ความคิดเห็นที่ 1 แต่อันที่จริง ก็รู้น่ะนะ ว่าแมวนี่ จัดเป็นสัตว์เลี้ยงต้องห้ามของหญิงมีครรภ์ เพราะแมว เป็นแหล่งพยาธิชนิดหนึ่ง ชื่อ Toxoplasmosis ซึ่งถ้าแม่มีการรับเชื้อนี้มา เชื้อจะถ่ายทอดสู่ลูกผ่านทางรก มีอาการหลายๆอย่าง เช่น โตช้า ซีด เหลือง ตับม้ามโตและที่สำคัญทำให้สมองของเด็กมีปัญหาได้ แต่ก่อนที่จะกลัวกันไปมากมาย ก็ลองมารู้จักวงจรชีวิตของเจ้า Toxoplasmosis กันก่อน เอาง่ายๆละกัน ไอ้เจ้า Toxoplasmosis นี่ จุดเริ่มต้นจะอยู่ในดิน หรือน้ำ ที่ปนเปื้อนด้วย “ไข่”ของ toxoplasmosis จากนั้น มีหนู ไก่ หมู วัว หรือนก กินเข้าไป ซึ่งก็จะไปเจริญเติบโตในกล้ามเนื้อของสัตว์เหล่านี้ หลังจากนั้นเจ้าแมวก็จะไปกินนก หนู เหล่านี้ หรือคนเอาเนื้อสัตว์ดิบๆให้มันกิน พอเจ้าแมวได้รับเชื้อมา เชื้อ Toxoplasmosis ก็จะทำการสร้าง “ไข่” ขึ้นมา แล้วปะปนกับอึแมว ออกสู่สิ่งแวดล้อม(ดิน, น้ำ) ต่อไป จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:48:41

ความคิดเห็นที่ 2 ซึ่งจุดที่คนจะรับเชื้อได้ ก็มี 2 จุด หลักๆ คือ 1.มีการปะปนของดินหรือน้ำ เช่น ไปทำสวน ในบริเวณที่แมวอึไว้ แล้วมาหยิบอาหารกิน 2.กินเนื้อสัตว์สุกๆดิบๆ ซึ่งถ้าอ่านดูตามนี้ คนเลี้ยงแมวน่าจะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด เพราะเป็นคนสัมผัสโดยตรง ถึงแม้จะหลีกเลี่ยงด้วยการไม่เก็บอึแมว หรือปล่อยให้แมวออกไปอึนอกบ้าน แต่เวลาอุ้ม กอดตามปกติ ก็อดกังวลไม่ได้ เพราะเจ้าพยาธิที่ว่านี้ ตัวมันก็เล็กกระจึ๋งเดียว ใครจะไปรู้มันจะติดขี้ผง มาเข้าซอกเล็บเราเมื่อไหร่ ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์หลายๆคน ก็คงเลือกที่จะหาที่อยู่ใหม่ให้แมวทั้งๆที่อยู่เป็นลูกรักลูกขวัญกันมาตั้งนาน แต่ๆๆๆ เราลองมาวิเคราะห์เจาะลึกกันให้ดีอีกครั้งดีไหม ก่อนที่จะยอมแพ้ (แต่ก็เข้าใจอีกหลายๆครอบครัว ที่ต้องอัปเปหิแมวออกนอกบ้าน เพราะสิ่งที่มองเห็นมันหลบเลี่ยงได้ แต่สิ่งที่มองไม่เห็น อย่าง ‘เชื้อโรค’ วิธีที่ง่ายกว่าระแวงระวัง ก็คือขับไล่ต้นเหตุออกไป) ดูจิ น่ารักน่ากอดอย่างี้ จะไล่หนูออกจากบ้านเร้อ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:50:23

