ความคิดเห็นที่ 1   เมื่อก่อนตอนคบกัน เขาไม่เป็นหรือค่ะ ถ้าเพิ่งมาเป็นอาจจะเเสดงว่าเครียดจริงๆ ลองบอกให้ภรรยาไปหาหมอดูไหม อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ดีกว่าต้องแตกหักนะค่ะ เเต่ยังไงอยากให้คุณภรรยา เก็บอารมณ์ ต่อหน้าลูกนิดนึง เขายังไม่รู้เรื่องรู้ราว ถึงจะเอาเหตุผลที่สมาธิสั้นมาอ้างไม่ได้เเล้ว โตๆจนมีลูกกันเเล้ว ตอนเราคบกันแฟนเก่า เราบอกเขาก่อนเลยว่า เราไม่ทำงานบ้าน ไม่ทำอาหาร นอนเช้าตื่นเย็น ถ้าแต่งงานไปต้องออกมาอยู่เอง ห้ามให้พ่อแม่มาอยู่ เพราะเรากลัวมีปัญหา แรกๆ เขารับได้หมด พอถึงจุดอิ่มตัว เขาก็เริ่มเอาข้ออ้างเหล่านั้นมาทะเลาะด้วย ทั้งที่เขาก็รู้เเต่เเรก เเต่เขาคิดว่า เราอาจจะอ่อนลงบ้าง จะยอมทำงานบ้าน จะยอมทำอาหาร จะให้เขาพาพ่อแม่เขามาอยู่บ้านเรา เสียใจค่ะ เราบอกเขาตั้งเเต่เเรกเเล้ว รับได้เอง ช่วยไม่ได้ สุดท้ายก็ต้่องเลิก จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 00:54:51

ความคิดเห็นที่ 2   เลิกเลยครับ ทนทำไมแบบนี้ เอาลูกไปเลี้ยงด้วยเลยครับ คิดเอาแต่ผัวแต่ไม่พร้อมที่จะเป็นเมีย หาคนที่จิตปรกติจะดีกว่า จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:00:52

ความคิดเห็นที่ 3   ว้า เราเป็นยิ่งกว่านั้นอีก แต่สามียังรักเราอยู่เลย สงสัยต้องปรับตัวให้ดีขึ้นเระ เราไม่ทำอะไรเลยยกเว้นเลี้ยงลูกอะค่ะ แถมมียายช่วยเลี้ยง ซักผ้ารีดผ้าก็จ้าง งานบ้านก็จ้างค่ะ กับข้าวยายทำ ล้างจานสามีทำ งานในบ้านหลายๆอย่างสามีก็ทำค่ะ แถมขี้วีนอีก สงสารสามีขึ้นมาตะหงิดๆ 555 เราคิดว่าการเลี้ยงลูกก็เครียดนะค่ะ บางทีป้อนข้าวลูก เค้าไม่ทาน แม่ก้เครียด ลูกป่วยแม่ก้เครียด คุณอย่าเพิ่งไม่มองมุมไม่ดีของภรรยาเลยค่ะ ลองมองข้อดีของเค้าสิค่ะ เค้าทำอาหารให้ทาน เลี้ยงลูกให้คุณ แถมทำงานประจำด้วย โอ้ววว เหนื่อยนะนั่น แต่ถ้าคุณคิดว่างานบ้านที่คุณช่วยภรรยาคุณทำ มันเป็นการทำให้แฟนคุณ ดูไม่เป็นศรีภรรยาแล้วละก้อ น่าสงสารภรรยาคุณจัง อารมณ์บูดกับลูก มันมีได้ตลอดค่ะ ยิ่งถ้าได้รับความกดดันจากสามีจะยิ่งไปลงที่ลูกได้ (อันนี้เราเคยเป็นค่ะ คือเวลามีเรื่องอะไรอารมณืเสีย โดยเฉพาะถ้าสามีเป็นคนทำให้อารมณ์เสีย บางทีก็โวยกะลูกบ้างอะ แบบว่าลูกขึ้นนอนผิดเวลา เราก็บ่นๆๆๆลูก ไรประมาณเนี๊ยะ) ลองเอางานบ้านที่คุณไม่อยากทำไปจ้างคนทำดีมั๊ยค่ะ เช่นหาแม่บ้านมาช่วยแบ่งเบาภาระ อันนี้ช่วยได้ค่ะ ทั้งคุณและแฟนไม่เครียด หรืองานบางอย่างก็จ้างเค้าเช่นจ้างซักผ้ารีดผ้า ส่วนเรื่องล้างจาน ถ้าคุณไม่อยากทำก็ไม่ค้องกิน (อุ่ย...ขอโทษค่ะ นึกว่าสามีตัวเอง 555) ก็จ้างแม่บ้านไปเลย ให้เค้าทำทุกอย่างและช่วยเตรียมกับข้าวด้วย แบ่งเบาภาระไป แต่ถ้าอยากให้เค้าดูแลบ้านก็ให้ออกจากงานมาดูลูกอย่างเดียวและดูแลบ้านไปด้วยก็ได้ค่ะ ภรรยาคุณเก่งนะค่ะ ชื่นชมจากใจ ไปทำงานนอกบ้าน แล้วยังทำกับข้าวด้วย แถมดูแลลูกอีก เราเองทำได้ไม่เท่าภรรยาคุณเลยค่ะ รักภรรยาคุณมากๆค่ะ โชคดีมากๆแล้วค่ะที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ถ้าคุรแต่งงานกับเรา คุณคงเลิกกะเราตั้งแต่เดือนแรกแล้ว 5555 อ้อ แต่เรา ไม่สกปรกอะ อาบน้ำ ทุกวัน สวยได้ตลอดเวลา แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 01:22:59 จากคุณ : mychicha เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:20:05

ความคิดเห็นที่ 4   เฮ้อ.........ชีวิตคู่ การตั้งครอบครัว มันหนื่อยอย่างนี้แหละคุณ ยิ่งถ้าได้คู่ครองที่พื้นฐาน การดำรงชีวิตไม่คล้ายคลึงกัน อาจต้องใช้ความพยายามมากหน่อย.......... เป็นไปได้มั้ย ที่จะจ้างลูกจ้างมาช่วยทำงาน ภรรยาบางคน มีขีดความอดทนต่ำ (อาจเข้าข่าย อยู่ภายใต้ความกดดันไม่ได้) เพื่อนเราบางครอบครัว ตัวสามีเป็นแบบภรรยาคุณ ซึ่งในสังคมไทย ภรรยาต้องอดทนไป ทั้งๆที่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ แต่ในครอบครัวคุณ มันมีเรือ่งค่านิยมของสังคมไทยที่ ภรรยาต้องเป็นตัวหลักในการดูแลงานบ้าน เลยทำให้คุณจขกท. มีความไม่สบายใจสูง....... ใจเย็นๆนะคะ อย่าเพิ่งไปตำหนิภรรยามากมาย ลองดูค่อยๆหาทางแก้ไขทีละขั้น เริ่มจาก น่าจะต้องหาตัวช่วย มาผ่อนงานบ้าน ส่วนตัวคุณเอง จะได้เครียดน้อยลง เพราะไม่ต้องลงมือทำงานบ้านเองจะได้เกิดทัศนคติในทางบวกกับภรรรยาบ้าง ....ถ้าเป็นได้น่าจะจูงมือกันไปปรึกษาจิตแพทย์  ค่อยๆนำคำแนะนำมาแก้ไขปัญหา......... ต้องบอกจริงๆว่า การมีลูกนี่ จะว่าน่ารักก้อคงใช่ แต่ในทางกลับกัน เป็นภาระที่พ่อแม่ต้องเหนื่อย ลงแรง ลงเงินกันไปเป็น 10ปีขั้นต่ำเลยคะ จากคุณ : งุนงง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:22:24

