ความคิดเห็นที่ 1 ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวต้องไปสังเกตบ้าง ปกติก็รูดบ้างบางครั้ง ส่วนใหญ่จะลืม จากคุณ : Iam5 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:20:26

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคุณออยนะคะ และมายกมือเห็นด้วยค่ะว่าต้องรูดทำความสะอาดบ่อย ๆนะคะ จะไม่ได้ไมหมักหมม และไม่ต้องขลิบ (เจ็บตัวอีกต่างหาก) เคยอ่านบล็อคคุณสาลิกาโบยบิน เห็นมีประโยชน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขออนุญาตเจ้าของบล็อคด้วยนะคะ และ คุณออย (จขกท) ด้วยนะคะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&group=7&page=1 ส่วนของลูกชายเรา คุณหมอให้ยามาทาเปิดปลายจู๋ ตอนนี้เปิดไปเรียบร้อยแระแต่ตอนอาบน้ำต้องรูดทำความสะอาดทุกวันเหมือนกันจ๊ะ จากคุณ : Tae@Nutt เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:27:19

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่เคยรู้เลย ขอบคุณนะคะ ต้องทำซะแล้ว เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำให้ลูกชายเลยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : peopleparadise เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:29:08

ความคิดเห็นที่ 4 เคยเป็นค่ะ น้องโอ๊คบ่นว่าเจ็บจู๋อ่ะแม่เวลาฉี่ เวลาอาบน้ำให้ก็เห็นปลายจู๋เค้าแดง ๆ พอรูดลงมามันเป็นเมือก ๆ ขาว ๆ หมักหมมอยู่ เพราะเราไม่ได้เปิดออกล้างให้เค้าหลังจากนั้นก็จะคอยสังเกตตลอดค่ะ จากคุณ : catza@saraburi เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:32:18

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณกระทู้ความรู้ดีๆค่ะ ของอั่งเปาเปิดค่ะเพราะรูดตั้งแต่อาบน้ำให้ครั้งแรกที่คลอดเลย ทำทุกครั้งที่อาบน้ำ และเปลือยประจำที่อยู่บ้าน(ไม่ใส่เพิส) ถ้าทำเสียง ชี่ๆๆ อั่งเปาจะพุ่งเลยค่ะ สังเกตุง่าย แต่เตือนนิดนึงอย่าพยายามทำให้เปิดนะคะ ใช้เวลาทำเป็นประจำดีกว่าค่ะ จากคุณ : variyaya เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:39:03

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากค่ะ... จากคุณ : แม่ลูกหนุน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:42:06

ความคิดเห็นที่ 7 กำลังอยากรู้อยู่ว่าต้องทำยัง ตอนนี้หลาน 9 เดือนแล้วแต่ไม่กล้ารูดค่ะกล้วเขาเจ็บก็อาบน้ำล้างให้เฉยๆค่ะ ยังไม่กล้าทำให้แบบนั้นอ่ะค่ะ กล้วว่าจะแรงไปเห็นเขาก็ซี่ได้ปกติ ต่อไปคงต้องลองทำดูบ้างแล้ว ขอบคุณจขกทค่ะ จากคุณ : คุณยาย..อันซีน (Eeddy_Kong) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:09:09

ความคิดเห็นที่ 8 ของน้ำใส 5 เดือน.. บางครั้งอาบน้ำพยายามรูดทำความสะอาด แต่รูดได้นิดเดียวค่ะ   เลยไม่พยายามรูดมาก เราะกลัวจะเจ็บ  .. เคยมีกระทู้เกี่ยวกับจุ๊ดจู๋ด้วยค่ะว่า .. เด็กส่วนใหญ่จะรูดได้ไม่สุดค่ะ ทำความสะอาดเท่าที่จะทำได้ไปก่อนค่ะ โตขึ้นจะค่อยๆ รูดได้เยอะเอง ..ไม่ต้องกังวล  ไม่ต้องพยายามฝืนค่ะ เพราะเดี๋ยวจะเจ็บค่ะ จากคุณ : คุณพ่อมือ1 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:15:45

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณด้วยค่ะ ไม่รู้เลยเหมือนกันนะเนี้ย แต่ลูกกำลังจะไปผ่า(ลูกอัณฑะไม่ลงถุงข้างนึง)เลยว่าจะให้หมอขริบให้เลย^^ จากคุณ : kidasawa เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:24:14

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณค่ะ กระทู้มีประโยชน์มากเลยค่ะ จากคุณ : SantaKung เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:30:59

