนนี้ลูกเจ็ดเดือน ยังขี้เกียจจะไปสู้รบปรบมือเลย โควต้าศิษย์เก่าเองยังต้องไปช่วยงานอย่างน้อยสามสี่ปี  แค่แรงก็ไม่ได้นะคะ ต้องเงินด้วย แล้วก็ดูอาชีพการงานของพ่อแม่ ระดับสังคม ฯลฯ ถ้าเป็นไปได้แล้วไม่เหนื่อยมากก็อยากให้ลูกเข้าเรียนเหมือนเราค่ะ แต่ถ้าไม่ไหว ก็อาจจะให้ไปเข้าอัสสัมชัญเหมือนคุณสามี ..เพราะดูจะง่ายกว่าค่ะ จากคุณ : -jj- เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:04:18

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบคุณคห. 5 ให้นะคะ ก็จะต้องเข้าไปช่วยงานกิจกรรมของโรงเรียนเช่น รร.มีงานประจำปี คุณอาจต้องไปออกร้านขายของ (เงินเข้าโรงเรียน)  มีงานคอนเสิร์ต คุณก็ต้องไปช่วยขายบัตร (และซื้อเองอย่างน้อยสิบใบอะไรงี้) มีงานโบลลิ่งการกุศล คุณก็ต้องเอาทีมไปลงแข่ง เสียค่าสมัครทีมนึงหมื่นสองหมื่น ไรงี้ค่ะ ถ้าโรงเรียนจัดแข่งกอล์ฟหารายได้ ก็ต้องซื้อบัตร ก๊วนนึงก็ หลักหมื่น...บลาๆๆๆ รร.จัดเลี้ยงพระตักบาตร 99 รูป (สมมติ) คุณ(ซึ่งอาจจะมีกิจการให้เช่ารถตู้) ก็อาจจะนำรถตู้ไปช่วยขนส่งพระฟรีๆ ตลอดงาน อะไรทำนองนี้ค่ะ ..แล้วปีๆนึงงานเหล่านี้ก็ไม่ได้มีงานเดียว มีห้าหกงานต่อปีเป็นอย่างต่ำ ซึ่งคุณต้องไปลงแรง เงิน น้ำใจ ฯลฯ อย่างน้อย สองสามปีค่ะ เราเองเป็นศิษย์เก่า สมมติว่ามีโควต้าสมาคมศิษย์เก่า 15 คนในปีนี้ ..ทุกคนก็ทุ่มแรงทุ่มเงินกันหมดค่ะ สามสี่ปี แต่สุดท้าย candidate  มี 20 คน แต่ให้โควต้าแค่ 15 ก็ต้องมีคนที่แห้ว 5 คน ซึ่งพิจารณาจากหลายอย่างค่ะ การลงแรงตั้งใจจริง นิสัยใจคอ คะแนนสอบของเด็ก  คุณถูกใจกรรมการและอาจารย์แค่ไหนอีกต่างหากค่ะ เหนื่อยง่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 14:14:30 จากคุณ : -jj- เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:13:17

ความคิดเห็นที่ 8 กระจ่างเลยค่ะ ขอบคุณ K.JJ นะคะ ลูกๆ จะรู้มั้ยเนี่ยว่าพ่อ-แม่ทุ่มเทกันขนาดไหนเนี่ย จากคุณ : muxdi เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:16:48

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่รอดก็ตรงการ์ตูนเนี่ยแหละ เฮ้อ จากคุณ : jittra เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:24:29

ความคิดเห็นที่ 10 โห..แค่ฟังก็เหนื่อยแล้ว ไหนยังต้องทำมาหากินอีกอ่ะ... จากคุณ : creamychan เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:41:05

