ความคิดเห็นที่ 1 เป็นกำลังใจให้ครับ ผู้ชายบางทีก็ต้องการมีโลกส่วนตัว (บ้าง) ผมก็เป็น อันนี้ต้องอาศัยความเข้าใจกันครับ ภรรยาผมก็ให้ออกไป ลัล้ากับเพื่อนๆได้บ้างซักเดือนละ 2-3 ครั้ง แต่บางเดือนผมก็ไม่ไปเลย เจอกันทุกวัน ต่างรู้ว่าต่างคนควรมีหน้าที่อะไรครับ เราก็ลองหาเวลาหาแพลนเที่ยวดูบ้างลดอาการตึงเครียดครับ จากคุณ : untAAA (เสี่ยม) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 23:28:55

ความคิดเห็นที่ 2 ถูกใจมากค่ะ กำลังอยู่ในอารมณ์นี้เช่นกัน เวลามองหน้าลูก..ก็อยากให้เค้ามีพร้อม.. ไม่อยากโกรธกันให้เค้าเห็นเลย... หรือว่าความสุขของคนเรา อยู่ที่การปล่อยวาง เสียสละ จากคุณ : แม่น้องคะนิ้ง (peepooshow) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 23:33:05

ความคิดเห็นที่ 3 เหมือนกันเลยคะ เพิ่งแต่งได้ 2 ปีเอง ยังรู้สึกว่าความรักจืดชืดซะแล้ว เดี๋ยวนี้เค้าทำอะไรก็ขวางหูขวางตาเรา  เราทำอะไรก็ไม่ถูกใจเค้า เฮ้อ....  บางทีก็อยากอยู่กับลูกแค่สองคน แต่สงสารลูกถ้าเค้าต้องขาดพ่อไป จากคุณ : Danisa เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 23:53:07

ความคิดเห็นที่ 4 เราถือคติค่ะ...คติที่ว่า งอนเอง...หายเองได้ย่ะ ไม่ต้องง้อ...(ทำเป็นเรื่องขำๆไปค่ะ) จากคุณ : variyaya เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 23:55:25

ความคิดเห็นที่ 5 ลูกสาวน่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วเรายังยิ้มเลย จากคุณ : Piggy_Jiggy เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 00:13:24

ความคิดเห็นที่ 6 ปีที่ 8 จะเหลือเหรอค่ะ จากไม่กล้าหือ เริ่มมีตอบกลับบ้าง เริ่มมีปาก มีเสียงจากไม่เคยมี ความหวานจากที่น้อยอยู่แล้ว เริ่มหมดไปอีก ไม่ใช่เขาเป็นฝ่ายเดียว เราก็เป็นเหมือนกัน เขามีตอบกลับ เราก็มีคำพูดแรงกว่าเดิม คิดไปคิดมา อยู่กันมาได้ตั้ง 8 ปี  แค่นี้เรื่องจิ๊บจ้อย ลืมแล้วทำใจมันคงเป็นธรรมดาของการใช้ชีวิตคู่ จากคุณ : TangMo-AKaNe เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 01:20:33

ความคิดเห็นที่ 7 สามีไม่ง้อ เราก็ง้อเองเลยค่ะ  บางทีมัวแต่เกี่ยงกัน ก็ไม่มีใครง้อใครซะทีสิคะ ชีวิตคนเรามันสั้นนะคะ  จะทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ  อย่ามัวแต่ทิฐิกันอยู่เลย ไปสะกิด กอด กระแซะซักหน่อย เดี๋ยวก็ดีกัน  ดีไม่ดีได้เบบี๋เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งนะ  อิอิอิอิอิ จากคุณ : มาม่าน้ำข้น เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 01:44:18

ความคิดเห็นที่ 8 5555 ทำไมเหมือนกันเลยอ่ะ...ไม่ง้อ... ...แต่ก้อไม่เป็นไร...ไม่นอกใจก้อเป็นพอ 5555 จากคุณ : นู๋^dudee เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 01:47:36

ความคิดเห็นที่ 9   บางทีผู้หญิงก็ทำตัวน่ารำคาญครับ วุ่นวายอะไรกับผมนักหนา ปล่อยๆผมบ้างเถอะ ผมไม่ไปเกะกะเกเรที่ไหนหรอก แค่อยากอยู่เงียบๆบ้าง ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : สิบเอกกองหนุน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 02:01:24 A:61.19.47.103 X: TicketID:136335

