ความคิดเห็นที่ 1 จำได้ว่า พายัยเกลือทิพย์ไปกินข้าวร้านบัวศรีนครินทร์ ข้างซีคอนนั่นแหละ เจ้เกลือฯเขิน ไงไม่รู้เอาช้อนทิ่มแตงกวากระเด็นไปอยู่บนโต๊ะ ที่อยู่ข้างๆ จากคุณ : ทาสเทวี เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:05:52

ความคิดเห็นที่ 2 จำได้แต่สามีไปส่งกลับบ้านครั้งแรก อิอิ ตอนนั้นยังจีบๆกันอ่ะนะ ที่ทำงานใกล้ๆกัน เค้าเลยจะไปส่ง((เท่าที่ส่งได้อ่ะนะ)) แบบขึ้นรถเมล์อ่ะ จากสีลมไปรัชดาซอยเสือใหญ่((แต่สามีลงห้วยขวางเพราะถึงบ้านเค้าก่อน)) ที่ขึ้นรถเมล์เพราะจะได้อยู่คุยกันนานๆ ฮิ๊วววว!! ระหว่างที่ขึ้นรถเมล์ คนเยอะโคดๆอ่ะ ยังคิดอยุ่เลยกรูคิดผิดนะเนี่ย ที่จะยืนยังแทบจะไม่มี แถมเบียดซะ อ้ะ!! เบียด!! ป่าวๆ เราไม่ได้ยืมเบียดเค้าหรอก หุหุ ยังรักษาภาพอยุ่ เว้นระยะห่างนิสสนุง ระหว่างยืนคุยกันบ้างเกาะที่โหนบ้าง รถเมล์ก็เบรค เอี๊ยดดดดดดดด!! กรี๊ดดดดดด!! น้ำเน่าอ่ะ นางเอกเซ โผไปเกาะพระเอก แอ๊ะ!! แต่!! หืมมม!! กลิ่นเต่าสามีแรงมว๊ากกกกก!! โอวววว!! มาดามฟุ้งเชียว อารมโรแม๊นสส์กระจาย ได้แต่ยิ้มๆ บอกขอโทษค่ะแล้วพยุงตัวเองเกาะที่โหนใหม่ ไม่เป็นไร แค่กลิ่นตัว แบบนี้เค้าคงต้องการคนดูแล กิ๊กกริ๊ววว!! ตอนหลังๆเลยแอบซื้อน้ำหอมให้ แถมด้วยโรออนตอนวันเกิดดด 5555555+ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 19:01:01 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 15:27:11 จากคุณ : หนมจีนเส้นหนึบ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:26:22

ความคิดเห็นที่ 3 จำได้ว่านัดเดทครั้งแรกเขาดินเลยอิอิ แต่ที่ไปจริงจังก็นี่เลยฟิวเจอร์ฺพาร์คบางแคไปดูหนังไปดูทุกอาทิตย์ได้ดูแทบจะทุกเรื่อง แต่พอแต่งปุ๊บไม่ได้ไปเลยอ่ะ อิอิ จากคุณ : nunestja เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:27:39

ความคิดเห็นที่ 4 จำได้ หวานยังไง ก็ยังแบบนั้นนะ อิอิ ของเรา มันแบบ ฉุกละหุกอะ เคยเจอกะแฟนทีเดียวเอง เป็นเพื่อนของคนที่มาจีบเพื่อนเรา แล้วอีกวัน อยู่ๆ เขาก็โทรมาหา บอกว่า ขอชวนไปกินข้าว เพื่อนเรามันก็ยุ บอกไปเลยๆ -*- เราก็โคตรจะใจง่าย ไม่เคยรู้จักเลยอะ แถม ไม่เคยทำตัวแบบนี้กะคนอื่นด้วย แต่อยู่ๆ ดันตอบตกลงซะงั้นอ่ะ -*- ไม่เข้าใจตัวเอง พอวางสายโทรไป เพิ่งคิดได้ ตายละหว่า มะกี้ ชั้นทำอะไรลงไปฟ่ะ พอคิดได้ โทรกลับไป โทรแฟนเราดันแบตหมด -*- เลยแคลเซิลไม่ได้ พอมาถึงเรา เราก็เลย เออ เลยตามเลย วันนั้น มันแบบว่า อะไรก็ดูลงล๊อคอะ แฟนพาไปดูแมมโบ้ โชว์แบบคล้ายๆอคาซ่า -*- เราก็แบบ เออสนุกดี แบบเด็กบ้านนอกเข้ากรุง ก็ปลื้มๆ แล้วก็พาไปตึกใบหยก เขาถามว่า เคยเห็นวิวกรุงเทพแบบเต็มๆยัง เราก็ไม่เคย ก็เลยไปดูวิว ตอนใกล้จะปิด แล้ววันนั้น ตึกใบหยกก็ดันเปิดด่านฟ้าแบบโอเพ่น แล้วตอนที่เราไป ก็ดันไม่มีคนอีก โอ้ยยสุดๆ พอกลับมานั่งรถติดไฟแดง มีเด็กขายกุหลาบเคาะกระจกรถ แฟนเราก็เลยซื้อให้เรา มัดนึง โฮะๆๆ แล้วมันก็ดึกมากแล้วตอนนั้น ร้านอาหารอะไรก็ปิดหมด แฟนเราเลยพาไปกินก๋วยจั๊บน้ำใสที่เยาวราช + สั่งน้ำแตงโมปั่นกินกัน ( ไม่โรแมนติกและ 55 ) แล้วก็ชวนไปทำบุญโลงศพตรงวัดหัวลำโพง กลับมาก็คุยกันยาวมากกกก ถึง ตี 4-5 เลย ช่วงนั้น ตอนกลับมานี่คิดเลย โอ้ยยย โชคดีเว้ย ที่ใจง่าย ตกลงไป ก๊ากกกก พูดแล้วมันเขิล แต่ตอนนี้ เขาก็ยังเอาใจใส่ พาเราไปเที่ยว กินข้าว เหมือนเดิม ตลอดนะ 8 ปีกว่า จะ 9 ปีแล้วจ้า อิอิ ปล. ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันนี้ เรากะแฟน เจอหน้ากันแทบทุกวัน มาหาทุกเราทุกวันสม่ำเสมอจริงๆ ตอนนั้น เรากลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัด พี่ท่านก็ขับรถไปกลับกรุงเทพ ราชบุรี ทุกวัน เพื่อมาเจอ ตั้งแต่วันที่เขาพาเดทครั้งแรก วันต่อๆมา ก็มาพากินข้าวทุกวัน เราก็ใจง่าย ไปกินข้าว คุยโทร ตี 4-5 นานเป็นเดือน เขาก็เลยซื้อพีซีทีให้เรา 55 หลังจากวันเดท วันต่อมา แทบจะเป็นแฟนกันเลย เพราะรู้สึกว่า อะไรมันก็ ลงล๊อค มันแบบ รักแรกพบก็ได้ แต่แฟนเรากลับบอกว่า มันน่าจะเป็นอะไรแต่ชาติปากก่อนมากกว่า คงสัญญากันไว้ พอเจอกัน เลยจำกันได้ง่าย อิอิ เขิลล์ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 15:35:56 จากคุณ : chosen เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:28:59

ความคิดเห็นที่ 5 ได้จิ แหม เดทแรก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกไปภูเก็ต(เสร็จเลยเรา ฮี่ๆๆ) เค้าบอกว่า คราวหน้าถ้าเขามาเมืองไทยอีก มีวันหยุดสามวัน ไปเที่ยวภูเก็ต กับเค้านะ ในใจคิดว่าแหม ขอให้มาเถอะก่อนเถอะ  จากนั้น อีก๑เดือน ๑๘วัน เค้ามาเมืองไทย แล้วเราก็ไปภูเก็ตกัน สามวันมันเป็นอะไรที่น่าประทับใจ จริ๊ง จริง  ปัจจุบันก็ยังทำตัวน่ารักเหมือนเดิม คือเราจะไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ถ้ามีวันหยุด จากคุณ : jtsunod7 เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:29:41

ความคิดเห็นที่ 6 จำได้ตอนที่ความรู้สึกทั้งคูมันปิม ๆ อะคะ คือบีกับแฟนเป็นเพือนกันมานานแล้ว พอบีเลิกกับแฟนที่คบอยู่ตานี้ก็มาคอยให้คำปรึกษา คอยมาอยู่เป็นเพือนเทียว อยู่เป็นเพือนตลอด จนตอนสงกานต์ ไปเล่นน้ำ แล้วก็เดินเล่นกัน ก็ถามไปเลยว่ารู้สึกอะไรกับเราหรือเปล่ามาทำยังงี้มันคิดนะ ก็สรุปคบกันวันนั้นและคะ อิอิ คิดแล้วก็เขิลนะคะ จากคุณ : คุณแม่น้องเจ้าขา เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:31:40

ความคิดเห็นที่ 7 เดทแรก ไปที่ สยาม ไปนั่งกินไก่ KFC แบบว่าเราเขิลไง ไก่กระเด็นเลย อายสุด ๆ ส่วนสามีนั่งหัวเราะ เราก็งอลเลย ทุกวันนี้เข้าไปในKFC ทีไรก็นึกถึงวันนั้นทุกที จากคุณ : ยมฑูตน่าหวาน เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:37:07

ความคิดเห็นที่ 8 อิอิ อ่านเรื่องของแต่ละคนแล้วก็มานั่งยิ้มเขิล ไม่เชื่อเพื่อนๆ ลองอ่านของทุกคนดูสิค่ะ แล้วรับรองจะต้องนั่งยิ้ม แน่นอน เพราะความจำเหล่านั้นมันเป็นความทรงจำที่ดี ที่เราจะจำได้ไม่มีวันลืมกันเลยทีเดียว จากคุณ : NoNg_IcEJuNg เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 15:42:49

ความคิดเห็นที่ 9 ไปดูหนังเรื่องบางระจันค่ะ ดุเดือดรักชาติกันเลยทีเดียว จากนั้นก็แวะกินพิซซ่า ฮ่า ฮ่า คนละครึ่งถาดใหญ่ สามารถค่ะ ยังค่ะ เรายังไม่อิ่ม แต่นั่งร้านพิซซ่านานไปแล้ว ย้านที่กินไปร้านการ์โตร์ เฮาส์ พร้อมสั่งขนมปังหน้ากะเพราอีกก้อน ชามะนาวอีกแก้ว .. ระหว่างนั้นมีการถามเขาว่า................มองหน้าทำไม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า...... จริงใจสุดฤทธิ์ค่ะ ปล เรื่องที่คุยก็เกี่ยวเนื่องจากหนังที่ดู ประวัติศาสตร์ ตามต่อด้วยวรรณคดี ....กับกันได้ทั้งสองฝ่าย เลย วิน วิน ค่ะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:05:14

ความคิดเห็นที่ 10 พิมพ์ไปยิ้มไปเลยนะ เรื่องของเรื่อง อีเมล์คุยกันเรื่องทั่วไปบ้าง เรื่องหนังสือบ้าง ตอนนั้นซื้อหนังสือ จดหมายรักยาขอบ มาอ่าน เขาก็ขอยืมอ่าน แบบว่าแลกกันอ่าน เขาจะให้เรายืมหนังสือบทกวี  ก็นัดกันทางอีเมล์ ไม่เคยคุยกันเลยนะ ก็นัดเจอกันที่ฝายหิน มช. ดินเนอร์กันด้วยสลัดคนละจาน แล้วต่อด้วยไอติม จำได้ว่าเขาทิ้งเบอร์โทรไว้ให้เราโทรหาเขา เผื่อเลื่อนนัด เราก็โทรไปคอนเฟิร์ม เป็นการคุยครั้งแรกค่ะ ครั้งแรกที่เขาส่งเสียงมา ต๊าย ผู้ชายอะไรหว่า เสียงแหลมมากค่ะ ฮ่าๆๆๆ เราไม่เคยเห็นผู้ชายเสียงแหลมๆ อ่ะ ปกติผู้หญิงก็จะชอบใช่ไหม ผู้ชายเสียงทุ้มๆ นุ่มๆ ดูอบอุ่นๆ วันนั้นเราก็ไปช้านิดหน่อย พอเจอเขาเราก็ สวัสดีค่ะพี่ เพราะเขาอายุมากกว่าตั้ง 17 ปี ไม่เรียกอาก็ดีเท่าไรแล้ว หลังจากนั้นสองอาทิตย์ ก็อีเมล์คุยกันเหมือนเดิม แล้วเขาก็นัดคืนหนังสือ พาไปกินไอเบอรี่ ดูหนัง กินยาโยอิ ต่อด้วยมนต์นมสด รู้สึกว่าจะเอาของกินมาล่อใจเรา จากนั้นก็นัดถี่ขึ้นๆ พาขี่รถขึ้นดอยไปดูกุหลาบที่พระตำหนักภูพิงค์ ขากลับฝนตก เขาก็ชวนแวะเข้าบ้านเขา บ้านเขาอยู่ตีนดอยน่ะค่ะ เราก็นึกในใจ ไป ไม่ไป ไป ไม่ไป สุดท้ายเอาก็เอาว่ะ เอ๊ย ไปก็ดี ฝนมันตกหนักนะ อารมณ์ประมาณว่า ติดฝนหลบเข้ากระท่อมกัน พอไปถึงบ้านเขา พันตรีประจักษ์ก็บอกให้เราอาบน้ำสระผม เอาเสื้อผ้าน้องสาวเขามาให้เปลี่ยน เราก็ไม่กล้าอาบ ไม่กล้าแก้ผ้า เพราะห้องน้ำมันล็อกเสีย กลัวเขาบุกมาปล้ำอ่ะ ก็เลยล้างผมเฉยๆ แต่เขาก็ไม่ได้ประชิดตัวแต่อย่างใด แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันก็........ จากคุณ : MamyPunboon เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:11:43

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่ใช่เดทแรกได้ไหม เจอกันใหม่ ๆ ิติดรถเขาไปอบรมด้วยกัน เขาบอกว่าจะมาหกโมง เราร้องจ๊าก เช้าไป ขอเจ็ดโมงได้ไหม เขามองหน้า พอเขามาเจ็ดโมง เรายังไม่แต่งหน้าเลย เลยมาแต่งหน้าในรถ เขากลับประทับใจ ผู้หญิงอะไรจริงใจเป็นบ้า มาเพิ่ม ทุกวันนี้ แต่งมา 14 ปีแล้ว แต่ถ้าวันไหน กลางวันเขาโทรมานัดกินข้าว ยังรู้สึกดี เหมือนมีหนุ่นชวนเดท คุณยังเป็นหนุ่มน้อยในสายตาฉันเสมอนะ พ่อหมูอ้วน แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 16:17:07 จากคุณ : แม่น้องหยง เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:14:18

ความคิดเห็นที่ 12 นัดเดทครั้งแรก ไปดูหนังด้วยกันค่ะ เรื่อง """ บางระจัน """  วินัย ไกรบุตร กะ ตั๊ก บงกซ ที่ โรงหนัง เนวาด้า อุบล ค่ะ ที่ปล่อยให้ไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่าได้ไปด้วยกันง่าย ๆ เด้อ สู่ขอกันเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะได้ไป 2 คน สมัยนั้นโทรศัพท์มือถือ ไม่มีหรอกค่ะ จะมีก็แบบ ตั้งโต๊ะ นาทีละ 2 บาท ค่ะ เกือบ 10 ปีแล้ว แต่  "" รักเราไม่เก่าเลย ""     ปล. มีคนดูหนังเรื่องเดียวกับเราด้วยวุ๊ย 55 คุณตั้งเพ็กเง็ก  จากคุณ : บาหลี...ดินแดนในภาพวาด เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 16:37:10

