ความคิดเห็นที่ 1   เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าเค้าไม่รับว่าเป็นลูกแต่ ลูกของเราเราก็ต้องดูแล ปล่อยผ่านไปดีกว่าครับอย่ามาสนใจเลยครับ สมัยนี้ผู้หญิงเก่งๆๆเลี้ยงลูกคนเดียวเยอะไปครับ อย่าท้อน่ะครับ คิดถึงน้องในท้องไว้แล้วจะมีความสุข จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:28:50

ความคิดเห็นที่ 2   เป็นกำลังใจให้ค่ะ จะบอกว่าเราก็เคยทุกข์ใจตอนท้องนะ แต่คนละเรื่องกัน ของเราเรื่องสามีไปมีผู้หญิงแต่ก็คงจะทุกข์ใจไม่แพ้กันค่ะ แนะนำว่าให้ไปอยู่บ้านแม่ดีกว่า เพื่อความสบายใจ ช่วงแรกมันอาจจะทุกข์ใจทำใจไม่ได้ แต่นานไปน่าจะดีนะคะ อย่างไรเสียทุกข์ได้เสียใจได้ แต่ต้องรีบสลัดอารมณ์ทิ้งนะคะ เพราะหากมีผลกระทบกับน้อง และเกิดอะไรขึ้นมามันจะยิ่งทุกข์ใจมากกว่าที่เป็นอยู่นะคะ  ทุกข์ใจเพราะลูก เพราะเราทำผิดกับลูก มันทุกข์ยิ่งกว่าทุกข์ใจเพราะผุ้ชายคนหนึ่งนะคะ เป็นกำลังใจให้สู้สู้นะคะ ปล. ตอนเรากลับมาอยู่บ้าน คลอดน้องด้วย นน. 3990 กรัม ภูมิใจมากค่ะ จากคุณ : แม่น้องธาม&เธมส์&ธีมส์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:37:35

ความคิดเห็นที่ 3   อย่าเครียดน่ะค่ะ มีคุณแม่ให้กำลังใจแถมช่วยเลี้ยงลูกหลานได้ไม่ลำบาก แบบนี้น่าจะสบายใจกว่า ถ้าลูกคลอดมาแล้วสามีเขาจะยังเลี้ยงดู ลูกๆๆๆไหมค่ะ ทั้งที่เกิดมาแล้วกับที่อยู่ในท้องค่ะ ถ้าเขายังรับผิดชอบแล้วไม่มีปัญหาอะไร ครอบครัวก็ยังอยู่ด้วยกันต่อไป แบบไม่น่ามีปัญหาอะไร ก็ลองให้ตรวจ DNAพิสูจน์ก็ได้ แต่ถ้าคิดว่าอยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขก็ค่อยตัดสินใจน่ะค่ะ จากคุณ : kizz_j เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:40:10

ความคิดเห็นที่ 4   เข้าใจความรู้สึกมากค่ะ นึกถึงภาพความทรมานได้เลย เป็นกำลังให้นะคะ ขอให้ผ่านไปให้ได้ค่ะ จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:42:06

ความคิดเห็นที่ 5   อ่านแล้วเห็นใจ จขกท.จัง ยิ่งกำลังท้องอยู่ คงยิ่งวิตกไปกันใหญ่ ถ้าจะให้แนะนำตอนนี้นะคะ อดีตที่ผ่านมามันผ่านไปแล้ว แล้วคุณก็รู้สึกผิดกับมันด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้อยากให้คิดถึงลูกในท้องให้มากๆ นะคะ อารมณ์คุณแม่ตอนท้องมีผลกับลูกในท้องจริงๆ ในระหว่างนี้อยากให้ทำใจสบายๆ หาวิธีสงบจิตใจลองฟังธรรมะ หรือไม่ก็ไปสถานธรรม อย่างเสถียรธรรมะสถานของแม่ชีศันสนีย์ก็มีปฏิบัติธรรมเืพื่อน้องในท้องนะคะ ส่วนเรื่องสามีของคุณก็ให้เข้าใจเค้าหน่อยละกัน บางทีคนมันเหมือนมีปมในใจ ถ้าให้เค้าลืมก็คงจะลืมไม่ได้ (แต่ทีถามตอนจะขอคืนดีบอกว่ารับได้ทุกอย่างเนอะ - -'') ถ้าเป็นเราพอคลอดลูกแล้วคงจะตรวจ DNA ค่ะ ให้มันรู้ไปเลยว่าเป็นลูกเค้าแน่ๆ จะได้แสดงความบริสุทธิ์ใจของเราไปด้วย ไม่งั้นถ้าไม่ตรวจเค้าก็จะแคลงใจไปตลอดว่าไม่ใช่ลูกเค้า จะมีผลไปกับเด็กด้วย ต่อจากนั้นคุณก็คงต้องตัดสินใจเองแล้วค่ะว่าจะเอายังไงกับสามี จากคุณ : fon_bubu เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:43:03

ความคิดเห็นที่ 6   ช่วงนี้ทนไม่ไหวก็กลับไปอยู่บ้านเราค่ะ รอลูกคลอด รับรอง ลูกหน้าตาเหมือนกันอยู่แล้วพี่กับน้อง เค้าจะปฏิเสธไม่ออกหรอกค่ะ ตอนนี้อย่าคิดมากน๊า   บางครั้งทำหูทวนลมบ้างค่ะ อย่าต่อปากต่อคำ จากคุณ : mamapaijing เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:46:34

ความคิดเห็นที่ 7   อย่าคิดไรให้มันมากมายค่ะ เรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แค่เรารู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ก็พอแล้ว ไม่มีคำแนะนำสำหรับคำว่าครอบครัวว่าควรจะทำอย่างไรดี คิดจะต้องปล่อยให้คุณคิดและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ตอนนี้อยากให้คิดถึงลูกในท้องให้เยอะๆ ไว้ก่อน ไม่ต้องคิดไรมากมาย คงต้องบอกว่าต้องทำให้ได้นะค่ะ สงสารน้องไม่อยากให้ต้องมาเครียดตามคุณแม่ไปด้วย ขอให้คุณผ่านเรื่องราวต่างๆ ไปได้ด้วยดีนะค่ะ เราเชื่อว่าคุณจะผ่านปัญหานี้ไปได้ค่ะ จากคุณ : [[@^_^@]] เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:47:20