ความคิดเห็นที่ 10   แต่งงานมาแล้ว 5 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 5 เดือน ตั้งแต่มีลูก ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ภรรยาเลย แต่ทำหน้าที่เพื่อนแทน ฮ่า ฮ่า เวลามีปัญหา เถียงกัน ส่วนมากสามีจะชอบบอกว่า ผู้หญิงชอบอยู่กับอารณ์เพ้อฝัน ผิดถูกหรือไม่ ทำไมไม่มองอะไรเป็นตรรกะบ้าง (แล้วจะมองตรงไหนฟ่ะ อารมณ์น้้นน่ะ ฮ่า ฮ่า) แต่ส่วนมาก จะปลงๆกันซะมากกว่า ประมาณว่า แก่ๆกันแล้ว ไปไหนไม่รอดอ่ะค่ะ ฮ่า ฮ่า ตอนนี้ก็ทำหน้าที่เพื่อนต่อไปค่ะ จนกว่าลูกจะโต แล้วค่อยกลับมาทำหน้าที่ภรรยาใหม่ อิอิ อย่าคิดมากนะคะ บางทีการแต่งงานกันนานๆ สถานะบางครั้งก็ต้องเปลี่ยนบ้าง เป็นเพื่อนบ้าง แฟนบ้าง ภรรยาบ้าง น้องสาวบ้าง เพื่อนร่วมงานบ้าง ถึงจะอยู่กันได้ยาวค่ะ (อันนี้คุณสามีบอกมาค่ะ ) ให้กำลังใจนะคะ สู้ สู้ จากคุณ : หลานแม่ปอง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 02:52:15

ความคิดเห็นที่ 11   แนะนำนะครับ อันดับแรกเลย เปลี่ยนการแต่งตัวก่อนเลย จากที่ไม่ค่อยได้แต่งตัว เอาแต่เลี้ยงลูก ลองทำตัวใหม่ เป็นคุณแม่แบบแต่งตัวแต่งหน้าหน่อย ลองเปลี่ยนบุคคลิกตัวเองก่อนเลย จะง่ายสุดครับ ต่อมาคุณอยู่กับบ้านอยู่แล้ว ก็จัดบ้านใหม่ ดูแลบ้านให้เป็นระเบียบครับ ทุกคนมีคุณค่าทั้งนั้น ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกที่บ้านก็ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่เลยครับ ยิ่งใหญ่กว่าออกไปทำงานนอกบ้านอีก ลองเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างดูก่อนครับ เปลี่ยนที่ตัวเราก่อนจะง่ายกว่าคิดไปให้เขาเปลี่ยนน่ะครับ ควรดูด้วยว่าเขาชอบอะไร ก็ควรปรับตัวให้เขาชอบน่ะครับ แล้วทีนี้เขาก็จะปรับตัวเข้าหาคุณเองแบบอัติโนมัติโดยเขาก็ไม่รู้ตัวน่ะครับ ของอย่างนี้มันอยู่ที่ศิลปะนะครับ อย่าไปยึดเหตุผลมากเกินไป ปัญหาเท่าที่ฟังเกิดจากความจำเจครับ รวมถึงสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่เริ่มเปลี่ยนไป เช่น มีลูกเพิ่มขึ้นมา 2 คน ภาระต่าง ๆ ก็จะมากขึ้น อาจจะเริ่มเครียดขึ้นเรื่องความรับผิดชอบต่าง ๆ เรียกว่าเครียดโดยไม่รู้ตัว ว่าง ๆ ก็หาโอกาสไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง เอาลูกไปฝากแม่เลี้ยงสัก 2 วัน แล้วคุณไปกับเขาสองคนเหมือนตอนเป็นแฟนกัน บางทีกลับมาอาจมีอะไรเปลี่ยนแปลงได้นะครับ คือกำลังบอกว่าให้ลองสังเกตุหน่อยว่าปัญหาเกิดจากอะไร หากรู้แล้วก็จงใช้ศิลปในการแก้ อย่าไปใช้เหตุผลมากเกินไปในการแก้ พูดง่าย ๆ เลยก็คือใช้เสน่ห์หญิงนั่นแหละครับ ยกตัวอย่างเช่นทำไมผู้ชายถึงไปมีเมียน้อยครับ ก็เพราะผู้หญิงเหล่านั้นเป็นของใหม่ รวมถึง บางคนมีมารยาสารพัด แล้วทำไมคุณถึงไม่ลองทำตัวใหม่ ๆ ดูบ้างครับ รวมถึงใส่มารยาเพิ่มเข้าไปด้วย พูดอย่างนี้ไม่ได้ว่าคุณว่าที่ผ่านมาทำตัวไม่ดีนะครับ ไม่ใช่ แต่อยากให้ทำอะไรใหม่ ๆ ดู บางทีคุณอาจเจอชีวิตที่มีความสุขก็ได้ครับ โชคดีครับ จากคุณ : ป เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 02:55:08 A:110.164.123.135 X: TicketID:256612