ความคิดเห็นที่ 3 จากการบทความเรื่อง ‘Toxoplasmosis in pregnancy’ ทำที่Yale ตีพิมพ์ใน The American Journal of Medicineเมื่อ ปี 2005 ได้ทำการทบทวนงานวิจัยหลายๆชิ้นทั่วโลก(ส่วนมากเป็นแถบยุโรป) พบว่า กลุ่มที่เสี่ยงสูงสุดกลับไม่ใช่คนเลี้ยงแมว หรือแม้แต่คนเก็บอึแมว เหตุผลเพราะคนที่เลี้ยงแมวมักมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ และโดยเฉพาะคนที่เลี้ยงแมวแบบระบบปิด เพราะแมวในระบบปิดกินแต่อาหารสุก อาหารเม็ด (แมวที่ติดเชื้อ คือแมวที่ล่านก กินหนูดิบๆ) และคนที่เก็บอึแมว ก็มักล้างมือกันเป็นประจำอยู่แล้วหลังเก็บอึแมว แต่คนที่มีความเสี่ยง กลับเป็นกลุ่มที่กินอาหารสุกๆดิบๆ ผักสดที่ไม่ได้ล้างให้สะอาด ที่ปนเปื้อนดิน เพราะเจ้า ‘ไข่’ ของเชื้อ Toxoplasmosis นี้ สามารถอยู่ในดินได้นานถึง 1 ปี (คือ ดินที่มีแมวมาอึทิ้งไว้เมื่อ 1 ปีก่อน ก็สามารถนำเชื้อโรคได้) เมื่อทำการศึกษาในเรื่องการให้ข้อมูล จากสูติแพทย์ และการรับรู้ข้อมูลของหญิงมีครรภ์ ในสหรัฐอเมริกา พบว่า สูติแพทย์ 100% บอกว่า ได้แนะนำเรื่องห้ามเก็บอึแมว แต่มีเพียง 70-80% เท่านั้น ที่แนะนำเรื่องอาหารที่ไม่สุก จะมีเชื้อ Toxoplasmosis และสุดท้าย 68% ที่แนะนำเรื่องการทำสวน(แล้วไม่ล้างมือ) จะมีโอกาสติดเชื้อ Toxoplasmosis พอไปถามกลุ่มหญิงมีครรภ์ พบว่า 60% ทราบว่า อึแมวเป็นความเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อ แต่อีก 30-40% เท่านั้นที่ทราบว่า เนื้อสัตว์ดิบๆหรือผักผลไม้ที่ไม่ล้างให้สะอาด ก็นำเชื้อได้เช่นกัน ซึ่งทางผู้ทำการวิจัยก็ให้ความเห็นว่า ความเสี่ยงที่สูงสุดอย่างเรื่องอาหารดิบๆหรือการทำสวนนั้น น่าจะได้รับน้ำหนักในการให้คำอธิบายมากกว่านี้ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 53 16:05:06 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:53:44

