|
ความคิดเห็นที่ 8 |
เด็กผู้ชายทุกคนเมื่อเกิดมา จะมีหนังที่หุ้มอยู่บริเวณปลายของอวัยวะเพศ การขริบคือการตัดเอาหนังส่วนที่คลุมนี้ออกเพื่อจะได้เปิดส่วนปลายของอวัยวะให้สามารถทำความสะอาดได้ดีขึ้น โดยทั่วไปในเด็กที่คลอดออกมาแข็งแรงดี การขริบจะทำในช่วง 2- 3 วันแรก
การขริบ เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานในกลุ่มของพ่อแม่ ซึ่งต้องพิจารณาทั้งข้อดีและข้อเสียต่อสุขภาพ สภาพสังคม และวัฒนธรรม ในการที่จะตัดสินใจให้ลูกของตัวเองทำการขริบหนังหุ้มปลาย ในอดีตหลักฐานและข้อมูลทางการแพทย์ อาจยังไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะสนับสนุนให้มีการขริบปลายกับเด็กผู้ชายทุกคนที่เกิด แต่ในปัจจุบัน เมื่อมีการศึกษาและงานวิจัยออกมามากขึ้น ทำให้พบว่าได้เพิ่มน้ำหนักในข้อดีและประโยชน์ของการขริบมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเราจึงได้ทำการสรุปและประเมิณเกี่ยวกับข้อมูลการศึกษาใหม่ ๆ เกี่ยวกับการขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไว้ในวารสารฉบับนี้
จากข้อมูลการศึกษาล่าสุดพบว่าการขริบหนังหุ้มปลาย
- สามารถลดอัตราการติดเชื้อ HIV ลงได้ 53 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำการขริบ
- สามารถลดการติดเชื้อ herpes simplex type2 (HSV-2) ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดโรคซิฟิลิสลงได้ 28 34 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ขริบ
- สามารถลดอัตราการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งองคชาติได้ 32 35 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ขริบ
- สำหรับคู่นอนที่เป็นผู้หญิง ผู้ชายที่ทำการขริบแล้วสามารถลดอัตราการติดเชื้อ bacterial vaginosis ซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะของผู้หญิงลงได้ 48 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ขริบ
นอกจากนี้ จากการศึกษามากมายในประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังพบข้อดีของการขริบดังนี้
- ลดอัตราการเป็นมะเร็งองคชาติ ซึ่งข้อนี้เป็นที่ยอมรับกันมานานแล้ว ว่ามะเร็งองคชาติพบได้น้อยมากในคนที่ทำการขริบ
- ลดอัตราการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะในช่วงระหว่างขวบปีแรก ซึ่งการติดเชื้อในระหว่างนี้สามารถรุนแรงได้ถึงขั้นต้องมาพักรักษาในโรงพยาบาล โดยพบว่าเด็กผูชายที่ไม่ได้ทำการขริบ มีโอกาสติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ 1 ต่อ 100 เมื่อเทียบกับเด็กที่ทำการขริบแล้ว จะพบอัตราการติดเชื้อนี้ได้เพียง 1 ต่อ 1000
- ป้องกันการอักเสบของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
- ป้องกันการตีบของหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศหรือที่เรียกว่า phimosis ซึ่งจะทำให้เกิดการเจ็บเวลาที่ทำการร่นหนังหุ้มปลายลงมาทำความสะอาด
- ทำให้การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น
ซึ่งก็เหมือนหัตถการทางการแพทย์ทั่วไป การขริบก็คือการผ่าตัดชนิดหนึ่ง จึงอาจพบภาวะแทรกซ้อนได้ถึงแม้ว่าจะพบได้น้อยมาก โดยได้แก่เลือดออก แผลผ่าตัด หรือเอาหนังหุ้มปลายออกมากหรือน้อยเกินไป
บางครอบครัวอาจตัดสินใจที่จะไม่ให้ลูกชายทำการขริบโดยกังวลเกี่ยวกับเรื่องของส่วนบุคคล หรือคิดว่าหนังหุ้มปลายมีผลต่อความพึงพอใจทางเพศ หรือเหตุทางศาสนา สังคม และวัฒนธรรม
ผู้ปกครองสามารถเรียนรู้และหาข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการขริบได้จากแพทย์ และเนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวกับการขริบส่วนมากในโลก cyber เป็นเรื่องของความคิดเห็น ดังนั้นผู้ปกครองจึงต้องระมัดระวังและประมวลเนื้อหาหรือข้อมูลเกี่ยวกับการขริบ จากข้อมูลใน internet ซึ่งอาจไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง
การตัดสินใจที่ดีทีสุดในการที่จะให้ลูกชายขริบหรือไม่คือผู้ปกครอง ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรที่จะอนุญาตและสนับสนุนในการตัดสินใจนี้
แปลจาก Male Circumcision: New Information About Health Benefits Archives of Pediatrics & Adolescent Medicine. ; vol 164 no.1 January 2010 Vol. 164
หาขัอมูลเพิ่มเติม สมาคมกุมารแพทย์อเมริกา American Academy of Pediatrics http://www.aap.org/publiced/BR_Circumcision.htm ศุนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา Centers for Disease Control and Prevention, http://www.cdc.gov/hiv/resources/factsheets/circumcision.htm
หลายคนยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าขลิบแล้วเป็นยังไง ผมเลยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลนะครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บ้างแหละ
ลองเข้าไปชมดูนะครับ ที่
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&group=7
ส่วนใครมีข้อแนะนำไงก็ฝากไว้ได้นะครับ
ปล.ในเวบอาจจะมีภาพไม่เหมาะสมบ้าง แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ
จากคุณ |
:
สาลิกาโบยบิน
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ก.พ. 53 13:57:05
|
|
|
|
|