ความคิดเห็นที่ 12 เราปีเดียวก้อไม่ง้อแล้วววววว จากคุณ : พิพรรษพร เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 04:30:59

ความคิดเห็นที่ 14 ของเราไม่ง้อตั้งแต่ยังไม่แต่งแนะ... เลยกลายเป็นชิน ไม่ง้อก้ออย่าง้อ... ชั้นหายงอนเองก็ได้ 5555... จากคุณ : TeeMom เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 08:14:42

ความคิดเห็นที่ 15 อยู่ด้วยกันมา 5 ปี ย่อมมีกระทบกระทั่งกันบ้าน แล้วเรื่องกระทบกระทั่งกันมีอะไรบ้างละครับ >> ไม่ได้อยากรู้ แต่อยากให้พิจารณาเรื่องเหล่านี้ก่อน เรื่องที่กระทบกระทั่งกัน เขาโมโหฟัดเหวี้ยงเรื่องอะไรละครับ >> ไม่ได้อยากรู้ อยากให้พิจารณาอารมณ์ของเขาด้วย เรื่องที่กระทบกระทั่งกัน + เรื่องที่เขาโมโหฟัดเหวี้ยง เขาเรียกร้องอะไรหรือเปล่า >> ไม่ได้อยากรู้ แต่อยากให้พิจารณาอะไรคือจุดประสงค์ของเขา เรื่องที่กระทบกระทั่งกัน + เรื่องที่เขาโมโหฟัดเหวี้ยง + ข้อเรียกร้องของเขา เราได้พิจารณาหรือเปล่า >> ไม่ได้อยากรู้ แต่อยากให้เริ่มพิจารณาหากเราไม่ได้คิดสักที เรื่องที่กระทบกระทั่งกัน + เรื่องที่เขาโมโหฟัดเหวี้ยง + ข้อเรียกร้องของเขา + ข้อสรุปของเรา ได้ปฏิบัติหรือเปล่า >> ไม่ได้อยากรู้ แต่บ่อยครั้งที่เกิดปัญหาที่ปานปลายขึ้น เพราะผู้หญิงมักลืม ละเลย หรือคิดว่าผู้ชายต้องเข้มแข็งกว่า เลยไม่ใส่ใจ ต่อให้แต่งหน้าทาปากสวย ไม่ได้แปลว่า จะดึงดูดให้ฝ่ายชายกลับมาป้อล้อเหมือนสมัยเริ่มจีบกันใหม่ๆ ครับ เพราะผู้หญิงสวยมีให้เห็นได้ดาษเดือด แต่ผู้หญิงที่จะเป็นคู่คิด คู่ชีวิตมีได้แค่คนเดียว หากคุณละเลยการเป็นคู่ชีวิต ก็อย่าหวังว่าแก้วที่ร้าวจะยังใช้งานได้อยู่ ตอนนี้คุณเป็นคู่ชีวิตของเขา คุณควรใส่ใจให้มากกว่านี้ จาก คนที่เป็นสามี จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 08:16:10

ความคิดเห็นที่ 16   น้อยคนที่เปลี่ยนจากแฟนมาเป็นสามีแล้ว จะเหมือนเดิม สามีใครไม่เปลี่ยนถือว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง เราแต่งมาห้าปีเหมือนกัน แทบจะไม่มีเรื่องคุยกัน ทุกวันนี้มีความสุขเพราะลูกเท่านั้น จากคุณ : คนขี้ใจน้อย เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:02:21

