ความคิดเห็นที่ 1 นู๋เองค่ะ เผื่อใครนึกไม่ออก ^^ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:12:17

ความคิดเห็นที่ 2 ลืมบอกไปค่ะ น้องอัยย์เค้าบ่นว่า เจ็บๆๆ แล้วไม่ยอมให้แอนดู พอตกเย็น เลยให้ป๊าน้องอัยย์ช่วยค่ะ ปรากฏว่า แอนเห็นเป็นตุ่มสีแดงปนเหลือง อยู่ด้านในตรงบริเวณหัวตาค่ะ คาดว่าจะเป็น ตากุ้งยิง แน่นอนเลยค่ะ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:14:27

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้ฝากถึง มนจัง (แม่น้องมานามิ) .......... มี่จังหาหมอที่บำรุงราษฎร์ใช่มั้ยจ้ะ คิดว่าน่าจะจำไม่ผิด จะถามว่าคุณหมอชื่ออะไรอ่ะมน พอดีหมอปกป้อง ที่น้องอัยย์หาอยู่ประจำ ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลมาระยะนึงแล้วจ้ะ ไม่รุจะให้หาหมอไหนดี จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:16:36

ความคิดเห็นที่ 4 . แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 18:27:06 จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:25:42

ความคิดเห็นที่ 5 ลูกสาวก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ  ตอนประมาณ 6 เดือนได้ เปลือกตาบวมแดง เหมือนเป็นตากุ้งยิง แต่ไม่รู้ท่าไหน ซัก1-2วัน หายเองเฉยเลย งงเหมือนกัน เลยไม่รู้จะแนะนำยังไง เข้ามาบอก หายไวๆนะคะ จากคุณ : แม่น้ำ (LOOKMIN) เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:28:08

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ^ แล้วไม่ได้พาน้องไปหาหมอเลยเหรอคะ หายไปเองได้ไง งงค่ะ ปกติถ้าเป็นผู้ใหญ่ ก้อจะเจ็บไปหลายวันเหมือนกันนะคะ แล้วก้อต้องหยอดตาด้วยค่ะ แต่ของลูกนี่นึกไม่ออกเลยค่ะ ว่าจะใช้ยาเหมือนผู้ใหญ่ได้ไหม จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:30:40