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณค่ะคุณออย ของตะวันจิ๊บรูดล้างให้แต่ไม่ได้รูดซับให้แห้งค่ะ เดี๋ยวต้องแก้ตัวใหม่ ขอให้น้องคิดหายเจ็บไวๆนะจ๊ะ หนูจจ.ให้กำลังใจ (^v^) จากคุณ : mamatawan เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:45:49

ความคิดเห็นที่ 12 กระทู้มีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะคะ จากคุณ : sommos เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 20:18:33

ความคิดเห็นที่ 13 อย่าว่าเป็นแต่เด็กผู้ชายค่ะ ลูกสาวเราพอเลิกเพิสแล้วก็ไม่ได้ใช้ผ้าเปียกเช็ดทำความสะอาด (แหวกดู) อีกเลย เพราะเวลาค้าฉิ้งฉ่องหรือถ่ายเค้ราก็จะบอกว่าเข้าห้องน้ำ พอเสร็จกิจแล้วเราก็ฉีดน้ำทำความสะอาดให้อย่างดีใช้น้ำจากสายชำระแล้วก็มือ อย่างที่เราทำกับตัวเราเอง ก็ฉีดจากข้างหน้าไปข้างหลัง  เสร็จแล้วก็ใช้ผ้าอ้อมซับทำความสะอาด (เข้าใจว่าเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว) มาเห็นตอนมีอยู่วัน เค้าอึขณะที่ยังห่วงนั่งเล่นอยู่ เราก็เลยพาเค้าไปทำความสะอาด เวลาเด็กผู้หญิงถ่ายแล้วไม่ได้ล้างทันที คือนั่งอึทั้ง ๆ ที่ยังใส่กางเกงอยู่ หรืออึเสร็จแล้วไปนั่งพื้นหรือเก้าอี้ อึเค้าก็จะเข้าไปเปื้อนข้างหน้า ที่นี้เราเลยต้องพาเค้าไปล้างน้ำ แล้วก็เช็ดข้างหน้า เราก็จับเข้านอน แล้วแหวกดู โถ่เอ้ยลูกแม่ เรารู้สึกผิดมาก ที่ไม่ได้แหวกดูเลยตั้งแต่เค้าบอกอึบอกฉี่ได้ เราก็นะคิดจากตัวเราเองเวลาเสร็จกิจอะไร ก็ไม่เห็นต้องแหวกต้องเช็ดอะไรมากมาย ก็เลยคิดว่ากับเด็กก็คงเหมือนกันกับของเรา เราก็เลยฉีดน้ำจากสายชำระแล้วก็ใช้มือช่วยล้าง แล้วก็เช็ดด้วยผ้าอ้อมก็น่าจะพอ แต่ภาพที่เห็นวันนั้นคือเค้ามีเหมือนที่เค้ามีตอนแรกเกิดเลยคือเป็นคราบขาว ๆ  ที่ต้องคอยเอาสำลีชุบน้ำต้มสุกคอยเช็ดทีละนิด ๆ จนหมดน่ะค่ะ ตลอดที่เช็ด เค้าก็จะร้องแล้วก็ดิ้น เราก็ต้องค่อย ๆ ทำ ลูกก็ร้อง แม่ก็ร้อง กอหญ้าคงคิดว่าเราทำเค้าเจ็บแม่ทำไรกับหนู (มันอารมณ์เหมือนแม่ที่ตีลูก แล้วลูกบอกว่าเจ็บแม่ก็ไม่หยุดประมาณนั้น) ส่วนตัวเราก็พร่ำพูดได้แต่ว่า แม่ไม่ได้อยากทำให้หนูเจ็บเลยนะลูก หนูอยู่นิ่ง ๆ ก่อนนะ แม่กำลังช่วยหนูอยู่ นะลูกนะ ไม่รู้เค้าจะเข้าใจประโยคที่เราพูดพร่ำ ซ้ำ ๆ นั้นหรือเปล่า พอทำความสะอาดให้เค้าเสร็จเค้าก็ลุกมากอดเราแล้วก็พูด แม่จ๋าหนูเจ็บ ๆ ๆ ๆ ๆ แม่ทำหนูไม???  เรานะยิ่ง..................โห จุกเลย จากคุณ : ก็อย่างว่า เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 23:10:38