ความคิดเห็นที่ 17 เรามองต่างค่ะ เราคิดว่า ผิด หรือถูก ตัวเองนั่้นแหละที่รู้ ถ้าัมั่นใจว่าตัวเองถูกแล้วเค้าไม่ง้อ เราก็ว่าน่าโกรธเหมือนกันนะ แต่ว่าถ้ารู้ว่าผิด แล้วรอเค้ามาง้อ ก็อย่าเอาเรื่องความเป็นผู้หญิงมาอ้าง ว่าเราเป็นผู้หญิงนะ ต้องเสียสละ นู่น นี่ นั่น บลา ๆๆๆๆๆๆๆ ผู้ชายเค้าก็เสียสละเยอะเหมือนกันค่ะ เราเองได้ยินคำนี้มาเยอะมาก เราเป็นผู้หญิง ๆๆๆๆๆๆๆๆ บอกตรงๆ ไม่ค่อยชอบคำนี้เท่าไหร่ หญิง หรือ ชาย เท่าเทียมกันแหละค่ะ หญิงคิดอะไร ต้องการอะไร ฝ่ายชายเค้าก็อยากได้เช่นกันค่ะ   พูดจากประสบการณ์ที่มีเพื่อนเป็นผู้ชายมาเยอะ มาปรึกษาเรา ร้องไห้กับเราก็มี อย่าคิดว่าผู้ชายเค้าไม่มีหัวใจนะคะ จากคุณ : brassygirl เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:13:38

ความคิดเห็นที่ 18 สำหรับคู่เรา ปกติสามีจะเป็นคนง้อ แต่งกันมา 5 ปีเช่นกัน ที่เค้าง้อไม่ใช่ว่าเค้ายอมรับผิด แต่เค้าง้อเพราะบอกว่าไม่อยากทะเลาะกัน โดยเฉพาะต่อหน้าลูก  พูดแค่นั้นเราก็ไม่สนแล้วค่ะว่าใครผิดใครถูก  หันมายิ้มให้กันก็พอ เราไม่เคยคิดว่าจำเป็นที่จะต้องแต่งตัว แต่งหน้าเพื่อให้สามีหันมารัก แล้วถ้าแก่กว่านี้ เหี่ยวกว่านี้ แต่งยังไงมันก็ไม่ได้สวยขึ้นหรอกค่ะ  สามีเราเองก็ไม่เคยอยากให้เราแต่งตัวแต่งหน้าเลย เค้ากลับชอบเวลาเราหน้ามันๆ หลังจากทำกับข้าวเสร็จมากกว่าค่ะ จากคุณ : Close To Heaven เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:15:46

ความคิดเห็นที่ 19 มนุษย์เราทุกคนต่างมีความเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น.. รัก โลภ โกรธ หลง เป็นวงจรชีวิตติดตามเราจนกว่าเราจะตาย ระวังนะคะ 5 ปีเริ่มไม่ง้อ พอเข้าปีที่ 8 อาถรรพ์จะมาเยือน ถ้ามีพฤติกรรมเปลี่ยนต้องหมั่นสังเกตุนะคะ อย่าคิดว่ามีลูกแล้วจะมัดใจสามีได้ สันดานผู้ชายชอบลองของใหม่ค่ะ...ถ้าเมื่อไหร่ทะเลาะกันแล้วออกจากบ้าน หรือ ชอบเล่นคอมพ์คนเดียว ต้องแอบย่องไปดูนะค๊ะ โทรศัพท์ก็หัดหมั่นเช็คเบอร์โทรด้วย ผู้ชายน๊ะฉลาดกว่าที่เราคิดไว้เยอะ เบอร์โทรกิ๊กยังเมมเป็นชื่อผู้ชายเลยนะขอบอก..ระวัง สัจจะธรรมชีวิตคู่..สำหรับผู้ชาย จีบ คบหา ดูใจ แต่งงาน มีลูก นอกใจ มีกิ๊ก หย่า มีอยู่แค่เนีียะหล่ะค่ะ ส่วนการนอกใจ ทุกคู่ต้องเกิดจะช้าหรือเร็ว จขกท ต้องเตรียมรับมันเมื่อเหตุการ์ณวันนั้นมาถึงด้วยนะค๊ะ จะได้ไม่เจ็บปวด ทุกข์ทนกระชีวิต อยู่อย่างสิ้นหวัง..ขอให้โชคดีค่ะ จากคุณ : yeelha_yajai เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:07:11

