|
ความคิดเห็นที่ 15 |
|
ขอเข้ามาแชร์ด้วยคนคะ อ่านแล้วก็อมยิ้มเหมือนกัน สามีเป็นนักบิน เจอกันด้วยความบังเอิญสองครั้งที่สนามบิน KL กับ สุวรรณภูมิ เป็นอะไรที่ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน...ครั้งแรกเจอเพราะดิฉันไปทำ ธุระที่ KL เดินทางไปคนเดียว ปี 2006 เค้าเป็น co-pilot สายการบินตะวัน ออกกลาง ในไฟทล์วันนั้นที่ดิฉันเดินทาง (เพิ่งเรียนจบสองปีเอง เคยมีแฟน แค่คนเดียวสมัยเรียนมหาวิทยาลัย แล้วอกหัก เลยเข็ด) เรื่องเกิดเพราะพัก โรงแรมที่ KL ที่เดียวกัน จากต้นทางกรุงเทพ ไป กัวลา ฯ นั้น ยังไม่รู้จักกัน มารู้จักกัน ตอนแย่งลีโม ฯ คันเดียว เพราะรถลีโม ฯ ที่ดิฉันขอไปนั้นสีเดียว ยี่ห้อเดียว รุ่นเดียวกัน เป๊ะเลย ...... สายการบินนี้มีรถลีโมฯ ให้นักบินด้วยอ่ะ ส่วนลูกเรือนั่งรถบัส แฟนดิฉันใน ฐานะโคไพล็อต ต้องดูแลกัปตัน พอพ้นประตูเราก็เห็นรถจอดแล้ว อ่ะโอเค เปิดประตูกำลังจะขึ้น แต่ขณะถามคนขับว่าปลายทางเป็นโรงแรมนี้หรือไม่ ดิฉันก็บอกชื่อไป คนขับกำลังยื่นกระดาษมาให้ คุณโค ฯ ก็เดินมาบอกว่า เราขึ้นรถผิดคัน เราก็เถียงว่าไม่ใช่คะ ดิฉันจองคันนี้มา เขาก็ถามคนขับ เออ..เท่านั้นแหล่ะ เราหน้าแตกเลย คันของเราอยู่คันหน้าโน้นแหน่ะ แถม คนขับยืนยิ้มโบกมือให้ เพราะคนขับจำหน้าเราได้ มา KL อาทิตย์ละครั้งเลย อ่ะเราก็ทำฟอร์ม ขอโทษแบบสง่า แบบเชิด ๆ ใส่เค้าไปคะ เพราะอาย ช่าง มันเถอะ ไม่ได้เจอกันแล้ว พอถึงโรงแรมลงรถปุ๊ป อ้าว อะไรเนี๊ย พักโรงแรมเดียวกันหรอ อืมลูกค้า ดิฉันจ่ายแพงทุกอย่างให้ดิฉันโรงแรมห้าดาว เออ ลืมไป เพราะสายการบินนี้ รวยอ่ะนะ เลยสามารถดูแลให้ลูกเรือพักโรงแรมดี ๆ ก้กลั้นใจยิ้มให้ คุณ กัปตันน่ารักมากยิ้มให้ แล้วทักทายภาษาอังกฤษ แต่ดิฉันตอบกลับภาษา อังกฤษ แล้วตามด้วยอารบิค เอาล่ะทีนี้เรื่องยาว แปลกใจทำไมผู้หญิงไทย คนนี้พูดภาษาอารบิค เดินไปด้วยคุยไปด้วย จนถึงล็อบบี้โรงแรม ดิฉันแจ้ง ยืนพาสปอร์ต สามนาที ได้กุญแจ เพราะไม่ต้องกรอกใบทะเบียนผู้เข้าพัก เนื่องจากงานของดิฉัน มีคนจัดการให้ล่วงหน้า ได้กุญแจปุ๊บไม่ลาคะ เดิน เผ่นกดลิฟต์ขึ้นห้องเลย เพราะมีเวลา สามชั่วโมงที่จะที่ทำธุระส่วนตัว... กะว่าจะ ลงไปสปาหนึ่งชั่วโมง แล้วหาอะไรทาน แล้วขึ้นมาอาบน้ำ เตรียม พบกับลูกค้าตอนหนึ่งทุ่มตรง เอากระเป๋าวางบนเตียงเปลี่ยนเสื้อ เดินลงไป สปา ตอนเดินไปนั้นแหล่ะ พวกเค้าเพิ่งจะได้กุญแจกันอ่ะ เพิ่งขึ้นมา .. อะไรเนี๊ย กัปตันกับโคฯ ได้ห้องชุดด้วยหรอหว่ะ..