วิธีส่งเสริมพรสวรรค์ของลูกรัก

"พรสวรรค์" (Talent) เป็นความสามารถหรือความถนัดเฉพาะบุคคล ที่ทำให้บุคคลนั้นๆ มีความโดดเด่นกว่าคนอื่นทั่วไป คนบางคนเชื่อว่าพรสวรรค์เป็นความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งถ้าใครไม่มีพรสวรรค์ทางด้านใดตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จทางด้านนั้นได้เลย แต่บางคนก็เชื่อว่า พรสวรรค์เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ และเมื่อได้ฝึกฝนบ่อยๆ จนเกิดความชำนาญแล้ว ก็สามารถพัฒนาความสามารถนั้นให้โดดเด่นขึ้นมาได้เช่นกัน เด็กแต่ละคนนั้นล้วนมีความสามารถหรือมีพรสวรรค์กันทุกคนเพียงแต่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะสังเกตลูกของเราได้ว่ามีพรสวรรค์ทางด้านใดบ้าง ดังนี้

ด้านศิลปะ เด็กสามารถแสดงออกทางความคิดออกมาเป็นงานศิลปะประเภทต่างๆ ได้ดี เช่น ชอบวาดรูป ระบายสีสวย ปั้น ตัด แปะเป็นรูปเป็นร่างต่างๆได้มากมาย

ด้านการประดิษฐ์ เป็นเด็กที่ชอบทำงานฝีมือและชอบประดิษฐ์สิ่งของต่างๆ เช่น ลูกสามารถนำวัสดุต่างๆ มาประดิษฐ์ดัดแปลงให้เป็นสิ่งต่างๆ ได้ โดยลูกอาจนำเอากล่องกระดาษเปล่า หลอดด้าย มาประดิษฐ์เป็นรถ หรือเอาขวดน้ำที่ไม่ใช้แล้วมาประดิษฐ์เป็นกล่องใส่ดินสอ เป็นต้น

ด้านการพูด ด้านการอ่านหรือด้านการเขียน หากเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านการพูด จะเป็นเด็กที่มีความสามารถในการใช้ภาษาสื่อสารกับผู้อื่นได้ดี เช่น เป็นเด็กพูดเก่ง สามารถพูดโดยลำดับเรื่องราวต่างๆ ได้ดี เล่านิทานเองได้ หากเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านการอ่าน จะเป็นเด็กที่อ่านหนังสือได้เร็วและอ่านได้คล่อง สามารถอ่านและเข้าใจคำศัพท์ยากๆ ได้ และหากเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านการเขียน ก็จะสามารถเขียนคำต่างๆ ได้ถูกต้องหรือเขียนได้เป็นเรื่องเป็นราว เช่น แต่งนิทานเองได้

ด้านดนตรี มีความสามารถในการแสดงออกทางด้านดนตรี เช่น ร้องเพลงได้เพราะ ไม่เพี้ยน ตรงจังหวะ หรือสามารถเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ ได้ดี เช่น ตีกลอง เป่าขลุ่ย เล่นเปียโน ตีระนาด สีไวโอลิน หรือสามารถสร้างสรรค์งานดนตรี เช่น แต่งเนื้อเพลงหรือทำนองเพลงเองได้
ด้านการเต้น เป็นเด็กที่มีความสามารถในการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น เวลาได้ยินเพลงหรือดนตรีที่มีจังหวะถูกใจก็มักจะเต้นตามจังหวะนั้นๆ ได้อย่างตรงจังหวะ หรือเมื่อเห็นคนเต้นท่าทางต่างๆ ก็สามารถเต้นตามได้อย่างถูกต้อง หรือคิดสร้างสรรค์ท่าเต้นรำได้ด้วยตนเอง
ด้านกีฬา มีความสามารถในการเล่นกีฬาประเภทต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น เล่นฟุตบอล เทนนิส ปิงปอง ยิมนาสติก ว่ายน้ำ

ด้านคณิตศาสตร์ มีความสามารถในการเข้าใจเรื่องของตัวเลข การคิดคำนวณ สนุกกับเรื่องของตัวเลขในการบวก ลบ คูณ หาร สามารถคิดเลขได้เร็ว หรือคิดเลขในใจได้

ด้านวิทยาศาสตร์ มีความสามารถในการคิดค้น ทดลอง ช่างสังเกตและเปรียบเทียบได้อย่างมีเหตุมีผล เช่น สามารถบอกความแตกต่างระหว่างพืชหรือสัตว์ที่ต่างชนิดกันได้

อย่างที่กล่าวแล้วว่าเด็กๆทุกคนต่างมีพรสวรรค์ และมีพรสวรรค์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละคน ซึ่งแม้จะมีพรสวรรค์กันทุกคนแต่หากไม่ได้ใช้หรือไม่ได้รับการขัดเกลาเลย พรสวรรค์ก็อาจจะหมดลงไปได้ ดังนี้คุณพ่อคุณแม่จึงต้องช่วยส่งเสริมพรสวรรค์ของลูกเพื่อที่เขาจะสามารถมีสิ่งพิเศษนี้ติดตัวเพื่อจะเป็นประโยชน์กับเขาต่อไปในอนาคต

