เทคโนโลยี ( อันตราย ) ที่คุณแม่ไม่ควรมองข้าม
|
|
เทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกคิดค้นและประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการ และอำนวยความสะดวกในกิจกรรมประจำวัน จนทุกวันนี้เราแทบจะไม่สามารถแยกออกจากเทคโนโลยีได้
แม้จะยังหาข้อสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ เกี่ยวกับเทคโนโลยีใกล้ตัว อย่างคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟ โทรศัพท์มือถือ เครื่องถ่ายเอกสาร และโทรทัศน์ ว่าจะมีผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกหรือไม่ แต่ในต่างประเทศมีการตื่นตัวและพยายามหาคำตอบในเรื่องนี้กันค่ะ เราจึงนำประเด็นเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
++ คอมพิวเตอร์ ++
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทอย่างมาก ผู้ที่ทำงานออฟฟิศ รวมทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทำงานนอกบ้าน บางครั้งต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์วันละไม่ต่ำกว่า 6-8 ชั่วโมง อยู่ใกล้คอมพิวเตอร์นานขนาดนี้ จะมีผลอะไรหรือไม่
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีทั้งผู้ที่คิดว่ามีผลและไม่มีผล ซึ่งจะขอยกตัวอย่างทั้งสองแนวคิดไว้ดังนี้
ในต่างประเทศพบว่า มีผู้ที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ถึงกับช็อกมาแล้ว สาเหตุมาจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่รังสีออกมา บางคนประสาทตาเสีย มีอาการปวดศีรษะ ปวดตา อาเจียน เพราะโมเลกุลในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดภาวะแรงตึงผิวเพิ่มขึ้นมาก
ในประเทศออสเตรเลียมีข่าวผ่านสื่อออกมาว่า ผู้ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์มีโอกาสเป็นมะเร็งสมองเพิ่มขึ้น เพราะสนามแม่เหล็กที่ส่งผ่านออกมาจากจอมอนิเตอร์หรือจอคอมพิวเตอร์ ที่ใช้หลอด Cathode-ray โดยมีแรงสนับสนุนยืนยันจากการศึกษาวิจัยที่เรียกว่า Adelaide Study ซึ่งเจาะจงศึกษามะเร็งสมองชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Glioma และศึกษาเรื่องการได้รับสนามแม่เหล็กกับมะเร็ง
นอกจากนั้นยังพบว่าผู้หญิง มีอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดนี้สูงขึ้น แต่เป็นเพียงแค่สมมุติฐานหนึ่งเท่านั้น เพราะจากการวิจัยพบว่า ยังมีส่วนที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องหลายอย่างที่สามารถเกิดขึ้น ได้อย่างไม่คาดหมาย จึงไม่สามารถยืนยันได้อย่างมั่นใจ
มีงานวิจัยมากกว่า 30 ชิ้น ที่รายงานผลการศึกษาในผู้ใหญ่ ที่ทำงานในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กสูง พบว่าเป็นมะเร็งหลายชนิด (ที่พบบ่อยคือ มะเร็งในเม็ดโลหิต มะเร็งสมอง หรือมะเร็งทรวงอก) นอกจากนั้นยังมีรายงานวิจัยบางชิ้น ที่เกี่ยวกับสตรีมีครรภ์ที่ได้รับสนามแม่เหล็กสูง พบว่ามีผลร้ายต่อครรภ์ในอัตราที่สูงกว่าที่คาดคิด
มีรายงานการวิจัยของต่าง ประเทศสรุปออกมาว่า รังสีของเครื่องคอมพิวเตอร์มีผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายคนเรา เช่น หญิงที่นั่งทำงานอยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกวันโอกาสตั้งครรภ์จะ น้อยมาก เด็กและหญิงมีครรภ์ไม่ควรอยู่ใกล้เครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะอันตรายจากรังสีคอมพิวเตอร์ มีอยู่มากมาย เช่น
- คลื่นรังสีจากคอมพิวเตอร์ ทำให้เซลล์ที่ควบคุมแคลเซียมของร่างกายทำงานเร็วขึ้นทำให้ง่ายต่อการเป็นมะเร็ง - รังสีจากคอมพิวเตอร์และมอนิเตอร์ และAccessoriesต่างๆ มีผลให้เด็กในครรถ์ผิดปกติ แท้งหรืออาจจะคลอดก่อนกำหนด - รังสีจากคอมพิวเตอร์ และมอนิเตอร์ ทำให้เยื่อจมูกอักเสบ ปวดศรีษะ นอนไม่หลับ หายใจไม่สะดวก ฯลฯ
เกี่ยวกับเรื่องการได้รับรังสีที่แผ่มาจากสนามแม่เหล็ก อย่างอ่อนๆ ที่มาจากคอมพิวเตอร์ ว่ามีผลเสียต่อสุขภาพนั้น มีผู้ที่ไม่เห็นด้วย เพราะยังไม่มีรายงานถึงการผลการวิจัยที่แน่นอนออกมา เนื่องจากบางครั้งผลการทดลองมีความไม่แน่นอนสูง จึงไม่ยืนยันต่อผลกระทบดังกล่าว
โดยในช่วง 20 กว่าปีที่ผ่านมา มีการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ กันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสายตาและต้อกระจก ปัญหาความผิดปกติของทารกในครรภ์และปัญหาผื่นคันตามผิวหนัง โดยองค์การอนามัยโลก (WHO press release, 1998) ได้สรุปไว้ดังนี้คือ
ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาสายตาและต้อกระจก ในการทำงานกับคอมพิวเตอร์ แต่อาจพบปัญหาตาล้า และอาการปวดศีรษะ ได้จากการเพ่งมองจอภาพคอมพิวเตอร์ที่มีแสงจ้า หรือแหล่งแสงสว่างสะท้อนอยู่ที่จอภาพเป็นเวลานาน
รายงานการศึกษาวิจัยทางระบาดวิทยาและการศึกษาในสัตว์ทดลอง หลายๆ ฉบับไม่สามารถอธิบายได้ถึงผลกระทบของรังสีคอมพิวเตอร์ที่มีผลต่อการ ตั้งครรภ์ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม ปัญหาความเครียด ความกังวลและท่าทางของการทำงานที่ต้องนั่งเป็นเวลานานๆ ซึ่งเป็นปัจจัยทางเออร์โก-โนมิคส์ อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ได้
ปัญหาผื่นคันตามผิวหนังในกลุ่มผู้ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการว่ามีสาเหตุ มาจากการสัมผัสสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ในช่วงคลื่นความถี่ที่แผ่ออกมาจากจอภาพคอมพิวเตอร์
แก้ไขเมื่อ 21 ก.ย. 53 11:31:14
จากคุณ |
:
PrincessBow
|
เขียนเมื่อ |
:
21 ก.ย. 53 11:29:02
|
|
|
|