"พี่คะ..มียาขับเลือดขายไหมคะ?"
คำถามของลูกค้า ที่ทำให้เราหนักใจทุกครั้งที่เจอ กี่ปีแล้วนะที่เจอคำถามแบบนี้ อย่างน้อยก็ต้องเจอเดือนละ 1 ครั้ง
ยอมรับว่าเมื่อก่อน ไม่รู้สึกอะไรมากกับลูกค้าที่ต้องการ "ยาประเภทนี้" คิดแค่ว่า ถ้าไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ ทำไมไม่คิดป้องกันเสียก่อนเล่า ยาคุมกำเนิดมีมากมายให้เลือกในท้องตลาด --ทำไมไม่กินเสียก่อนที่จะมาคิดฆ่าชีวิตน้อยๆนั่น-- ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
แต่วันนี้สิ...เจอคำถามนี้แต่เช้า "พี่คะ..มียาขับเลือดขายไหมคะ?" พร้อมกับหน้าตาของเด็กผู้หญิง ที่กังวลใจมากมาย หน้าตา รูปร่างดีทีเดียว เดาเอาว่าอายุไม่เกิน 18 ปี มีเด็กผู้ชายนั่งมอเตอร์ไซด์ใส่หมวกกันน๊อก รออยู่ด้านนอก
เราอุ้มลูกสาววัย 3 เดือนอยู่ในอ้อมกอด ตอบกลับไปว่า...
"น้องประจำเดือนขาดไปกี่วันแล้วคะ ตรวจครรภ์หรือยัง"
"เอ่อ...ขาดไปเกือบสองเดือนแล้วค่ะ"
"ตรวจครรภ์รึยังคะ"
"ตรวจแล้วค่ะ" (เสียงเหมือนอยากร้องไห้)
"ตั้งครรภ์ไหม"
"ค่ะ" (ก้มหน้า)
"อ้อ..งั้นไม่มียาขับเลือดแบบนั้นหรอกนะคะ พี่นึกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติ"
"ไม่มีเหรอคะ...พี่หนูจะทำไงดี เห็นเพื่อนบอกว่าตามร้านขายยาจะมีพวกยาเหน็บขับเลือดขาย เม็ดละพันกว่าบาท นี่ยังไม่ถึงสองเดือนเลยค่ะพี่ ขับออกได้ไหมคะ หนูยังเรียนอยู่เลย"
"ไม่มีค่ะ ขายไม่ได้หรอก และไม่มีขายค่ะ ผิดกฎหมายนะ ทำแท้งเนี่ย...น้องไม่ต้องไปหาซื้อหรอกค่ะ มันอันตรายกับตัวน้องเองด้วยรู้รึเปล่า ปรึกษาพ่อแม่ดูไหม พี่ให้คำแนะนำได้เท่านี้จริงๆ"
"พี่..แล้วร้านอื่นจะมีไหม"
"อย่าไปหาซื้อเลยค่ะ ไม่มีหรอก"
ว่าแล้วน้องสาวคนนั้นก็เดินออกจากร้านเรา เรามองตาม จึงเห็นว่าน้องเค้าเดินไปคุยกับแฟนหนุ่ม แล้วนั่งมอเตอไซด์ออกจากหน้าร้านเราไป
เราไม่รู้หรอกว่า น้องสาวคนนั้นและชายหนุ่มของเธอจะไปไหนกันต่อ จะไปหาซื้อยา "ขับเลือด" อย่างที่เธอต้องการกันอีกไหม กลัวเหลือเกิน กลัวว่าเธอจะเดินไปหา "ที่ทำแท้งเถื่อน" เพราะต้องการเอาก้อนเลือดที่มีชีวิตนั่น ออกจากร่างกายเธอซะ เธอจะรู้ไหมนะว่า มันอันตรายกับเธอยังไง ถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ไม่เพียงแค่เธอจะ "ขับเลือดก้อนนั้น" ออกไปได้ แต่เธออาจจะไม่มีวันตั้งครรภ์ได้อีก หรือถ้าตกเลือดมากไปหาหมอไม่ทัน เธออาจไม่ได้มีวันเจอหน้าพ่อแม่เธออีกเลย
พ่อแม่ของเด็กผู้หญิงคนนั้นจะรู้ไหมนะว่า ลูกสาวกำลังทำอะไรอยู่ รู้สึกหวาดกลัว เจ็บปวดกับอนาคตที่จะเกิดขึ้นนั้นอย่างไรบ้าง ถ้าพ่อแม่รู้ว่าเธอผิดพลาด พ่อแม่จะคาดโทษ รังเกียจเธอไหม หรือว่าพ่อแม่จะโอบอุ้ม ปลอบใจเธอ และพร้อมจะแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน
หลังจากที่เธอเดินออกจากร้านเราไป...เธอทำให้ในใจเรามันหนักอึ้งยังไงก็ไม่รู้ หลังจากที่สนทนากับเธอเสร็จ เราก็อุ้มลูกสาวของเรา เข้ามาในห้องพัก มองหน้าลูก กอดลูก เกิดคำถามขึ้นมากมาย เราจะเลี้ยงลูกของเราให้เติบโต และพ้นช่วงวัยอยากรู้อยากลองอย่างไร จะสอนเค้าอย่างไรว่า..สิ่งที่เค้าอยากรู้น่ะ บางทีมันอันตรายเกินกว่าที่เค้าจะรับไหว สมัยนี้จะสอนให้ลูกผู้หญิงอยู่ในกรอบ เหมือนสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่เราน่ะยากไปเสียแล้ว โลกใบนี้มันมีสิ่งยั่วยุมากมายเหลือเกิน ตอนนี้เราเลี้ยงให้ร่างกายเค้าเจริญเติบโต แล้วหัวใจเค้าล่ะ เราจะเลี้ยงหัวใจลูกให้เติบโตอย่างไร ให้เค้ามีภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับสิ่งยั่วยุต่างๆ ที่รายล้อมรอบๆตัวที่น่ากลัวเช่นทุกวันนี้
**ขอโทษนะคะ กระทู้ของเราไม่ได้มีเจตนาหรือจงใจมาตำหนิ ผู้ที่เคยผิดพลาดแต่อย่างใดเลย เพียงแต่เมื่อเราเจอเหตุการณ์อย่างเมื่อเช้านี้ เราเองก็มีลูกสาว เลยคิดไปว่า เราจะสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้ลูกอย่างไร ไม่ให้มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับลูกของเราค่ะ
เราคิดถึงหัวอกเด็กผู้หญิงคนนั้น คงจะนอนร้องไห้ คิดไม่ตกมาหลายคืนแล้ว แล้วพ่อแม่เธอล่ะ รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว และรู้ไหมว่าตอนนี้ลูกกำลังจะตัดสินใจอะไรลงไปบ้าง
ในเมื่อลูกทำผิดพลาดไปแล้ว คนที่เป็นพ่อแม่ควรจะอยู่เคียงข้างลูกในวันที่ลูกเจ็บช้ำ ปกป้องลูกในวันที่ลูกอ่อนแอไม่ใช่หรือ????
ไม่เป็นไรค่ะ หากจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างไปบ้าง แชร์ประสบการณ์ชีวิตกันค่ะ ยินดีมากค่ะ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
**แก้ไขคำผิดและเว้นวรรคให้อ่านง่ายค่ะ
**เพิมเติมข้อความค่ะ
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 16:40:39
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 16:36:27
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 14:23:29
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 12:22:02
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 12:16:26
"พี่คะ..มียาขับเลือดขายไหมคะ?"