ความคิดเห็นที่ 11 แค่ฟังก็เหนื่อยใจแล้วค่ะกับการเข้าสาธิต....ถ้าต้องเตรียมตัวกันขนาดนั้นขอบายดีกว่า  เว้นแต่จะสอบเข้าได้เอง......โรงเรียนอื่น ๆ ที่ดี ๆ มีอีกเยอะเลย.....บางทีในชีวิตก็ไม่ต้องดีที่สุดหรือเลิศที่สุดไปทุกอย่างก็ได้  คิดว่าชีวิตต้อง balance ในทุก ๆ เรื่อง ถึงจะเรียกว่ามีความสุขอย่างแท้จริง แต่ฟังแล้วโรงเรียนเขาก็ดีจริง ๆ ค่ะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ก็อยากให้ลูกเข้า 3 สาธิตนี่....เพราะงี้นี่เอง  วิธีการเรียนการสอนถูกใจจังเลยค่ะ กิฟ หมดค่ะ  อยากให้คุณ (( aloha )) กับคุณ -jj- ค่ะ ทำให้ทราบและเห็นภาพชัดขึ้นค่ะ จากเมื่อก่อนไม่ทราบรายละเอียดขนาดนี้เลย  ขอบคุณอีกครั้งค่ะ...... จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 14:50:52

ความคิดเห็นที่ 12 คห.ของคุณ aloha และคุณ jj ค่อนข้างชัดเจนแล้วนะคะ แต่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกพอสมควรค่ะ อันนี้ก็ตามหาข้อมุลกันได้ ตามอากู๋น่ะค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว ก็มีจุดมุ่งหมายที่สาธิตเช่นกันค่ะ เพราะเป็นธรรมดาที่อยากให้อยู่ในที่ดีๆ แต่ไม่ได้มุ่งเ้น้นหรือบีบคั้นลูกมากนัก ที่บ้านมีติวลูกอยุ่เสมอๆ เป็นประจำทุกวันค่ะ สอนเองไม่เสียเงินติวหรอกค่ะ หาข้อมุลแล้วมันแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คิดว่าเด็กทุกคนก็มีศักยภาพไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างด้วย ถ้าลูกสอบไม่ได้ก็ไม่ซีเรียสเพราะเล็งรร.คาทอลิคไว้รองรับแ้ล้วน่ะค่ะ จากคุณ : โอลีพ แม่น้องเซ้นต์ (olives) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:08:29

ความคิดเห็นที่ 13 ดูแล้วเหมือนสาธิตจะยากตอนสอบเข้า เพราะคนสอบเยอะมากๆ โอกาสจะได้ก็น้อยเรียกว่า 1 ใน 30 เลย แล้วก็ขึ้นกับสภาพของเด็กวันนั้นวันเดียวจริงๆ ประมาณว่าติวมาเป็นปี ถ้าวันนั้นไม่ ok ก็ไม่ผ่าน คนที่สอบผ่านไม่ได้แปลว่าเก่ง อาจมีปัจจัยหลายๆ ประการประกอบกัน + ดวงด้วยมั้งส่วนนึง ถ้าดวงจะได้เรียนก็ได้อะนะ อ่านที่คุณ aloha บอกว่าค่าเทอมก็ถูก สื่อการเรียนการสอนก็ดี เด็กก็รักใคร่กัน ไม่เคร่งเครียด อันนี้แหละที่ชอบ (แต่อาจเครียดมากตอนสอบเข้านี่แหละ) แล้วที่คุณ JJ เป็นศิษย์เก่ามายืนยันอีกคนว่าเด็กจะมีสังคมดี รักใคร่กัน กล้าคิด กล้าแสดงออก อันนี้เราก็ชอบอีกเหมือนกัน ดีกว่าพวกแนวคาทอลิคที่เน้นแต่วิชาการใช่ไหมคะ เรียนแบบเคร่งเครียด สอบก็บ่อย การบ้านเยอะ ต้องเรียนพิเศษตอนเย็น แต่เวลาเข้าอาจเข้าง่ายกว่า ยิ่งมีเงินถึงด้วยแล้ว ไม่รู้เราเข้าใจถูกไหม เด็กก็อาจเก่งในระดับนึง + เงินอีกจำนวนนึง แล้วไปแข่งกันหัวโตอีก 12 ปีข้างหน้า แล้วอย่างนี้ถ้ามองระยะยาว ในวันที่สอบเอ็นทรานซ์ เด็กสาธิต จะสู้เด็กคาทอลิคได้ไหมคะ ในเมื่อเวลาเรียนดูเหมือนไม่เน้น ไม่เคร่งเครียดเท่า แต่อาจเป็นผู้ใหญ่ที่โตมาแบบสุขภาพจิตดี มองโลกในแง่ดีก็ได้เนอะ จากคุณ : แม่ปูเปรี้ยว เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:26:09