ความคิดเห็นที่ 4 มาดูคำแนะนำของ CDC ในการป้องกันติดเชื้อ Toxoplasmosis กันค่ะhttp://www.cdc.gov/toxoplasmosis/prevent.html เขาแบ่งเป็น 2 หัวข้อ หัวข้อที่ 1 กำจัดความเสี่ยงจากอาหาร ได้แก่ - ทำอาหารให้สุกเสมอ (มีคำแนะนำเรื่องอุณภูมิด้วย ดูตามลิงค์นะคะ) - ล้างหรือปอกผลไม้ให้สะอาด - ทำความสะอาดเครื่องครัวทุกชนิดที่สัมผัสกับอาหารดิบๆ - แช่แข็งเนื้อสัตว์ไว้สักระยะ (น่าจะเพื่อให้ตัวอ่อนในเนื้อสัตว์ตายไปก่อน) หัวข้อที่ 2 กำจัดความเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อม - ห้ามดื่มน้ำที่ไม่ผ่านกระบวนการ(น่าจะหมายถึงต้ม มั้ง) - ใส่ถุงมือเมื่อทำสวน และล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง - บ่อทรายนอกบ้าน (ที่ให้ลูกเล่น) ควรปิดไว้เสมอ เดี๋ยวแมวนอกบ้านมาอึใส่ - ให้แมวกินแต่อาหารสุก อาหารเม็ด - ทำความสะอาดส้วมแมวทุกวัน เพราะ ‘ไข่’ ของ toxoplasmosis จะเริ่มออกฤทธิ์ได้หลังจากออกจากตัวแมว 5 วัน (วันแรกๆยังไม่ทำงาน) - ไม่ควรเก็บอึแมวขณะท้อง หรือถ้าจำเป็นให้สวมถุงมือ และล้างมือทุกครั้ง - ไม่ควรรับเลี้ยงแมวจร ในขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะลูกแมว เพิ่มเติมค่ะ - ควรเลี้ยงแมวระบบปิด -กำจัดหนูและแมลงสาบ เพราะเชื้ออาจติดตามตัวสัตว์พวกนี้แล้วไปขึ้นเครื่องครัว และหนูก็เป็นพาหะอีกด้วย ยอมรับว่า ตอนที่เริ่มหาข้อมูลใหม่ๆ ยังไม่ค่อยมั่นใจนัก ว่าเราจะไม่ติดเชื้อตัวนี้ แต่พอมาวิเคราะห์วงจรชีวิตของเจ้า Toxoplasmosis ก็พบว่า เมื่อแมวได้รับเชื้อมาแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ จะเริ่มอึออกมาเป็น ‘ไข่’ ของเจ้า Toxoplasmosis ซึ่งไข่เหล่านี้ ก็จะอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นาน 1 ปี และหลังแมวรับเชื้อมาแล้ว 1 ครั้ง ก็จะไม่มีการติดเชื้ออีกเพราะมีภูมิคุ้มกันแล้ว ถึงตอนนี้ เราก็ค่อยรู้สึกสบายใจหน่อย เพราะว่าแมวเรานั้น เลี้ยงระบบปิดมานานกว่า 1 ปีแล้ว เพราะฉะนั้น ไม่น่าจะมีการรับเชื้อภายใน 1 ปีที่ผ่านมา และอึแมว ก็มีการกำจัดอยู่ตลอดเกือบทุกวัน มาถึงวันนี้ คิดว่าในตัวแมว ไม่น่ามี Toxoplasmosis แล้ว แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 53 16:03:14 แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 53 15:56:29 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:55:13

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับคุณแม่ๆ ที่ไม่แน่ใจว่ามีการสัมผัสกับอาหารที่ปนเปื้อนหรือไม่ และกังวลกับความปลอดภัยของลูกน้อย มีวิธีการตรวจหาร่องรอยการติดเชื้อ และภูมิคุ้มกันต่อ Toxoplasmosis ซึ่งโดยทั่วไปก็ไม่ได้ทำกัน นอกจากมีปัญหาที่สงสัยจริงๆ อย่างในต่างประเทศ ก็จะมีบางประเทศเท่านั้นที่ทำเทสตัวนี้ (ฝรั่งเศส, ออสเตรีย) คือทำในประเทศที่มีรายงานการติดเชื้อค่อนข้างบ่อย เพราะในบางประเทศที่อุบัติการณ์ต่ำๆ การตรวจก็จะสิ้นเปลือง และที่สำคัญคือพบผลบวกลวงได้สูง คือ ไม่ได้ติดเชื้อ แต่ผลเลือดอ่านว่าติดเชื้อ ทำให้มีการตรวจเจาะน้ำคร่ำในเด็ก และเพิ่มโอกาสในการแท้งโดยไม่จำเป็น และแม่ๆที่กังวลมากๆ ก็อาจขอเอาลูกออก โดยที่ไม่ได้เจาะน้ำคร่ำพิสูจน์ (อารมณ์เดียวกับ Triple test) และอีกอย่าง การรักษาแม่ ที่ตรวจพบว่ามีการติดเชื้อไปแล้วนั้น ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะป้องกันความผิดปกติในลูกได้ 100% ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุุดคือการป้องกันไม่ให้ตัวเองติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์นั่นเอง ส่วนการติดเชื้อในภาวะที่ร่างกายปกติดี จะไม่มีอาการค่ะ คนที่มีอาการคือกลุ่มที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเอดส์  กินยากดภูมิ และหลังติดเชื้อแล้ว ก็จะมีการสร้างภูมิคุ้มกันค่ะ คิดอย่างงี้แล้ว เออ น่าจะสร้างภูมิให้ตัวเอง ด้วยการกิน อุนจิแมว ซะตั้งแต่ก่อนท้องเนอะ แหวะๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 53 16:12:56 จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:58:00