ความคิดเห็นที่ 8   เป็นกำลังใจให้ค่ะ ยังไงตอนนี้ทำใจให้สบายก่อนนะคะ ส่วนน้องออกมาแล้วจะตรวจดีเอ็นเอเพื่อความสบายใจของคุณสามีหรือไม่นั้น ค่อยมาคิดตัดสินใจกันอีกทีค่ะ  แต่ดิฉันก็เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายนะคะ ว่าอะไรบางอย่าง โดยเฉพาะความไว้ใจเนี่ย เมื่อมันเสียไปแล้ว จะให้มันย้อนกลับมาดีเหมือนเดิมมันยากมากและต้องใช้เวลานานมากๆค่ะ  ลองคิดกลับกันว่าถ้าเกิดคุณเป็นสามีของคุณบ้างคุณจะคิดแบบเดียวกันไหมนะคะ ส่วนเรื่องน้องคุณทำอะไรไว้ เราเองก็รู้อยู่แก่ใจค่ะ ไม่สบายใจไปก็ไม่มีประโยชน์  คิดหาทางแก้ปัญหาดีกว่าค่ะ ทำใจให้สบายนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : ฮิเมะโนะเนโกะ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:49:05

ความคิดเห็นที่ 9   DNA ตรวจได้ ตั้งแต่อยู่ใน ท้องครับ ก่อนผลออก เอาใบเซ็นหย่าให้เขาดู แล้ว บอกว่า ช่วยเซ็นให้หน่อย ถ้าไม่เซ็น ก้อต่อไปอย่ามาพูดเรื่องนี้อีก ถ้าพูดอีกครั้ง ถือว่า จบ ไม้นี้ น่าจะได้ผล จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:50:11

ความคิดเห็นที่ 10   ... จากคุณ : BooM&BeW เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:51:41

ความคิดเห็นที่ 11   เป็นกำลังใจให้นะคะ ไปอยู่กับแม่ก่อนน่าจะดีค่ะ จากคุณ : คุณนายฟู เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:58:02

ความคิดเห็นที่ 12   ขอให้กิ๊ฟน้าพรนะคะ เป็นแม่น้องเบนส์จะพูดทำแบบน้าพรว่านั่นแหละ สะใจดี แล้วก็อย่าได้เจอะเจอกันอีก ถ้ากล้าพูดกล้าคิดกับเมียตัวเองแบบนี้ แม่น้องเบนส์คงอยู่ด้วยไม่ได้แล้ว เดินคนละทางแล้วกัน จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:58:09

ความคิดเห็นที่ 13   ขอบคุณทุกความคิดเห็น และกำลังใจนะคะ ขอบคุณมากมาย ** มาเพิ่มเติมข้อความค่ะ ** สาเหตุที่ทำให้สามีเราไม่เชื่อ 100% ว่า เราท้องกะเค้า คือ ด้วยความที่เราสองคนไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้มีลูกอีกคน วิธีการคุมกำเนิดก็เลยไม่ชัวร์แบบที่กล่าวไปแล้วด้านบน และวิธีที่ทำนั้น สามีเราก็คิดว่า มันไม่น่าจะมีโอกาสที่น่าจะท้องได้ แต่ในความเป็นจริง มันก็มีใช่มั้ยคะ เพราะเรารู้มาว่าถึงผู้ชายยังไม่เสร็จ มันก็อาจมีอสุจิเล็ดลอดออกมาได้ ครั้งแรกตอนที่รู้ว่าท้อง เรายังงงเลยค่ะ ว่าท้องได้ยังไง แบบว่าโอกาสมันน่าจะน้อยมากเลย เพราะทำแบบนี้มาตั้ง 2 ปีกว่า ก็ยังไม่เคยท้องเลยซักครั้ง คงด้วยเหตุนี้มั้งคะ บวกกับที่เราเคยมีเรื่องผู้ชายหลังจากเลิกกับสามีครั้งนั้น เลยทำให้เค้าไม่มั่นใจ T_T เราจะทำยังไงให้เค้าเชื่อดีคะ มีวิธีไหนที่ตรวจได้ตั้งแต่ตอนนี้มั้ยคะ เค้าจะได้เลิกคาใจซักที เราเองมั่นใจอยู่แล้ว และอยากให้เค้าคิดแบบเราด้วยค่ะ แต่ว่า..ใจนึงเราก็อยากเลิกกะเค้าไปเลย เพราะเค้าคิดแบบนี้ก็เหมือนดูถูกเราเหลือเกิน รู้สึกแย่มากที่เค้าคิดขนาดนี้กับเรา แต่อีกใจ ก็ไม่อยากเลิก สงสารลูกด้วย และเราก็ยังรักเค้าอยู่น่ะค่ะ ทุกท่านคิดว่าเราควรเลิก หรือ อยู่แบบนี้ต่อไปดีคะ ปล.เราจดทะเบียนสมรสกันค่ะ แล้วถ้าเลือกที่ยังจะอยู่กันต่อไป พอลูกคลอด ตอนแจ้งเกิด จะเอายังไงกับชื่อพ่อของลูกดีคะ คิดเอาเองว่าเค้าต้องเซ็นเป็นพ่อให้อยู่แล้วแหละ แต่เราก็นะ แบบรู้ในใจอยู่แล้วว่า เค้าไม่มั่นใจว่าเป็นพ่อของลูกจริงๆอ่ะค่ะ เห้ออ ยิ่งคิดยิ่งเครียด ปวดหัวมากๆเลยค่ะตอนนี้ T_T จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:00:01 A:125.25.185.111 X: TicketID:255007

ความคิดเห็นที่ 14   เข้ามาเป็นกำลังใจด้วยคน  ...........เศร้าจังเลยเราก็เศร้า ๆ อยู่เหมือนกัน กำลังตัดสินใจพาลูกกลับไปอยู่บ้านเราเองเหมือนกัน จากคุณ : HADID CHANTORN เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:01:08