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนอื่นขอแนะนำ จขกท. พาน้องอัยย์ ไปพบแพทย์เพื่อดูอาการก่อนน่ะครับ ส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับโรคตากุ้งยิง ขอเสนอบทคำตอบ ของ นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ ตามนี้ครับ... จากคำถามเรื่องตากุ้งยิง ขอตอบรวมๆ ดังต่อไปนี้. 1.กุ้งยิง หมายถึง ตุ่มฝีเล็กๆ ที่ขอบเปลือกตา ซึ่งอาจพบได้ที่เปลือกตาบนหรือล่าง เกิดจากต่อมขับไขมันในบริเวณนั้นมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดการอักเสบและบวมนูนเป็นตุ่มฝี 2.กุ้งยิงแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้ แก่ กุ้งยิงชนิดหัวผุด และชนิดหัวหลบใน หรือ stye) กุ้งยิง ชนิดหัวผุด เป็นการอักเสบของต่อมขับไขมันบริเวณผิวหนังตรงโคนขนตา จะเป็นหัวฝีผุดให้เห็นชัดเจน ตรงบริเวณขอบตา มีลักษณะสีเหลือง ตรงกลางรอบๆ นูนแดง และกดเจ็บ กุ้งยิงชนิดหัวหลบใน (ภาษาอังกฤษเรียกว่า internal hordeolum) เป็นการอักเสบของต่อมขับไขมันบริเวณเยื่อบุเปลือกตา (เนื้อเยื่อสี ชมพูที่อยู่ลึกจากขอบตาเข้าไปต้องปลิ้นเปลือกตาจึงจะเห็น) หัวฝีจะหลบ ซ่อนอยู่ด้านในของเปลือกตา คนไข้จะรู้สึกปวดที่เปลือกตา เมื่อใช้นิ้วคลำกดดูจะพบตุ่มแข็งและเจ็บ เมื่อปลิ้นเปลือกตาจะเห็นหัวฝีมีลักษณะสีเหลืองๆ บางครั้งต่อมขับไขมันบริเวณเยื่อบุเปลือกตานี้ อาจมีการอุดตันของรูเปิดเล็กๆ ทำให้มีเนื้อเยื่อรวมตัวอยู่ภายในต่อม กลายเป็นตุ่มนูนแข็งๆ ไม่เจ็บปวดอะไร ภาษาหมอเรียกว่า"คาลาเซียน" (chalazion) ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ตาเป็นซิสต์ บางครั้งอาจมีเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทำให้เกิดการอักเสบ คล้ายกุ้งยิงชนิดหัวหลบในได้ 3.สาเหตุที่ทำให้ตาเป็นกุ้งยิงคือ การติดเชื้อแบคทีเรีย (เชื้อหนอง) ซึ่งอาจแปดเปื้อนจากมือ เสื้อผ้า ผ้าเช็ดหน้า น้ำ หรือฝุ่นละอองในอากาศได้ 4.กุ้งยิงเป็นโรคที่พบได้ทั้ง ในเด็กและผู้ใหญ่ เด็กอายุ 4-10 ขวบ มีโอกาสเป็นกุ้งยิงได้บ่อย เป็นเพราะยังไม่รู้จักรักษาความสะอาด เช่น อาจเล่น คลุกฝุ่น  แล้วใช้มือที่สกปรกขยี้ตา เมื่อโตขึ้นแล้วจะไม่เป็นบ่อย คนที่เป็นกุ้งยิงบ่อยๆ อาจมีปัญหาส่งเสริมดังนี้ (1) มีความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา เช่น สายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง ตาเข เป็นต้นยังบอกไม่ ได้แน่ชัดว่าทำไมคนเหล่านี้ มีโอกาสเป็นกุ้งยิงได้ง่าย สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากเปลือกตาต้องทำงานมากกว่า ปกติ เช่น ต้องขยี้ตา หรี่ตา หรือเพ่งมากกว่าปกติเพื่อให้มองเห็นชัด (2) สุขภาพทั่วไปไม่ดี เช่น เป็นโรคเรื้อรัง ขาดอาหาร ฟันผุ ไซนัสอักเสบ อดนอน เป็นต้น (3) ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำทำให้ติดเชื้อง่าย เช่น เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง เบาหวาน กินยาสตีรอยด์ นานๆ เป็นต้น (4) ความเชื่อที่ว่ากุ้งยิงเกิดจาก การไปแอบดูใครมานั้น เป็นเรื่องที่ชาวบ้านนำมาล้อกันเล่น ความจริงกุ้งยิงเกิดจากสาเหตุต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น ส่วนการแอบดูนั้นไม่น่าจะทำให้ตาเป็นกุ้งยิง นอกเสีย จากว่า การกระทำนั้นมีลักษณะที่ทำให้เกิดการแปดเปื้อนเชื้อโรคที่เปลือกตา (5) กุ้งยิงถือเป็นโรคพื้นๆ ที่ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพและดวงตาแต่อย่างใด นอกจากทำให้มีอาการเจ็บปวดน่ารำคาญ การรักษาตนเอง แต่เนิ่นๆ จะทำให้โรคหายขาดได้ภายในไม่กี่วัน (6) การป้องกันมิให้ตาเป็นกุ้งยิง เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่อย่างไรก็ตาม ก็อาจให้คำแนะนำเป็นแนวทางกลางๆ ดังนี้ (1) รักษาสุขภาพทั่วไปให้  แข็งแรง พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน และออกกำลังกายสม่ำเสมอ (2) หลีกเลี่ยงการถูกฝุ่น ถูกลม แสงแดดจ้าๆ และควันบุหรี่ (3) หลีกเลี่ยงการใช้มือหรือผ้าเช็ดหน้าที่ไม่สะอาดเช็ดตา หรือขยี้ตา (4) ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับสายตา ให้แก้ไขด้วยการสวมแว่น (5) รักษาโรคเรื้อรัง เช่น ฟันผุ ไซนัสอักเสบ เบาหวานให้ได้ผล การ ดูแลรักษาตนเอง ตาเป็นกุ้งยิง เป็นสิ่งที่คนไข้สามารถให้การรักษาด้วยตนเอง ซึ่งควรจะกระทำตั้งแต่เริ่มสังเกตเห็น ดังนี้ 1.ประคบด้วยน้ำร้อน โดยใช้ผ้าสะอาดห่อหุ้มปลายด้ามช้อน จุ่มน้ำร้อน (ขนาดพอทนได้) แล้วนำไปกดบริเวณเปลือกตาตรงตำแหน่งหัวฝี (ให้คนไข้หลับตา) พร้อมกับนวดคลึงเบาๆ ทำเช่นนี้วันละ 4 ครั้ง ครั้งละ 10-15 นาที ความร้อนจะช่วยลดการอักเสบและบรรเทาปวด 2.ใช้ยาหยอดตาที่เข้ายา ปฏิชีวนะ เช่น ยาหยอดตาคลอแรมเฟนิคอล หยอดตาทุก 2 ชั่วโมง ระวังอย่า ให้ยาหยอดตาที่เข้าสตีรอยด์ อาจทำให้โรคลุกลามได้ 3.อย่าขยี้ตา อาจทำให้แพร่โรคที่ยังไม่ได้เป็นบริเวณอื่นของตาได้ 4.อย่าใช้ผ้าเช็ด ตัว ผ้าเช็ด หน้าร่วมกับผู้อื่น โดยทั่วไปถ้าได้ดูแลตนเองดังกล่าว ตั้งแต่เริ่มเป็น อาการจะค่อยๆ ทุเลาได้ภายใน 24 ชั่วโมง ก็ให้การรักษาต่อไปอีก 3-4 วัน ฝีจะค่อยๆ ยุบหายไปเอง ที่มา : หมอชาวบ้าน http://www.doctor.or.th/node/3746 จากคุณ : Mr.JacKy เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:35:54