ความคิดเห็นที่ 14 ลูกชายเราสอนตั้งแต่เริ่มยืนเองในอ่างอาบน้ำได้  ประมาณขวบ(ที่ผ่านมารูดให้)  เราให้เค้ารูดเองจะได้รู้ว่าเจ็บไหม? เราถือชาวเวอร์ไว้ให้ๆ ให้ดูเองด้วยว่ามีคราบขาวๆ ไหม?   ล้างจนกว่าจะสะอาดค่ะ   ครั้งหนึ่งไม่สบายอาเจียน ถ่ายเหลว ดีไฮเดรชั่นบวกกับไม่ได้อาบน้ำแค่ ๒ วัน(เช็ดตัวพอสะอาด)  วันที่ ๓ อาบเค้าเปิดปลายโมโจเองแล้วบอกเจ็บๆ คราบขาวเพียบ พอหลุดออกปลายแดงเจ็บอยู่สามวัน  ลูกเรียนรู้แล้วว่าถ้าไม่อาบน้ำ ไม่เปิดปลายโมโจล้างทุกวันจะเป็นเช่นไร?  ฝึกให้เป็นนิสัย....ทุกวันนี้ไม่ต้องเตือนค่ะ สระผมขอเว้นได้แต่โมโจๆ ไม่เคยลืมเลย จากคุณ : one&only เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 23:30:12

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนนี้ลูกชายอายุ1ขวบ7เดือนอ่ะค่ะ อยากรูดตั้งนานแล้วแต่ไม่กล้ากลัวลูกเจ็บ แล้วเดี๋ยวโดนด่าตามหลังมาไกลๆ จากคุณ : ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 23:38:22

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นนะครับ สังเกตุดูครับว่าบริเวณปลายอวัยวะเพศทำความสะอาดดีหรือไม่ เพราะตรงส่วนนี้ถ้าดูแลได้ไม่ดีก็จะเกิดการหมักหมมของเชื้อโรคต ่าง ๆ ทั้งคราบฉี่ คราบเหงื่อครับ ทำให้เกิดการติดเชื้อย้อนขึ้นไปด้านบนได้ครับ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ได้ให้ลูกขลิบจะเจอปัญหานี้ได้เยอะมา ก ๆ ครับ และส่วนใหญ่ถ้าเป็นแล้วก็จะเป็นซ้ำได้บ่อย ๆ ครับ ไม่เหมือนในเด็กที่ขลิบแล้วจะดูแลสุขอนามัยได้ง่ายกว่าเยอะครับ ต้องพยายามทำความสะอาดให้ดีเป็นกิจวัตรครับ เพราะอวัยวะส่วนนี้มักถูกละเลย ส่วนใหญ่คิดว่าอย่าไปยุ่งกับมัน ทั้งที่เรื่องความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันเชื้อโรคครับ การทำความสะอาดก็คือเอาน้ำสะอาดธรรมดานี่แหละครับ ล้างบริเวณจู๋ให้ดี แล้วค่อย ๆ รูดหนังลงครับ ทำวันละนิดๆ ช้า ๆ ไม่ต้องรีบ ทำบ่อย ๆ มันก็จะค่อย ๆ รูดลงจนหมดได้เองครับ พอรูดลงได้แล้วก็ใช้น้ำล้างและซับให้แห้งครับ และก็สอนให้เค้ารู้จักดูแลแบบนี้เองให้เป็นนิสัยครับผม การดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กทุกคน แต่ในเด็กผู้ชายที่มีหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศอยู่นั้น การดูแลความสะอาดอาจทำได้อย่างไม่ทั่วถึง ซึ่งถ้าปล่อยให้เกิดการหมักหมมก็จะทำให้เกิดการอักเสบขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ บางคนถึงขั้นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการไตติดเชื้อ ยิ่งธรรมชาติของเด็กผู้ชายที่เล่นซนตามประสา การไม่อาบน้ำ การเล่นสกปรกมอมแมม เป็นเรื่องปกติ ยิ่งทำให้ง่ายต่อการเกิดเรื่อง และความเป็นจริงในสภาพสังคมของเรา ต้องยอมรับว่ามีไม่กี่ครอบครัวที่มีการพูดคุยถึงสุขอนามัยทางเพศ มีคุณพ่อคุณแม่กี่คนที่คอยถามลูกว่าวันนี้ล้างจู๋สะอาดหรือยัง หรือเมื่อลูกโตพอเข้าโรงเรียนแล้วยังมาคอยเช็คว่าลุกอาบน้ำสะอาดไหม มีการรูดหนังหุ้มปลายลงมาล้างไหม ดังนั้นยิ่งเมื่อเด็กโตขึ้น ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้ถูกละเลยไป ด้วยทั้งเด็กรู้สึกเขินที่จะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ และกิจกรรมต่าง ๆ ของเด็กที่มากขึ้นตามอายุ ทั้งเล่นกีฬา เหงื่อจากการทำงานต่าง ๆ ดังนั้นการขลิบจึงมีข้อดีในการช่วยให้ดูแลสุขอนามัยได้ง่ายขึ้น เนื่องจากกำจัดจุดที่จะสามารถไปหมักหมมของพวกเชื้อโรคได้ ทำให้การอาบน้ำธรรมดาก็เพียงพอที่จะทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศได้ การหมักหมมของขี้เปียกและการที่ไม่ทำความสะอาดให้ดี อาจทำให้เป็นแหล่งที่อยู่ของเชื้อโรคมากมาย และที่สำคัญคือ HPV ไวรัสครับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิงและมะเ ร็งองคชาติในเพศชาย ฉะนั้นจึงพบว่าผู้ชายที่ขลิบปลายอวัยวะเพศแล้วจะมีอัตราการเกิด โรคนี้ต่ำมาก ๆ เนื่องจากดูแลสุขอนามัยได้ดีขึ้นและข้อดีนี้ก็ยังเผื่อแผ่ไปถึง สุขภาพของผู้หญิงด้วย หลายคนยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าขลิบแล้วเป็นยังไง ผมเลยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ในการหาข้อมูลนะครับ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่บ้างแหละ ลองเข้าไปชมดูนะครับ ที่ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaicirc20&group=7 ส่วนใครมีข้อแนะนำไงก็ฝากไว้ได้นะครับ ปล.ในเวบอาจจะมีภาพไม่เหมาะสมบ้าง  แต่เจตนาเพื่อการศึกษานะครับ จากคุณ : สาลิกาโบยบิน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 23:41:46

