ความคิดเห็นที่ 1 คุยกะเขาไม่รู้เรื่อง เราเลยบอกอย่าเพิ่งจ่ายเขาเพิ่ม 20000 ให้กลับมาก่อน คุยกันก่อน เพราะปีนี้ เรามีงานฟรีแลนซ์หลายงานเลย อ้าวแล้วแบบนี้ปีหน้า เราก็ต้องเอารายรับไปรวมกะสามีแบบนี้เหรอค๊ะ แบบนี้เราจะทำไงดีค๊ะเนี่ย จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 14:47:44

ความคิดเห็นที่ 2 แม่ๆๆรู้ไหมค๊ะ ใครที่มีงานฟรีแลนซ์ รายได้เราต้องไปรวมกะสามีด้วย จะได้จ่ายภาษีแพงๆๆ 555555 ก่อนหน้านี้ ทำงานประจำ ก็ยื่นแยกมาตลอด ทำไมจะมาบังคับให้เรายื่นรวมอ่ะ จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 14:49:19

ความคิดเห็นที่ 3   มันเป็นกฏหมายข้อนึงค่ะ...รายได้ของภรรยาที่มิได้เป็นเงินเดือนประจำ (40 วงเล็บ 1) ให้ถือเป็นรายได้ของสามี...ก็คือ เราต้องเอารายได้ตรงนี้ไปรวมกับรายได้ของสามีใน 40(6) เพื่อจ่ายภาษีค่ะ สิ่งที่พอจะช่วยได้ (อย่างถูกกฏหมาย) คือ จดทะเบียนตั้งเป็นบริษัทนิติบุคคลค่ะ จะได้แยกจ่ายภาษีในนามนิติบุคคลไป จากคุณ : แป้งโดว์ (แป้งโดว์) เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 15:21:15

ความคิดเห็นที่ 4 อันนี้ตามความเข้าใจของเรานะคะ   ตาม ป.รัษฎากร    มาตรา 57 เบญจ ถ้าภริยามีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) ในปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว ไม่ว่าจะมีเงินได้พึงประเมินอื่นด้วยหรือไม่ ภริยาจะแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีเฉพาะส่วนที่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) ซึ่งกรณีการทำงานฟรีแลนซ์ เป็นการเข้าหลักมาตรา 40(2) ทำให้ต้องนำรายได้มาคิดรวมกับสามีค่ะ ในมาตรา 57 ตรี วรรคสองบอกไว้ว่า         ถ้าสามีหรือ ภริยามีความประสงค์จะยื่นรายการแยกกันก็ให้ทำได้ โดยแจ้งให้เจ้าพนักงานประเมินทราบภายในเวลาซึ่งกำหนดให้ยื่นรายการ แต่การแยกกันยื่นรายการนั้น ไม่ทำให้ภาษีที่ต้องเสียเปลี่ยนแปลงอย่างใด ซึ่งคุณก็ยังต้องเสียภาษีเท่าเดิมอยู่ดีอ่ะค่ะ เมื่อก่อนที่ทำงานประจำแล้วแยกกันจ่าย เพราะเป็นรายได้ตามมาตรา 40(1) ค่ะ จากคุณ : tarojay เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 15:24:05

ความคิดเห็นที่ 5 มันเป็นแบบที่เพื่อนๆข้างบนบอกมาค่ะ พี่ที่ทำบัญชีให้บริษัทฯเรา เค้าเลยจดเป็นคณะบุคคลค่ะ  จะได้ไม่ต้องเอารายได้นั้นไปรวมกับสามี  ถ้างัยคุณลองศึกษาเรื่อง  จดเป็นคณะบุคคลดูก่อนก็ได้นะคะ หรือไม่ก็เวลารับเงินก็เอาชื่อของคนที่คุณจ้างเค้าไปรับบ้าง รายได้มันจะได้กระจายๆกันไป ไม่ไปลงที่คุณคนเดียว จะได้ไม่เสียภาษีเยอะค่ะ ลองดูนะคะ จากคุณ : โลกยังหมุนอยู่ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 15:40:45

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าใจแล้วค่ะ เดี๋ยวจะไปศึกษา การจดเป็นคณะบุคคลดูค่ะ ขอบคุณมากๆๆค่ะ จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 15:47:11