ความคิดเห็นที่ 6 ปกติเราเป็นคนเก็บขี้แมว แต่ตอนท้อง สามีรับไป แต่ตอนนี้ต้องทำเองอีกแล้ว :( ก็อยากเอามาเลี้ยงเองหง่ะ จากคุณ : auii เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 15:59:36

ความคิดเห็นที่ 7 เราเลี้ยงแมวมาตั้งแต่ยังไม่ท้อง และก็เป็นคนทำความสะอาดส้วมแมวเองด้วย จนท้อง ก็ยังทำอยู่และยังนอนกับแมวเหมือนเดิม แต่หลังทำความสะอาดส้วมแมว  เราจะล้างมือด้วยสบู่ 2 รอบทุกครั้ง มีคนบอกให้เรายกแมวให้คนอื่น  แต่เราทำไม่ได้ เพราะสำหรับเราแมวคือ สมาชิกในครอบครัว โชคดี ที่อยู่ห้องแมวมาก่อนเลยได้อ่านที่หมออ๊อปเขียนเกี่ยวกับ Toxoplasmosis เอาไว้ ก็โล่งอกและไม่กลัว เพราะมั่นใจแมวเราอยู่แต่ในบ้านกินอาหารที่สะอาด วันนี้เราคลอดลูกแล้วค่ะ  ลูกสมบูรณ์ดี  ลูกแมวและลูกคนรักกันกลมเกลียว จากคุณ : soulfighter เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:00:50

ความคิดเห็นที่ 8   เลี้ยงแมวเหมือนกันค่ะ เรื่องอึแมวปกติสามีจัดการ นอกซะจากเราเจอก่อน .. งั้นคงต้องตกลงกับสามีใหม่ล่ะ  ไม่ว่าใครจะเจอก่อน เจอหลัง... คนที่เก็บอึจะต้องเป็นหน้าที่สามีแล้ว ตอนนี้ที่กังวลคือเรื่องขนแมวมากกว่า แมวชอบนอนด้วยบนที่นอนเรา แต่เราก็หมั่นทำความสะอาดน่ะ เดี๊ยวหากเรียบร้อยเรื่องฝากครรภ์คุณสามีจะต้องออกกฎเรื่องที่นอนแมวแน่ ๆ เลย แก้ไขเมื่อ 04 เม.ย. 53 16:12:13 จากคุณ : ป้าอ้วนชีสเค้ก เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:10:25

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนเราท้อง ก็เก็บขี้แมวเอง แต่ใส่ถุงมือ โดนตรวจเลือดว่ามีพยาธิทุกเลือด แต่แมวเราโดนถ่ายพยาธิ แล้วเราว่าอากาศที่นี้สะอาดค่ะ เพราะว่าเราอยู่บ้านนอก แล้วไม่มีพวกแหล่งที่มีขยะ อะไรแบบนั้น แมวสะอาดค่ะ ตอนนี้ก็ยังนอนด้วยกันอยู่ หนูอาลี มาม๊า ปาป๊า นังแมวน้องปลายเท้า จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:26:17

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เลี้ยงแมวค่ะ แต่แถวบ้านมีแมวขาจรเต็มเลย แอบกลัวอ่ะ ชอบเอาข้าวให้มัน แล้วบางทีมันก็แอบมาเลียของในครัวค่ะ จากคุณ : หมีอ้วนกับหมูอวบ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:34:24

ความคิดเห็นที่ 11 ว่าแต่อิจฉาจัง...ไม่แพ้ท้องด้วย จากคุณ : หมีอ้วนกับหมูอวบ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:35:34

ความคิดเห็นที่ 12 อิอิ พี่ยังกินได้เรื่อยจ้ะู ^_^ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:41:12

ความคิดเห็นที่ 13 เลี้ยงได้นะคะ ลูกเราก้อโตมากับน้องแมว ทิ้งเค้าไม่ได้จริงๆค่ะเลี้ยงดูมาตั้ง10 กว่าปีรักมากกกกก นอนก้อนอนด้วยกัน จาก4 ตอนนี้เหลือแค่2 T_T เพียงแต่ต้องระวังและคอยดูแล ไม่ได้ให้ลูกไปกอดไปหอมน้องแมว เราดูดฝุ่นทุกวันค่ะ ตอนท้องให้คุณสามีเก็บอึน้องแมวค่ะ จากคุณ : แม่ของเต้าหู้ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 17:35:06