ความคิดเห็นที่ 8 ลูกเคยเป็นคล้ายๆกันค่ะ ตุ่มแดงยังไม่ทันเหลือง คุณหมอที่บำรุงราษฎร์ให้ Terramycin มาทาค่ะ ยังไงลองโทรเช็คคุณหมอของน้องก่อนนะคะ ว่าอาการแบบนี้ทาได้ไหม จากคุณ : ezri เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:36:49

ความคิดเห็นที่ 9 ว่าจะพาไปหาหมอเหมือนกัน ระหว่างนั้น ทำได้แค่ เอาสำลีชุบน้ำ บิดหมาด คอยเช็ดตาเค้าเองค่ะ แล้วมันก็ยุบลง (แต่ไม่ใช่ทันทีทันใดนะคะ) ค่อยยังชั่ว แดงน้อยลง เลยไม่ได้พาไปหาหมอเลยค่ะ เอ๊ะ หรือไม่ใช่ตากุ้งยิง  แต่มันคล้ายมากเลย *เพิ่มข้อความค่ะ* แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 18:41:39 จากคุณ : แม่น้ำ (LOOKMIN) เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:37:30

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ Mr.JacKy.........ขอบคุณมากเลยนะคะ อยากรีบพาไปหาหมอ แต่หมอใกล้บ้านตรวจอาการไม่ละเอียดเลยค่ะ ครั้งจะเข้ากรุงเทพวันพรุ่งนี้ก้อไม่สะดวกน่ะค่ะ เลยจะต้องเป็นวันเสาร์ไป คุณ ezri ..........คุณหมอชื่ออะไรเหรอคะ พอจะบอกได้ไหม พอดีหมอที่น้องอัยย์เคยหาไม่เข้าโรงพยาบาลระยะนึงน่ะค่ะ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 18:44:42

ความคิดเห็นที่ 11 โห  แอนนนน ถ้าเป็นพี่นะ พี่จะไม่รอวันเสาร์  เพราะอาการตากุ้งยิงไม่ใช่โรคร้ายแรงและต้องใช้หมอเฉพาะทางซะขนาดนั้น สงสารลูก เขาเจ็บนะ  แล้วเดี๋ยวอักเสบต่อ รอวันเสาร์ตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึง พาไปหาหมอใกล้บ้านก่อนเลย  รพ.ประจำจังหวัดก็ได้  อย่างน้อยได้ยามาทา มากิน เพื่อทุเลาอาการ  วันเดียวพี่ว่าก็ยังดีกว่าปล่อยไว้ให้มันลามและบวมไปกว่านี้ (เรื่องตาอย่าไปล้อเล่นนะ เผลอ ๆ เกิดไม่ใช่กุ้งยิง แล้วเป็นอย่างอื่นจะทำยังไง) แล้วถ้าเชื่อใจหมอที่กรุงเทพ  จะมาหาอีกรอบก็ไม่ได้เสียหายนี่นา  หยิบยามาให้หมอดูด้วย ว่านี่วันนี้ไปหามา ได้ยานี้  ใช้ต่อได้เลยหรือ เปลี่ยนยาดีคะ  ปรึกษาหมอก็ได้.... อื้มมมม...น่าตีจริง ๆ   แล้วถ้าเป็นกรุงเทพฯ นะ รพ.ตาโดยเฉพาะที่พี่ไว้ใจที่สุดคือ  รัตนินจ๊ะ  (โดยเฉพาะเรื่องตาเลย)  รู้สึกมี่จังมนเขาพาไปหา หมอปกป้องที่บำรุงราษฎร์มั๊ง  แต่คุณหมอปกป้อง ก็เข้าที่รัตนินเหมือนกัน จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:00:08

ความคิดเห็นที่ 12 คุณแอน พาน้องไปหาคลีนิกใกล้บ้านก่อนเลยคะ เพราะแอนนี่เคยเป็น พอเจ็บตาปุ๊บรีบไปหาหมอตาที่โรงพยาบาล หมอพลิกเปลือกตามาดู บอกเป็นไม่มาก ให้ยาหยอดกับยาทาน น่าจะเป็นยาแก้อักเสบนะคะ หมอบอกโชคดีมาหาเร็วไม่ต้องกรีดหนองออกคะ  ถ้าไปช้าต้องฉีดยาชา กรีดหนองออกอย่างเดียวคะ ขอให้น้องหายไวๆนะคะ จากคุณ : anniebenze เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:00:54