ความคิดเห็นที่ 15   ตรวจ DNA ก้ไม่แก้ปัญหา เพราะเขาก็จะเชื่อว่าเด็กคนนี้ลูกเขา แต่เขาคิดเสมอว่าคุณจะไป อึ้บๆ กับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ   แบบนี้เป็นการไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ  คุณจะลำบากในการครองคู่ตลอดไป ลองดูตัวเองน่ะ หากไหว  ก็เลิกเถอะ    แต่หากไม่ไหวก็ต้องทนต่อไป ทนมากๆรอวันที่สามีคุณจะเห็นธรรม จากคุณ : anonyS เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:05:47

ความคิดเห็นที่ 16   เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ อาจจะแนะนำได้ไม่ดี แต่อยากให้คุณย้ายไปอยู่บ้านแม่ก่อน เพื่อความสบายใจส่วนที่เขาจะรับเป็นลูกหรือไม่ก็แล้วแต่เขาละกันค่ะ ในเมื่อความเชื่อใจมันไม่มีแล้ว มันก็ยากที่จะเรียกคืนกลับมา ส่วนเรื่อง DNA เห็นด้วย ถ้ามันสามารถเรียกความมั่นใจเขากลับคืนมาได้ แต่ก็ไม่เห็นด้วยถ้าจะใช้วิธีนี้เพื่อเรียกความมั่นใจจากพ่อของลูก ที่ไม่มีความเชื่อใจกัน พูดยากนะคะ แต่เป็นกำลังใจให้คิดถึงลูกในท้องให้มากๆ นะคะ จากคุณ : missingyouner เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:08:41

ความคิดเห็นที่ 17   คุณ น้าพร คะ ตรวจ DNA ได้ตั้งแต่อยู่ในท้องเลยหรอคะ แล้วต้องทำยังไงคะ ทำได้ที่ไหน ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ เผื่อเอาไว้เป็นทางเลือกค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : จขกท. เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:09:12 A:125.25.185.111 X: TicketID:255007

ความคิดเห็นที่ 18   ตรวจ DNA ได้ตั้งแต่อยู่ในท้องค่ะ ลองปรึกษาคุณหมอสูติดูค่ะ ถ้าจำเป็นคงต้องทำเพื่อให้ตัวคุณเองไม่ต้องเครียด สามีได้มั่นใจและดูแลคุณให้ดีกว่านี้ จากคุณ : เทียนสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:11:18

ความคิดเห็นที่ 19   ถ้ายังรักกันอยู่ ก็เอาแบบความเห็น 9 เลยค่ะ เป็นเรา เราทำนะ  จะได้ไม่มีอะไรค้างคาใจกัน  ไม่งั้นก็พูดไม่เลิก ยิ่งคุณยังรักเค้า อยากให้เค้าเป็นพ่อของลูก ก็ยิ่งช้ำใจ เราว่า คุณมั่นใจ ไม่มีอะไรต้องกลัวค่ะ  ตรวจเลยค่ะ  แล้วบอกเค้าด้วยว่าถ้าเป็นลูกเค้าก็ปรับความคิดใหม่และเลิกพูดเรื่องเก่า  ไม่มีประโยชน์อะไรที่คืนดีกัน แต่ไม่ลืมเรื่องเก่า ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : lovelyeve เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:13:36

ความคิดเห็นที่ 20   เข้ามาปลอบใจค่ะ ท้องอยู่อย่าคิดมากนะคะ เห็นด้วยกับคุณanonyS ค่ะว่าตรวจ DNAไปก็ไม่ได้แก้ปัญหา เพราะในเมื่อขาดซึ่งความไว้ใจแล้ว....อะไรๆก็ยกขึ้นมาเป็นปัญหาได้ตลอด วันนี้ตรวจแล้วผลคือลูกเค้าแล้วเค้ายอมรับลูก แล้ววันหน้าหละ เขาจะไม่กลับมาหาเรื่องสงสัยผลตรวจอีกเหรอคะ.... มนว่าตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรหรอกค่ะ ปล่อยไว้ทำใจสบายๆอย่าเครียด นะคะถ้าอยากประคองชีวิตคู่ให้อยู่ต่อไป... พอลูกคลอดเขาเห็นหน้าลูกที่เหมือนเค้า เค้าอาจเปลี่ยนใจก็ได้นะคะ สู้ๆๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : แม่น้องมานามิ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:14:26

ความคิดเห็นที่ 21   เราว่าปัญหาอยู่ที่ตัวสามีคุณมากกว่า ถึงตรวจ DNA แล้ว ความคิดเค้ายังไม่เปลี่ยนเวลาทะเลาะกัน เค้าก็จะคิดแต่เรื่องนี้และเอาเรื่องนี้มาพูดไปเรื่อยๆ มันไม่สิ้นสุดหรอกค่ะ ในความคิดเรา เราเห็นด้วยกะคุณ anonyS หากไม่ไว้ใจกันแล้ว อยู่ต่อไปก็ลำบากใจตัวเองเปล่าๆ สู้ๆค่ะ จากคุณ : แม่น้องปุญ (Baby Mamy) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:24:42

ความคิดเห็นที่ 22   ส่วนตัวแนะนำให้ตรวจดีเอ็นเอค่ะ อย่างน้อยก็ให้เค้ารู้ว่าที่ผ่านมาเค้าคิดผิด และคุณก็ได้พิสูจน์ตัวเองด้วยว่าคุณบริสุทธิ์ พอผลออกมาแล้วก็ยื่นคำขาดกันไปเลยว่า ถ้าไม่ไว้ใจกันแบบนี้ คงอยู่ด้วยกันไปแบบไม่มีความสุขแน่ อยากจะจมอยู่กับอดีต หรือจะอยู่กับปัจจุบัน ถ้าคิดว่ายังอยากจะประคองชีวิตคู่ให้ตลอดรอดฝั่ง ก็ให้เลิกคุ้ยเรื่องเก่าซักที แต่ถ้ายังไม่หยุด คุณจะเป็นฝ่ายไปเอง จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:36:50