ความคิดเห็นที่ 5   ศรีภรรยาสำหรับคุณคืออะไร คุณคาดหวังอะไร 1. ภาระหน้าที่ ที่คุณต้องรับผิดชอบ - ทำงานนอกบ้าน หาเงิน - ช่วยเล่นกับลูก ช่วยงานบ้านภรรยาบ้างเล็กๆน้อยๆ 2. ภาระหน้าที่ ที่ภรรยาคุณต้องรับผิดชอบ - ทำงานนอกบ้าน หาเงิน - เลี้ยงลูก ดูแลลูก ให้ดีๆ - รับผิดชอบงานบ้าน ให้ดีๆ - ดูแลตัวเอง ดูแล ฯลฯ ให้ดีๆ ภรรยาก็เป็นคนเหมือนคุณ รู้สึกเป็นเหมือนคุณทุกอย่าง แต่เป็นผู้หญิง คุณจะคาดหวังให้เธอ รับผิดชอบหน้าที่ ที่มีมากกว่าคุณ และต้องทำให้ได้ดีๆ ด้วย ภรรยาคุณน่าเห็นใจค่ะ ถ้าสามีไม่เข้าใจ และไม่เป็นผู้สนับสนุนที่ดี ถ้าคุณเข้าใจ และคาดหวัง ให้ภรรยารับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ ฯลฯ น้อยลง น่าจะแก้ปัญหาได้ จากคุณ : briarrose เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 01:40:39

ความคิดเห็นที่ 6   เราทำทุกอย่าง ยกเว้นหาเงินค่ะ ทุกอย่างจริงๆ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 02:37:35

ความคิดเห็นที่ 7   แต่สามีก็มีช่วยเล่นกับลูกบ้าง เพราะอยากให้ครอบครัวเรามีความสุข อะไรที่พอจะช่วยๆ กันได้ ก็จงทำไปเถิด อย่าเกี่ยงกันค่ะ จริงอยู่คนเรามีหน้าที่ต่างกัน แต่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว ต้องหยวนๆ กันหน่อย . . เราทำทุกอย่างก็จริง แต่ขาดๆ เกินๆ ค่ะ สามีบ่นบ้าง เราก็เถียงบ้าง เพราะต่างฝ่ายคิดว่าหน้าที่ที่รับอยู่มันเยอะ เราไม่ค่อยเป็น แต่สามีค่ะเป็น เพราะเค้าเครียด ก็เลยทำให้งอแง และบ่นเป็นบางครั้ง เวลาเค้าบ่น เรามักจะเอาหูทวนลม เพราะไม่อยากจะทำเรื่องให้มันรุนแรงยิ่งขึ้นน่ะค่ะ พยายามเข้าใจเค้า ว่าเค้าต้องวางแผนอนาคตครอบครัว นู่นนี่ สารพัด.. เอาใจเขามาใส่ใจเราค่ะ และก็คุยกันอย่างเปิดอก ก็เลยทำให้เราอยู่ด้วยกันได้นาน . . ที่พูดมา อยากบอก จขกทว่า ลองคุยกันค่ะ หรือไม่ก็ลองสมมุติว่าถ้าคุณเป็นเธอ จะทำอย่างไร ทำได้ดีแค่ไหน เวลาสามีเราบ่นๆ ว่าเค้าต้องทำนู่น ทำนี่ เรามักจะบอกเค้าว่า... ลองสลับหน้าที่กันไหมล่ะ เค้ายิ้มทันที เพราะเค้ารู้ว่าเค้าทำไม่ได้ อยู่ด้วยกัน มันก็มีบ้างค่ะ ที่จะรำคาญกันและกัน แต่อย่างที่บอกไป ลองสมมุติว่าเราเป็นเค้าบ้าง แล้วความเห็นใจกันจะตามมาค่ะ ....... ปล.คือยังไม่ได้อ่านเนื้อหาจนจบ ก็อยากตอบเสียแล้ว จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 02:51:28

ความคิดเห็นที่ 8   อิจฉาภรรยา จขกท จังเลย เราทำงานบ้าน ทำกับข้าว ดูแลลูกๆเองทุกอย่างค่ะ เคยออกไปทำงาน กลับมาบ้านก็ยังต้องทำเองหมดทุกอย่างอยู่ดี แต่สามีก็หาเลี้ยงครอบครัวให้เราอยู่ดี กินดี พูดยากจัง เพราะบางทีเราก็ยังโมโหสามีเราเพราะเค้าเป็นคนไม่เรียบร้อย มาถึงโยนข้าวของทั่วบ้าน เราก็แบบ มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำสิฟระ 555 ทะเลาะกันเรื่องแบบนี้ก็บ่อยค่ะ จากคุณ : kiriya เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 03:11:24

ความคิดเห็นที่ 9   อ่านดูแล้วคิดว่าภรรยาคุณป่วยค่ะ ดีเพรส น่าจะมีอาการซึมเศร้า มานานพอสมควรแล้ว ต้องพาไปหาหมอนะคะ ผู้ป่วยแบบนี้มักจะ ขี้เกียจ ไม่ดูแลตัวเอง ไม่ดูแลบ้าน มีอีกหลายประการค่ะ แต่อ่าน ดูแล้วภรรยาคุณเข้าข่ายนี้เลย แล้วยิ่งไปพูดไปตำหนิก็เหมือนกับ เอาน้ำร้อนไปสาดๆใส่เขาค่ะ ลองปรึกษาจิตแพทย์ดูนะคะ ควรรีบ แก้ไขก่อนอะไรๆจะสายไป ที่สำคัญคุณสามีต้องพยายามพูดคุย เอาใจใส่ภรรยาให้มากๆด้วยค่ะ หาปมปัญหาให้เจอ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ธันย์ศร เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 03:50:34

ความคิดเห็นที่ 10   ใจเย็นๆค่ะ มองส่วนดีเอาไว้ เลี้ยงลูกนี่งานละเอียดอ่นมากนะ ไหนภรรยาคุณต้องทำงานนอกบ้านอีก อิอิ ถ้าคุณได้ดิฉันเป็นภรรยา  เลิกไปนานแล้วค่ะ งานบ้านสุดทนถึงทำ  กับข้าวไม่เก่ง (เก่งสุดหนมปังทาเนย)  หาเงินไม่เป็น ผ้าซักก้ใส่แบบไม่รีด ...................บลาๆๆ มองกลับกันถ้าภรรยาคุณคิดว่า มีสามีแบบนี้อย่ามีดีกว่า เลี้ยงลูกก็ต้องเลี้ยง  งานนอกบ้านก็ต้องทำ กลับบ้านยังต้องปรนนิบัติ พัดวีหาข้าวหาน้ำ งานในบ้านอีก  นะว่ามั้ย คุณโชคดีมากที่มีภรรยาแบบนี้  ชมจากใจจริง จากคุณ : แม่น้องชมพู่ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 03:53:46

ความคิดเห็นที่ 11   เห็นด้วยกับ คคห 9 ค่ะ น่าจะมีภาวะซึมเศร้า อย่างนี้น่าจะไปพบแพทย์ เรื่องบางเรื่องถ้าไม่หนักหนาสาหัสก็ปล่อยๆไปบ้างค่ะ ดีกว่ากดดันกัน แล้วก่อให้เกิดความเครียดทั้งผู้ว่า ผู้ถูกว่า และลูกน้อย ของเล่นมันจะระเกะระกะไปบ้างก็ทำเป็นมองไม่เห็นเสีย ตอนนี้นอกจากลูกแล้ว คุณอาจต้องดูแลเธอค่ะ ไม่ต้องคิดว่าใครได้เปรียบ เสียเปรียบ คิดซะว่า เธอกำลังไม่สบาย คุณคงต้องคอยดูแลและอดทนมากๆนะคะ หากยังพอมีกำลัง อันไหนที่จ้างคนทำได้ ก็จ้างเถอะค่ะ ทำงานด้วยกันทั้งคู่ ก็เหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ พอลูกโตขึ้นอีกหน่อยก็อาจจะดีขึ้น ยังไงขอให้ใจเย็นๆ เข้าใจ เห็นใจเธอด้วยนะคะ โชคดีค่ะ จากคุณ : ดวงเด่นเดือน (ดวงเด่นเดือน) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 04:32:51