ความคิดเห็นที่ 14   คุณ (( aloha )) ค่ะ เคยได้ยินมานานแล้วว่าถ้าไม่ไปติว ก็หาข้อสอบมาทำเองกับลูก อยากถามว่า เค้าหาข้อสอบมาจากไหนกันค่ะ ลองไปเดิมตามร้านหนังสือก็ไม่เจอค่ะ รบกวนบอกหน่อยได้มั๊ยค่ะ ว่าจะหาได้จากไหน ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : นางสาวกรกฎ เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 15:27:07

ความคิดเห็นที่ 15 ตอบคุรแม่ปุเปรี้ยวค่ะ เราว่าสำหรับสาธิตเกษตรที่เราจบมา วิชาการอาจจะสู้พวกรร.คริสต์ไม่ได้อ่ะค่ะ (สามีจบอัสสัมชัญบางรักค่ะ เห็นได้ชัดว่าเรียนเก่งกว่าเรา แหะๆ) แต่เราว่าวิธีการมองโลกและสังคมก็คนละแบบกันค่ะ สามีเราก็จะเรียนเก่ง มีวินัย และเพื่อนส่วนมากจะเป็นนักธุรกิจ พ่อค้า อะไรทำนองนี้ เราเองเรียนปานกลางค่ะ แต่เราว่าชีวิตเราและเพื่อนๆมีความสุข อยากทำอะไรก็ทำ กล้าตัดสินใจ..มั่นใจในตัวเองเต็มร้อยกันทุกคน ฮ่ะๆๆๆ วินัยมีน้อยหน่อย แต่สำหรับเราชีวิตตอนเรียนมีความสุขมาก เพื่อนที่ไหนก็ไม่คบกันได้ยืนยาวสนิทสนมได้เท่าเพื่อนที่สาธิตอีก งานแต่งงานเรา เพื่อนกลุ่มที่มางานมากที่สุด ก็คือเพื่อนสาธิตอ่ะค่ะ ส่วนสาธิตอื่นๆ เราว่าสาธิตปทุมวัน กับสาธิตจุฬาฯ วิชาการดีมากนะคะ (พี่สาวและพี่ชายเราจบมาทั้งคู้ค่ะ) ดูได้จากการจัดอันดับนร.ที่เอ็นติด สาธิตปทุมวันนี่อันดับtop 5 ของประเทศเลยค่ะ จากคุณ : -jj- เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:55:29

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนเด็กๆวิธีการเรียนวิทยาศาสตร์ของเรา คือ อาจารย์ให้ออกไปจับแมลงมาคนละตัว แล้วเอามาคุยแบ่งปัน ถกกันในห้องเรียน ว่าอะไรเป็นยังไง ไม่มีการสอนให้ท่องจำ ว่าแมลงต้องมีปีกมีขากี่ขา บลาๆๆ ตอนเรียนสังคม ทางรร.จัดให้ทำจำลองการประชุมสมัชชาสหประชาชาติจริงๆขึ้นมาเลยค่ะ แล้วเชิญฑูตแต่ละประเทศมาจริงๆ เราเป็นเด็กก็ประกบกับฑูต มีส่วนต้อนรับ ส่วนประชาสัมพันธ์ ให้ลงมือทำเองจริงๆ ไปประชุมที่ UN จริงๆด้วยค่ะ  แล้วกลับมาถก วิจัย คุยกันในห้องเรียน วา เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง หลังเลิกเรียน ไม่มีการเรียนติวอะไรค่ะ แต่รร.บังคับให้ทุกคนต้องเลือกเรียนดนตรีคนละหนึ่งอย่าง อะไรก็ได้ อาจารย์ก็จะอยู่สอนจนห้าหกโมงเย็น จะดนตรีไทย ขิม ซอ หรือกีต้าร์ ฟลุท  เชลโล่ อะไรก็ตามแต่ เราวาถ้าถามว่าเราเรียนเก่งไหม ไม่เก่งค่ะ แต่เรารู้จักสังคม รู้จักโลก มีวิธีการมองโลกที่ดี และมีความสุขอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 17:01:39 จากคุณ : -jj- เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 17:01:07