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณนะคะ ของลูกชาย ตัดสินใจให้เขาขริบตั้งแต่เกิดเลยค่ะ คุณพ่อเขาเป็นคนตัดสินใจเพราะว่าเขาบอกว่าจะได้ทำความสะอาดง่าย หลีกเลี่ยงการติดเชื้อหนังหุ้มปลาย  เราก็ว่าไงว่าตามกันเพราะว่าผู้ชายน่าจะรู้ดีกว่าผู้หญิงในเรื่องนี้  ลูกก็เจ็บครั้งเดียวตั้งแต่แรกเกิด ตั้งแต่ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็น่าจะดีกว่ามาขริบเอาตอนโตๆแล้ว  แต่ทีนี้มันมีเหตุผลกันเยอะแยะว่าจะขริบหรือไม่ขริบ ทั้งที่เรื่องปล่อยตามธรรมชาติ ทั้งเรื่องเส้นประสาทตรงส่วนปลาย ฯลฯ  แต่ของเราในเมื่อพ่อ ซึ่งเป็นผู้ชายเป็นคนตัดสินใจ เราก็เลยโอเคน่ะค่ะ ปล. สะกดยังไงคะ ขลิบ หรือ ขริบ เปิดเวบพจนานุกรม ขลิบ [ขฺลิบ] ก. เย็บหุ้มริมผ้าและของอื่น ๆ เพื่อกันลุ่ยหรือเพื่อให้งามเป็นต้น; (ถิ่น-ปักษ์ใต้) ขยิบ เช่น ขลิบตา ว่า ขยิบตา. ขริบ [ขฺริบ] ก. ตัดเล็มด้วยตะไกรเป็นต้น. แต่ circumcise มันก็คือการตัดหนังหุ้มปลาย  เราเลยเลือกใช้คำว่า ขริบ  ถูกต้องหรือเปล่าคะ จากคุณ : Pina Colada เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 03:15:09