ความคิดเห็นที่ 12   เป็นผู้นำครอบครัวที่ดี มันก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้วแหละครับ แลกกับความสุขที่ได้จากลูกๆ ผมว่ามันก็น่าจะคุ้มนะ เป็นกำลังใจให้นะครับ จากคุณ : พ่อลูกสอง (อยากเป็นคนเลว) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 04:58:29

ความคิดเห็นที่ 13   เคยเป็นอย่างภรรยาเจ้าของกระทู้ และเป็นมากกว่านั้นเยอะจนเกือบต้องเลิกกับสามี สาเหตุเกิดจากภาวะซึมเศร้า และภาระที่เพิ่มมากขึ้น (ตอนนั้นทั้งเลี้ยงลูก ท้องคนที่สอง ทำงานบ้าน สอนหนังสือ) โชคดีที่สามีใจเย็น ถึงแม้สามีจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็ใจเย็น วันหนึ่งคิดว่าเป็นยังนี้คงแย่ เลยจูงมือสามีไปคุยกับจิตแพทย์ ตกลงป่วยทั้งคู่ สามีแก้ไปอีกอย่าง เราต้องแก้ไปอีกอย่าง แต่ยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าไหร่คะ แต่พอตัวเอง สวดมนต์ และเริ่มนั่งสมาธิ คราวนี้ สามี ออกปากเลยคะ ว่าเราเปลี่ยนไป คราวนี้กับเป็นว่า ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร เราก็ใจเย็นเริ่มแก้ปัญหาเองได้ ให้คำปรึกษาสามีได้ ไม่ได้ทะเลาะกันมา 2 ปีแล้วคะ จูงมือกัน สวดมนต์ แล้วพลัดกันไปปฎิบัติธรรมนะค่ะ ปัญหาทุกปัญหามีทางออก ถึงแม้เลิกกันไป คุณก็ไปเจอปัญหาใหม่อยู่ดี สู้ชนกับปัญหาที่เกิดดีกว่า เป็นกำลังใจให้นะค่ะ จากคุณ : n_godde เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 06:49:09

ความคิดเห็นที่ 14   ตาม หคท 9 เลยครับ รีบๆ รักษา  ไม่ยาก และไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ กินยา เดี๋ยวก็หายนะ จากคุณ : ม่อน(mond) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 07:18:22

ความคิดเห็นที่ 15   เราว่าภรรยามีภาวะซึมเศร้าขั้นรุนแรงที่จำเป็นต้องพบแพทย์แล้วล่ะ ถ้าคุณยังรักเค้าได้โปรดสงสารและพาเธอไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุดค่ะ ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไป.......คนที่มีภาวะซึมเศร้าขั้นรุนแรงอาจทำร้ายตัวเองและคนรอบข้างได้ พยายามพาเธอไปพบแพทย์ให้ได้นะคะ http://www.ramamental.com/depression/ http://www.nph.go.th/knowledge/depression2/depression2.html "เมื่อได้รู้จักโรคซึมเศร้ากันแล้ว จะเห็นว่าโรคซึมเศร้าไม่ได้เป็นแค่อารมณ์เซ็ง เศร้าเท่านั้น แต่หากเป็นโรคที่อาจส่งผลต่อตนเองและ ครอบครัว และหากปล่อยทิ้งไว้ไม่บำบัดรักษา อาจนำมาสู่ปัญหาการทำงานและการดำเนินชีวิต และบางรายอาจตัดสินใจปลิดชีวิตตนเองได้ ดังนั้นหากพบหรือสงสัยว่าตนเองและคนใกล้ตัวของคุณป่วยด้วยโรคซึมเศร้า อย่าได้นิ่งนอนใจ ควรพามาปรึกษาแพทย์ เพราะหากได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง ด้วยวิธีที่เหมาะสม คุณและคนใกล้ตัวก็สามารถจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป" จากคุณ : สร้อยทองคล้องรักเรา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 07:28:11

ความคิดเห็นที่ 16   เราก้อทำทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ (แม่กระทั่งเลี้ยง พ่อ สามี ที่ไม่คิดที่จะมีใครดูแล ก้อเลยโยนมาให้เรา) เหมือน คุณเจ้าแม่แฟชั่น ยกเว้นหาเงิน แต่แม่สามีบอกว่าเราเป็นคนใช่ไม่ได้ (ที่ไม่มีปัญญาสร้างรายได้) คิดว่า ลูก ถ้าเข้าโรงเรียนแล้ว จะหางานทำ จากคุณ : ไข่ตุ๋นกะไข่หวาน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 07:53:32

ความคิดเห็นที่ 17   ปรึกษาจิตแพทย์ค่ะ คล้ายภาวะซึ่มเศร้ามาก คนที่เรารู้จัก 2 คน ที่เป็นคล้ายแบบนี้ จากคุณ : cherry-tong เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 07:57:35

ความคิดเห็นที่ 18   ภรรยาคุณน่าเห็นใจเหมือน คห.ด้านบนเลยค่ะ จากคุณ : tipjung เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 08:41:30

ความคิดเห็นที่ 19   วุฒิภาวะทางอารมณ์+ความเหนื่อยล้า ดิฉันลูก 3 ท้องแรกยังไม่ 30 นิสัยติดเด็กและรักสบายอยู่นิดๆ จนสามียื่นคำขาดว่า พอเถอะ ไม่ต้องทำงานแล้ว  เรื่องหาเงิน เค้าจะหาเอง เธอแค่อยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำงานบ้านเล็กน้อย เล็กน้อยจริงๆค่ะ ซักผ้าก็ปั่นเครื่อง  กวาดบ้าน ถูบ้าน อันนี้จะทำไม่ทำก็เรื่องของเธอ เพราะคนที่อยู่กับบ้านคือเธอกับลูก  อยากอยู่แบบสกปรกก็เชิญ ล้างจานกินกี่ใบก็ล้างเท่านั้น  ถ้าไม่อยากล้างก็สั่งตามสั่งมา ก็คิดเผื่อลูกเอาเองแล้วกัน ตากผ้า สะบัดๆตาก จบ คงไม่เกินกำลังนะ รีดผ้าของคุณอยู่บ้านจะรีดไม่รีดแล้วแต่คุณ  แต่ของผมไม่ต้อง ผมจะทำเอง ทำกับข้าว ผมไม่คาดหวังในตัวคุณอยู่แล้ว เพราะก่อนแต่งผมก็ไม่เห็นคุณจะทำเป็นสักกะอย่างซื้อเอาก็ได้ มีอะไรอีกแค่เลี้ยงลูกให้ดี +เฝ้าร้านนิดหน่อย  ส่วนเรื่องร้านถ้าเฝ้าไม่ไหว จ้างเด็กวันละ 100 (ร้านเกมส์ค่ะ) รีบโอเคเลยคร่า.....ดีเลย ฉันไม่ต้องทำงานอีกแล้ว.....ข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เคยเจอมา จากคุณ : mamapaijing เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 08:45:41

ความคิดเห็นที่ 20   เข้าใจว่าชีวิตคงตึงมาก เหน็ดเหนื่อย อ่อนล้า ต้องปรับอะไรซักอย่างแล้วหละ งานบ้านหาคนมาช่วยได้มั้ย ปู่ย่า ตายาย มีใครช่วยเลี้ยงได้มั้ย ทำงานจนไม่มีเวลาพักผ่อนเลยใช่ไหม หาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง จะได้ชาร์ตแบตไปในตัว ถ้าได้ไปปฏิบัติธรรมซักคอร์สนึง( 1 อาทิตย์) จะช่วยได้มากเลยครับ อะไรที่มันยุ่งเหยิงจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้น จิตจะผ่องใสมีสมาธิ สามารถรับภาระหนักได้อย่างสบายๆ ก่อนนอน ก็ฝึกนั่งกำหนดลมหายใจ เฝ้าดูลมหายใจตนเอง ให้ได้ซักครึ่งชม. ก็ช่วยทำให้หลับสบาย หลับลึก ลองดูนะครับ ถ้าไม่เคยทำอาจจะยาก รุ้สึกรำคาญ แต่ถ้ามีความเพียร หมั่นทำทุกคืน รับรองว่า อะไรๆจะดีขึ้น เอาใจช่วยนะครับ ปล.ช่วงนี้ก็คุมกำเนิดให้ดีๆด้วยนะ เดี๋ยวมีลูกคนที่สองตามมา มันจะยิ่งเหนื่อยกว่าเดิมอีก จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 08:53:33