ความคิดเห็นที่ 13 พี่รุ่ง.....หมอใกล้บ้าน แบบแอบเซ็งค่ะ ตอนน้องอัยย์เป็นท้องเสีย ไปต่อคิวรอตั้งนาน พอถึงคิว หมอก้อเอาหูฟังมาฟัง แล้วถามอาการ พอแอนถามว่าเกิดจากอะไร ตอบว่าเดี๋ยวก้อหาย รับยาได้ จบ เซ็งมั้ยล่ะคะพี่ สรุปว่า น้องอัยย์ก้อกินยาอะไรไม่รู้ ไม่มีชื่อสามัญด้วยค่ะ มียาแก้อักเสบที่เค้าเอาน้ำใส่แล้วเขย่าด้วยค่ะ ยาเค้าเป็นยากรอกเองค่ะ ปกติ ถ้าแค่เป็นหวัด จะหาใกล้บ้าน เพราะเคยหาย แต่ตา แอนไม่อยากให้ลูกเอายา ที่ไม่รู้ชื่อยาอะไรมาทาให้ค่ะ อยากจะไปพรุ่งนี้ใจจะขาดค่ะพี่ แต่คุณเตี่ยสามีอ่ะสิคะ จะไปกรุงเทพ ไปขายทองอ่า ทองขึ้นราคามั้งหว่า แล้วไม่กล้าขัดเค้าค่ะ อ้อ....ไม่มีคนเฝ้าโกดังค่ะ เพราะถ้าไปกันหมดแล้วคนงานมาขึ้นของที่โกดัง ก้อไม่มีใครดูค่ะ ทำไงดี ทำไงดี จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:12:19

ความคิดเห็นที่ 14 แอน  แล้ว รพ.ประจำจังหวัดล่ะ... จริงนะ พี่ไม่ได้ทำให้กลัวเกินเหตุ  ถ้าเป็นพี่ พี่ต้องดิ้นรนไปพบหมอก่อน  เรื่องตานี่ sensitive มาก ล้อเล่นไม่ได้นะ  เกิดลูกติดเชื้อเป็นหนองแล้วจะทำไง  (หาร หาร ลงก็ได้นะ พี่มันประเภทวิตกจริตหน่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องตากับพี่นี่ไม่ได้เลยแหล่ะ) อื้มมมม....พี่ว่าหาหมอคืนนี้เลย  รพ.เอกชนใกล้บ้านมีไหม  หรือ  โทรปรึกษาหมอ (แต่ถ้าหมอเขาไม่เห็นของจริง เขาจะไปเข้าใจหรือเปล่า  เพราะ กุ้งยิง แอนก็สันนิษฐานเอา)   หรือเปลี่ยนคลินิค  ไม่รู้แหล่ะ ถ้าเป็นพี่ พี่ต้องไปให้ได้ โกดังฝากคนอื่นดูก่อนได้ไหม  ตจว.รถไม่ได้ติดเหมือน กท.สักหน่อย หรือแอนเฝ้าโกดัง ให้พ่อน้องอัยย์พาลูกไปหาหมอได้ไหม ลองหาวิธีดู จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:16:25

ความคิดเห็นที่ 15 พี่รุ่งพูดซ๊า.....แอนรู้สึกห่วงมากกว่าเดิมเลยค่ะ ก้อรอสามีอ่ะค่ะ ตัดสินใจไม่ได้ซ๊ากกกกที จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:22:26

ความคิดเห็นที่ 16 ตกลงไปพรุ่งนี้เช้าแล้วค่ะพี่รุ่ง ^^ พี่รุ่งอ่ะ ทำให้กลัวมากกว่าเดิมอีกเนี่ยะ จากเดิมเป็นตอนเช้า รอดูอาการแล้วมันยุบลงน่ะค่ะ เลยเบาใจนิดนึง แต่คุณเตี่ยสามี เค้ามีนัดน่ะค่ะ เลื่อนไม่ได้ สามีก้อกลัวแม่ให้คนงานมาขึ้นของเอง เพราะบ้านแม่อยู่อีกที่นึง แต่บ้านแอนอยู่ในรั้วเดียวกะโกดัง แล้วพอของหายมันเข้าตัวอ่ะค่ะพี่รุ่ง แอบเซ็งมากมายกะสต็อก เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง ดูแลให้ แต่ยังต้องเอากระดูกมาแขวนคอทุกเดือนเลย ฮือๆๆๆ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:26:19