ความคิดเห็นที่ 23   เป็นกำลังใจให้นะคะ เข้าใจความรู้สึกค่ะ ถ้าจะบอกว่าอย่าคิดมากคงเป็นไปไม่ได้ แต่อยากให้ใจเย็นคิดถึงลูกในท้องเราไว้ ดูแลสุขภาพตัวเองก่อนนะคะ สู้เพื่อลูกค่ะ จากคุณ : แม่มินจู (Minjoo) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:47:49

ความคิดเห็นที่ 24   เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ  ค่อยๆคิดอย่างมีสติ  อยากให้คิดถึงลูกในท้องให้มากๆค่ะ จากคุณ : The Invisible girl เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:51:31

ความคิดเห็นที่ 25   มองโลกในแง่ดีไว้นะคะ อาจจะคิดเห็นต่างจากความเห็นของหลายๆ ท่านข้างบนค่ะ ข้อแรก การคุมกำเนิดแค่ครึ่งทางแบบนี้ มีโอกาสที่จะท้องได้ค่ะ แม้ว่าจะเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็ท้องได้ อาจจะทำให้เค้าทราบโดยให้คุณหมออธิบาย หรือวิธีใดก็ได้ค่ะ เพราะผู้ชายบางคนเค้าอาจจะไม่เข้าใจ ว่ามันก็มีโอกาสที่จะมีน้องได้ค่ะ ข้อสอง ถ้าคุณยังรักเค้าอยู่ และมั่นใจว่าเค้าก็ยังรักคุณและครอบครัวอยู่ ยิ่งคิดถึงลูกด้วยแล้ว ไม่แนะนำให้เลิกกันค่ะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกันนะคะ เพื่ออนาคตที่ยาวไกลค่ะ ต้องให้เวลาเค้านะคะ ยิ่งผู้ชายที่ไม่เคยมีอะไรขาดตกบกพร่อง เค้าจะรู้สึกเสียมากกับเรื่องแบบนี้ที่คอยสะกิดใจอยู่เรื่อยๆ ค่ะ ต้องเข้าใจและให้เวลาเค้าด้วยค่ะ เพื่ออนาคตของครอบครัวค่ะ การอยู่กันแบบครอบครัวย่อมดีกว่าการที่คุณอยู่คนเดียว ลูกต้องมีทั้งพ่อและแม่ คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อย่าทิ้งครอบครัวไปเพราะอารมณ์เลยค่ะ คุณต้องเข้าใจว่า คุณทำผิดไปแล้ว คุณต้องยอมรับการกระทำของคุณ เพราะตอนนั้น คุณยังไม่หย่ากัน ใช่ไหมคะ แค่ทะเลาะกันรุนแรง และชั่วครั้งชั่วคราว ต้องให้เวลาเป็นตัวช่วยค่ะ แล้วทุกอย่างจะผ่านไปเองค่ะ เค้ามีสิทธิ์ที่จะคิดคลางแคลงใจสงสัยได้ ตอนนี้คุณต้องเข้มแข็งก่อนค่ะ รักษาลูกคนนี้เอาไว้ ถ้าตรวจดีเอ็นเอได้ ก็ตรวจค่ะ แต่อาจจะเจ็บตัว ถ้าคุณเข้มแข็งได้พอ คือถ้าเป็นเราก็ไม่คงไม่ตรวจค่ะ เพราะเรามั่นใจแล้วแน่นอน เชื่อใจตัวเองดีกว่า ไม่ตรวจก็ได้ค่ะ ถ้าเรามั่นใจ ถึงจะตรวจ มันก็แค่ทำให้เค้าเชื่อ หรือให้เค้าเสียหน้า ณ ตอนนี้ ที่เค้าไม่เชื่อเรา แล้วไงคะ คนแบบนี้ เค้าคงไม่กลับมาดีกับคุณทันทีหรอก เค้าอาจจะรู้สึกเสียหน้า แล้วทำตัวไม่ถูก ก็ปล่อยไปก่อนค่ะ   ปล่อยให้เวลาผ่านไป แล้วเค้าก็จะได้รู้ ว่านี่คือลูกของเค้าค่ะ ตอนนั้นคุณจะเหมือนเป็นผู้ชนะ ยังไงไม่รู้ เหอๆ   เป็นกำลังใจให้นะคะ เข้าใจมากมายค่ะ ^^ จากคุณ : ฟ้า เมฆ และทะเล เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:52:23

ความคิดเห็นที่ 26   ไม่รู้จะแนะนำยังไงค่ะ เพราะคุณก็ไม่อยากเลิกกับเขา แต่คุณต้องการให้เค้ารับว่าเป็นลูกของเค้าแค่นั้น ก็อย่างที่ข้างบน ๆ แนะนำแหล่ะค่ะ ไปตรวจ DNA ซะ แล้วผลออกมาว่าลูกเค้าคุณก็ตกลงกับเค้าว่าจะจบเรื่องนี้สักที เลิกพูดอีกเพราะกระทบจิตใจคุณและลูก ที่สำคัญอย่าให้เค้าพูดรื่องของคุณต่อหน้าลูกค่ะ เด็กจะเอามาคิดแล้วไม่เชื่อมั่นในตัวคุณ เอาใจช่วยให้ผ่านไปได้ค่ะ จากคุณ : คิตตี้คิด เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:55:44