ความคิดเห็นที่ 21   บ้านเรา เราก็ทำงาน เลี้ยงลูก หาเงิน ทำกับข้าว สามีทำความสะอาดบ้าน รถ เลี้ยงหมา และดูแลพ่อเรา แต่ละบ้าน ความลงตัวมันต่างกันอะค่ะ ทีนี้ พอมันไม่ลงตัว ก็ต้องย้อนไปดูว่าทำไมแต่ก่อนมันลงตัวได้อะ จากคุณ : Michy เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 09:12:35

ความคิดเห็นที่ 22   ที่อ่านมารู้สึกว่าภรรยาของคุณมีปัญหาบางอย่าง เช่น มีความเครียดมากเกินไปแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ หาทางออกไม่ได้ ต้องการระบาย อะไรแบบนั้นแหละค่ะ แนะนำอยากให้ภรรยาเข้ารับการพูดคุยและปรึกษาจิตแพทย์ อาจจะไปทั้งสามีภรรยาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องการใช้ชีวิตคู่ แล้วคุณหมอจะมีวิธีแนะนำที่นุ่มนวลเอง ที่ดิฉันคิดว่าภรรยาของคุณไม่ค่อยปกติ เพราะผู้หญิงเราไม่ว่าจะเหนื่อยกับการงานแค่ไหนก็ไม่น่าละเลยเรื่องการอาบน้ำนะคะ หมายถึงหลายครั้งนะไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง มันแสดงออกถึงการปล่อยปละละเลย การไม่ใส่ใจกับกิจวัตรประจำวัน หรือการปล่อยทิ้ง ยิ่งถ้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองได้ต่อไปจะน่ากลัว เวลาคุณจะปล่อยให้ลูกอยู่กับภรรยาตามลำพังก็อาจจะไม่สบายใจได้ ทั้งนี้ดิฉันไม่ทราบว่าความรุนแรงของพฤติกรรมมันมากน้อยแค่ไหน แต่อยากให้ไปคุยกับหมอดูค่ะ แก้ไขเสียแต่เนิ่นๆ ดีกว่า ถ้าเขาไม่ฟังคุณพูด ลองคุยกับพ่อแม่พี่น้องของภรรยาดู อาจมีคนเข้ามาช่วยพูดให้ได้ จากคุณ : tiara เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 09:33:39

ความคิดเห็นที่ 23   ถ้าเลิกกับแฟน...แล้วคุณคิดว่า งานมันจะเบาลงเหรอครับ ก้มหน้าก้มตา ล้างจาน  และพูดให้น้อยลง ...สู้ๆ ครับ ปล. ...แฟนผม มีหน้าที่แค่ ให้นม จับเรอ เปลี่ยนผ้าอ้อม เอาลูกนอน.. นอกนั้น ผมรับเละ..เอาลูกอาบน้ำ ทำกับข้าว ล้างจาน ล้างขวดนม ที่ปั้มนม ซักผ้า ซื้อของใช้ลูก ไปเอายาให้แฟน เปิด-ปิดร้านขายของ ขายของ ซ่อมของให้ลูกค้า  สั่งของ เลือกสินค้าที่จะเอามาขาย บางทีจะต้องอุ้มลูกเรอบ้าง เอาลูกนอนบ้าง  เวลาแฟนเครียดจะต้องให้ผมเครียดด้วยเธอถึงจะหายเครียด  ถือว่ามันเป็นหน้าที่ของหัวหน้าครอบครัว  ถ้าเราไม่ทำ แล้วใครจะทำล่ะครับ  อิอิ...ก็ผมหลงรักเค้าทั้ง 2 คนมากนี่ครับ......ที่ทำลงไปถึงจะเหนื่อยจะท้อแต่ผมก็มีความสุขมากกว่าความทุกข์นะครับ....ได้อุ้มได้มองหน้าได้หอมได้คุยได้เล่นกับลูก ก็หายเหนื่อยแล้วครับผม.... จากคุณ : แสบสนิทศิษย์พี่จืด เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 09:50:16

ความคิดเห็นที่ 24   .. รักคือคำ คำนี้ รักคือความอดทนทุกอย่าง จริงใจให้กัน รักคือความเข้าใจ รักคือยอมอภัยทุกอย่าง อภัยให้กัน ดังดวงตะวัน ที่ยังยั่งยืนคู่ฟ้า ความรักจึงบังเกิดมา ให้เป็นภาษาทางใจ ให้ไว้เพื่อช่วยนำทาง .. ปล.คิดถึงวันที่รักกันใหม่ๆ อาจจะทำให้รู้สึกดีขึ้น ค่อยๆพูดคุยกันนะคะ จากคุณ : N'Pat's mom เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 09:52:56

ความคิดเห็นที่ 25   เป็นกำลังใจให้นะค่ะ เราว่าครอบครัวเดียวกันน่าจะช่วยๆกันไป เราก็ยอมรับค่ะ แรกๆเรามีปัญหากับสามีเหมือนกัน ด้วยความแตกต่างกันในหลายๆด้าน แต่ก็ปรับตัวไปเรื่อยๆค่ะ สามีเป็นคนไม่เคยทำงานบ้านอะไร เพราะเค้าถูกเลี้ยงแบบนี้มาตลอด เราก็ไม่โกรธนะ เพราะเรายอมทำ สิ่งไหนที่พอจะทำให้ครอบครัว เป็นครอบครัว พยายามไม่หาเรื่องมาให้ปวดหัว เป็นกำลังใจให้กันและกัน อาจไมสมบูรณ์แบบ แต่มันก็สไตล์ใครสไตล์มัน ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ จขกท.นะค่ะ สู้ สู้ ค่ะเพื่อลูก จากคุณ : K.Panisa เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 09:53:44

ความคิดเห็นที่ 26   เราก็ทำทุกอย่าง ตื่น ตี 5 ครึ่ง เตรียมของให้ลูกคนโต ลูกคนเล็ก ตัวเอง (สามีบางครั้ง)  รับ-ส่ง ลูกคนโตไป ร.ร. ทำกับข้าว เช้า-กลางวัน-เย็น-ก่อนนอน(บางครั้ง) ทำงานประจำ ซักผ้า รีบผ้า เลี้ยงลูก นอน ที ตี 1 - 2 - 3 ทุกวัน ผมเพร้าป็นอีเพลิ้งเลยอะ สงสารตัวเองจัง แง ๆๆๆๆๆ บางครั้งยังโดนต่อว่าเลย เหมือนเราไม่ได้ทำอะไร ยังดีไม่พอ เราก็ก้มหน้าก้มตาทำไป ทำไปจนกว่าจะ ทำไม่ไหว หรือไม่มีแรงทำ ...แต่คงไม่เลิกทำนะ เพราะรักพวกเขาไปแล้วนิ ปล.แก้ไข เพิ่มเติมค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 10:02:23 จากคุณ : แม่น้องกันจัง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 09:55:45

ความคิดเห็นที่ 27   ลูกเราก็ 2 ขวบค่ะ สามีทำงานส่วนตัวที่บ้าน บางวันก็เลี้ยงลูกเอง และช่วยทำงานบ้าน ตอนเย็นเรากลับบ้านก็ทำงานบ้านนิดหน่อย เมื่อก่อนรีดผ้าเอง เดี๋ยวนี้จะไปจ้างเค้ารีดประหยัดเวลาไปเยอะเลย พอวันหยุดก็ไปเที่ยวกับที่บ้าน ชีวิตก็เหนื่อยแต่ก็มีความสุขดี เข้าใจว่าทำงานนอกบ้านและงานบ้านเหนื่อยมาก เข้าใจภรรยามาก ๆเลย สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : PimPim (pimhing) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:03:24