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างที่บอกข้างบนถูกต้องจ้า โหน่ง 40(1) ประเภทเงินเดือนประจำ สามารถแยกยื่นภาษีได้ แต่ถ้าอย่างโหน่งต้องยื่นรวม ทำให้ฐานภาษีสูงจ๊ะ การจดคณะบุคคลเพื่อรับรายได้ เป็นการกระจายฐานภาษีได้วิธีนึง  แต่ก็จดหลายคณะมากไม่ได้นะ ต้องจดอย่างดูเหมาะสมให้เสียภาษีบ้าง  ไม่ใช่ภาษีเป็นศูนย์ตลอด แถมยังได้ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่ายคืนอีก.... ไม่งั้นเดี๋ยวมีปัญหากับสรรพากรอีกนะ.... อ้อ คณะบุคคลไม่ใช่ไปจดร่วมกับคุณสามีนะ  ไม่ได้นะจ๊ะ  ต้องเป็นคนอื่นนะ  (สามีภรรยาถือเป็นคนเดียวกัน จดคณะบุคคลไม่ได้นะ) จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:18:13

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้สรรพากร ไม่รับจดคณะบุคคลแล้วค่ะ เพราะมันเป็นช่องทางในการหลีกเลี่ยงภาษีที่คนทำกันเยอะ โดยเฉพาะพวกดาราที่โดนอยู่ก็เรื่องนี้แหละค่ะ บางคนจดเป็น 10 คณะบุคคลเลยก็มี สำหรับเราเราใช้วิธีไม่จดทะเบียนสมรสค่ะ แยกรายได้ของใครของมัน จากคุณ : VH เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:39:32

ความคิดเห็นที่ 9 น่านเลยค่ะ กำลังคิดอยู่เลยว่า จะไปจดเป็นคณะบุคคล ไม่งั้นก็จะไปทำเรื่องหย่าซะเลยดีไหมเนี่ย จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 16:58:18

ความคิดเห็นที่ 10 เราทำฟรีแลนซ์แต่รายได้ไม่เคยเกินที่ต้องนำไปสำแดงภาษีกับสามี และถูกหัก ณ ที่จ่ายไปแล้ว ซึ่งรวม ๆ แล้วมากกว่าที่จะเอาไปรวมกับสามีแล้วคำนวณภาษีใหม่ค่ะ สรรพากรเลยเฉย ๆ ไม่เคยโดนเรียกเก็บย้อนหลัง ทำตามข้างบนนะคะ จดเป็น คณะบุคคลค่ะ อย่าหย่าเลย ไม่น่าจะคุ้มกันนะคะ หรือไม่ก็ไปร้องรัฐบาลว่า กฎหมายนี้ไม่เป็นธรรม ดูภรรยาด้อยกว่าสามีเกินจำเป็น 55555 จากคุณ : แม่น้องเอเอ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:26:04

ความคิดเห็นที่ 11 มันเป็นกฎหมายค่ะ ไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศไทยถึงสนับสนุนให้คนไม่จดทะเบียนสมรส เพราะต่างประเทศหากจดทะเบียนสมรส มีสิทธิ์หักลดหย่อนมากกว่า เราก็โดนมาค่ะ รายได้เราเยอะกว่าสามี เราแยกยื่นภาษีปรากฏว่าทำไม่ได้ ไปสรรพากร เลยเพิ่งรู้ว่า รายได้ของเราแยกยื่นไม่ได้เพราะเป็น 40(2) จากเดิมที่ได้ภาษีคืน กลายเป็นต้องจ่ายเพิ่มอีก 3 เท่า เพราะฐานเปลี่ยน เซ้งมากค่ะ วิธีแก้ปัญหา ให้จดห้างหุ้นส่วนค่ะ เพราะคณะบุคคลตอนนี้ห้ามจดแล้วค่ะ แต่จดห้างหุ้นส่วน จะค่อนข้างละเอียดกว่า เพราะจะต้องไปจดพร้อมกันที่สรรพากรพื้นที่(ที่ไหนก็ได้ค่ะ) แล้วจะโดนสอบถามสัมภาษณ์ว่าจัดตั้งเพื่ออะไร ใครเป็นสมาชิกในห้างหุ้นส่วนบ้าง แล้วจะสอบถามย้อนหลังไปถึงว่า จบการศึกษาอะไรมา ขั้นตอนจะยุ่งยากกว่านิดหน่อย แต่คุ้มกว่าค่ะ ไม่ต้องโดนภาษีเยอะ จากคุณ : TruLy เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 17:55:28