ความคิดเห็นที่ 14 นั่นสิคะ ทิ้งได้ไง ..เลี้ยงแล้วก็รัก ถึงจะไม่ท้อง แต่อ่านแล้วได้ความรู้ดีค่ะ เพราะชอบทำสวนมือเปล่าเหมือนกัน อืม แต่มาคิดอีกทีแล้วเมืองจีนเขาทำสวน เขาเอาอุจจาระราดผักล่ะ ? ..น่ากลัวเนอะ จากคุณ : NATTI นัทตี้ เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 19:18:56

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ระวัง reflex ของแมวนะคะ เคยมีเพื่อนพ่อเอาแมวมาให้เพราะลูกสาวนอนกับแมว แล้วพลิกตัวทับแมว แมวเลยข่วนเกือบโดนตาลูก พ่อก็เลยไม่กล้าเลี้ยงต่อ รักสัตว์ได้แต่ก็ต้องระมัดระวังด้วยนะคะ จากคุณ : ซาซิมิจัง (ซาซิมิจัง) เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 21:12:41

ความคิดเห็นที่ 16 กำลังกังวลใจอยู่เลยค่ะ เพราะตอนนี้ท้องด้วยที่บ้านก็เลี้ยงแมวแบบระบบปิด ตอนไม่ท้องเป็นคนเก็บส้วมเก็บอึแมวเอง ตอนนี้ให้สามีทำให้ แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้บางคนก็ว่าไม่ว่าแค่อึหรือฉี่แมว แต่ถ้าเลี้ยงแมวในบ้าน อากาศในบ้านก็อันตราย ตอนนี้ก็กลุ้มใจเหมือนกันทิ้งไม่ลงเลี้ยงมาหลายปี จากคุณ : นู๋ต้นอ้อ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 14:40:05

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคุณหมอค่ะ อยากรู้มานานแล้วค่ะ เลี้ยงแมวด้วยระบบปิดอยู่ แล้วก็เตรียมตัวมีลูกอยู่อีกเหมือนกัน จากคุณ : ขมุบขมิบ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:33:26

ความคิดเห็นที่ 18 ลูกสาวชอบแมวมากกกกกถึงมากที่สุด แต่ที่บ้านไม่ได้เลี้ยงค่ะ เพราะสามีไม่ชอบเลย สั่งลูกห้ามเล่นกะแมว แต่เราเฉย ๆ นะ ใจจริงอยากให้ลูกเลี้ยงเหมือนกัน เพราะเด็ก ๆ ถ้าได้คลุกคลีกับพวกหมาแมวบ้าง (แต่ก็ต้องสะอาดและปลอดภัยนะคะ) แกก็จะมีภูมิต้านทานค่ะ จะไม่ค่อยเป็นภูมิแพ้ อันนี้เคยอ่านจากงานวิจัยนะคะ พอปิดเทอมที ได้ไปบ้านตา-ยาย แกมีความสุขมากค่ะ เพราะที่บ้านตากะยายเลี้ยงไว้หลายตัว กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเต็มที่ จนแมวรำคาญ เห็นลูกเราอยู่ที่ไหน รีบหนีด่วน จากคุณ : แม่เจ้าจ้อย เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:48:19

ความคิดเห็นที่ 19 แกชอบขืนใจแมวอ่ะค่ะ ชอบทำเหมือนแมวเป็นตุ๊กตา อุ้มบ้าง ห่มผ้าให้มันบ้าง ขี่มันบ้่าง จากคุณ : แม่เจ้าจ้อย เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:50:11