ความคิดเห็นที่ 28   เราว่าปัญหานี้แก้ไขด้วยจ้างคนมาทำงานบ้าน ก็น่าจะหายเครียดได้นะ เพราะปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากงานบ้าน  เราก็คล้ายกับครอบครัวคุณนะ เราเป็นแม่ ไม่เคยทำงานบ้านเลย ตื่นมาสบัดตูด พาลูกไปขี่จักรยาน ไปใส่บาตร ไปซื้อขนม สามี ตื่นมา เก็บที่นอน พับผ้า ล้างกระโถนลูก เอาขวดนมมาเก็บข้างล่าง ลูกเล่นของเล่นเสร็จไม่ค่อยเก็บ พี่เลี้ยงเก็บให้ เมื่อก่อนไม่มีพี่เลี้ยงสามีก็บ่นเราเหมือนกัน เพราะก่อนมีลูกเราก็เนแม่บ้านที่ดีแหละ แต่พอมีลูกใจเราก็อยู่ที่ลูก ยิ่งมีลูกยากด้วย พอมี ก็ไม่สนอย่างอื่นเลย แม้แต่สามีก็ไม่ค่อยสนเท่าไหร่ ก็มีทะเลาะกันบ้างเรื่องงานบ้าน สามีเคยโมโหเรา แตะของแตกก็มีเรื่องเราไม่ทำงานบ้าน สุดท้ายพอจ้างแม่บ้าน ก็ปัญหาก็จบ ไม่ค่อยทะเลาะกันเรื่องนี้อีกเลย จากคุณ : อ้วน (zin-oo) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:04:10

ความคิดเห็นที่ 29   ถ้าทำงานด้วยกันทั้งคู่ แล้วภาระงานบ้าน เลี้ยงลูกต้องมาเป็นของผู้หญิงอีก สังคมบ้านเราทุกวันนี้มันก็ไม่ค่อยแฟร์นะคะ ผู้หญิงสมัยนี้ถึงหนีไปมีผัวฝรั่งกันหมด (ถ้าหาได้) . . เลิกงานมาต้องมานั่งหุงข้าว ทำกับข้าว เลี้ยงลูก ดูแล(ผัว) ให้เค้าxxx และอื่นๆ อีก คงต้องเครียด  บางครั้งโรคประสาทจะถามหา แล้วหัวอกคนเป็นแม่ถ้าตัดอย่างอื่นได้ ก็ตัดไปก่อน ต้องเลี้ยงลูกก่อน..ก็ทำให้อย่างอื่นบกพร่องไปค่ะ อยากให้ทำความเข้าใจกันนะคะ อย่าให้เอะอะ ก็เลิกกันเลยค่ะ สงสารเด็กอย่างที่คุณ จขกท. บอกน่ะค่ะ ลองจ้างแม่บ้านมาช่วยซะหน่อยนะคะ เสียเงินนิดนึง ทำให้สุขภาพจิตคุณพ่อคุณแม่ดีขึ้น  มีเวลาให้กันมากขึ้น เผลอๆ อาจไม่ต้องปรึกษาหมอเลยด้วยค่ะ เอาใจช่วยนะคะ คุณก็เป็นคุณพ่อที่ดี อดทนอีกนิดเองค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 10:11:27 จากคุณ : เก่งแต่ปาก (Ice Late') เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:10:03

ความคิดเห็นที่ 30   เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นได้ของผู้หญิงที่มีบุตรคนแรกนะคะ เรียกว่าสภาวะ baby blue ค่ะ จขกทอย่าไปเปรียบเทียบคุณภรรยากับแม่ๆ ท่านอื่นๆ ค่ะ เพราะแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน มีความทนทางต่อสภาวะแวดล้อมได้ต่างกันค่ะ บางคนมีลูกยั้วเยี้ย ก็ไม่เป็นปัญหา สามารถ cope ได้ แต่บางคนมีลูกคนแรก ก็เกิดสภาวะ baby blue ขั้นรุนแรงถึงขนาดเลี้ยงลูกไม่ได้เลยทีเดียว เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายคิดถึงอิสระที่เคยมียามไม่มีลูก คุณภรรยาของจขกทกำลังต้องการความช่วยเหลือทางด้านจิตใจค่ะ เข้าใจว่าคุณจขกทนั้นคงจะขัดใจ เพราะตัวเองก็ต้องทำงาน และไหนต้องรับผิดชอบงานบ้าน และต้องช่วยดูแลลูกด้วย แต่ต้องเข้าใจให้มากๆ ว่า คนเรานั้นต่างกันค่ะ จิตใจบางคนเปราะบาง บางคนเข้มแข็ง ดังนั้นไม่อยากให้จขกทเอาเธอไปเปรียบกับใคร แล้วถามตัวเองว่า ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างเครียด และกดดันเช่นนี้ตลอดไป หรือต้องการให้อะไรๆ ดีขึ้นแม้เพียงสักเล็กน้อย อาจต้องให้เธอ shut down จากการเลี้ยงลูกสักระยะหนึ่งค่ะ ซึ่งช่วงนี้จขกทอาจต้องเหนื่อยสักนิด ถ้ามีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย มาช่วยรับภาระหลานสักช่วยใหญ่ๆ ได้จะดีมากค่ะ ถ้าปล่อยให้คุณภรรยาดูแลลูกในช่วงนี้จะไม่ดีแน่ เพราะเด็กกำลังจำ และเค้าจะจดจำพฤติกรรมของพ่อแม่และสิ่งเหล่านั้นจะหลอมรวมเป็นพฤติกรรมเค้าต่อไปในอนาคต ซึ่งไม่เป็นการดีแน่ ดังนั้นหาตัวช่วยค่ะ ให้คุณภรรยาได้พักผ่อนเต็มที่ ให้เธอทำตามใจเธอสักพัก หรือไม่เช่นนั้นก็พาไปปรึกษาจิตแพทย์จะช่วยได้มากค่ะ จากคุณ : ผ่านมา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:15:03 A:115.128.53.174 X: TicketID:166806

ความคิดเห็นที่ 31   ควรหาคนมาช่วยงานบ้านหรือช่วยเลี้ยงลูก  แต่ไม่แนะนำปู่ย่าตายายเด็กเด็ดขาด ไม่งั้นภรรยาของคุณจะเครียดกว่าเก่าอีก จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:28:45

ความคิดเห็นที่ 32   เราว่าภรรยาคุณกำลังต้องการที่พึ่งพิงทางใจ การประชดและทำร้ายตัวเองเป็นการกระทำเพื่อเรียกร้องความสนใจ เธออาจจะเหนื่อยและหดหู่ ต้องการการเอาใจใส่และต้องการคนที่เข้าใจ คุณมีเวลาให้กันน้อยลงไม่เหมือนแต่ก่อนรึปล่าวคะ   หรือ อีกทางนึงคือ การเลี้ยงดูในวัยเด็กของภรรยาคุณเค้าโตมายังไงคะ ที่คุณบอกเค้าเป็นคนไม่ฟังเหตุผลอันนี้นิสัยเหมือนเด็กๆ มีปัญหาทางบ้านในวัยเด็กมั้ย อาจโตมาแบบเด็กเก็บกดหรือปล่าว บางทีคุณอาจต้องทำความเข้าใจเค้าโดยมองที่พื้นฐานเค้าด้วย หรือว่า อีกอย่างเค้าอาจจะป่วยเป็นภาวะซึมเศร้าจริง ก็ต้องหาสาเหตุ ช่วยหาทางออกให้เค้าเนอะ เค้าอาจจะไม่รู้ตัวตอนนี้ ทั้งหมดเราสันนิษฐานเองจากเรื่องราวที่คุณเล่านะคะ แต่ไม่ว่าเค้าจะเป็นอะไร ถ้าคุณมองเค้าแบบเห็นใจ อาจช่วยให้ความเครียดคุณลดลงนะ ใจเย็นๆค่ะ มองทีละส่วนช่วยเหลือประคับประคองกันไป สุดท้ายตัวคุณรู้ดีที่สุดว่าจะทำยังไง  เราก็เห็นใจคุณ เป็นกำลังใจให้ละกันนะคะ จากคุณ : Fiftyfive55 เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 10:36:16