นี่ชั้น 20 อ่ะ แต่คุณกัปตัน นิ่งมากคะ แค่พยักหน้าทักทายตามปกติ แต่คุณโคฯ แซวว่า กัปตันครับ ผม ว่า ผมกับคุณผู้หญิงคนนี้เป็นเนื้อคู่กันแน่เลยครับ เราได้ยินก็ตอบว่า If we can meet each other the second time in anywhere eles ... I will marry with you...พวกเค้าก็หัวเราะกัน แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไรมากอ่ะน่ะคะ คืนนั้นเค้ามาสอดกระดาษโน๊ต ใต้ประตูดิฉัน พร้อมภาพถ่ายในเครื่องแบบ ของเค้าเอง และนัดขอทานดินเนอร์ แต่ดิฉันได้เข้ามาพบจดหมายหลังจาก พบลูกค้าแล้วประมาณเที่ยงคืน เห็นจะได้คะ ซึ่งมันเลยเวลาที่เค้าต้องการ ไปแล้วอ่ะ สักพักมีคนมาเคาะประตูแล้วสอดจดมายอีก บอกว่าก่อนที่จะไม่ ได้เจอกันอีกต่อไปแล้ว แล้วแต่พระเจ้าจะเมตตา ขอทานอาหารด้วย มื้อ ไหนก้ได้บอกมา แต่ดิฉันต้องขึ้นเครื่อง วันรุ่งขึ้นตอนเที่ยง เลยโทรไปบอก ดิฉันต้องไปถึงสนามบินอย่างช้า สิบโมงครึ่ง เค้าเลยตอบว่าผมจะตื่นเช้า เพื่อลงไปทานอาหารเช้ากับดิฉัน ดิฉันก็ให้รูปถ่ายกับเค้าไว้ด้วย ก็เป็นรูปถ่าย ที่ไม่มีความสวยอ่ะ เพราะเตรียมไว้เผื่อต้องทำวีซ่าฉุกเฉิน และที่เขาบอกว่าเวลาแห่งความสุขมักจะ ผ่านไปเร็ว แต่แปลกใจมาก เค้าไม่ขออีเมล์ เบอร์โทรดิฉันเลย ในเมื่อไม่ขอ เราก็ไม่เสนอ เราก็แยกกันตรงล็อบบี้ ระหว่างเดินทางรู้สึกเศร้า ๆ อ่ะ เค้า เป็นผู้ชายในสเปคที่เราต้องการ .....เหตุการณ์ครั้งที่ 1 เกิดเดือน มีนา 2006 เหตุการณ์ครั้งที่ 2 เดือน ธันวา 2007 เจออีกครั้งที่สุวรรณภูมิ แบบบังเอิญ อีก คราวนี้เจอเค้า ในฐานะที่ ไม่ได้อยู่ในหน้าที่ เค้ามาเข้า ซิมูเลเตอร์ ที่ เมืองไทย เจอกันตอนผ่านตม. เราผ่านเข้าไปก่อน พอเห็นหน้าปุ๊บ ก็บอกกับ ตัวเองว่า เฮ้ย อะไรเนี๊ย เราคงจำผิดคนอ่ะ แต่เค้าก็มองมาแล้วยิ้ม คือเค้าจำได้อ่ะ จากรูปถ่ายเราที่ให้ไว้ แล้วเค้าก็บอกว่า เดี๊ยวรอผมด้วยนะ เสร็จปุ๊บก้คุยกัน ก่อนแยกขึ้นรถก็ถามว่า ขอเบอร์ได้มั้ย ผมพักโรงแรม westin shukumvit เดี๋ยวโทรไปหา ครั้งนี้ดิฉันให้นามบัตรส่วนตัว ที่มีเบอร์มือถือไปด้วย เพราะคิดว่า เอาไงก็เอาหว่ะ จีบก็จีบ ลองดู ไม่เสียหาย ...