ความคิดเห็นที่ 18 ลูกของฝ้ายตอนนี้กำลังปรึกษาหมอค่ะ ที่อเมริกา น้องได้รับการขลิบตั้งแต่คลอดออกมา ขอเล่าเพื่อเป็นประโยชน์นะคะ ตอนที่น้องขลิบใหม่ๆตั้งแต่แรกเกิดทุกอย่างก็ปกติดี เราก็ทำความสะอาดทุกวันตามที่เคยทำและคิดว่าถูกต้อง หมอที่อเมริกาจะไม่บอกอะไรคุณเลยหากคุณไม่ถามหรือมีข้อสงสัย แม้แต่ตอนที่ท้องต้องไปหาหมอ หมอจะถามเราทุกครั้งว่ามีอะไรจะถามมั้ย ฝ้ายเจอหมอไม่เคยใช้เวลานานเกิน 10 นาที แต่รอที่จะเจอหมอ ทั้งนอกห้องและในห้องรวมแล้วไม่ต่ำกว่าชั่วโมงครึ่ง ช่วงแรกฝ้ายโมโหมากและน้อยใจทำไมหมอที่นี่ไม่เห็นเหมือนกับที่เมืองไทย ที่คอยบอก คอยสอนเราทุกอย่าง ใจดีมีน้ำใจกับคนไข้ เราถามหมออยู่ตลอดเวลาว่าทำไมปิกกาจู้ ของน้องดูผิดจากทั่วไป แต่หมอทุกคนที่เจอบอกว่าเป็นเพราะอ้วน ถามพ่อมานก็บอกว่าไม่รู้ เราต้องเชื่อหมอ ถ้าหมอบอกว่าอ้วนก็คือ อ้วน(ดูพ่อมานพูดจิ เชื่อฟังหมอมาก) เราก็เลยไม่รู้จะว่าไง ก็เลยว่าไงก็ว่าตามกันไป จนมาถึงการหาหมอครั้งล่าสุด ลองถามหมอคนนี้ (การหาหมอที่นี่แล้วแต่ว่าจะเจอหมอคนไหนค่ะ แต่ละครั้งจะไม่ได้เจอคนเดิม ถึงแม้ว่าจะทำการนัดล่วงหน้า) น้องอายุได้ 9 เดือน พาไปทำการตรวจทั้วไป คุณหมอท่านนี้ได้ให้ความเห็นว่า ปิกกาจู้ของน้องได้sealตัวของมันเองขึ้นมา ซึ่งเหมือนกับการบาดเจ็บปากแผลเปิด แล้วแผลก็ปิดเองครอบคลุมส่วนหัวของปิกกาจู้(ซึ่งการที่ขลิบจะขลิบลงมาจนถึงส่วนหัวของมัน) แต่ของน้องได้ปิดมาจนถึงครึ่งเกือบมิดเหมือนไม่ได้ขลิบ ตอนนี้ฝ้ายก็ได้โทรไปติดต่อกับทางด้านนี้โดยตรงเพื่อขอ second opinion ว่าจะต้องขลิบใหม่อีกทีหรือเปล่า (คุณหมอแนะนำค่ะ) เพราะหากต้องทำก็ควรรีบทำก่อนน้องจะรู้เรื่องมากกว่านี้ ปล ฝ้ายคิดว่าถ้าขลิบแล้วก็คงไม่ต้องทำอะไรแค่ดูแลรักษาทำความสะอาดก็พอ แต่ไม่ใช่เลยค่ะยังคงต้องรูดและดึงทำความสะอาดตลอดเหมือนที่ยังไม่ขลิบ เพียงแต่มันดูแลง่ายกว่าแค่นั้นเอง จากคุณ : whiterussine เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 04:41:43

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับข่้อมูลดีๆนะคะ ลูกชาย 10 เดือนแล้ว ไม่เคยรูดเลยตอนอาบนำ้ เพราะพ่อเค้าไม่ให้รูด (ไม่รู้ทำไม) ถามหมอ (อเมริกา) เค้าก็บอกว่าไม่จำเป็น  (แต่ของเราหาหมอคนเดิมทุกครั้งนะ ไม่เหมือนของคุณ whiterussine ) แต่เราก็เคยแอบรูดนะ อิ อิ มันก็รูดได้ เลยคิดว่าลูกเรา คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ต่อไปจะพยายามรูดทุกวันแล้วค่ะ จากคุณ : บลูม่า เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 06:53:56

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณที่แนะนำข้อมูลจ้า เราเองก้อรูดให้ลูกตั้งแต่แรกเกิดเหมือนกันจ้า แต่มันก้อดูรูดยากอยู่นะ ลูกร้องทุกครั้งเลยอ่ะ เห็นแล้วก้อสงสาร จากคุณ : nangkarang เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:10:55