ความคิดเห็นที่ 33   คิดว่าภรรยาคุณควรไปพบหมอน่ะค่ะ คือคนแถวบ้านภรรยาเค้าก็เคยมีอาการแบบนี้อ่ะค่ะ ตอนแรกก็ดีๆ หลังๆ ไม่อยากทำอะไรเลย เกิดจากภาวะเครียดไรประมาณนี้อ่ะค่ะ เค้ามีอาการคล้ายๆภรรยาคุณน่ะ ตอนหลังสามีเค้าไปปรึกษาหมออะ ก็ดีขึ้น อดทนหน่อยน่ะค่ะ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้น่ะ จากคุณ : ความรักสีขาว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 11:34:13

ความคิดเห็นที่ 34   ไอ้เรื่องเลี้ยงลูกหรือไรไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่แปลกใจ ถึงกับไม่อาบน้ำนี่ ออกแนวสกปรกแล้วนะนั่น แถมนอนด้วยชุกทำงาน โห...รับไม่ได้อ่ะ เป็นสามีเรานี่คงหนีไปมีเมียน้อยแล้วล่ะอย่างนั้น เราก็คล้ายๆนะ แต่เราไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ โมโหร้ายเหมือนกัน แต่เราไม่เคยพูดแบบนี้กะลูกเลยอ่ะ เพราะเรารักเค้ามาก มากกว่าตัวเราเอง จนไม่กล้าแสดงอาการโกรธให้เค้าเห็น ถึงจะมีบ้างแต่ก็กลับลำได้ทัน ไม่ดุ ไม่พูดขู่ แต่พูดเล่นๆน่ะเคย เราว่าคงเกี่ยวกับจิตแล้วล่ะ บางทีพาไปปรึกษาหมอบ้างก็ดีนะคะ จากคุณ : แม่น้องปุญ (Baby Mamy) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 11:44:52

ความคิดเห็นที่ 35   การที่เธอทำแบบนี้ ตัวเธอเหมาะกับการอยู่คนเดียว ทำคนเดียว คิดคนเดียวซะมากกว่า... ไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรเลยค่ะ แต่ให้กำลังใจนะ จากคุณ : AnaBerry เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 11:48:50

ความคิดเห็นที่ 36   จ้างคนมาช่วยทำงานบ้านดีกว่า  งานที่ทำงานอาจจะเครียดนะคะ   เรา จ-ศ จ้างพี่เลี้ยงเลี้ยงลูกคนนึง   ส-อ จ้างทำงานบ้านอีกคนนึง  เราเป็นจ่ายค่าจ้างเอง  เกือบครึ่งนึงของเงินเดือนเราเลย  แต่ยอมค่ะ   เราถือว่าเราเหนื่อยมากแล้วอ่ะ  ทั้งงานบ้าน+เลี้ยงลูก  เลยหาตัวช่วยงานบ้านแทน  แรกๆ สามีไม่ค่อยชอบ  ปัจจุบันเห็นด้วยค่ะ  สุขจิตดีกันทั้งบ้าน จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 12:16:17

ความคิดเห็นที่ 37   พาไปหาหมอเถอะค่ะ ว่าแต่คุณเจ้าของกระทู้ไปไหนซะล่ะ ?? คืบหน้าอย่างไรเข้ามาบอกด้วยนะคะ จากคุณ : * (IL_JM) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 12:26:50

ความคิดเห็นที่ 38   บางทัภรรยาคุณอาจไม่ต้องการเงินจากคุณ แต่คงต้องการความรักจากคุณมากกว่า... จากคุณ : ชนินทร์ธร เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 13:46:40

ความคิดเห็นที่ 39   อย่างนี้ เราว่า 1. พาไปหาหมอเถอะ เราว่าเธอเครียดมากเลยนะ                  2.  จ้างแม่บ้านมาทำงานบ้านทุกอย่าง ส่วนเรา ทำทุกอย่าง ยกเว้นหาเงินเหมือนกัน มันเป็นข้อตกลงหลังจากแต่งงาน เราจะลาออกมาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก เหนื่อยนะขนาดไม่ได้ทำงาน จากคุณ : BabyBye เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 14:25:12

ความคิดเห็นที่ 40   ต้อง หันหน้า คุยกัน อย่างจริง ๆ จัง ๆ ค่ะ ถ้าไม่คุยกัน ต่างคนต่างมีเหตุผลของใครของมัน จะเป็นครอบครัวกันได้อย่างไรคะ เรื่องอะไรย่อมคุยกันได้ ระลึกถึงวันที่เราตกลงร่วมสร้างครอบครัว มีเจตนารมณ์ร่วมกันเพื่อครอบครัวของเราเอง เพื่อลูก ดีที่สุด จากคุณ : kimyong เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:52:58 A:125.25.213.196 X:

ความคิดเห็นที่ 41   ไม่ทราบอายุภรรยาของคุณก็ตอบได้ยากนะคะ เรื่องแรกที่เราคิดคือเธอมีปัญหาความเครียดเรื่องงานหรือเปล่า การพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่า มีปัญหาอะไรก็คุยกันก่อนค่ะ แต่ถ้าเรื่องไม่ล้างจานเป็นอาทิตย์ เราว่าไม่ไหวเหมือนกัน อย่างนี้ใครจะทนได้ ยกเว้นคนที่รักเธอจริงๆค่ะ จากคุณ : แอล (aal990) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:37:17

ความคิดเห็นที่ 42   อาการของโรคซึมเศร้า  รีบปรึกษาจิตแพทย์โดยด่วยเลยคะ คนที่พบจิตแพทย์ไม่จำเป็นต้องบ้าก็พบได้คะ เราก็เป็นโรคซึมเศร้า  แต่อาการไม่หนักขนาดแฟนคุณนะคะ แต่เครียด เซ็ง เศร้า หงุดหงิด มองโลกไม่สวยงาม  รู้ตัวก่อน หาหมอ หมอให้ยามาทานก็ดีขี้นคะ สงสารเธอคะ  รีบพาเธอไปหาหมอนะคะ  เธอจะได้กลับมาเป็นคนเดิม ลูกก็จะได้มีแม่ที่ดีขึ้นไม่ต้องขาดแม่  ภรรยาที่ดีของคุณก็จะกลับมา  ต้องพาเธอไปหาหมอนะคะ จากคุณ : คุณเธอ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:12:46

ความคิดเห็นที่ 43   อันนี้ ฝากถึงคุณ Ice Late' คะ เพราะชอบเม้นท์ตรงใจดี สังคมบ้านเราทุกวันนี้มันก็ไม่ค่อยแฟร์นะคะ ผู้หญิงสมัยนี้ถึงหนีไปมีผัวฝรั่งกันหมด (ถ้าหาได้) ขอเล่าประสบการณ์ในฐานะที่มี สามีต่างชาติ นะคะ     เราอยู่กับแฟนก่อนแต่ง สมัยก่อนแต่งงาน หลังเราตื่น สามีจะรินน้ำส้ม วางไว้บนโต๊ะ สายหน่อยสามีเอาผ้าไปซัก (ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องซักผ้าเป็นของตัวเอง ต้องเอาไปหยอดเครื่อง) แล้วกลับมาตากเรียบร้อย แถมกวาดบ้านถูบ้าน เราถามเขาว่าเขาทำยังงี้เป็นปกติเหรอ เขาบอกว่า   yes my darling     หลังจากแต่งงาน เราก็เหลือแต่ภาพทรงจำดี ๆ ของเขาเก็บไว้คะ เพราะเดี่ยวนี้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น เราต้องเหมาหมด  ยังแซวเขาทุกวันเลยว่า ผู้ัชายคนนั้นหายไปไหน เขาบอกว่าตอนนั้นเป็นช่วงโปรโมชั่นคะ ต้องรีบทำคะแนน     ทุกวันนี้เวลา่สามีตื่น ต้องมีกาแฟ แถมอาหารเช้าเตรียมไว้ให้ ไม่งั้นมีงอน แต่ไม่เป็นไร แลกกับ morning kiss กับคำว่า love you ทุกเช้า สู้โว้ย จากคุณ : n_godde เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:14:10