ความคิดเห็นที่ 20 ผลสุดท้ายหน้าก็เป็นเยี่ยงนี้ นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วนะคะ ที่โดนข่วน แต่ไม่เข็ดนะคะ เผลอแป๊บเดียวก็ไปเล่นกับแมวอีก ดีนะที่แมวฉีดยาแล้ว ปล.พ่อของลูกยังไม่เห็นรูปนี้ค่ะ ไม่งั้นแม่มันตายแน่ ๆ ยังไงถ้าเด็กกำลังซน ระวังไว้ด้วยนะคะ เพราะบางทีแมวมันก็รำคาญเหมือนกัน บางทีเด็กเค้าเผลอไปทำมันเจ็บ เด็กก็ไม่ได้ตั้งใจ แมวก็ไม่ได้ตั้งใจ จากคุณ : แม่เจ้าจ้อย เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:58:09

ความคิดเห็นที่ 21 ดีใจด้วยค่ะ ที่ไม่แพ้ท้อง 8สัปดาห์แล้ว ไม่แพ้ ก็คงไม่แพ้แล้วค่ะ โชคดีมากมายเลยค่ะ ขอให้ผ่านพ้นไปจนคลอดเลยนะคะ แพ้มากมายแล้วทรมานมากค่ะ เคยอาเจียนหลังกินอาหารเสร็จทุกครั้ง มีพี่คนหนึ่งที่ทำงานเป็นสาวแก่ บอกว่า ก็อย่าไปคิดถึงมันสิ ไม่คิดก็คงไม่แพ้ แหม.พี่ยังกะใครมันอยากให้แพ้นิ ของอย่างงี้ ต่อให้ไม่อยากอาเจียน เอามือล้วงก็ไม่ออกค่ะ พี่พูดนะมันง่าย พูดยังกะไม่มีความรู้เลย ทั้งที่เป็นพยาบาลนะคะ จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 21:59:01

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับความคิดที่ 18 คะเราเลี้ยงแมวมาตั้งแต่ก่อนมีน้องมา 3 ปีแล้ว เลี้ยงเหมือนลูกรักเลยคะ เรามั่นใจว่าแมวเราสะอาดดีพอ เพราะตั้งแต่เขามาอยู่กับเราตั้งแต่เล็กๆ เราไม่เคยให้เขาออกไปข้างนอกเลย และฉีดวัคซีนหยอด revolution เกือบทุกเดือน แต่ตอนแรกเราก็มีแอบกังวล พอไปฝากครรภ์ก็ให้หมอช่วยเช็คจากเลือดว่าเรามีพยาธิตัวนี้ไหม พอผลออกมาว่าไม่มีเราก็โล่งอกแล้ว เพราะเราเลี้ยงอยู่ตัวเดียว แต่ก็ให้คนอื่นเก็บอึแมวให้แต่เราก็เล่นกับแมวนะ จนตอนนี้น้องก็เล่นคลุกคลีบ้างกับแมวก็ไม่เป็นภูมิแพ้ ผิดกับเด็กบางคนที่เรารู้จักบ้านเขาไม่ได้เลี้ยงสัตว์อะไรเลยแต่เป็นภูมิแพ้ นิดหน่อยก็น้ำมูกไหล เจอฝุ่นก็ไม่ได้ น่าสงสารน้องเขาคะ จากคุณ : my little chakhrit เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 23:49:17

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับคุณหมอ(ขอเป็นแม่) เด็กคนนี้  อยู่กับแมวมาตั้งแต่กลับมาจาก รพ.  ใกล้ชิดกันมาตลอด แต่นี่ก็เป็นกรณีๆ  ไปนะครับ  อย่าถือเป็นสาระที่จะสามารถนำไปใช้ในทุกๆ บ้าน  ต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เพราะแมวที่บ้าน เลี้ยงสะอาด  อยู่แต่ในตัวบ้าน  ไม่ปล่อยให้ออกไปข้างนอก อาหารก็ให้กินแต่อาหารเม็ด (ไม่ได้ให้ปลาทู) มีวัคซีนอะไรดีๆ ที่ น.สพ. แนะนำ  ก็จะให้หมด  หยอดยากำจัดหมัดเป็นประจำทุกเดือน ขับถ่ายก็เป็นที่เป็นทาง  (เค้าจะ เบา - หนัก  ในห้องน้ำที่ผมใช้นี่แหละ เสร็จก็จะร้องเรียกให้ไปจัดการ) ก็อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข  แต่ตอนนี้เด็กในภาพ จะสองขวบครึ่งแล้ว  ชักจะผลัดกันแหย่ ผลัดกันแกล้ง  สนุกดี จากคุณ : Draught Beer เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 10:56:08