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ^ ^ เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ตอนแรกขอคืนภาษีค่ะ กลับเป็นโดนเก็บภาษีเพิ่มซะงั้นค่ะ เซ็งเหมือนกันค่ะ ใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญไหม ที่ คล้ายๆๆ คณะบุคคล ใช่ไหมค๊ะ คือเราไม่อยากจดแบบบริษัท เพราะรายได้ไม่ได้มากมายอะไร จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:10:15

ความคิดเห็นที่ 13 คุณจอย ของโหน่งก็หัก ณ ที่จ่ายไปแล้วค่ะ ตั้งแต่ตอนรับเงินเลยค่ะ ใช่เลย กฏหมายนี้แปลกมากๆๆ ถ้าทำงานประจำ มีเงินเดือน จดทะเบียนสมรส แยกยื่นได้ ถ้าเราเป็นแม่บ้านรับทำงานฟรีแลนซ์ ซึ่งเงินที่ได้ก็น้อยกว่าทำงานประจำอยู่แล้ว  กลับต้องเอาเงินไปรวมยื่นภาษีกะสามี ...............อืมๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 23 มิ.ย. 53 18:14:27 จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 18:12:18

ความคิดเห็นที่ 14 เข้ามาศึกษาจ๊ะโหน่ง..เรื่องภาษีเนี่ย พี่ไม่ค่อยสันทัดเลย จะยื่นทีไรงงทู๊กที แต่ตั้งแต่ตั้งท้องก็เป็นชาวเกาะมาตลอดเลยไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้เลย 555.... รอจีจี้เข้าโรงเรียนค่อยว่ากันอีกที..สู้ๆโหน่ง จากคุณ : Sharpman เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 23:06:11

ความคิดเห็นที่ 15 พี่โจโจ้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ตอนนี้คงได้แต่คิดว่าจะจดทะเบียนแบบไหนดีค่ะ คราวนี้ที่เรียกเก็บก็คงต้องไปจ่ายไป ถือว่าเป็นบทเรียนค่ะ จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 23:48:25

ความคิดเห็นที่ 16 ตามที่เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ รายได้ของภรรยาเอามารวมกับสามีเพื่อหักภาษีค่ะ ยกเว้น รายได้ประจำเช่น เงินเดือน เอามาลดในส่วนของภรรยาได้เอง แต่นอกนั้น เอาไปรวมเป็ฯรายได้สามีทั้งหมดค่ะ เราก็งงๆค่ะ แต่มันเป็นแบบนี้จริงๆ ทางที่ดีก็ อย่าจดทะเบียน เพราะกฏหมายไทย เอื้อให้แต่คนโสด อยากทำให้เหมือนประเทศผู้พัฒนาจริง ก็ไปศึกษากฏหมายของ USA หน่อยสิ เค้าเอื้อให้คนจดทะเบียนกันเสียภาษีน้อยกว่า คนโสดอีก เมืองไทยเลียนแบบเค้าก็ทำตามไม่หมด เอาแต่ประโยชน์เข้ารัฐอย่างเดียว แถมเอาไปบริหารก็ไม่ได้เรื่อง ไม่รู้กี่สมัยต่อกี่สมัย โมโหแทนพอพูดเรื่องนี้ จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 08:07:37

ความคิดเห็นที่ 17   เพื่อนเคยโดนค่ะ ตอนแรกก็แยกกันจ่ายไม่มีปัญหามาหลายปี พอปีที่แล้ว สรรพากรบอกว่ารายได้ของภรรยาต้องรวมกับสามี เป็นกฏหมายใหม่ แต่เพื่อนเราก็มีทั้งงานประจำและงานพิเศษนะคะ ปกติเค้ายื่นเงินเดือนเค้าไม่เสียภาษีอยู่แล้ว จะได้คืนตลอด   เจอแบบนี้เซ็งค่ะ เพราะเช็คที่จะได้คืนต้องเป็นของสามี เพื่อนเลยถามว่าถ้าเกิดมีสามีไม่รับผิดชอบ ไม่ตายเหรอไง แล้วจะทำงานพิเศษไปทำไมกัน ทะเลาะกับสรรพากรอยู่นานเลย แก้ไขเมื่อ 24 มิ.ย. 53 08:34:27 จากคุณ : nuntica เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 08:30:20

ความคิดเห็นที่ 18 ใช่เลยค่ะ ความคิดเราแบบนั้นเลย แล้วเราจะทำงานพิเศษไปทำไม ทำแล้วต้องเอาไปเสียภาษีรวมกะฐานของสามี   อย่างน้อยเราน่าจะมีสิทธิเลือกว่าจะยื่นเอง หรือยื่นรวมกันน๊ะ ว่าไหม ขอบคุณที่มาแชร์กันค่ะ จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 10:02:50