ความคิดเห็นที่ 20 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 11:08:38 แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 11:08:27 จากคุณ : yeelha_yajai เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:07:22

ความคิดเห็นที่ 21   จากประสบการณ์ช่วง2ปีก่อน ดิฉันก็มีปัญหาทำนองนี้นะคะ เสียใจว่าเขาเปลี่ยนไป ทำไมเขาไม่ง้อเรา เขาไม่รักเราแล้ว รู้สึกทำไมตัวเราด้อยค่าอย่างนี้ เสียสละอะไรมากมายเพื่อมาอยู่บ้านเฉย นี่เราหมดโปรแล้วหรือนี่ ฯลฯ สารพัดโทษโชคชะตาฟ้าดินไปเรื่อย แต่ลืมมองดูตัวเองว่าเราคาดหวังจากคนอื่นมากไปหรือเปล่า   พฤติกรรมตอนเป็นแฟนนั้นไม่นับนะคะ ทั้งเราทั้งเขาเลย เพราะมันยังมีความใหม่ มีความหวังอนาคตร่วมกัน กลัวการสูญเสีย ตัวเขาก็ราวเทพบุตร ตัวเราก็ดีแสนดีให้อภัยทุกเรื่อง แต่แต่งงานแล้วประเด็นมันเปลี่ยนไป เราจะหวานแหววอย่างแต่ก่อนมากไม่ได้ ต้องดำรงชีวิตอยู่บนพื้นฐานนิสัยตัวตนที่แท้จริงล้วนๆ  หลังแต่งงานนิยามของคู่รักมันเปลี่ยนเป็นคู่ชีวิต เหมือนที่คุณเตร็ดเตร่บอก  คือเป็นเพื่อนชีวิตที่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขกันได้ จะให้เขามาง้ออยู่ร่ำไปมันไม่ได้แล้ว แต่จะให้เราง้อตลอดก็ไม่ไหวเหมือนกัน ดังนั้นต้องปรับตัวหันหน้าเข้าคุยกันค่ะ พูดง่ายแต่ทำยากจัง ดิฉันร้องไห้ หดหู่อยู่กับตัวเองเป็นปีกว่าจะตาสว่างว่า แบกไปก็หนัก นี่เราเอาตัวเองมาผูกติดกับคนอื่นมากไปแล้ว หาอะไรทำค่ะจะได้ดึงตัวเองออกจากความรู้สึกพวกนี้ ทุกวันนี้ก็มีทะเลาะกันนะคะ แต่ไม่รู้สึกเศร้าเหมือนแต่ก่อนแล้ว โกรธก็โกรธ รอให้อารมณ์เย็นก่อนค่อยคุยกัน ไม่ง้อก็ช่าง เขาทำนิสัยแย่ๆก็ช่าง รู้เท่าทันว่ามันเป็นด้านมืดของเขาไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เราเองก็เช่นกัน เรื่องแต่งตัวนั้น แค่ไม่ให้โทรมก็พอมั๊งคะ ถ้าอยากแต่งก็แต่ง แต่ถ้าไม่อยากก็ไม่ต้องฝืน รูปลักษณ์ภายนอก กามารมณ์มันเป็นเรื่องฉาบฉวยมากๆ ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นเท่าไร (เคยทำมาแล้วเช่นกัน อิอิ)  ถึงได้ผลก็ในระยะสั้นเท่านั้น ทั้งหมดทั้งปวงนี้คุณ จขกท ต้องดูนิสัยสามีด้วยนะคะ ถ้าเขามีส่วนดีอยู่มาก ไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป และคุณยังอยากใช้ชีวิตร่วมกับเขาอยู่  เปลี่ยนความคิดตัวเองง่ายกว่าเปลี่ยนคนอื่นเยอะเลยค่ะ คาดหวังน้อยลงเท่าไร ก็ทุกข์น้อยลงเท่านั้น เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : procorner เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:43:43