ความคิดเห็นที่ 27   --------เฮ่อ---- ไม่อยากซ้ำเติมหรอก ---แต่คราวนี้ให้เป็นบทเรียนแล้วกันหนูเอ๋ย----อย่าให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เคยอ่านเจอในเวบบอร์ดแห่งหนึ่ง ผู้หญิงทะเลาะกับผู้ชายแล้วอยู่ๆ เลิกๆ กัน มีลูก 3 คน ต้องตรวจดีเอ็นยืนยันทั้ง 3คนแน่ะ----คราวหน้าต้องระวังนะ ----นี่ต่อให้สามีคุณยอมรับ แต่คุณเองนั่นแหละจะต้องเจ็บช้ำน้ำใจไปตลอดชีวิต ---ดังนั้นคุณเองนั่นแหละที่ต้องเข้มแข็ง คุณต้องรักตัวเองอีกหน่อย อย่าเอาชีวิตไปฝากกับใครอีก ตอนนี้คุณกำลังฝากชีวิตกับสามีมากไป        นี่หาที่ตรวจดีเอ็นเอให้ รพ. ใหญ่ๆ ใน กทม. รับตรวจให้ทั้งนั้นแหละ ศิริราช รามาฯ มหิดล จุฬา ฯลฯ ไม่เสิชหาในเนตก็ลองเปิดสมุดหน้าเหลืองแล้วโทรไปถามดู ราคาไม่แพงนะ ถ้าเทียบกับความสบายใจ ------------------------------- อันนี้ที่เราหามาเป็น การส่งตรวจ DNA พ่อแม่ลูก (แต่ก็คงคล้ายๆ กัน) ------------------------------ หน่วยมนุษย์พันธุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ตำแหน่งสถานที่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี 270 ถนนพระราม 6 แขวง ทุ่งพญาไท เขต ราชเทวี กรุงเทพฯ อาคาร 1 ชั้น 1 หลังลิฟท์ สีแดง โทร. 02- 201-1145, 02- 201-1186 FAX : 02- 201-1145 เปิดบริการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.30 น.- 14.00 น. บุคคลที่ต้องการตรวจจะต้องเดินทางไปตรวจพิสูจน์ ณ.หน่วยนั้นๆตั้งอยู่เท่านี้ มีการถ่ายรูปและทำประวัติการตรวจ เนื่องจากทางหน่วยไม่รับการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างทางไปรษณีย์ เพื่อป้องกันผลผิดพลาดและเกิดเป็นคดีความฟ้องร้องภายหลังได้ ทราบผลภายใน 1 เดือน หลักฐานที่ต้องใช้คือ 1.ใบยินยอมให้ทำการตรวจพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางมารดาบิดาและบุตร 2.สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมตัวจริง  ทั้งชายและหญิงรวมไปถึงบุตร 3.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนพร้อมตัวจริง ทั้งชายและหญิง 4.สูติบัตร ( บุตร) 5.หมายศาล (หากมีคำสั่งของศาลให้ดำเนินการตรวจ) ค่าตรวจวิเคราะห์ (เฉพาะที่ส่งตรวจที่ หน่วยมนุษย์พันธุศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ส่งตรวจที่อื่นๆราคาอาจแตกต่างไปจากนี้)      - เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางมารดาและบุตร ประมาณ 5,000 บาท      - เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางบิดา,มารดาและบุตร ประมาณ 6,500 บาท สามารถดูข้อมูลแบบละเอียดได้ที่นี่ http://nampadlab.igetweb.com/index.php?mo=14&newsid=79430 จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:01:01

ความคิดเห็นที่ 28   เราอยากจะให้คุณยอมรับความจริงเรื่องนี้ให้ได้ว่า ตัวคุณเอง ที่ทำให้เค๊าคิดแบบนี้ เวลาผู้ชายไปมีกิ๊ก ผู้หญิงเราก็ยังไม่ลืมเลย ถึงแม้ปัจจุบันเค๊าจะไม่ทำแล้วก็ตาม ดังนั้นก็มีสิทธิ์ที่สามีคุณจะคิดแบบนั้น ดังนั้นถ้าเป็นเรา เรารู้ตัวดีว่าปัจจุบันเป็นอย่างไร เราจะทำตัวตามปรกติ เวลาลูกดิ้นก็ชี้ชวนให้เขาดู เขาจะสนหรือไม่สนก็เรื่องของเขา แล้วพอน้องออกมา ถ้าเค๊ายังไม่มั่นใจเราก็จะให้พิสูจน์ DNA ไปเลยค่ะ จากคุณ : คุณแม่ลูกหนึ่ง เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:03:08 A:125.24.111.24 X: TicketID:233379

ความคิดเห็นที่ 29   เฮ้อ...มาเป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : ลูกไหม เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:09:06

ความคิดเห็นที่ 30   เข้ามาคอนเฟิร์มว่า  ถ้าคุณแม่อารมย์ แย่  ลูกงอแงเลี้ยงยากค่ะ ของเราพอท้องได้สักสองสามเดือน สิ่งมีชีวิตที่เคยเรียกว่าสามี ไม่ดูแล อ้างสารพัดไปข้างนอก  สุดท้ายพอรู้ว่ามีคนอื่น เราเลิกเลย   แต่ใจมันไม่นิ่งพอค่ะ  เครียด คิด แค้น สารพัด วนเวียนๆ  จนคลอด  พอลูกออกมาเลี้ยงยากมาก  ร้องกวนทั้งวัน นอนน้อยม้ากก   อารมย์เค้าประมาณตื่นมาร้องไว้ก่อน  จับนอนเล่นไม่ได้เลย ต้องอุ้มโอ๋กันทั้งวัน  เสียใจร้องไห้ทุกวันเช่นกัน  จะมาหายสนิทๆ ก็ตอน 8 เดือนค่ะ ที่บอกมาคืออยากบอกว่าให้เตรียมใจไว้บ้างน่ะค่ะ เผื่อเจอแบบเรา เพราะไม่ว่า จขกท จะตัดสินใจยังไง  ตอนนี้คุณก็คงเป็นแบบเราตอนนั้น  มันทำยากจริงๆ นะ ไอ้ไม่เครียด ไม่คิดมากเนี่ย  เวลาเรามีความทุกข์น่ะ ช่วยได้บ้างมั้ยเนี่ย คห.เรา   แต่ก็ขอให้ฝ่าฟัน ผ่านพ้นไปให้ได้นะคะ สู้ๆ จากคุณ : อย่าได้แคร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:10:55