ความคิดเห็นที่ 21 ประสบการณ์ตรง ของน้องนิล ลูกชายผมโดนขลิบไปเรียบร้อยแล้วครับ เรื่องของเรื่องคือ เมื่อตอนใกล้วันสิ้นปีกำลังจะไปเชียงใหม่ จัดของเสร็จเรียบร้อย น้องนิลเกิดไข้ขึ้นสูง ออกอาการเหมือนเกร็งเกือบจะชัก เลยรีบพาไปหาหมอที่ รพ.รามาฯ เลยโดนแอดมิด อดไปเที่ยวกันหมด  ตอนนอนอยู่ที่ รพ. หมอเจาะเอาเลือด ปัสวะ ไปตรวจ ปรากฏว่าเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสวะ เลยต้องนอนอยู่ 7 วัน ทั้งให้น้ำเกลือ และยาฆ่าเชื้อ เอกซ์เร ตรวจดู พอออกจาก รพ. หมอนัดตรวจ อัลตร้าซาว์ อีก เพื่อตรวจไต และกรวยไต (แต่เปลี่ยนไปทำที่ รพ.ตากสินแทน ใช้ประกันสุขภาพ) โชคดีที่ไตไม่มีปัญหา หมอเลยขอตรวจดูช้างน้อยของน้องนิล แล้วสรุปว่าเกิดจากหนังหุ้มปลายเปิดน้อย ทำให้เวลาฉี่แล้วออกไม่หมด ฉี่ที่เหลือย้อนกลับทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสวะ เลยต้องส่งตัวไปให้หมอศัลยฯดู หมอศัลยฯ ตรวจดู แล้วบอกว่าต้องขลิบหนังหุ้มปลายช้างน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ตอนแรกผมก็กลัวลูกเจ็บ จะไม่ยอมทำ จะเอากลับมารูดทำความสะอาดเองที่บ้าน แต่หมอศัลยฯ บอกว่าควรขลิบดีกว่า การรูดถ้าทำไม่ดีก็ไม่ได้ผล ถ้ากลับมาเป็นอีกจะอันตรายต่อไตของเด็ก เลยต้องตัดใจยอมขลิบ วันขลิบให้เวลาแค่ 2 วัน 2 คืน วันแรกไปนอนอดอาหาร และน้ำ 8 ชั่วโมง เช้ามาเข้าห้องผ่าตัดโดยผ่านการดมยาสลบ ใช้เวลาประมา 1 ชั่วโมง ออกจากห้องผ่าตัด มามีผ้าก๊อส ปิดจู๋ไว้ เลือดแดงเลย สงสารลูกมากๆ หมอให้ทานยาแก้ปวด แก้อักเสบ และยาฆ่าเชื้อ พร้อมครีบทาแผลฆ่าเชื้อ นอนอีกคืน เช้าก็กลับบ้านได้ ไม่ต้องกลับมาตัดไหม เพราะใช้ไหมละลาย 3-4 วันผลก็หายครับ แต่ตอนนี้จู๋น้องนิลเหมือนดอกไม้เลยเพราะตรงหนังที่ขลิบ และเย็บเป็นหยักๆ ไม่รู้ว่าโตขึ้นจะหายหรือเปล่า ตอนนี้ 11 เดือนแล้วครับ จากคุณ : BadmintonMan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 12:56:56