ความคิดเห็นที่ 22 ขอขอบคุณทุกความเห็นเลยนะคะ ไม่คิดเลยว่าในนี้ จะทำให้เรารู้สึกดี และได้แง่คิดเพิ่มขึ้นมาก (คือเราไม่เคยบ่นในนี้เลย) รู้สึกดีที่มีเพื่อนร่วมชะตากรรม555 คือเรากับแฟนอายุต่างกัน8ปี เค้ามีความเป็นผู้ใหญ่มาก ไลฟ์สไตล์เราแตกต่างกันคนละทางเลย เราเลยไม่มีความเป็นเพื่อนกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว พอชีวิตเป็นแบบนี้ เราก็เลยไม่มีเพื่อน ซึ่งถ้าเขาไม่อยากให้เราพูด(ปัญหา) อะไรก็กลายเป็นเราบ่น ไม่อยากฟัง แล้วจะให้เราพูดกับใครล่ะ เรารู้สึกเหมือน คห16 เลย ...อยู่เพื่อลูก.. ทุกวันนี้ดูเหมือน ลูก จะเป็นอย่างเดียวที่ทำให้เราได้พูดคุยกัน... ส่วนสามีเรา เค้าเป็นคนที่งานเยอะ สังคมจัด เพื่อนเยอะ สังสรรค์ทุกวัน ถ้ากลับบ้านเร็วแปลว่ามาสังสรรค์ที่บ้าน(กินเหล้า)  ถ้าอยู่บ้านทั้งวันแปลว่าป่วย เราเคยพูดเรื่องนี้แล้ว ให้เขาลดลงเพื่อสุขภาพ เขาก็ว่า เขาเป็นหยั่งงี้มาตั้งนานแล้ว เปลี่ยนไม่ได้หรอก.. เออก็จริง.. เราก็ไม่เคยพูดอีกเลย แต่ที่ทำให้เราแย่มากคือ การที่เค้าไม่รักษาคำพูดกับลูก ถ้าเค้าพูดว่าเดี๋ยวจะกลับมากินข้าวด้วยให้รอ เค้าควรจะทำให้ได้ แต่นี่เค้าเหมือนหลอกกันซำซาก พวกเราไม่เคยสำคัญกว่าวงเหล้าเลยเหรอ เมื่อวานวันอาทิตย์เค้าก็ยุ่งทั้งวัน บอกให้พวกเรารอเดี๋ยวเย็นจะพาไปกินข้าว แต่เค้ากลับมาเกือบทุ่ม เราลูกเล็กทนหิวไม่ได้หรอก กินข้าวไปแล้วหล่ะ เราก็เลยไม่ไปแล้ว เพราะเดี๋ยวลูกต้องนอนเร็ว เราไม่ได้โกรธที่ไม่ได้ไปนะ เราชินแล้วหละ แต่รู้สึกแย่ที่เค้าก็นั่งกินเหล้าต่อกับเพื่อนอีกสองคน แถมยังให้ลูกมาแต่งตัวเดี๋ยวจะพาไปเที่ยว พอเราว่าเค้า...... เค้ากลับว่า เราไม่ไปเอง เค้าต้องอดทนมากกับการฟังเราบ่น...... ขอบคุณทุกกำลังใจนะ เราคงทำอะไรไม่ได้ นอกจาก ปลง และหาทางอื่นระบายออก (เช่นที่นี่) สำหรับคุณสามี ก็คิดแต่ข้อดี คือเค้าหาเงินมาให้เราใช้ก็ละกัน... จากคุณ : แม่สาวยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 13:36:04

ความคิดเห็นที่ 23 ทำใจค่ะ จากคุณ : jittra เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 14:42:28