ความคิดเห็นที่ 13 นัดเดทครั้งแรกของเราไปกันเป็นฝูงค่ะ  เดทกันที่ร้านนมมน (มน นะคะ ไม่ใช่ มนต์) หลัง มช. ถ้าเด็กมช. รหัส 42XXXX ถอยลงไปน่าจะรู้จักร้านนี้กันทุกคน สามีเป็นคนเพจมานัดก่อน หลังจากที่คุยกันทางแชตของมหาวิทยาลัยและอีเมล์ได้ 3-4 เดือน (แก่เน๊อะ..สมัยใช้เพจ อิอิอิ) เราก็กลัวว่าเค้าจะหน้าตาน่ากลัว ไม่น่าไว้ใจ เลยพาเพื่อนไปด้วย 3 คน ส่วนเค้าก็กลัวเรา เลยพาเพื่อนไปอีกคน (เค้ามาเล่าให้ฟังทีหลังว่า ถ้าเราหน้าตาไม่ดี จะได้รีบชิ่งแล้วให้เพื่อนนั่งอยู่ต่อแทน กรำ! แต่สุดท้ายเค้าก็ไม่ได้ชิ่งค่ะ อิอิ) แต่เดทกัน 2 คนจริงๆ หลังจากนี้ประมาณ 1 เดือน จำได้ว่าเป็นวันลอยกระทง เค้าพาเราไปลอยกระทงที่แม่น้ำปิงแล้วก็เดินซื้อขนมซื้อน้ำกินไปด้วยดูพลุไปด้วย จน 3 ทุ่มครึ่งก็รีบกระหืดกระหอบซิ่งมอเตอร์ไซค์มาส่งเราที่หอ เพราะหอเราปิด 4 ทุ่มค่ะ จากวันนั้นถึงตอนนี้ก็จะ 11 ปีแล้วค่ะ คบกันมาเรื่อยๆ เรียบจบ 2 ปี ก็แต่งงาน ตอนนี้มีลูกลิง 1 คน 6 ขวบครึ่งแล้วค่ะ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 17:55:17 จากคุณ : Sugar Prow เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 17:53:30

ความคิดเห็นที่ 14 ครั้งแรกที่ไปกัน 2 ต่อ 2 แต่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน เป็นช่วงบอลยูโรปี 2004 ค่ะ เราชอบอิตาลีมาก คอยเชียร์ตลอด เค้าก็จะคอยแซว ทีนี้เกิดพนันกันย่อย ๆ ว่าถ้าอิตาลี แข่งกับทีมไหนจำไม่ได้แล้ว ชนะ เค้าต้องเลี้ยงข้าวเรา แต่ถ้าแพ้ เราจะเลี้ยงเค้า ตกลงคืนนั้นอิตาลีแพ้ เราเลยต้องพาเค้าไปเลี้ยง ก็ชวนกันไปฟูจิ ที่เอ็มโพเรียม กินกันไป คุยกันไป ก็เลยรู้สึกปิ๊งวูบมาเลย (จริง ๆ ก็กินข้าวกลางวันกันเกือบทุกวันกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ แต่ไม่สปาร์คน่ะ เพราะเค้าเป็นรุ่นน้องเราและอายุอ่อนกว่า) ตกลงคืนนั้น เค้าจ่าย (ไม่ยอมให้ผู้หญิงเลี้ยง) เราก็เลยหาเรื่องพนันโน่น นี่กับเค้าบ่อย ๆ เพื่อจะได้หาโอกาสไปกินข้าว ดูหนังกน 2 คน 555  (แต่รายนี้ก็อิดเอื้อนน่ะ เพราะมีตัวเลือกเยอะ เด็ก ๆ ทั้งนั้น)  ไป ๆ มา ๆ เค้าก็ค่อย ๆ ตัดตัวเลือกออกไป เหลือเราคนเดียว คบกันมาอีก 3 ปี และแต่งงานมาได้จะ 3 ปีแล้วค่ะ จากคุณ : black onyx เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:08:11

ความคิดเห็นที่ 15 อิอิ จริงด้วย อ่านของแต่ละคนแล้ว อดยิ้มไมได้เลย ส่วนของเรานะ เป็นเพื่อนกันมานานมากตั้งแต่มัธยม แต่ก็สนิทอยู่ระดับนึ่งเลย เขาชอบเอาเรื่องสาวๆมาปรึกษาอยู่เรื่อยๆแล้วแถมตอนนั้นเขายังเป็นแฟนกับเพื่อนในกลุ่มเราด้วย ตอนนั้นเราก็ดีใจไปกะพวกมัน จนจบมอปลายก็แยกย้ายกันไป เรียนต่อเราเรียน กท ส่วนเขาเรียนที่ พิษณุโลก แต่ก็มีติดต่อหากันบ้าง เราก็มีแฟน เขาก็มีแฟน เวลาคุยก็(กรู มรึง) เลยนะ 5555 ดำเนินชีวิตกันตามปกติ และแล้ววันหนึ่ง เราอกหัก แล้วได้คุยกับเขาทางเอ็มและรู้ว่าเขาได้งานทำที่ กท ก้พูดก้เล่าให้เขาฟัง เรายังแซวเขาเลยว่า ใครจะมีความสุขอย่าง (มรึง) ละ มีแฟนดี รักกัน อบอุ่นจิงจิ๊ง  เขาก็ตอบกลับมาว่า เอาที่ไหนมาพูด ห่างกับแฟนมาสักพักแล้ว ไม่เข้าใจกัน อยู่ด้วยกันไม่ได้ ทะเลาะกันตลอด อ่าววว o_O ณ ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดไรนะ แต่ก็มีคุยกันมากขึ้น เหมือนมาปรับทุกข์กัน วันหนึ่งเราก็เกรงๆพูดขึ้นว่า ไหนเราก็ต่างไม่มีแฟน เรามาคบกันเอาไม๊ว่ะ เขาก็นิ่งไปพักเลยอ่ะ  เราเลยรีบบอก พูดเล่นนะพูดเล่น  แต่เขากลับบอกว่า จริงหรอ เราก็บอก จริงสิ หลังจากนั้นเราก็เริ่มคบกัน   มันเป็นอะไรที่เขินมากก  ที่ต้องเปลี่ยนคำเรียก จากเมื่อก่อน(กรู มรึง) เป็น ตัว เค้า  อิอิ เขินสุดๆ เวลาคุยกัน เวลาเจอกันก็ทำตัวไม่ค่อยถูก ยิ่งครั้งแรกหลังจากตกลง คบกันนะ  เราไปหาเขาที่หน้ารามจะไปเดินซื้อของ แล้วก็ลงรถเมล์ผิด เดินไกลมากเลย แถมเอาโน๊คบุค แบบ พึ่งกลับจากทีทำงานอ่ะ เขาก็มาถือให้หมดเลย แล้วหน้ารามอ่ะ คนก็เยอะเน๊อะ เขาจับมือเราเดินอ่ะ  กรี๊ดดดดดดดดดด หน้าแดง พูดไม่ออกเลย ของอะไรๆไม่ดูแล้วว ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียว หลังจากนั้นก็ไปนั่งกินข้าวกัน  กินไม่ลงอีก อิ่มคะ  อิ่มอกอิ่มใจ  นึกถึงแล้วก็เขินนนนจริงๆ   เดียวนี้ วันดีคืนดี ก็ยังเอามาแซวกันอยู่เลย  3 ปี แย้ววว  แถมน้องน้อยในท้อง 5 เดือน แต่ก็ยังหวานๆกันอยู่เลย ***เล่าซะยาวเลย จากคุณ : หงษ์ฟ้า (jollysissy) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 18:21:29

ความคิดเห็นที่ 16 เดทแรกที่ประทับใจสุดๆ เค้ามาส่งที่บ้านประมาณเที่ยงคืนได้ หลังจากไปโยนโบลว์กับเพื่อนๆ อีกหลายคน ส่งเสร็จ พอเค้าถึงบ้านโทรมาหา คุยกันต่อจนตีสองได้ เลยนัดกันว่าพรุ่งนี้ไปตลาดดอน หวายกัน  แต่ด้วยความคิดถึงมันเรียกร้อง ....ฮิ้ว..... เค้าบอกเด๋วไปรับเลยละกัน สรุปเดทแรกขับรถไปดอนหวายตอนตีสาม  แต่สุดท้ายทนความง่วงไม่ไหว ต้องจอดนอนที่ปั๊มข้างทาง ไปถึงดอนหวายยังไม่แปดโมง ตลาดยังไม่เปิดเลย     โชคดีไม่โดนจี้ตอนจอดนอนในปั๊ม   ขอเรียกว่าเดททรหดมากกว่า  :D จากคุณ : แม่น้องเอมม่า (คู่ใหญ่มหากาฬ) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 20:05:44

ความคิดเห็นที่ 17 นานมากๆ ตอนนั้นเราอยู่ม.1 เอง (แก่แดด) ไปเที่ยวห้าง นั่งกินข้าว เราแทบไม่กินเลยอายกล้วไม่งาม แต่สามีกินใหญ่เลย 555 ดูหนังเรื่องแรกด้วยกันเรื่องอะไรไม่รู้นานมาก จำไม่ได้ ผ่านมา15 ปีแล้ว ตอนนั้นอายุ 13 ตอนนี้ 28 หุหุ จากคุณ : goodi poo เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 21:19:28

ความคิดเห็นที่ 18 ช่วงนี้มีแต่เรื่องเครียดๆ - -"  ขอนึกถึงเรื่องไม่เครียดหน่อยก็แล้วกัน >_< คงไม่ใช่เดทแรก  แต่เป็นการได้คุยกันครั้งแรก  หลังจากที่ทำงานที่เดียวกันมาหลายเดือน ตอนที่ไปเรื่องเข้าบรรจุรับราชการ  เราเป็นคนท้องที่  เพื่อนเพียบ  ที่บรรจุด้วยกันมี 16 คน  ตอนเที่ยงเลยชวนกันไปกินข้าว  เราเห็นเพื่อนร่วมโรงพยาบาล(สามี)ยืนอยู่คนเดียว  เลยถามว่าไปทานข้าวด้วยกันไหม  จริงๆใครๆก็ต้องรู้ว่าเป็นการชวนตามมารยาทเฉยๆ  แต่พ่อเจ้าพระคุณดันตอบว่าไปครับ  แป่วววว - -"  เลยต้องให้ติดสอยห้อยตามไปด้วย(อย่างไม่เต็มใจ) จากนั้นเรื่องราวก็ยาวยืดเป็นมหากาพย์  ^ ^ เคยถามว่าตอนนั้นชวนตามมารยาทรู้หรือเปล่า  ตามมาด้วยทำไม?  สามีบอกรู้  แต่เห็นทำท่าเหมือนไม่อยากให้ไปเลยประชดซะเลย   แอบเล็งเค้าอยู่อ่ะดิ๊  ฮิ้ววววววววว > < จากคุณ : Lucky Lilac เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 21:50:58

ความคิดเห็นที่ 19 ตามมาเล่าด้วยจ้า เดี๋ยวเติมโซดาด้วยจะได้ซ่า ๆ ของเหมียวกับแฟนนี่มาจากคนละมุมโลกเลยจ้า เจอกันครั้งแรกเราก็แต่งตัวสวย แต่งหน้าทำผมเรียบร้อย แต่เค้ามาแบบวัยรุ่นมาก ๆ แบบปอนด์ ๆเสื้อผืดเก่า ๆกางเกงยีนส์ รองเท้าแตะ 555 แถมเวลาเดิน การพูดการจานึกว่ากระเทยซะงั้น ยิ่งได้คุยก็คิดว่าผู้ชายคนนี้ทำไมเจี๊ยมเจี้ยมจัง จบวันแรกที่เจอปุ๊บ โทรบอกเพื่อนเลยว่า เราเจอกระเทยแน่ๆ 555 นั่นคืนแรกที่เจอกัน คืนต่อมาไม่เข็ด โทรมานัดอีกอยากเจอ เราก็ไปทำงานมา แต่ชุดทำงาน เสื้อโปโลบริษัท กางเกงสแลก รองเท้าผ้าใบ ต่างกันราวฟ้ากะดินกับวันแรก ผมนี่บานกระเซิงมาก ๆกลับมาจากทัวร์ แต่เค้ามาวันนี้แต่งตัวหล่อ เสื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาว กางเกงสแลค แถมด้วยรองเท้าหนัง ดูเป็นคนละคนแต่ที่เปลี่ยนไม่ได้คือท่าเดินทิ้งก้นจ้า ไงๆ ก็ชัวร์ป๊าบว่าไม่ใช่ชาย แบบแอบคิดไปเอง อิอิ พอวาเลนไทน์นัดอีก คราวนี้เอาเพือ่นไปด้วย ไปช่วยกันดู สองหัวดีกว่าหัวเดียว สรุปเพือ่นบอกว่า ยังไงผู้ชายคนนี้ก็ใช่แบบที่เราคิด เลยบอกว่าเพื่อนกันเท่านั้นไม่มากไปกว่านี้ ...... จากวันนั้นถึงวันนี้ คอนเฟริ์มว่าเป็นชาย 1000% จ้า มีนางฟ้าตัวน้อยๆ น่ารักอีกหนึ่งคนมาเป็นโซ่ทองคล้องใจ อนาคตเป็นไงไม่สำคัญมีกันและกันทุกวันแบบนี้ตลอดไป รักนะ ที่รัก .... joob joob แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 22:23:17 จากคุณ : แม่น้องเอลล่า (ella040210) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:21:18

ความคิดเห็นที่ 20 อิอิ อ่านไปก็ยิ้มไป ตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้โหวดของสัปดาห์นี้ได้ไม๊เนี่ย ให้พันทิพมีความหวานชื่นกันสักอาทิตย์ 1 เป็นไง อิอิ จากคุณ : NoNg_IcEJuNg เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:35:19

ความคิดเห็นที่ 21 555 ชอบเดทแรกของทุกๆคนเลยจร้า อ่านแล้วก็มีความสุขค่ะ ยิ่งถ้าอยากให้มีความสุขมากกว่านี้ ต้องให้สามีของแต่ละคนมาอ่าน อิอิ จะมีความสุขมากกว่านี้อีกเนอะ อาจจะหวานเจี๊ยบอีกครั้งก็ได้ แหะๆๆ จากคุณ : NoNg_IcEJuNg เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:39:01

ความคิดเห็นที่ 22   ตอนแรกก็ดีอะคะเอาใจ ตามใจทุกอย่าง เดี๋ยวนี้แม้แต่ชวนยังไม่มี สงสัยต้องอยู่คนเดียวจิงๆละม้าง เส้าคะ จากคุณ : เนย์ (naeLP) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 22:51:31

ความคิดเห็นที่ 23 เล่าเพิ่มเติม ตอนไปดูหนัง หนังเลิกก็ดึกมากแล้ว ทีนี้ก็กำลังจะลงลิฟท์กัน ระหว่างรอพี่แกก็แอบหอมหัวเราอ่ะ กรี๊ด แบบว่าเขินมากๆ ที่เขินไม่ใช่อะไร เพราะดิฉันหัวเหม็นค๊า เป็นคนผมมัน ต้องสระทุกวัน แต่วันนั้นมันรีบจริงๆ สระไม่ทัน พี่แกก็หน้าปูเลี่ยนๆ  อิอิ คิดว่าพี่แกคงประทับใจเราตรงนี้แหละ จากคุณ : MamyPunboon เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 53 23:02:09