ความคิดเห็นที่ 31   มาให้กำลังใจค่ะ เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายนะคะ แต่ปัจจุบันที่สำคัญก็คือ คุณมีชีวิตน้อยๆอีกชีวิต ที่ความรู้สึกเค้าอยู่กับคุณตลอดเวลา ช่วงนี้เป็นช่วงที่คุณสามารถให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเค้าได้มากที่สุดแล้ว ไม่ว่าสุข หรือ เศร้า อย่าพลาดโอกาสนี้ไปนะคะ  แม่เราสอนเราเสมอๆว่า ผู้ชาย ลงบรรได3ขั้นก็เป็นสามีคนอื่นไปแล้ว แต่ลูก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เค้าก็ยังเป็นลูกของเราเสมอ อย่าคิดมากเรื่องสามีเลยค่ะ มาใช้ทุกนาทีที่มีค่ากับลูกของเราดีกว่า  หากิจกรรมที่ชอบทำค่ะ พยายามคุยเรื่องสนุกๆกับคนอื่นๆ ยิ้มและหัวเราะเข้าไว้ ความทุกข์มันกลัวความสุขค่ะ เปิดใจสัมผัสเรื่องสุขเยอะ เดี๋ยวความทุกข์มันจะหายไปเอง เอาใจช่วยนะคะ เวลานึกหรือเศร้าใจเรื่องสามีเมื่อไหร่ ลองหันกลับมาพิจารณาลมหายใจดูนะคะ ว่าเราหายใจเข้า หรือออก ลมหายใจอยู่ที่ตำแหน่งไหน ทำบ่อยๆค่ะ เดี๋ยวตัวทุกข์ไม่มีที่อยู่เอง(คุณกำลังหายใจเพื่อชีวิตอีกชีวิตนะคะ) จากคุณ : ไฟกลางธาตุ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:26:11

ความคิดเห็นที่ 32   เอากำลังใจมาฝาก ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:38:45

ความคิดเห็นที่ 33   เขาทั้งดูถูกและไม่ให้เกียรติคุณ ยังจะอยากตรวจ ดีเอ็นเอ ไปเพื่ออะไรค่ะ เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาอยากรู้ ทั้งที่คุณบอกอยู่ปาวๆ ว่าท้องเกับเขา เเต่เขายังไม่เชื่อ เมื่อความเชื่อใจมันขาดหาย วันเวลาที่มีความสุขได้อย่างสนิทใจก็คงยากค่ะ ลองถามเขาสิ อยากให้ลูกรู้ตอนโตรึไง ว่าพ่อมันไม่มั่นใจว่าเป็นลูกของพ่อจริงๆ ถ้าเป็นเรา เราเลิกนะ ดูถูกกันเกินไป กับตัวเราเเละลูกในท้อง ไม่มั่นใจเพราะมีอดีต เเสดงว่ายังไม่ให้อภัย เเละยังระแวงกันอยู่ จบความสัมพันธ์นี้ เเล้วเลี้ยงลูกคนเดียวสบายใจกว่าเยอะค่ะ (จขกท คงคิดได้เองนะคะ ว่าจะทำอย่างไรต่อ) จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:41:15

ความคิดเห็นที่ 34   เป็นกำลังใจให้ค่ะ ให้ทำใจให้สบาย ปรึกษาหมอเรื่องการตรวจ dna ตอนนี้ แล้วก็บอกเค้าให้ไปตรวจด้วยกันเลยจะได้สบายใจ หมั่นไปทำบุญ สวดมนต์ไหว้พระทุกวันนะคะ จะได้สบายใจขึ้น อารมณ์ก็จะดีขึ้นค่ะ แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง จากคุณ : kittykay14 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:44:36

ความคิดเห็นที่ 35   คิดเหมือน คห ๒๕ ..ถ้ายังรักกันอยู่ และมีปัญหาเพียงจิ๊บ ๆ แค่นี้ ก็ไม่เห็นต้องเลิก คือในเมื่อตัวเองก็รู้จักนิสัยใจคอสามีตัวเองดีกว่าคนอื่นอยู่แล้ว ตัวคุณเองแน่ใจอยู่แล้วว่านอนกับเขาคนเดียว มันก็ต้องลูกเขาเต็มร้อยล่ะ แล้วตัวเองจะมานั่งจิตตกเรื่องอะไร ..อย่างนี้เขาเรียกว่าคนรบไม่เป็น เป็นดิฉันน่ะก็หัวเราะใส่หน้าแล้วหาหนังสือมาให้เขาอ่าน หรือไม่ก็พาไปหาหมอให้อธิบายเรื่องใส่ถุงยางไปเลยอย่างละเอียด  เพราะปัญหาของคุณตอนนี้มันอยู่ตรงนี้ สามีคุณไม่เข้าใจตรงนี้ ..ขนาดคนผูกหมันมาแท้ ๆ นี่ยังมีลูกหลงมาได้เลย อีกอย่างอยากเตือนว่า ผู้หญิงแต่งงานแล้วคือผู้หญิงที่โตแล้วค่ะ เรามีครอบครัวใหม่แล้ว "เรื่องบางเรือง" ก้ไม่ต้องบอกให้พ่อแม่ญาติพี่น้องมารับรู้ด้วยหรอก เพราะยังไงก็เข้าข้างลุกตัวเองอยู่แล้ว ..จากเรื่องเล็ก ๆ จะพาลเป็นเรืองใหญ่เอา เลิกรากันง่าย ๆ เน้อ กับสามี ถ้าเขาไม่รักเขาก็คงไม่ตามคุณกลับมาหรอก ..ไอ้ที่ด่า ๆ ที่อคติเพราะรัก เพราะหวง ความรู้สึกเขาก็ไม่ต่างไปกับผู้หญิงที่สามีมีเมียน้อยแหละ อภัยให้ยังไง แต่ก็ไม่ลืม ..แล้วดันบังเอิญว่าเขาอาจจะมีนิสัยเหมือนผู้หญิง จึง "เปิดเผย" ความรู้สึกและอารมณ์ออกมาแบบนี้ ถึงได้เห็นว่าเขา "งี่เง่า" แบบนี้ มันถึงไดั้เป็น "แบบนี้" ค่ะ เอาน่ะ หัดคิดบวก ๆ บ้าง แล้วก็ไม่ต้องมานั่งทุกข์ ผ่านแล้วผ่านไปค่ะ อ้อ อีกนิด ..คนเป็นผัวเมียกันนี่ ไม่จำเป็นต้องมานั่งเจ๊าะแจ๊ะหวานแหว๋วกันตลอดเวลาก้ได้ค่ะ ..อย่างเวลาที่เกี่ยวกับลูกในท้อง เช่นสมมติลูกดิ้นอะไรแบบนี้  ก็ไม่ต้องเรียกให้เขามาคลำมาจับก็ได้ ถ้าเขาอยากทำอะไรก็ให้มาจากเขาเองดีกว่า ตัวเองจะได้ไม่จิตตก และ เขาเองก็จะแปลกใจนะ ว่าทำไมวันนี้เมียตรูแปลก ๆ คือคนเรานะ บางทีการประจบเอาใจเขาอยู่เรื่อย เขาก็เล่นตัว  ..แต่หากเราเฉยไว้บ้าง อยู่ห่างไว้บ้าง บางครั้งมันก็เหมือนแม่เหล้กดูดให้อีกฝ่ายหนึ่งเข้ามาหาค่ะ ..ลองเอาไปทำดูนะ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 53 12:05:52 จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:49:08