ความคิดเห็นที่ 44   ไม่ทราบว่าภรรยาของคุณ จขกท จะ "มีโรคภัยไข้เจ็บ" อะไรที่มองไม่เห็นด้วยตาหรือเปล่า เช่นเบาหวาน หรือขาดวิตามินตัวใดตัวหนึ่งเช่น บี ๑๒ มีผลกับสมองและอารมณ์(แค่ยกตัวอย่างให้ดูเฉย ๆ) พวกนี้หรือเปล่า คนป่วย แต่คนอื่นมักมองเห็นจากภายนอกนี่คิดว่าเขาแข็งแรง ไม่ใช่คนป่วย ..พอคนป่วยอ่อนเพลียก็หาว่าขี้เกียจ  เข้าใจผิดกันไปได้ค่ะ ถึงได้ให้ไปตรวจดูด้วย แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 53 01:41:31 จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 01:38:47

ความคิดเห็นที่ 45   หาแม่บ้านมาช่วยสักคนน่าจะดีขึ้นนะคะ........ ภรรยาคุณอาจเป็นคนชอบทำงานนอกบ้าน ไม่ชอบทำงานบ้าน ไม่ชอบเลี้ยงเด็ก หาคนมาช่วยน่าจะดีขึ้นอ่ะค่ะ จากคุณ : Bruce & Me เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 07:30:33

ความคิดเห็นที่ 46   ถ้าภรรยาคุณเพิ่งเปลี่ยนไปน่าจะเป็นเพราะเครียดมากนะคะ ลองหาคนช่วยงานบ้านดีไม๊คะ เราก็เป็นตั้งแต่ยังไม่มีลูกเลย ทำงานเหนื่อยแล้วต้องมาทำงานบ้าน แล้วก็มาทะเลาะกัน หาคนทำแทนดีกว่าค่ะ จ้างแบบมาอาทิตย์ละครั้งก็ได้ แล้วลองหาเวลาคุยกันดีๆ ไปเที่ยวพักผ่อน ดูว่ามีปัญหาอะไรจริงๆ ค่อยๆแก้ไปทีละเรื่องนะคะ เราเชื่อว่าแม่ทุกคนรักลูกค่ะ น่าจะเป็นช่วงที่มีปัญหาอะไรแล้วปรับตัวไม่ได้มากกว่า ใจเย็นๆ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : Nu+Kapi เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:59:52

ความคิดเห็นที่ 47   ให้โอกาสภรรยาด้วยการพาเธอไปหาหมอ เพราะถ้าเธอไม่สบายจริงๆ ...แล้วคุณไปตัดสินว่า เธอขี้เกียจ ขึ้วีน มันจะทำให้รู้สึกผิดภายหลังนะคะ ชีวิตคู่ต้องมองให้รอบด้าน ต้องให้โอกาส ต้องอดทนค่ะ ลองให้โอกาสเธอ พาเธอไปหาหมอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะเธอป่วย แต่เป็นเพราะนิสัย ตรงนี้ ก็ลองมานั่งจับเข่าคุยกันว่า แต่ละคนอยากให้ปรับอะไรบ้าง เพื่อจะประคองชีวิตคู่ ซึ่งตอนนี้ ไม่ใช่แค่คนสองคน แต่มันมีเจ้าตัวเล็กอีกคน ต้องคิดให้รอบคอบ ....เอาเองก็เคยเป็นค่ะ เหนื่อยจากทำงานแล้วยังมาเหนื่อยต่อที่บ้าน สามีเคยพูดเหมือนกันว่า เค้าหาเงินเข้าบ้านมากกว่าเรา แต่เราบอกว่า เราเองก็หาเงินเข้าบ้าน ถึงจะน้อยกว่า แต่ก็เหนื่อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นงานบ้าน ช่วยแชร์ไปหน่อยได้มั้ย ซึ่งเค้าก็โอเคค่ะ รีดเสื้อผ้าตัวเอง ช่วยล้างจานบ้าง เวลาเราบ่นว่าเหนื่อย ช่วยเลี้ยงลูกบ้าง ซึ่งตรงนี้ มันแล้วแต่สภาพของแต่ละบ้านแต่ละคน คงจะต้องอยู่ที่คนสองคนคุยกันมากกว่าค่ะ ใจเย็นๆนะคะ อ้อ อีกอย่างนึง ..... เคยอ่านในหนังสือมาว่า พยายามให้มี 1 วันใน 1 เดือน เป้นอย่างน้อย ที่ลองกลับมาเป็นแฟนกันใหม่ ซึ่งเราจะมี 1 วัน ที่เรากับแฟนจะออกไปทานข้าว ฟังเพลง โดยฝากลูกไว้กับคุณยาย จะทำให้เราสองคนรู้สึกได้พักผ่อน รู้สึกสดชื่น เหมือนกับการชาร์ตแบตให้กับชีวิตคู่ค่ะ จากคุณ : puklik เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 04:56:56

ความคิดเห็นที่ 48   เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 3 ค่ะ "  ความคิดเห็นที่ 3   ว้า เราเป็นยิ่งกว่านั้นอีก แต่สามียังรักเราอยู่เลย สงสัยต้องปรับตัวให้ดีขึ้นเระ เราไม่ทำอะไรเลยยกเว้นเลี้ยงลูกอะค่ะ แถมมียายช่วยเลี้ยง ซักผ้ารีดผ้าก็จ้าง งานบ้านก็จ้างค่ะ กับข้าวยายทำ ล้างจานสามีทำ งานในบ้านหลายๆอย่างสามีก็ทำค่ะ แถมขี้วีนอีก สงสารสามีขึ้นมาตะหงิดๆ 555 เราคิดว่าการเลี้ยงลูกก็เครียดนะค่ะ บางทีป้อนข้าวลูก เค้าไม่ทาน แม่ก้เครียด ลูกป่วยแม่ก้เครียด คุณอย่าเพิ่งไม่มองมุมไม่ดีของภรรยาเลยค่ะ ลองมองข้อดีของเค้าสิค่ะ เค้าทำอาหารให้ทาน เลี้ยงลูกให้คุณ แถมทำงานประจำด้วย โอ้ววว เหนื่อยนะนั่น แต่ถ้าคุณคิดว่างานบ้านที่คุณช่วยภรรยาคุณทำ มันเป็นการทำให้แฟนคุณ ดูไม่เป็นศรีภรรยาแล้วละก้อ น่าสงสารภรรยาคุณจัง อารมณ์บูดกับลูก มันมีได้ตลอดค่ะ ยิ่งถ้าได้รับความกดดันจากสามีจะยิ่งไปลงที่ลูกได้ (อันนี้เราเคยเป็นค่ะ คือเวลามีเรื่องอะไรอารมณืเสีย โดยเฉพาะถ้าสามีเป็นคนทำให้อารมณ์เสีย บางทีก็โวยกะลูกบ้างอะ แบบว่าลูกขึ้นนอนผิดเวลา เราก็บ่นๆๆๆลูก ไรประมาณเนี๊ยะ) ลองเอางานบ้าน ที่คุณไม่อยากทำไปจ้างคนทำดีมั๊ยค่ะ เช่นหาแม่บ้านมาช่วยแบ่งเบาภาระ อันนี้ช่วยได้ค่ะ ทั้งคุณและแฟนไม่เครียด หรืองานบางอย่างก็จ้างเค้าเช่นจ้างซักผ้ารีดผ้า ส่วนเรื่องล้างจาน ถ้าคุณไม่อยากทำก็ไม่ค้องกิน (อุ่ย...ขอโทษค่ะ นึกว่าสามีตัวเอง 555) ก็จ้างแม่บ้านไปเลย ให้เค้าทำทุกอย่างและช่วยเตรียมกับข้าวด้วย แบ่งเบาภาระไป แต่ถ้าอยากให้เค้าดูแลบ้านก็ให้ออกจากงานมาดูลูกอย่างเดียวและดูแลบ้านไป ด้วยก็ได้ค่ะ " ^^^^^^^^^^^^ เราทำงานนอกบ้านกันทั้งคู่  เวลาไม่ค่อยมีหรอกค่ะ  ทำงานก็เครียดพออยู่แล้ว กลับมาต้องทำอาหารอีก เลี้ยงลูกอีก  ก็ต้องอารมย์เสียเป็นธรรมดา  ถ้าอยากให้เค้าเป็นศรีภรรยา คุณก็เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำงานคนเดียวเลี้ยงภรรยาซิค่ะ เค้าจะได้มีเวลาเก็บกวาดบ้าน ซักผ้า ล้างจานและทำอะไรให้คุณอีกเยอะแยะ  แต่นี้เค้าต้องทำงานนอกบ้าน ซึ่งอาจจะเครียดมากก็ได้แต่เค้าไม่ได้บอกคุณ  กลับมาต้องทำกับข้าวและเลี้ยงลูกอีก  คงเหนื่อยเกินไปค่ะ  แนะนำให้ลองหาคนมาแบ่งเบาไหมค่ะ  จ้างพี่เลี้ยงหรือคนใช้ก็ได้ ซักคนเดียวไม่จนหรอกค่ะ เราว่าคุ้มกว่าการที่ทำให้ครอบครัวมีปัญหาอีกค่ะ เราเองก็ทำงานนอกบ้าน................ซักผ้าเราก็จ้าง  ทำอาหารก็ไม่เคยทำ  ทำไม่เป็น   กวาดบ้านก็จ้างแม่บ้าน  ล้างจานก็แม่บ้านทำ นอกจากแม่บ้านกลับไปแล้ว สามีเราก็ทำเอง เค้าก็ไม่เคยบ่นอะไรเรา  เลี้ยงลูกเค้าก็ช่วยเราเลี้ยง เรายังวีนเค้าเลยค่ะ  คุณนะโชคดีนะค่ะที่ภรรยาคุณน่ารักขนาดนี้นะค่ะ  แต่ถ้าที่คุณบอกว่าเค้าทำร้ายตัวเอง อันนี้ต้องพบแพทย์ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 53 15:11:01