ความคิดเห็นที่ 24   วันนั้นเลิกเรียนตอนปี 1 ณ ม.หอการค้า ประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ก็กลับหอที่อยู่หน้าม. ใช้ชีวิตตามปกติ พอ 4 ทุ่มกว่าๆ แฟนตอนนั้นเป็นเพื่อนกัน โทรมาชวนไปกินลาบ ส้มตำ ที่ห้วยขวาง ก็ตกลงไป ไปกัน 4 คน เพื่อนๆกัน พอลงไป จะเดินไปหาแท๊กซี่หลังม. แฟนเดินจับมือ ตลอดเวลา ยังถามว่า "นี่แกเป็นอะไรมากป่าวว่ะ มาจับมือฉันทำไม" ยังงงๆอยู่ ส่วนเพื่อน แอบเชียร์ให้เป็นแฟนกัน กินเสร็จ ก็กลับ ลงแท๊กซี่ แฟนเดินมาส่ง เพื่อนเหมือนรู้ แยกกลับ ทั้งๆที่หอก็อยู่ใกล้ๆ แฟนเดินจับมือตลอด พอถึงหอ บอกว่า เรามาลองคบกันดูม่ะ เขินอ่ะ แต่ดันตกลงซะนี่ 5555+ จากคุณ : ความรักสีขาว เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 01:00:01

ความคิดเห็นที่ 25 เดทแรก โดนบังคับไป สามีเดินมา "ชั้นอยากไปเดท กับเธอ" เรา " ไม่ไป" สามี "ไม่ได้ ต้องไป" บอกวันเวลามาเสร็จ เรา " เอาเพื่อนไปด้วยได้ไหม" สามี " ไม่ได้ ชั้นอยากไปเดทกับเธอสองคน ไม่ได้อยากไปกับเพื่อนเธอ" เรา " งั้นขอถามเพื่อนก่อนนะ" สามี " ถามทำไม เพื่อนนะไม่ใช่แม่" เรา " ชั้นกลัวเธอไงล่ะ" สามี "ถ้าไม่ไว้ใจนะ ให้ไปแจ้งฝ่ายบุคคลที่ทำงานได้เลย เอาประวัติเขาไป ถ้าพรุ่งนี้มีอะไรสึกหรอ แจ้งความได้เลย บลาๆๆๆๆ" เสร็จแล้วเอากระดาษจดวันที่กับเวลามายัดใส่มือเรา สามี " จะไปรับตามเวลาที่จดไว้ในกระดาษ ถ้าไม่มาละก็ จะยืนตะโกนเรียกเราอยู่หน้าห้องนั่นแหละ !!!!!!! ด้วยความหน้าบาง เราเลยต้องไปเดท ตอนเดทกันจริงๆก็แผงฤทธิ์อีกค่ะ พาเราขึ้นรถไป ชวนเราคุยนั่นนี่เยอะมาก เก็บข้อมูลแบบเราไม่รู้ตัว แต่ไม่มีดุเลยค่ะ พอไปถึงร้านอาหารก็จะสั่งอาหาร เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาสั่งให้ แล้วก็ถามพนักงงานเสริฟว่า อาหารแบบนี้มีไหม รสชาติแบบนี้ๆๆมีไหม พนง.ก็ว่าไม่มี มีแต่ตอนช่วงเย็น เขาก็ว่าไปทำมา แล้วเอารสชาติแบบนี้ๆๆๆ พนง.ก็ว่า ไม่ได้หรอก เพราะเชฟก็ทำตามมาตราฐานร้าน เดี๋ยวโดน ผจก. ดุ แฟนเราก็บ่น ต้องเอามาให้ได้ เดี๋ยวเขารับผิดชอบเอง บลาๆๆๆๆๆ แล้วก็ได้มาจริงๆค่ะ กินไปมองหน้าไป มองจนจะละลาย แล้วใครจะไปกินลง เสร็จแล้วพาออกไปเดืนเล่นชายทะเล เล่นเป่ายิงชุบ ใครแพ้เดินลงทะเล (อันนี้สามีเห็นว่า เราชอบเล่นเป่ายิงชุบกับเพื่อนที่ทำงานค่ะ เล่นกับเพื่อนทุกวัน แพ้ดีดหน้าผาก เลยมาชวนเราเล่น) เสร็จแล้วตัวเปียก ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน อันจริงเป็นแผน หลอกให้เราไปเจอแม่เขาค่ะ ไปที่บ้าน ปล่อยให้เรานั่งกับแม่เขาสองคน อยู่นานมาก เสร็จแล้วก็พาเราขับรถออกไปเลย แม่เขาโทรมาถามบลาๆๆๆ พูดภาษาจีนกันเราฟังไม่ออก เขาบอกว่า แม่เขาโทรมา ถามว่าเราเป็นใคร เขาตอบแม่ไปว่า เราคือคนที่เขาอยากแต่งงานด้วย (ตอนนั้นคิด เอ่อ แมร่ง เว่อ มากมาย) เสร็จแล้วเขาพูดขึ้นมาว่า เขาเองน่ะ มีบ้าน มีรถ มีหน้าที่การงาน ถึงแม้จะไม่ได้ดีมากมายอะไร แต่ที่สำคัญ เขามีความจริงใจ และรักครอบครัว เขาดีพอที่คนอย่างเราจะแต่งงานกับเขาไหม เราก็อึ้งๆ คิดอยู่ นี่มันขอเราแต่งงานเปล่าวะ เราก็ตอบไปสั้นๆ ว่า มันเร็วเกินไป ก็แหมๆๆๆ รู้จักกันเดือนกว่าๆ เดทกันไปวันเดียวขอตรูแต่งงานเลยหรอเนี่ย เรื่องเดทบ๊องของเรา เป็นอันรู้ไปทั่วกันในหมู่เพื่อนฝูงค่ะ เพราะใครๆก็ว่า มันฮามากมาย จากคุณ : ตุ๊กตาดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 05:56:32

ความคิดเห็นที่ 26 ของเราปกติ ไม่หวาน เพราะเป็นเพื่อนกัน^^  เลยแต่แต่แอบอ่านของคนอื่นแล้วอมยิ้มตามอะค่ะ จากคุณ : sui_k เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 08:29:59

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วยิ้มตามทุกอันเลยค่ะ แล้วทำไมเราจำไม่ได้เลยอ่า ว่าไปกะเค้าที่ไหน ฮือๆ จากคุณ : Dream@Torfun เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 08:44:43

ความคิดเห็นที่ 28 อ่านไปอมยิ้มไปจริงๆค่ะ เล่าตอนเจอกันครั้งแรกได้ไหมคะ ... ตอนนั้นที่คณะ ชั้นปีของเราจัดไปเที่ยวที่ทะเล แต่ว่าช่วงนั้นยังมีสอบเหลืออีก 1 วิชาไง เพื่อนบางคนก็ไม่ไป ที่นั่งบนรถมันเหลือ เลยชวนรุ่นพี่ที่สนิทๆไปเพิ่ม เพื่อนรุ่นพี่ก็ไปชวน "อีตาคนนี้" มาด้วย (แก้งค์เดียวกันมั้ง...คอเหล้ากันสุดๆ) มาเจอกันบนรถนั่นแหละ (จริงๆเราเคยเจอเค้าก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว ตอนเราอยู่ปี1 เค้าอยู่ปี2 แอบปิ๊งเค้าแหละ หนุ่มมาดเซอร์ ผมยาว ใส่แว่น แต่ตอนนั้นเค้ามีแฟนอยู่แล้ว เราเองก็มี แค่แอบปี๊งเฉยๆ) มาเจอกันอีกที เค้าโสดหมาดๆ แต่เราโสดนานแล้ว 555 ไปเที่ยว 3 วัน 2 คืน ไม่เคยพูดกะเราซ้ากกกคำ ได้แต่มองแล้วอมยิ้ม --แน่ะ-- จนวันสุดท้าย ขากลับ เดินเอาผลไม้มาให้ชิม เราบอก "ขอบคุณค่ะ" แต่ไม่ได้กินของเค้านะ เค้าก็เลยถือถุงผลไม้ยืนเก้อตรงนั้น หน้าแตกไปตามระเบียบ หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เค้าก็โทรมาหาที่บ้านคุยกันตั้งแต่ 2 ทุ่มยันตีสอง เป็นอย่างนี้อยู่ 5 วัน แล้วก็คบกันมาเรื่อยๆ มารับส่งเรา เพื่อไปเรียนตามตึก เป็นแฟนกันเมื่อไหร่ไม่รู้ 555 จบมาไม่เท่าไร เราก็ลงทุนเปิดร้านกันสองคน หลังจากนั้น 2 ปี เข้าปีที่ 3 ก็แต่งงาน แต่งมา 7 ปี ถึงได้มีไอ้ตัวน้อย ร้านที่ลงทุนเปิดกันตั้งแต่แรก ก็ยังอยู่จนปัจจุบัน เค้าเคยถามหลังมีลูก "ยังรักกันไหมนี่" "รักสิ แต่รักลูกมากกว่าหน่อยนึง" "เออ..ยอมให้คนเดียวนะ" ยังคิดอยู่เลย เมื่อก่อนโทรคุยกันไปได้ยังไงตั้งหลายชั่วโมง ไม่มีมือถือด้วยนะ ใช้โทรศัพท์บ้าน เดี๋ยวนี้ใช้มือถือโทรสะดวกกว่าเยอะ คุยกันแค่ 5 นาที ก็บ่น "โอ๊ยยย...แค่นี้นะอ้วน เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว เปลืองตังค์เค้าว่ะ" 5555 จากคุณ : กลับบ้านเถอะที่รัก เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 09:00:46

ความคิดเห็นที่ 29 อ่านไปยิ้มไป หันหน้าไปถามสามี เค้าบอกว่าจำได้ แต่นั่นมันอดีต ตอนนี้มันเป็นปัจจุบัน ต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว 5555555555 เรานั่งฟังล่ะเซ็งเลย นึกถึงวันแรกที่นั่งทานข้าวด้วยกันสองต่อสองในร้านอาหารบรรยากาศดีที่วอร์เตอร์ไซด์ (คิดว่าจำชื่อไม่ผิดนะ) พูดอะไรก็สนุก ทำอะไรก็เขินอู๊ยยย...อะไรก็ดูหวานแหววไปหมด แต่พอดูทุกวันนี้แม้จะไปทานข้าวสองคนกันบ่อยมาก แต่ก็กลับพูดแต่เรื่องอื่นๆขาดความหวานซะนี่กะไร พ่อตัวดีแทนที่จะมองหน้าเราเหมือนวันแรกกลับมาแต่จอบอล พูดแล้วเซ็ง แต่อย่างน้อยกระทู้นี้ก็ทำให้สามีเรานึกถึงวันเก่าๆได้เหมือนกันน๊า ... ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : pattypat106 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 09:42:03

ความคิดเห็นที่ 30 ขอแอบเล่าบ้าง     เดทครังแรกกับ ผบ.ทบ. บินตรง BKK-HK เลยครับ แฟนผมไปทำงาน ที่HK เรารู้จักกันตั้งแต่ยุค irc. น่ะครับ ย้อนไปก็ หลายปีเหมือนกัน แต่ก็รู้จักเป็นเพื่อน นาน ๆ คุยกัน ที  ไม่ได้สนิทสนม หรือถูกสเปคแต่อย่างใด           จนวันนึงผมไปเจอสาวจีนคนนึงเธออยู่ HK แล้วพอดีว่า ช่วงนั้นแฟนผมทำงาน ที่ HK พอดี ก็เลยลองให้เป็นแม่สื่อให้หน่อย แต่สาวจีนเธอมีสามีแล้ว.. ก็เลยล้มเลิกความหวัง แต่ก็ ยังคุยกับแฟนผมเรื่อยมา จน เอะ ใจได้ว่า ผมชอบแม่สื่อ ซะเองแล้ว       แฟนผมก็เลย ชวนผมไปเที่ยว HK (เป้นครั้งแรกที่ผมขึ้นเครื่องบิน และ ขึ้นคนเดียว)  พอไปถึงเธอเป็นไกด์ ให้ผม ตั้งแต่ต้น จนจบ หลงรักเลยครับ ทีนี้            ตอนนี้ แฟนผมกลับมาทำงานที่เมืองไทยแล้ว กำลังเก็บเงิน รอบนี้ ไม่ใช่เดท แล้วครับ แต่ผมจะไป " ฮันนีมูน"  แทน ละครับผม พร้อมด้วย สัญญาใจ อีก 1 ตัว ครับ 55 หมายถึงลูกชายน่ะ ครับ จากคุณ : i love Hongkong (PJladd) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 09:57:13

ความคิดเห็นที่ 31 เดทแรกที่ถนนข้าวสารค่ะ  เจอหน้าเค้าครั้งแรกเรารู้สึกว่าถูกชะตามาก  ดูเค้าก็เขินๆ   เป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกด้วย   เราก็เขิน    แต่ตอนนั้นคิดว่าในฐานะที่เราเป็นเจ้าบ้าน  ต้องต้อนรับเค้าให้ดี  ภาษาไทยเค้าไม่เข้าใจ  เลยภาษาญี่ปุ่นงูๆปลา๐ไป  แต่แปลกนะ  เหมือนมันคุยอะไรก็เข้าใจ  สนุกไปหมด    เลยพาเค้าไปถนนข้าวสารค่ะ  คนเยะมาก  เดินเบียดๆกัน  เราก็เลยยื่นมือไป  บอกว่า *จับมือเราไว้นะ  คนเยอะ  เดี๋ยวพลัดหลงกัน  *   5555555+คิดแล้วก็  ขำตัวเอง  คิดได้ไงมุขนี้  555+  เค้าก็เหมือนจะประทับใจเราตรงนี้    จนถึงทุกวันนี้มีเวลาว่างก็จะหาเวลาไปเดทกันตลอดค่ะ จากคุณ : แม่ยูอะ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 10:11:25

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้ดุด กีบบบบบบบบบบ คนโสด อิจฉา อย่างแรง 555+ จากคุณ : Mu_jumP เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 10:30:03

ความคิดเห็นที่ 33 เดทแรก กับสามี นานมากแล้วค่ะ ตั้งแต่ ฟรองค์ 98 โน้นแน่ะ ไปดูฟุตบอลกันกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ค่ะ เรายังเรียนอยู่ ปี 3 แต่มีเพื่อนที่ทำงานแล้วชวนพี่ที่ทำงานไปด้วยอีกกลุ่มใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิศวกร คุณสามีเป็นหนึ่งในนั้น มีทั้งผู้หญิง และผู้ชายประมาณเกือบ 30 คน ตอนเชียร์บอล เราก็ลุ้นกันมันมาก แต่เราสังเกตว่ามีคนคอยมองอยู่ (เขิลลลลลอ่ะ) หลังจากนั้นเพื่อนก็แนะนำให้รู้จักและยุให้คุณสามีจีบเรา เพราะเราพูดมาก ส่วนสามีไม่พูดเลย กลุ่มเพื่อนบอกว่าเหมาะกันดี ก็เลยลองคบกันมา ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านเศร้า ผ่านฮา มา 7 ปีแต่งงานในปี 2005 ตอนหลังแต่งงานยังมานั่งถามอยู่ว่าปิ๊งเราเพราะอะไร เค้าบอกว่าเรามีชีวิตชีวา แถมชอบดูบอลเหมือนกัน แต่ชอบคนละทีม ตอนนี้พอดูบอลทีก็ทะเลาะกันที ไม่รู้ดีหรือไม่ดี 555 จากคุณ : แม่น้องกิมไน้ (Kimnice's mom) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 10:55:42