ความคิดเห็นที่ 36   เข้ามาเป็นกำลังใจให้จขกท.นะค่ะ ลองไปตรวจดีเอ็นเอเลยค่ะเพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย จากคุณ : เที่ยวทะเล เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:53:20

ความคิดเห็นที่ 37   ถ้าเป็นเรา เราคงทำแบบคุณน้าพรค่ะ ส่วนเรื่องจิตใจ ถ้าเราอยากให้จิตใจสงบ ลองเข้าสถานธรรมดีไหมคะ ไปเดินจงกลมนั่งสมาธิ เหมือนที่คุณบ๊วยมาภรรยาไปช่วงที่เธอกำลังท้อง  เราว่าเป็นสิ่งดีทั้งสำหรับตัวแม่และลูกในท้องนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้ผ่านช่วงนี้ไปได้ค่ะ จากคุณ : Ratitu เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 12:10:08

ความคิดเห็นที่ 38   จูงมือกันไปให้หมออธิบายเลย วันปฏิสนธิ (หมายถึงวันที่มีพสพ.กันจนติดลูก) มันฟันธงได้ว่าวันที่เท่าไหร่ ถ้าวันนั้นเค้านอนกับคุณจขกท.จริง อย่างน้อยอาจจะทำให้เค้าเชื่อมั่นได้ระดับนึง ในกรณีที่เค้าสงสัยจริงๆนะ แต่ถ้าเป็นกรณีไม่ได้สงสัย แต่ทำไปเพราะความพาล และหาเรื่อง อยากให้คุณเสียใจ (เพราะผู้หญิงคนไหนโดนคนรักกล่าวหาแบบนี้มันเสียใจแน่ๆ) อันนั้นถ้าเป็นเราคงต้องคุยกันยาวแล้วหล่ะ จากคุณ : Queen of hearts เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 12:21:56

ความคิดเห็นที่ 39   เง้อ DNA กรณีแบบนี้หมอไม่ตรวจให้นะคะ รอตรวจตอนเด็กคลอดค่ะ ตรวจ DNA เด็กในท้องตรวจให้กรณีที่มีผลต่อการดูแลเด็กในท้องค่ะ เช่น ถ้าเป็นโรคร้ายแรงจะได้เอาออก แต่แบบนี้ตรวจเพื่อให้รู้ว่าลูกใคร ไม่รับตรวจค่ะ ผิดศีลธรรมค่ะ (เด็กมีโอกาสแท้งจากการถูกเจาะ ซึ่งไม่คุ้มเลยกับเหตุผล) จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 12:36:47

ความคิดเห็นที่ 40   ไปตรวจเลยค่ะ ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น เอาศักดิ์ศรีเราคืนมา จะเลิกไม่เลิกอีกเรื่องค่ะ เขาจะเป็นยังไงหลังฟังผลก็อีกเรื่องนึง คุณจะได้ไม่ต้องกังวลใจหลายเรื่อง ให้มันรู้กันไปว่าลูกก็ลูกเขา  เขายังจะหาความอะไรต่อ ตรวจเลยค่ะ ตรวจเสร็จกลับบ้านก็ได้ ปล่อยให้เขาคิด ว่า ทำร้ายจิตใจคุณมากี่เดือน . . . โมโหแทนจริงๆ จากคุณ : ยาหยีใจแตก เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 12:43:09

ความคิดเห็นที่ 41   ถ้าเป็นแบบคห.ที่39บอก แนะนำให้ตรวจหลังคลอดค่ะ เราว่าจขกท.พลาดไปหน่อยที่เล่าเรื่องในอดีตให้สามีฟังจนหมดเปลือก(จริงๆบางทีคนเราก็ต้องมีความลับบ้างน้า เพราะการเล่าความจริง บางทีก็ทำให้เรื่องต่างๆแย่ลงอ่ะค่ะ เรามีประสบการณ์มาแล้ว) เพราะไม่ว่าเรื่องนี้เกิดกับใคร อีกฝ่ายย่อมระแวงได้ทั้งนั้น แต่ช่างมันนะคะ ผ่านมาแล้ว ตอนนี้ก็ทำใจให้สบาย เราว่าปัญหานี้แก้ไขได้นะคะ เพราะจขกท.กับคุณสามีต้องผูกพันกันมากเลย อยู่กันมานาน ขนาดเลิกกันไปแล้วยังกลับมาคืนดีกันได้ เพื่อความสบายใจแนะนำให้ตรวจค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : simply_simply เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 12:58:47

ความคิดเห็นที่ 42   เห็นแก่ตัวมากๆเลยค่ะพูดยังกับว่าตอนเลิกกับคุณไปแล้วเค้าไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น..ค่อยๆปล่อยวางทำใจให้สบายนะค่ะเพื่อลูกในท้องอะไรจะเกิดก็คงต้องให้มันเป็นไปส่วนการตัดสินใจคงไม่มีใครตอบได้นอกจากคุณค่ะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ..สู้ๆๆ จากคุณ : หม่าม้าน้องยูมิ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:05:32