***วิธีส่งเสริมพรสวรรค์ของลูกรัก

1.สังเกต คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตว่าลูกมีพรสวรรค์หรือมีความถนัดทางด้านใด โดยสังเกตได้จากการที่ลูกมีความสนใจ กระตือรือร้น มีความสุขที่ได้ทำสิ่งนั้น และสามารถทำสิ่งนั้นๆ ได้ดี เช่น ลูกชอบหยิบจับเครื่องดนตรีเอามาเล่นบ่อยๆ ก็ให้สังเกตว่าลูกอาจมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี หรือลูกชอบเล่านิทานหรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟังเป็นประจำ ลูกอาจมีพรสวรรค์ทางด้านการพูดก็เป็นได้ ซึ่งการสังเกตให้สังเกตไปเรื่อยๆ จนแน่ใจ เพราะบางทีลูกที่ยังเล็ก อาจจะมีความสนใจหลายสิ่งหลายอย่างไม่ได้เน้นสิ่งใดเป็นพิเศษก็อย่าเพิ่งใจร้อนด่วนสรุปไป หรืออย่าคิดเอาเองว่าลูกชอบทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ หรืออย่าให้ลูกต้องฝืนทำในสิ่งที่พ่อแม่ชอบ เพราะนั่นจะเป็นผลเสียกับลูกมากกว่าเป็นผลดี จากประสบการณ์การสอนเปียโนของผู้เขียน เคยมีลูกศิษย์คนหนึ่งที่คุณแม่มีความฝันอยากให้ลูกเล่นเปียโนเก่ง แต่ตัวของลูกไม่ชอบและไม่มีความสุขในการเรียนเปียโนเลย เด็กคนนั้นบอกกับผู้เขียนว่า เขาไม่ชอบเรียนเปียโนแต่ชอบเล่นกีฬามากกว่า ผู้เขียนจึงตัดสินใจบอกกับคุณแม่ของเด็กคนนี้ว่าควรจะให้ลูกหยุดเรียนเปียโนและไปสนับสนุนสิ่งที่ลูกชอบคือการเล่นกีฬามากกว่า ปัจจุบันเด็กคนนี้เล่นกีฬาเก่งจนได้เป็นนักกีฬาเหรียญทองของโรงเรียน

2.สนับสนุนและส่งเสริมให้ทำบ่อยๆ เมื่อค้นพบว่าลูกมีพรสวรรค์หรือความถนัดในด้านใดแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุน ให้ลูกได้เข้าร่วมหรือทำกิจกรรมที่ลูกชอบและสนใจ เช่น ถ้าลูกชอบว่ายน้ำ ก็พาลูกไปว่ายน้ำบ่อยๆ และให้ลูกได้ฝึกเรียนกับคุณครูที่มีความชำนาญในด้านการว่ายน้ำอย่างจริงจัง เพื่อจะได้ว่ายอย่างถูกวิธีและว่ายในท่าทางที่ถูกต้อง หรือหากลูกชอบวาดรูประบายสี คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหาอุปกรณ์พวก กระดาษ ดินสอสี ปากกา เตรียมไว้ให้ลูกอย่างเพียงพอ หรือพาลูกไปเรียนศิลปะ เพื่อจะได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ ทางศิลปะ

3.เสริมกำลังใจ โดยการให้คำแนะนำ ช่วยเหลือ ชมเชยและให้รางวัล เพื่อแสดงให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เห็นชอบในสิ่งที่ลูกทำและมีความรู้สึกภูมิใจในตัวของลูก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ลูกเกิดมีกำลังใจและมีความสุขในการที่จะพัฒนาพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวให้เพิ่มศักยภาพมากยิ่งขึ้น

4.สม่ำเสมอ การส่งเสริมพรสวรรค์ของลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความอดทน ใจเย็นและสม่ำเสมอ เพราะการที่ลูกจะพัฒนาทักษะความสามารถของตนเองนั้น ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ควรเร่งรัดให้ลูกต้องเก่งในเวลาอันรวดเร็วแต่ควรจะค่อยเป็นค่อยไป และไม่ควรให้ลูกหยุดทำกลางคันเพราะอาจทำให้ลูกไม่สามารถพัฒนาพรสวรรค์อย่างต่อเนื่องได้

อยากจะฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกคนว่าเมื่อสังเกตพบว่าลูกของเรามีพรสวรรค์หรือความถนัดในด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษแล้ว ก็ควรดูแลให้ลูกได้พัฒนาพรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มศักยภาพ ด้วยการสนับสนุนส่งเสริมอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำให้ลูกได้ นอกจากนี้อย่าลืมเสริมกำลังใจให้เขา เพื่อลูกจะได้ไม่ท้อแท้หรือท้อถอยหากยังทำได้ไม่ดีพอ ทั้งควรพัฒนาลูกอย่างสม่ำเสมอ แต่ต้องหลีกเลี่ยงการบังคับให้ลูกเกิดความเครียด เพราะการส่งเสริมพรสวรรค์นั้นต้องทำให้ลูกมีความสุขที่ได้ทำ ที่สำคัญอย่าตั้งเป้าหมายว่าลูกต้องเก่งเหมือนใครๆ ไม่ใช่ว่าลูกต้องเล่นเปียโนเก่งเหมือนโมสาร์ทหรือบีโทเฟ่น หรือต้องเตะฟุตบอลเก่งเหมือนโรนัลโด้ แค่ให้เขาเก่งในแบบของเขาแค่นี้ก็เพียงพอและสุดยอดมากๆ แล้ว

************************
ดร.แพง ชินพงศ์

จากคุณ	: dragon.gate
เขียนเมื่อ	: 25 มิ.ย. 53 13:26:53