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีข้อมูลอะไร แต่แวะมาบอกขอให้น้องอัยย์หายไวๆนะคะ จากคุณ : ดีเจแม่หมีแพนด้า เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:26:41

ความคิดเห็นที่ 18 คุณ anniebenze ........ ขอบคุณมากนะคะ ชักจะกลัวๆแล้วซิ พรุ่งนี้สาวอัยย์จะโดนขึ้นเขียงไหมนี่ 555 จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:27:49

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ ดีเจแม่หมีแพนด้า........ขอบคุณมากค่า รอบนี้ข้าวหอมไปเที่ยว ป้ายังไม่ได้ตามไปดูเลยจ้า แปะไว้ก่อนน๊า ^^ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 19:28:46

ความคิดเห็นที่ 20 ลูกเคยเป็นตอน 1 ขวบคะ (ปัจจุบัน 1.10 ขวบแล้ว) ไปหาหมอที่ BNH คะ หมอตาเด็กโดยเฉพาะคะ ชื่อคุณหมอจุฑาทิพย์  หิริโอตัปปะ ใจดีคะ เข้าวันจันทร์กับพฤหัสฯคะ ตอนไปหาคือมีอาการบวมแดงนูนๆขึ้นมาที่เปลือกตาบนคะ แต่น้องไม่เจ็บอะไร เพราะว่ายังไม่อักเสบ คุณหมอดูอาการแล้วแนะนำว่าให้ประคบน้ำอุ่นด้วยสำลีแล้วคลึงๆเหมือนนวดๆให้ละลายก้อนไขมันที่เป็นนะคะ ให้ทำบ่อยๆ ได้ยิ่งดีและให้ยาหยอดตามาคะ เราประคบตอนน้องนอนหลับคะ ต้องค่อยๆทำคะ ไม่งั้นน้องจะสะดุ้งเพราะร้อน พอผิวน้องเริ่มชินก็นั่งทำไปประมาณ10-15 นาทีคะ เราใช้เจลปิดตา hot-cool แช่ในน้ำร้อนแล้วห่อด้วยผ้าบางๆประคบคะ เพราะความร้อนมันจะอยู่นานกว่าสำลี ถ้าอาการไม่ดีขึ้นก็คงต้องเปิดเปลือกตากรีดเอาออกนะคะ ซึ่งไม่อยากทำเลย เป็นอยู่ประมาณ 2-3 เดือน รอยนูนแดงถึงยุบหายเป็นปกติคะ ที่นานขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าหมอไม่เก่งนะคะ แต่เราเองตอนที่ไปรักษานั้น ไม่ได้หยอดตาน้องทุกวันคะ(คิดเองว่ามันไม่ดีถ้าหยอดนานๆ) ได้แต่ประคบร้อนอย่างเดียว ซึ่งช่วงแรกๆทำได้ไม่เต็มที่คะ เพราะเขางอแง จึงทำได้แค่วันละรอบ ไปหาหมอรอบที่ 3 หมอถึงบอกว่ายานี้หยอดได้เรื่อยๆคะจนกว่าจะหาย เข้าใจความรู้สึกคุณแม่เลยคะ เพราะว่าตอนที่ลูกเป็นกังวลมากๆ เพราะว่ากลัวลูกถูกกรีดตา ดมยาสลบ กลัวตาลูกมีแผลเป็น โตมาไม่สวย ดีที่ว่าตากุ้งยิงมันยุบของมันเองได้ แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะถ้าน้องเอามือขยี้บ่อยๆ จะยิ่งอักเสบคะ ควรหาผ้ามาปิดกันฝุ่นเข้าและน้องขยี้จะดีกว่าคะ จากคุณ : Ooyminnie เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:44:03

ความคิดเห็นที่ 21 ขอให้หายเร็วๆนะคะน้องอัยย์ จากคุณ : jena_naam เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:45:43

