|
ความคิดเห็นที่ 1 |
จุดกำเนิด..ฟอมลูกแม่
ชีวประวัติของหนู (ฟอม) เกิดวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2520 แรม 3 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง จุลศักราช 1339 เวลา ตีสี่สิบเอ็ดนาที โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพมหานคร
น้ำหนัก 2,570 ตัวยาว 48 รอบหัว 33 รอบอก 34 ผมสี ดำ ผิว สีน้ำผึ้ง
หนูยิ้มครั้งแรกวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2520
หนูคลอดง่าย ราว 3 ทุ่มแม่ปวดท้อง พ่อรีบเก็บข้าวของลิ่วไปรพ.ราชวิถี ไม่ได้เจ็บเหมือนในละครเลย..เจ็บแบบทนได้ ไม่ได้ครวญคราง จับหัวเตียงปวด 3 วัน 3 คืน
คุณหมอลุ้นให้คลอดหลังเที่ยงคืน จะได้วันดี วันฉัตรมงคล และก็ได้ผล.. ตีสี่สิบเอ็ดนาที ผลิตผล..สาวน้อย ตาโต จมูกโด่ง ผิวสีน้ำผึ้ง ก็ออกมาดูโลก
มีเพื่อน ๆ นักดนตรีพ่อมาเล่นโฟล์คซองถึงห้องเลย หนูก็เลยรักเสียงดนตรีมาแต่บัดนั้น
หนูเลี้ยงง่าย แข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วย ไม่โยเย พ่อแม่มือใหม่เลยสบายมาก หนูซุกซนมาก ปราดเปรียว ไล่จับกันอุตลุด เป็นที่เหน็ดเหนื่อยเอือมระอาแก่พี่เลี้ยง และได้ตั้งสมญาหนูไว้มากมาย อาทิ โป้งเหน่ง เจ้าอ้วน เจ้าแห้ง หนูก็โต้กลับ (ด่า) ไปไฟแลบด้วยฝีปากไม่แพ้กัน จนไม่มีใครกล้าต่อกรกับหนูอีก
ป้อนข้าวหนูทีไรเดินกัน 3 บ้าน 8 บ้าน ก็เพราะหนูชอบอมข้าว
ตอน 3 ขวบ ชุดเก่งของหนูกระโปรงระบายฟูฟ่องผ้าชีฟองเปิดหลังมีสายคล้องคอสีขาว พร้อมหมวกปีกใหญ่ระบายติดดอกไม้สีชมพูอ่อนเพื่อปิดโป๊งเหน่ง ถุงเท้า รองเท้าสีขาวหวานแหวว ตัดกับสีผิว...น่ารักน่าชัง
พ่อส่ายหน้าว่านี่ชุดเดินทาง (ไปบ้านปู่ย่า) หรือเดินแบบกันแน่ หนูช่างพูด ช่างประจบ เจ๊าะแจ๊ะ ตา ยาย ปู่ ย่า พี่ป้า น้าอา หลงกลหนูที่มีปากเป็นอาวุธ ปะเหลาะได้หมด คิดจักรยาน ได้จักรยาน ชี้ทุกเอวาชั่น (ชุดว่ายน้ำ) ก็ได้ดั่งใจ ปิดเทอมก็หอบหิ้วไปบ้านยาย ตา แม่พ่อเลย สบายไป
แม่จึงไม่เคยรู้สึกว่าการเลี้ยงลูกเป็นภาระแต่อย่างใด ก็เพราะการเป็นเด็กดีของหนู
* ถนนคนเรียน... (ยืมสำนวนของหนู)
- สตรีวรนาท บางเขน - อนุบาลจังหวัดนครศรีธรรมราช - กัลยาณีศรีธรรมราช - หาดใหญ่วิทยาลัย - มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (คณะมนุษย์ศาสตร์) - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (คณะนิเทศศาสตร์)
ไม่รู้ว่าเก่งหรือเฮง...แต่หนูของแม่ไม่เคยพลาดการสอบแข่งขันแม้แต่ครั้งเดียว...แม่ก็เลยหน้าบานเป็นจานเชิง
5 พฤษภาคม 2537...คือสนามใหญ่ที่พลิกชีวิตหนู หนูสอบผ่านคณะ 260 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (จากผู้สอบแสนกว่าผ่านเพียง 37,478 คน เลขที่นั่งสอบ 3802073) ลงวัฏจักรฉบับพิเศษ แม่ไล่แจกให้อ่านทั่วบ้านทั่วเมือง ญาติโยมเป็นปลื้ม จากที่หลานคนแรกเข้าวิศวฯไปแล้ว ตามติดๆมาด้วยหนู ครอบครัวเราประเภทครอบครัวสี่คูณร้อย ไม่พรากจากกันไปไหน อาจจะกระพร่องกระแพร่งบ้างก็เป็นธรรมดาของชีวิต
ลูกของแม่มีภูมิคุ้มกันอดทน เข้มแข็ง ผ่านพ้น ภาวะวิกฤตนั้นมาได้โดยที่ไม่เคยทำให้แม่ลำบากใจแม้แต่น้อย
แม่รู้ดีว่าหนูต้องอดทนและเจ็บปวดไม่น้อยเช่นกัน แต่เรารักกันมาก แม่ พ่อ และน้องไปป์ก็รักหนูมากจ๊ะ
....ลูกสาวที่สุดรัก อดทน เข้มแข็งและเป็นทุกอย่างของแม่ ...ลูกสาวที่สุดรักของพ่อ ...พี่สาวที่สุดรักของน้องชาย
จากคุณ |
:
tpipe
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ส.ค. 53 18:52:15
|
|
|
|
|