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีตอนบ่ายค่ะ ขออภัยที่เปิดทู้แล้วก็หายหัวไปเลย วันนึงจะเข้าทู้ได้วันละรอบตอนน้องคิดหลับเองค่ะ วันนี้หลับเร็วหน่อยเพราะเจอฤทธิ์ข้าวเหนียวกับปลาดุกไป สลบไปแล้วค่ะ มาอัพเดตว่าตอนนี้ช้างน้อยของน้องคิดหายเป็นปกติแล้วค่ะ ฉี่ไม่ร้อง "เจะจู้" แล้ว อิอิ ผิวเด็กหายไว้มาก ๆ ค่ะ ใครยังไม่ทำรีบ ๆ ทำเลยนะคะ คุณ Iam5 ท่องไว้ ท่องไว้ อย่าลืม อย่าลืม (อิอิ บอกตัวเองเหมือนกันค่ะ) คุณ Tae@Nutt ใช่แล้วค่ะ คุณสาลิกาโบยบินมักจะมาแจมให้ความรู้เรื่องช้างน้อยของลูก ๆ เวลาที่มีปัญหากัน คุณ peopleparadise ตอบหลังไมค์ไปแล้วนะคะ มีอะไรก็หลังไมค์มานะ เผื่อไม่ได้เข้ามาอ่าน คุณ atza@saraburi น้องโอ๊คหล่อมั่ก ๆ ค่ะ ฟันก็สวย คุณ variyaya เช้านี้ลองเสี่ยงรูดดู น้องคิดก็โอเคนะคะ ไม่ร้องเจ็บแล้วค่ะ ต่อไปนี้ท่องไว้ อย่าลืมรูดช้างน้อย ... คุณ แม่ลูกหนุน ยินดีค่ะ คุณยาย..อันซีน ฉี่ได้แต่มันมีเชื้อโรคหรือฉี่หมักหมมอยู่ค่ะ นาน ๆ ไปมันก็อักเสบ ลองทำดูนะคะ ทำวันละนิดค่ะ ผิวเด็กบอบบางก็จริง แต่หายง่ายค่ะ น้องคิดเป็นแผลเมื่อวาน เช้านี้หายแล้วค่ะ คุณพ่อมือ1 ทำไปเรื่อย ๆ นะคะ แล้วมันก็จะได้เองค่ะ ไม่ต้องรีบแต่ต้องทำเป็นประจำ คุณ kidasawa ลองปรึกษาหมอดูก่อนนะคะ คุณ SantaKung ยินดีค่ะ คุณจิ๊บ mamatawan ออยว่าซับเฉพาะตอนอาบน้ำก็ได้มั้ง เพราะกลางวันมาซับกันทุกครั้งก็กะไรอยู่ ... ขอบคุณน้องจจ.สำหรับกำลังใจ พี่คิดหายดีแล้วครับ คุณ sommos ยินดีค่ะ คุณก็อย่างว่า แต่ตอนนี้น้องหายดีแล้วใช่มั้ยคะ นี่ก็นึก ๆ อยู่เหมือนกันว่าแล้วลูกสาวเค้าจะเป็นกันมั้ย (คิดเอาเองว่าน่าจะหมักหมมกว่าของผุ้ชายเพราะมีซอกหลืบเยอะกว่า พี่ที่รู้จักกัน ลูกสาวเค้าก็เคยเป็นแบบนี้ค่ะ ต้องไปหาหมอเลย อีกนิดนึงค่ะ น้องอายุเท่าไหร่แล้วคะ จริง ๆ ฝึกพาไปอึที่ห้องน้ำเลยดีกว่าค่ะ ล้างก้นง่ายด้วย เพราะอึไหลลงส้วมไปเลย ไม่เลอะก้น เมื่อก่อนตอนน้องคิดบอกอึไม่ได้ ก็ยังใส่แพมเพิสหรือกางเกง ล้างยากมากค่ะ แถมต้องมาซักผ้าด้วย ... แหวะ ๆ อ่ะ คุณ one&only โอ้โห น้องเก่งมากเลยค่ะ ขวบนึงรูดเองเป็นแล้วเหรอคะ ... เดี๋ยวต้องลองฝึกมั่ง แต่กลัวจะติดใจค่ะ เพราะทุกวันนี้ถ้าไม่ใส่กางเกงก็จะเล่นช้างน้อยไม่หยุดเลย แต่พอใส่ก็ไม่เล่นค่ะ คุณ ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่  ค่อย ๆ ค่ะ แต่ควรจะทำ ผิวเด็กหายง่ายนะ น้องคิดเป็นเมื่อวาน เช้านี้หายแล้วค่า ... สู้ ๆ นะ คุณสาลิกาโบยบิน ขอบคุณค่ะ จำได้ว่ามีปัญหาเรื่องช้างน้อยทีไร เจอคุณทุกทีเลยค่ะ ได้ข้อมูลดี ๆ ก็จากบล๊อกของคุณนี่แหละค่ะ ตอนแรกนึกภาพไม่ออกว่ารูดแล้วหน้าตาจะเป็นไง ทำมาตั้งแต่เกิดจนเกือบปีนึกว่าทำถูกแล้ว คุณ Pina Colada นึกไม่ออกเหมือนกันค่ะว่าใช้ ร.เรือ หรือ ล.ลิง ... แต่เอาเป็นว่าเข้าใจเรื่องเดียวกันค่ะ ... คุณ whiterussine ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ คุณ บลูม่า ... ช่วยกันท่องจำค่ะ อย่าลืมรูดช้างน้อย คุณ nangkarang อย่ารูดแรงไปนะคะ ใจเย็น ๆ แต่ต้องทำทุกวัน ถ้าทำเช้าเย็นได้ก็ยิ่งดี รูดจนเค้ารู้สึกก็พอค่ะ อย่าให้ถึงกับร้อง เดี๋ยวจะพาลทำความสะอาดกันไม่ได้ คุณ BadmintonMan อืม ในรูปนี่น้องนิลกำลังเจะจู้เหมือนพี่คิดป่าวครับ ... แซวเล่นค่ะ ... ขอให้แผลน้องนิลหายเป็นปกตินะคะ จากคุณ : คุณรักผมและผมรักคุณ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 15:16:05