เค้าเห็นนามบัตรก็ตกใจ เพราะบริษัทที่ดิฉันทำงาน ไม่มีชื่อบริษัท แต่มี สัญญลักษณ์ของ Arab League คงไม่ทันได้ถามอะไร ดิฉันรีบคะ เลยบอก ว่า ค่อยคุยกัน คืนนั้นก็โทรมา หลังจากนั้นก็คบกันคุยกันมาเรื่อย ๆ เป็นเวลา ปีกว่า ปี 2008 ปีแรกที่ได้ถูกเลื่อนเป็นกัปตัน ครั้งแรกไปเที่ยวด้วยกันที่ จอร์แดน แต่ดิฉันพาคุณแม่ไปด้วย เพราะท่านชอบสปาที่นั้น เค้าเลยบอกว่า พอดีจะได้เจอแม่ดิฉัน แต่เค้า On duty จึงไม่สามารถมานั่งกับดิฉันได้ หลังประกาศ PA กับผุ้ โดยสารเสร็จ มีสคริป์ที่ไม่มีในหน้าที คือ เค้าก็ประกาศว่า Mrs.Pinlada , would you like to be capt.wife? แล้วก็มีคุณแอร์ รุนรถมาในนั้นมีกล่อง พอเปิดออก เป็นพวงกุญแจบ้านกับกุญแจรถนะคะ ก็พูดความในใจประมาณ สามนาทีอ่ะน่ะคะ และบอกว่าตัดสินใจขอแต่งงาน วันนี้โดยไม่ได้เตรียมการ อะไรล่วงหน้า เพราะคิดว่า เค้าไม่อยากปล่อยเวลาที่ทรมานให้ผ่านไปอีก แล้ว เลยปรึกษากับคุณแม่ดิฉันและโคไพล็อต ทางลุกเรือจะลงไปซื้อเครื่อง ประดับที่ดิวตี้ฟรีให้ แก้ขัดไปก่อน แต่คุณสามีบอกว่าผมจะใช้กุญแจบ้านกับ กุญแจรถ เป็นการขอแต่งงานในวันนี้ เพราะมันหมายถึงการมอบบ้าน มอบ ทุกสิ่ง ที่เป็นกุญแจ ให้เราเป็นคนไข เข้าบ้านด้วยคะ ทันทีที่ถึงบ้าน แต่คูณแม่ดิฉันท่านรู้มาตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง ที่ท่านบอกว่าจะไปห้องน้ำแต่ไปเตรียมตัวกับว่าที่ลูกเขยน่ะคะ และก้ขอโทษผู้โดยสารทุกคน แต่ไม่มีใครโกรธเลยอ่ะ เพราะส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง เค้ายินดีกับเรื่องมงคล ดิฉันเพิ่งแต่งงานเมื่อวันวาเลนไทน์ปีที่แล้วที่ ชาร์ม เอล ชีค คะ ทะเลาะกันบ่อยตามประสา คนบ้าพลังทั้งคู่ หลังทะเลาะก็ท่องว่า Forgive and Forgot ทุกวันนี้มีความสุขมากคะ มีปัญหาเหมือนหลายคู่ แต่สุดท้ายเราตอบตัวเองกันว่า เรารักกัน และอยากอยู่ด้วยกัน เท่านั้นแหล่ะคะ ขอให้ทุกท่านมีความรักที่ยืนยาวนะคะ Ps. อาจจะยาวไป ต้องขออภัยด้วยคะ
จากคุณ |
:
capt.wife
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ก.พ. 53 06:17:31
A:41.233.95.94 X: TicketID:252605
|
|
|
|
|