ความคิดเห็นที่ 49   ขอบคุณที่ตั้งกะทู้นี้ขึ้นมาค่ะ ทำให้รู้ว่าส่วนใหญ่คู่สามีภรรยาก็เจอปัญหาเดียวกัน รวมทั้งเราด้วย ที่จขกทพูดมา นั่นแหล่ะเราเลย แต่เราไม่เห็นรู้สึกผิดเลย แถมเห็นใจภรรยาจขกท ด้วย อยากให้สามีเห็นใจกันบ้าง เหนื่อยจนหน้ามืด เข้าใจมั๊ย เรื่องทำงานบ้าน เรื่องเลี้ยงลูก เราว่าอดทนประคับประคองช่วยๆกันทำต่อไปอีกหน่อย เดี๋ยวพอลูกโตสัก6ขวบจะเริ่มใช้งานเค้าได้แล้ว และลูกก็จะเข้าใจเหตุผลมากขึ้น ไม่ต้องโป๊ะเหมือนเด็กเล็ก ทั้งคู่ก็จะสบายแล้วค่ะ จากคุณ : อยากไปอลาสก้า เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 02:10:38

ความคิดเห็นที่ 50   คุณบ่นมากเิกินไปหรือเปล่า ???? น่าสงสารแฟนคุณ  .. แค่ทำงาน เลี้ยงลูกก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ยังต้องมาค่อยฟังคุณบ่นคุณว่าอีก - -   " ผมบ่น ผมว่า ผมสอน ในสิ่งที่ผมมองว่าเธอไม่มีความรับผิดชอบ "  ... แค่ทำงานหาเงิน เลี้ยงลูก แค่นี้ภรรยาคุณก็เหนื่อยมากๆแล้ว คุณจะให้เธอรับผิดชอบอะไรนักหนา บางอย่างมันก็ต้องช่วยๆกัน ... โดยไม่ต้องสนว่าใครทำมากหรือทำน้อย  ... เหมือนทำงานหาเงินเข้าบ้าน ไม่ต้องสนว่าใครได้มากหรือได้น้อย แค่ทุกคนช่วยกัน คนละไม้คนละมือ ไม่ง้อมือง้อเท้า แ่่ค่นี้ก็ดีกับครอบครัวแล้ว ถ้าคุณไม่อยากทำงานบ้าน  วิธีแก้ = หาเงินให้มากขึ้น หาแม่บ้านมาแบ่งเบาภาระ หรือ หาเงินให้มากขึ้น เพื่อให้ภรรยาเป็นแม่บ้านอย่างเดียว จะได้ทำงานบ้านอย่างเดียว ไม่ต้องไปเหนื่อยทั้งนอกบ้านในบ้าน  หรือ ช่วยๆเธอทำ โดยไม่บ่น (ทำให้แต่บ่นนี่ แฟนคุณเหนือยกว่าเดิมอีกนะ  เหนื่อยใจ -- ปัญหาหลายๆอย่างอาจจะมาจากจุดนี้  --- บางทีแค่ความเข้าใจ หรือแค่คำพูดให้กำลังใจ แค่คำสองคำ ปัญหาก็อาจจะหมดไป) เอาแค่งานบ้านนะ มีหลายอย่างมาก คุณอาจจะคิดว่า คุณช่วยทำแล้ว แต่ในความเป็นจริง ที่คุณช่วยนะแค่ส่วนเล็กๆ  - - เช่น คุณล้างจาน ล้างขวดนมให้ลูก คุณทำีกี่ครั้งกัน  ช่วยแค่ครั้งสองครั้ง หรือ เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ ... คุณไม่คิดเหรอว่า นอกจากนั้นใครเป็นคนทำ ส่วนของลูก ::::  เลี้ยง / เล่น / อุ้ม / ป้อนข้าว / อาบน้ำอาบท่า / ซักผ้า เก็บของเล่นที่ลูกทำรกๆไว้ (บางทีทำแล้ว แป๊ปเดียวมันก็รกแล้ว) -- เลี้ยงเด็กคนหนึ่งไม่ง่ายนะ - - ส่วนของแฟนคุณ และตัวคุณ  ::::  อาหาร  (ทำ + ล้างจาน) ทำความสะอาดครัว / ตู้เย็น  / กวาดบ้าน + ถูบ้าน + ทำความสะอาดส่วนต่างๆ เช่นห้องน้ำ ห้องครัว   /ซักผ้า + รีดผ้า / จัดการขยะ ฯลฯ ถ้าพูดในความเป็นจริงแล้ว งานบ้านอ่ะเยอะนะ คุณเคยมองส่วนดีๆของภรรยาคุณบ้างไหม - เช่นตอนที่แฟนคุณเก็บ แฟนคุณทำ ฯลฯ สิ่งที่คุณว่าคุณช่วยทำเยอะแยะ ในความเป็นจริงแฟนคุณอาจจะทำเยอะกว่าก็ได้ เคยมองบ้างไหม ??? คุณบอกว่า ช่วงนี้งานเยอะ ... แล้วคุณเคยถามแฟนคุณบ้างไหมว่า งานเป็นไงบ้าง ? เยอะไหม ... ประเด็นคือ เห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า ??? ทำงานเหมือนกันไงผลักภาระเรื่องงานบ้านให้ผู้หญิงซะล่ะ  /// บอกว่า แฟนไม่รับผิดชอบ ... แล้วความรับผิดชอบของคุณล่ะ คืออะไร ??? จากคุณ : ironeta เขียนเมื่อ : 8 มี.ค. 53 14:10:56