ความคิดเห็นที่ 34 หุหุหุ เมื่อ 11 ปีที่แล้วนะคะ เดทกันครั้งแรก ไปกินไอติมค่ะ สเวนเซ่น ด้วยความเป็นสาวน้อยร่างบางของเรา ก็กินแบบสปีดปกติน่ะค่ะ หมดถ้วยแล้ว พี่เค้ายังไม่ถึงครึ่งเลย (เมื่อก่อนเรียกพี่ค่ะ ห่างกัน10ปีแน่ะ เดี๋ยวนี้เรียกไอ้อ้วน กร๊ากกกกก) เค้าเห็นเรากินหมดถ้วยแล้ว เลยถามว่าเอาอีกมั้ย ด้วยความที่ตอนเด็กๆแม่เคยสอนว่า ผู้ใหญ่ให้ของก็รับไว้ลูก ก็เลยสั่งอีกถ้วย แหะๆๆ นี่เป็นเรื่องที่เราประทับใจเค้ามากค่ะ เพราะเกิดมาไม่เคยมีใครถามเลยว่าจะเอาไอติมอีกถ้วยมั้ย ส่วนเค้ามาเล่าทีหลังว่า ถามตามมารยาท+แอบประชด เพราะเรากินเร็วจัด หุหุหุ 6 ปีต่อมาก็แต่งงานกัน ตอนนี้แต่งมา 5 ปี ลูก 2 แล้ว เค้าไม่เคยถามอีกเลยว่า เอาอีกถ้วยมั้ย *แก้พิมพ์ผิดเยอะเลยจ้า* แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 53 11:46:04 จากคุณ : lekumi เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 11:37:13

ความคิดเห็นที่ 35 เดทครั้งแรก เค้าพาไปดูหนังเรื่อง we were soldier หนังสงครามสุดฤทธิ์ ทั้ง ๆ ที่เรามันสาวกโรแมนติกคอมเมอดี้และเกลียดหนังเลือด ๆ หนังผีมาก ๆ ตอนถามเค้า เค้าก็ดันอยากดูเรื่องนี้ ในใจเราก็คิด "งานเข้าซะแล้วเรา จะดูคุ้มไม๊เนี่ย" อดทนดูจนจบค่ะ เค้าจะพาไปทานข้าว แต่..... เราทานไม่ลงเพราะฉากติดตาของหนังเรื่องนี้่ สุดท้าย เราก็เลยนั่งเป็นเพื่อนเค้าทานข้าว และเราก็บอกเค้าว่า " เกลียดหนังสงครามอ่ะ ดูแล้วไม่มีความสุขเลย คราวหน้าขอเลือกหนังมั่งได้ป่ะ" ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เค้าไม่เคยได้เลือกหนังเลยค่ะ อิอิ ภรรยาธิปไตยสุดสุด จากคุณ : เลขาหน้าใส เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 11:45:07

ความคิดเห็นที่ 36 ปกติเมื่อก่อนเวลาเจอกันกับสามีจะเจอกันเป็นกลุ่มซะส่วนใหญ่ เนียนเป็นแบบเป็นเพื่อนก่อนไง แต่เดทแรกที่เป็นทางการ เพราะไปกัน 2 ต่อ 2 ก็ไปดูหนังกัน เรื่อง Eagel eyes มั้งถ้าจำไม่ผิด เพราะว่าไอ้ดิฉันดูได้ไม่ถึงครึ่งเรื่อง ทนดูต่อไม่ไหว อ้วกซะงั้น 555+ เลยเป็น date แรกที่สุดแสนประทับใจมาจนถึงบัดนี้ ป.ล. แอบถามคุณสามีว่า ถ้าเราไปดูหนังแล้วอ้วกอีกจะทำไง พ่อคุณดันตอบว่า เธอก็เดินไปห้องน้ำเองสิ ส่วนฉันจะดูหนังต่อ ถ้าเธอไหวก็กลับมาดู ถ้าไม่ไหวก็กลับไปก่อนสิ ดู๊ดูมัน หมดโปรก็เงี้ยแหละ จากคุณ : anana เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 12:00:49

ความคิดเห็นที่ 37 # 10  มาเล่าต่อให้จบซะดีๆ จากคุณ : ENNUI เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 12:28:53

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วน่ารักทุกคู่เลยค่ะ   ย้อนกลับไป 14 ปีแล้วค่ะ  นัดไปดูหนังกันเรื่องแรก ทวิสเตอร์  ที่ฟิวเจอร์บางแค  และก็ไปทานข้าวกันต่อที่ฟาสต์ฟู้ด  ไอ้ตอนทานข้าวนี่แหละค่ะ ลำบากมาก  เพราะเขิน  จะกินก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ดี เดี๋ยวเส้นก๋วยเตี๋ยวลื่นหลุด น้ำแกงกระเด็น นู่น นี่ นั่น  คิดสารพัด  แฟนดันเดินไปซื้อกุยช่าย มาชวนกิน  เราก็ไม่กล้าแตะเลย เพราะคิดแล้วว่า ผักต้องติดฟันชั้นแน่ ๆ กลิ่นของกุยช่ายก็ไม่ธรรมดา  เหอ ๆ สรุปงานนั้น ไม่ได้ทานอะไรเลยค่ะ  กลัวภาพลักษณ์ไม่ดี อิอิ เป็นเดทที่ทรมานท้องมากมาย เพราะหิว  แต่มีความสุขมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : แม่ยูนีฟกะน้ำหวาน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 12:41:02

ความคิดเห็นที่ 39 อดีตเอาอกเอาใจคุณสามีสารพัด ปัจจุบันมีลูกแล้วเอาใจลูกแทน 555 เรื่องของเรื่องไม่มีเวลาดูแลสามีเลยคะ เวลาไปอยู่กับลูกหมดแล้ว แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 53 12:59:55 จากคุณ : แม่น้องอินดี้ (mother-platinum) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 12:59:26

ความคิดเห็นที่ 40 จำได้..  แต่ไม่เล่า.. เข้ามาเพสของคนอื่นอย่างเดียวพอ!! เย้ย.. ไม่ใช่.. ต้องเอาลูกนอนแว้ว.. เล่าไม่ทัน..เรื่องมันยาว จากคุณ : อาเล้ง (King of Alan) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 13:01:01

ความคิดเห็นที่ 41 จำเดทครั้งแรก ไม่ค่อยได้ค่ะ จำได้แต่ว่าค่าโทรศัพท์เดือนแรกที่คุยกันปาไป 8 พัน 10 ปีมาแล้วค่ะ  กับคำสัญญาในวันเป็นแฟนกันว่า จะไม่มีวันทำให้เราเสียใจ เลยได้ลูกมาสอง ปั๋วมาหนึ่ง ทุกวันนี้ยังมึนๆอยู่เลยค่ะ ชีวิตมาได้ขนาดนี้เลยเหรอ ว่าแล้วก็อยากกลับเป็นโสด จะได้มาจีบกันใหม่ ทบทวนความจำ จากคุณ : คุณแม่เนเน่นาน่า เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 13:32:43

ความคิดเห็นที่ 42 จำได้ค่ะ แม้จะผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ตาม เดทแรกที่เมเจอร์รัชโยธิน ไปดูหนังด้วยกันเรื่อง Bring it on ดูเสร็จกินข้าว แล้วบ้านใครบ้านมัน 555 จากคุณ : แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 14:48:54

ความคิดเห็นที่ 43 5555 อ่านแล้วมีความสุขจังเลยค่ะ กระทู้นี้ อิอิ อ่านแล้วก็อดเขินแทนแม่ๆแต่ละคน ไม่ได้ อิอิ ใครเข้ามาอ่านใหม่ ต้องอ่านให้ครบทุก คห. นะค่ะ แล้ววันนี้คุณจะมองแฟนตาหวานเยิ้มเลยทีเดียวอิอิ จากคุณ : NoNg_IcEJuNg เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 15:07:45

ความคิดเห็นที่ 44 เข้ากระทู้นี้ได้ย้อนกลับไปคิดถึงอดีตที่แสนจะหวานอีกครั้งนะคะ นัดเดทครั้งแรกที่เซ็นทรัลพระราม2 ทาน MK แต่ไม่เขินนะเพราะเอาหลานไปด้วย แก้เขิล  อืม ผ่านมานานแล้วหมือนกัน ตั้งแต่ปี 49 โน้นและ แต่วันนี้ได้รำลึกนึกถึง แอบอมยิ้มด้วยนา อืมมมม มีความสุขดีจังเลยคะ ป.ล ครบกัน 6 เดือน ไปรับ-ส่งกลับบ้านทุกวัน เราทำงานอยู่แถวเซ็นทรัลปิ่นเกล้า บ้านเราอยู่บางมด  สามีอยู่ คลองตัน เพิ่งจะมาบอกตอนแต่งงานแล้วว่า เติมน้ำมันเดือนเป็นหมื่น แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 53 16:40:04 จากคุณ : ลูกกาหยูของแม่นก เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 16:23:01

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนเป็นแฟน ตะเองๆ ตอนเป็นเมียใหม่ๆ เมียจ๊ะเมียจ๋า ตอนนี้น่ะหรอ เรียกเราอีหวึ่ง จากคุณ : นับหนึ่งอีกครั้ง เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 16:39:09

ความคิดเห็นที่ 46 จำได้วานัดแรก  คือวาเลนไทน์  เราไปตามนัดเลทไป 2 ชั่วโมง  เพราะมัวแต่ขับรถพาเพื่อนไปแอบดูว่าแฟนมันนอกใจหรือเปล่า  และก้องานเข้า  ต้องไปห้ามมวยอีก -*- ทำให้นัดตัวเองไปเลท ไปถึงแฟนนั่งอ่านหนังสือทำงานอยู่ในปั๊มน้ำมันหน้ามุ่ยๆ   จริงๆ เรานัดกันเจอห้างแถวบ้านแฟน  แต่เราไปสายจนห้างปิด  เขาเลยออกมารอร้านกาแฟในปั๊มแถวนั้น   ถามเขาทีหลัง  เขาบอกว่าเซ็งเรามาก  และความรู้สึกดีๆ ลดไปหมดเลย   กะว่าจะเลิกรอแล้ว พอเจอหน้ากัน  เขาก้อถามว่าเราอยากไปไหน  ตอนนั้นดึกแล้วไง  ร้านปิดเกือบหมดแล้ว เราก้อบอกไปคอนโดเรามั้ยอ่ะ  ตอนนั้นแฟนช๊อค+ ลุ้นมาก  ว่าเราเชิญชวนเค้าหรือยังไง  ปรากฎ ว่าเราชวนไปคอนโดจริงๆ  แต่เป็นชั้นล่างที่เราเปิดเป็นร้านหนังสือ   เค้าขำเลย  ก้อนั่งคุยกัน  ซื้ออะไงง่ายๆ มากิน  อ่านหนังสือในร้านจนดึก คุยเรื่องหนังสือที่แต่ละคนชอบ หลังจากนั้นก้อมาเป็นผู้ช่วยที่ร้านตลอด  จนคบกันจริงจังต่อมา   ปัจจุบัน  ผ่านมา 7 ปี  ยังหวานกันตลอด  ร้านหนังสือเลิกทำไปนานแล้ว  แต่สามีต่อชั้นหนังสือที่บ้านให้  แบบห้องสมุดเลย  เพราะเขารู้ว่าเราเป็นหนอนตัวยง จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 17:17:33

ความคิดเห็นที่ 47 แต่งงานผ่านมา 8 ปีกว่า มีลูกเกือบ 6 ขวบ 1 คน รวมกับตอนคบเป็นแฟนนี่ก็ปีที่ 16 แล้วที่ได้รู้จักกันมา เดทแรกดูเรื่องเอเลี่ยน หวานซะไม่มี 5555 ตามต่อด้วยกิน a&w ที่สยาม ^ ^" จากคุณ : mmtaro (MMTaro) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 17:59:16

ความคิดเห็นที่ 48 อุ้ยส์์ ดีจังแท้ กระทู้นี้  ...หวนรำลึกเมื่อครั้งยังหวาน เดทกันกันครั้งแรกรู้แต่เขิลล์อายมากมาย....ยิงคำถามสารอยากรู้ ตักอาหารให้เค้า ตักเอ้า ตักเอา คือ มันเขิลล์น่ะไม่รู้จะทำอะไร หลังจากนั้นได้ไม่นานก็แต่งงาน สวีทกันแบบโอ้มายด์กอดด คนบ้าอะไรไม่มีอะไรให้ชั้นติเลยเหรอ............................ ความหวานผ่านไปไวเหมือนโกหก.....ปัจจุบันหวานน้อยลงกว่าครึ่ง แฟนต้องทำงาน เราเลี้ยงลูก ....แต่ช้าก่อน หลังจากอ่านทู้นี้จบ.. เย็นนี้คงจะเริ่มปฎิการ...หวานนี้ต้องรำลึกซะแล้นนนน....อิอิ จากคุณ : แม่น้องชมพู่ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 18:18:44

ความคิดเห็นที่ 49 อ่านแล้วยิ้ม  ครั้งแรกเจอแฟนในผับ  ฟังไม่ผิดเด้อค่า เจอกันในผับจิงๆ อิช้านไปหารุ่นพี่ที่เคารพ(ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแฟน) เค้าไปด้วยกัน ในโต๊ะเค้าประชากรประมาณเกือบสิบคนเห็ฯจะได้ เรารู้จักคนในโต๊ะเค้าแทบทุกคน เน้นว่ารู้จักแทบทุกคนจิงๆ ยกเว้นแฟนเราที่เราไม่รู้จักเลย ไม่สนใจด้วย มีสาวสวยจีบแฟนเราอยู่ เค้านั่งใกล้กัน แต่ดันเขินกัน เลยเว้นเก้าอี้ว่างไว้ 1 ตัว ตรงกลางระหว่าง 2 คนนั้นพอดี อิช้านมาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว ก็เลยนั่งลงไปตรงกลางระหว่างแฟน กับสาวที่กำลังจีบแฟน ฮ่าๆๆๆๆๆ จากนั้นอิช้านก็คุยข้ามโต๊ะ ข้ามหัวแฟน คุยกับรุ่นพี่นั่นแหละ ไปๆมาๆ แฟนอิช้านก็สะกิดๆ แล้วเราก็เริ่มคุยๆกัน จากนั้นพอร้านเลิก ก็มีการแจกเบอร์ตามประสา ต่างคนก็ต่างไม่คิดอะไร เราคิดแค่ว่าเค้าเป็ฯเพื่อนรุ่นพี่ที่เราเคารพ ส่วนเค้าคิดแค่ว่า เราเป็นรุ่นน้องเพื่อนสนิท วันต่อมา เค้าก็โทรมาหา ไม่ได้จีบหรืออะไรหรอกนะ แต่แปลกมากกกกกกกกก ที่เราคุยอะไรๆมันก็ช่างถูกคอ เข้ากันไปซะหมด ไม่มีใครจีบใครก่อน แต่มันเป็นไปเอง จากนั้นคุยโทรศะพท์ผ่านไป 2 วัน เค้าก็ชวนไปข้างนอก บอกว่าจะไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ไปด้วยกันมั๊ย อิช้านก็บอก ไปๆๆๆ ก็ตามเค้าไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ฮ่าๆๆๆๆๆ และจากวันนั้น วันทีไปจ่ายค่าโทรศัพท์นั่น เราก็เจอกันทุกวันๆๆๆๆๆๆ จนวันนี้ เราต้องแยกกันอยู่คนละที่ ด้วยเหตุผลทางครอบครัวของอิช้าน แต่เรายังไปมาหาสู่กันเสมอ เดือนละ 1-2 ครั้งเมื่อมีโอกาส นั่นแหละ วันเดทวันแรก คือไปจ่ายค่าโทรศัพท์ จากคุณ : 2แบ๊ว (boonnote) เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 20:41:40