ความคิดเห็นที่ 22 คุณแอน ..จากที่เราเคยเป็นเองนะคะ .. ถ้าสังเกตุว่าตาบวม แต่ไม่มีตุ่มคล้ายหนองที่เปลือกตาด้านนอก ..ลอง เปิดดูเปลือกตาด้านในค่ะ .. ถ้ามีตุ่นคล้ายหนอง .. จะเรียกว่า โรคริดสีดวงตาค่ะ .. เกิดจากอะไรไม่แน่ใจค่ะ.. ขั้นแรกต้องปิดตาก่อน เอาผ้าก๊อซปิดไว้เลยค่ะ .. แล้วไปหาหมอได้เลยค่ะ เพราะ มันอาจจะหายได้เร็วหรือช้าก็ได้ค่ะ .. ถ้าหายช้า มันจะทำให้ขนตางอทิ่มเข้าไปในลูกตาค่ะ ****** อาการของโรคริดสีดวงตา แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะเริ่มแรก ผู้ป่วยจะมีอาการเคืองตา คันตา น้ำตาไหล ตาแดงเล็กน้อย อาจมีขี้ตา มักเป็นที่ตาทั้งสองข้าง อาการจะคล้ายกับเยื่อบุตาอักเสบจากเชื้ออื่นๆ  จนบางครั้งแยกกันไม่ออก   ระยะนี้ถึงแม้ไม่ได้รักษาบางคนจะหายเองได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าพบว่ามีอาการเรื้อรังนาน 1-2 เดือน และอยู่ในท้องถิ่นที่มีโรคนี้ชุกชุม หรือมีคนในบ้านเป็นโรคนี้อยู่ก่อน ก็อาจให้การรักษาแบบโรคริดสีดวงตาไปเลย ถึงแม้ไม่ได้รักษาในระยะนี้บางคนอาจหายได้เองแต่บางคนอาจเข้าสู่ระยะที่ 2 ระยะที่สอง เป็นริดสีดวงแน่นอนแล้ว การอักเสบจะลดน้อยลง ผู้ป่วยจะมีอาการต่างๆ ลดลงกว่าระยะแรก ผู้ป่วยจะรู้สึกอาการอักเสบลดน้อยลง แต่ถ้าพลิกเปลือกตาดู จะพบเยื่อบุตาหนาขึ้น และเห็นเป็นตุ่มเล็กๆ ออกสีเหลืองๆ ที่ด้านในของผนังตาบน นอกจากนี้จะพบว่ามีแผ่นเยื่อบางๆ ออกสีเทาๆ ที่ส่วนบนสุดของตาดำ มีเส้นเลือดฝอยวิ่งเข้าไปในตาดำ แผ่นเยื่อสีเทาซึ่งมีเส้นเลือดฝอยอยู่ด้วยนี้เรียกว่า "แพนนัส" เพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ http://www.bangkokhealth.com/index.php/2009-01-19-03-20-19/632--trachoma จากคุณ : คุณพ่อมือ1 เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:56:30

ความคิดเห็นที่ 23 จ้าแอน...บอกแล้วว่าให้หารคำพูดพี่  ไอ้เรื่องวิตกจริตนี่พี่เลยโดยเฉพาะเรื่องดวงตา เอ้าจริงนะ ตาไม่มีอะไหล่เปลี่ยนนะ  (ข้อเท็จจริงแอน รับไม่ได้ก็ต้องได้) ถ้าตาติดเชื้อหรืออักเสบมาก ๆ ล่ะแย่เลย มันจะลามหนัก หนองมันกัดกินนะ พี่เป็นคนค่อนข้างให้ความสำคัญกับดวงตามาก ๆ ขนาดไหน ก็ขนาดถ้าเจอไฟสว่างจ้า หรือไฟที่รถสวนกันกับเรา พี่ปิดตาให้วดีนะ  พี่สอนให้วดีเอามือปิดตา ไม่ให้แสงจ้าเข้าตาเกินไป  ส่วนตัวพี่พี่ก็หลับตานะ เพราะพี่เป็นคนเจอแสงจ้าแล้วปวดตาทันทีเลย  (แต่ไม่ใช่ตาแพ้แสงนะ) เฉพาะไฟหน้ารถยนต์และสปอร์ตไลท์ (ไม่รู้เป็นไร ตั้งแต่เด็กแล้ว)  พี่เลยไม่รู้ว่าวดีจะได้ปมด้อยส่วนนี้ไปหรือเปล่า เพราะพี่กับพี่โจสายตาสั้นทั้งคู่ ก็พี่โจสั้น 1400 แอนคิดดู  พี่สั้น 500 (แต่ก็รักษาแล้วทั้งคู่นะพี่โจใส่เลนส์เสริมพี่ทำเลสิก)   พี่จึงห่วงดวงตาวดีมากเป็นพิเศษ  แล้ววดีกินนมพี่แค่เดือนเดียวเอง  เป็นเด็กนมผงนะนั่น  นมพี่แห้งสนิทเลย แค่เดือนเดียวเอง  หลังจากนั้นพี่ก็เลยรีบแจ้นซื้อ S26 ให้กินเพราะเขาโฆษณาว่ามีลูทีน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงดวงตา และมีอยู่ในนมแม่  (ยี่ห้ออื่นไม่มี)  พี่เปลี่ยนนมให้วดีทันที ตอนแรกให้กินดูเม็กซ์เพราะท้องไม่ผูก  พอรู้ว่า ลูทีน สำคัญ(หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แค่เขาโฆษณา แต่เชื่อไว้ก่อน .... ) พี่รีบเปลี่ยนนมเลยนะ  เชื่อยังว่าพี่นี่ห่วงดวงตาเป็นที่สุด นี่ถ้าลองวดีเจ็บตาอย่างน้องอัยย์นะ  พี่ว่า พี่วิ่งแจ้นไปหาหมอแน่นอนตั้งแต่เห็นขยี้ตา   เพราะกลัวการติดเชื้อที่ตาที่สุดเลย....เข้าใจพี่นะ  พี่อ่านทู้แอนแล้วห่วงก็เลยรีบบอกเลย   แต่ก็ขอโทษด้วยนะที่พี่ทำให้แอนกังวลใจ  สงสารจัง แต่พี่เป็นงี้กับเรื่องตา  เอานะ เอาเป็นว่า ทำใจให้สบาย เด็กคนอื่นก็เป็นกัน แล้วจาก คห.คนอื่น ๆ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลมาก  แอนเอามามิกซ์กันก็แล้วกันนะ  อย่าเชื่อพี่และกังวลขนาดพี่ซะเต็มร้อย  เดี๋ยวนอนไม่หลับ.... แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 22:08:29 จากคุณ : Jo_Smart เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 22:04:10