ความคิดเห็นที่ 43   เป็นกำลังใจให้จขกท.นะคะ คุณไม่ได้บอกว่าอายุครรภ์เท่าไหร่แล้ว... ตอนนี้อย่าให้มีเวลาว่างคิดมากค่ะ  หาอะไรที่ทำแล้วสบายใจ ที่สามารถดึงตัวคุณและความคิดของคุณออกจากเรื่องนี้ได้... เป็นเรา...เราไม่ตรวจ DNA ค่ะ  เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่ง ชีวิตสมรสอยู่ที่การไว้วางใจกัน... นั่นหมายความว่าเขาไม่เชื่อถือคำพูดของเราเหรอคะ เราเป็นคนไม่โกหกค่ะ  พูดจริงตรงไปตรงมา  เปิดเผยต่อสามีทุกอย่าง เพราะฉะนั้นสามีเราต้องเชื่อถือคำพูดเราค่ะ รอจนคลอดค่อยตัดสินใจดีกว่าค่ะ... ช่วงนี้อย่าคาดหวังจากสามีมากนัก  ไม่เช่นนั้นคุณเองจะผิดหวัง จขกท.ต้องยอมรับความจริงว่า...คุณมีจุดผิดพลาดตรงนี้ที่ทำให้เขาไม่ไว้วางใจเราได้ นี่เป็นผลจากสิ่งที่ิเกิดขึ้นในอดีต  ตัวคุณต้องยอมรับผลอันนี้ด้วยค่ะ ความไว้วางใจไม่ใช่สิิ่่่่ิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ  ต้องใช้เวลาค่ะ ยิ่งผ่านประสบการณ์ที่ทำใ้ห้มันสูญเสียไปแล้ว   การจะทำให้เรียกกลับมาไว้ใจอย่างเดิม  ยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้นค่ะ ในเมื่อคุณมั่นใจว่านี่ลูกเขา  คุณต้องแสดงให้เห็นว่าคุณมั่นใจชัวร์ สักวันเขาต้องเห็นเองค่ะ  ว่านี่ลูกเขาจริงๆ รอเด็กคลอดออกมาก่อนค่ะ  ยิ่งถ้าลูกหน้าเหมือนพ่อแล้ว เขาคงหายคลางแคลงใจเองค่ะ จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:31:57

ความคิดเห็นที่ 44   ใจเยนๆนะคะ สามีเราก็เป็นทั้งที่แต่งงานกันมา3ปีแล้ว แต่ไม่ท้องซะที พอปีที่3ท้องแฟนเรากลับบอกว่าลูกออกมาจะพาไปตรวจดีเอนเอ ว่าใช่ลูกเขาไหม ทีแรกเราก็น้อยใจค่ะ ว่ามันเอาไรมาคิดได้แบบนี้ แต่ช่างเหอะไม่เอาเราก็เอาลูกเรา พอคลอดมาไม่ต้องไปตรวจเลยค่ะ ให้สามีพาไปก็ไม่เอาเพราะลูกออกมาสำเนาถูกต้องพ่อเค้ามาเลยค่ะ อย่าไปใส่ใจคำพูดมากเลย เค้าแค่คิดว่าเค้าอาจจะทำไม่เป็นก็ได้ อิอิ จากคุณ : pook (pucca51) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:46:47

ความคิดเห็นที่ 45   ขอพูดตรงๆ นะคะ ดิฉันว่า สามีของคุณ เค้าไม่ได้รักคุณค่ะ ถ้าเค้ารักคุณ เค้าจะไม่ทำร้ายจิตใจคุณทั้งทางตรงและทางอ้อมเลยแม้แต่นิดเดียว ยิ่งตอนนี้คุณมีลูกอยู่ในท้องด้วย ถ้าเค้ารัก เค้ายิ่งต้องแคร์ความรู้สึกคุณ แต่นี่ ไม่ใช่ค่ะ คนรักกันจริงๆ เค้าไม่ทำกันแบบนี้ค่ะ เรื่องอดีต มันผ่านไปแล้วก็ผ่านไป ไม่ได้ไปมีชู้ซักหน่อย เลิกกันไปแล้วถึงมีอีกคน ไม่ต้องเสียใจหรอกค่ะ คิดไปก็เท่านั้น ย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้ ต้องให้อภัยตัวเอง และพยายามลืมค่ะ ตอนนี้ ต้องต่อสู้กับความกดดันที่ตัวเองได้รับ พยายามอย่าเครียดค่ะ สามี ยังไงก็เป็นคนอื่นวันยังค่ำ จริงอยู่ เค้ารักลูก ลูกรักพ่อ เป็นเรื่องปกติค่ะ ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว ความรักของพ่อลูก แต่ตัวคุณเองกับสามีนี่สิคะ ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันเลิกค่ะ อยู่แบบระแวงแบบนี้ ไม่ไหวค่ะ เสียสุขภาพจิต จากคุณ : AiArmTu เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:54:06

ความคิดเห็นที่ 46   ตอนนี้ไม่ว่าอะไรก็คงทุกข์ใจมาก....ขอแนะนำว่าควรหันหน้าเข้าสู่ทางธรรม. เพราะทำยังไงมันก็ฟุ้งซ่านคิดมาก เราว่าตอนนี้ธรรมมะช่วยคุณได้ เราสงสารลูกในท้องคุณน่ะคะ อยากให้เค้าได้สงบบ้าง ไม่ต้องมารับรู้อารม์เศร้าหมองอย่างนี้น่ะคะ เข้าวัดก็ได้ไปคุยกับแม่ชี หาหนทางที่ทำให้ใจสงบซะ ตอนนี้เพื่อลูกคิดถึงลูกไว้เถอะ  เรื่องตรวจdnaรอให้ออกมาแล้วค่อยตรวจก็ได้มั้ง ยังไงก็ลูกคุณสองคนอยู่แล้ว.   อืม....ข้างบนก็มีแต่คำแนะนำดีๆลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ.    ขอให้คุณพ้นทุกข์และอุปสรรคปัญหาต่างๆได้ในเร็ววันนะคะ ให้กำลังใจค่ะ. สู้ๆจ้ะ จากคุณ : applezen เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 15:30:51

ความคิดเห็นที่ 47   ทุกข์ทางใจ ใช้ธรรมะเข้าช่วยครับ จากคุณ : คอบอล เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 16:25:05

ความคิดเห็นที่ 48   I would say do the DNA test kha. That will clarify and decrease the conflict in his mind. Most important, this will be good for your baby otherwise he/she may be confused as well in the future. Good luck kha. จากคุณ : DuangDenDuan (ดวงเด่นเดือน) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 19:43:29