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นหัวกระทู้แล้วอยากแชร์ด้วย ^__^ ขอเล่าเรื่องที่เราประทับใจแล้วกันนะคะ สมัยนั้น โทรศัพท์มือถือ เพิ่งจะมีระบบโชว์รูปคนโทรเข้าได้ไม่นาน ก็เอามาอวดกันค่ะ ว่าโทรศัพท์ของเราโชว์รูปเบ้อเร่อ ไม่เชื่อลองดูสิ.....ก็ให้เค้ายิงเข้ามา โดยลืมไปว่า ตัวเองตั้งเสียงเรียกเข้าเป็นเพลง "ขอ" ของพาราดอกซ์ พอเพลงดัง...ก็เขินเลยสิ...เค้าก็ยิ้ม ๆ ตัดสายไป แล้วเค้าก็บอกว่า โทรศัพท์เค้าโชว์รูปเล็กกว่าเราอีก ลองโทรมาสิ....เราก็ยิงไป....และได้ยินเสียงเรียกเข้าเป็นเพลงเดียวกัน... และเพลงนี้ก็เลยใช้เป็นเพลงธีมในงานแต่งค่ะ "...และเมื่อฉันได้พบเธอ ก็เหมือนโลกหยุดหมุนทุกสิ่งพลัน สวยงามเมื่อเจอเธอ อาจจะเป็นแค่ครั้งเดียวที่ฟ้ากำหนดมา จนทำให้ฉันได้เจอ... ...ขอให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบาน ให้ฟ้าช่วยประทานพร ดลบันดาลต่อจากนี้ ให้สองเราผูกพัน เกิดเป็นความทรงจำที่ดี...." ขอให้กระทู้นี้ พาให้ทุกคู่ย้อนกลับไปสู่วันคืนที่ความรักเริ่มก่อตัว จะได้ระลึกกันว่า ความรู้สึกหวานละมุนนั้นมีอยู่จริง!!!! รักยืนยงนะคะ ^___^ **แก้คำผิดค่ะ ผิดแบบ..ปล่อยไว้ไม่ได้อ่ะ >__<** แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 53 22:50:51 จากคุณ : bojawa เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 53 22:43:48

ความคิดเห็นที่ 51 นัดเจอครั้งแรก ที่หอพัก เพราะตอนนั้นอยู่หอ คบกะสามีได้พักนึงแล้ว แต่คบแบบพี่น้อง มีอะไรปรึกษากันได้ ไม่เคยเจอตัวจริงกัน เพราะเจอกันใน hi5 ออนเอ็มคุยกัน โทรคุยกันเฉยๆ เพราะตอนนั้นเราเพิ่งเลิกกะแฟน แต่ก็ยังคาราคาซังอยู่ กับแฟนเก่า เพราะแฟนเก่ายังมาง้อ ขอคืนดี วันดีคืนดีก็มาเคาะประตูเรียก จนเรากลัว ก็เลยเล่าให้สามีฟัง เค้าก็เลยแวะมาหาที่หอ มาเจอกันครั้งแรก เราอยู่ชั้น 1 ติดกับที่จอดรถ เรารออยู่ตรงระเบียงหลังห้อง เพราะขี้เกียจออกไป สามีโทรมาบอกว่า พี่มาแล้วนะแล้วก็เดินมา แก๊กมาก พุงพลุ้ยมาเลย .. แต่มารู้ทีหลังว่าแอบแขม่วพุงเล็กน้อย ฮ่าๆ แต่ตอนเดินมาหา เดินสะดุดกะหลังเต่าในหอ หัวเกือบทิ่ม เราก็หัวเราะก๊ากเลย สามีคงอาย ... เจอกันครั้งแรก ก็มีฮาซะแระ คุยกันสักพัก(คุยที่ระเบียงห้องนั่นแหล่ะ เราอยู่ที่ระเบียงห้อง สามียืนอยู่หลังห้อง) สามีขอตัวไปก่อน เพราะมีนัดกะเพื่อนจะไปกินเหล้ากัน แต่มาหาเราก่อน พอเสร็จจากไปกินเหล้ากะเพื่อนแล้วสามีก็โทรมาบอกว่าจะกลับบ้านละ หลับฝันดีนะ ตอนตี 4 - -" (บ้าเหรอ กุหลับเฝ้าพระอินทร์ไปแล้วพี่ขา) หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกันมากขึ้น เจอกันมากขึ้น กินข้าวกันบ้าง ชวนไปซื้อของบ้าง โทรมาทุกวัน วันนึงชวนไปบ้าน บอกว่าจะเอาผ้าไปให้แม่เค้าซัก ไปเป็นเพื่อนหน่อยสิ เราก็ไม่ได้คิดอะไร ไปก็ไปวะ พอไปถึงแนะนำแม่เสร็จสับ บอกนี่แฟน ว่าที่สะใภ้แม่ เราก็ เอ่อออ เค้าก็บอกว่าพูดเล่นนนนน อิอิ ช่วงนั้น แฟนเก่าก็ยังตามรังควานเราอยู่ มาง้องอนขอคืนดี จนเรารู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว เริ่มหวาดระแวงว่ามานจะมาทำร้ายอะไรเรารึเปล่า เพราะแฟนเก่า มีมาแบบจู่โจม กอดรัด ฟัดเหวี่ยง ... งึ๊ยย น่ากัวมากกกก เล่าให้สามีฟัง สามีบอกว่าว่านอนที่บ้านเค้ามั้ย เพราะดูท่าทางอันตราย (ตอนนั้นสามีเช่าบ้านอยู่กะ รุ่นพี่อีกสองคน ห้องใครห้องมัน ข้างล่างเป็น office ) เราก็โอเค ตกลง เพราะแฟนเก่ามันตามไม่เลิก น่ากัวจริงๆตอนนั้น ช่วงนั้นก็ตกลงคบกันกะสามีแล้ว  ช่วงสวีท สามีต้องดูแล ปกป้อง คิคิ เสร็จเลยคืนนั้น .... ได้มา 1 หน่อ อิอิ ปูลู 1  ยาวจัง มาหากาพย์ ชีวิตโอชิน ปูลู 2  คืนนี้เสร็จแน่ เจ๊ยยยยยยยย จากคุณ : mellowgirl536 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 00:03:17

ความคิดเห็นที่ 52 ทำไมของคนอื่นๆมีแต่อ่านแล้วยิ้มๆ ของเรานี่เจอครั้งแรกยี้เลย ตอนนั้นอยู่ไกลบ้าน อยู่ๆอีตาสามีก็โผล่มา ก็คุยกันอยู่สักพักด้วยเหตุผลคือเหมือนเจอคนบ้านเดียวกัน คือเค้ามีเลือดไทยอยู่ครึ่งนึง จากนั้นก็นัดเจอกัน โดยเค้าเอาซูชิมาล่อ ตอนแรกก็ไม่กล้าไปเดทซักเท่าไหร่ เลยให้มารับที่บ้าน ยังไงซะเกิดเหตุไรขึ้น ก็มีคนที่บ้านเห็นหน้าเห็นตา รู้ว่าชื่ออะไร มารถอะไร โอ้แม่เจ้าครั้งแรก มาก็สาย เรานะแต่งตัวรอเก้อเกือบชั่วโมง รอจนเซ็ง พอเจอหน้า เราก็คิดในใจ อีตานี่ตูดก็ใหญ่ ตัวก็ใหญ่ กางเกงก็ลุง โอยๆๆๆ ไม่ถูกใจอย่างแรง ระหว่างเดท เราก็เอ๊ะ ทำไมไม่รู้สึกเหมือนอีตานี่จีบเลย เพราะอีสามีชอบเมาส์เรื่องแฟนเก่าให้ฟัง โน่นนี่ จนเราล่ะเซ็ง ก็คุยกันยาว จนเรารู้สึกว่าคงเป็นพี่น้องกันมากกว่า ความสัมพันธ์เป็นศูนย์ค่ะ   กลับมาเราก็เล่าให้ Host-mom ฟังว่า ไม่มีทางพัตนาความสัมพันธ์กับอีตานี่เป็นอย่างอื่นเป็นอันขาด จากนั้นเค้าก็โทรมาเรื่อยๆเราก็รับบ้างไม่รับบ้าง หลังๆเรานี่ตั้ง revert call ไปเลย เหอๆๆๆ จากนั้นพักใหญ่ ก็รู้สึกว่าทำไมเราตัดสินใจคนเร็วจัง และรู้สึกผิดที่ตัดสาย และเลื่อนนัดเค้าอีกหลายๆๆครั้ง เลยลองเปิดใจดูอีกครั้ง ก็เดทกันเรื่อยๆโดยเน้นไปที่เรื่องกิน ก็ได้เห็นมุมดีๆของเค้า และรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เป็น family man มากๆ 3 ปีผ่านไป ลูกขวบครึ่งแล้วจ้า จากคุณ : VICTORIA LOVE เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 01:08:51

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านแล้วเขินแทน  อิ อิ   เล่ามั๊งดีกว่า เราเดทครั้งแรกที่  Central ลาดพร้าวค่ะ  กรี๊ด.. อยู่ดีๆ  เค้าก็ชวนไปดูหนัง  เรื่องอะไรหว่าจำไม่ได้  (มัวแต่เขิล...กิ๊ดกิ้ว)   ไม่เคยไปไหนกับผู้ชายมาก่อนเลยอ่ะตะเอง  เกิดมาจนอายุ 19  เพิ่งจะเคยมีแฟนกะเค้านี่แหละ  หลงมาได้ไงหว่า  อิ อิ จำได้ว่าเราเลือกเสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อคืน  จนกระทั่งเช้า... ทั้งๆที่มันมีอยู่ไม่กี่ตัวนั่นแหละ  สรุปแล้วชุดที่เลือกก็ยังห่วยเหมือนเดิมนั่นแหละ   เฮ้อ..... พอถึงเวลานัดก็ไปถึงตั้งแต่ห้างยังไม่เปิด  รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงอ้าว... ทำไมไม่มาฟร่ะ  หรือเราโดนต้มซะแล้ว   ปรากฏว่าไปรอคนละประตูค่ะ   วันนั้นทั้งวันจำไรไม่ได้เลย    สรุปว่าจากวันนั้นถึงวันนี้คบกันมา  18 ปี  แต่งงานกันมา 12 ปี  ผลผลิต 3  หน่อ   ปัจจุบันปิดโรงงานแล้วค่ะ   มะไหวเศรฐกิจไม่ค่อยดี  อิ อิ จากคุณ : สาวผมสั้น เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 01:26:56

ความคิดเห็นที่ 54 อิอิ เข้ามาอ่านตลอดค่ะ อ่านทุกเรื่อง มีความหวานทุกคนเลย 555 เสียดายตอนนี้ไม่ได้อยู่กับสามีม่ะงั้นคงได้มีการแสดงความหวาน 55   คนที่เข้ามาเล่าใหม่อย่างลืมอ่านตั้งแต่เรื่องแรกนะจร้า เพราะมันจะทำให้คุณนั่งยิ้้มคนเดียวได้จนจบกระทู้เลยจร้า อย่าลืมโหวดให้เป็นเรื่องหวานๆประจำสัปดาห์ด้วยน๊า อยากให้ชานเรือนมีความหวานชื่นเยอะๆ จากคุณ : NoNg_IcEJuNg เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 02:28:22