ความคิดเห็นที่ 23 น้องไอทีก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะ ครั้งแรกน้องอายุ 5 เดือน เราสังเกตุว่าทำไมปลายจุ๊ดจู๋แดง ๆ ก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติของเด็กอ่อน หลังจากนั้น 2-3 วันก็เห็นว่าปลายจุ๊ดจู๋ดูบวม ๆ  เรียกแฟนมาดูเค้าบอกว่าปกติ แต่เราว่าไม่ใช่ เลยลองรูดลงมาดูเห็นเป็นเมือกเหลือง ๆ หยิบสำลีมาเช็ดดู เป็นหนองค่ะ แฟนใช้เบตาดีนทาให้ 2 วันก็หาย เรารู้สึกผิดมาก ๆ ที่ลูกต้องเจ็บตัว แต่เค้าไม่ร้องหรืองอแงเลยนะคะ ลืมบอกค่ะว่าลูกใส่แพมเพริสตลอด เวลาอาบน้ำเปลี่ยนแพมเพริสล้างเช็ดอย่างดี แต่ไม่เคยรูดลง อีกครั้งอายุ 2 ขวบ ด้วยความที่ว่าเค้าเข้าห้องน้ำเองได้ เวลาเค้าไปฉี่เค้าไม่เคยมาบอก มีอยู่ช่วงนึงที่เราไม่ได้เป็นคนอาบน้ำให้ กลางคืนอุ้มเค้าไปฉี่ตอนที่ยังหลับ สังเกตุว่าเวลาอุ้มเค้าจะโก่งก้นออกตลอด เราก็คิดว่าจุ๊ดจู๋เค้าขยายตัวเราอุ้มแบบนี้เค้ากลัวจะไปโดนเลยโก่งก้น ก็ไม่ได้ไปดู และก็ไม่ได้อาบน้ำให้เค้า มีอยู่วันนึงถอดกางเกงให้เค้าเห็นว่ากางเกงด้านในเปรอะคราบเหลือง ๆ แวบขึ้นมาเลยค่ะว่าเป็นอีกแล้วแน่ ทีนี้ช่วยกันจับน้องลอคไว้แล้วก็จัดการ รอบนี้ไม่เหมือนคราวที่แล้วน้องไอทีร้องประมาณว่าเจ็บหรือกลัวไม่แน่ใจ แต่เราร้องไห้ขอโทษลูกทั้ง ๆ ที่กอดเค้าไว้ไม่ให้ดิ้น เวลาเจอเพื่อนที่เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานผู้ชายก็จะเล่าให้เค้าฟัง เค้าจะได้รู้และระวังมากขึ้น จากคุณ : easterpk เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 23:36:22

ความคิดเห็นที่ 24 เคยลองทำแต่น้องเอามือปิดตลอดเลยค่ะ ไม่ได้แล้วต้องกลับไปฝืนนิดนึง ไม่งั้นเจ็บตัวแน่ ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มาเตือนค่ะ จากคุณ : mezza's mom เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 13:40:10

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากค่ะ เราเคยปรึกษาหมอว่าจะขริบแต่คุณหมอบอกไม่จำเป็น พออ่านกระทู้นี้กลับบ้านไปดู จำปีเจ้าตัวแสบ มีคราบขาว จริงด้วยค่ะ ทำความสะอาดแล้วยังมีรอยแดง ปรึกษากะพ่อเค้าแล้วว่าจะทำตามวิธีที่แนะนำคะ คือ ค่อยๆรูดไปทีละนิดแทน ^^ สู้ๆๆ เพื่อความสะอาดของจำปีลูกชาย จากคุณ : sunred เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 17:16:17

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับความรู้.. ถ้ามีลูกชายจะได้จำไปใช้ค่ะ จากคุณ : หว่ออ้ายหนี่เหมิน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 17:25:34

ความคิดเห็นที่ 27 #17 ต้องทั้ง ขริบ และ ขลิบ เลยครับ ขริบ(ตัด)ก่อนแล้วจึงขลิบ(เย็บ) สลับกันไม่ได้ ทำอย่างใดอย่างนึงก็ไม่ได้ จากคุณ : โควี เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 00:20:14