ความคิดเห็นที่ 24 หมอแถวบ้านไม่ดี มากรุงเทพก็ยังไม่ได้ ลอง รพ ประจำจังหวัดที่ใกล้เคียงดีไม๊คะ จากคุณ : Dare2Dream เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 22:17:27

ความคิดเห็นที่ 25 แอน ไม่ได้มาช่วยนะ แต่ขอให้น้องอัยย์ไม่เป็นอะไร หายไวๆ พรุ่งนี้ตาลไปเกาะช้างแล้วนะ กลับมาก็วันอาทิตย์จ๊ะ คงไม่ได้เข้า pantip นะ คิดถึงจ๊ัะ จากคุณ : มินนี่ลูกป๋าคิม เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 22:25:36

ความคิดเห็นที่ 26 ขอให้น้องอัยย์หายเร็วๆนะคะ จากคุณ : กระต่ายน้อยน่ารักจัง~* เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 23:33:26

ความคิดเห็นที่ 27 อืม ตากุ้งยิงในเด็ก ควรไปหาหมอกินยาให้ยุบค่ะ เพราะเกิดอับเสบมากต้องเจาะซึ่งหมอคงไม่ค่อยอยากทำในเด็กค่ะ ถ้าปล่อยให้หายเองบางทีจะเป็นแผลอาจเปลือกตาทะลุ หรือไม่แผลเป็นก็จะหายช้ามาก ต้องหาหมอเด็กด้วยนะคะ คงจะได้ยาแกอักเสบ กับยาหยอดตามา เรื่องยาหยอดตา บอกหมอด้วยว่าไม่เอาตัวมีสเตียรอยด์ และล้างมือลูกให้บ่อยที่สุดด้วยค่ะ วันก่อนลูกชายเป็น โดนหมอเทศน์ยาวเป็นกัณฑ์ค่ะ จากคุณ : rainfull เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 23:48:28

ความคิดเห็นที่ 28 แอนจ๋า...เข้ามาช้า  ช่วงนี้เน็ตที่บ้านด๋อย่ ช่วยอะไรไม่ทันแล้วค่ะ  แม่ๆข้างบนแนะนำไปเยอะแล้ว ขอให้น้องอัยย์หายไวๆนะคะ   ช่วงนี้ระวังล้างมือน้องอัยย์ให้สะอาด  อย่าเอามือไปขยี้ตาค่ะ ไม่แน่ใจว่าน้องอัยย์เป็นตากุ้งยิงหรือตาอักเสบค่ะ ตากุ้งยิงพี่เคยเป็นค่ะ  ถ้าบวมแดง  ทานยาแก้อักเสบทัน  ก็จะไม่เป็นหนองค่ะ ถ้าเป็นหนองแล้ว  คงต้องเจาะให้หนองแตก  หรือไม่ก็ผ่าค่ะ แต่ถ้าเป็นตากุ้งยิง...มันจะเป็นซ้ำที่เดิมอยู่บ่อยๆ   จนกว่าจะผ่าค่ะ  จะหายสนิทไม่เป็นอีก แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 53 00:54:24 จากคุณ : รักเฌอ..ประเทศไทย เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 00:52:52

ความคิดเห็นที่ 29 ขอให้น้องอัยย์ไม่เป็นอะไรมาก หายไวไวนะคะ จากคุณ : Darling อย่าให้รักเราสูญพันธุ์ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 02:18:58

ความคิดเห็นที่ 30 โทษนะจ๊ะแอนเข้ามาช้าไปนิสสสสส มนหาหมอปกป้องที่บำรุงราษฎร์หนะ ออกตรวจที่รัตนนินด้วย อย่างที่พี่รุ่งพูดก็ถูกนะ หาหมอธรรมดาก่อนก็ได้ สงสารน้องอัยย์จัง หายไวๆนะคนสวย จากคุณ : แม่น้องมานามิ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 06:59:25