ความคิดเห็นที่ 55 เท่าที่อ่านมา  มีแต่เดทแรกในที่โรแมนติกทั้งนั้นนนนนนนนนนนนนนนน.... งั้นมาดูเดทแรกของเด็กบ้านนอก.....กันบ้างนะคะ .....ว่าเดทแรกไปที่ใหนกัน   เพราะว่าไม่ห้าง  ...  ไม่ศูนย์การค้า ... ไม่มีรถไฟฟ้า ... ไม่มีรถเมล์ ... ไม่มีสถานบันเทิง ... ไม่มีผลับ ... ไม่มีบาร์ ...??? มีเพียงท้องทุ่ง ... นา  ... ไร่ .... สวน .... กลิ่นโคลน สาบควาย มาฟังเลยดีกว่าคะ...... ตอนนั้น สามี เป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนเราอีกทีคะ เลยได้มีโอกาสรู้จักกัน เรารู้ว่าสามีแอบชอบเราอยู่  แต่เราเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะยังเรียนอยู่ (ปริญญาตรี ) แต่ก็คุยด้วยเท่าที่จำเป็น...และไว้ตัวมากๆ ไม่สวยแล้วยังหยิ่งอีก...สามีบอกว่า คิดในใจตอนนั้น แต่ด้วยความที่ถูกชะตาเลยทนๆ จีบไป วันหนึ่ง สามี มาหาเราที่หอพักของเพื่อน เพราะเราและเพื่อนๆชอบไปนั่งทำการบ้านกันที่นั้น " ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย " อยู่ๆสามีก็ถามขึ้นมา หลังจากนั่งเงียบๆ ตั้งแต่มาถึง (ประมาณ 2 ชั่วโมง) เราเลยตอบตกลง แต่ต้องเป็นหลัง 6 โมงเย็น เพราะเรานึกในใจว่า ดูดิจะพาไปเที่ยวใหนได้ หลัง 6 โมงเย็นก็ไม่มีที่ใหนให้เที่ยวแล้ว ตลาดนัดเปิดท้ายวันนี้ก็ไม่มี  ที่เที่ยวก็ไม่มี (บ้านนอกโดยแท้) " จริงๆ นะ " สามีถามย้ำ  " จริงอะดิ " เราตอบ " กำลังจะบอกเชียวว่าให้ไปช่วงมืดๆ " สามีบอกอย่างดีใจ งานเข้าแล้วตรู  ... เข้าทางของสามีพอดี จะคิดทำอะไรมิดี มิร้ายตรูมั้ยเนี้ย....สมองเริ่มคิด " งั้น 6 โมงมารับนะ  ไปกินข้าวด้วยกันก่อน แล้วค่อยไปเที่ยว " สามีบอก ในใจตอนนั้น...ไม่คิดว่าเค้าจะทำร้ายเราได้ ... แต่กลับรู้สึกไว้ใจ และเชื่อใจเค้ามากกว่า เพราะเท่าที่ได้เจอกันมา 2 ปี เค้าเป็นคน เงียบๆ เฉยๆ วางตัวได้ดีมาก สรุป 6 โมงเย็น สามีมารับตามนัด ด้วยรถมอร์เตอร์ไซด์เก่าๆ คันหนึ่ง ยี้ฮ้อ ยามาฮ่า รุ่น เมทร้อย (ถ้าจำไม่ผิด ...หรือ เมท ตอง 1 หว่า..??) ( เนี้ยก็เป็นเดทแรก ..ในชีวิตของฉันเหมือนกันนะเนี้ย ... แม่เจ้า ) ระหว่างทางสามีบอกเราว่า รถเมอร์เตอร์ไซด์ คันนี้มีชื่อด้วยนะ ชื่อว่า " ยามาฮ่าว้าเหว่ " เพราะถ้าเรารถคันนี้ไปรับสาวทีไร จะไม่ค่อยมีใครอยากไปด้วย ถึงไป  แต่ไม่นานก็เลิก  (ทำเป็นพูดให้สงสาร) เล่ามาตั้งนาน ถึงช่วงสำคัญแล้วคะ ว่า เดทแรกของเด็กบ้านนอกเขาไปใหนกันบ้าง... หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ (ร้านรถเข็นข้างฟุตบาท .. โถ้เดทครั้งแรกของฉัน) สามีพาเราขี่รถยามาฮ่าว้าเหว่ เข้าไปในทางเปลี่ยวๆ มืดๆ จะเอาไฟที่ใหนมาให้สว่างแหละ ก็มันบ้านนอกที่ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง แถมเป็นเส้นทางที่มุ่งไปในพื้นที่ ที่เขาทำนากัน เราเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว จึงถามว่าจะไปใหน เค้ากลับบอกมาว่าเดียวก็ถึง ตายยยยยยยยยยยย..........ฉันมาทำอะไรที่นี้ .... ไว้ใจเค้า และมากับเค้าได้อย่างงั้น... เหมือนน้ำตากำลังจะไหล เพราะกลัวจะแน่นหน้าออก แต่เค้าก็พูดออกมาว่า " นู้นงั้ย ไฟข้างหน้านู้น ก็ถึงแล้ว " เห็นแสงไฟสว่างๆ อยู่ข้างหน้า  " ไฟอะไรอะ...?? เค้ามีงานอะไร..?? " " กะแล้วว่าต้องไม่เคยเห็น ...  " " วัวลาน... งั้ย..รู้จักมั้ย " โอ้.....แม่เจ้า พาเรามาเที่ยววัวลานเนี้ยอะนะ  กลางทุ่งนาที่มีแต่ฝุ่นฟุ้งๆเต็มไปหมด ตลกที่สุด   พาผู้หญิงที่ตัวเองแอบชอบมาเที่ยวครั้งแรก... มาดูวัวลาน แถมเอารถมอร์เตอร์ไซด์เก่าๆ มารับ ทั้งๆ ที่รถยนต์ก็มี   และยังพาไปกินข้าวร้านรถเข็นข้างทางอีก  แทนที่จะเป็นร้านอาหารหรูๆ  ..................... แต่ก็เอาเถอะ มาถึงนี้แหละ วัวลาน ดูก็ดู ระหว่าที่ดูวัวลาน สามีก็สอนเราว่า เค้าต้องดูอย่างงั้ย ถึงจะรู้ว่าชนะ หรือแพ้ เรากับสามีดู วัวลาน กันจนดึก ( เพราะเราติดใจ ) ระหว่างทางที่สามีจะไปส่งเราที่หอ เราอยากถามเค้าว่า ทำไมพาเรามาเที่ยวที่แบบนี้ ที่ที่ไม่น่าจะเป็นที่เดทครั้งแรก แต่ก็ไม่กล้าถาม อยู่ๆ เค้าก็พูดขึ้นมาว่า " ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นๆ เค้าคงเอารถยนต์ไปรับผู้หญิงที่เค้าชอบเพื่อพาไปเที่ยวในครั้งแรก พาไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรูๆ และพาไปเที่ยวในที่ ที่โรแมนติก  เพื่อให้คนรักประทับใจ แต่เราคิดว่า การทำแบบนั้นใครๆ ก็ทำกัน อาจประทับใจ แต่เดียวก็ลืม ขอบคุณ ที่ให้โอกาสเราได้พาเธอมากินข้าว และมาเที่ยว ในวันนี้ ขอให้เก็บความทรงจำวันนี้เอาไว้ วันข้างหน้าถึงแม้เราจะไม่ได้คบกัน แต่เราคิดว่าเธอเอง ก็จะจำเราได้ และจำวันนี้ได้ตลอดไป " ซึ้ง..............มาก               ประทับใจ............มาก   กับสิ่งที่เค้าพูด..... และเค้าก็พูดถูกว่า ....." เราจะต้องจำวันนี้ได้ตลอดไป " ... เพราะเราไม่เคยลืมมันเลย เห็น วัว ที่ไร นึกถึง หน้าสามี กับเดทครั้งแรกทุกที หมายเหตุ เพิ่มเติมสำหรับคนในเมืองที่ไม่รู้จัก " วัวลาน " - วัวลาน เป็นการละเล่นพื้นบ้านของบางจังหวัด ส่วนมากจะเป็นภาคใต้ และมีมากในจังหวัดเพชรบุรี โดยการนำวัวมาผูกเรียงแถว และ โดยปลายเชือก ด้านหนึ่งผูกติดกับเสากลางลาน (ให้วัววิ่งเป็นวงกลมรอบเสา) การแพ้ชนะ ให้ดู ที่วัวตัวนอกสุด และ วัวตัวที่ผู้รองลงมา บางพื้นที่อาจมีการพนันการแพ้ชนะ - วัวลาน อาจไม่ถูกใจ พวกที่รักสัตว์นัก เพราะว่า ดูเหมือนเป็นการทรมานสัตว์ ( วัวนอกบางตัวอาจถึงตายได้ ในกรณีที่วิ่งรอบไม่ทันวัวใน  )      จากคุณ : น้องซัน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 11:36:10

ความคิดเห็นที่ 56 เข้ามาอ่านคะ มีความสุขจัง จากคุณ : angkan111 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 12:27:15

ความคิดเห็นที่ 57 จำได้ว่า เวลาไปเที่ยวห้าง เจอรถจอดขวางซองที่ว่างอยู่ แฟนลงไปเข็น เรารอในรถ ปัจจุบัน เวลาไปเที่ยวห้าง เจอรถจอดขวางซองที่ว่างอยู่ กลายเป็น "เรา" ลงไปเข็น สามีรอในรถ เวลาเปลี่ยนไป สามีเปลี่ยนตาม 555555555 จากคุณ : ป้าช้อย เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 12:33:29

ความคิดเห็นที่ 58 อ๊ากก เข้ามายิ้มค่าาาาาาาา ยังไม่มีสามีเลย ยังเด็กยังเล็ก ห้าๆๆ แต่เข้ามาอ่นแล้วเขินแทน จากคุณ : tangmo_ka เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 13:58:48

ความคิดเห็นที่ 59 อ่านไปก็อมยิ้มไป มีความสุขจริงๆ เขินแทนเลยคะ จากคุณ : devilwow เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 14:19:35

ความคิดเห็นที่ 60 เดทครั้งแรก โรงอาหารโรงเรียนค่ะ คุณสามี ซื้อน้ำส้มมาให้กิน โดยที่ไม่รู้ ว่า ฉันไม่กินน้ำส้ม เขาก็เลยถามว่า ไม่หิวหรอ งั้นกินเอง เราก็เลย งง ...... งง 555+ และเขาก็ยังขยันซื้อน้ำส้มมากินอยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งเป็นแฟนกัน เขาก็ถามว่า "ทำไมไม่ยอมกินน้ำส้มเลย" เราก็ตอบสิว่า ไม่ชอบ เขาก็ว่า แล้วทำไมไม่บอก ปล่อยให้ซื้อให้กินอยู่เป็นนานสองนาน งง......งง อีกรอบ นี่ฉันผิดที่ไม่บอกชะมะ ปัจจุบัน สามี ก็ยัง ทื่อ ๆ ทึ่ม ๆ เปิ่นอีกหลายเรื่อง ให้ปวดหัว อย่างเสมอต้นและเสมอปลายค่ะ จากคุณ : แม่น้องเบส (mookook) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 15:15:09

ความคิดเห็นที่ 61 จำได้แม่นอยู่เหตุการณ์นึง ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าเขากำลังจีบอยู่ กินข้าวเย็นด้วยกันหลังเลิกงาน พอเราจะกลับบ้าน คุณสามีก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งที่ป้ายรถเมล์ (เขาพักอยู่หอใกล้ๆที่ทำงาน) แต่พอรถเมล์มาถึง พี่แกกลับโดดขึ้นรถเมล์ไปกะเราเฉยเลย เราก็งงๆ ถามว่าตามขึ้นมาทำไม เขาก็บอกว่าเป็นห่วง ก็เลยนั่งคุยกันไปตลอดทาง พอเราลงจากรถเมล์ เขาก็ลงด้วยแล้วต่อรถกลับไปที่เดิม ก็ขำๆอ่ะค่ะ เหตุการณ์นั้นเลยทำให้รู้ตัวว่าเขากำลังจีบเราอยู่ จากคุณ : hattrick mama เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 53 16:51:29

ความคิดเห็นที่ 62 นัดเจอที่โรงแรมค่ะ เคยแต่คุย ไม่เคยเจอกัน พอเจอหน้าก็คิด... (หน้าตาโอเค แต่ไม่สเป็คอะ ความสูงไม่ผ่าน แต่จะชิ่งไงดีเนี่ย) ไปทานอาหารจีนบนชั้นสอง มีโต๊ะเราอยู่โต๊ะเดียวทั้งร้าน เงียบสงัด ใจคอไม่ดี กินสั่งเซตเมนูมาทานกัน ทั้งที่ร้านก็ออกหรูแต่ดั๊น..มียุง ก็ตบยุงแก้เขินกันไป สักพักสามีขอไปห้องน้ำ ในใจเราคิด (หนีไปเลยดีไหมเนี่ย) แต่ไม่กล้าเลยนั่งกินต่อ ตักหูฉลามใส่ปากอีกคำ พลางคิดๆเอาไงดี สามีกลับมาพร้อมกุหลาบช่อโต...เอ้ย ต๊กกะใจ ตายละวา พูดไม่ออกเรื่องจะชิ่งกลับก่อน แต่ก็เริ่มคิดว่าเค้าน่าจะจริงจัง ก็เลยคุยกันต่อ พอจะกลับเค้าเดินมาส่งที่รถ เราดันจำไม่ได้ว่าจอดรถไว้ตรงไหน เดินหารถกันมันทุกชั้นเลย อายมาก ร้อนด้วย เขาก็ขำเรา แถมแอบจับมือเราอีกแน่ะ เราก็ดึงออก บอกว่าไม่ได้นะชั้นถือ จากนั้นก็คุยมาเรื่อย มารู้ทีหลังเขาบอกประทับใจที่เราดูบ๊องๆดี  ก็เริ่มชอบเค้าทีละนิดๆ ผ่านไป1ปีสิบเดือนจากวันนั้นก็คือวันแต่งงานค่ะ :) งานแต่งก็จัดที่โรงแรมนั้นแหละค่ะ ที่แรกที่เจอกันและเดทกัน จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 08:22:35

ความคิดเห็นที่ 63 เดทแรกๆๆเลยจำไม่ได้อ่ะค่ะ เพราะเป็นคู่โปรเจค(ปี 4 ที่มหาลัย)กันมาก่อน ก็เลยไปกินข้าวกันบ่อย ตอนนั้นเรายังตัดแฟนเก่าไม่ขาด แต่หลังๆก็ชักยังไงๆ เราไปทำงานที่สิงคโปร์เป็นเดือนสองเดือน (ช่วงนั้นไปบ่อย) ก็ชวนเพื่อนๆไปเที่ยวและพักด้วยกัน เพราะอยู่ Service Apartment มีสองห้องนอน ปรากฏว่าฮีมาฮ่ะ โหะ โหะ เราก็ชวนไปหลายคน มี อีตานี่กะเพื่อนอีกคนที่มา แต่มาคนละรอบ บินมาทุกเสาร์อาทิตย์เลยง่ะ ประมาณสี่ห้าครั้ง เราพาเที่ยวตะลุยสิงคโปร์ทุกอาทิตย์เลย เราไปทำกิจกรรมกับเพื่อนชาวสิงคโปร์ หมอนี่ก็ตามไปด้วย จนเพื่อนบอกว่านี่มันแปลกๆนะ He like you แน่ๆ เราก็คงไม่ม้างงง วันเกิดยังมีตุ้มหูมาฝากด้วย หลังจากนั้น เราไปสิงคโปร์อีกฮีก็ขอตามไปเสาร์อาทิตย์ เปลี่ยนมานอนโรงแรมเราก็ให้ฮีนอนข้างล่าง เอาผ้าคลุมเตียงมาปู มีอยู่ครั้งนึง เอาอีเมลมาเปิดที่โรงแรม ฮีมาเห็นเป็นเมลแฟนเก่า งอนนนน ไม่คุยด้วยเลย เราก็อะไรวะ เลยไม่คุยกันคืนนั้น เค้าก็มากอดด้านหลัง บอกว่า ไม่รู้หรอว่าเค้าคิดยังไงกับเรา...ว้ายเขิน ก็รู้แหละ แต่เธอก็ไม่ยอมพูดซะทีนี่นา หึ หึ เลยต้องมีแผนกันหน่อย จากนั้นก็คบกันค่ะ หกปี แต่งงาน แต่งมาสามปีแล้ว ตอนนี้ลูกชายขวบแปดเดือนแล้วง่ะ น่ารักสุดๆ จากคุณ : Piterek เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 08:47:26

ความคิดเห็นที่ 64 ยังไม่แต่งวางแผนแต่งกะคนนี้แหละ เดทแรกหลังจากส่งเมลคุยกันได้สักพักแฟนมาเมืองไทยหลังจากกลับมาจากเวียดนาม ทั้งส่งเมล ทั้งโทรมา เราก็ไม่รู้จะว่างไม่ว่างเลยบอกไปว่า Maybe ถามกี่ครั้งก็ไม่แน่ๆอาจจะๆ จนเค้างงว่าเราไม่เชื่อใจเค้าเหรอ คิดว่าเค้าเป็นคนไม่ดีแน่ๆ เค้าก็ส่งเมล โทรมาบอกว่าให้พาเพื่อนมากี่คนก็ได้นะ นัดเจอที่ไหนให้คุณเลือกเลย สุดท้ายเราก็ไปค่ะ  ไปคนเดียวซะด้วย เจอกัน ณ พระบรมมหาราชวัง ต่อด้วยวัดพระแก้ว โรแมนติกน่าดูค่ะ มือถือเค้าหายต้องโทรจากตู้มาหาเราว่าอยู่ที่ไหน ยังไง ในใจคิดถ้าชั้นเห็นก่อนไม่สเปกจะชิ่ง 555 เปล่าหรอกเคยเห็นรูปที่ส่งมาให้แล้วก็ไม่คิดอะไรเพราะไม่คิดจะต้องมาเป็นแฟนกับเค้าคุยกันไม่ได้จับกันเล้ยแค่อยากเจอเผื่อได้เพื่อนเพิ่ม สักพักแฟน เอ๊ย ตอนนั้นยังไม่ใช่ โทรมาบอกว่ารอตรงทางเข้าแล้วนะให้เดินมาเลย เราก็เดินไปหา เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีเทา  กางเกงยีนส์หันข้างให้เรา เหงื่อแตก เราเดินไปใกล้ๆแล้วก็ถามว่่า ใช่.... มั้ย เค้าหันมายิ้มกว้าง บอก Yes จากนั้นก็คุยกันยาวหลายชม. ไม่ดงไม่เดินเที่ยวแล้วค่ะ รู้สึกถูกชะตากันและกัน จากนั้นก็ไปกินฟูจิกันค่ะ นั่นแหละค่ะเดทแรกเรา จากนั้นถึงวันนี้สองปีกว่าก็อยู่ระหว่างทำเรื่องไปนู่นค่ะ อนาคตไม่รู้จะยังไงแต่วันนี้มีความสุขมากค่ะ จากคุณ : loveTRAVEL1977 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 09:29:48