ความคิดเห็นที่ 24 ก่อนมีลูกเราก็เลี้ยงเค้าเหมือนลูกเราแล้วจะทิ้งลงได้ยังไง แต่ของเรามีทั้งหมา-แมวเลย แต่เลือกหมา เพราะแค่ตัวเดียว แต่แมว 4 ตัว เลยทำห้องใหม่ให้เค้า แต่ยังเล่น ยังกอดกันเหมือนเดิม ส่วนหมานอนหมอนเดียวกัน ลูกนอนเตียงของเค้าเอง เลี้ยงด้วยกัน แต่ดูแลเรื่องความสะอาดมากขึ้นแค่นั้น เราเลี้ยงเค้าด้วยกันเลย รักกันมาก ห้ามใครเข้าใกล้น้องถ้าไม่คุ้น เอารูปน่ารักๆมาให้ดูค่ะ ตอนแรกก็ต่างคนต่างแทะ  แต่ซักพักสลับกันซะงั้น จากคุณ : Miss_Coconut_Milk เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 14:19:32

ความคิดเห็นที่ 25 แม่ๆห้องนี้เลี้ยงแมวกันหลายคนเหมือนกันนะคะ กำลังสงสัยเหมือนกันว่า เด็กๆกะแมวนี่ อยู่ด้วยกันจะเป็นไงหว่า เพราะน้องแมวจะขี้รำคาญมากกว่าน้องหมา เห็นรูป คห.20 แล้ว สงสารน้องเลย จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 16:21:43

ความคิดเห็นที่ 26 เด็กๆมักไม่เข็ดหรอกค่ะ หลานเราอยู่กับแมวตั้งแต่อายุ 6 เดือน ตอนนี้ย่างเข้า 7 ขวบ กับแมวอีก 16 ตัว ตบตีกันประจำค่ะ ส่วนมากแมวตบหลาน จากคุณ : ติรติรา เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 18:49:45

ความคิดเห็นที่ 27 ระวัง Cryptococcosis ด้วยนะฮะ แมวปกติก็เป็น Carrier ได้หลายเปอร์เซ็นต์ จากคุณ : Jaegermeister เขียนเมื่อ : วันจักรี 53 18:52:52

ความคิดเห็นที่ 28 เรื่องเลี้ยงแมวเนี่ย กิฟเองเลี้ยงตั้งแต่ 4 ขวบ สุขภาพก็แข็งแรงดีนะคะ ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ท้องมีลูกเป็นของตัวเอง แต่ถ้าให้เลิกเลี้ยงแมวเอาเค้าไปไว้ที่อื่น คงทำไม่ได้ เพราะเลี้ยงเหมือนลูกมาตั้งแต่เด็กๆ นี่ค่ะรูปหลักฐานสมัยกิฟ 5 ขวบ //แก้ไขพิมพ์ผิดค่ะ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 53 12:09:58 จากคุณ : tungift เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 12:09:24

ความคิดเห็นที่ 29 ^ ^ คนกะแมว หน้าเหมือนกันเลย จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 16:10:20

ความคิดเห็นที่ 30 คุณ Jaegermeister ขอบคุณนะคะ แต่คิดว่า crypto นี่ โอกาสก่อโรคค่อนข้างน้อยในคนท้องปกติ เราไม่ค่อยรู้เรื่องวงจรชีวิตมันเท่าไหร่เลย เจ้า crypto นี่ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 53 16:15:52

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นที่ 28 นั่นรูปกิฟท์ตอนเด็กๆเหรอ  น่ารักกกกก หน้าตาไม่เปลี่ยนเลย จากคุณ : พิมปะการัง เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 12:40:08

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 28 นั่นรูปกิฟท์ตอนเด็กๆเหรอ  น่ารักกกกก หน้าตาไม่เปลี่ยนเลย  (อิ๊ๆ แอบลอก) เปลี่ยนแต่ตัว ฟรี้วววววววววววววววววววววว  หนีแย๊ววววววววววววว จากคุณ : วิฬารักษ์ เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 13:44:13