ความคิดเห็นที่ 24 แต่งงานปีที่ 4 ค่ะลูกคนที่สองยังอยู่ในท้อง  เรื่องง้อนี่ไม่มีมานานแล้วค่ะ เมื่อก่อนก็เสียใจค่ะเพราะเป็นแม่บ้านเต็มตัวเหมือนกัน  เหมือนตัดขาดจากโลกภายนอก เคยน้อยใจคำพูดที่เค้าพูดแรงๆกับเรา  ก็เข้าใจว่าเหนื่อยจากงานมา หาเรื่องต่อว่าเราเรื่องไม่เป็นเรื่อง  ที่หนักสุดคือ  ว่าเราใส่ทิชชู่กลับด้าน ทำไมไม่เปลี่ยนให้ถูก 555+ บ้าไปแล้ว แต่เคยร้องไห้เสียใจนะ (บ้าทั้งคู่) ตอนนี้ทำใจค่ะ อยากกินอะไร อยากทำอะไร ทำได้ทำไปเลยอย่าไปรอ(เคยรอแล้วก็มาน้อยใจว่าทำไมพาไปซักที) หายใจเข้าลึกๆ ถามตัวเองว่าความสุขจริงๆแล้วอยู่ที่ไหน  อยู่ที่ใจเราเองรึเปล่า ถ้าเราผิด เคยใช้คำพูดแรงๆกับเค้าเหมือนกันช่วงท้องนี่แหละค่ะ เราจะขอโทษเค้าก่อนเพราะรู้ว่าผิด ถ้าเห็นว่าเย็นลงแล้วก็อธิบาย  ถ้ายังงอนอยู่ทำหน้ามึนตึง เราปล่อยไปเลยค่ะไม่เอามาเป็นอารมณ์ บอกตัวเองว่า  เออ เราผิดจริง แต่เราขอโทษและอธิบายแล้ว ถ้าเค้าเลือกที่จะอารมณ์เสียไม่มีความสุขก็ปล่อยเค้า แต่เราเลือกที่จะมีความสุข ประโยคที่ยังจำมาใช้ทุกวันนี้คือ " วันนึงคนเราก็ต้องจากกัน จะรีบทำให้เกลียดกันไปไหน" ช่วยลดฑิฐิในตัวเราได้เยอะเลยค่ะ แต่ทั้งหมดทั้งมวล สามีเป็นคนดีนะคะรักลูกรักเมีย  ไม่สบบุหรี่  ดื่มบ้างเวลาออกงานหรือสังสรรค์กับเพื่อน ไปเที่ยว ตจว.กันอย่างน้อยเดือนละครั้ง รวมถึงไปเที่ยวหายายที่สระบุรีด้วย จากคุณ : jawchuu เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 14:46:43

ความคิดเห็นที่ 25 ขอแนะนำครับว่า ควรทำให้เขาเกรงใจ ก่อนอื่นเลย อย่าชวนทะเลาะ เพราะเขาไม่รักษาคำพูด เพราะเขาเห็นแก่เหล้ามากกว่าลูกเมีย ต้องทำให้เขารู้สึกเกรงใจ ที่ทำให้ลูกและเมียลำบากเพราะเขาไม่รักษาคำพูด เช่น เขาบอกว่าจะกลับบ้านมากินข้าวเย็นด้วย กำหนดเวลาของเราเองเลยว่าจะรอเขาได้นานที่สุดกี่โมง เช่น 1 ทุ่ม พอ 1 ทุ่มเป๊ง อ้าวเด็กๆ กินข้าว พ่อคงกลับมาไม่ทัน เราก็กินของเราไปบ้างให้อยู่ท้อง แล้วเหลือข้าว+กับข้าวให้พอ 2 คน พอเขากลับมาก็บอกเขาว่า "ขอโทษทีพี่ ที่หนูไม่ได้รอกินข้าวด้วย ไอ้ตัวเล็กมันทนหิวไม่ไหว เลยให้กินข้าวไปก่อน หิวหรือยังค่ะ จะได้กินข้าวพร้อมกัน" หรือถ้าเขาจะชวนกินข้าวนอกบ้าน พอ 1 ทุ่มเป๊ง ไม่มาเหรอ อ้าวซื้อข้าวข้างนอกกินกันไปก่อน เหมือนเดิม ซื้อเผื่อเขาด้วย พอเขากลับมา บอกเขาว่า "ขอโทษที่พี่ เห็นว่าดึกมากแล้วพี่ยังไม่มารับไปกินข้าวนอกบ้าน เด็กๆ หิวแล้ว เลยต้องไปซื้อของกินที่ร้านป้าตุ้มปากซอยนี่แหละ เลยซื้อเผื่อพี่ด้วย กลัวหิว ม๊า มากินข้าวด้วยกันเถอะ" ทำให้เขาเกรงใจ ดีกว่าให้เขากลัว หรือ ให้เขาเบื่อดีกว่าครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:52:26

ความคิดเห็นที่ 26 เพราะผู้หญิงสวยมีให้เห็นได้ดาษเดือด แต่ผู้หญิงที่จะเป็นคู่คิด คู่ชีวิตมีได้แค่คนเดียว ชอบคำนี้ของ คห. 15 มาก จากคุณ : TuA...TuA เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:21:36

ความคิดเห็นที่ 27 เพราะผู้หญิงสวยมีให้เห็นได้ดาษเดือด แต่ผู้หญิงที่จะเป็นคู่คิด คู่ชีวิตมีได้แค่คนเดียว ชอบคำนี้ของ คห. 15 มาก จากคุณ : TuA...TuA เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:21:48