ความคิดเห็นที่ 65 คุณ น้องซัน เอาไปสามกีบ ทั้งฮา ทั้งซึ่งเลย เก็บกีบไว้ให้กระทู้นี้กระทูเดียวเลย สนุกๆๆๆ จากคุณ : Mu_jumP เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 09:42:25

ความคิดเห็นที่ 66 ครั้งแรกเจอกันที่เซ้นทรัลลาดพร้าว แล้วนั่งรถเมล์กลับ แฟนให้แหวนสีดำสองวงใส่นี้ว บอกว่าเป็นผู้หญิงของเค้าแล้วนะ บนรถเมล์เมื่อ9ปีที่แล้ว ตอนเจอครั้งแรกเกลียดมาก กวนประสาทสุดๆ แล้วก็มาเจอกันอีกครั้ง ก็ได้คุยและรู้จัก.. จากคุณ : NOOMINTY2009 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 10:32:47

ความคิดเห็นที่ 67 เข้ามาอ่านด้วยคน  น่ารักๆ กันทั้งนั้นเลยค่ะ แต่สารภาพว่ายังอ่านไม่ครบ  เพราะจะเก็บไว้ค่อยๆ อ่านวันละ 4-5 เรื่อง จะได้อ่านไปยิ้มไปทุกวัน  อิอิ.. จากคุณ : pufpuf เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 11:04:05

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านแล้วอยากแต่งงานค่าาาาาาา จากคุณ : Alice in Thailand เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 11:32:52

ความคิดเห็นที่ 69 เราเจอก้นที่ผับค่ะ หุหุ วันเกิดน้องที่รู้จัก ทุกคนยุให้เค้าจีบเรา จากนั้นก็คุยกันเรื่อยมา แต่เรายังไม่มีใจ ชวนไปไหนก็ไม่ไปด้วย ผ่านไป 6 เดือน เค้านัดสำเร็จ ออกไปนั่งร้านกาแฟชิวๆ กลับจากนั้น เราก็ยังไม่ใจอ่อนนะ ผ่านไปอีก 6 เดือน เค้าสารภาพว่า "งั้นมาเป็นเพื่อนกันเถอะ"...เรา "โอเค" จากนั้น อีก 1 ปี เราคบกันเป็นเพื่อนมาตลอด ไปเที่ยว ดูหนังกัน ดูแลเราดีมั่กๆ ...เรายังไม่ใจอ่อน อยู่ดีๆ เค้าบอกว่าจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ขอแต่งงานเลย 55 ให้รีบตัดสินใจ เราคิดแล้วคงทำใจไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า ..อ้าว ชั้นรักเค้าไปตอนไหนเนี่ย อีก 6 เดือนจากนั้น ก็แต่งงานกันค่ะ สามีน่ารัก ดูแล เทคแคร์ ตลอด คิดถูกแล้ว ที่เลือกคนนี้ คริ คริ ตอนนี้มีพยานมา 1 สาว แล้วจ้า จากคุณ : ทับทิมแก้ว เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 11:35:56

ความคิดเห็นที่ 70 ตอนนั้นก็เขินกันอย่างมาก แต่สามีช่างพูด เค้าก็ชวนคุยจนเราหายเขิน ทุกวันนี้ถึงจะไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเมื่อกัน แต่ก็ยังหวานเหมือนเดิม จากคุณ : มิ้นกับน้ำ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 11:36:44

ความคิดเห็นที่ 71 แวะมีอ่านเดทแรกของเพื่อนๆ แล้วน่ารักมากอ่ะ ไว้กลางวันเค้าจะมาเล่าเรื่องตัวเองให้เพื่อนๆ ฟังบ้างนะ ตอนนี้ขอตัวไปกินข้าวก่อนจ้า จากคุณ : Always & Forever เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 11:57:46

ความคิดเห็นที่ 72 มีความสุขจังเลยค่ะ จากคุณ : k. nof เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 12:57:01

ความคิดเห็นที่ 73 อ่านจบปุ๊ป ต้องรีบส่งต่อให้คุณสามีเลยนะเนี่ย!... เรื่องราวน่ารักๆ กันทั้งน้าน ขอบคุณจขกท มากมายค่ะ ที่ทำให้อ่านไป อมยิ้มไป จากคุณ : Indus (Indus) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 13:33:36

ความคิดเห็นที่ 74 มาตามสัญญาว่าจะมาเล่าเรื่องเดทแรกของตัวเองให้ฟังค่ะ ต้องบอกว่า เรารู้จักกันที่ห้างแห่งหนึ่ง ประมาณว่าไปทำงาน part time ด้วยกันค่ะ แต่คนละมหาลัย เรามีแฟนแล้วด้วยนะ แต่ชอบพี่เค้า ตรงที่ผู้ชายอะไร ขนตาย้าว ยาว เข้าไปตื้อเค้าก่อน 555 คุยแหย่พี่เค้าไปเรื่อยๆๆ จนกระทั่งทำงานวันสุดท้าย ก่อนกลับบ้าน บอกเบอร์เพจให้เค้าไป สมัยก่อน ยังไม่มีมือถือครับ พี่เค้าเพจเบอร์กลับมาหา กรี้ดมากก เค้าบอกว่า เค้าจำเบอร์เพจเราเอานะเนี้ยะ ไม่ได้จด เพราะตอนนั้นไม่มีปากกา กรี้ดดด แล้วเค้าก้อนัดเราดูหนังหลังจากรู้จักกันไม่กี่วัน 555 ใจง่ายจัง :) จำได้ว่า นัดดูหนังกันที่ เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ เพื่อนๆ ทันกันหรือป่าวคะ ดูหนังรอบ 1 ทุ่ม แต่ว่าเราไปช้า พี่เค้าก้อโทรเข้ามาที่ร้าน ว่ามาทันไหม เราก้อตอบว่าไม่แน่ใจ งั้นให้เค้าเข้าโรงไปก่อนเลย >>> แล้วเราก้อตามไปทีหลัง เอิ้กๆๆ ไปถึง หนังเริ่มฉายแล้ว เราเดินไปบอกพนักงานหน้าโรง บอกว่า มีนัดดูหนังที่นี่ แต่ว่า มาสาย พี่เค้าเข้าไปแล้ว พนักงานก้อแสนดีบอกว่า อ๋อ เค้าจำได้ ว่ามีพี่คนหนึ่ง มีตั๋วหนังมา 2 ใบ พี่เค้าให้ฉีกตั๋วหนังไปเลย แล้วน้องคนนั้นก้อพาเราเดินไปหาพี่เค้าที่ ที่นั่ง กรี้ดกริ้วววววว เจอกันจนได้ พี่เค้ายังมีการบอกว่า มาจนได้นะ 555 ให้รู้ ซะมั่ง ว่าใจรัก ตอนนั้น ก้อ 15 มีนา 2540 จนถึงปีนี้ 2553  ว้าวววว นานเหมือนกันนะเนี้ยะ ปล. เนื่องจากเราจำชื่อหนังไม่ได้ โทรไปถามพี่เค้ามา เค้าบอกว่า หนังชื่อ The Saint จ้า ดารานำ คือ Val kilmer จ้า ยังเก็บตั๋วหนังไว้นะ แต่ต้องรื้อหน่อยจ้า สุขสันต์วันเกิดพันทิป นะคะ ขอให้มีสปอนเซอร์เยอะๆ จากคุณ : Always & Forever เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 13:54:48

ความคิดเห็นที่ 75 ไปดูหนังค่ะ เรื่อง Lord of the Ring ภาคหนึ่ง เป็นแฟนกันมาเดือนกว่าค่อยชวนเราเดทอ่ะ (แหะ แหะ ตอนจีบกัน มันผ่าน MSN ค่ะ แล้วพอตกลงเป็นแฟนกัน เค้าก็ขับรถมากินข้าวเย็นที่บ้านเราทุกวัน กินเสร็จคุยเสร็จก็ขับรถกลับบ้าน เลยไม่เคยได้ไปเที่ยวไหนกัน) แอบปล่อยไก่นิดนึง ถามเค้าว่า "นี่ ต้องใส่กระโปรงไปไหมเนี่ย" ประมาณไม่เคยไปเดทอะค่ะ ไม่งั้นต้องไปซื้อชุดใหม่นะนั่น เค้าขำกลิ้งเลยค่ะ ยังแซวมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : vink เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 16:26:01

ความคิดเห็นที่ 76 คุณตั้งเพ็งเง็ก และ คุณ บาหลีในดินแดนฯ เจอกันเขาวันแรก เดทแรก ก็ไปดูหนังบางระจัน เช่นกันคะ  วันนั้นเพิ่งกลับจากสอบที่รามเสร็จพอดี   เขาเห็นเราครั้งแรก นึกว่าเราเป็นทอมนะ (ก็ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น กระโปรงทรงเอสั้น สะพายเป้สีน้ำเงิน ตัดผมสั้น (เพิ่งเปลี่ยนทรงผมใหม่) ไม่แต่งหน้าแต่งตาอีกต่างหาก (ปกติก็ไม่เคยแต่งหน้าอยู่แล้ว) จากคุณ : aunso6785 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 17:04:55

ความคิดเห็นที่ 77 แง้..แง้ จำไม่ได้อ่ะค่ะ ว่าเดทเเรกที่ไหน วันสำคัญก็จำไม่ค่อยได้ ขนาดเมื่ออาทิตย์ที่เเล้วทำเรื่องขอโทรศัพท์บ้านใหม่ ก็ต้องหันไปถามเขาว่า วันเกิดยูวันไหนอ่ะ  เขาชอบว่าเราว่า ความจำเราสั้น มากกกกกกกกกกกก เหมือนปลาทอง   เขาต้องคอยดูเเลเรามากกกกกกก    เพราะเขากลัว............เราจะลืมเขา............. จากคุณ : เรียมเจ้าขา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 20:55:22

ความคิดเห็นที่ 78 ยังจำได้ค่ะ เค้าเป็นคนน่ารัก ขี้อ้อน แม้ตอนนี้ไม่ค่อยอ้อนแล้ว แต่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม อิอิ จากคุณ : หนูพอใจ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 20:59:14

ความคิดเห็นที่ 79 เดท แรก ไปดูหนังที่ซีคอนค่ะ  แต่คนเยอะมาก เลยนั่งรถเมล์ไปเดอะมอบางกะปิ  แต่คนก็เยอะอีก เค้าก็เลยชวนไปกิน KFC  ต่างคนก็ต่างเขิน กินกันคนละนิด แล้วเค้าก็เอาซอสมาบีบเล่นเป็นชื่อย่อ E♥R (ชื่อย่อเรากะคุณสามี) แบบว่าเราก้อเขิลอ่ะนะ  แต่พอมาตอนนี้พอลูกเอาซอสมาบีบเล่นบ้าง ดุค่ะ จาบีบทำไมเดี๋ยวเค้าว่าเอา  แหมทีตัวเองเมื่อก่อนละน้า  (อิอิ) 10 ปี รักก็ยังหวาน ๆๆ จากคุณ : นางฟ้านรก เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 53 22:30:36

ความคิดเห็นที่ 80 เดทแรกของคู่เรา ย้อนไปเกือบ12ปีอ่ะค่ะ55 ไปดูหนังด้วยกัน2คน หนังเรื่อง saving private ryan เป็๋นหนังบู๊ ยิงกันสนั่นกลางสนามรบค่ะ 555 จากคุณ : B4 ชั้น6 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 00:43:01