ความคิดเห็นที่ 19 คนไทยเนี่ย เสียภาษียิบย่อยกันหลายทางเนอะ ทั้งจากรายได้หลัก รายได้เสริม น้ำก็มีภาษี ไฟก็มีภาษี จะซื้อของในห้างก็มีภาษีผู้บริโภคที่รวมเข้าก็บราคาสินค้าอัตโนมัติ น้ำมันก็บวกภาษี ไม่ว่าจะยากดีมีจน ถ้าต้องซื้อของเค้ากิน ก็ต้องเสียภาษีทางอ้อมหมด คนแก่นั่งรับเงินจากลูกหลานอย่างเดียวก็ยังต้องเสียภาษี(ทางอ้อม) -*- ประเทศอื่นเค้าเสียภาษีกับแบบนี้บ้างมั้ย หรือว่าเราดีกว่าประเทศอื่นอยู่แล้ว อยากรู้จิงๆ จากคุณ : MS USM เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 10:04:44

ความคิดเห็นที่ 20 ดอกเบี้ยของเงินเราที่ฝากธนาคารยังต้องเสียภาษีเลยค่ะ เหอๆๆๆๆๆ ไม่ทราบค่ะ รู้แต่ว่า อเมริกา เมืองจีน ก็เสียภาษี 30% ค่ะ จากคุณ : land_girl เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 10:26:24

ความคิดเห็นที่ 21 จดเป็นแบบ ห้างหุ้นส่วนสามัญค่ะ รายได้ไม่เกิน 1.8ล้าน ไม่ต้องจด VAT เมื่อก่อนเราเคยโดนมาแล้ว ขนาดที่เราจดเป็นแบบ คณะบุคคล นะ จดกับแม่ด้วย สรรพากร ยังหาว่าเราหลบหลีกรายได้ เอาแม่มาจดคู่เพื่อเปิด คณะบุคคล แม่ได้ร่วมทำด้วย จะให้จ่ายภาษีเพิ่มเป็นรูปแบบบุคคลธรรมดาค่ะ ก็โดน 3 เด้งซิคะ 1 เสียภาษีผิดประเภท 2 ต้องนำไปรวมกับรายได้คุณสามีเพื่อเสียภาษี 3 รายได้งานประจำก็ต้องเอาไปรวมเป็นยอดรายได้ที่จะเสียภาษีด้วย  โอ้วแม่เจ้า.....ฟังแล้วอยาก......สรรพากรคนนั้นจริงๆ แต่ระดับใหญ่ด้วยซิ  เราเลยเอาปัญหาไปปรึกษาดอกเตอร์สุวรรณในรายการวิทยุ ท่านก็บอกว่าคณะบุคคล จดทะเบียนแม่ลูกด้วยกันได้ไม่มีปัญหา หน่วยภาษีก็แยกชัดเจน ไม่ต้องรวมกับ รายได้สามี  นั่นซิความเข้าใจเราว่าถูกแล้วนะสรรพากรคนนั้นต้องการอะไรน้า.....สุดท้ายให้พี่สาวเพื่อน(ใหญ่กว่าสรรพากรคนนั้น)โทรศัพท์ไปคุยให้ สรุปก็เสียเพิ่มนิดหน่อย(พอดีเอกสารบางตัวไม่ครบเลยต้องเสียเพิ่ม)แล้วเราก็ปิด คณะบุคคล เลย เซ็งมากๆ ตอนนี้มาเปิดเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญแล้ว จดvat ด้วยเลย เอาพ่อไปจดด้วย คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอีก สาธุ จากคุณ : Nong-Ngek เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 13:42:55

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนแรกก็ปวดหัวตุ๊บๆเลย คุยกับคุณสามี บอกว่าชั้นมีปัญหาอย่างงี้เราหย่ากันเถอะ คุณสามีอึ้งไปเลย แถมบอกไม่ยอมหย่า นั่งน้ำตาซึมๆ เราเลยใจอ่อน เสียเท่าไหร่เท่ากัน ลองสู้ดูนะ ปรึกษาหลายๆคนที่รู้เรื่องภาษีก็บอก เป็นกรณีที่ งี่เง่าสิ้นดี ค่ะ จากคุณ : Nong-Ngek เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 13:47:22