ความคิดเห็นที่ 28 เพราะผู้หญิงสวยมีให้เห็นได้ดาษเดือด แต่ผู้หญิงที่จะเป็นคู่คิด คู่ชีวิตมีได้แค่คนเดียว ชอบคำนี้ของ คห. 15 มาก จากคุณ : tua (TuA...TuA) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:22:03

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณที่ร่วมแชร์ความทุกข์นี้ไปนะคะ "วันนึงคนเราก็ต้องจากกัน จะรีบทำให้เกลียดกันไปไหน" ชอบมากคะ คุณjawchuu จริงด้วยเนอะ ถ้าไม่มีเค้าเราคงรู้สึกแย่กว่านี้เยอะ ขอบคุณ เตร็ดเตร่ มากมาก เห็นภาพมาก จะลองทำดูนะ จะพยายามที่สุด... แล้วพูดยังไงดีคะ ให้เค้ากินเหล้าน้อยลง แบบที่ผู้ชายฟังได้หน่ะ เพราะเราพูดไม่ได้เลย แตะไม่ได้เลย...เป็นเรื่อง จากคุณ : แม่สาวยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 09:43:18

ความคิดเห็นที่ 30 ลูกสาวฉลาดและน่ารัก จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 12:06:59

ความคิดเห็นที่ 31 คุณแม่สาวยาคูลท์ครับ แบบว่า ผมกินเหล้าเมื่อเข้าสังคม อย่างเก่งก็เดือนละหน กินไม่เคยเมาสักที เพราะจะไม่กินเกิน 4 แก้ว (ส่วนใหญ่จบที่ 2 แก้วครับ) เรื่องที่จะให้กินเหล้าน้อยลงนั้น เฮ้อ!! คิดหนัก แต่เท่าที่คิดได้ ก็คือ "ความรักทำให้คนตาบอด" ความหมายคือ ... ถ้าทำให้เขารู้ว่าเรารักเขามาก หรือ ลูกรักเขามาก อยากอยู่กับเขานานๆ จนแก่ตายกันไปข้าง เมื่อเขารับรู้ได้ เขาก็จะเริ่มรู้สึกห่วงใยในสุขภาพเขามากขึ้น อะไรที่เป็นพิษต่อร่างกาย เขาก็จะระมัดระวัง อีกอย่าง คนเรานี่แปลก ถ้ารู้สึกขัดใจ เสียใจ ผิดหวัง เบื่อ หน่าย เซ็ง มักจะลงโทษตัวเอง เพื่อประชดคนที่เรารัก การกินเหล้า ก็จัดได้ว่าเป็นการลงโทษชนิดหนึ่งครับ พอลงโทษตัวเอง แล้ว คนที่เขารักโกรธ ออกปากห้าม ด่าทออย่างไร้สติ รู้สึกไม่สบายใจแล้วระบายอารมณ์ออกมา เขาจะยิ่งสะใจ อยากพอว่า อย่าทำให้เขารู้สึกเช่นนั้น ให้เขารู้ว่า เราไม่ห้ามที่เขาจะไปกิน หากเขามีความสุขเช่นนั้น แต่เราและลูกไม่สบายใจทุกครั้งที่เขากิน เพราะรักและห่วงใยในสุขภาพเขา การแสดงออก จะทำหน้าที่ได้ดีกว่าคำพูดเป็นล้าน ครับ แสดงออกให้เขารู้สึกได้สิครับว่า เราและลูกรักและห่วงใยสุขภาพเขา อยากอยู่กับเขานานๆ ปล. ยิ่งพิมพ์ ยิ่งรู้สึกวนอยู่ในอ่างแห่ะ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 09:05:30

ความคิดเห็นที่ 32 เป็นความคิดที่ดีมากเลย แต่ทำยากจัง จะพยายาม ลดอคติก่อน ขอบคุณมากมากมากคะ จากคุณ : แม่สาวยาคูลท์ เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 10:39:27

ความคิดเห็นที่ 33 ว่ากันตามทฤษฎีนะครับ แถมต้องใช้เวลานานมาก จะมีผลสำเร็จหรือไม่ ก็การันตีไม่ได้ ขอส่งใจช่วยครับ จากคุณ : เตร็ดเตร่ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 08:09:04