ความคิดเห็นที่ 17 จบเลดี้จิงกะเบลล์ วังหลัง..ค่ะ สังคมแม่ก็เฮฮาฮ้าไฮ้ ตามประสาเด็กอินเตอร์ลุ่มแม่น้ำเจ้่าพระยา ยังคบกันอยู่แบบลุ่มๆดอนๆเหมือนน้ำขึ้น น้ำลง นิสัยก็เรื่อยเฉื่อย แหะ แหะ ส่วนสามีนู่นค่ะ นำเข้ามาจากอินเดีย ขานั้นเรียน รร นายทหารมา ระเบียบวินัย กล้าหาญ มั่นคง..ชาติดำรง..อะไรเทือกนั้นเลย เมื่อมี มะอึด..เราจึง...ให้มานเรียน รร.คริสต์ซ้ะ 555 เหตุผล..คือ ใกล้บ้าน มะอึดเรียน อ. 1 มานเขียนหนังสือได้แล้ว แม่ปวดกบาลมาก ก ก การบ้านมีทุกวันแม่มานเครียดค่า ส่วนสาธิต...ไกลเกินพิกัดจะรับส่งค่ะ เลยรอดตัวไป แต่เห็นน้องสาวเคยเอาลูกชายไปสอบ..เป็นอย่างที่คุณ -jj- กับอโลฮา..ว่าไว้เด๊ะๆ จากคุณ : noo-uan เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:00:32

ความคิดเห็นที่ 18 สอนให้กล้าคิด แค่นี้เราก็ชอบแล้วค่ะ ^__^ โรงเรียนเน้นเรียน ที่ไม่สอนให้กล้าคิด ก็คือ สอนออกมาเป็นลูกจ้างเขา ตอบคห.14 นางสาวกรกฎ แนวข้อสอบเก่าๆ ซื้อได้ศูนย์หนังสือจุฬา หรือเวปติวต่างๆ ลอง search ดู ข้อสอบจะวนๆ เวียนๆ กันไม่ทิ้งแนว แต่จะซับซ้อนขึ้น ไปหาข้อมูลเวป  momypedia ห้องเรื่องเรียนของลูกดูนะคะ มีให้โหวตแบบฝึกหัดฟรีๆ ด้วย ที่เวป bookdd แล้วมาปริ๊นท์เอาเอง (แต่เราว่าซื้อเขา ถูกกว่าปริ๊นท์นะคะ ค่าหมึกมันแพง อิอิ) จากคุณ : (( aloha )) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 20:22:34

ความคิดเห็นที่ 19 ไม่เคยรู้เลยหมือนกันค่ะ ว่าสาธิตจะเข้ายากเย็นขนาดนี้ ขอบคุณที่เอาประสบการณ์มาแชร์กันนะคะ จากคุณ : bodiamond1 เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:49:45

ความคิดเห็นที่ 20   ส่วนตัวนะคะ เราว่า การเรียนทำให้มั่นใจในตัวเอง พอดีจบสาธิตรามฯ ตอนนี้วัยใกล้หลักสี่แล้ว สมัยที่เรียน  ที่ห้องเรียน มี นร. 7 คน  (คิดว่า รร.รัฐบาลคงไม่มีห้องไหน นร.7 คน) นร.เดินเรียน ไม่มีห้องเรียนนั่งประจำเหมือน รร.รัฐบาล ห้องสมุด ติดแอร์ เป้นแห่งแรก ครูพาออกไป ทัศนศึกษาเกือบทุกอาทตย์  นร แค่ 7 คน นั่งรถตู้ไป นี่คือเมือสมัยที่ตนเองเป้น นร สาธิตนะคะ ตอนนี้  หนุ่มน้อย คนนี้ ก็เรียนสาธิตเหมือนกัน เขาก็มั่นใจ กล้าแสดงออก ตามวัยของเขา --- แต่สมัยนี้ รร รัฐบาลพัฒนาขึ้นมากค่ะ จากคุณ : Bruce & Me เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 12:05:09

ความคิดเห็นที่ 21   เห็นด้วยกับคุณ-JJ-ค่ะ เพราะเราก้อเป็นศิษย์เก่าสาธิตคนหนึ่ง ยังไม่อยากใช้โควต้าศิษย์เก่าเลยค่ะ ตอนนี้เลยตัดสินใจว่าจะให้เข้าอัสสัมชัญแทน แต่คงให้ไปลองสอบสาธิตด้วย จากคุณ : toey_ka เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 23:11:10