ความคิดเห็นที่ 31 หายไวไวนะคะน้องอัยย์ พี่แอน เป็นกำลังใจให้เด้ออย่าเครียดน๊า จากคุณ : NaNzi เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 07:10:08

ความคิดเห็นที่ 32 แอนขอให้น้องอัยย์หายไวไวนะ  คืบหน้ายังไงแวะมา up date ให้ฟังด้วยนะ เป็นกำลังใจให้เป็นห่วงนะ จากคุณ : ดาวเดฟ เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 09:18:02

ความคิดเห็นที่ 33   คงต้องกินยาแก้อักเสบค่ะ พาไปหาหมอใกล้บ้านก่อนดีกว่าค่ะ จากคุณ : jan เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 11:19:32 A:192.168.150.137 X:124.120.12.187 TicketID:102399

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องเปลือกตาบวมแดง ตกลงว่า น้องอัยย์เป็นตากุ้งยิงค่ะ ^^ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 19:04:03

ความคิดเห็นที่ 35 คุณ Ooyminnie.........ขอบคุณมากค่ะ คุณ jena_naam.........ขอบคุณค่ะ คุณพ่อมือ1............ขอบคุณนะคะ Jo_Smart..........พี่รุ่ง ไม่ต้องกังวลไปค่ะ แอนก้อพอจะมีประสบการณ์จากตากุ้งยิงมาบ้าง(เมื่อก่อนเป็นบ่อย) ก้อเลยใจเย็น รอดูอาการ 1 วัน ทีแรกนึกว่ายุงกัดค่ะพี่ เลยรอก่อน แล้วอีกอย่างเจ้าลูกหมูไม่ยอมให้จับดูเลยค่ะ พอตกเย็นก้อช่วยกันกะป๊าล็อคซะ ถึงได้เห็นตุ่มเหมือนกุ้งยิง แต่ก้อแอบกังวลเพราะตอนขวบนึงเค้าเคยตาอักเสบข้างนี้น่ะค่ะ ยังไงก้อขอบคุณพี่รุ่งมากๆเลยค่า คุณ Dare2Dream.............ขอบคุณมากค่ะ คืองี้ค่ะ ห่วงโกดังด้วยน่ะค่ะ กลัวพ่อแม่สามีจะว่าเอา เพราะมันไม่ใช่วันหยุดค่ะ ที่ไม่ได้ไปจังหวัดใกล้เคียงเพราะเหตุผลเดียวกันค่ะ ต้องปิดร้านไปน่ะค่ะ ^^ มินนี่ลูกป๋าคิม...............ตาล ขอบใจนะจ้ะ แอนก้อขอให้ตาลประสบผลสำเร็จอย่างที่ใจคิดเอาไว้นะจ้ะ แล้วเอาข่าวดีมาฝากด้วยน๊า....... ว่าแต่ว่าตาลเข้าใจอ่ะ เอาช้างน้อยมาจากเกาะช้างให้ได้น๊า.......อิอิ ^O^ กระต่ายน้อยน่ารักจัง~*..............คุณอ้น ขอบคุณค่า คุณ rainfull ..............ขอบคุณมากค่ะ วันนี้คุณหมอให้ยากิน หยอด ทามาด้วยแล้วค่ะ คุณ รักเฌอ..ประเทศไทย............ขอบคุณมากค่า หวังไว้เหมือนกันว่าจะยุบภายใน 2-3 วัน น้องอัยย์จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว ขอบคุณที่เตือนเรื่องล้างมือให้บ่อยขึ้นนะคะ คุณ Darling อย่าให้รักเราสูญพันธุ์................ขอบคุณค่า แม่น้องมานามิ................มนจัง น้องอัยย์ก้อหาหมอปกป้องจ้ะ แต่เดือนก่อนพยาบาลโทรมาบอกว่าคุณหมอไม่เข้าร.พ.ระยะนึงจ้ะ(นัดดูอาการเมื่อตอนขวบนึง) เมื่อวานแอนก้อเช็คแล้ว ยังไม่เข้ามาเลยจ้ะ เค้าแนะนำคุณหมอกีรติมาแทน NaNzi...........น้องแนนซี่ ขอบคุณมากจ้ะ ไม่เป็นไรมากแล้วหล่ะ จะเป็นอีกทีก้อตอนกินยานี่หล่ะ จ๊ากกกเลย 555 ดาวเดฟ.........ขอบคุณมากค่ะพี่ดาว อัปแล้วนะคะ ตามลิงค์ไปดูตาตุ่ยได้ค่า ^^ คุณ jan .........ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แอนนี่-อัยย์จัง เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 20:56:15