ความคิดเห็นที่ 81 อิอิ อ่านความหวานของทุกคนหมดแล้ว วกกลับมาดูของตัวเอง ต๊ายตั้งกระทู้ แต่ไม่ได้เล่าความหวานของตัวเองในเดทแรกเลย เริ่มเลยละกันนะค่ะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วอิอิ วันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 เวลา 18.30 น.ค่ะ เป็นไงค่ะ จำได้หมดทั้งวันเวลา สถานที่เลยค่ะอิอิเพราะเีราจะมีของให้กันในวันที่ 19 พฤษภาของทุกปีค่ะ เลยทำให้จำได้ ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็จะโทรบอกรักกันแทนค่ะ วันแรกที่ไปเดทกันก็คือวันแรกที่รู้จักกันเลยค่ะ เพราะพี่เค้าจีบเพื่อนเรา แต่เพื่อนเราอ่ะมีแฟนอยู่แล้ว เพื่อนเราก็เลยบอกลองมาจีบเราดูสิเพิ่งอกหักนะ ซึ่งเราก็ไม่รู้ค่ะว่าเค้าไ่ม่ได้คบกัน อยู่ดีๆเค้าโทรมาหาเราค่ะ แกล้งอำเราด้วยนะ ไม่บอกว่าเป็นใคร พอเรารู้ว่าเป็นพี่เค้า เราก็นึกว่า เดี๋ยวเหอะ จะหลอกให้เสียเงินซะให้เข็ด 555 จีบเพื่อนแล้วมาจีบเราอีกหรอ เราเลยแกล้งพูดว่า เดี๋ยวเราจะออกไปห้างและ ของใช้หมด จะวางโทรศัพท์ เค้าบอก เดี๋ยวไปด้วยของใช้หมดเหมือนกัน เราเลยพูดไปว่า ดีงั้นไปซื้อของพี่แล้วซื้อให้เราด้วยนะ อิอิ พี่เค้าบอกได้สิ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวด้วยเลย ก็เลยนัดเจอกันที่คาร์ฟูลค่ะ พอเจอกัน ไม่ใช่ในสเป็กเลย คิดในใจตัวก็เตี้ยพอๆกับเราเลย ตาก็ตี่ เหมือนจีนฮ้อเลย ม่ะใช่เป็ก คือไม่ได้คิดจะคบหรอก คิดจะหลอกแกล้งซะมากกว่าเพราะคิดว่า เค้าคบเพื่อนแล้วมาจีบเราอีกอะไรทำนองนี้อ่ะคะ่ ก็เลยแกล้งหยอบของใช้ แบบเยอะมาก ยาสระผมเลือกยี่ห้อที่แพงที่สุด ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว อะไรต่อมิอะไรไม่รู้เต็มรถเข็นเลย ของพี่เค้า มีแค่ ยาสระผม 1 ขวด ยาสีฟัน 1 กล่อง สบู่ 1 แพค นอกนั้นของเราเต็มรถเลย พอจะจ่ายเงิน เราเลยแกล้งบอกอ่ะจ่ายให้ด้วยนะ ดูหน้าว่าเค้าจะทำไง แล้วก็ออกมายืนห่างๆ พอถึงคิวเค้าจ่ายเค้าก็จะจ่ายจริงๆค่ะ เราเลยวิ่งมาส่งเงินเราให้ เค้าค่ะ แต่เค้าไม่ยอมเอา ยื่นให้ก็ดันมือออก จนพนักงานมองหน้า สรุป เค้าจ่ายค่ะ หมดไป 2000 กว่าบาท พอซื้อของเสร็จเราก็กะว่าเออได้ของและ อิตานี่ทุ่มจริงเค้าบอกไปกินข้าวด้วยกันก่อนไม๊ เราเลยบอกไม่ไปและค่ะ ค่ำและ เดี๋ยวโดนแม่ว่า เค้าก็ขับรถมาส่งที่บ้านค่ะ พอกลับไปบ้านเราก็คิดว่าเค้าคงเข็ดไม่กล้าโทรมาแล้วมั้ง ที่ไหนได้ ไม่ถึง ชั่วโมง เค้าโทรมาหาค่ะ ก็เลยคุยกัน เค้าก็บอกพรุ่งนี้ขอมาหาอีกได้ไม๊ เราก็บอกไม่ได้หรอก อะไรจีบเพื่อนแล้วจะมาหลอกจีบเราอีก ไม่เอาหรอก อย่าทำแบบนี้เลย ที่ไหนได้ ไอเพื่อนตัวดีของเราค่ะ มันรีบเสนอหน้าส่งเสียงออกมาเลย บอกเค้าจีบกรูที่ไหน เค้าจีบเมิงอะแหละ เราก็งงค่ะ เอ้าไปอยู่ด้วยกันได้ไง ที่ไหนได้ แฟนพอมาเจอเราเสร็จ รีบขับรถไปบ้านเพื่อนเราค่ะ ไปเล่าให้ฟัง ว่าเจอเราแล้วน๊า พาเราไปซื้อของ จะจีบเราอะไรทำนองนั้น 55 แต่เราเพิ่งอกหักค่ะ ก็เลยยังไม่คิดจะคบใครตอนนั้น พี่เค้าก็ขับรถมาหาทุกวัน ซื้อขนมมาให้ทุกวัน วันละเต็มถุงเซเว่นเลย เอาขนมมาล่ออีกละ>< โทรมาทุกวันค่ะ เราก็คุยด้วยวันละแป๊บๆ แบบไม่อยากคุย แต่เค้าก็โทรมาตลอด จน 1 เดือน ผ่านไป ยายเราไม่สบายหนักค่ะ เป็นเบาหวานแล้วน้ำตาลเค้าลด ทำให้เค้าเพ้อ อ่ะค่ะ เราก็ทำอะไรไม่ถูกเลยโทรหาเค้า เค้ารีบขับรถมาหาเรา อุ้มยายเราขึ้นรถ พาส่งโรงบาลเลยค่ะ หลังจากนั้นมา ก็เลยเริ่มที่จะสนใจเค้าแล้วแหละ อิอิ ไปเที่ยวด้วยกันทุกอาทิตย์ เจอกันทุกวัน จนพ่อเราจับได้ว่ามีแฟนเราโดนพ่อตีค่ะ เค้ายังไม่อยากให้เราคบผู้ชาย พ่อบอกให้ไอผู้ชายมาเจอสิ เราก็เลยบอกแฟนเราค่ะ แฟนเราก็เลยมาหาพ่อเราเลยวันต่อมา แฟนเราตาแดงจะร้องไห้เลยค่ะ เห็นเรานอนไม่สบาย ตัวลาย ตาก็แดงเพราะเส้นเลือดฝอยในตาแตก พ่อตบหน้าค่ะ แฟนเราบอกพ่อจะดูแลเราเองค่ะ ซึ้งมากค่ะ ทั้งๆที่เพิ่งคบกันแท้ๆ จนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2550 ก็ได้แต่งงานกันค่ะ ตอนนี้มีพยานรัก 1 คนแล้วค่ะน้องไอซ์จัง 8 เดือนเต็มแล้วค่ะความหวานน้อยลงค่ะ เพราะแฟนทำงานหนักขึ้น แถมไปทำงานต่างประเทศด้วย ขอบคุณพี่แอร์ในวันนั้นที่สัญญากับป๊าจะดูแลกล้วย ตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ พี่ก็ยังดูแลกล้วยกับลูกอย่างดี ทุกวันค่ะ จากคุณ : ไอซ์จังลูกแม่กล้วย (NoNg_IcEJuNg) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 03:55:30

ความคิดเห็นที่ 82 ขอแจมด้วยคนค่ะ เป็นเดทแรกเมื่อตอนเรียนมัธยมค่ะ วันนั้นหลังเลิกเรียน แฟน(สามี) ก็พาไปทานไอศกรีม พอไปถึงร้านเราสองคนก็สั่งกันทันที แต่ทางร้านกลับเหลือแต่รสเชอร์เบทมะนาวอย่างเดียว ด้วยความที่อยากทาน และอยากนั่งคุยกันด้วย ก็เลยจำเป็นต้องสั่งรสนี้น่ะค่ะ จริงๆแล้วจะไม่ชอบทานรสนี้เลย  เพราะรสเชอร์เบทมะนาวค่อนข้างที่เปรี้ยวมากๆ  แต่วันนั้นเราทั้งสองคนรู้สึกเหมือนกันว่า ไอศกรีมเชอร์เบทมะนาวรสนี้ กลับหอมหวานอร่อยมากกว่ารสอื่นเสียอีก  อิอิ ^^ จากคุณ : ลูกหนูน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 15:35:57

ความคิดเห็นที่ 83 ว่าจะไม่เข้ามาแล้วก็ทนไม่ได้กระทู้เนี้ย เอาบ้างจิ ครั้งแรกจำไม่ได้น่ะครับว่าดูหนังเรื่องอะไร แต่ดูที่มาบุญครอง ตอนนั้นไปฝึกงานที่จุฬาครับกับว่าที่แฟนไปฝึกงานอยู่สามสี่วัน วันสุดท้ายเลยไปดูหนังกันจำได้แต่พระเอกเป็น ทอมครูซ (หนังไรอ่ะที่เรื่องเกี่ยวกับการจับจองที่ดินอ่ะครับ) เป็นครั้งแรกที่คบกันแล้วได้จับมือในโรงหนังปรากฏคุณแฟนจิกสะมือมีแต่รอย พอกลับบ้านสมัยนั้นยังมี ปอพ 12 นั่งคุยกันไปสรุปเป็นแฟนกันไปฮ่าๆๆ ถ้าจำไม่ผิดปี 36 ครับคบกันมาเรื่อยมาแต่งตอนปี 47 ตอนนี้มีลูกสาวแสนซนหนึ่งคน หนึ่งปีกะสองเดือน พอแล้วครับคนเดียวได้พ่อมาเต็มๆเรื่องความซนฮ่าๆๆ จากคุณ : พ่อบีเกิ้ล เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 17:59:09

ความคิดเห็นที่ 84 ทู้นี้อ่านแล้วมีความสุขจัง ขอมีส่วนรวมด้วยคนนะคะ เดทแรกของเรา 2 คน ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เป็นวันที่ทำให้เรา 2 คนได้มีโอกาสรู้จักกันมากขึ้น เรากะแฟนทำงานที่เดียวกัน แต่ไม่เคยคุยกันจริงจัง เพราะอยู่คนละแผนก เจอกันก็แค่ทักทายกันแบบคนอยู่บริษัทเดียวกันเท่านั้น มีวันเสาร์นึง เรากะแฟนต้องมาทำงานกันทั้งคู่ พอช่วงบ่ายน้าสาวโทรมาชวนไปกินข้าวที่มาบุญครอง เราก็ตกลง ก็รีบออกจากออฟฟิต เพราะต้องไปต่อรถเมล์อีก บังเอิญระหว่างทางเดินออกจากออฟฟิต เห็นแฟนเดินออกมาพอดี หิ้วกระเป๋ากำลังจะกลับบ้าน แฟนถามเราว่าจะกลับแล้วเหรอ เราตอบว่า "ยัง" กำลังจะไปมาบุญครอง นัดน้าสาวทานข้าวเย็น เค้าก็พูดขึ้นมาว่า "ไปด้วยได้มั้ย อยากไปมาบุญครองเหมือนกัน แต่ไม่มีเพื่อนเดิน" เราก็ตอบไปว่า "ไปด้วยได้ แต่เราไม่ได้ไปเดินด้วยนะ เพราะเรามีนัดแล้ว" แฟนตอบว่า "ไม่เป็นไร" เราก็เลยติดรถไปกับเค้า พอถึงมาบุญครอง แฟนขอแลกเบอร์โทรศํพท์มือถือ เผื่อเวลากลับบ้านใกล้เคียง จะได้โทรนัดและกลับด้วยกัน และบังเอิญอีกว่า บ้านเรา 2 คนอยู่ทางเดียวกันอีก ก็ OK และแลกเบอร์กัน และต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง แต่โชคชะตาเล่นตลก... พอเจอน้าสาว เราก็ตกใจ อ้าว.. ไม่ได้นัดเราคนเดียวเหรอ ทำไมมีคนมาด้วยอีก 4-5 คนอ่ะ งง... น้าขอโทษเราใหญ่เลย บอกว่า "ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อยู่ๆ เพื่อนก็นัดกระทันหัน ไม่กล้าปฏิเสธ" T_T แต่น้ากลับปฏิเสธที่จะกินข้าวกะเราแทน.. ตอนนั้นกำลัง งง ทำอะไรไม่ถูก ตัดสินใจเดินกลับบ้าน แต่นึกขึ้นมาได้ว่า .. เราน่าจะโทรบอกแฟนเราก่อนว่า.. ขอตัวกลับก่อน เพราะพึ่งแยกกันไม่ถึง 15 นาทีเลย ก็เลยบอกเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงจะกลับบ้าน ทั้งๆ ที่พึ่งมาถึง แฟนเราก็ตอบตามสายมาว่า "ไหนๆ ก็มาแล้ว กินข้าวเย็นด้วยกันมั้ย" อิอิ อยู่ๆ ก็มีผู้ชายชวนกินข้าว ด้วยความที่เป็นสาวสมัยใหม่ ตอบตกลงทันที 555.... ใจง่ายนะเนี่ย อาหารมื้อแรกในการเริ่มความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ที่ร้านโออิชิราเมง ชั้น 1 มาบุญครอง (จำได้แม่น) ทั้งจากกินข้าวเสร็จแล้ว แฟนก็อาสาขอไปส่งที่บ้าน ตอนแรกเราก็ปฏิเสธ แต่เค้าบอกว่าจะได้รู้จักบ้านกันไว้ เราก็ OK ไปส่งก็ไปส่ง... อิอิ เสร็จเรา... หลังจากแฟนมาส่งที่บ้าน คืนนั้นแฟนก็โทรมาหาเราเป็นครั้งแรก นับจากนั้นความสัมพันธ์ก็พัฒนาไปตามวันและเวลา จากวันนั้น จนถึงวันนี้ เวลาก็ผ่านไปประมาณ 6 ปีแล้ว มีพยานรัก 2 คนแล้วคะ ลูกชายคนโต อายุ 1.1 ขวบ  ส่วนอีกคนยังอยู่ในท้อง จะลืมตาดูโลกอีก 6 เดือนข้างหน้าคะ พิมพ์ไปนั่งอมยิ้้มไปคนเดียว มีความสุขจัง จากคุณ : แม่หมีน้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 53 18:28:57

ความคิดเห็นที่ 85 สามีขับรถจากกรุงเทพมาชลบุรีเพื่อกินข้าวด้วยกัน จำได้ว่า อาหารที่เค้าสั่งเราไม่ชอบ และ เค้าเช็ดจาน ช้อน ส้อม ให้เรา....ความรู้สึกวันนั้นออกแนว .. อะไรยะเธอ สั่งของผิดเสป็ค 5555 จากคุณ : ประสาทนอแรด เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 12:46:58

ความคิดเห็นที่ 86 เดทแรก  หลังจากตกลงกันว่าคบกันเป็นแฟน   กี่ปีมาแล้วนะเนี่ยะ  7 ปีแล้วหรือเนี่ยะ  อิอิ ไปเดทกันที่วัดพระแก้วค่ะ   555+  ธัมมะ  ธัมโมมากกกกก ไม่หวานเท่าไรหรอก  แฟนในอดีต สามีในปัจจุบัน  ถ่ายรูปจากมือถือ เก็บไว้เพียบเลย  ตอนนั้นยังอ้วนท้วนเชียว ก็ไปไหว้พระเป็นสิริมงคล  จากนั้นก็ไปร้านหนังสือนายอินทร์ แค่นี้แหล่ะ  ไม่หวานหรอก  แต่ประทับใจที่ชวนกันไปไหว้พระนี่แหล่ะ จากคุณ : Kibby เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 14:53:07

ความคิดเห็นที่ 87 เดทแรกคู่ผมที่ไหน จำไม่ได้แฮะ พยายามนั่งนึกอยู่นาน ต้องย้อนไปกว่า 17 ปี เดทแรกจำไม่ได้จริงๆ เพราะเริ่มต้นเป็นเพื่อนกันในมหาลัย เริ่มจากปรับทุกข์กัน ตอนแรกก็ไปกันเป็นกลุ่ม พอเริ่มคลิ๊ก ก็หาทางไปแบบส่วนตัวตลอด หาเรื่องกินข้าวเกือบทุกเย็น ก็ยังนึกไม่ออกเดทแรกจริงๆ ไปไหนกัน เพราะพาเค้าไปที่เที่ยวสำคัญๆ ในเชียงใหม่ทุกที่ สรุปแล้ว จำไม่ได้จริงๆ ...(อย่าว่ากันน๊าาา) แต่ที่จำได้แน่นอน ...จับมือครั้งแรกที่ไหน.. ...กอดครั้งแรกที่ไหน.. ...จูบครั้งแรกที่ไหน.. ผมยังจำได้..ไม่เคยลืม นั่งเขียนอยู่นี่ก็ยังยิ้มเมื่อนึำกถึงวันเก่าๆ (ทั้งที่เย็นนี่เพิ่งปะทะคารมณ์กันมา) แต่ก็นะ.. เรื่องธรรมดา ผ่านมา 17 ปีแล้ว หลังทะเลาะกันทีไร รักกันมากขึ้นทู้กที.. จากคุณ : bew (bewisor) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 53 23:39:21

ความคิดเห็นที่ 88 เป็นทริปที่เราบินไปเที่ยวเหนือ เชียงใหม่ เชียงรายเช่ารถเที่ยวแล้วบินลงใต้ภูเก็ต พังงา ไปเกาะเจมบอนเป็นอะไรที่สวีทสุดสำหรับเรา... อยู่ภูเก็ตเช่ามอไซต์ขับรอบเกาะ นั่งดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ โอ้ยโรแม้นนน สุด.... ตอนนี้อยากไปอีกจัง แต่ต้องไปกันสามคน Daddy Mummy and baby แล้วแหละตอนนี้...... จากคุณ : Rosecottage เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 10:50:49

ความคิดเห็นที่ 89 จำได้ไม่ลืมค่ะ ไปพักที่ คลับเมด ภูเก็ตอย่างหรู แฟนให้ของขวัญเป็นสร้อยพร้อมจี้เพชรราคา ห้าหมื่น แต่ทำหายไปแล้วง่ะ แบบว่านั่งมอไซด์แล้วหมวกกันน๊อคมันไปกระทบกับตะขอสร้อย ตะขอสร้อยเพชรมันต่างจากสร้อยทองนะ  ร้องไห้อยู่หลายวันทั้งเสียดาย ทั้งเสียใจที่ของขวัญชิ้นแรกที่แฟนให้ยังรักษาไว้ไม่ได้ แต่แฟนบอกไม่เป็นไรของมันหายไปแล้ว ต่อมาก็ซื้อให้ใหม่พร้อมแหวนหมั้นค่ะ ทุกวันนี้ไม่ใส่อะไรเลยกลัวหาย แก้ไขเมื่อ 10 ต.ค. 53 16:22:05 จากคุณ : suthina เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 53 16:09:57