ความคิดเห็นที่ 33 แง่มๆๆ หน้าไม่เปลี่ยนแต่อ้วนขึ้นไง -*- พี่อันตามมาห้องชานเรือนด้วยหรอเนี่ย คุณฟ้าหมาดฝน ยังจำกันได้มั้ยคะ ที่เคยถามหลังไมค์เรื่องมดลูก ^0^ อ้อยินดีด้วยนะคะ คุณแม่คนใหม่ >//< จากคุณ : tungift เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 17:24:55

ความคิดเห็นที่ 34 จำได้สิคะคุณกิฟท์ จำได้ว่าพิมพ์ซะยาวด้วยความเป็นห่วงจริงๆ หายดีหรือยังคะ จากคุณ : ฟ้าหมาดฝน เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 18:01:43

ความคิดเห็นที่ 35   เราก้อช่วยแมวจร พาไปทำหมัน ให้ข้าวแมวจนคลอดอ่ะค่ะ เคยเจอแมวจรข่วนตอนตั้งท้องด้วย รู้ว่าตัวเองประมาทมากๆ แต่ลูกออกมาก้อปกติดี แรกๆก้อเครียดกับโรคนี้ แต่ได้ข้อมูลจากห้องแมวเยอะเลยสบายใจ อิอิ แมวที่เลี้ยงอยู่สองตัวต้องเอาไปฝากเลี้ยงค่ะ กลัวลูกแพ้ขนแมว คิดถึงแมวแต่ก้อห่วงลูก T_T จากคุณ : มะเหมี่ยว ขอแจม (มะเหมี่ยว ขอแจม) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 18:24:56

ความคิดเห็นที่ 36   จากการที่ยุ่งกับแมวจรเยอะไปหน่อย เลยได้ลูกออกมาหน้าตาแบบนี้ หุหุหุ แก้มอ้วนๆแบบนี้ เจออิเหมียวข่วนบ้างดีม้ายย จากคุณ : มะเหมี่ยว ขอแจม เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 18:25:16

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านแล้วเสียใจมากมาย ตอนท้องเราเลี้ยงแมวอยู่ด้วย แมวแก่อายุ 8 ปีได้แล้วค่ะ รักเค้ามาก จนท้องเริ่มแก่ สามีกลัวเรื่องโรคเลยเอาไปไว้บ้านแม่ สรุปว่าไม่นานเค้าหายไป คิดว่าโดนขโมย (แมวเปอร์เซีย) เสียใจมากมาย ตามหา ติดประกาศ แต่ไม่เจอเลยค่ะ ทุกวันนี้ทำใจว่าเค้าหายแต่เค้าคงยังมีชีวิตอยู่ มีคนใจดีรับไปเลี้ยง ดีกว่ารู้ข่าวว่าเค้าเสียไปแล้วเพราะเริ่มแก่แล้วอ่ะค่ะ แต่ก็สงสารเค้าอยู่ดี จากคุณ : C o L l A r เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 23:24:28

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วได้รู้อะไรมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเลี้ยงเค้าได้อยู่ดีเพราะอยู่กันแค่ 2 คน แฟนก็ท้องโตใกล้คลอดแล้ว กลางวันอยู่คนเดียวด้วยเค้ามีความสุขเหมือนมีเพื่อนแก้เหงาตอนที่มีน้องคิตตี้อยู่เป็นเพื่อน ได้ป้อนนมป้อนน้ำ วันที่รู้ว่ามีคนขอรับไปดูแลก็ร้องไห้เสียใจที่จะไม่ได้เจอกันแล้ว ซักวันก็ว่าจะหาแมวมาเลี้ยงซักตัว...เพราะปกติเป็นคนเลี้ยงหมา ทุกวันนี้ก็เข้ามาอ่านมาดูกระทู้ในห้องแมวทุกวัน... และนี่คือบันทึกสุดท้ายระหว่างเรา กะ คิตตี้ จากคุณ : โชคดีนะ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 09:13:05